แชร์

บทที่632

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
แค่เคยได้ยินเท่านั้น แต่กลับยังไม่เคยเห็นอาชีพนี้มาก่อน ทำให้คนรู้สึกว่าดูเก่งกาจดีแต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร

แต่ว่าฝูซูก็แทบจะมีปฏิกิริยาขึ้นมาในพริบตา “นั่นไม่ใช่เหมือนกับ...ที่คุณหนูควบคุมราชาหมาป่าน้ำแข็งเช่นนี้หรอกหรือ? ความหมายนี้ใช่ไหม?”

จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “อืม เป็นแบบนี้นั่นล่ะ”

หลังจากนั้นจึงเห็นสีหน้าของฝูซูเปลี่ยนจากความกระวนกระวายที่ไม่ค่อยเข้าใจว่าคืออะไร กลายมาเป็นความผ่อนคลายที่เหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจขึ้นมาแล้ว

“นั่น...ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะดีอยู่สิ” ฝูซูเอ่ยขึ้น “คุณหนูชนะแน่นอน ราชาหมาป่าน้ำแข็ง...ดูน่าจะเก่งกาจอยู่นะ”

จั๋วซือหรานพยักหน้า “ก็เก่งกาจจริงอยู่ ความเร็วการโจมตีรวดเร็ว ร่างกายก็คล่องแคล่ว แต่ในด้านการต่อสู้ โดยเฉพาะบนเวทีประลองที่ไม่ถือว่าใหญ่มาก อาจจะมีข้อจำกัดอยู่”

จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ ราชาหมาป่าน้ำแข็งจู่ๆ ก็หันหน้ามามองจั๋วซือหราน ร้องงึ๊ดงึ๊ดขึ้นมา

“ข้าต่อสู้ได้ไม่เลวอยู่นะ!”

จั๋วซือหรานมองตามเสียงไปทางราชาหมาป่าน้ำแข็ง ตกตะลึงไปเล็กน้อย

ถ้าบอกว่า ก่อนหน้าที่ได้ยินเสียงจากหมาป่าน้ำแข็งตั้งท้องที่ตนเองนั่งอยู่นี่ แล้วนางยังไม่ค่อยแน่ใจ คิดว่าตนเองน่าจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 633

    และเพราะจั๋วซือหรานพูดคำว่าพวกคลั่งไคล้ขนนุ่มฟู และบอกว่าถัดจากนี้ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดขนนุ่มฟูพอบวกกับตลอดเส้นทางนี้ ฝูซูที่ไม่ค่อยจะหวาดกลัวหมาป่าน้ำแข็งเท่าไรแล้วดังนั้น ฝูซูจึงไม่ค่อยหวาดกลัวกับเจ้าพวกขนนุ่มฟูที่คุณหนูพูดออกมาสักเท่าไรหลังจากราชาหมาป่าน้ำแข็งพาพวกเขาเข้าไปในป่าลึกลับ ท่วงท่าพลังก็เปลี่ยนไป ต่อให้ฝูซูที่ความสามารถการรับรู้ยังไม่สู้จั๋วซือหราน ก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังของราชาหมาป่าน้ำแข็งที่เพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้า...ไปไม่น้อยประสิทธิภาพเองก็เห็นได้อย่างชัดเจน พวกเขาหลังจากเข้ามาในชายขอบป่าลึกลับ ตลอดทางก็ไม่พบกับสัตว์ประหลาดอะไรเลยฝูซูที่เดิมทียังตึงเครียดเพราะเข้ามาในป่าของสัตว์ประหลาดอย่างป่าลึกลับนี้เป็นครั้งแรก แต่หลังจากที่เข้ามา ก็ไม่พบกับอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียวทำให้ความระแวดระวังของเขาแต่เดิมผ่อนคลายลงมาบ้างแล้ว“คุณหนู ไม่เจอสัตว์ประหลาดเลยแม้แต่ตัวเดียว” ฝูซูเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า “มีราชาหมาป่าน้ำแข็งอยู่ที่นี่ ปกติสัตว์ประหลาดก็จะไม่เข้ามาท้าทายเท่าไร ดังนั้นที่ไม่เจอก็เรื่องปกติ”“แต่ท่านไม่ใช่ว่าจะจับ...” ฝูซูเดิมทีคิดจะถาม ว่าคุณหน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 634

