แชร์

บทที่ 644

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
“แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้นี้ด้วย” จั๋วซือหรานยกมุมปาก

แต่ฝูซูเองก็ถือว่าเข้าใจคุณหนูของตนเองอยู่ พอได้ยินคำพูดนี้ของคุณหนูบวกกับเห็นสีหน้าของคุณหนู ฝูซูก็รู้สึกว่า คุณหนูน่าจะไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น

ไม่ คุณหนูจะต้องไม่คิดเช่นนี้แน่

ฝูซูกระพริบตาปริบๆ มองจั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานยิ้มๆ “แต่ว่านะ ความคิดของคุณหนูเจ้าไม่ได้บื้อๆ ใส่ซื่อบริสุทธิ์แบบของเจ้าหรอก คุณหนูของเจ้าน่ะ ผ่านเรื่องเลวๆ คนเลวๆ มาเยอะ ดังนั้นจึงชอบคิดไปในทางร้ายๆ ก่อน”

จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า “เอาจริงๆ ตอนที่พวกเราไปถึง อันที่จริงก็เป็นช่วงที่ช่วงชิงผลประโยชน์จริงๆ ข้าคิดว่าไม่แน่นะ เจ้าเพื่อนที่ร้ายกาจของพวกเขาคนนั้น ก็น่าจะคิดแบบเดียวกันไหม? แค่ข้าโชคดี ชิงตัดหน้าเขาไปก่อนเท่านั้น”

ฝูซูตาถลึงกว้างฉับพลัน

เขารู้สึกว่า ความคิดนี้ของคุณหนูเป็นไปได้เอามากๆ !

จั๋วซือหรานกดลงบนบ่าเขา “ไม่ต้องลนลานไป กลับเมืองหลวงก่อนค่อยว่ากัน”

ฝูซูกังวลจั๋วซือหรานหน่อยๆ “คุณหนู! ถ้าหากท่านบนการประลองไกล่เกลี่ยการตัดสินใช้ราชาแมงมุมหน้าผีขึ้นมาล่ะก็ เพื่อนที่ร้ายกาจของพวกเขาคนนี้นบางที คงจะรู้ว่าท่านเป็นคนที่ชิงผลประโยชน์ที่เดิมทีเป็นขอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Piyaradchanee
ลงหลายๆตอนหน่อยนะคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 645

    จั๋วซือหรานเองก็สนใจจริงๆถ้าหากถึงตอนนั้น ลูกหลานที่ร้ายกาจตระกูลซาง ที่ซ่อนในความมืดและตนเองไม่ได้เจอเข้าในวันนี้คนนั้น รู้ว่าคนที่แย่งผลประโยชน์ของเขาวันนี้ไปคือจั๋วซือหรานก็คงจะใช้เรื่องนี้สาดน้ำสกปรกใส่นางต่อหน้าระดับสูงของตระกูลซางส่วนนางก็จะบอกระดับสูงของตระกูลซางว่าตนเองมีพรสวรรค์นักภาษาสัตว์ และตอนนี้เป็นคนที่ไม่มีพันธะไม่มีที่พึ่งพาล่ะก็...แว้งกัดย้อนไปอีกสักคำ บอกว่าคนผู้นี้สังหารคนในตระกูลเดียวกันเหล่านั้น แล้วยังคิดจะสาดน้ำสกปรกใส่นางให้นางต้องมาแบกรับความผิดนี้แล้วระดับสูงตระกูลซางจะเลือกไม่พอใจนางเพราะคนนั้นใส่ร้ายใส่ หรือจะเลือกไม่พอใจคนผู้นั้นเพราะการกระทำของนางกันแน่ตระกูลเน่าเฟะพวกนี้ ระดับสูงของพวกเขา จะมีท่าทีอะไร จะมีพฤติกรรมแบบไหนกันแน่...จั๋วซือหรานอยากจะรู้จริงๆ ฝูซูยังคงกังวลอยู่หน่อยๆ ดังนั้นจึงรู้สึกกังวลใจและเตือนสติจั๋วซือหราน ว่าศัตรูอยในที่มืด นางนั้นอยู่ในที่แจ้ง ต้องระวังตัวไว้ก่อนเป็นดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไรใครจะอยู่ในที่แจ้งมันก็ยังไม่แน่หรอกนะ......ต่อมาไม่นานนัก ที่หอฟ้าดาวเจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วถามขึ้น “ข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 646

