แชร์

บทที่ 621

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็เพียงแค่เหลือบมองนางผาดหนึ่ง จากนั้นก็ร้องเรียกเฉวียนคุนเข้ามา

เฉวียนคุนกำลังกินเคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปาก สองตาเปล่งประกาย “นายท่าน มีอะไรหรือ?”

“ไป เตรียมอาหารเช้าให้คุณหนูเฟิงสือสักชามนึง” จั๋วซือหรานกำชับขึ้นมา

เฉวียนคุนรู้สึกว่าฝีมือทำอาหารของคุณหนูแทบจะพลิกแผ่นฟ้าอยู่แล้ว แค่บะหมี่ราดหน้าชามเดียว เด็กฉลาดนั่นก็กินจนตาเป็นประกาย ส่วนเขาก็เคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปาก ส่วนเฮยหลิงนั่นก็ตัวดีเลย!

เกือบจะเอาหม้อมาทุบกันอยู่แล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้นเฉวียนคุนยังรู้สึกว่า ถ้าเฮยหลิงเคยสูญเสียอิสระในตลาดมืด จนรู้สึกไม่ชอบที่ต้องมาคุดคู้อยู่ในที่ของผู้อื่นอีกล่ะก็

บะหมี่ราดหน้าวันนี้ก็แทบจะทำให้ความรู้สึกไม่พอใจของเขาลดไปกว่าครึ่ง

เฉวียนคุนกระทั่งรู้สึกว่าที่หายไปครึ่งหนึ่งนี้ตนเองยังพูดน้อยไปด้วยซ้ำ ไม่แน่ในใจเฮยหลิงอาจจะโห่ร้องสรรเสริญคุณหนูหมื่นปีหมื่นหมื่นปีอยู่ก็ได้!

แต่ว่าพวกเขาก็รู้สึกว่ามันอร่อยมากจริงๆ

ทว่าตรงหน้าคนนี้ คุณหนูเฟิงสือเป็นถึงตระกูลเฟิงหนึ่งในห้าผู้นำตระกูลขุนนางเลยนะ!

เฉวียนคุนกังวลเล็กน้อย ว่าอาหารเช้าของตนเอง จะดูถูกคุณหนูเฟิงสือคนนี้ไปไหม แล้วจะทำให้ค
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 622

    “อื๋อ?” ข้อศอกจั๋วซือหรานเท้าอยู่บนโต๊ะ นิ้วรองคาง จ้องมองเฟิงหร่าน เป็นท่าทางที่กำลังตั้งใจฟัง รอคำพูดต่อไปของนางอยู่“พี่สาวจั๋ว อันที่จริง ไม่ใช่แค่ข้าที่มองออกว่าพวกเขามันเน่าไปจนถึงรากในแล้ว” ในสายตาเฟิงหร่าน มีประกายสุกใสบริสุทธิ์ไร้เดียงสา มองจั๋วซือหรานตาไม่กระพริบ “ข้าเองก็มองออก ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังคิดว่า คนอีกมากก็มองออกแล้วด้วย”จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร ฟังเฟิงหร่านพูดต่อเงียบๆ“แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีคนยอมต่อต้านพวกเขา” เฟิงหร่านเอ่ยเสียงต่ำ “ต่อให้พวกเขาจะรู้ ว่าตระกูลนี้ เป็นพวกที่เน่าในถึงรากแก่น...แล้วมันทำไมล่ะ? พวกเขาที่รากฝังลึกเน่าเปื่อยมาหลายปี ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำอะไรได้”“ดังนั้นจึงมีคนอีกมากที่เลือกตามน้ำ” เฟิงหรานพูด หัวเราะจืดจางขึ้นมา ฟังแล้ว ดูมีความประชดประชันอยู่ “ข้าเองก็เคยคิดที่จะเลือกตามน้ำ เพราะว่าตระกูลนี้ ก็ยังค่อนข้างทำให้คนรู้สึกมั่นใจอยู่ ไม่ใช่หรือ?”“เทียบกับการต่อต้านแล้ว” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ทำตามกระแสไปมันง่ายกว่าเยอะ การต่อต้านเป็นเส้นทางที่ยากลำบากกว่าเสมอ”“ใช่แล้ว” เฟิงหร่านหัวเราะขึ้นมาอีก นางจ้องมองดวงตาจั๋วซือหรานจั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 623

    จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายจากอักษร รู้สึกว่า ในสุสานกระบี่น่าจะเป็นเศษกระบี่ที่ใช้หลอมกระบี่ให้กับลูกหลานตระกูลเฟิงถึงอย่างไรในงานหลอมใดก็ตาม ล้วนต้องมีพวกเศษชิ้นส่วนอยู่แล้วจั๋วซือหรานลองถามดู “ในสุสานกระบี่ คือเศษชิ้นส่วนกระบี่ของกระบี่ตระกูลเฟิงใช่ไหม?”เฟิงหร่านส่ายหัว “พี่สาวจั๋ว ในสุสานกระบี่คือกระบี่ตระกูลของคนในตระกูลเฟิงที่ตายไป”จั๋วซือหรานแม้จะบอกว่าคิดไม่ถึงคำตอบนี้ แต่พอได้ยินแล้วก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลอยู่คนตายมีสุสานฝังศพ กระบี่เองก็ต้องมีสุสานกระบี่ด้วยสิแต่ว่า สีหน้าของเฟิงหรานดูแล้ว จั๋วซือหรานรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายแบบนั้น“เท่านี้หรือ?” จั๋วซือหรานถามต่อเฟิงหร่านยิ้มๆ เพียงแต่รอยยิ้มดูขมขื่น “ตระกูลเฟิงให้พวกเราเห็นเพียงเท่านี้ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นี้ ตามหลักการแล้ว พวกเขาคงไม่หวังให้คนในตระกูลรู้เรื่องอื่น...และไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย...”เฟิงหร่านเอ่ยขึ้น “ลูกหลานอย่างพวกเราตอนที่ไปเข้าชมสวนหลอมกระบี่ ตอนที่ถูกพาเข้าไปยังสุสานกระบี่ ข้าดันหลงทาง”“แล้วเจ้าไปเห็นอะไรมาหรือ?” จั๋วซือหรานขมวดคิ้วถาม“โถงบรรพบุรุษ...แห่งหนึ่ง? โถงศักดิ์สิทธิ์? จาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 624

    จั๋วซือหรานถามนาง “แต่เจ้าทำไมถึงรู้ล่ะ ว่าที่นั่นเป็นโถงลงโทษ? ถ้าหากมีไว้สำหรับคนเป็น โถงลงโทษมองแวบเดียวก็รู้แล้ว แต่พวกนั้น...เป็นดวงวิญญาณ ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วหรอกหรือ?”“ข้า...ไม่แน่ใจ ” ในดวงตาเฟิงหราน มี อารมณ์ หวาดกลัวค่อยๆ ปรากฏขึ้นแล้วจั๋วซือหรานตกตะล ง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเจ้าถึงไม่แน่ใจ?”“พี่สาวจั๋ว ท่านรู้ไหมว่าการหลอมกระบี่ตระกูลของตระกุลเฟิง...เป็นเรื่องของคนเพียงคนเดียว?” เฟิงหร่านเอ่ยขึ้น “ตามหลักการ เรื่องอย่างกระบี่ตระกูล อันที่จริงหลอมตีออกมาในฐานะอาวุธวิญญาณก็พอแล้ว แต่ว่าของตระกูลเฟิงกลับตีหลอมออกมา..เป็นภาชนะวิญญาณ”จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเฟิงหร่าน ม่านตานางหดลงจ้องเฟิงหร่าน “ดังนั้นความหมายของเจ้าคือ...”เพราะการหลอมภาชนะวิญญาณ จำเป็นต้องใช้พลังดวงวิญญาณของเจ้าของภาชนะวิญญาณและพลังดวงวิญยาณเดิมทีก็เป็นของที่สำคัญอย่างมาก แต่ว่าเหล่าคนในตระกูลที่เชื่อในตระกูลเหล่านั้น ล้วนรู้สึกว่ามานำพลังดวงวิญญาณส่วนหนึ่งของตนเอง มาผนึกไว้ในสถานที่ที่ลึกลับที่สุดอย่างสวนหลอมกระบี่ของตระกูล ถือว่าปลอดภัยและมั่นคงพวกเขาไม่รู้สึกว่ามีอันตรายใด พวกเขายินยอมพร้อมใจนำพล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 625

