Share

บทที่ 637

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “ยอมยกราชาแมงมุมหน้าผีให้ข้าก่อน จากนั้นจึงถามชื่อข้า จดจำชื่อข้าไว้ หลังจากพ้นสถานการณ์ล่อแหลมค่อยให้คนในตระกูลกลับมาหาเรื่องข้าสินะ...”

คำพูดนี้ของจั๋วซือหรานทำเอาซางเหลยหน้าเปลี่ยนสี รอยยิ้มบนหน้าเขาเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อขึ้นมา

เขาเอ่ยขึ้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่นาง...เข้าใจผิดแล้ว ดูจากที่แม่นางควบคุมหมาป่าเข้ามา เดาได้ไม่ยากว่าแม่นางเองก็เป็นนักควบคุมสัตว์ ในเมื่อเป็นนักควบคุมสัตว์ ก็น่าจะเคยได้ยินชื่อตระกูลซางของพวกเราบ้าง ตระกูลพวกเราทำกิจการใหญ่โต ไม่ใช่คนใจแคบที่จะทำร้ายผู้มีพระคุณแน่นอน”

จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชา “ข้ากลับรู้สึกว่า คนตระกูลชั้นสูงอย่างพวกเจ้านี่ล่ะ ที่เป็นพวกใจแคบทำร้ายผู้มีพระคุณ เรื่องนี้ทำกันน้อยเสียที่ไหน ลูกไม้พวกนี้ข้ารู้ไต๋หมดแล้ว”

สีหน้าซางเหลยยิ่งแข็งขึ้นอีก เขาเพิ่งคิดจะพูดอะไร

แต่ก็ได้ยินเสียงเรียบๆ ของหญิงสาวเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่า ข้าเองก็ไม่รังเกียจที่จะบอกชื่อกับพวกเจ้าหรอกนะ”

ซางเหลยลิงโลดขึ้นมาในใจ คนอื่นๆ เองก็หัวเราะเย็นชาในใจ รู้สึกแค่ว่าหญิงสาวคนนี้ติดเบ็ดเข้าแล้ว นางตอนนี้ต่อห้จะอหังการแค่ไหน แต่คนตัวเล็กมีหรือจะมา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 638

    อันที่จริงลูกหลานตระกูลชั้นสูงอีกหลายคน ตอนนี้ล้วนมีความคิดเช่นเดียวกันต่อจั๋วซือหราน คือเกลียดชังจนอยากจะควักเนื้อเถือกระดูกนางออกมาง่ายมาก น่าจะเพราะจั๋วซือหรานทำในสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าทำ ทำในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้และพวกเขากลับคงคงไม่กล้าไปทำ และทำไม่ได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อาจยอมรับว่าสิ่งที่นางทำเป็นสิ่งถูก และไม่สามารถยอมรับความสามารถและพลังที่แท้จริงของนางทำได้แค่ปฏิเสธจั๋วซือหรานอย่างต่อเนื่อง เช่นนี้จึงจะสามารถทำให้ตนเองไม่รู้สึกไร้ค่าน่าจะเพราะด้วยความรู้สึกเช่นนี้เหล่าลูกหลานตระกูลซางพวกนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นซางเหลยส่งสายตาให้กับพวกเขา ทุกคนทยอยกันตอบรับ ในมือมีการเคลื่อนไหว!“คุณหนู! ท่านดูพวกเขาสิ...!” ฝูซูเองก็เห็นการเคลื่อนไหวนี้ของพวกเขา น้ำเสียงตกตะลึงเล็กน้อยจั๋วซือหรานหรี่ตาลง สายตาเหลือบมองอย่างเย็นชาลูกหลานตระกูลซางเหล่านี้ ล้วนทยอยกันกรีดมือตนเอง เลือดสดหยดลงพื้นดิน จากนั้นพวกเขาก็ใช้ฝ่ามือทั้งคู่ ออกแรงกดลงไปบนพื้นสีหน้าที่อ่อนแอแต่เดิมของพวกเขา ยิ่งดูอ่อนแรงลงไปอีก ขาวซีดจนไม่เห็นสีเลือดแล้วบนพื้นดิน เหมือนมีลวดลายไร้รูปร่างอะไรอยู่ เปล่งแสงขึ้นมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 639

