แชร์

บทที่ 642

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ถุงเก็บสัตว์จากปากของฝูซู เป็นภาชนะที่เหล่านักควบคุมสัตว์เอาไว้ใช้เก็บสัตว์ประหลาดของตนเอง

อันที่จริงแล้วดูโหดร้ายอยู่ เพราะถุงเก็บสัตว์กับภาชนะมิตินั้นเหมืนอกัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับมิติ ดังนั้นต้นทุนจึงสูงมาก กระทั่งมีแค่นักกลั่นอาวุธเท่านั้นที่สามารถทำออกมาได้

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังคงดูโหดร้ายมาก เพราะต้องนำสัตว์ประหลาดที่เก็บมา ขังเอาไว้ในมิติที่คับแคบสุดๆ แห่งหนึ่ง

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักควบคุมสัตว์ จึงมักจะเอาสัตว์ที่ตนเองรัก เอาไว้ข้างกายพาไปไหนมาไหน ไม่ใส่เข้าไปในถุงเก็บสัตว์ เพราะไม่อยากให้เหล่าสัตว์ประหลาดที่ตนรักต้องลำบาก

แต่ถ้าเป็นพวกที่ไม่ได้รักเหล่านั้น...ก็ไม่ต้องสนใจอะไรมาก สัตว์เลี้ยงที่ถูกใส่ไว้ในถุงเก็บของเป็นเวลานาน ความซื่อสัตย์ต่อนักควบคุมสัตว์ก็จะลดต่ำลง

นี่เป็นเรื่องปกติ เอาใจแลกใจ ใครที่ถูกขังเอาไว้ในห้องมืดแคบๆ ที่แค่จะขยับก้นหันตัวก็ยังลำบาก เฝ้ารอไม่เห็นเดือนเห็นตะวันวันแล้ววันเล่า ก็ล้วนบ้าคลั่งกันได้ทั้งนั้น

แค่ไม่ล้างแค้นกับโลกก็นับว่าดีแล้ว นับประสาอะไรจะให้มาซื่อสัตย์ด้วย?

ภาชนะมิติเช่นนี้ เป็นคนละแบบกับมิติน้ำพุวิเศษแหวนเสวียนเหยียนขอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 643

    ขณะเดียวกัน“ฮัดชิ่ว...!” จั๋วซือรหานนั่งอยู่บนราชาแมงมุมหน้าผี หนาวจนจามออกมาทีหนึ่ง“คุณหนูเป็นหวัดหรือ?” ฝูซูถามขึ้นอย่างเป็นห่วงจั๋วซือหรานยิ้มๆ ร่างกายของนาง การเป็นหวัดสำหรับนางแล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่ยากที่สุดแล้ว“ไม่หรอก แค่คันจมูกหน่อยๆ” จั๋วซือหรานตอบ “น่าจะมีคนกำลังด่าข้าอยู่”“ใครมาด่าคุณหนูกัน...” ฝูซูหลังจากพูดคำนี้ เสียงก็อ่อนลงมา แอบคิดในใจ ก็น่าจะมีคนแอบด่าอยู่มากจริงๆ นั่นล่ะเอาแค่คิด ในใจฝูซูก็สั่นระริก ตระกูลใหญ่ๆ ในเมืองหลวง คุณหนูเองก็ไปผิดใจกับเขาจนเกือบครบแล้ว....ตระกูลจั๋ว ตระกูลเฟิง ตระกูลเหยียนก็ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้ขนาดตระกูลซาง! ก็ยังไปผิดใจด้วยแล้ว จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงของฝูซูแผ่วลงมา รอยยิ้มที่มุมปากก็กว้างขึ้นอีก“คนที่ด่าข้าหรือ? เยอะแยะไปหมดเลย” จั๋วซือหรานตอบมาและฝูซูก็เอ่ยเสียงแผ่วกลับมา “ยังดีที่พวกตระกูลซางเมื่อครู่ตายกันหมด ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คุณหนูคงได้เจอศัตรูเข้าอีกตระกูลแน่...”จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยกลับมาเสียงต่ำ “ข้ารู้สึกว่า คนของตระกูลซางเมื่อครู่ยังไม่ได้ตายทั้งหมด” ดวงตาของซูฝูกลมโตขึ้นทันที “อะ อะไรนะ?! เป็นไปไม่ได้! พ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 644