    นี่ถึงจะเป็นสาเหตุที่เฟิงหร่านหวาดกลัวจั๋วซือหรานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามออกมาว่า “แล้วเจ้าล่ะ?”เฟิงหร่านยิ้ม ยิ้มอย่างขมขื่น แสดงออกมาอย่างแจ่มชัดว่าอะไรคือการยิ้มที่ดูแล้วน่าเกลียดกว่าร้องไห้“ข้า? ข้ายังไม่รู้ว่าข้าโชคดีหรือว่าโชคร้าย” เฟิงหร่านมองจั๋วซ์อหราน “ในรุ่นเดียวกัน ข้ากับพี่ชาย เกรงว่าจะเป็นสองคนที่ไม่ได้ถูกผลึกพลังดวงวิญญาณเอาไว้ในสุสานกระบี่”“โอ๋? เพราอะไรกัน?” จั๋วซือหรานประหลาดใจหน่อยๆ ต่อให้เฟิงหร่านเป็นปลาที่หลุดรอดออกมาจากในตาข่าย ตระกูลเฟิงจะไม่สนใจมันก็เรื่องนึง แต่นี่กระทั่งเฟิงเหยียนก็...?เฟิงหร่านพยักหน้า “ข้ากับพี่ชายเป็นสองคนในรุ่นเดียวกันที่ไม่ได้ถูกผนึกพลังดวงวิญญาณไว้ ไม่ได้สร้างการสื่อสารกับดวงวิญญาณกับกระบี่ประจำตระกูล กระบี่ประจำตระกูลของพวกเราไม่ใช่ภาชนะวิญญาณ เป็นเพียงอาวุธวิญญาณเท่านั้น”“และเพราะข้าดวงดี ที่ได้ไปรับกระบี่วันเดียวกับพี่ชาย ตามหลักการแล้ว วันที่รับกระบี่ จำเป็นต้องมีการสื่อสารกับดวงวิญญาณ หรือก็คือ...ต้องผนึกพลังดวงวิญญาณบางส่วนเข้าไปในหินวิญญาณ แล้ววางเก็บรักษาไว้ที่สวนหลอมกระบี่”เฟิงหร่านตาเป็นประกาย “แต่ว่า! ดวงวิญญ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 626

    เฟิงหร่านสูดหายใจลึกไปสองที เหมือนเป็นการปรับอารมณ์จั๋วซือหรานรู้สึกว่าแม่นางคนนี้เหมือนจะมีท่าทีที่จริงจังต่ออาหารอย่างมาก พยายามปรับอารมณ์ให้ดีก่อนแล้วค่อยกิน ราวกับว่า ไม่อยากให้อารมณ์ที่ไม่ดีของตนเองส่งผลกระทบกับความสุขในการกินอย่างไรอย่างนั้นหลังจากรอจนกินหมด จั๋วซือหรานจึงลุกขึ้นยืน เอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะ วันนี้ข้าอยู่เล่นกับเจ้าไม่ได้แล้ว ยังมีเรื่องต้องไปทำอีก...”จั๋วซือหรานเหลือบมองเฟิงหร่านผาดหนึ่งไม่รู้เพราะอะไร เฟิงหร่านจู่ๆ ก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีกับเฟิงหร่าน “พี่ พี่สาวจั๋ว...”จั๋วซือหรานจ้องนางอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “ตระกูลเฟิงเรียกเจ้าเข้ามาเป็นสายลับ ต้องรู้สึกแน่นอนว่าคนที่มีนิสัยอย่างข้า จะมีวันไหนที่เชื่อเจ้า ดังนั้น...”เฟิงหร่านปิดหน้าตนเอง “จะโดนอัดอีกแล้วหรือ?” รอยปูดบวมบนหน้านางยังไม่ยุบเลยนะ ต่อให้สายเลือดตระกูลเฟิงจะมีคุณสมบัติแข็งแกร่งก็เถอะ จะให้รอยช้ำนั้นหายไปยังต้องใช้ถึงสองวันเลยจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจ็บเสียหน่อย”“แต่มันก็ดูไม่ดีนี่นา” เฟิงหร่านตอบเสียงอ่อยจั๋วซือหรานจ้องมองเฟิงหร่านเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง เฟิงหร่านกลั้นหายใจ พี่ส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 627