    ทั้งหมดล้วนเป็นธรรมชาติทั้งสิ้นดังนั้น ถ้าหากมีอะไรไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมา จั๋วซือหรานก็สามารถสัมผัสถึงได้ อย่างเช่น นางสามารถรับรู้ว่ามีบางแห่งที่กิ่งไม้ใบหญ้าถูกพัดจนเคลื่อนไหวแต่ถ้าหากเป็นสัตว์หรือเป็นสัตว์ประหลาดล่ะก็ จะไม่หนาแน่นขนาดนั้น และจะไม่วนเวียนอยู่ที่เดิมตลอดเวลา สัตว์ประหลาดจะมีอาณาเขตของตนเองนี่เป็นมนุษย์จั๋วซือหรานโยนหน้าไม้ให้ฝูซูคันหนึ่ง“เจ้านี่ใช้เป็นใช่ไหม?” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ถ้าใช้ไม่เป็น ก็ลองทดสอบดูสักสองดอก ข้าจำได้ว่าเจ้าใช้ธนูได้แม่นดีอยู่ ของเล่นชิ้นนี้ที่ข้าให้กับเจ้า ขอแค่มีมือ แม้แต่ลิงก็ยังฆ่าคนได้”ฝูซูเดิมทียังรู้สึกดีใจเป็นพิเศษที่คุณหนูให้อาวุธชิ้นนี้กับตนเอง ชิ้นงานประณีตมาก ดูน่าจะร้ายกาจพอควร เขาชอบมาก รู้สึกมั่นใจขึ้นอย่างเกินเหตุ มีความรู้สึกเหมือนพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่างแต่ใครจะไปรู้ ว่าประโยคต่อมาของคุณหนู จะเป็นการสาดน้ำเย็นใส่โต้งๆ ทำเอาเขาใจเย็นลงมาไม่น้อย ไม่ได้รู้สึกมั่นใจอย่างก่อนหน้าแล้วฝูซูลองกดไปสองครั้ง หาความรู้สึก ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “คุณหนู เจ้านี่มันใช้งานได้ดีเกินไปไหม?”“เช่นนั้นก็เก็บไว้ดีดี” จั๋ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 635

    ฉากตรงหน้า ไม่ได้มีต้นไม้สูงใหญ่มากมายเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะว่า...ป่าไม้ตรงหน้าผืนนี้ ล้วนถูกตัดล้มไปจนหมด!ดังนั้นแสงสว่างจึงชัดเจนกว่าป่าทึบระหว่างทางก่อนหน้านี้ สว่างกว่าพอสมควรทำให้คนมองเห็นฉากตรงหน้านี้ได้ชัดเจนขึ้นมาฝูซูมีความรู้สึกอยากจะหันหลังแล้ววิ่งหนีไปทันที เพราะพื้นที่ว่างตรงหน้าที่ต้นไม้ถูกตัดไปผืนนั้นชายหญิงหลายคน กำลังคุมเชิงกับเหยื่อตัวหนึ่งอยู่พอเหลือบมองออกไปก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้ แต่หลังจากมองอย่างละเอียด ก็รู้สึกว่า...ใครที่เป็นเหยื่อก็เหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจเสียแล้วเพราะคนเหล่านี้ บนตัวล้วนมีแต่บาดแผล แล้วดูหนักหนาสาหัสด้วย ล้วนเป็นเกิดขึ้นจาก ‘เหยื่อ’ ตัวนั้นและไม่รู้ว่าพวกเขาเอาสัตว์ประหลาดตัวนั้นเป็นเหยื่อ หรือว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นมองพวกเขาเป็นเหยื่อกันแน่แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุที่ฝูซูอยากจะหมุนตัวหนี สาเหตุที่ทำให้เขาอยากจะหันหลังแล้ววิ่งหนีก็คือ...“นี่คือเจ้าขนนุ่มฟูที่คุณหนูพูดถึงหรือ?!” ฝูซูถลึงตาอ้าปากค้างมองชายหญิงหลายคนที่กำลังสู้กันอย่างสูสีเจ้านี่มันขนนุ่มฟูเสียที่ไหนกัน!นี่มันแมงมุมแปดขาอภิมหายักษ์ตัวหนึ่งต่างหาก!มันดูแล้วน่าจะใหญ่ขนาด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 636