    ราชาแมงมุมผีย่างเข้าหาจั๋วซือหรานทีละก้าวๆ เพราะร่างกายที่ใหญ่โต จึงรู้สึกว่าแค่ไม่กี่ก้าวก็มาถึงตรงหน้าจั๋วซือหรานแล้วจากการเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ของราชาแมงมุมหน้าผี ราชาหมาป่าน้ำแข็งกับคู่ของมัน ก็อยู่ในท่วงท่าระแวดระวังเตรียมพร้อมขนของพวกมันตั้งชัน หลังโก่งขึ้น กรงเล็บแหลมออกแรงจิกพื้นกล้ามเนื้อทั่วตัวเหมือนตึงเกร็ง ราวกับขอแค่ราชาแมงมุมหน้าผีโจมตีอะไรมา พวกมันก็จะพุ่งเข้าโจมตีทัดทานทันที!ฝูซูแทบจะเยี่ยวราด สองขาเขาสั่นยวบ แต่ก็ยังฝืนยืนอยู่ที่เดิม ยกหน้าไม้ในมือขึ้น เล็งไปที่ท้องป่องๆ ของราชาแมงมุมหน้าผีอดพูดไม่ได้เลย จั๋วซือหรานมองคนเก่งจริงๆ วันนี้จึงจงใจเลือกฝูซูมาเป็นพิเศษคนคนนี้แม้จะดูวุ่นวายไปบ้าง แต่จั๋วซือหรานมองออกว่าเขามีความพิเศษ ในตอนที่ยิ่งลนลาน เขาก็จะยิ่งหนักแน่นขึ้นมามั่นคงยามอันตรายมาถึง เช่นเดียวกันตอนนี้ ในใจลนลานจนเยี่ยวแทบจะราด แต่มือกลับมั่นคงไม่ไหวติง ดวงตาไม่กระพริบ ราวกับขอแค่เจ้าแมงมุมสกปรกนี่กล้าทำอะไรคุณหนูของเขาล่ะก็แมงมุมตัวนี้ต่อให้จะตัวใหญ่น่าตกใจแค่ไหน เขาก็จะยิงหน้าไม้ออกไปทันที จะแทงพุงของมันให้แตกไปเลย!เขาในตอนนี้กระทั่งยังจำได้อย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 640

    จากเนื้อหาที่นางพูดออกมาเมื่อครู่นี้ พวกเขาไม่สงสัยแม้แต่น้อย จั๋วซือหรานพูดกับราชาแมงมุมหน้าผีจริงๆๆ จนได้รู้ถึงสาเหตที่ราชาแมงมุมหน้าผีลงมือกับพวกเขาและพวกเขา ก็เข้ามาเพื่อจับลูกน้อยของราชาแมงมุมหน้าผีนี้จริงๆเพราะราชาแมงมุมหน้าผีแม้จะเป็นแมงมุม แต่กลับแตกต่างกับแมงมุมธรรมดา เนื่องจากพลังการต่อสู้แข็งแกร่งมากเกินไป ซึ่งทุกสรรพสิ่งล้วนมีสมดุลอยู่ในเมื่อพลังต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป เช่นนั้นพลังในการคลอดจึงไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นแมงมุมทั่วไปหนึ่งรังจะมีไข่อยู่ไม่น้อย แต่แมงมุมหน้าผี ครึ่งหนึ่งสามารถวางไข่ได้แค่สิบใบเท่านั้นและถ้าหากเป็นราชาแมงมุมหน้าผี ครั้งหนึ่งสามารถวางไข่แมงมุมได้สี่ห้าใบก็ถือว่าสุดยอดแล้วแล้วจะยอมให้คนอื่นมาแย่งลูกของตัวเองไปได้อย่างไรแต่แมงมุมหน้าผีนั่นก็นำมาใช้ควบคุมสัตว์ได้ดี มีพลังโจมตี มีพลังในการควบคุมเป็นสัตว์ควบคุมขั้นต้นที่เหล่านักควบคุมสัตว์เลือกมาโดยตลอดแมงมุมหน้าผีเองก็เป็นเช่นนี้ ราชาแมงมุมหน้าผีก็ยิ่งเป็นไปตามนั้นดังนั้นพวกเขา เนื่องจากอีกไม่นานนักจะเป็นงานฉลองครบรอบสิบห้าปีของคุณหนูสี่ซางเชวี่ยของตระกูลซางคุณหนูสี่คนนี้ มีความสามารถ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 641

