แชร์

บทที่ 652

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
“ข้ายังค่อนข้างชองให้ท่านเรียกข้าว่าจั๋วเสี่ยวจิ่วมากกว่านะ...ท่านอ๋อง” จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ “หรือจะบอกว่า ควรเรียกท่านว่า...นายท่านซือเจิ้ง?”

พอสิ้นเสียงนาง หน้ากากลายเปลวเพลิงสีแดงก็ถูกนางปลดลงมา

ใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเฟิงเหยียน ขาวซีด บนคางมีรอยเลือดเปื้อนอยู่เต็ม ปรากฎขึ้นมาต่อนห้าจั๋วซือหราน

นางกัดฟันแน่น

ปวดใจขึ้นมาเลยทีเดียว แม้ว่าก่อนหน้านี้พริบตาที่เห็นเขาใส่หน้ากากก็เดาเอาไว้แล้ว

แต่ตอนที่ได้เห็นกับตา ก็ยังรู้สึกปวดใจอยู่เหมือนกัน

ในสมองก็แทบจะมีความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านั้นพลิกขึ้นมาทันที

ตอนนั้น การทรมานเหล่านั้น ความเจ็บปวดนั่น...

นางคำนวณเอาไว้หลายเรื่อง พวกเขาล้วนพูดกันว่านางเดินหนึ่งก้าวจะคำนวณไว้ถึงห้าก้าว ทุกก้าววางไว้อย่างรอบคอบ

แต่นางก็คำนวณไม่ถึงสิ่งนี้ กระทั่งคิดไม่ถึงมาก่อนด้วยซ้ำ

นางไม่เคยคิด ว่าชายสวมหน้ากากที่เห็นนางถูกทรมานกับตาในตอนนั้น จะเป็นท่านอ๋องเฟิงเหยียน...

นางคิดไม่ถึงมาก่อน และไม่รู้สึกถึงความเป็นไปได้นี้

ตอนนี้นางจ้องมองหน้าเฟิงเหยียนนิ่ง

เฟิงเหยียนเองก็ก้มหน้ามองนาง “จั๋วเสียวจิ่ว” เขาหอบหายใจเบาๆ เรียกนางแบบนี้

คิ้วของจั๋วซือ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 653

    “พวกเขาต่อให้จะหยิบยืมสิ่งนี้มาเล่นงานข้าให้ตาย เช่นนั้นก็ต้องสนองให้บรรลุหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น...ก็ถือโอกาสมากระตุ้นให้เจ้าโกรธได้พอดี แล้วยังยืมมือเจ้า ไปรับมือกับผู้อาวุโสพวกนั้นให้อีก ยิ่งนัดเดียวได้นกสองตัวเลย”เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น เขานอนอยู่ตรงนั้น ลมหายใจค่อนข้างหนักหน่วงจั๋วซือหรานล้วงหยิบเข็มทองาวๆ แถวหนึ่งออกมาและไม่รอให้เฟิงเหยียนพูดอะไร นิ้วของนางก็วาดลงไป กระชากชุดบนตัวเขาจนขาดเผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาม่านตาเฟิงเหยียนหดลง ดวงตากระพริบปริบๆ สองครั้ง“จั๋วเสียวจิ่ว...”“หุบปาก” สายตาของจั๋วซือหรานระมัดระวังอย่างมาก ในมือถือเข็มทองอยู่ “อย่าเพิ่งพูดกับข้า รอให้ข้าจัดการกับชีวิตท่านก่อน แล้วค่อยไปรับมือกับตาเฒ่าพวกนั้น”เฟิงเหยียนเม้มริมฝีปาก เขากลอกตาเล็กน้อย มองใบหน้าด้านข้างที่กำลังตั้งใจของจั๋วซือหรานครู่ต่อมา เขาจึงเอ่ยขึ้นมาเสียงต่ำ “ข้ายังไม่ตายหรอก”“...” จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร เพียงแหงนตาถลึงมองเขาผาดหนึ่งเฟิงเหยียนพูดต่อ “ดังนั้น เจ้าสามารถทำให้ข้าต้องทรมานได้อยู่ ถ้าหากเจ้าระบายอารมณ์ได้ล่ะก็นะ”จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว นางฟังคำพูดของเขาไม่ออกเสี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 654