    “แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้นี้ด้วย” จั๋วซือหรานยกมุมปากแต่ฝูซูเองก็ถือว่าเข้าใจคุณหนูของตนเองอยู่ พอได้ยินคำพูดนี้ของคุณหนูบวกกับเห็นสีหน้าของคุณหนู ฝูซูก็รู้สึกว่า คุณหนูน่าจะไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น ไม่ คุณหนูจะต้องไม่คิดเช่นนี้แน่ฝูซูกระพริบตาปริบๆ มองจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานยิ้มๆ “แต่ว่านะ ความคิดของคุณหนูเจ้าไม่ได้บื้อๆ ใส่ซื่อบริสุทธิ์แบบของเจ้าหรอก คุณหนูของเจ้าน่ะ ผ่านเรื่องเลวๆ คนเลวๆ มาเยอะ ดังนั้นจึงชอบคิดไปในทางร้ายๆ ก่อน”จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า “เอาจริงๆ ตอนที่พวกเราไปถึง อันที่จริงก็เป็นช่วงที่ช่วงชิงผลประโยชน์จริงๆ ข้าคิดว่าไม่แน่นะ เจ้าเพื่อนที่ร้ายกาจของพวกเขาคนนั้น ก็น่าจะคิดแบบเดียวกันไหม? แค่ข้าโชคดี ชิงตัดหน้าเขาไปก่อนเท่านั้น”ฝูซูตาถลึงกว้างฉับพลันเขารู้สึกว่า ความคิดนี้ของคุณหนูเป็นไปได้เอามากๆ !จั๋วซือหรานกดลงบนบ่าเขา “ไม่ต้องลนลานไป กลับเมืองหลวงก่อนค่อยว่ากัน”ฝูซูกังวลจั๋วซือหรานหน่อยๆ “คุณหนู! ถ้าหากท่านบนการประลองไกล่เกลี่ยการตัดสินใช้ราชาแมงมุมหน้าผีขึ้นมาล่ะก็ เพื่อนที่ร้ายกาจของพวกเขาคนนี้นบางที คงจะรู้ว่าท่านเป็นคนที่ชิงผลประโยชน์ที่เดิมทีเป็นขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 645

    จั๋วซือหรานเองก็สนใจจริงๆถ้าหากถึงตอนนั้น ลูกหลานที่ร้ายกาจตระกูลซาง ที่ซ่อนในความมืดและตนเองไม่ได้เจอเข้าในวันนี้คนนั้น รู้ว่าคนที่แย่งผลประโยชน์ของเขาวันนี้ไปคือจั๋วซือหรานก็คงจะใช้เรื่องนี้สาดน้ำสกปรกใส่นางต่อหน้าระดับสูงของตระกูลซางส่วนนางก็จะบอกระดับสูงของตระกูลซางว่าตนเองมีพรสวรรค์นักภาษาสัตว์ และตอนนี้เป็นคนที่ไม่มีพันธะไม่มีที่พึ่งพาล่ะก็...แว้งกัดย้อนไปอีกสักคำ บอกว่าคนผู้นี้สังหารคนในตระกูลเดียวกันเหล่านั้น แล้วยังคิดจะสาดน้ำสกปรกใส่นางให้นางต้องมาแบกรับความผิดนี้แล้วระดับสูงตระกูลซางจะเลือกไม่พอใจนางเพราะคนนั้นใส่ร้ายใส่ หรือจะเลือกไม่พอใจคนผู้นั้นเพราะการกระทำของนางกันแน่ตระกูลเน่าเฟะพวกนี้ ระดับสูงของพวกเขา จะมีท่าทีอะไร จะมีพฤติกรรมแบบไหนกันแน่...จั๋วซือหรานอยากจะรู้จริงๆ ฝูซูยังคงกังวลอยู่หน่อยๆ ดังนั้นจึงรู้สึกกังวลใจและเตือนสติจั๋วซือหราน ว่าศัตรูอยในที่มืด นางนั้นอยู่ในที่แจ้ง ต้องระวังตัวไว้ก่อนเป็นดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไรใครจะอยู่ในที่แจ้งมันก็ยังไม่แน่หรอกนะ......ต่อมาไม่นานนัก ที่หอฟ้าดาวเจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วถามขึ้น “ข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 646