    เจี่ยงเทียนซิงมองนาง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง “ก็แค่ถามดู”“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าถามอะไรส่งเดชเสียที!” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานกระพริบตาปริบๆ “ดังนั้นมันตอนไหนกัน?”“พรุ่งนี้” เจี่ยงเทียนซิงถอนใจ “เจ้าคิดจะทำอะไรก็ระวังหน่อย”“อืม รู้แล้ว” จั๋วซือหรานเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เช่นนั้นไม่ต้องพูดเรื่องตระกูลซางแล้ว พูดเรื่องอื่นดูบ้าง”“อะไรล่ะ?” เจี่ยงเทียนซิงถามจั๋วซือหรานครุ่นคิด มองเจี่ยงเทียนซิง “เจ้ารู้เรื่องสวนหลอมกระบี่ของตระกูลเฟิงไหม?”เจี่ยงเทียนซิงพอได้ยิน หางตาก็เลิกขึ้นเล็กน้อย “นั่นเป็นความลับของตระกูลเฟิง เจ้านี่กล้าถามไปเรื่อยจริงๆ”จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นทีหนึ่ง “ความลับตระกูลเฟิงเองข้าก็รู้มาไม่น้อย ตระกูลเฟิงเองก็มีความลับที่หน้าตาดีอยู่ด้วยนะ ตอนนี้ยังถูกข้าเลี้ยงดูในห้องทองอย่างดีที่กรมสอบสวนพิเศษอยู่เลย”“เจ้า...” เจี่ยงเทียนซิงอดมองบนขึ้นมาไม่ได้จั๋วซือหรานรู้สึกว่าถ้าการมองบนของเจี่ยงเทียนซิงพูดได้ คงจะเขียนคำว่า...ข้ายอมเจ้าแล้วจริงๆ เอาไว้แน่เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “สำหรับเรื่องของตระกูลเฟิงที่สืบทอดกันมาก็มีอยู่มากมายจริงๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 647

    แดนเหนือที่หนาวเหน็บ การไม่กลัวต่อความเหน็บหนาว...คือเหตุผลของพลังแห่งหงส์แดงที่เอวมีกระบี่ยาวเล่มหนึ่งแขวนไว้ตลอด...กระบี่ประจำตระกูลเฟิงไม่มีเครื่องมือแต่กลับจับปลาได้...กระโจนลงไปจับปลาในน้ำทะเลน้ำแข็ง สำหรับคนปกติแล้ว ทะเลน้ำแข็งนั้นทำเอาคนตายได้เลยแต่จั๋วซือหรานคิดๆ ตอนแรกที่ตนเองเข้าไปสำรวจจวนตระกูลเฟิงกลางดึกครั้งแรก ก็เจอกับเฟิงเหยียนที่มีอักขระคำสาปสีดำแปลกประหลาดอยู่เต็มตัว แช่อยู่ในบ่อน้ำที่เย็นจัดและด้วยอุณหภูมิของบ่อน้ำเย็นนั่น ก็ไม่แน่ว่าจะอุ่นกว่าทะเลน้ำแข็งที่เย็นจัดของแดนเหนือสักเท่าไรใครจะรู้ล่ะ? ไม่แน่สำหรับคนธรรมแล้วทะเลน้ำแข็งที่พร้อมจะเอาชีวิตคน สำหรับคนของตระกูลเฟิงแล้วอาจจะเหมือนกับว่ายน้ำอย่างสบายอุรากลางวันที่ร้อนระอุก็เป็นได้ยิ่งไปกว่านั้น ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะอะไรคนของตระกูลเฟิงจึงปรากฎตัวที่แดนเหนือในใจจั๋วซือหรานร้อยเรียงกันเป็นเส้นเดียวเจี่ยงเทียนซิงยังพูดต่อว่า “พ่อของข้าตอนนั้นก็ยังหนุ่ม แล้วยังเป็นคุณชายน้อยที่มีเงินอีกด้วย แล้วงานอดิเรกของพวกคุณชายน้อยเศรษฐีที่ไม่ขัดสนเรื่องเงิน นั่นก็คือชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน”“เขาอยู่ที่ท่าเรือแด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 648

