Share

บทที่ 630

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
ดังนั้นจั๋วซือหรานตอนนี้จึงไม่สามารถยืนยันได้ ว่าความสามารถที่แล่นวาบเข้ามาเมื่อครู่นี้คืออะไรกันแน่ ใช่นักภาษาสัตว์หรือไม่

สาเหตุที่บอกว่าเป็นความสามารถที่แล่นวาบเข้ามา ก็เพราะเวลานี้จั๋วซือหรานยังอยากที่จะลองสื่อสารกับหมาป่าน้ำแข็งที่ตั้งท้องแล้วยังคงระแวดระวังอยู่ตัวนี้ หรือราชาหมาป่าน้ำแข็งที่ครางงึ้ดงึ้ดเหมือนสุนัขตัวนั้นอีก

แต่ก็เหมือนกับหินจมลงมหาสมุทรอย่างไรอย่างนั้น ไม่มีปฏิกิริยาใดตอบสนองเลย

สิ่งนี้ทำให้คนรู้สึกว่าเมื่อครู่นี้อาจจะเป็นเพียงแค่...การคิดไปเองก็เป็นได้

ไม่ว่าความสามารถก่อนหน้านี้จะเป็นเรื่องที่คิดไปเองหรือไม่ แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพิสูจน์ได้ในเวลาสั้นๆ จั๋วซือหรานคิดขึ้นมา

นางไม่คิดจะเสียเวลาที่นี่ ในเมื่อยังพิสูจน์ไม่ได้ในเวลาสั้นๆ เช่นนั้นก็ไว้ค่อยว่ากัน

ดังนั้น จั๋วซือหรานหลังจากปลอบโยนราชาหมาป่าน้ำแข็งและแม่หมาป่าไปครู่หนึ่ง จึงมองไปทางฝูซู เอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะ ไปเถอะ เจ้าขี่ตัวนี้ มันตั้งท้องอยู่ ดังนั้นเจ้าก็ระวังหน่อย...”

จั๋วซือหรานคิดคิด หยุดคำว่า จากนั้นจึงพูดต่อว่า “...เอางี่ดีกว่า ข้าไปนั่งเอง เจ้าไปนั่งอีกตัว”

ฝูซูรู้สึกว่า หลังจากนี้ถ้าอ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 631

    ในใจฝูซูมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนักแต่แรงกระแทกในการขี่ราชาหมาป่าเพื่อเดินทาง ก็เพียงพอที่จะกลบความรู้สึกอื่นไปหมด กระทั่งว่าฝูซูทำได้แค่นอนราบลงไปบนหลังของราชาหมาป่าน้ำแข็ง หลับตาปี๋ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงผ่อนคลายลงมาได้บ้างฝูซูเปิดหนังตาที่ตึงเครียดออกมา ก็มองเห็นว่าข้างๆ ตนเอง ร่างสง่างามในชุดแดงที่อยู่บนหลังหมาป่าน้ำแข็งตัวนั้นพอเทียบกับคนเองที่ตกใจจนกระทั่งยังไม่กล้าจะลืมตาแล้ว ฝูซูรู้สึกว่า คุณหนูนี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ นิ่งมากๆ เลยเหมือนออกมารับลมเล่นอย่างไรอย่างนั้น?ลมพัดผ่านใบหน้านาง กระพือเส้นผมนาง ดูไม่รกรุงรัง แต่กลับยิ่งขับเด่นความสง่างามท่าทางของจั๋วซือหราน ทำเอาฝูซูฟื้นฟูกลับมาจากสภาพกระวนกระวายไม่น้อย เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นเส้นทางนี้ จึงเอ่ยถามเสียงแผ่ว “คุณหนู พวกเราจะไปที่ไหนกันหรือ?”จั๋วซือหรานตอบ “จะไปที่ป่าลึกลับ แล้วก็น่าจะยังต้องเดินทางอีกสักพักหนึ่ง ถ้าเจ้าเหนื่อยแล้วก็บอก หยุดพักผ่อนกันก่อนได้”“ป่าลึกลับ?!” ฝูซูถลึงตาโต ในสายตามีสีหน้าประหลาดใจป่าลึกลับ ตั้งอยู่ในเขตแดนเคว้นชาง เป็นป่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ใกล้เมืองหลวงมากที่สุด ตัวป่ากว้างใหญ่ไพศาล รอบนอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่632