    เจี่ยงเทียนซิงมองนาง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง “ก็แค่ถามดู”“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าถามอะไรส่งเดชเสียที!” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานกระพริบตาปริบๆ “ดังนั้นมันตอนไหนกัน?”“พรุ่งนี้” เจี่ยงเทียนซิงถอนใจ “เจ้าคิดจะทำอะไรก็ระวังหน่อย”“อืม รู้แล้ว” จั๋วซือหรานเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เช่นนั้นไม่ต้องพูดเรื่องตระกูลซางแล้ว พูดเรื่องอื่นดูบ้าง”“อะไรล่ะ?” เจี่ยงเทียนซิงถามจั๋วซือหรานครุ่นคิด มองเจี่ยงเทียนซิง “เจ้ารู้เรื่องสวนหลอมกระบี่ของตระกูลเฟิงไหม?”เจี่ยงเทียนซิงพอได้ยิน หางตาก็เลิกขึ้นเล็กน้อย “นั่นเป็นความลับของตระกูลเฟิง เจ้านี่กล้าถามไปเรื่อยจริงๆ”จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นทีหนึ่ง “ความลับตระกูลเฟิงเองข้าก็รู้มาไม่น้อย ตระกูลเฟิงเองก็มีความลับที่หน้าตาดีอยู่ด้วยนะ ตอนนี้ยังถูกข้าเลี้ยงดูในห้องทองอย่างดีที่กรมสอบสวนพิเศษอยู่เลย”“เจ้า...” เจี่ยงเทียนซิงอดมองบนขึ้นมาไม่ได้จั๋วซือหรานรู้สึกว่าถ้าการมองบนของเจี่ยงเทียนซิงพูดได้ คงจะเขียนคำว่า...ข้ายอมเจ้าแล้วจริงๆ เอาไว้แน่เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “สำหรับเรื่องของตระกูลเฟิงที่สืบทอดกันมาก็มีอยู่มากมายจริงๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 647

    แดนเหนือที่หนาวเหน็บ การไม่กลัวต่อความเหน็บหนาว...คือเหตุผลของพลังแห่งหงส์แดงที่เอวมีกระบี่ยาวเล่มหนึ่งแขวนไว้ตลอด...กระบี่ประจำตระกูลเฟิงไม่มีเครื่องมือแต่กลับจับปลาได้...กระโจนลงไปจับปลาในน้ำทะเลน้ำแข็ง สำหรับคนปกติแล้ว ทะเลน้ำแข็งนั้นทำเอาคนตายได้เลยแต่จั๋วซือหรานคิดๆ ตอนแรกที่ตนเองเข้าไปสำรวจจวนตระกูลเฟิงกลางดึกครั้งแรก ก็เจอกับเฟิงเหยียนที่มีอักขระคำสาปสีดำแปลกประหลาดอยู่เต็มตัว แช่อยู่ในบ่อน้ำที่เย็นจัดและด้วยอุณหภูมิของบ่อน้ำเย็นนั่น ก็ไม่แน่ว่าจะอุ่นกว่าทะเลน้ำแข็งที่เย็นจัดของแดนเหนือสักเท่าไรใครจะรู้ล่ะ? ไม่แน่สำหรับคนธรรมแล้วทะเลน้ำแข็งที่พร้อมจะเอาชีวิตคน สำหรับคนของตระกูลเฟิงแล้วอาจจะเหมือนกับว่ายน้ำอย่างสบายอุรากลางวันที่ร้อนระอุก็เป็นได้ยิ่งไปกว่านั้น ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะอะไรคนของตระกูลเฟิงจึงปรากฎตัวที่แดนเหนือในใจจั๋วซือหรานร้อยเรียงกันเป็นเส้นเดียวเจี่ยงเทียนซิงยังพูดต่อว่า “พ่อของข้าตอนนั้นก็ยังหนุ่ม แล้วยังเป็นคุณชายน้อยที่มีเงินอีกด้วย แล้วงานอดิเรกของพวกคุณชายน้อยเศรษฐีที่ไม่ขัดสนเรื่องเงิน นั่นก็คือชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน”“เขาอยู่ที่ท่าเรือแด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 648