    “ดังนั้นเจ้าจะถามว่าข้ารู้ข้อมูลอะไรของตระกูลเฟิงบ้าง? ข้าบอกไม่ได้ว่าข้ารู้ แต่ข้าบอกได้แค่ ข้ารู้ถึงเรื่องราวในช่วงนี้เท่านั้น ส่วนหลังจากนั้น ถ้าหากคนในเรื่องราวนี้ เป็นคนของตระกูลเฟิงจริงๆ ล่ะก็ คงพูดได้แค่ว่า...”เจี่ยงเทียนซิงจ้องมองจั๋วซือหราน เอ่ยต่อว่า “คงอธิบายได้ถึงอันตรายของตระกูลนี้ เพราะพวกเขาน่าจะมีวิธีการบางอย่างในการควบคุมคนในตระกูล”เจี่ยงเทียนซิงเสนอขึ้นมา “ดังนั้นเจ้าลองพิจารณาดูไหม...ว่าจะไม่ไปยั่วโมโหตระกูลนี้? คนที่เล่นกับไฟมันเป็นคนบ้า เจ้าก็ดูเอาแล้วกันว่าตระกูลนี้ถึงกับเอาคำว่าสบ้าคลั่ง(เฟิง)เขียนไว้ในสกุลตนเองเลยทีเดียว”จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ “มองไม่ออกเลย ว่าเจี่ยงเทียนซิงอย่างเจ้าก็มีอารมณ์ขันด้วย”“ข้ากำลังพูดอย่างตั้งใจกับเจ้านะ!” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วจั๋วซือหรานพยักหน้า “ได้ๆๆ รู้แล้ว วางใจเถอะ ข้าไม่ทำอะไรมั่วซั่วหรอก”“ถ้าเจ้าทำอะไรมั่วซั่วขึ้นมา ก็รีบส่งตัวความลับของตระกูลเฟิงหน้าตาดีที่เจ้าเลี้ยงดูเอาไว้ในหน่วยสืบสวนพะเศษคนนั้นกลับไปเสีย!!!” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานรู้สึกว่าตนเองแทบจะได้ยินเสียงถอนหายใจในน้ำเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 649

    จั๋วซือหรานถลึงตามองเจี่ยงเทียนซิง “อย่าหยาบคายขนาดนี้สิ...”จั๋วซือหรานคิดๆ น่าจะเพราะเจี่ยงเทียนซิงยังไม่เคยเจอคนที่ได้ของมาโดยไม่ต้องลงทุนแบบนางมาก่อนนั่นล่ะดังนั้นจึงรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้จั๋วซือหรานยิ้มๆ เอ่ยขึ้นว่า “ยังไม่ทันจะลองก็ถอยเสียแล้ว...”เจี่ยงเทียนซิงเห็นนางพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดไป และเห็นสายตาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มในดวงตานางและรู้สึกขึ้นมาทันที...ในใจนางจะต้องรู้ดีอยู่แล้วแน่นอน หญิงสาวคนนี้ เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ ตนเองก็เหมือนว่าจะไม่เคยเห็นนางต้องขาดทุนอะไรมาก่อนเลยจริงๆจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ “...ถึงตอนนั้นเจ้าก็อย่ามาโทษข้าที่หาเงินได้แล้วไม่ชวนเจ้าก็แล้วกัน”เจี่ยงเทียนซิงแก้มตึงเปรียะ มองออกไม่ยาก ว่าคงแทบจะขบฟันจนแตกละเอียดไปแล้วเสียงของเขาดังขึ้นมา ลอดออกมาจากไรฟันเอ่ยขึ้นว่า “...ไหนว่ามา จะทดลองอย่างไร”จั๋วซือหรานฟังคำพูดเขา ก็รู้ว่าเขายอมแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้นไปอีก “เรื่องนี้พูดแต่ปากไม่ได้ เอาอย่างนี้ เจ้าลองดูว่าจะไปหาคุณชายน้อยฮั่วจือโจวจากตระกูลฮั่วออกมาได้อย่างไรดีกว่า”“หาตัวเขา? แล้วจากนั้นล่ะ? เจ้านี่ก็ช่างสรรหาเลือกคนเสียจริง” เจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 650