    ขนนุ่มฟูจริงๆ ด้วย...ฝูซูคิดขึ้นมาในใจ ขนฟูจริงๆ ด้วยแฮะแมงมุมตัวนี้ บนขาทั้งแปดมีขนสีดำอยู่ หน้าอกแผ่นหลังก็มีขนนุ่มๆ อยู่ชั้นหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นบนแผ่นหลังมัน ยังมีลายสีขาวที่ดูเหมือนใบหน้าผีอยู่อีกด้วยดูแล้วทั้งแปลกประหลาดทั้งน่าสะพรึง“เจ้า...!”“เจ้าเป็นใครกัน!”“บ้าไปแล้วหรือ? เอะอะเสียใหญ่โต! ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไรกัน?!”“ที่นี่มันส่วนลึกของป่าลึกลับนะ!”“เจ้าอยากตายก็ตายไป อย่ามาทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้ไหม?!”พวกเขาแม้ตอนนี้จะเจ็บไปทั้งตัว ดูซมซานสุดๆ แต่พอมองออก ว่าความหยิ่งทะนงที่วางไม่ลงของพวกตระกูลคนชั้นสูงเองก็สลักเข้าไปในกระดูกแล้วดูไม่พอใจอย่างมากต่อจั๋วซือหรานที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน คำพูดน้ำเสียงจึงไม่เกรงใจเอามากๆจั๋วซือหรานกลับไม่ได้โกรธท่าทีแย่ๆ ของพวกเขาในความเป็นจริง คนเป็นคนที่เข้าใจจั๋วซือหรานก็จะมองออกว่า หญิงสาวคนนี้ อันที่จริงโกรธคนน้อยมากอย่าเห็นว่าเธอที่เวลาเผชิญหน้ากับการถูกคนอื่นรังแก แต่กลับไม่เคยถอยหนี ทว่าถ้าพูดถึงตอนที่โกรธแค้นอย่างจริงจังนั้น ก็มีอยู่น้อยถึงน้อยมากและมักจะเป็นเช่นนี้ ใช้ใบหน้าที่สวยงามสงบเสงี่ยม จัดการแก้ไขปัญหาต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 637

    จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “ยอมยกราชาแมงมุมหน้าผีให้ข้าก่อน จากนั้นจึงถามชื่อข้า จดจำชื่อข้าไว้ หลังจากพ้นสถานการณ์ล่อแหลมค่อยให้คนในตระกูลกลับมาหาเรื่องข้าสินะ...”คำพูดนี้ของจั๋วซือหรานทำเอาซางเหลยหน้าเปลี่ยนสี รอยยิ้มบนหน้าเขาเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อขึ้นมาเขาเอ่ยขึ้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่นาง...เข้าใจผิดแล้ว ดูจากที่แม่นางควบคุมหมาป่าเข้ามา เดาได้ไม่ยากว่าแม่นางเองก็เป็นนักควบคุมสัตว์ ในเมื่อเป็นนักควบคุมสัตว์ ก็น่าจะเคยได้ยินชื่อตระกูลซางของพวกเราบ้าง ตระกูลพวกเราทำกิจการใหญ่โต ไม่ใช่คนใจแคบที่จะทำร้ายผู้มีพระคุณแน่นอน”จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชา “ข้ากลับรู้สึกว่า คนตระกูลชั้นสูงอย่างพวกเจ้านี่ล่ะ ที่เป็นพวกใจแคบทำร้ายผู้มีพระคุณ เรื่องนี้ทำกันน้อยเสียที่ไหน ลูกไม้พวกนี้ข้ารู้ไต๋หมดแล้ว”สีหน้าซางเหลยยิ่งแข็งขึ้นอีก เขาเพิ่งคิดจะพูดอะไรแต่ก็ได้ยินเสียงเรียบๆ ของหญิงสาวเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่า ข้าเองก็ไม่รังเกียจที่จะบอกชื่อกับพวกเจ้าหรอกนะ”ซางเหลยลิงโลดขึ้นมาในใจ คนอื่นๆ เองก็หัวเราะเย็นชาในใจ รู้สึกแค่ว่าหญิงสาวคนนี้ติดเบ็ดเข้าแล้ว นางตอนนี้ต่อห้จะอหังการแค่ไหน แต่คนตัวเล็กมีหรือจะมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 638