    “ดังนั้นเจ้าจะถามว่าข้ารู้ข้อมูลอะไรของตระกูลเฟิงบ้าง? ข้าบอกไม่ได้ว่าข้ารู้ แต่ข้าบอกได้แค่ ข้ารู้ถึงเรื่องราวในช่วงนี้เท่านั้น ส่วนหลังจากนั้น ถ้าหากคนในเรื่องราวนี้ เป็นคนของตระกูลเฟิงจริงๆ ล่ะก็ คงพูดได้แค่ว่า...”เจี่ยงเทียนซิงจ้องมองจั๋วซือหราน เอ่ยต่อว่า “คงอธิบายได้ถึงอันตรายของตระกูลนี้ เพราะพวกเขาน่าจะมีวิธีการบางอย่างในการควบคุมคนในตระกูล”เจี่ยงเทียนซิงเสนอขึ้นมา “ดังนั้นเจ้าลองพิจารณาดูไหม...ว่าจะไม่ไปยั่วโมโหตระกูลนี้? คนที่เล่นกับไฟมันเป็นคนบ้า เจ้าก็ดูเอาแล้วกันว่าตระกูลนี้ถึงกับเอาคำว่าสบ้าคลั่ง(เฟิง)เขียนไว้ในสกุลตนเองเลยทีเดียว”จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ “มองไม่ออกเลย ว่าเจี่ยงเทียนซิงอย่างเจ้าก็มีอารมณ์ขันด้วย”“ข้ากำลังพูดอย่างตั้งใจกับเจ้านะ!” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วจั๋วซือหรานพยักหน้า “ได้ๆๆ รู้แล้ว วางใจเถอะ ข้าไม่ทำอะไรมั่วซั่วหรอก”“ถ้าเจ้าทำอะไรมั่วซั่วขึ้นมา ก็รีบส่งตัวความลับของตระกูลเฟิงหน้าตาดีที่เจ้าเลี้ยงดูเอาไว้ในหน่วยสืบสวนพะเศษคนนั้นกลับไปเสีย!!!” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานรู้สึกว่าตนเองแทบจะได้ยินเสียงถอนหายใจในน้ำเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 649

    จั๋วซือหรานถลึงตามองเจี่ยงเทียนซิง “อย่าหยาบคายขนาดนี้สิ...”จั๋วซือหรานคิดๆ น่าจะเพราะเจี่ยงเทียนซิงยังไม่เคยเจอคนที่ได้ของมาโดยไม่ต้องลงทุนแบบนางมาก่อนนั่นล่ะดังนั้นจึงรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้จั๋วซือหรานยิ้มๆ เอ่ยขึ้นว่า “ยังไม่ทันจะลองก็ถอยเสียแล้ว...”เจี่ยงเทียนซิงเห็นนางพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดไป และเห็นสายตาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มในดวงตานางและรู้สึกขึ้นมาทันที...ในใจนางจะต้องรู้ดีอยู่แล้วแน่นอน หญิงสาวคนนี้ เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ ตนเองก็เหมือนว่าจะไม่เคยเห็นนางต้องขาดทุนอะไรมาก่อนเลยจริงๆจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ “...ถึงตอนนั้นเจ้าก็อย่ามาโทษข้าที่หาเงินได้แล้วไม่ชวนเจ้าก็แล้วกัน”เจี่ยงเทียนซิงแก้มตึงเปรียะ มองออกไม่ยาก ว่าคงแทบจะขบฟันจนแตกละเอียดไปแล้วเสียงของเขาดังขึ้นมา ลอดออกมาจากไรฟันเอ่ยขึ้นว่า “...ไหนว่ามา จะทดลองอย่างไร”จั๋วซือหรานฟังคำพูดเขา ก็รู้ว่าเขายอมแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้นไปอีก “เรื่องนี้พูดแต่ปากไม่ได้ เอาอย่างนี้ เจ้าลองดูว่าจะไปหาคุณชายน้อยฮั่วจือโจวจากตระกูลฮั่วออกมาได้อย่างไรดีกว่า”“หาตัวเขา? แล้วจากนั้นล่ะ? เจ้านี่ก็ช่างสรรหาเลือกคนเสียจริง” เจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 650