    มีคำบอกเล่าของเฟิงหรานที่เป็น ‘สายลับสองหน้า’ เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเพียงไม่นานก็รู้ว่าจั๋วซือหรานถูกหอจันทร์เงินเพ่งเล็งอยู่ กำลังจะไปจัดการเรื่องไกล่เกลี่ยตัดสินใหม่“นางนี่มัน...ศัตรูเยอะจริงๆ ไม่ได้หยุดได้หย่อนกันเลย” มีผู้อาวุโสคนหนึ่งหัวเราะเย็นชาเอ่ยขึ้นเฟิงหร่านก้มหน้ายืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดกับคำพูดนี้ของผู้อาวุโสในใจเฟิงหร่านคิดเงียบๆ: นั่นไม่ใช่ว่าถูกบีบออกมาหรือไรกัน? ยิ่งไปกว่านั้น พี่สาวจั๋วเองก็มีความสามารถ ถึงไม่เคยพ่ายแพ้เลยแม้จะมีศัตรูมากขนาดนี้จั๋วซือหรานพาฝูซูออกนอกเมืองไปด้วยกันฝูซูมองเส้นทางนี้แล้วรู้สึกแปลกประหลาด “คุณหนู ไม่ใช่จะไปตลาดมืดหรือ?”“จะรีบไปทำไม ออกจากเมืองก่อนสักรอบหนึ่ง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น เองหน้าเหลือบมองฝูซู ถามขึ้นว่า “ฝูซางเป็นอย่างไรบ้าง?”“พี่สาวดีขึ้นมากแล้ว” ฝูซูใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาดูท่าอาการบาดเจ็บของฝูซางคงจะดีขึ้นมากแล้วแน่นอน ไม่เช่นนั้นชายหนุ่มที่มีอารมณ์อะไรนิดหน่อยก็เขียนแปะอยู่บนหน้าคนนี้ คงจะยิ้มไม่ออกแน่ๆ“ต้องขอบคุณคุณหนู” ฝูซูผ่อนใจโล่งออกมาถ้าไม่ใช่ตอนที่คุณหนูกำลังเป็นที่สนอกสนใจของคนทุกคน ให้พี่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 628

    จากนั้นจึงเห็นคุณหนูของตนเองเป่าปาก!เสียงนั้นทั้งกังวานทั้งมีพลังทะลุทะลวง ราวกับชั่วพริบตาเดียวก็ส่งออกไปพื้นที่ไกลแสนไกลได้อย่างไรอย่างนั้นจากนั้น ฝูซูจึงมองเห็น...ไม่สิ พูดให้ถูกคือน่าจะได้ยินเสียงมาก่อนเขาได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง ราวกับขานรับคุณหนู และหลังจากเสียงเป่าปากของคุณหนูดังขึ้นไม่นานเสียงหอนหมาป่าตัวหนึ่ง...ก็ดังแว่วเข้ามาฝูซูเดิมทีไม่ใช่คนที่ขี้กลัว ถึงอย่างไรนี่ก็นอกเมืองนะ ต่อให้อยู่บนถนนทางการ ก็ยังไม่ใช่ในเมืองอยู่ดี เดิมทีก็มีโอกาสเจอกับพวกสัตว์ป่าอยู่แล้วแต่ว่า เพียงไม่นานฝูซูก็เห็นเงาร่างหนึ่ง ปรากฏขึ้นไกลๆ จากนั้นก็พุ่งเข้ามาทางนี้อย่างดุดันร่างขนสีเทาขาวร่างหนึ่ง พุ่งเข้ามาตามการวิ่งทะยาน รูปร่างนั้น...ฝูซูหวาดหวั่นขึ้นมาทันทีนั่นไม่ใช่หมาป่า!พูดให้ถูกคือ นั่นไม่ใช่หมาป่าธรรมดา!“นั่นมัน...” เสียงของฝูซูสั่นพร่าจั๋วซือหรานเอ่ยตอบ “ราชาหมาป่าน้ำแข็ง”ฝูซูหน้าขาวซีด นั่นคือราชาหมาป่าหรือ!ยิ่งไปกว่านั้นด้านหลังราชาหมาป่า ยังมีหมาป่าน้ำแข็งที่รูปร่างเล็กลงหน่อยอีกตัวหนึ่งตามมาด้วย“คุณหนู ท่าน...คงไม่ใช่ว่าท่านเรียกมาหรอกใช่ไหม?” ฝูซูแม้จะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 629

