Share

บทที่ 646

Author: หูเทียนเสี่ยว
เจี่ยงเทียนซิงมองนาง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง “ก็แค่ถามดู”

“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าถามอะไรส่งเดชเสียที!” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น

จั๋วซือหรานกระพริบตาปริบๆ “ดังนั้นมันตอนไหนกัน?”

“พรุ่งนี้” เจี่ยงเทียนซิงถอนใจ “เจ้าคิดจะทำอะไรก็ระวังหน่อย”

“อืม รู้แล้ว” จั๋วซือหรานเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เช่นนั้นไม่ต้องพูดเรื่องตระกูลซางแล้ว พูดเรื่องอื่นดูบ้าง”

“อะไรล่ะ?” เจี่ยงเทียนซิงถาม

จั๋วซือหรานครุ่นคิด มองเจี่ยงเทียนซิง “เจ้ารู้เรื่องสวนหลอมกระบี่ของตระกูลเฟิงไหม?”

เจี่ยงเทียนซิงพอได้ยิน หางตาก็เลิกขึ้นเล็กน้อย “นั่นเป็นความลับของตระกูลเฟิง เจ้านี่กล้าถามไปเรื่อยจริงๆ”

จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นทีหนึ่ง “ความลับตระกูลเฟิงเองข้าก็รู้มาไม่น้อย ตระกูลเฟิงเองก็มีความลับที่หน้าตาดีอยู่ด้วยนะ ตอนนี้ยังถูกข้าเลี้ยงดูในห้องทองอย่างดีที่กรมสอบสวนพิเศษอยู่เลย”

“เจ้า...” เจี่ยงเทียนซิงอดมองบนขึ้นมาไม่ได้

จั๋วซือหรานรู้สึกว่าถ้าการมองบนของเจี่ยงเทียนซิงพูดได้ คงจะเขียนคำว่า...ข้ายอมเจ้าแล้วจริงๆ เอาไว้แน่

เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “สำหรับเรื่องของตระกูลเฟิงที่สืบทอดกันมาก็มีอยู่มากมายจริงๆ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 647

    แดนเหนือที่หนาวเหน็บ การไม่กลัวต่อความเหน็บหนาว...คือเหตุผลของพลังแห่งหงส์แดงที่เอวมีกระบี่ยาวเล่มหนึ่งแขวนไว้ตลอด...กระบี่ประจำตระกูลเฟิงไม่มีเครื่องมือแต่กลับจับปลาได้...กระโจนลงไปจับปลาในน้ำทะเลน้ำแข็ง สำหรับคนปกติแล้ว ทะเลน้ำแข็งนั้นทำเอาคนตายได้เลยแต่จั๋วซือหรานคิดๆ ตอนแรกที่ตนเองเข้าไปสำรวจจวนตระกูลเฟิงกลางดึกครั้งแรก ก็เจอกับเฟิงเหยียนที่มีอักขระคำสาปสีดำแปลกประหลาดอยู่เต็มตัว แช่อยู่ในบ่อน้ำที่เย็นจัดและด้วยอุณหภูมิของบ่อน้ำเย็นนั่น ก็ไม่แน่ว่าจะอุ่นกว่าทะเลน้ำแข็งที่เย็นจัดของแดนเหนือสักเท่าไรใครจะรู้ล่ะ? ไม่แน่สำหรับคนธรรมแล้วทะเลน้ำแข็งที่พร้อมจะเอาชีวิตคน สำหรับคนของตระกูลเฟิงแล้วอาจจะเหมือนกับว่ายน้ำอย่างสบายอุรากลางวันที่ร้อนระอุก็เป็นได้ยิ่งไปกว่านั้น ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะอะไรคนของตระกูลเฟิงจึงปรากฎตัวที่แดนเหนือในใจจั๋วซือหรานร้อยเรียงกันเป็นเส้นเดียวเจี่ยงเทียนซิงยังพูดต่อว่า “พ่อของข้าตอนนั้นก็ยังหนุ่ม แล้วยังเป็นคุณชายน้อยที่มีเงินอีกด้วย แล้วงานอดิเรกของพวกคุณชายน้อยเศรษฐีที่ไม่ขัดสนเรื่องเงิน นั่นก็คือชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน”“เขาอยู่ที่ท่าเรือแด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 648