    เจี่ยงเทียนซิงตกตะลึง ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งกลิ้งออกมาจากด้านใน เขาหดม่านตาลงนี่มัน...ขั้นสี่? ไม่ ยาลูกลอนนี้น่าจะไม่ได้อยู่แค่ระดับสี่รู้สึกเหมือนจะ...เข้าสู่ธรณีประตูของขั้นห้าแล้ว!นาง...ให้เขาอย่างนี้เลยหรือ?เจี่ยงเทียนซิงจู่ๆ ก็คิดถึงประโยคก่อนหน้านั้นของนาง...เจี่ยงเทียนซิงเจ้าวางใจเถอะ ติดตามข้ามา ขอแค่ข้ายังไม่ตาย ไม่มีทางขาดทุนถึงเจ้าแน่สายตาเจี่ยงเทียนซิงงงงันไป อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เลย “ฮ่า...” เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ จั๋วจิ่วคนนี้ พูดแล้วทำได้จริงๆ ไม่เคยกลืนคำพูดที่พูดออกมาเลยจั๋วซือหรานหลังออกมาจากตลาดมืด เดิมทีคิดจะไปตระกูลซางเสียรอบหนึ่ง แต่พอคิดๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในตอนนี้เทียบกับศัตรูในเงามืดที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรของตระกูลซางแล้วจั๋วซือหรานรู้สึกว่า ความลับตระกูลเฟิงหน้าตาดีที่ตนเองเลี้ยงไว้ในหน่วยสืบสวนพิเศษคนนั้น ทำให้นางไม่วางใจได้มากกว่าดังนั้น จั๋วซือหรานจึงตรงไปยังหน่วยสืบสวนพิเศษตอนที่ไปถึงหน่วยสืบสวนพิเศษ ฟ้าก็มืดแล้ว ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวก็เหน็ดเหนื่อยอยู่ข้างนอกมาทั้งวันเสียแล้วในสมองจั๋วซือหรานคิดถึงสูตรอาหารในวันนี้ แล้วก็ย

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 941

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หานกวงก็พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมุมปากกระตุก "ไม่จบไม่สิ้นเสียที"หานกวงฟังออก ถึงความเย็นชาและขุ่นเคืองในน้ำเสียงของแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานผลักประตูออก เดินไปที่ห้องตะวันออกเฟิงหร่านพยุงร่างขึ้นมานั่งบนเตียง นางอยู่ในชุดดำ มีบาดแผลอยู่ไม่น้อย มีเลือดซึมออกมาข้างนอกด้วยจั๋วซือหรานแค่เหลือบมอง ก็รู้ว่าปัญหาไม่ใหญ่นักนางเดินเข้าไป ใช้มือหนึ่งจับชีพจรของเฟิงหร่าน อีกมือหนึ่งโยนขวดใบหนึ่งให้นางเฟิงหร่านก็รับไปแบบมือไม้พัลวัน "พี่จั๋ว นี่คือ...""เจ็บไม่หนักมาก กินยาเอาเองเลย" จั๋วซือหรานตอบมาเฟิงหร่านเดาว่าด้านในน่าจะเป็ยารักษาอะไรบางอย่าง นางพยักหน้า "ได้เลย ขอบคุณพี่จั๋วมาก"นางเดิมทียังคิดจะเอ่ยปาก บอกเรื่องในตระกูลเฟิงกับจั๋วซือหรานแต่ก็เห็นว่าว่าหลังที่จั๋วซือหรานส่งยาให้นางแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปนอกประตูทันทีเฟิงหร่านรีบถามขึ้น "พี่จั๋ว ท่านจะไปไหน?"จั๋วซือหรานมุถมปากกระตุก "คนตระกูลเฟิงที่ไล่สังหารเจ้ามาพวกนั้น มาล้อมอยู่นอกบ้านข้าแล้ว พอดีเลย คืนนี้ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาพวกเขา"พูดจบ นางก็เดินออกจาห้องไปเฟิงหร่านนั่งลงบนเตียงงงๆ แล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 940