    คนเรามีเส้นทางชะตาของตนเอง มีผลกรรมของตนเอง ถ้าหากทำลายเส้นทางชะตาของคนอื่น ก็เป็นไปได้ว่าผลกรรมของคนคนนี้ ก็จะตกมาอยู่บนหัวของนางดังนั้นเก้าเข็มเสวียนเหยียนจึงต้องใช้งานอย่างระมัดระวังมาโดยตลอดกระทั่งว่า...จั๋วซือหรานคิดถึงการตายอย่างน่าอนาถของตนเองเมื่อชาติที่แล้ว จนถึงตอนนี้นางเองก็ยังไม่กล้าพูด ว่าสาเหตุที่ตนเองตาย เป็นเพราะใช้เก้าเข็มเสวียนเหยียนนั้นช่วยเหลือชีวิตคนอื่นหรือเปล่าเพียงแต่สิ่งเหล่านี้ ล้วนไม่มีความจำเป็นต้องให้เฟิงเหยียนล่วงรู้จั๋วซือหรานถอนหายใจในใจ ก้มหน้าต่ำมองเฟิงเหยียนนางอันที่จริงก็ไม่รู้ ว่าเพราะอะไรต้องทำเช่นนี้...แต่คิดว่าน่าจะเป็น เพราะมาทนเห็นความลับตระกูลเฟิงหน้าตาดีคนนี้มาเจอกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ให้คนงามต้องมาเจอความทุกข์ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรดูเอาเถิด ท่านอ๋องคนนี้แต่ก่อนไม่ยอมปฏิบัติกับนางให้ถูกต้อง ตอนนี้ก็รับผลกรรมไปสิ กรรมตามทันดังนั้นจั๋วซือหรานจึงรู้สึกว่า อืมอืมน่าจะเหตุผลนี้นั่นล่ะจั๋วซือหรานนอนตะแคงลงข้างเขาบนตัวเฟิงเหยียนมีเข็มทองอยู่ ขยับไม่ได้ แค่รู้สึกว่าร่างอ่อนนุ่มของนางอยู่ข้างๆ“จั๋วซือหราน เจ้า...”“ชู่” จั๋วซือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 655

    จั๋วซือหรานนอนไปพักหนึ่ง หลับสนิทมากเฟิงเหยียนอยู่ข้างนาง มองดูนางหลับลึก เดิมทียังรู้สึกว่า นางน่าจะยังไม่ตื่นขึ้นมาในช่วงสั้นๆ นี้เขากระทั่งกำลังคิด ว่าเข็มทองเก้าเล่มบนตัวนี้จะจัดการอย่างไรดีตนเองลงมือคิดหาวิธีเองได้ไหมใครจะรู้ ว่าผ่านไปแค่ครู่เดียว จั๋วเสียวจิ่วที่กำลังหลับสนิทกรนเบาๆ อยู่นั้นจู่ๆ ก็ลืมตาโพลงขึ้นมานางลุกขึ้นนั่ง ประกายในดวงตาเพียงไม่นานก็เปลี่ยนจากความงัวเงียเป็นแจ่มใส นางกลอกมามามองเฟิงเหยียน “ดึงเข็มออกแล้วนะ”จั๋วซือหรานพูดพลาง ยื่นมือไปยังเข็มทองบนตัวเขา แต่กลับยังไม่ดึงออกทันที แต่บีบที่ปลายเข็มทองแล้วเริ่มหมุนพอหมุนเข็ม วิชาเข็มที่ทำให้เจ็บปวดมหาศาลแต่เดิม ก็ยิ่งเจ็บร้าวเข้าไปถึงดวงใจเฟิงเหยียนเดิมทีคิดว่านางจะดึงเข็มออกตรงๆ คิดไม่ถึงว่าจะยังหมุนเดินเข็มต่ออีก มาอย่างกะทันหัน ไม่ทันได้ตั้งตัว จนเขาส่งเสียงครางขึ้นมา “อืม...”การเคลื่อนไหวของมือจั๋วซือหรานหยุดชะงัก เอียงหน้ามองเฟิงเหยียนสายตาตอนที่ดวงตาพญาหงส์คู่งามเอียงมองเข้ามาดูเย้ายวน มีเสน่ห์ดึงดูดราวต้องมนต์สะกดเอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า “นายท่านซือเจิ้งอย่าส่งเสียงที่ทำให้คนเข้าใจผิดออกมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 656