    อันที่จริงลูกหลานตระกูลชั้นสูงอีกหลายคน ตอนนี้ล้วนมีความคิดเช่นเดียวกันต่อจั๋วซือหราน คือเกลียดชังจนอยากจะควักเนื้อเถือกระดูกนางออกมาง่ายมาก น่าจะเพราะจั๋วซือหรานทำในสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าทำ ทำในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้และพวกเขากลับคงคงไม่กล้าไปทำ และทำไม่ได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อาจยอมรับว่าสิ่งที่นางทำเป็นสิ่งถูก และไม่สามารถยอมรับความสามารถและพลังที่แท้จริงของนางทำได้แค่ปฏิเสธจั๋วซือหรานอย่างต่อเนื่อง เช่นนี้จึงจะสามารถทำให้ตนเองไม่รู้สึกไร้ค่าน่าจะเพราะด้วยความรู้สึกเช่นนี้เหล่าลูกหลานตระกูลซางพวกนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นซางเหลยส่งสายตาให้กับพวกเขา ทุกคนทยอยกันตอบรับ ในมือมีการเคลื่อนไหว!“คุณหนู! ท่านดูพวกเขาสิ...!” ฝูซูเองก็เห็นการเคลื่อนไหวนี้ของพวกเขา น้ำเสียงตกตะลึงเล็กน้อยจั๋วซือหรานหรี่ตาลง สายตาเหลือบมองอย่างเย็นชาลูกหลานตระกูลซางเหล่านี้ ล้วนทยอยกันกรีดมือตนเอง เลือดสดหยดลงพื้นดิน จากนั้นพวกเขาก็ใช้ฝ่ามือทั้งคู่ ออกแรงกดลงไปบนพื้นสีหน้าที่อ่อนแอแต่เดิมของพวกเขา ยิ่งดูอ่อนแรงลงไปอีก ขาวซีดจนไม่เห็นสีเลือดแล้วบนพื้นดิน เหมือนมีลวดลายไร้รูปร่างอะไรอยู่ เปล่งแสงขึ้นมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 639

    ราชาแมงมุมผีย่างเข้าหาจั๋วซือหรานทีละก้าวๆ เพราะร่างกายที่ใหญ่โต จึงรู้สึกว่าแค่ไม่กี่ก้าวก็มาถึงตรงหน้าจั๋วซือหรานแล้วจากการเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ของราชาแมงมุมหน้าผี ราชาหมาป่าน้ำแข็งกับคู่ของมัน ก็อยู่ในท่วงท่าระแวดระวังเตรียมพร้อมขนของพวกมันตั้งชัน หลังโก่งขึ้น กรงเล็บแหลมออกแรงจิกพื้นกล้ามเนื้อทั่วตัวเหมือนตึงเกร็ง ราวกับขอแค่ราชาแมงมุมหน้าผีโจมตีอะไรมา พวกมันก็จะพุ่งเข้าโจมตีทัดทานทันที!ฝูซูแทบจะเยี่ยวราด สองขาเขาสั่นยวบ แต่ก็ยังฝืนยืนอยู่ที่เดิม ยกหน้าไม้ในมือขึ้น เล็งไปที่ท้องป่องๆ ของราชาแมงมุมหน้าผีอดพูดไม่ได้เลย จั๋วซือหรานมองคนเก่งจริงๆ วันนี้จึงจงใจเลือกฝูซูมาเป็นพิเศษคนคนนี้แม้จะดูวุ่นวายไปบ้าง แต่จั๋วซือหรานมองออกว่าเขามีความพิเศษ ในตอนที่ยิ่งลนลาน เขาก็จะยิ่งหนักแน่นขึ้นมามั่นคงยามอันตรายมาถึง เช่นเดียวกันตอนนี้ ในใจลนลานจนเยี่ยวแทบจะราด แต่มือกลับมั่นคงไม่ไหวติง ดวงตาไม่กระพริบ ราวกับขอแค่เจ้าแมงมุมสกปรกนี่กล้าทำอะไรคุณหนูของเขาล่ะก็แมงมุมตัวนี้ต่อให้จะตัวใหญ่น่าตกใจแค่ไหน เขาก็จะยิงหน้าไม้ออกไปทันที จะแทงพุงของมันให้แตกไปเลย!เขาในตอนนี้กระทั่งยังจำได้อย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 640