    ฝูซูกลอกตา จากนั้นจึงประจันเข้ากับดวงตาดำขลับขนาดระฆังทองสัมฤทธิ์คู่หนึ่ง“อ๊า...!”ฝูซูกรีดร้องแหลม กระทั่งหมุนตัวถึงสองรอบ ลากเสียงเย้ายวนใจออกมา!จั๋วซือหรานแทบจะได้ยินเส้นคลื่นเสียงในน้ำเสียงเขาจึงขมวดคิ้ว “จะร้องทำไมกัน”“คุณหนู!” ฝูซูถลึงตามองฉากตรงหน้า “ท่าน ท่านท่านท่าน...” จั๋วซือหรานนั่งอยู่บนหลังราขาแมงป่องหน้าผี มองจากมุมสูงลงมายังตัวฝูซู “เลิกพูดมากได้แล้ว รีบขึ้นมา”“ข้าข้าข้าข้า...” ฝูซูแต่พูดแต่ละคำออกมาอย่างยากลำบากเจ้าไม่ใช่บอกว่าชอบขนนุ่มฟูหรอกหรือ? ขนมันนุ่มฟูมากเลยนะ” จั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นเย้าแหย่เป็นเส้นโค้งฝูซูรู้สึกเสียใจขึ้นมา!แต่เขาก็ยังกัดฟัน ขึ้นไปนั่งบนหลังราชาแมงมุมหน้าผีด้านล่างของก้น แผ่นหลังของราชาแมงมุมหน้าผี ยังมีลายสีขาวที่ดูเหมือนหน้าผีอยู่แต่ความรู้สึกที่แท้จริง กลับพิเศษอย่างมาก ขนพวกนั้นไม่แข็งไม่นิ่ม ปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง พอลูบลงไปยังลื่นมือดีด้วย ลื่นสลวยเป็นพิเศษเอาจริงๆ ยังให้สัมผัสที่ดีกว่าขนของราชาหมาป่าน้ำแข็งเสียอีกแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยว่าฝั่งไหนสัมผัสดีกว่า!“คุณหนูกล่อมมันได้ไวขนาดนี้เชียว!” ฝูซูก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 642

    ถุงเก็บสัตว์จากปากของฝูซู เป็นภาชนะที่เหล่านักควบคุมสัตว์เอาไว้ใช้เก็บสัตว์ประหลาดของตนเองอันที่จริงแล้วดูโหดร้ายอยู่ เพราะถุงเก็บสัตว์กับภาชนะมิตินั้นเหมืนอกัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับมิติ ดังนั้นต้นทุนจึงสูงมาก กระทั่งมีแค่นักกลั่นอาวุธเท่านั้นที่สามารถทำออกมาได้แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังคงดูโหดร้ายมาก เพราะต้องนำสัตว์ประหลาดที่เก็บมา ขังเอาไว้ในมิติที่คับแคบสุดๆ แห่งหนึ่งนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักควบคุมสัตว์ จึงมักจะเอาสัตว์ที่ตนเองรัก เอาไว้ข้างกายพาไปไหนมาไหน ไม่ใส่เข้าไปในถุงเก็บสัตว์ เพราะไม่อยากให้เหล่าสัตว์ประหลาดที่ตนรักต้องลำบากแต่ถ้าเป็นพวกที่ไม่ได้รักเหล่านั้น...ก็ไม่ต้องสนใจอะไรมาก สัตว์เลี้ยงที่ถูกใส่ไว้ในถุงเก็บของเป็นเวลานาน ความซื่อสัตย์ต่อนักควบคุมสัตว์ก็จะลดต่ำลงนี่เป็นเรื่องปกติ เอาใจแลกใจ ใครที่ถูกขังเอาไว้ในห้องมืดแคบๆ ที่แค่จะขยับก้นหันตัวก็ยังลำบาก เฝ้ารอไม่เห็นเดือนเห็นตะวันวันแล้ววันเล่า ก็ล้วนบ้าคลั่งกันได้ทั้งนั้นแค่ไม่ล้างแค้นกับโลกก็นับว่าดีแล้ว นับประสาอะไรจะให้มาซื่อสัตย์ด้วย?ภาชนะมิติเช่นนี้ เป็นคนละแบบกับมิติน้ำพุวิเศษแหวนเสวียนเหยียนขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 643