    ฝูซูตกใจแทบแย่!ทั้งที่ใต้เท้าเขาเหมือนกับกลายเป็นฝ้ายไปแล้วแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับมีพลังท่วมท้นขึ้นมาทันทีพุ่งเข้ามาขวางเบื้องหน้าจั๋วซือหรานในใจกลัวแทบขาดใจ กระทั่งตายังหลับปี๋แต่กลับไม่มีความเจ็บปวดอย่างที่คาดการณ์ไว้ฝูซูตอนนี้จึงลืมตาขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และก็ได้เห็น ว่าหมาป่าน้ำแข็งที่ดุร้ายตัวนั้น เหมือนในที่สุดจะสงบลงมาแล้วแม้ท่าทางจะยังคงดูระแวดระวัง แต่ก็ไม่ได้กราดเกรี้ยวเหมือนก่อนหน้านี้ส่วนคุณหนู...ฝูซูกลอกตามองไปทางคุณหนู ตอนนี้จึงเพิ่งเห็น ว่าคุณหนูที่เดิมทีควรจะถูกตนเองบังไว้ด้านหลัง เวลานี้กลับมาอยู่ข้างกายตนเองเสียอย่างนั้นสายตานางจ้องเขม็งไปที่หมาป่าน้ำแข็งตัวนั้น สายตาของนางเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา“อย่างนี้นี่เอง...”ฝูซูได้ยินคุณหนูเอ่ยเสียงต่ำขึ้นคำหนึ่ง เขากำลังคิดจะถามอะไร ก็เห็นคุณหนูโค้งตัวลงลูบบนหัวหมาป่าน้ำแข็งตัวนี้ เอ่ยต่อว่า “ที่แท้เจ้าก็ตั้งท้องอยู่สินะ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังตัวขนาดนี้...”ฝูซูกระพริบตาปริบๆ และก็กระพริบตาไปอีก ครู่หนึ่งจึงตั้งตัวกลับมาได้ พูดขึ้นว่า “คุณหนู นี่ท่านรักษากระทั่งสัตว์ประหลาดเลยหรือ?! นี่...นี่กำลัง...กำล

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1085

    หัวหน้าคนคุ้มกันถอนหายใจออกมาเบาๆ "เป็นข้าที่เลินเล่อเอง ตอนที่แม่นางเข้าเมืองข้าลืมเตือนแม่นาง ว่าในเมืองหยางนี้มีเจ้าถิ่นอยู่""ถ้าหากไปเจอเข้า เลี่ยงไว้หน่อยก็จะดี ถึงอย่างไรแม่นางก็ไม่ได้คิดจะอยู่นานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอกับเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น แม่นางมาจากเมืองหลวง คิดว่าก็น่าจะเข้าใจ ว่ามันจะมีพวกคน...ที่เหมือนกับพวกคางคงอะไรแบบนั้น" หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ คางคกเวลาปีนขึ้นมาหลังเท้า ต่อให้ไม่กัดคน ก็ยังน่าขยะแขยงจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น "ตระกูลเหอหรือ?"หัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้า "ตระกูลเหอขอรับ"เขาควรจะคิดถึงตั้งนานแล้ว ว่าคนตรงหน้าคนนี้ ตอนอยู่ที่เมืองหลวง ก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหยางเลยคิดๆ แล้วก็ใช่ คนตรงหน้าคนนี้คือคนที่ไม่เห็นห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงในสายตา เป็นหญิงสาวที่ถูกตระกูลขับไล่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสมาเชิญให้กลับตระกูล...คนเช่นนี้ จะมาหวาดกลัวตระกูลเหอในเมืองหยางได้อย่างไรกันแต่หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงจดจำบุญคุณที่จั๋วซือหรานมีต่อค่ายคุ้มกันและท่านแม่ทัพ ดังนั้น ไม่ว่าจั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1084