    เจี่ยงเทียนซิงตกตะลึง ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งกลิ้งออกมาจากด้านใน เขาหดม่านตาลงนี่มัน...ขั้นสี่? ไม่ ยาลูกลอนนี้น่าจะไม่ได้อยู่แค่ระดับสี่รู้สึกเหมือนจะ...เข้าสู่ธรณีประตูของขั้นห้าแล้ว!นาง...ให้เขาอย่างนี้เลยหรือ?เจี่ยงเทียนซิงจู่ๆ ก็คิดถึงประโยคก่อนหน้านั้นของนาง...เจี่ยงเทียนซิงเจ้าวางใจเถอะ ติดตามข้ามา ขอแค่ข้ายังไม่ตาย ไม่มีทางขาดทุนถึงเจ้าแน่สายตาเจี่ยงเทียนซิงงงงันไป อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เลย “ฮ่า...” เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ จั๋วจิ่วคนนี้ พูดแล้วทำได้จริงๆ ไม่เคยกลืนคำพูดที่พูดออกมาเลยจั๋วซือหรานหลังออกมาจากตลาดมืด เดิมทีคิดจะไปตระกูลซางเสียรอบหนึ่ง แต่พอคิดๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในตอนนี้เทียบกับศัตรูในเงามืดที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรของตระกูลซางแล้วจั๋วซือหรานรู้สึกว่า ความลับตระกูลเฟิงหน้าตาดีที่ตนเองเลี้ยงไว้ในหน่วยสืบสวนพิเศษคนนั้น ทำให้นางไม่วางใจได้มากกว่าดังนั้น จั๋วซือหรานจึงตรงไปยังหน่วยสืบสวนพิเศษตอนที่ไปถึงหน่วยสืบสวนพิเศษ ฟ้าก็มืดแล้ว ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวก็เหน็ดเหนื่อยอยู่ข้างนอกมาทั้งวันเสียแล้วในสมองจั๋วซือหรานคิดถึงสูตรอาหารในวันนี้ แล้วก็ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 651

    จั๋วซือหรานเพียงไม่นานก็ทำหม้อไฟเสร็จ ยังคงให้ชิ่งหมิงนำส่วนหนึ่งไปกินกับลุงของเขาครั้งที่แล้วนางให้ชิ่งหมิงเอาไปกินด้วยกันกับเวินป๋อยวน ชิ่งหมิงจึงนำยาลูกกลอนยาพิษที่เวินป๋อยวนให้บางส่วนเข้ามา...การซื้อขายนี้ถือว่าคุ้มค่าอยู่มูลค่าคนละระดับกัน จนทำเอาจั๋วซือหรานรู้สึกเชิงขอโทษขึ้นมาเลย ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่ลืมส่วนของเวินป๋อยวนชิ่งหมิงรีบยกเดินออกไป เดินไปด้วยท้องก็ร้องจ้อกไปด้วย หม้อใบเล็กเองก็ตุ๋นจนหอมหวน หลังจากนี้ต้องทำหม้อเล็กหลายๆ ใบมาให้จั๋วซือหรานเสียแล้ว เอามาใส่ของอร่อยโดยเฉพาะ จั๋วซือหรานเองก็ดีอกดีใจ หลังจากนั้นตนเองจึงยกหม้อไฟเล็กใบหนึ่ง จัดการผักเคียงให้เรียบร้อย เตรียมจะยกไปเสวยสุขด้วยกันกับสาวในกรงทองของนางจั๋วซือหรานอารมณ์ดีมาก หลักๆ คือ นางยังอยากจะอวดต่อหน้าเฟิงเหยียนอีกสักหน่อย ว่าตนเองจับแมงมุมตัวใหญ่มาได้นางเองก็ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจึงอยากไปอวดกับเฟิงเหยียน...ถ้าเป็นกับคนอื่น คงไม่มีความคิดอยากจะอวดเช่นนี้เลยแม้แต่ตัวจั๋วซือหรานเองก็ยังไม่รู้ตัวว่า สัตว์นั้นมีแค่ตอนที่ต้องการจะหาคู่เท่านั้น จึงมีความคิดอยากจะอวดตนเองกับเพศตรงข้ามแม้จะบอกว่าปกติจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 652