    ขณะเดียวกัน“ฮัดชิ่ว...!” จั๋วซือรหานนั่งอยู่บนราชาแมงมุมหน้าผี หนาวจนจามออกมาทีหนึ่ง“คุณหนูเป็นหวัดหรือ?” ฝูซูถามขึ้นอย่างเป็นห่วงจั๋วซือหรานยิ้มๆ ร่างกายของนาง การเป็นหวัดสำหรับนางแล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่ยากที่สุดแล้ว“ไม่หรอก แค่คันจมูกหน่อยๆ” จั๋วซือหรานตอบ “น่าจะมีคนกำลังด่าข้าอยู่”“ใครมาด่าคุณหนูกัน...” ฝูซูหลังจากพูดคำนี้ เสียงก็อ่อนลงมา แอบคิดในใจ ก็น่าจะมีคนแอบด่าอยู่มากจริงๆ นั่นล่ะเอาแค่คิด ในใจฝูซูก็สั่นระริก ตระกูลใหญ่ๆ ในเมืองหลวง คุณหนูเองก็ไปผิดใจกับเขาจนเกือบครบแล้ว....ตระกูลจั๋ว ตระกูลเฟิง ตระกูลเหยียนก็ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้ขนาดตระกูลซาง! ก็ยังไปผิดใจด้วยแล้ว จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงของฝูซูแผ่วลงมา รอยยิ้มที่มุมปากก็กว้างขึ้นอีก“คนที่ด่าข้าหรือ? เยอะแยะไปหมดเลย” จั๋วซือหรานตอบมาและฝูซูก็เอ่ยเสียงแผ่วกลับมา “ยังดีที่พวกตระกูลซางเมื่อครู่ตายกันหมด ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คุณหนูคงได้เจอศัตรูเข้าอีกตระกูลแน่...”จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยกลับมาเสียงต่ำ “ข้ารู้สึกว่า คนของตระกูลซางเมื่อครู่ยังไม่ได้ตายทั้งหมด” ดวงตาของซูฝูกลมโตขึ้นทันที “อะ อะไรนะ?! เป็นไปไม่ได้! พ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 644

    “แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้นี้ด้วย” จั๋วซือหรานยกมุมปากแต่ฝูซูเองก็ถือว่าเข้าใจคุณหนูของตนเองอยู่ พอได้ยินคำพูดนี้ของคุณหนูบวกกับเห็นสีหน้าของคุณหนู ฝูซูก็รู้สึกว่า คุณหนูน่าจะไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น ไม่ คุณหนูจะต้องไม่คิดเช่นนี้แน่ฝูซูกระพริบตาปริบๆ มองจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานยิ้มๆ “แต่ว่านะ ความคิดของคุณหนูเจ้าไม่ได้บื้อๆ ใส่ซื่อบริสุทธิ์แบบของเจ้าหรอก คุณหนูของเจ้าน่ะ ผ่านเรื่องเลวๆ คนเลวๆ มาเยอะ ดังนั้นจึงชอบคิดไปในทางร้ายๆ ก่อน”จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า “เอาจริงๆ ตอนที่พวกเราไปถึง อันที่จริงก็เป็นช่วงที่ช่วงชิงผลประโยชน์จริงๆ ข้าคิดว่าไม่แน่นะ เจ้าเพื่อนที่ร้ายกาจของพวกเขาคนนั้น ก็น่าจะคิดแบบเดียวกันไหม? แค่ข้าโชคดี ชิงตัดหน้าเขาไปก่อนเท่านั้น”ฝูซูตาถลึงกว้างฉับพลันเขารู้สึกว่า ความคิดนี้ของคุณหนูเป็นไปได้เอามากๆ !จั๋วซือหรานกดลงบนบ่าเขา “ไม่ต้องลนลานไป กลับเมืองหลวงก่อนค่อยว่ากัน”ฝูซูกังวลจั๋วซือหรานหน่อยๆ “คุณหนู! ถ้าหากท่านบนการประลองไกล่เกลี่ยการตัดสินใช้ราชาแมงมุมหน้าผีขึ้นมาล่ะก็ เพื่อนที่ร้ายกาจของพวกเขาคนนี้นบางที คงจะรู้ว่าท่านเป็นคนที่ชิงผลประโยชน์ที่เดิมทีเป็นขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 645