    จั๋วซือหรานชูเข็มในมือขึ้น เอ่ยว่า "สมอง"จากนั้นก็ใช้เข็มชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"ดีมาก ตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย!ไม่ว่าจะแมงมุมน้อยหรือพวกก้อนเนื้อ ตอนนี้ก็น่าจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ลิงโลดของจั๋วซือหรานแล้วเพราะตาของนางเปล่งประกายมาก!จากนั้นนางจึงชูเข็มในมือขึ้นอีกครั้ง "สมอง"ชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"หลังจากพูดซ้ำเช่นนี้ไปหลายรอบ ตอนที่แมงมุมน้อยกับพวกก้อนเนื้อทวนซ้ำคำพูดกับท่าทางของนางได้การเคลื่อนไหวของนางในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง!นางบีบขนมถั่วแดงไว้ในมือ เอ่ยขึ้นว่า "สมอง""เอ๋?" ในดวงตาเล็กๆ ของขนมถั่วแดงเบิกกว้างสงสัย ไม่ใช่เข็มนั่นที่เป็นสมองหรือ?จากนั้นนายท่านก้ดึงไหมกู่ของมันออกมาหลายเส้น เอ่ยขึ้นว่า "ระบบประสาท"จั๋วซือหรานตาเป็นประกายจนเหมือนดวงดาว "ไม่ต้องอธิบายแล้ว" นางหัวเราะขึ้นมา "ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ อัจฉริยะ"เหล่าก้อนเนื้อันที่จริงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายท่นา แต่สัมผัสได้ถึงอารมณ์เบิกบานของนายท่าน พวกมันก็รู้สึกดีใจตามขึ้นมาแมงมุมน้อยเหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1083

    นิ้วของจั๋วซือหรานมีแสงหยกครบอยู่ชั้นหนึ่ง ยื่นตรงไปยังเข็มยาวสีดำที่ปักอยู่ตรงท้ายทอยของหุ่นเชิดความมืดเล่มนั้นขนมชาเขียวอยู่ข้างหูนาง เอ่ยขึ้นอย่างกังวล "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อันตรายมากเลย...ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ขนมชาเขียวไม่ได้ร่าเริงเหมือนขนมถั่วแดง น่าจะเพราะมันมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัวดังนั้นการที่มันพูดเช่นนี้ จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกใจมาก"อื๋อ? ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?" จั๋วซือหรานมองไปทางมันขนมชาเขียวส่ายหัว เพราพวกมันล้วนเป็นก้อนเนื้อ พูดว่าส่ายหัว อันที่จริงก็คือก็โยกไปมาของครึ่งท่อนบนขนมชาเขียวบอกว่า "ข้าเองก็บอกไม่ถูก แค่รู้สึก ว่ามันเย็นเยือกมาก""เย็นเยือก..." จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดนี้ของขนมชาเขียวจั๋วซือหรานรู้ เพราะขนมชาเขียวมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างฉับไวกับสิ่งที่เย็นเยียบยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดความมืดคนนี้กับอักขระคำสาปบนตัวเหล่านั้น จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งที่มีพลังหยางเลยในใจจั๋วซือหรานคิดอะไรไว้บ้างแล้ว แสงหยกบนมือนางค่อยๆ สลายไป ค่อยๆ เปล่งแสงสีสันสวยงาม และมีความร้อนเหมือนเปลวไฟขึ้นมานางควบร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1082

    แต่อันที่จริงด้านในมีโพรงสวรรค์อยู่สมบัติที่นางสะสมมาจากชาติที่แล้วและชาตินี้ ห้องคลังก็ล้วนอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งสิ้นคลังของนางพูดได้ว่าใหญ่โตเอามากๆ กระทั่งคลังยังถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วย คลังยา คลังอาวุธ คลังเสบียงอาหารประจำวัน คลังของจิปาถะเป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีห้องหลอมสกัดยาของนางด้วย...อันที่จริงในชาติที่แล้ว มิติห้องหลอมสกัดยานี้ไม่ได้เอามาใช้หลอมยา แต่บางครั้งนางนำมาใช้เป็นการทดลองยาอะไรพวกนี้พอมาชาตินี้ ก็นำมาใช้หลอมยาสกัดยา ก็ยังถือว่าตรงสายงานเฉพาะทางอยู่ ไม่เสียเปล่าแล้วยังมีห้องเพาะเลี้ยงของตนเองด้วย ตอนนั้นตั้งใจจะมาเพาะเลี้ยงพวกของที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ พวกเห็ดอะไรทำนองนี้ในมิติของนาง ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่ง พวกพืชเองก็ปลูกแบบสะเปะสะปะแต่ว่าพวกเห็ดมันคือเชื้อราจริงๆ อยู่ด้านนอกก็ปลูกไม่ค่อยโต ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงจงใจสร้างห้องเพาะขึ้นมาโดยเฉพาะเพียงแต่ตอนนี้ยังว่างอยู่จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้โยนหุ่นเชิดความมืดเข้ามาในห้องเพาะปลูกนี้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ มันไม่อยู่ด้านในแล้วถ้าตามที่แมงมุมน้อยว่า มันหลบอยู่ที่ด้านหลังของบ้านจั๋วซือหรานเดินเข้าไป ยื่นหน้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1081