    “ข้ายังค่อนข้างชองให้ท่านเรียกข้าว่าจั๋วเสี่ยวจิ่วมากกว่านะ...ท่านอ๋อง” จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ “หรือจะบอกว่า ควรเรียกท่านว่า...นายท่านซือเจิ้ง?”พอสิ้นเสียงนาง หน้ากากลายเปลวเพลิงสีแดงก็ถูกนางปลดลงมาใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเฟิงเหยียน ขาวซีด บนคางมีรอยเลือดเปื้อนอยู่เต็ม ปรากฎขึ้นมาต่อนห้าจั๋วซือหรานนางกัดฟันแน่นปวดใจขึ้นมาเลยทีเดียว แม้ว่าก่อนหน้านี้พริบตาที่เห็นเขาใส่หน้ากากก็เดาเอาไว้แล้วแต่ตอนที่ได้เห็นกับตา ก็ยังรู้สึกปวดใจอยู่เหมือนกันในสมองก็แทบจะมีความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านั้นพลิกขึ้นมาทันทีตอนนั้น การทรมานเหล่านั้น ความเจ็บปวดนั่น...นางคำนวณเอาไว้หลายเรื่อง พวกเขาล้วนพูดกันว่านางเดินหนึ่งก้าวจะคำนวณไว้ถึงห้าก้าว ทุกก้าววางไว้อย่างรอบคอบแต่นางก็คำนวณไม่ถึงสิ่งนี้ กระทั่งคิดไม่ถึงมาก่อนด้วยซ้ำนางไม่เคยคิด ว่าชายสวมหน้ากากที่เห็นนางถูกทรมานกับตาในตอนนั้น จะเป็นท่านอ๋องเฟิงเหยียน...นางคิดไม่ถึงมาก่อน และไม่รู้สึกถึงความเป็นไปได้นี้ตอนนี้นางจ้องมองหน้าเฟิงเหยียนนิ่งเฟิงเหยียนเองก็ก้มหน้ามองนาง “จั๋วเสียวจิ่ว” เขาหอบหายใจเบาๆ เรียกนางแบบนี้คิ้วของจั๋วซือ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 941

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หานกวงก็พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมุมปากกระตุก "ไม่จบไม่สิ้นเสียที"หานกวงฟังออก ถึงความเย็นชาและขุ่นเคืองในน้ำเสียงของแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานผลักประตูออก เดินไปที่ห้องตะวันออกเฟิงหร่านพยุงร่างขึ้นมานั่งบนเตียง นางอยู่ในชุดดำ มีบาดแผลอยู่ไม่น้อย มีเลือดซึมออกมาข้างนอกด้วยจั๋วซือหรานแค่เหลือบมอง ก็รู้ว่าปัญหาไม่ใหญ่นักนางเดินเข้าไป ใช้มือหนึ่งจับชีพจรของเฟิงหร่าน อีกมือหนึ่งโยนขวดใบหนึ่งให้นางเฟิงหร่านก็รับไปแบบมือไม้พัลวัน "พี่จั๋ว นี่คือ...""เจ็บไม่หนักมาก กินยาเอาเองเลย" จั๋วซือหรานตอบมาเฟิงหร่านเดาว่าด้านในน่าจะเป็ยารักษาอะไรบางอย่าง นางพยักหน้า "ได้เลย ขอบคุณพี่จั๋วมาก"นางเดิมทียังคิดจะเอ่ยปาก บอกเรื่องในตระกูลเฟิงกับจั๋วซือหรานแต่ก็เห็นว่าว่าหลังที่จั๋วซือหรานส่งยาให้นางแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปนอกประตูทันทีเฟิงหร่านรีบถามขึ้น "พี่จั๋ว ท่านจะไปไหน?"จั๋วซือหรานมุถมปากกระตุก "คนตระกูลเฟิงที่ไล่สังหารเจ้ามาพวกนั้น มาล้อมอยู่นอกบ้านข้าแล้ว พอดีเลย คืนนี้ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาพวกเขา"พูดจบ นางก็เดินออกจาห้องไปเฟิงหร่านนั่งลงบนเตียงงงๆ แล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 940