    จั๋วซือหรานเองก็สนใจจริงๆถ้าหากถึงตอนนั้น ลูกหลานที่ร้ายกาจตระกูลซาง ที่ซ่อนในความมืดและตนเองไม่ได้เจอเข้าในวันนี้คนนั้น รู้ว่าคนที่แย่งผลประโยชน์ของเขาวันนี้ไปคือจั๋วซือหรานก็คงจะใช้เรื่องนี้สาดน้ำสกปรกใส่นางต่อหน้าระดับสูงของตระกูลซางส่วนนางก็จะบอกระดับสูงของตระกูลซางว่าตนเองมีพรสวรรค์นักภาษาสัตว์ และตอนนี้เป็นคนที่ไม่มีพันธะไม่มีที่พึ่งพาล่ะก็...แว้งกัดย้อนไปอีกสักคำ บอกว่าคนผู้นี้สังหารคนในตระกูลเดียวกันเหล่านั้น แล้วยังคิดจะสาดน้ำสกปรกใส่นางให้นางต้องมาแบกรับความผิดนี้แล้วระดับสูงตระกูลซางจะเลือกไม่พอใจนางเพราะคนนั้นใส่ร้ายใส่ หรือจะเลือกไม่พอใจคนผู้นั้นเพราะการกระทำของนางกันแน่ตระกูลเน่าเฟะพวกนี้ ระดับสูงของพวกเขา จะมีท่าทีอะไร จะมีพฤติกรรมแบบไหนกันแน่...จั๋วซือหรานอยากจะรู้จริงๆ ฝูซูยังคงกังวลอยู่หน่อยๆ ดังนั้นจึงรู้สึกกังวลใจและเตือนสติจั๋วซือหราน ว่าศัตรูอยในที่มืด นางนั้นอยู่ในที่แจ้ง ต้องระวังตัวไว้ก่อนเป็นดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไรใครจะอยู่ในที่แจ้งมันก็ยังไม่แน่หรอกนะ......ต่อมาไม่นานนัก ที่หอฟ้าดาวเจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วถามขึ้น “ข

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1085

    หัวหน้าคนคุ้มกันถอนหายใจออกมาเบาๆ "เป็นข้าที่เลินเล่อเอง ตอนที่แม่นางเข้าเมืองข้าลืมเตือนแม่นาง ว่าในเมืองหยางนี้มีเจ้าถิ่นอยู่""ถ้าหากไปเจอเข้า เลี่ยงไว้หน่อยก็จะดี ถึงอย่างไรแม่นางก็ไม่ได้คิดจะอยู่นานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอกับเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น แม่นางมาจากเมืองหลวง คิดว่าก็น่าจะเข้าใจ ว่ามันจะมีพวกคน...ที่เหมือนกับพวกคางคงอะไรแบบนั้น" หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ คางคกเวลาปีนขึ้นมาหลังเท้า ต่อให้ไม่กัดคน ก็ยังน่าขยะแขยงจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น "ตระกูลเหอหรือ?"หัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้า "ตระกูลเหอขอรับ"เขาควรจะคิดถึงตั้งนานแล้ว ว่าคนตรงหน้าคนนี้ ตอนอยู่ที่เมืองหลวง ก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหยางเลยคิดๆ แล้วก็ใช่ คนตรงหน้าคนนี้คือคนที่ไม่เห็นห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงในสายตา เป็นหญิงสาวที่ถูกตระกูลขับไล่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสมาเชิญให้กลับตระกูล...คนเช่นนี้ จะมาหวาดกลัวตระกูลเหอในเมืองหยางได้อย่างไรกันแต่หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงจดจำบุญคุณที่จั๋วซือหรานมีต่อค่ายคุ้มกันและท่านแม่ทัพ ดังนั้น ไม่ว่าจั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1084