    "ดังนั้นจึงมาลงมือกับเจ้าหรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางแมงมุมน้อย "ถึงอย่างไรพอพูดขึ้นมา เจ้าเองก็ก็เป็นสิ่งมีพิษที่หาได้ยากด้วยนี่ แล้วยังเป็นระดับราชาสัตว์ด้วย ถ้าเขาเสพติดพิษขึ้นมาด้วยคุณสมบัติร่างกายแบบนั้นจริงล่ะก็..."จั๋วซือหรานตบเบาๆ ลงไปบนแขนเคียวของราชาแมงมุมหน้าผี "เจ้าเองก็ตัวใหญ่ขนาดนี้ ถือเป็นของบำรุงที่ไม่เลยเลยทีเดียว"จั๋วซือหรานก็เหมือนตระหนักได้ถึงแก่นแท้เรื่องราวในชั่วพริบตาราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินการคาดเดากับการวิเคราะห์ของจั๋วซือหราน ก็คิดขึ้นมาถึงความเป็นไปได้นี้ พอคิดไปถึงว่าตนเองเกือบถูกคนเอาไปเป็นของบำรุงแล้ว ก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้"ยังดีที่นายท่านช่วยเหลือไว้" แมงมุมน้อยเอ่ยขึ้นแม้จะบอกว่า จั๋วซือหรานเข้าใกล้แก่นแท้ของเรื่องราวไปแล้วในชั่วพริบตานั้น แต่นางก็เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนักนางโบกไม้โบกมือ เอ่ยขึ้นว่า "ช่างเถอะ ไม่มีอะไรน่าคิดเล็กคิดน้อย ด้วยพลังของคนเมื่อครู่นี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ข้าก็ไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก คนแบบนั้น การสู้ให้ตายกันไปข้าง น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร"จั๋วซือหรานพูดไปด้วยพลางสังเกตสภาพของแมงมุมน้อยไปด้วย จากนั้นจึงตบเบาๆ แล้วเอ่ยขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1080

    เจ้าคิดว่าข้าทรยศเจ้า ใช้ประโยชน์จากเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าสูงส่งเต็มประดานักหรือ?! เจ้ามันก็จนตรอกแล้วเท่านั้น!รอให้เจ้าจนตรอกเสียก่อน เพื่อจะมีชีวิตต่อไปเจ้าก็ต้องทรยศคนทั้งหมดเหมือนกัน! เจ้าจะลงหมอบคลานกับพื้นส่ายหางอย่างน่าสงสาร!เจ้าไม่ได้ดีกว่าข้าหรอก! เจ้าก็จะเป็นเหมือนข้า! ถึงอยี่างไร ข้าก็เป็นคนสอนเจ้ามา!"หลงเฉินพูดจบ ก็หัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่งเขาไม่ได้สังเกตเห็นสีตาของเฟิงเหยียน ที่ตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งขึ้นมาพอควรเสียงของเฟิงเหยียนกดลงต่ำมาก แต่กลับหนักแน่น "ข้าไม่มีทางเป็นแบบนั้น"เขาหันกลับไปมองชายหนุ่มที่น่าเศร้าซึ่งพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดในสมองก็อดคิดถึงเรื่องเหล่านั้นสมัยยังเด็กขึ้นมาไม่ได้เสียงที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ นั่งอยู่ใต้ต้นดอกท้อบานสะพรั่ง หลับตาพริ้ม กำลังดื่มชาขาวดอกสาลี่ยิ้มตาหยีบอกกับเขาว่า "เหยียนเอ๋อร์ อันที่จริงเจ้าไม่ต้องพยายามอยากจะเติบโตอยากจะแข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก เพราะพอเติบโตแล้ว...มันไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด คำของข้า รอเจ้าโตแล้วก็จะเข้าใจเอง"ตอนนั้นใบหน้าที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ ค่อยๆ ซ้อนทับกับใบหน้าที่บ้าคล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1079