    ช่าง...เก็บกดเสียจริงจั๋วซือหรานรู้สึกว่าแหย่เขาแล้วก็สนุกดีนางยื่นนิ้วชี้ออกมา กดลงไปบนบ่าเฟิงเหยียน จากนั้นก็ผลักเบาๆ ให้เขาล้มลงไปบนแคร่จากนั้นจึงโน้มตัวขึ้นไปเฟิงเหยียนคิดจะลุกขึ้น แต่ก็เห็นนางโน้มตัวเข้ามา เขาหดม่านตาลง ท่าทางแข็งทื่อนิ้วของจั๋วซือหรานกดอยู่บนลูกกระเดือกที่นูนขึ้นของเขา ท่าทางนี้ ทำเอาเฟิงเหยียนอดกลืนน้ำลายเอื๊อกขึ้นมาไม่ได้ลูกกระเดือกที่ปูดโปน ไหลผ่านใต้นิ้วมือที่อ่อนนิ่มของนางไป“จั๋วเสียวจิ่ว...” เสียงของเขาแหบพร่าขึ้นมาหน่อยๆจั๋วซือหรานกดลูกกระเดือกของเขาไว้ “นายท่านซือเจิ้ง ท่านอย่าพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้กับข้า เมื่อครู่ที่ท่านกระอักเลือดก็คิดจะหลีกเลี่ยงข้า พอข้าเห็นท่านกระอักเลือด ข้าก็ไม่คิดจะคิดเล็กคิดน้อยกับท่านแล้ว”เฟิงเหยียนตะลึงงัน “...อะไรนะ?”“ข้ายังไม่ได้ถามท่านเลย ซื่อจือตระกูลเฟิง ทำไมถึงได้กลายเป็นซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษของแคว้นชางไปได้กัน?”จั๋วซือหรานขมวดคิ้วเล็กๆ นางก่อนหน้านี้ก็คิดจะถามคำถามนี้แล้ว แต่พอเห็นเฟิงเหยียนกระอักเลือดอย่างน่าเศร้าจึงอดรนทนไม่ไหว หันมารักษาเขาเสียก่อนไม่อย่างนั้นตอนที่นางเพิ่งได้รู้ตัวตนฐ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 657

    ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงถามไปด้วย พลางค่อยๆ ขบคิดในสมองเฟิงเหยียนในฐานะที่เป็นลูกหลานตระกูลขุนนางคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นซื่อจื่อที่มีคุณสมบัติดีที่สุดด้วย ตามหลักการแล้วน่าจะไม่ค่อยได้ติดต่ออะไรกับสภาผู้อาวุโสที่สูงส่งเท่าไรนักจึงจะถูกองค์กรเช่นนี้ จั๋วซือหรานไม่รู้สึกว่าเป็นพวกองค์กรการกุศลอะไรถ้าไม่มีผลประโยชน์คงไม่มีทางทำงานแน่ไม่แตกต่างอะไรกับคนอื่นๆ จะตระกูล สำนัก สามหอตลาดมืด ก็ทำนองเดียวกันทั้งนั้นไม่มีผลประโยชน์ไม่มีทางทำงานและเพราะจั๋วซือหรานสามารถยอมรับการกำหนดแบบที่ไม่มีผลประโยชน์ไม่มีทางทำงานได้ ดังนั้นจึงรู้สึกแปลกประหลาดสถานที่สูงส่งอย่างสภาผู้อาวุโส ยิ่งไม่มีทางทำเรื่องที่ไม่มีผลกำไรแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า พวกเขาคาดหวังผลประโยชน์อะไรจากตระกูลเฟิง...ไม่สิ ถ้าหากพวกเขาต้องการผลประโยชน์จากตระกุลเฟิง คงไม่มาเสียเวลากับแค่ตัวเฟิงเหยียนหรอกยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สนใจด้วยว่าตระกูลเฟิงจะรู้หรือไม่ว่าเฟิงเหยียนเป็นซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษหรือเปล่าเช่นนั้น พวกเขาก็คือคาดหวังผลประโยชน์จากตัวเฟิงเหยียนเฟิงเหยียน...สายตาของจั๋วซือหรานตกอยู่บนตัวเฟิงเหยียน พิจา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 658

