แชร์

บทที่ 655

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานนอนไปพักหนึ่ง หลับสนิทมาก

เฟิงเหยียนอยู่ข้างนาง มองดูนางหลับลึก เดิมทียังรู้สึกว่า นางน่าจะยังไม่ตื่นขึ้นมาในช่วงสั้นๆ นี้

เขากระทั่งกำลังคิด ว่าเข็มทองเก้าเล่มบนตัวนี้จะจัดการอย่างไรดี

ตนเองลงมือคิดหาวิธีเองได้ไหม

ใครจะรู้ ว่าผ่านไปแค่ครู่เดียว จั๋วเสียวจิ่วที่กำลังหลับสนิทกรนเบาๆ อยู่นั้น

จู่ๆ ก็ลืมตาโพลงขึ้นมา

นางลุกขึ้นนั่ง ประกายในดวงตาเพียงไม่นานก็เปลี่ยนจากความงัวเงียเป็นแจ่มใส นางกลอกมามามองเฟิงเหยียน “ดึงเข็มออกแล้วนะ”

จั๋วซือหรานพูดพลาง ยื่นมือไปยังเข็มทองบนตัวเขา แต่กลับยังไม่ดึงออกทันที แต่บีบที่ปลายเข็มทองแล้วเริ่มหมุน

พอหมุนเข็ม วิชาเข็มที่ทำให้เจ็บปวดมหาศาลแต่เดิม ก็ยิ่งเจ็บร้าวเข้าไปถึงดวงใจ

เฟิงเหยียนเดิมทีคิดว่านางจะดึงเข็มออกตรงๆ คิดไม่ถึงว่าจะยังหมุนเดินเข็มต่ออีก มาอย่างกะทันหัน ไม่ทันได้ตั้งตัว จนเขาส่งเสียงครางขึ้นมา “อืม...”

การเคลื่อนไหวของมือจั๋วซือหรานหยุดชะงัก เอียงหน้ามองเฟิงเหยียน

สายตาตอนที่ดวงตาพญาหงส์คู่งามเอียงมองเข้ามาดูเย้ายวน มีเสน่ห์ดึงดูดราวต้องมนต์สะกด

เอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า “นายท่านซือเจิ้งอย่าส่งเสียงที่ทำให้คนเข้าใจผิดออกมา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 656

    ช่าง...เก็บกดเสียจริงจั๋วซือหรานรู้สึกว่าแหย่เขาแล้วก็สนุกดีนางยื่นนิ้วชี้ออกมา กดลงไปบนบ่าเฟิงเหยียน จากนั้นก็ผลักเบาๆ ให้เขาล้มลงไปบนแคร่จากนั้นจึงโน้มตัวขึ้นไปเฟิงเหยียนคิดจะลุกขึ้น แต่ก็เห็นนางโน้มตัวเข้ามา เขาหดม่านตาลง ท่าทางแข็งทื่อนิ้วของจั๋วซือหรานกดอยู่บนลูกกระเดือกที่นูนขึ้นของเขา ท่าทางนี้ ทำเอาเฟิงเหยียนอดกลืนน้ำลายเอื๊อกขึ้นมาไม่ได้ลูกกระเดือกที่ปูดโปน ไหลผ่านใต้นิ้วมือที่อ่อนนิ่มของนางไป“จั๋วเสียวจิ่ว...” เสียงของเขาแหบพร่าขึ้นมาหน่อยๆจั๋วซือหรานกดลูกกระเดือกของเขาไว้ “นายท่านซือเจิ้ง ท่านอย่าพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้กับข้า เมื่อครู่ที่ท่านกระอักเลือดก็คิดจะหลีกเลี่ยงข้า พอข้าเห็นท่านกระอักเลือด ข้าก็ไม่คิดจะคิดเล็กคิดน้อยกับท่านแล้ว”เฟิงเหยียนตะลึงงัน “...อะไรนะ?”“ข้ายังไม่ได้ถามท่านเลย ซื่อจือตระกูลเฟิง ทำไมถึงได้กลายเป็นซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษของแคว้นชางไปได้กัน?”จั๋วซือหรานขมวดคิ้วเล็กๆ นางก่อนหน้านี้ก็คิดจะถามคำถามนี้แล้ว แต่พอเห็นเฟิงเหยียนกระอักเลือดอย่างน่าเศร้าจึงอดรนทนไม่ไหว หันมารักษาเขาเสียก่อนไม่อย่างนั้นตอนที่นางเพิ่งได้รู้ตัวตนฐ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 657

    ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงถามไปด้วย พลางค่อยๆ ขบคิดในสมองเฟิงเหยียนในฐานะที่เป็นลูกหลานตระกูลขุนนางคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นซื่อจื่อที่มีคุณสมบัติดีที่สุดด้วย ตามหลักการแล้วน่าจะไม่ค่อยได้ติดต่ออะไรกับสภาผู้อาวุโสที่สูงส่งเท่าไรนักจึงจะถูกองค์กรเช่นนี้ จั๋วซือหรานไม่รู้สึกว่าเป็นพวกองค์กรการกุศลอะไรถ้าไม่มีผลประโยชน์คงไม่มีทางทำงานแน่ไม่แตกต่างอะไรกับคนอื่นๆ จะตระกูล สำนัก สามหอตลาดมืด ก็ทำนองเดียวกันทั้งนั้นไม่มีผลประโยชน์ไม่มีทางทำงานและเพราะจั๋วซือหรานสามารถยอมรับการกำหนดแบบที่ไม่มีผลประโยชน์ไม่มีทางทำงานได้ ดังนั้นจึงรู้สึกแปลกประหลาดสถานที่สูงส่งอย่างสภาผู้อาวุโส ยิ่งไม่มีทางทำเรื่องที่ไม่มีผลกำไรแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า พวกเขาคาดหวังผลประโยชน์อะไรจากตระกูลเฟิง...ไม่สิ ถ้าหากพวกเขาต้องการผลประโยชน์จากตระกุลเฟิง คงไม่มาเสียเวลากับแค่ตัวเฟิงเหยียนหรอกยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สนใจด้วยว่าตระกูลเฟิงจะรู้หรือไม่ว่าเฟิงเหยียนเป็นซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษหรือเปล่าเช่นนั้น พวกเขาก็คือคาดหวังผลประโยชน์จากตัวเฟิงเหยียนเฟิงเหยียน...สายตาของจั๋วซือหรานตกอยู่บนตัวเฟิงเหยียน พิจา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 658

    เฟิงเหยียนเอ่ยต่อ “อาจารย์ที่ยอดเยี่ยมของข้าคนนั้น เหมือนว่าจะรอบรู้ไปทุกเรื่อง ทำเป็นเสียทุกเรื่อง สอนอะไรพวกเรามามากมาย ทุกคนล้วนน้อบรับทั้งกายใจ เดิมทีพวกเราคิดว่า จะสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระเช่นนี้ไปได้ทั้งชีวิต แต่คิดไม่ถึงว่า...”จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง “จะถูกใช้ให้เป็นประโยชน์สินะ?”เฟิงเหยียนยิ้มขืน หญิงสาวคนนี้ฉลาดจริงๆจั๋วซือหรานร้องเชอะ “สอนท่านมาจนร้ายกาจขนาดนี้ แล้วให้ท่านกลับมาที่บ้าน พอคนในบ้านรู้ถึงคุณสมบัติตัวท่านแล้ว จะยอมปล่อยให้ท่านมีชีวิตอิสระเสรีต่อไปได้หรือ?”“แน่นอนว่าต้องให้ท่านสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์ต่อแน่ๆ กลายมาเป็นภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ค่านี้ แล้วยังต้องมาถูกควบคุมโดยตระกูลเฟิงอีก แล้วพวกสภาผู้อาวุโสที่แต่งตั้งตำแหน่งซือเจิ้งหน่วยสืบสวนพิเศษให้ท่าน ดูแล้วเหมือนจะยกย่องท่านขึ้นสูงส่ง แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขาคิดจะชุบเลี้ยงท่านให้อยู่อย่างว่าง่ายในแคว้นชาง...รอจนวันหนึ่งที่ต้องการท่าน ค่อยลากท่านออกมาสังหารทิ้งหรือเปล่าก็ไม่รู้”คำพูดของจั๋วซือหราน แม้ฟังแล้วจะไม่ค่อยเข้าหู แต่มันก็ดูเป็นความจริงมากมุมปากเฟิงเหยียนยกขึ้น “ดังนั้น การมามีความสัมพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 659