    แค่เคยได้ยินเท่านั้น แต่กลับยังไม่เคยเห็นอาชีพนี้มาก่อน ทำให้คนรู้สึกว่าดูเก่งกาจดีแต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไรแต่ว่าฝูซูก็แทบจะมีปฏิกิริยาขึ้นมาในพริบตา “นั่นไม่ใช่เหมือนกับ...ที่คุณหนูควบคุมราชาหมาป่าน้ำแข็งเช่นนี้หรอกหรือ? ความหมายนี้ใช่ไหม?”จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “อืม เป็นแบบนี้นั่นล่ะ”หลังจากนั้นจึงเห็นสีหน้าของฝูซูเปลี่ยนจากความกระวนกระวายที่ไม่ค่อยเข้าใจว่าคืออะไร กลายมาเป็นความผ่อนคลายที่เหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจขึ้นมาแล้ว“นั่น...ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะดีอยู่สิ” ฝูซูเอ่ยขึ้น “คุณหนูชนะแน่นอน ราชาหมาป่าน้ำแข็ง...ดูน่าจะเก่งกาจอยู่นะ”จั๋วซือหรานพยักหน้า “ก็เก่งกาจจริงอยู่ ความเร็วการโจมตีรวดเร็ว ร่างกายก็คล่องแคล่ว แต่ในด้านการต่อสู้ โดยเฉพาะบนเวทีประลองที่ไม่ถือว่าใหญ่มาก อาจจะมีข้อจำกัดอยู่”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ ราชาหมาป่าน้ำแข็งจู่ๆ ก็หันหน้ามามองจั๋วซือหราน ร้องงึ๊ดงึ๊ดขึ้นมา“ข้าต่อสู้ได้ไม่เลวอยู่นะ!”จั๋วซือหรานมองตามเสียงไปทางราชาหมาป่าน้ำแข็ง ตกตะลึงไปเล็กน้อยถ้าบอกว่า ก่อนหน้าที่ได้ยินเสียงจากหมาป่าน้ำแข็งตั้งท้องที่ตนเองนั่งอยู่นี่ แล้วนางยังไม่ค่อยแน่ใจ คิดว่าตนเองน่าจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 633

    และเพราะจั๋วซือหรานพูดคำว่าพวกคลั่งไคล้ขนนุ่มฟู และบอกว่าถัดจากนี้ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดขนนุ่มฟูพอบวกกับตลอดเส้นทางนี้ ฝูซูที่ไม่ค่อยจะหวาดกลัวหมาป่าน้ำแข็งเท่าไรแล้วดังนั้น ฝูซูจึงไม่ค่อยหวาดกลัวกับเจ้าพวกขนนุ่มฟูที่คุณหนูพูดออกมาสักเท่าไรหลังจากราชาหมาป่าน้ำแข็งพาพวกเขาเข้าไปในป่าลึกลับ ท่วงท่าพลังก็เปลี่ยนไป ต่อให้ฝูซูที่ความสามารถการรับรู้ยังไม่สู้จั๋วซือหราน ก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังของราชาหมาป่าน้ำแข็งที่เพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้า...ไปไม่น้อยประสิทธิภาพเองก็เห็นได้อย่างชัดเจน พวกเขาหลังจากเข้ามาในชายขอบป่าลึกลับ ตลอดทางก็ไม่พบกับสัตว์ประหลาดอะไรเลยฝูซูที่เดิมทียังตึงเครียดเพราะเข้ามาในป่าของสัตว์ประหลาดอย่างป่าลึกลับนี้เป็นครั้งแรก แต่หลังจากที่เข้ามา ก็ไม่พบกับอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียวทำให้ความระแวดระวังของเขาแต่เดิมผ่อนคลายลงมาบ้างแล้ว“คุณหนู ไม่เจอสัตว์ประหลาดเลยแม้แต่ตัวเดียว” ฝูซูเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า “มีราชาหมาป่าน้ำแข็งอยู่ที่นี่ ปกติสัตว์ประหลาดก็จะไม่เข้ามาท้าทายเท่าไร ดังนั้นที่ไม่เจอก็เรื่องปกติ”“แต่ท่านไม่ใช่ว่าจะจับ...” ฝูซูเดิมทีคิดจะถาม ว่าคุณหน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 634