    แพงไม่ว่า แต่บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้พวกเขาตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกขึ้นได้ว่าตัวตนนักกลั่นยาของจั๋วซือหรานนั้นมีประโยชน์มากจริงๆถ้าหากเดิมทียังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วสายตาของพวกเขาเปล่งประกายจับจ้องจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองสายตาเปล่งประกายรอบๆ จากนั้นจึงมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่"ถ้าหากให้ข้าตัดสินใจได้ล่ะก็ เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"เสียงของจั๋วซือหรานสงบนิ่งมาก "จะทำเช่นที่มอบให้กับตระกูลฮั่ว มอบยาลูกกลอนให้ตระกูลจั๋ว กระทั่งถ้าอารมณ์ดี จะมอบที่ขั้นสูงกว่าให้ด้วย แต่เงื่อนไขก็คือ ตระกูลจั๋วข้าต้องมีอำนาจตัดสินใจ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีพวกกลุ่มที่กระโจนตัวลากใบหน้าแก่ๆ ออกมาสั่งโน่นสั่งนี่กับข้า"จั๋วหลานฟังถึงคำนี้ ในใจก็อดสั่นกึกขึ้นไม่ได้เขาฟังออกถึงความหมายเชิงลึกในคำพูดนาง...ถ้าหากวันไหนที่นางไม่มีอำนาจตัดสินใจในตระกูลจั๋ว นางก็จะตัดการส่งมอบให้ได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ไม่ว่าในใจเหล่าผู้อาวุโสที่นี่จะมีความคิด 'ฟังนางไปก่อนชั่วคราว หลังจากนี้ค่อยว่ากัน' แค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องดับมอดลงไปทันทีจั๋วซือหรานพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 939

    ทุกคนเห็นว่าบนหน้าจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ตลอดแม้จะไม่มีความหมายอะไร ลอยอยู่ผิวเผิน แต่ก็มีอยู่มาตลอดจนตอนที่คำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มผิวเผินบนหน้านางเหล่านั้นก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงความเย็นชาไร้ความรู้สึกนางบอกกับคนวังจดบันทึกที่อยู่ข้างๆ "รบกวนเจ้าด้วย"คนวังจดบันทึกรู้ว่าคนผู้นี้เป็นตัวตนที่สำคัญแค่ไหนสำหรับฝ่าบาทดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมมาก หยิบม้วนผ้าไหมเลืองทองออกมาคลี่ออกใครก็เห็นลายมังกรที่อยู่บนนั้น...นี่มันคือราชโองการ!คนวังจดบันทึกหยิบพู่กันออกมา เริ่มตวัดเขียนขึ้นบัญชาสวรรค์ จักรพรรดิรับสั่ง ตระกูลจั๋วมีบุตรสาว ชื่อนามหรูซิน จึงขอพระราชทานงานอภิเษกให้กับฉินตวนหยางปราชญ์แห่งกรมดาราศาสตร์...หลังจากได้ยินคนวังจดบันทึกอ่านประกาศร่างราชโองการจั๋วหรูซินยังคงเป็นลมไม่ได้ เพราะยาเม็ดนั้นที่จั๋วซือหรานให้มาอหังการเหลือเกิน บอกว่าจะทำให้นางสติตื่นตัว ก็ทำให้ตื่นตัวได้จริงๆดังนั้นนางจึงโกรธแค้นจนเกินทน กระอักเลือดสดออกมาจั๋วซือหรานลุกขึ้นยืน ในดวงตาไม่มีคนผู้นี้อยู่อีก ราวกับว่า ล้างแค้นสิ่งที่ควรทำเรียบร้อยคนอย่างจั๋วหรูซิน ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสายตานางอี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 938

    ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status