    จากนั้นบนโต๊ะหินเล็กด้านนอก ก็เจอเข้ากับ ‘หนูตัวใหญ่’ ตัวหนึ่ง ฉุนจวินกินจนปากมันเลื่อม พอเห็ฯจั๋วซือหรานเดินออกมาก็ตกใจสะดุ้งโหยง เขายื่นมือมาเช็ดปาก ดวงตาถลึงกลมโตคำพูดเองก็ติดๆ ขัดๆ“จิ่ว...แม่นางจิ่ว ท่านทำไมจึง...” ฉุนจวินลุกขึ้นยืน ท่าทางดูแล้วค่อนข้างไม่สบายใจ สองมือไพล่อยู่ด้านหลัง เหมือนเด็กน้อยที่ทำอะไรผิดมา “ท่านไม่ใช่ถูกนายท่าน...นายท่านไม่ใช่กำลังทำ...”ฉุนจวินพูดอยู่นานก็ยังไม่เข้าใจเขาพูดออกมาไม่ได้หรอก ว่าท่านเมื่อครู่กำลังทำนั่นโน่นนี่กับนายท่านอยู่...ทำไมถึงลุกขึ้นมาแล้วล่ะ? ไม่ใช่ต้องพักผ่อนเสียหน่อยหรือ?จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว “นั่นสิ นายท่านของเจ้าจำเป็นต้องบำรุงเสียหน่อย ข้าเองก็เตรียมจะบำรุงให้กับเขา แต่มาถูกหนูตัวใหญ่อย่างเจ้ากินไปแล้ว”ฉุนจวินหน้าแดงก่ำจั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ช่างเถอะ เจ้าไปอธิบายกับเจ้านายเจ้าเองก็แล้วกัน”พูดจบประโยคนี้ จั๋วซือหรานก็ยกเท้าคิดจะเดิน ฉุนจวินถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น “ดึกขนาดนี้แล้ว แม่นาวจิ่วจะไปไหนหรือ?”“โอ้” จั๋วซือหรานขานรับ ฉุนจวินเห็นว่าหญิงสาวงดงามตรงหน้านี้ รอยยิ้มในสีหน้าจู่ๆ ก็หายไป เหลืออยู่แค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 660