    เฟิงเหยียนเอ่ยต่อ “อาจารย์ที่ยอดเยี่ยมของข้าคนนั้น เหมือนว่าจะรอบรู้ไปทุกเรื่อง ทำเป็นเสียทุกเรื่อง สอนอะไรพวกเรามามากมาย ทุกคนล้วนน้อบรับทั้งกายใจ เดิมทีพวกเราคิดว่า จะสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระเช่นนี้ไปได้ทั้งชีวิต แต่คิดไม่ถึงว่า...”จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง “จะถูกใช้ให้เป็นประโยชน์สินะ?”เฟิงเหยียนยิ้มขืน หญิงสาวคนนี้ฉลาดจริงๆจั๋วซือหรานร้องเชอะ “สอนท่านมาจนร้ายกาจขนาดนี้ แล้วให้ท่านกลับมาที่บ้าน พอคนในบ้านรู้ถึงคุณสมบัติตัวท่านแล้ว จะยอมปล่อยให้ท่านมีชีวิตอิสระเสรีต่อไปได้หรือ?”“แน่นอนว่าต้องให้ท่านสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์ต่อแน่ๆ กลายมาเป็นภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ค่านี้ แล้วยังต้องมาถูกควบคุมโดยตระกูลเฟิงอีก แล้วพวกสภาผู้อาวุโสที่แต่งตั้งตำแหน่งซือเจิ้งหน่วยสืบสวนพิเศษให้ท่าน ดูแล้วเหมือนจะยกย่องท่านขึ้นสูงส่ง แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขาคิดจะชุบเลี้ยงท่านให้อยู่อย่างว่าง่ายในแคว้นชาง...รอจนวันหนึ่งที่ต้องการท่าน ค่อยลากท่านออกมาสังหารทิ้งหรือเปล่าก็ไม่รู้”คำพูดของจั๋วซือหราน แม้ฟังแล้วจะไม่ค่อยเข้าหู แต่มันก็ดูเป็นความจริงมากมุมปากเฟิงเหยียนยกขึ้น “ดังนั้น การมามีความสัมพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 659