    “ดังนั้นเจ้าจะถามว่าข้ารู้ข้อมูลอะไรของตระกูลเฟิงบ้าง? ข้าบอกไม่ได้ว่าข้ารู้ แต่ข้าบอกได้แค่ ข้ารู้ถึงเรื่องราวในช่วงนี้เท่านั้น ส่วนหลังจากนั้น ถ้าหากคนในเรื่องราวนี้ เป็นคนของตระกูลเฟิงจริงๆ ล่ะก็ คงพูดได้แค่ว่า...”เจี่ยงเทียนซิงจ้องมองจั๋วซือหราน เอ่ยต่อว่า “คงอธิบายได้ถึงอันตรายของตระกูลนี้ เพราะพวกเขาน่าจะมีวิธีการบางอย่างในการควบคุมคนในตระกูล”เจี่ยงเทียนซิงเสนอขึ้นมา “ดังนั้นเจ้าลองพิจารณาดูไหม...ว่าจะไม่ไปยั่วโมโหตระกูลนี้? คนที่เล่นกับไฟมันเป็นคนบ้า เจ้าก็ดูเอาแล้วกันว่าตระกูลนี้ถึงกับเอาคำว่าสบ้าคลั่ง(เฟิง)เขียนไว้ในสกุลตนเองเลยทีเดียว”จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ “มองไม่ออกเลย ว่าเจี่ยงเทียนซิงอย่างเจ้าก็มีอารมณ์ขันด้วย”“ข้ากำลังพูดอย่างตั้งใจกับเจ้านะ!” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วจั๋วซือหรานพยักหน้า “ได้ๆๆ รู้แล้ว วางใจเถอะ ข้าไม่ทำอะไรมั่วซั่วหรอก”“ถ้าเจ้าทำอะไรมั่วซั่วขึ้นมา ก็รีบส่งตัวความลับของตระกูลเฟิงหน้าตาดีที่เจ้าเลี้ยงดูเอาไว้ในหน่วยสืบสวนพะเศษคนนั้นกลับไปเสีย!!!” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานรู้สึกว่าตนเองแทบจะได้ยินเสียงถอนหายใจในน้ำเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 649

    จั๋วซือหรานถลึงตามองเจี่ยงเทียนซิง “อย่าหยาบคายขนาดนี้สิ...”จั๋วซือหรานคิดๆ น่าจะเพราะเจี่ยงเทียนซิงยังไม่เคยเจอคนที่ได้ของมาโดยไม่ต้องลงทุนแบบนางมาก่อนนั่นล่ะดังนั้นจึงรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้จั๋วซือหรานยิ้มๆ เอ่ยขึ้นว่า “ยังไม่ทันจะลองก็ถอยเสียแล้ว...”เจี่ยงเทียนซิงเห็นนางพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดไป และเห็นสายตาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มในดวงตานางและรู้สึกขึ้นมาทันที...ในใจนางจะต้องรู้ดีอยู่แล้วแน่นอน หญิงสาวคนนี้ เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ ตนเองก็เหมือนว่าจะไม่เคยเห็นนางต้องขาดทุนอะไรมาก่อนเลยจริงๆจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ “...ถึงตอนนั้นเจ้าก็อย่ามาโทษข้าที่หาเงินได้แล้วไม่ชวนเจ้าก็แล้วกัน”เจี่ยงเทียนซิงแก้มตึงเปรียะ มองออกไม่ยาก ว่าคงแทบจะขบฟันจนแตกละเอียดไปแล้วเสียงของเขาดังขึ้นมา ลอดออกมาจากไรฟันเอ่ยขึ้นว่า “...ไหนว่ามา จะทดลองอย่างไร”จั๋วซือหรานฟังคำพูดเขา ก็รู้ว่าเขายอมแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้นไปอีก “เรื่องนี้พูดแต่ปากไม่ได้ เอาอย่างนี้ เจ้าลองดูว่าจะไปหาคุณชายน้อยฮั่วจือโจวจากตระกูลฮั่วออกมาได้อย่างไรดีกว่า”“หาตัวเขา? แล้วจากนั้นล่ะ? เจ้านี่ก็ช่างสรรหาเลือกคนเสียจริง” เจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 650

    เจี่ยงเทียนซิงตกตะลึง ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งกลิ้งออกมาจากด้านใน เขาหดม่านตาลงนี่มัน...ขั้นสี่? ไม่ ยาลูกลอนนี้น่าจะไม่ได้อยู่แค่ระดับสี่รู้สึกเหมือนจะ...เข้าสู่ธรณีประตูของขั้นห้าแล้ว!นาง...ให้เขาอย่างนี้เลยหรือ?เจี่ยงเทียนซิงจู่ๆ ก็คิดถึงประโยคก่อนหน้านั้นของนาง...เจี่ยงเทียนซิงเจ้าวางใจเถอะ ติดตามข้ามา ขอแค่ข้ายังไม่ตาย ไม่มีทางขาดทุนถึงเจ้าแน่สายตาเจี่ยงเทียนซิงงงงันไป อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เลย “ฮ่า...” เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ จั๋วจิ่วคนนี้ พูดแล้วทำได้จริงๆ ไม่เคยกลืนคำพูดที่พูดออกมาเลยจั๋วซือหรานหลังออกมาจากตลาดมืด เดิมทีคิดจะไปตระกูลซางเสียรอบหนึ่ง แต่พอคิดๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในตอนนี้เทียบกับศัตรูในเงามืดที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรของตระกูลซางแล้วจั๋วซือหรานรู้สึกว่า ความลับตระกูลเฟิงหน้าตาดีที่ตนเองเลี้ยงไว้ในหน่วยสืบสวนพิเศษคนนั้น ทำให้นางไม่วางใจได้มากกว่าดังนั้น จั๋วซือหรานจึงตรงไปยังหน่วยสืบสวนพิเศษตอนที่ไปถึงหน่วยสืบสวนพิเศษ ฟ้าก็มืดแล้ว ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวก็เหน็ดเหนื่อยอยู่ข้างนอกมาทั้งวันเสียแล้วในสมองจั๋วซือหรานคิดถึงสูตรอาหารในวันนี้ แล้วก็ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 651