    ขอรับ!“จั๋วซือหรานหลังจากออกมาจากหน่วยสืบสวนพิเศษ ระหว่างทางที่ตรงไปทางบ้านตระกูลเฟิง ถือว่าคุ้นหูคุ้นตาดีแล้ว พอมาถึงด้านนอกกำแพงเรือนตระกูลเฟิง ยังไม่ทันที่องครักษ์จะพบนาง นางก็พลิกตัวข้ามกำแพงไปอย่างคล่องแคล่วกลางดึก ราวกับมีแมวดำคล่องแคล่วตัวหนึ่ง กำลังกระโจนพุ่งไปตามหลังคาบ้านตระกูลเฟิงยังคงเหมือนแต่ก่อน คุ้มกันหนาแน่ ความถี่การลาดตระเวนของเหล่าองครักษ์ก็ค่อยข้างถี่แต่ว่า จั๋วซือหรานเองก็ไม่ใช่เพิ่งมาเป้นครั้งแรก มาครั้งแรกไม่ชินครั้งต่อไปก็ชำนาญเอง เป็นธรรมดาที่จะมีประสบการณ์อยู่บ้างนางรีบเข้าไปในเรือนเฟิงเหยียนอย่างรวดเร็ว เฟิงเหยียนตอนที่ยังอยู่ในจวนเฟิงก่อนหน้า พักอยู่ที่เรือนนี้เฟิงเหยียนถึงแม้จะออกจากจวนตระกูลเฟิงไปแล้ว แต่องครักษ์เงาของเขาก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ทิ้งไว้ที่นี่องครักษ์เงาที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ เพียงไม่นานก็พบตัวจั๋วซือหราน แน่นอนว่าเป็นเพราะจั๋วซือหรานไม่ได้คิดที่จะระแวดระวังพวกเขาใครบุกรุกเข้ามากัน!” องครักษ์เงาถามขึ้นเสียงขรึม เพียงไม่นานจั๋วซือหรานก็ถูกล้อมไว้จากนั้นจึงเห็นหญิงสาวชุดแดงถูกล้อมไว้ตรงกลางอย่างชัดเจน“ท่าน...ท่าน...แม่นางจิ่ว?”

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 661

    จั๋วซือหรานออกจากเรือนเฟิงเหยียน ตรงไปทางทิศโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิงเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ดูแล้วน่าเกรงขามมาก ทั้งๆ ที่อยู่ในจวนตระกูลเฟิง ด้านนอกของสิ่งปลูกสร้างนี้ ยังมีกำแพงล้อมเอาไว้อีกไม่ถือเป็นกำแพงที่สูงนัก รู้สึกเหมือนไม่มีประโยชน์ในการป้องกันอะไรเลย แค่มีวิชาหน่อยก็กระโจนข้ามไปได้แล้วและเพราะไม่รู้ว่าความหมายของกำแพงชั้นนอกของโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษนี้คืออะไร หรือแค่เพื่อทำให้การออกแบบสิ่งปลูกสร้างเสร็จสมบูรณ์? เพื่อให้มันดูสวยงามหรือ?จั๋วซือหรานเห็นสิ่งปลูกสร้างน่าเกรงขามในวงล้อมกำแพงท่ามกลางราตรีนั่นแต่ไกล แทบจะในพริบตาก็รู้สึกว่ากำแพงล้อมวงนี้น่าขันเสียเหลือเกิน “กำแพงล้อมนี้...ล้อมไว้อย่างโดดเดี่ยวจริงๆ”และตอนที่นางเดินเข้าไปใกล้สิ่งปลูกสร้างโถงศักดิ์สิทิ์บรรพบุรุษมากขึ้นเรื่อยๆ จั๋วซือหรานก็รู้สึกว่า...นิ้วมือก็เริ่มเจ็บปวดจากการถูกลวก“ซี๊ด...” จั๋วซือหรานขมวดคิ้วมองนิ้วของตนเอง และเห็นว่าแหวนเสวียนเหยียนบนนิ้วเริ่มเปล่งแสงสีแดงจั๋วซือหรานขมวดคิ้วแน่น แหวนเสวียนเหยียนของนางเป็นของวิเศษที่หาได้ยากยิ่ง ไม่เพียงมีมิติน้ำพุวิเศ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 662