    จากนั้นบนโต๊ะหินเล็กด้านนอก ก็เจอเข้ากับ ‘หนูตัวใหญ่’ ตัวหนึ่ง ฉุนจวินกินจนปากมันเลื่อม พอเห็ฯจั๋วซือหรานเดินออกมาก็ตกใจสะดุ้งโหยง เขายื่นมือมาเช็ดปาก ดวงตาถลึงกลมโตคำพูดเองก็ติดๆ ขัดๆ“จิ่ว...แม่นางจิ่ว ท่านทำไมจึง...” ฉุนจวินลุกขึ้นยืน ท่าทางดูแล้วค่อนข้างไม่สบายใจ สองมือไพล่อยู่ด้านหลัง เหมือนเด็กน้อยที่ทำอะไรผิดมา “ท่านไม่ใช่ถูกนายท่าน...นายท่านไม่ใช่กำลังทำ...”ฉุนจวินพูดอยู่นานก็ยังไม่เข้าใจเขาพูดออกมาไม่ได้หรอก ว่าท่านเมื่อครู่กำลังทำนั่นโน่นนี่กับนายท่านอยู่...ทำไมถึงลุกขึ้นมาแล้วล่ะ? ไม่ใช่ต้องพักผ่อนเสียหน่อยหรือ?จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว “นั่นสิ นายท่านของเจ้าจำเป็นต้องบำรุงเสียหน่อย ข้าเองก็เตรียมจะบำรุงให้กับเขา แต่มาถูกหนูตัวใหญ่อย่างเจ้ากินไปแล้ว”ฉุนจวินหน้าแดงก่ำจั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ช่างเถอะ เจ้าไปอธิบายกับเจ้านายเจ้าเองก็แล้วกัน”พูดจบประโยคนี้ จั๋วซือหรานก็ยกเท้าคิดจะเดิน ฉุนจวินถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น “ดึกขนาดนี้แล้ว แม่นาวจิ่วจะไปไหนหรือ?”“โอ้” จั๋วซือหรานขานรับ ฉุนจวินเห็นว่าหญิงสาวงดงามตรงหน้านี้ รอยยิ้มในสีหน้าจู่ๆ ก็หายไป เหลืออยู่แค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 660

    ขอรับ!“จั๋วซือหรานหลังจากออกมาจากหน่วยสืบสวนพิเศษ ระหว่างทางที่ตรงไปทางบ้านตระกูลเฟิง ถือว่าคุ้นหูคุ้นตาดีแล้ว พอมาถึงด้านนอกกำแพงเรือนตระกูลเฟิง ยังไม่ทันที่องครักษ์จะพบนาง นางก็พลิกตัวข้ามกำแพงไปอย่างคล่องแคล่วกลางดึก ราวกับมีแมวดำคล่องแคล่วตัวหนึ่ง กำลังกระโจนพุ่งไปตามหลังคาบ้านตระกูลเฟิงยังคงเหมือนแต่ก่อน คุ้มกันหนาแน่ ความถี่การลาดตระเวนของเหล่าองครักษ์ก็ค่อยข้างถี่แต่ว่า จั๋วซือหรานเองก็ไม่ใช่เพิ่งมาเป้นครั้งแรก มาครั้งแรกไม่ชินครั้งต่อไปก็ชำนาญเอง เป็นธรรมดาที่จะมีประสบการณ์อยู่บ้างนางรีบเข้าไปในเรือนเฟิงเหยียนอย่างรวดเร็ว เฟิงเหยียนตอนที่ยังอยู่ในจวนเฟิงก่อนหน้า พักอยู่ที่เรือนนี้เฟิงเหยียนถึงแม้จะออกจากจวนตระกูลเฟิงไปแล้ว แต่องครักษ์เงาของเขาก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ทิ้งไว้ที่นี่องครักษ์เงาที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ เพียงไม่นานก็พบตัวจั๋วซือหราน แน่นอนว่าเป็นเพราะจั๋วซือหรานไม่ได้คิดที่จะระแวดระวังพวกเขาใครบุกรุกเข้ามากัน!” องครักษ์เงาถามขึ้นเสียงขรึม เพียงไม่นานจั๋วซือหรานก็ถูกล้อมไว้จากนั้นจึงเห็นหญิงสาวชุดแดงถูกล้อมไว้ตรงกลางอย่างชัดเจน“ท่าน...ท่าน...แม่นางจิ่ว?”