    จั๋วซือหรานชูเข็มในมือขึ้น เอ่ยว่า "สมอง"จากนั้นก็ใช้เข็มชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"ดีมาก ตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย!ไม่ว่าจะแมงมุมน้อยหรือพวกก้อนเนื้อ ตอนนี้ก็น่าจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ลิงโลดของจั๋วซือหรานแล้วเพราะตาของนางเปล่งประกายมาก!จากนั้นนางจึงชูเข็มในมือขึ้นอีกครั้ง "สมอง"ชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"หลังจากพูดซ้ำเช่นนี้ไปหลายรอบ ตอนที่แมงมุมน้อยกับพวกก้อนเนื้อทวนซ้ำคำพูดกับท่าทางของนางได้การเคลื่อนไหวของนางในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง!นางบีบขนมถั่วแดงไว้ในมือ เอ่ยขึ้นว่า "สมอง""เอ๋?" ในดวงตาเล็กๆ ของขนมถั่วแดงเบิกกว้างสงสัย ไม่ใช่เข็มนั่นที่เป็นสมองหรือ?จากนั้นนายท่านก้ดึงไหมกู่ของมันออกมาหลายเส้น เอ่ยขึ้นว่า "ระบบประสาท"จั๋วซือหรานตาเป็นประกายจนเหมือนดวงดาว "ไม่ต้องอธิบายแล้ว" นางหัวเราะขึ้นมา "ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ อัจฉริยะ"เหล่าก้อนเนื้อันที่จริงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายท่นา แต่สัมผัสได้ถึงอารมณ์เบิกบานของนายท่าน พวกมันก็รู้สึกดีใจตามขึ้นมาแมงมุมน้อยเหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1083

    นิ้วของจั๋วซือหรานมีแสงหยกครบอยู่ชั้นหนึ่ง ยื่นตรงไปยังเข็มยาวสีดำที่ปักอยู่ตรงท้ายทอยของหุ่นเชิดความมืดเล่มนั้นขนมชาเขียวอยู่ข้างหูนาง เอ่ยขึ้นอย่างกังวล "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อันตรายมากเลย...ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ขนมชาเขียวไม่ได้ร่าเริงเหมือนขนมถั่วแดง น่าจะเพราะมันมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัวดังนั้นการที่มันพูดเช่นนี้ จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกใจมาก"อื๋อ? ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?" จั๋วซือหรานมองไปทางมันขนมชาเขียวส่ายหัว เพราพวกมันล้วนเป็นก้อนเนื้อ พูดว่าส่ายหัว อันที่จริงก็คือก็โยกไปมาของครึ่งท่อนบนขนมชาเขียวบอกว่า "ข้าเองก็บอกไม่ถูก แค่รู้สึก ว่ามันเย็นเยือกมาก""เย็นเยือก..." จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดนี้ของขนมชาเขียวจั๋วซือหรานรู้ เพราะขนมชาเขียวมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างฉับไวกับสิ่งที่เย็นเยียบยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดความมืดคนนี้กับอักขระคำสาปบนตัวเหล่านั้น จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งที่มีพลังหยางเลยในใจจั๋วซือหรานคิดอะไรไว้บ้างแล้ว แสงหยกบนมือนางค่อยๆ สลายไป ค่อยๆ เปล่งแสงสีสันสวยงาม และมีความร้อนเหมือนเปลวไฟขึ้นมานางควบร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1082

    แต่อันที่จริงด้านในมีโพรงสวรรค์อยู่สมบัติที่นางสะสมมาจากชาติที่แล้วและชาตินี้ ห้องคลังก็ล้วนอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งสิ้นคลังของนางพูดได้ว่าใหญ่โตเอามากๆ กระทั่งคลังยังถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วย คลังยา คลังอาวุธ คลังเสบียงอาหารประจำวัน คลังของจิปาถะเป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีห้องหลอมสกัดยาของนางด้วย...อันที่จริงในชาติที่แล้ว มิติห้องหลอมสกัดยานี้ไม่ได้เอามาใช้หลอมยา แต่บางครั้งนางนำมาใช้เป็นการทดลองยาอะไรพวกนี้พอมาชาตินี้ ก็นำมาใช้หลอมยาสกัดยา ก็ยังถือว่าตรงสายงานเฉพาะทางอยู่ ไม่เสียเปล่าแล้วยังมีห้องเพาะเลี้ยงของตนเองด้วย ตอนนั้นตั้งใจจะมาเพาะเลี้ยงพวกของที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ พวกเห็ดอะไรทำนองนี้ในมิติของนาง ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่ง พวกพืชเองก็ปลูกแบบสะเปะสะปะแต่ว่าพวกเห็ดมันคือเชื้อราจริงๆ อยู่ด้านนอกก็ปลูกไม่ค่อยโต ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงจงใจสร้างห้องเพาะขึ้นมาโดยเฉพาะเพียงแต่ตอนนี้ยังว่างอยู่จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้โยนหุ่นเชิดความมืดเข้ามาในห้องเพาะปลูกนี้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ มันไม่อยู่ด้านในแล้วถ้าตามที่แมงมุมน้อยว่า มันหลบอยู่ที่ด้านหลังของบ้านจั๋วซือหรานเดินเข้าไป ยื่นหน้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1081