    “พวกนี้มัน...อะไรกัน” จั๋วซือหรานกระพริบตาปริบเดิมทีคิดว่านี่เป็นแค่เพราะแรงบันดาลใจชั่วขณะทำให้เห็นสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นก่อนหน้าจั๋วซือหรานต่อให้เจ็บปวดอย่างรุนแรง ก็ยังไม่กล้ากระพริบตาจนกระทั่งพลังความการจดจำที่ยอดเยี่ยมของนาง จัดการจดจำรูปแบบหลักๆ ส่วนใหญ่ของอักขระคำสาปนี้ได้...แต่เนื่องจากรายละเอียดที่มากเกินไป จึงไม่สามารถจดจำได้หมดทุกกระเบียดแต่ภาพหลักๆ ส่วนใหญ่ ก็จดจำได้พอสมควรแล้วจั๋วซือหรานตอนนี้จึงกระพริบตาปริบๆ แต่ยังดีที่หลังจากกระพริบตา อักขระคำสาปเหล่านี้ก็ไม่ได้หายไปในระยะสายตาของนางจั๋วซือหรานหลักๆ สามารถยืนยันได้ ว่าอักขระคำสาปเหล่านี้ของโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิง คนอื่นไม่มีทางมองเห็นแน่เกรงว่าต่อให้เป็นคนของตระกูลเฟิงเองก็ยังไม่แน่ว่าจะมองเห็น...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว งึมงำเอ่ยขึ้นว่า “แล้วทำไมข้าถึงมองเห็นล่ะ...”นางก้มหน้าลงมองแหวนเสวียนเหยียนบนนิ้วตนเองพอคิดถึงอาการลวกกับความเจ็บปวดจากการแผดเผาผิดปกติก่อนหน้านี้จั๋วซือหรานก็เม้มปาก เป็นเพราะแหวนเสวียนเหยียนหรือ?ตอนที่เห็นอักขระซับซ้อนเหล่านี้...แม้ว่าจั๋วซือหรานจะไม่เคยค้นคว้าอะไรกับโลกของ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 663

    ชายชุดดำสีหน้ามืดมน ตอนที่มองจั๋วซือหราน ในสายตาก็มีความเคียดแค้นสลักเข้ากระดูกดำ ดูแล้วเหมือนอยากจะกัดเคี้ยวเลือดเนื้ออย่างไรอย่างนั้นพอเทียบกับสายตาเกลียดชังเข้ากระดูกดำของเขาแล้ว สีหน้ากับสายตาของจั๋วซือหรานกลับดูนิ่งกว่ามากนางยืนเงียบๆ อยู่ที่เดิม มองอีกฝ่ายเงียบๆ ย้อนถามมาคำหนึ่ง “จ้าแน่ใจว่าข้าเข้ามาติดกับดักด้วยตนเอง แต่ไม่ใช่ว่าเจ้ารนมาหาที่ตาย?”ชายชุดดำร้องเชอะเย็นชา สีหน้ามืดมนแต่เดิมยิ่งดูน่ากลัวขึ้นไปอีก เอ่ยต่อว่า “เจ้าขยับตัวไม่ได้แล้ว ยังจะมาทำเป็นปากแข็ง ข้าว่าเจ้านั่นล่ะที่มาหาที่ตาย!”มือของเขาทาบอยู่บนด้ามกระบี่ข้างเอว บนด้ามกระบี่สลักอักษร “จื๋อ” อยู่ตัวหนึ่ง เขายื่นมือชักกระบี่ยาวออกจากฝัก“วันนี้ข้าจะละเลงเลือดเจ้าที่นี่ เพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของลูกข้า!” เขาคำรามขึ้นเสียงต่ำจั๋วซือหรานมองเขาอย่างเย็นชา เดิมทีก็พอเดาถึงตัวตนฐานะคนผู้นี้ได้ น่าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับสี่คนที่ร่างกายติดพิษกู่ร้อยไหมจนตายไปก่อนหน้านั้นตอนนี้ คำพูดของเขา ก็ยืนยันการคาดเดาในใจจั๋วซือหรานออกมาแล้วจั๋วซือหรานมองเขานิ่งๆ เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าพูดผิดแล้ว พวกเขาไม่ได้ตายเพราะข้า แ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status