    สีหน้าหลงเฉินปั้นยากมาก แต่...ไอ้การข่มกันของธาตุนี้เหมือนกับเป็นความสามารถแต่กำเนิด! ควบคุมได้ยากมากดังนั้นในพริบตาที่อุณหภูมิร้อนแรงบนตัวเฟิงเหยียน กับประกายไฟไร้รูปร่างปรากฏขึ้นร่างของหลงเฉินก็เบี่ยงหลบไปอย่างควบคุมไม่ได้เขียนเอ่ยเสียงแข็ง "เจ้า...จะทำอะไร"เฟิงเหยียนเหมือนห่อไว้ด้วยเปลวไฟทั้งตัว ทั้งร่างราวกับเป็นลูกไฟ อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างร้ายกาจแล้วจึงเดินไปด้านหน้าโดยไม่สนใจใครไม่นานนักก็มาถึงตำแหน่งใจกลางหมอกพิษ จึงมองเห็นบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบใจกลางเทียนช่อนั้นมันเป็นเหมือนกับชื่อเลย มีเจ็ดดอก ใบเจ็ดใบ ทุกดอกล้วนเป็นสีม่วง เกสรสีเหลืองยาวมาก ราวกับเป็นเทียนแล่มหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นมันบานอยู่ในบ่อน้ำเล็กๆ บ่อน้ำยังใหญ่ไม่เท่าใบหน้าเลย แต่ของเหลวที่อยู่ด้านใน ดูแล้วกลับเป็นสีม่วงเข้ม!และเจ้าของเหลวสีม่วงเข้มเหล่านี้ พอเดือดระเหย แล้วผสมเข้ากับความชื่นในอากาศของป่าทวนแสง นานวันเข้าจึงกลายเป็นหมอกพิษที่เข้มข้นขึ้น"ที่แท้ท่านก็คอยคุ้มครองเจ้าสิ่งนี้นี่เอง" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งหลังจากนั้นจึงยื่นมือไปทางบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนช่อนั้น"หยุดนะ!" หลงเฉินตะโก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1078

    หลงเฉินเนื่องจากร่างกายแบกพลังมังกรหนามม่วงไว้ แต่สิ่งที่ต้องนำมาสะกดนั้นตรงข้ามกับเฟิงเหยียนหลงเฉินเป็นประเภทที่ต้องพึ่งพาคุณสมบัติต่อพิษ ถ้าหากไม่มีการหาสิ่งที่พิษ พิษของมังกรหนามม่วงในร่างกายก็จะเริ่มทำร้ายตนเองอันที่จริงถ้าหากจั๋วซือหรานอยู่ที่นี่แล้วมีปฏิกิริยากับเนื้อหาที่เฟิงเหยียนพูดมาล่ะก็ คงจะมีคำจำกัดความให้อย่างรวดเร็วว่า:นี่มันก็เหมือนกับติดยาเสพติดนี่นาสถานการณ์ของหลงเฉินตอนนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ"เพราะที่พรมแดนใต้มีสิ่งมีพิษอยู่มากกว่า" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น "แต่ก่อน บางทีท่านก็หายไประยะหนึ่ง บอกว่าตนเองปิดด่าน หลังจากกลับมาสีหน้ากับสภาพก็ไม่ค่อยสู้ดีนักตอนนี้พอคิดๆ ดู ท่านก็น่าจะไปเอาสิ่งมีพิษมาใช้ประโยชน์กับตัวเองสินะ...ท่านอยู่แค่ในป่านี้ ก็เพราะที่นี่มีหมอกพิษข้าเดาว่าท่านคิดจะสูดรับหมอกพิษเหล่านี้แล้ว ค่อยไปยังใจกลางหมอกพิษเอาสมบัติที่ก่อหมอกพิษหนาแน่นนี้มาใช้ประโยชน์กับตนเองและสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่านลงมือกับสัตว์อสูรของจั๋วเสียวจิ่ว ก็น่าจะเพราะแมงมุมตัวนั้นไปพบกับสมบัติที่ใจกลางหมอกพิษ แล้วกำลังจะเก็บมันมาสินะยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะ แมงมุมตัวนั้นก็เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status