    "ดังนั้นจึงมาลงมือกับเจ้าหรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางแมงมุมน้อย "ถึงอย่างไรพอพูดขึ้นมา เจ้าเองก็ก็เป็นสิ่งมีพิษที่หาได้ยากด้วยนี่ แล้วยังเป็นระดับราชาสัตว์ด้วย ถ้าเขาเสพติดพิษขึ้นมาด้วยคุณสมบัติร่างกายแบบนั้นจริงล่ะก็..."จั๋วซือหรานตบเบาๆ ลงไปบนแขนเคียวของราชาแมงมุมหน้าผี "เจ้าเองก็ตัวใหญ่ขนาดนี้ ถือเป็นของบำรุงที่ไม่เลยเลยทีเดียว"จั๋วซือหรานก็เหมือนตระหนักได้ถึงแก่นแท้เรื่องราวในชั่วพริบตาราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินการคาดเดากับการวิเคราะห์ของจั๋วซือหราน ก็คิดขึ้นมาถึงความเป็นไปได้นี้ พอคิดไปถึงว่าตนเองเกือบถูกคนเอาไปเป็นของบำรุงแล้ว ก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้"ยังดีที่นายท่านช่วยเหลือไว้" แมงมุมน้อยเอ่ยขึ้นแม้จะบอกว่า จั๋วซือหรานเข้าใกล้แก่นแท้ของเรื่องราวไปแล้วในชั่วพริบตานั้น แต่นางก็เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนักนางโบกไม้โบกมือ เอ่ยขึ้นว่า "ช่างเถอะ ไม่มีอะไรน่าคิดเล็กคิดน้อย ด้วยพลังของคนเมื่อครู่นี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ข้าก็ไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก คนแบบนั้น การสู้ให้ตายกันไปข้าง น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร"จั๋วซือหรานพูดไปด้วยพลางสังเกตสภาพของแมงมุมน้อยไปด้วย จากนั้นจึงตบเบาๆ แล้วเอ่ยขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1080

    เจ้าคิดว่าข้าทรยศเจ้า ใช้ประโยชน์จากเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าสูงส่งเต็มประดานักหรือ?! เจ้ามันก็จนตรอกแล้วเท่านั้น!รอให้เจ้าจนตรอกเสียก่อน เพื่อจะมีชีวิตต่อไปเจ้าก็ต้องทรยศคนทั้งหมดเหมือนกัน! เจ้าจะลงหมอบคลานกับพื้นส่ายหางอย่างน่าสงสาร!เจ้าไม่ได้ดีกว่าข้าหรอก! เจ้าก็จะเป็นเหมือนข้า! ถึงอยี่างไร ข้าก็เป็นคนสอนเจ้ามา!"หลงเฉินพูดจบ ก็หัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่งเขาไม่ได้สังเกตเห็นสีตาของเฟิงเหยียน ที่ตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งขึ้นมาพอควรเสียงของเฟิงเหยียนกดลงต่ำมาก แต่กลับหนักแน่น "ข้าไม่มีทางเป็นแบบนั้น"เขาหันกลับไปมองชายหนุ่มที่น่าเศร้าซึ่งพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดในสมองก็อดคิดถึงเรื่องเหล่านั้นสมัยยังเด็กขึ้นมาไม่ได้เสียงที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ นั่งอยู่ใต้ต้นดอกท้อบานสะพรั่ง หลับตาพริ้ม กำลังดื่มชาขาวดอกสาลี่ยิ้มตาหยีบอกกับเขาว่า "เหยียนเอ๋อร์ อันที่จริงเจ้าไม่ต้องพยายามอยากจะเติบโตอยากจะแข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก เพราะพอเติบโตแล้ว...มันไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด คำของข้า รอเจ้าโตแล้วก็จะเข้าใจเอง"ตอนนั้นใบหน้าที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ ค่อยๆ ซ้อนทับกับใบหน้าที่บ้าคล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1079