    แพงไม่ว่า แต่บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้พวกเขาตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกขึ้นได้ว่าตัวตนนักกลั่นยาของจั๋วซือหรานนั้นมีประโยชน์มากจริงๆถ้าหากเดิมทียังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วสายตาของพวกเขาเปล่งประกายจับจ้องจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองสายตาเปล่งประกายรอบๆ จากนั้นจึงมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่"ถ้าหากให้ข้าตัดสินใจได้ล่ะก็ เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"เสียงของจั๋วซือหรานสงบนิ่งมาก "จะทำเช่นที่มอบให้กับตระกูลฮั่ว มอบยาลูกกลอนให้ตระกูลจั๋ว กระทั่งถ้าอารมณ์ดี จะมอบที่ขั้นสูงกว่าให้ด้วย แต่เงื่อนไขก็คือ ตระกูลจั๋วข้าต้องมีอำนาจตัดสินใจ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีพวกกลุ่มที่กระโจนตัวลากใบหน้าแก่ๆ ออกมาสั่งโน่นสั่งนี่กับข้า"จั๋วหลานฟังถึงคำนี้ ในใจก็อดสั่นกึกขึ้นไม่ได้เขาฟังออกถึงความหมายเชิงลึกในคำพูดนาง...ถ้าหากวันไหนที่นางไม่มีอำนาจตัดสินใจในตระกูลจั๋ว นางก็จะตัดการส่งมอบให้ได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ไม่ว่าในใจเหล่าผู้อาวุโสที่นี่จะมีความคิด 'ฟังนางไปก่อนชั่วคราว หลังจากนี้ค่อยว่ากัน' แค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องดับมอดลงไปทันทีจั๋วซือหรานพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 939

    ทุกคนเห็นว่าบนหน้าจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ตลอดแม้จะไม่มีความหมายอะไร ลอยอยู่ผิวเผิน แต่ก็มีอยู่มาตลอดจนตอนที่คำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มผิวเผินบนหน้านางเหล่านั้นก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงความเย็นชาไร้ความรู้สึกนางบอกกับคนวังจดบันทึกที่อยู่ข้างๆ "รบกวนเจ้าด้วย"คนวังจดบันทึกรู้ว่าคนผู้นี้เป็นตัวตนที่สำคัญแค่ไหนสำหรับฝ่าบาทดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมมาก หยิบม้วนผ้าไหมเลืองทองออกมาคลี่ออกใครก็เห็นลายมังกรที่อยู่บนนั้น...นี่มันคือราชโองการ!คนวังจดบันทึกหยิบพู่กันออกมา เริ่มตวัดเขียนขึ้นบัญชาสวรรค์ จักรพรรดิรับสั่ง ตระกูลจั๋วมีบุตรสาว ชื่อนามหรูซิน จึงขอพระราชทานงานอภิเษกให้กับฉินตวนหยางปราชญ์แห่งกรมดาราศาสตร์...หลังจากได้ยินคนวังจดบันทึกอ่านประกาศร่างราชโองการจั๋วหรูซินยังคงเป็นลมไม่ได้ เพราะยาเม็ดนั้นที่จั๋วซือหรานให้มาอหังการเหลือเกิน บอกว่าจะทำให้นางสติตื่นตัว ก็ทำให้ตื่นตัวได้จริงๆดังนั้นนางจึงโกรธแค้นจนเกินทน กระอักเลือดสดออกมาจั๋วซือหรานลุกขึ้นยืน ในดวงตาไม่มีคนผู้นี้อยู่อีก ราวกับว่า ล้างแค้นสิ่งที่ควรทำเรียบร้อยคนอย่างจั๋วหรูซิน ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสายตานางอี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 938

    ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status