    จากเนื้อหาที่นางพูดออกมาเมื่อครู่นี้ พวกเขาไม่สงสัยแม้แต่น้อย จั๋วซือหรานพูดกับราชาแมงมุมหน้าผีจริงๆๆ จนได้รู้ถึงสาเหตที่ราชาแมงมุมหน้าผีลงมือกับพวกเขาและพวกเขา ก็เข้ามาเพื่อจับลูกน้อยของราชาแมงมุมหน้าผีนี้จริงๆเพราะราชาแมงมุมหน้าผีแม้จะเป็นแมงมุม แต่กลับแตกต่างกับแมงมุมธรรมดา เนื่องจากพลังการต่อสู้แข็งแกร่งมากเกินไป ซึ่งทุกสรรพสิ่งล้วนมีสมดุลอยู่ในเมื่อพลังต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป เช่นนั้นพลังในการคลอดจึงไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นแมงมุมทั่วไปหนึ่งรังจะมีไข่อยู่ไม่น้อย แต่แมงมุมหน้าผี ครึ่งหนึ่งสามารถวางไข่ได้แค่สิบใบเท่านั้นและถ้าหากเป็นราชาแมงมุมหน้าผี ครั้งหนึ่งสามารถวางไข่แมงมุมได้สี่ห้าใบก็ถือว่าสุดยอดแล้วแล้วจะยอมให้คนอื่นมาแย่งลูกของตัวเองไปได้อย่างไรแต่แมงมุมหน้าผีนั่นก็นำมาใช้ควบคุมสัตว์ได้ดี มีพลังโจมตี มีพลังในการควบคุมเป็นสัตว์ควบคุมขั้นต้นที่เหล่านักควบคุมสัตว์เลือกมาโดยตลอดแมงมุมหน้าผีเองก็เป็นเช่นนี้ ราชาแมงมุมหน้าผีก็ยิ่งเป็นไปตามนั้นดังนั้นพวกเขา เนื่องจากอีกไม่นานนักจะเป็นงานฉลองครบรอบสิบห้าปีของคุณหนูสี่ซางเชวี่ยของตระกูลซางคุณหนูสี่คนนี้ มีความสามารถ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1085

    หัวหน้าคนคุ้มกันถอนหายใจออกมาเบาๆ "เป็นข้าที่เลินเล่อเอง ตอนที่แม่นางเข้าเมืองข้าลืมเตือนแม่นาง ว่าในเมืองหยางนี้มีเจ้าถิ่นอยู่""ถ้าหากไปเจอเข้า เลี่ยงไว้หน่อยก็จะดี ถึงอย่างไรแม่นางก็ไม่ได้คิดจะอยู่นานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอกับเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น แม่นางมาจากเมืองหลวง คิดว่าก็น่าจะเข้าใจ ว่ามันจะมีพวกคน...ที่เหมือนกับพวกคางคงอะไรแบบนั้น" หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ คางคกเวลาปีนขึ้นมาหลังเท้า ต่อให้ไม่กัดคน ก็ยังน่าขยะแขยงจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น "ตระกูลเหอหรือ?"หัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้า "ตระกูลเหอขอรับ"เขาควรจะคิดถึงตั้งนานแล้ว ว่าคนตรงหน้าคนนี้ ตอนอยู่ที่เมืองหลวง ก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหยางเลยคิดๆ แล้วก็ใช่ คนตรงหน้าคนนี้คือคนที่ไม่เห็นห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงในสายตา เป็นหญิงสาวที่ถูกตระกูลขับไล่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสมาเชิญให้กลับตระกูล...คนเช่นนี้ จะมาหวาดกลัวตระกูลเหอในเมืองหยางได้อย่างไรกันแต่หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงจดจำบุญคุณที่จั๋วซือหรานมีต่อค่ายคุ้มกันและท่านแม่ทัพ ดังนั้น ไม่ว่าจั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1084