    จั๋วซือหรานเพียงไม่นานก็ทำหม้อไฟเสร็จ ยังคงให้ชิ่งหมิงนำส่วนหนึ่งไปกินกับลุงของเขาครั้งที่แล้วนางให้ชิ่งหมิงเอาไปกินด้วยกันกับเวินป๋อยวน ชิ่งหมิงจึงนำยาลูกกลอนยาพิษที่เวินป๋อยวนให้บางส่วนเข้ามา...การซื้อขายนี้ถือว่าคุ้มค่าอยู่มูลค่าคนละระดับกัน จนทำเอาจั๋วซือหรานรู้สึกเชิงขอโทษขึ้นมาเลย ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่ลืมส่วนของเวินป๋อยวนชิ่งหมิงรีบยกเดินออกไป เดินไปด้วยท้องก็ร้องจ้อกไปด้วย หม้อใบเล็กเองก็ตุ๋นจนหอมหวน หลังจากนี้ต้องทำหม้อเล็กหลายๆ ใบมาให้จั๋วซือหรานเสียแล้ว เอามาใส่ของอร่อยโดยเฉพาะ จั๋วซือหรานเองก็ดีอกดีใจ หลังจากนั้นตนเองจึงยกหม้อไฟเล็กใบหนึ่ง จัดการผักเคียงให้เรียบร้อย เตรียมจะยกไปเสวยสุขด้วยกันกับสาวในกรงทองของนางจั๋วซือหรานอารมณ์ดีมาก หลักๆ คือ นางยังอยากจะอวดต่อหน้าเฟิงเหยียนอีกสักหน่อย ว่าตนเองจับแมงมุมตัวใหญ่มาได้นางเองก็ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจึงอยากไปอวดกับเฟิงเหยียน...ถ้าเป็นกับคนอื่น คงไม่มีความคิดอยากจะอวดเช่นนี้เลยแม้แต่ตัวจั๋วซือหรานเองก็ยังไม่รู้ตัวว่า สัตว์นั้นมีแค่ตอนที่ต้องการจะหาคู่เท่านั้น จึงมีความคิดอยากจะอวดตนเองกับเพศตรงข้ามแม้จะบอกว่าปกติจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 652

    “ข้ายังค่อนข้างชองให้ท่านเรียกข้าว่าจั๋วเสี่ยวจิ่วมากกว่านะ...ท่านอ๋อง” จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ “หรือจะบอกว่า ควรเรียกท่านว่า...นายท่านซือเจิ้ง?”พอสิ้นเสียงนาง หน้ากากลายเปลวเพลิงสีแดงก็ถูกนางปลดลงมาใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเฟิงเหยียน ขาวซีด บนคางมีรอยเลือดเปื้อนอยู่เต็ม ปรากฎขึ้นมาต่อนห้าจั๋วซือหรานนางกัดฟันแน่นปวดใจขึ้นมาเลยทีเดียว แม้ว่าก่อนหน้านี้พริบตาที่เห็นเขาใส่หน้ากากก็เดาเอาไว้แล้วแต่ตอนที่ได้เห็นกับตา ก็ยังรู้สึกปวดใจอยู่เหมือนกันในสมองก็แทบจะมีความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านั้นพลิกขึ้นมาทันทีตอนนั้น การทรมานเหล่านั้น ความเจ็บปวดนั่น...นางคำนวณเอาไว้หลายเรื่อง พวกเขาล้วนพูดกันว่านางเดินหนึ่งก้าวจะคำนวณไว้ถึงห้าก้าว ทุกก้าววางไว้อย่างรอบคอบแต่นางก็คำนวณไม่ถึงสิ่งนี้ กระทั่งคิดไม่ถึงมาก่อนด้วยซ้ำนางไม่เคยคิด ว่าชายสวมหน้ากากที่เห็นนางถูกทรมานกับตาในตอนนั้น จะเป็นท่านอ๋องเฟิงเหยียน...นางคิดไม่ถึงมาก่อน และไม่รู้สึกถึงความเป็นไปได้นี้ตอนนี้นางจ้องมองหน้าเฟิงเหยียนนิ่งเฟิงเหยียนเองก็ก้มหน้ามองนาง “จั๋วเสียวจิ่ว” เขาหอบหายใจเบาๆ เรียกนางแบบนี้คิ้วของจั๋วซือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 653