    สีหน้าหลงเฉินปั้นยากมาก แต่...ไอ้การข่มกันของธาตุนี้เหมือนกับเป็นความสามารถแต่กำเนิด! ควบคุมได้ยากมากดังนั้นในพริบตาที่อุณหภูมิร้อนแรงบนตัวเฟิงเหยียน กับประกายไฟไร้รูปร่างปรากฏขึ้นร่างของหลงเฉินก็เบี่ยงหลบไปอย่างควบคุมไม่ได้เขียนเอ่ยเสียงแข็ง "เจ้า...จะทำอะไร"เฟิงเหยียนเหมือนห่อไว้ด้วยเปลวไฟทั้งตัว ทั้งร่างราวกับเป็นลูกไฟ อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างร้ายกาจแล้วจึงเดินไปด้านหน้าโดยไม่สนใจใครไม่นานนักก็มาถึงตำแหน่งใจกลางหมอกพิษ จึงมองเห็นบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบใจกลางเทียนช่อนั้นมันเป็นเหมือนกับชื่อเลย มีเจ็ดดอก ใบเจ็ดใบ ทุกดอกล้วนเป็นสีม่วง เกสรสีเหลืองยาวมาก ราวกับเป็นเทียนแล่มหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นมันบานอยู่ในบ่อน้ำเล็กๆ บ่อน้ำยังใหญ่ไม่เท่าใบหน้าเลย แต่ของเหลวที่อยู่ด้านใน ดูแล้วกลับเป็นสีม่วงเข้ม!และเจ้าของเหลวสีม่วงเข้มเหล่านี้ พอเดือดระเหย แล้วผสมเข้ากับความชื่นในอากาศของป่าทวนแสง นานวันเข้าจึงกลายเป็นหมอกพิษที่เข้มข้นขึ้น"ที่แท้ท่านก็คอยคุ้มครองเจ้าสิ่งนี้นี่เอง" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งหลังจากนั้นจึงยื่นมือไปทางบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนช่อนั้น"หยุดนะ!" หลงเฉินตะโก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1078

    หลงเฉินเนื่องจากร่างกายแบกพลังมังกรหนามม่วงไว้ แต่สิ่งที่ต้องนำมาสะกดนั้นตรงข้ามกับเฟิงเหยียนหลงเฉินเป็นประเภทที่ต้องพึ่งพาคุณสมบัติต่อพิษ ถ้าหากไม่มีการหาสิ่งที่พิษ พิษของมังกรหนามม่วงในร่างกายก็จะเริ่มทำร้ายตนเองอันที่จริงถ้าหากจั๋วซือหรานอยู่ที่นี่แล้วมีปฏิกิริยากับเนื้อหาที่เฟิงเหยียนพูดมาล่ะก็ คงจะมีคำจำกัดความให้อย่างรวดเร็วว่า:นี่มันก็เหมือนกับติดยาเสพติดนี่นาสถานการณ์ของหลงเฉินตอนนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ"เพราะที่พรมแดนใต้มีสิ่งมีพิษอยู่มากกว่า" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น "แต่ก่อน บางทีท่านก็หายไประยะหนึ่ง บอกว่าตนเองปิดด่าน หลังจากกลับมาสีหน้ากับสภาพก็ไม่ค่อยสู้ดีนักตอนนี้พอคิดๆ ดู ท่านก็น่าจะไปเอาสิ่งมีพิษมาใช้ประโยชน์กับตัวเองสินะ...ท่านอยู่แค่ในป่านี้ ก็เพราะที่นี่มีหมอกพิษข้าเดาว่าท่านคิดจะสูดรับหมอกพิษเหล่านี้แล้ว ค่อยไปยังใจกลางหมอกพิษเอาสมบัติที่ก่อหมอกพิษหนาแน่นนี้มาใช้ประโยชน์กับตนเองและสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่านลงมือกับสัตว์อสูรของจั๋วเสียวจิ่ว ก็น่าจะเพราะแมงมุมตัวนั้นไปพบกับสมบัติที่ใจกลางหมอกพิษ แล้วกำลังจะเก็บมันมาสินะยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะ แมงมุมตัวนั้นก็เ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status