    จั๋วซือหรานชูเข็มในมือขึ้น เอ่ยว่า "สมอง"จากนั้นก็ใช้เข็มชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"ดีมาก ตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย!ไม่ว่าจะแมงมุมน้อยหรือพวกก้อนเนื้อ ตอนนี้ก็น่าจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ลิงโลดของจั๋วซือหรานแล้วเพราะตาของนางเปล่งประกายมาก!จากนั้นนางจึงชูเข็มในมือขึ้นอีกครั้ง "สมอง"ชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"หลังจากพูดซ้ำเช่นนี้ไปหลายรอบ ตอนที่แมงมุมน้อยกับพวกก้อนเนื้อทวนซ้ำคำพูดกับท่าทางของนางได้การเคลื่อนไหวของนางในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง!นางบีบขนมถั่วแดงไว้ในมือ เอ่ยขึ้นว่า "สมอง""เอ๋?" ในดวงตาเล็กๆ ของขนมถั่วแดงเบิกกว้างสงสัย ไม่ใช่เข็มนั่นที่เป็นสมองหรือ?จากนั้นนายท่านก้ดึงไหมกู่ของมันออกมาหลายเส้น เอ่ยขึ้นว่า "ระบบประสาท"จั๋วซือหรานตาเป็นประกายจนเหมือนดวงดาว "ไม่ต้องอธิบายแล้ว" นางหัวเราะขึ้นมา "ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ อัจฉริยะ"เหล่าก้อนเนื้อันที่จริงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายท่นา แต่สัมผัสได้ถึงอารมณ์เบิกบานของนายท่าน พวกมันก็รู้สึกดีใจตามขึ้นมาแมงมุมน้อยเหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1083

    นิ้วของจั๋วซือหรานมีแสงหยกครบอยู่ชั้นหนึ่ง ยื่นตรงไปยังเข็มยาวสีดำที่ปักอยู่ตรงท้ายทอยของหุ่นเชิดความมืดเล่มนั้นขนมชาเขียวอยู่ข้างหูนาง เอ่ยขึ้นอย่างกังวล "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อันตรายมากเลย...ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ขนมชาเขียวไม่ได้ร่าเริงเหมือนขนมถั่วแดง น่าจะเพราะมันมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัวดังนั้นการที่มันพูดเช่นนี้ จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกใจมาก"อื๋อ? ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?" จั๋วซือหรานมองไปทางมันขนมชาเขียวส่ายหัว เพราพวกมันล้วนเป็นก้อนเนื้อ พูดว่าส่ายหัว อันที่จริงก็คือก็โยกไปมาของครึ่งท่อนบนขนมชาเขียวบอกว่า "ข้าเองก็บอกไม่ถูก แค่รู้สึก ว่ามันเย็นเยือกมาก""เย็นเยือก..." จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดนี้ของขนมชาเขียวจั๋วซือหรานรู้ เพราะขนมชาเขียวมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างฉับไวกับสิ่งที่เย็นเยียบยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดความมืดคนนี้กับอักขระคำสาปบนตัวเหล่านั้น จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งที่มีพลังหยางเลยในใจจั๋วซือหรานคิดอะไรไว้บ้างแล้ว แสงหยกบนมือนางค่อยๆ สลายไป ค่อยๆ เปล่งแสงสีสันสวยงาม และมีความร้อนเหมือนเปลวไฟขึ้นมานางควบร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1082

    แต่อันที่จริงด้านในมีโพรงสวรรค์อยู่สมบัติที่นางสะสมมาจากชาติที่แล้วและชาตินี้ ห้องคลังก็ล้วนอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งสิ้นคลังของนางพูดได้ว่าใหญ่โตเอามากๆ กระทั่งคลังยังถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วย คลังยา คลังอาวุธ คลังเสบียงอาหารประจำวัน คลังของจิปาถะเป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีห้องหลอมสกัดยาของนางด้วย...อันที่จริงในชาติที่แล้ว มิติห้องหลอมสกัดยานี้ไม่ได้เอามาใช้หลอมยา แต่บางครั้งนางนำมาใช้เป็นการทดลองยาอะไรพวกนี้พอมาชาตินี้ ก็นำมาใช้หลอมยาสกัดยา ก็ยังถือว่าตรงสายงานเฉพาะทางอยู่ ไม่เสียเปล่าแล้วยังมีห้องเพาะเลี้ยงของตนเองด้วย ตอนนั้นตั้งใจจะมาเพาะเลี้ยงพวกของที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ พวกเห็ดอะไรทำนองนี้ในมิติของนาง ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่ง พวกพืชเองก็ปลูกแบบสะเปะสะปะแต่ว่าพวกเห็ดมันคือเชื้อราจริงๆ อยู่ด้านนอกก็ปลูกไม่ค่อยโต ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงจงใจสร้างห้องเพาะขึ้นมาโดยเฉพาะเพียงแต่ตอนนี้ยังว่างอยู่จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้โยนหุ่นเชิดความมืดเข้ามาในห้องเพาะปลูกนี้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ มันไม่อยู่ด้านในแล้วถ้าตามที่แมงมุมน้อยว่า มันหลบอยู่ที่ด้านหลังของบ้านจั๋วซือหรานเดินเข้าไป ยื่นหน้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1081