    “พวกเขาต่อให้จะหยิบยืมสิ่งนี้มาเล่นงานข้าให้ตาย เช่นนั้นก็ต้องสนองให้บรรลุหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น...ก็ถือโอกาสมากระตุ้นให้เจ้าโกรธได้พอดี แล้วยังยืมมือเจ้า ไปรับมือกับผู้อาวุโสพวกนั้นให้อีก ยิ่งนัดเดียวได้นกสองตัวเลย”เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น เขานอนอยู่ตรงนั้น ลมหายใจค่อนข้างหนักหน่วงจั๋วซือหรานล้วงหยิบเข็มทองาวๆ แถวหนึ่งออกมาและไม่รอให้เฟิงเหยียนพูดอะไร นิ้วของนางก็วาดลงไป กระชากชุดบนตัวเขาจนขาดเผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาม่านตาเฟิงเหยียนหดลง ดวงตากระพริบปริบๆ สองครั้ง“จั๋วเสียวจิ่ว...”“หุบปาก” สายตาของจั๋วซือหรานระมัดระวังอย่างมาก ในมือถือเข็มทองอยู่ “อย่าเพิ่งพูดกับข้า รอให้ข้าจัดการกับชีวิตท่านก่อน แล้วค่อยไปรับมือกับตาเฒ่าพวกนั้น”เฟิงเหยียนเม้มริมฝีปาก เขากลอกตาเล็กน้อย มองใบหน้าด้านข้างที่กำลังตั้งใจของจั๋วซือหรานครู่ต่อมา เขาจึงเอ่ยขึ้นมาเสียงต่ำ “ข้ายังไม่ตายหรอก”“...” จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร เพียงแหงนตาถลึงมองเขาผาดหนึ่งเฟิงเหยียนพูดต่อ “ดังนั้น เจ้าสามารถทำให้ข้าต้องทรมานได้อยู่ ถ้าหากเจ้าระบายอารมณ์ได้ล่ะก็นะ”จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว นางฟังคำพูดของเขาไม่ออกเสี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 654

    คนเรามีเส้นทางชะตาของตนเอง มีผลกรรมของตนเอง ถ้าหากทำลายเส้นทางชะตาของคนอื่น ก็เป็นไปได้ว่าผลกรรมของคนคนนี้ ก็จะตกมาอยู่บนหัวของนางดังนั้นเก้าเข็มเสวียนเหยียนจึงต้องใช้งานอย่างระมัดระวังมาโดยตลอดกระทั่งว่า...จั๋วซือหรานคิดถึงการตายอย่างน่าอนาถของตนเองเมื่อชาติที่แล้ว จนถึงตอนนี้นางเองก็ยังไม่กล้าพูด ว่าสาเหตุที่ตนเองตาย เป็นเพราะใช้เก้าเข็มเสวียนเหยียนนั้นช่วยเหลือชีวิตคนอื่นหรือเปล่าเพียงแต่สิ่งเหล่านี้ ล้วนไม่มีความจำเป็นต้องให้เฟิงเหยียนล่วงรู้จั๋วซือหรานถอนหายใจในใจ ก้มหน้าต่ำมองเฟิงเหยียนนางอันที่จริงก็ไม่รู้ ว่าเพราะอะไรต้องทำเช่นนี้...แต่คิดว่าน่าจะเป็น เพราะมาทนเห็นความลับตระกูลเฟิงหน้าตาดีคนนี้มาเจอกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ให้คนงามต้องมาเจอความทุกข์ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรดูเอาเถิด ท่านอ๋องคนนี้แต่ก่อนไม่ยอมปฏิบัติกับนางให้ถูกต้อง ตอนนี้ก็รับผลกรรมไปสิ กรรมตามทันดังนั้นจั๋วซือหรานจึงรู้สึกว่า อืมอืมน่าจะเหตุผลนี้นั่นล่ะจั๋วซือหรานนอนตะแคงลงข้างเขาบนตัวเฟิงเหยียนมีเข็มทองอยู่ ขยับไม่ได้ แค่รู้สึกว่าร่างอ่อนนุ่มของนางอยู่ข้างๆ“จั๋วซือหราน เจ้า...”“ชู่” จั๋วซือ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status