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 950

    ต่งคังตอบ "องค์หญิงเนื่องจากยังไม่แต่งงาน ดังนั้นจึงยังไม่ได้ออกจากวังสร้างจวน ยังคงอยู่ในวัง ตำหนัวังของนางไม่ใช่กรมสืบสวนอาญาเข้าไปจัดการ แต่เป็นอ๋องเซี่ยนที่กำชับให้หน่วยงานในวังเข้าไปจัดการ แม่นางจิ่วหากสนใจล่ะก็ ข้าจะไปหาข่าวมาให้"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็โบกไม้โบกมือ "ไม่ต้องแล้ว"ในเมื่อเป็นการกำชับของซือคงเซี่ยน เช่นนั้นถ้าหากมีจุดไหนที่ผิดปกติ ก็น่าจะมาบอกนางจั๋วซือหรานกับต่งคังยืนอยู่หน้าประตูจวนชินอ๋องอวี้ที่ไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกแล้วนางหันตามองกลับไป โบกมือเล็กน้อย ป้ายชื่อหนาหนักที่เขียนอักษรสี่ตัวไว้ว่า 'จวนชินอ๋องอวี้' ก็ร่วงลงมาดังโครมจั๋วซือหรานกลับไปที่บ้านตนเอง แล้วไปกำชับกับเฉวียนคุนแล้วก็เหล่าองครักษ์เงา"ย้าย ย้ายบ้านหรือ?""แต่เรือนนี้ของแม่นางจิ่วเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่นานเองนะ..."จั๋วซือหรานมองพวกเขาผาดหนึ่ง "ย้ายไปอยู่ที่ที่กว้างกว่าน่ะ"นางเอ่ยถึงเรื่องรางวัลพระราชทานขึ้นมาไม่ใช่ทุกคนที่จะฟังเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ ทุกคนล้วนดีอกดีใจกับรางวัลพระราชทานนี้พอหลังจากที่องครักษ์เงาลงไป พ่อลูกตระกูลเหยียนที่ไม่พูดอะไรอยู่ข้างๆ มาตลอด จึงเอ่ยปาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 949

    อ๋องเซี่ยนไม่ได้อยู่ในเรือนจั๋วซือหรานนานนัก เดิมทีที่มาก็เพราะตอนนี้มีเรื่องราวมากมายเรื่องซือคงอวี้ครั้งนี้ แม้จะจัดการไปเกือบหมดแล้วแต่ก็ยังเหลือปัญหามากมายที่ต้องมาจัดการ จำเป็นต้องให้เขาเข้าไปวุ่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่นานนัก หลังรู้ว่าจั๋วซือหรานไม่ได้โกรธ เพียงไม่นานก็บอกลากับจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานคิดๆ ถามขึ้นว่า "จริงด้วย ท่านอ๋อง""อื๋อ?""เมื่อไรถึงจะเข้าไปตรวจยึดจวนอ๋องของซือคงอวี้?""พรุ่งนี้" ซือคงเซี่ยนตอบ จากนั้นจึงคิดได้ "จริงด้วย เจ้าจะไปดูด้วยไหม? ถึงอย่างไรที่นั่นภายหลังก็จะเป็นจวนของเจ้าแล้ว"จั๋วซือหรานครุ่นคิด พยักหน้าตอบว่า "ได้ เช่นนั้นก็ไปดูเสียหน่อยแล้วกัน"วันต่อมา จั๋วซือหรานก้ไปที่จวนชินอ๋องอวี้อย่างไม่รีบไม่ร้อนในอดีตจวนชินอ๋องอวี้ พูดได้ว่ามีแขกเหรื่อมากมาย แต่ตอนนี้กลับเหมือนกลายเป็นกรมสืบสวนพิเศษไปแล้ว เป็นตัวตนที่ทำให้คนอยากเลี่ยงออกไปให้ไกลดูเงียบๆ ไม่มีชีวิตชีวา เหมือนถ้าเดินผ่านที่นี่จะมีความซวยติดตัวไปด้วยอย่างไรอย่างนั้นตอนที่จั๋วซือหรานเดินเล่นในจวนชินอ๋องอวี้ ก็ดึงดูดความสนใจมาไม่น้อย ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนดังในเมืองหลวงดังนั้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 948

    ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยขึ้น "ข้าจะดำเนินการดูแลลงไปเอง"จั๋วซือหรานพยักหน้า "เช่นนั้นเรื่องราวต่อจากนี้ ก็ให้ผู้อาวุโสห้ารับช่วงต่อจากข้าแล้วกัน ข้าเชื่อว่าเขาจะตัดสินอย่างยุติธรรม"จั๋วอวิ๋นฉีพอได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้นเขาเข้าใจความหมายของจั๋วซือหรานดี นางก็เป็นเหมือนกับเขา คนอื่นๆ ในตระกูลจั๋วไม่เคยเชื่อถือเพียงแต่ เขาเป็นคนที่นางดึงกลับมาจากในกลุ่มคนเถื่อน แล้วยัดกลับเข้ามาในตระกูลจั๋ว แล้วพอเทียบกับคนนั้นคนนี้ในตระกูลจั๋วความน่าเชื่อถือยังสูงกว่าหน่อย ที่สำคัญที่สุดคือ ด้วยประสบการณ์ของจั๋วอวิ๋นฉี ก็น่าจะไม่ต้องเจอคำพูดซ้ำซากที่แขวนอยู่ข้างปากตาแก่ตระกูลจั๋วพวกนั้นแล้ว นี่คือดีมากเลยจั๋วซือหรานเตรียมจะออกไป ผู้อาวุโสใหญ่จั๋วหลานจึงคิดจะไปส่งนางจั๋วซือหรานยังประหลาดใจหน่อยๆ จะอย่างไร ผู้อาวุโสใหญ่ก็ไม่น่าจะทำถึงขนาดนี้จากนั้นจู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ นางเลิกคิ้วขึ้น "โอ้ จริงด้วย"จั๋วซือหรานโยนขวดใบหนึ่งให้จั๋วอวิ๋นฉี "รับไว้"จั๋วอวิ๋นฉียกมือรับไว้ แล้วก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านี่คืออะไรเป็นสิ่งที่นางมอบให้ตระกูลจั๋วเช่นเดียวกับตระกุลฮั่ว ด้านในทั้งหมดล้วนเป็นยาลูกกลอนกู้หยวน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 947

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ทุกคนตระกูลจั๋วแม้จะไม่แสดงชัดบนใบหน้า ในใจกลับล้วนมีความผิดหวังขึ้นมารางๆถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้ยังคิดว่าจั๋วซือหรานมีหรือไม่มีการพระราชทานรางวัลเหล่านั้นตอนนี้พอมาคิด ถ้าทำให้นางกลับมาอยู่ในตระกูลได้ล่ะก็ รางวัลเหล่านั้นที่นางได้มา...ตระกูลจั๋วหรือว่าได้อาบแสงไปด้วยเลยหรือเปล่านะแต่ตอนนี้ จั๋วซือหรานกลับปฏิเสธที่จะกลับมาอยู่มีคนยังคิดจะกล่อมอีกหน่อย"คนคนหนึ่งอยู่ข้างนอก ไม่มีใครดูแล ไม่ค่อยสะดวกด้วยนะ...""จริงด้วย ผู้อาวุโสสามยังกลับมาอยู่เลย ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสตระกูล กลับมาอยู่ในตระกูลจะสะดวกให้ตระกูลดูแลกว่านะ"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็ดึงมุมปากขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชา "ก่อนหน้านี้ตอนข้าอยู่ในตระกูลจั๋ว ก็ได้รับการ 'ดูแล' ไม่น้อยเลยจริงๆ ที่มีชีวิตรอดออกไปจากจวนจั๋วได้ ถือว่าข้าดวงแข็งแล้ว"ทุกคนฟังออกถึงความหมายของจั๋วซือหราน กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันไปทันทีคนเหล่านั้นที่เสนอให้นางกลับมา ก็ไม่กล้าส่งเสียงอีกความคิดของพวกเขา เดาได้ไม่ยาก เดิมทีคือคิดว่า ถือโอกาสจั๋วซือหรานหลังจากถูกพระราชทานรางวัลแล้วอารมณ์ยังดีอยู่ อาจจะเห็นด้วยกับข้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status