    "ดังนั้นจึงมาลงมือกับเจ้าหรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางแมงมุมน้อย "ถึงอย่างไรพอพูดขึ้นมา เจ้าเองก็ก็เป็นสิ่งมีพิษที่หาได้ยากด้วยนี่ แล้วยังเป็นระดับราชาสัตว์ด้วย ถ้าเขาเสพติดพิษขึ้นมาด้วยคุณสมบัติร่างกายแบบนั้นจริงล่ะก็..."จั๋วซือหรานตบเบาๆ ลงไปบนแขนเคียวของราชาแมงมุมหน้าผี "เจ้าเองก็ตัวใหญ่ขนาดนี้ ถือเป็นของบำรุงที่ไม่เลยเลยทีเดียว"จั๋วซือหรานก็เหมือนตระหนักได้ถึงแก่นแท้เรื่องราวในชั่วพริบตาราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินการคาดเดากับการวิเคราะห์ของจั๋วซือหราน ก็คิดขึ้นมาถึงความเป็นไปได้นี้ พอคิดไปถึงว่าตนเองเกือบถูกคนเอาไปเป็นของบำรุงแล้ว ก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้"ยังดีที่นายท่านช่วยเหลือไว้" แมงมุมน้อยเอ่ยขึ้นแม้จะบอกว่า จั๋วซือหรานเข้าใกล้แก่นแท้ของเรื่องราวไปแล้วในชั่วพริบตานั้น แต่นางก็เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนักนางโบกไม้โบกมือ เอ่ยขึ้นว่า "ช่างเถอะ ไม่มีอะไรน่าคิดเล็กคิดน้อย ด้วยพลังของคนเมื่อครู่นี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ข้าก็ไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก คนแบบนั้น การสู้ให้ตายกันไปข้าง น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร"จั๋วซือหรานพูดไปด้วยพลางสังเกตสภาพของแมงมุมน้อยไปด้วย จากนั้นจึงตบเบาๆ แล้วเอ่ยขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1080

    เจ้าคิดว่าข้าทรยศเจ้า ใช้ประโยชน์จากเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าสูงส่งเต็มประดานักหรือ?! เจ้ามันก็จนตรอกแล้วเท่านั้น!รอให้เจ้าจนตรอกเสียก่อน เพื่อจะมีชีวิตต่อไปเจ้าก็ต้องทรยศคนทั้งหมดเหมือนกัน! เจ้าจะลงหมอบคลานกับพื้นส่ายหางอย่างน่าสงสาร!เจ้าไม่ได้ดีกว่าข้าหรอก! เจ้าก็จะเป็นเหมือนข้า! ถึงอยี่างไร ข้าก็เป็นคนสอนเจ้ามา!"หลงเฉินพูดจบ ก็หัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่งเขาไม่ได้สังเกตเห็นสีตาของเฟิงเหยียน ที่ตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งขึ้นมาพอควรเสียงของเฟิงเหยียนกดลงต่ำมาก แต่กลับหนักแน่น "ข้าไม่มีทางเป็นแบบนั้น"เขาหันกลับไปมองชายหนุ่มที่น่าเศร้าซึ่งพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดในสมองก็อดคิดถึงเรื่องเหล่านั้นสมัยยังเด็กขึ้นมาไม่ได้เสียงที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ นั่งอยู่ใต้ต้นดอกท้อบานสะพรั่ง หลับตาพริ้ม กำลังดื่มชาขาวดอกสาลี่ยิ้มตาหยีบอกกับเขาว่า "เหยียนเอ๋อร์ อันที่จริงเจ้าไม่ต้องพยายามอยากจะเติบโตอยากจะแข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก เพราะพอเติบโตแล้ว...มันไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด คำของข้า รอเจ้าโตแล้วก็จะเข้าใจเอง"ตอนนั้นใบหน้าที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ ค่อยๆ ซ้อนทับกับใบหน้าที่บ้าคล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1079