    ทั้งหมดล้วนเป็นธรรมชาติทั้งสิ้นดังนั้น ถ้าหากมีอะไรไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมา จั๋วซือหรานก็สามารถสัมผัสถึงได้ อย่างเช่น นางสามารถรับรู้ว่ามีบางแห่งที่กิ่งไม้ใบหญ้าถูกพัดจนเคลื่อนไหวแต่ถ้าหากเป็นสัตว์หรือเป็นสัตว์ประหลาดล่ะก็ จะไม่หนาแน่นขนาดนั้น และจะไม่วนเวียนอยู่ที่เดิมตลอดเวลา สัตว์ประหลาดจะมีอาณาเขตของตนเองนี่เป็นมนุษย์จั๋วซือหรานโยนหน้าไม้ให้ฝูซูคันหนึ่ง“เจ้านี่ใช้เป็นใช่ไหม?” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ถ้าใช้ไม่เป็น ก็ลองทดสอบดูสักสองดอก ข้าจำได้ว่าเจ้าใช้ธนูได้แม่นดีอยู่ ของเล่นชิ้นนี้ที่ข้าให้กับเจ้า ขอแค่มีมือ แม้แต่ลิงก็ยังฆ่าคนได้”ฝูซูเดิมทียังรู้สึกดีใจเป็นพิเศษที่คุณหนูให้อาวุธชิ้นนี้กับตนเอง ชิ้นงานประณีตมาก ดูน่าจะร้ายกาจพอควร เขาชอบมาก รู้สึกมั่นใจขึ้นอย่างเกินเหตุ มีความรู้สึกเหมือนพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่างแต่ใครจะไปรู้ ว่าประโยคต่อมาของคุณหนู จะเป็นการสาดน้ำเย็นใส่โต้งๆ ทำเอาเขาใจเย็นลงมาไม่น้อย ไม่ได้รู้สึกมั่นใจอย่างก่อนหน้าแล้วฝูซูลองกดไปสองครั้ง หาความรู้สึก ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “คุณหนู เจ้านี่มันใช้งานได้ดีเกินไปไหม?”“เช่นนั้นก็เก็บไว้ดีดี” จั๋ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 635

    ฉากตรงหน้า ไม่ได้มีต้นไม้สูงใหญ่มากมายเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะว่า...ป่าไม้ตรงหน้าผืนนี้ ล้วนถูกตัดล้มไปจนหมด!ดังนั้นแสงสว่างจึงชัดเจนกว่าป่าทึบระหว่างทางก่อนหน้านี้ สว่างกว่าพอสมควรทำให้คนมองเห็นฉากตรงหน้านี้ได้ชัดเจนขึ้นมาฝูซูมีความรู้สึกอยากจะหันหลังแล้ววิ่งหนีไปทันที เพราะพื้นที่ว่างตรงหน้าที่ต้นไม้ถูกตัดไปผืนนั้นชายหญิงหลายคน กำลังคุมเชิงกับเหยื่อตัวหนึ่งอยู่พอเหลือบมองออกไปก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้ แต่หลังจากมองอย่างละเอียด ก็รู้สึกว่า...ใครที่เป็นเหยื่อก็เหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจเสียแล้วเพราะคนเหล่านี้ บนตัวล้วนมีแต่บาดแผล แล้วดูหนักหนาสาหัสด้วย ล้วนเป็นเกิดขึ้นจาก ‘เหยื่อ’ ตัวนั้นและไม่รู้ว่าพวกเขาเอาสัตว์ประหลาดตัวนั้นเป็นเหยื่อ หรือว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นมองพวกเขาเป็นเหยื่อกันแน่แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุที่ฝูซูอยากจะหมุนตัวหนี สาเหตุที่ทำให้เขาอยากจะหันหลังแล้ววิ่งหนีก็คือ...“นี่คือเจ้าขนนุ่มฟูที่คุณหนูพูดถึงหรือ?!” ฝูซูถลึงตาอ้าปากค้างมองชายหญิงหลายคนที่กำลังสู้กันอย่างสูสีเจ้านี่มันขนนุ่มฟูเสียที่ไหนกัน!นี่มันแมงมุมแปดขาอภิมหายักษ์ตัวหนึ่งต่างหาก!มันดูแล้วน่าจะใหญ่ขนาด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 636

    ขนนุ่มฟูจริงๆ ด้วย...ฝูซูคิดขึ้นมาในใจ ขนฟูจริงๆ ด้วยแฮะแมงมุมตัวนี้ บนขาทั้งแปดมีขนสีดำอยู่ หน้าอกแผ่นหลังก็มีขนนุ่มๆ อยู่ชั้นหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นบนแผ่นหลังมัน ยังมีลายสีขาวที่ดูเหมือนใบหน้าผีอยู่อีกด้วยดูแล้วทั้งแปลกประหลาดทั้งน่าสะพรึง“เจ้า...!”“เจ้าเป็นใครกัน!”“บ้าไปแล้วหรือ? เอะอะเสียใหญ่โต! ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไรกัน?!”“ที่นี่มันส่วนลึกของป่าลึกลับนะ!”“เจ้าอยากตายก็ตายไป อย่ามาทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้ไหม?!”พวกเขาแม้ตอนนี้จะเจ็บไปทั้งตัว ดูซมซานสุดๆ แต่พอมองออก ว่าความหยิ่งทะนงที่วางไม่ลงของพวกตระกูลคนชั้นสูงเองก็สลักเข้าไปในกระดูกแล้วดูไม่พอใจอย่างมากต่อจั๋วซือหรานที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน คำพูดน้ำเสียงจึงไม่เกรงใจเอามากๆจั๋วซือหรานกลับไม่ได้โกรธท่าทีแย่ๆ ของพวกเขาในความเป็นจริง คนเป็นคนที่เข้าใจจั๋วซือหรานก็จะมองออกว่า หญิงสาวคนนี้ อันที่จริงโกรธคนน้อยมากอย่าเห็นว่าเธอที่เวลาเผชิญหน้ากับการถูกคนอื่นรังแก แต่กลับไม่เคยถอยหนี ทว่าถ้าพูดถึงตอนที่โกรธแค้นอย่างจริงจังนั้น ก็มีอยู่น้อยถึงน้อยมากและมักจะเป็นเช่นนี้ ใช้ใบหน้าที่สวยงามสงบเสงี่ยม จัดการแก้ไขปัญหาต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 637

    จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “ยอมยกราชาแมงมุมหน้าผีให้ข้าก่อน จากนั้นจึงถามชื่อข้า จดจำชื่อข้าไว้ หลังจากพ้นสถานการณ์ล่อแหลมค่อยให้คนในตระกูลกลับมาหาเรื่องข้าสินะ...”คำพูดนี้ของจั๋วซือหรานทำเอาซางเหลยหน้าเปลี่ยนสี รอยยิ้มบนหน้าเขาเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อขึ้นมาเขาเอ่ยขึ้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่นาง...เข้าใจผิดแล้ว ดูจากที่แม่นางควบคุมหมาป่าเข้ามา เดาได้ไม่ยากว่าแม่นางเองก็เป็นนักควบคุมสัตว์ ในเมื่อเป็นนักควบคุมสัตว์ ก็น่าจะเคยได้ยินชื่อตระกูลซางของพวกเราบ้าง ตระกูลพวกเราทำกิจการใหญ่โต ไม่ใช่คนใจแคบที่จะทำร้ายผู้มีพระคุณแน่นอน”จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชา “ข้ากลับรู้สึกว่า คนตระกูลชั้นสูงอย่างพวกเจ้านี่ล่ะ ที่เป็นพวกใจแคบทำร้ายผู้มีพระคุณ เรื่องนี้ทำกันน้อยเสียที่ไหน ลูกไม้พวกนี้ข้ารู้ไต๋หมดแล้ว”สีหน้าซางเหลยยิ่งแข็งขึ้นอีก เขาเพิ่งคิดจะพูดอะไรแต่ก็ได้ยินเสียงเรียบๆ ของหญิงสาวเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่า ข้าเองก็ไม่รังเกียจที่จะบอกชื่อกับพวกเจ้าหรอกนะ”ซางเหลยลิงโลดขึ้นมาในใจ คนอื่นๆ เองก็หัวเราะเย็นชาในใจ รู้สึกแค่ว่าหญิงสาวคนนี้ติดเบ็ดเข้าแล้ว นางตอนนี้ต่อห้จะอหังการแค่ไหน แต่คนตัวเล็กมีหรือจะมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 638

    อันที่จริงลูกหลานตระกูลชั้นสูงอีกหลายคน ตอนนี้ล้วนมีความคิดเช่นเดียวกันต่อจั๋วซือหราน คือเกลียดชังจนอยากจะควักเนื้อเถือกระดูกนางออกมาง่ายมาก น่าจะเพราะจั๋วซือหรานทำในสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าทำ ทำในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้และพวกเขากลับคงคงไม่กล้าไปทำ และทำไม่ได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อาจยอมรับว่าสิ่งที่นางทำเป็นสิ่งถูก และไม่สามารถยอมรับความสามารถและพลังที่แท้จริงของนางทำได้แค่ปฏิเสธจั๋วซือหรานอย่างต่อเนื่อง เช่นนี้จึงจะสามารถทำให้ตนเองไม่รู้สึกไร้ค่าน่าจะเพราะด้วยความรู้สึกเช่นนี้เหล่าลูกหลานตระกูลซางพวกนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นซางเหลยส่งสายตาให้กับพวกเขา ทุกคนทยอยกันตอบรับ ในมือมีการเคลื่อนไหว!“คุณหนู! ท่านดูพวกเขาสิ...!” ฝูซูเองก็เห็นการเคลื่อนไหวนี้ของพวกเขา น้ำเสียงตกตะลึงเล็กน้อยจั๋วซือหรานหรี่ตาลง สายตาเหลือบมองอย่างเย็นชาลูกหลานตระกูลซางเหล่านี้ ล้วนทยอยกันกรีดมือตนเอง เลือดสดหยดลงพื้นดิน จากนั้นพวกเขาก็ใช้ฝ่ามือทั้งคู่ ออกแรงกดลงไปบนพื้นสีหน้าที่อ่อนแอแต่เดิมของพวกเขา ยิ่งดูอ่อนแรงลงไปอีก ขาวซีดจนไม่เห็นสีเลือดแล้วบนพื้นดิน เหมือนมีลวดลายไร้รูปร่างอะไรอยู่ เปล่งแสงขึ้นมา

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status