    สีหน้าหลงเฉินปั้นยากมาก แต่...ไอ้การข่มกันของธาตุนี้เหมือนกับเป็นความสามารถแต่กำเนิด! ควบคุมได้ยากมากดังนั้นในพริบตาที่อุณหภูมิร้อนแรงบนตัวเฟิงเหยียน กับประกายไฟไร้รูปร่างปรากฏขึ้นร่างของหลงเฉินก็เบี่ยงหลบไปอย่างควบคุมไม่ได้เขียนเอ่ยเสียงแข็ง "เจ้า...จะทำอะไร"เฟิงเหยียนเหมือนห่อไว้ด้วยเปลวไฟทั้งตัว ทั้งร่างราวกับเป็นลูกไฟ อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างร้ายกาจแล้วจึงเดินไปด้านหน้าโดยไม่สนใจใครไม่นานนักก็มาถึงตำแหน่งใจกลางหมอกพิษ จึงมองเห็นบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบใจกลางเทียนช่อนั้นมันเป็นเหมือนกับชื่อเลย มีเจ็ดดอก ใบเจ็ดใบ ทุกดอกล้วนเป็นสีม่วง เกสรสีเหลืองยาวมาก ราวกับเป็นเทียนแล่มหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นมันบานอยู่ในบ่อน้ำเล็กๆ บ่อน้ำยังใหญ่ไม่เท่าใบหน้าเลย แต่ของเหลวที่อยู่ด้านใน ดูแล้วกลับเป็นสีม่วงเข้ม!และเจ้าของเหลวสีม่วงเข้มเหล่านี้ พอเดือดระเหย แล้วผสมเข้ากับความชื่นในอากาศของป่าทวนแสง นานวันเข้าจึงกลายเป็นหมอกพิษที่เข้มข้นขึ้น"ที่แท้ท่านก็คอยคุ้มครองเจ้าสิ่งนี้นี่เอง" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งหลังจากนั้นจึงยื่นมือไปทางบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนช่อนั้น"หยุดนะ!" หลงเฉินตะโก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1078

    หลงเฉินเนื่องจากร่างกายแบกพลังมังกรหนามม่วงไว้ แต่สิ่งที่ต้องนำมาสะกดนั้นตรงข้ามกับเฟิงเหยียนหลงเฉินเป็นประเภทที่ต้องพึ่งพาคุณสมบัติต่อพิษ ถ้าหากไม่มีการหาสิ่งที่พิษ พิษของมังกรหนามม่วงในร่างกายก็จะเริ่มทำร้ายตนเองอันที่จริงถ้าหากจั๋วซือหรานอยู่ที่นี่แล้วมีปฏิกิริยากับเนื้อหาที่เฟิงเหยียนพูดมาล่ะก็ คงจะมีคำจำกัดความให้อย่างรวดเร็วว่า:นี่มันก็เหมือนกับติดยาเสพติดนี่นาสถานการณ์ของหลงเฉินตอนนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ"เพราะที่พรมแดนใต้มีสิ่งมีพิษอยู่มากกว่า" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น "แต่ก่อน บางทีท่านก็หายไประยะหนึ่ง บอกว่าตนเองปิดด่าน หลังจากกลับมาสีหน้ากับสภาพก็ไม่ค่อยสู้ดีนักตอนนี้พอคิดๆ ดู ท่านก็น่าจะไปเอาสิ่งมีพิษมาใช้ประโยชน์กับตัวเองสินะ...ท่านอยู่แค่ในป่านี้ ก็เพราะที่นี่มีหมอกพิษข้าเดาว่าท่านคิดจะสูดรับหมอกพิษเหล่านี้แล้ว ค่อยไปยังใจกลางหมอกพิษเอาสมบัติที่ก่อหมอกพิษหนาแน่นนี้มาใช้ประโยชน์กับตนเองและสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่านลงมือกับสัตว์อสูรของจั๋วเสียวจิ่ว ก็น่าจะเพราะแมงมุมตัวนั้นไปพบกับสมบัติที่ใจกลางหมอกพิษ แล้วกำลังจะเก็บมันมาสินะยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะ แมงมุมตัวนั้นก็เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status