บททั้งหมดของ ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: บทที่ 611 - บทที่ 620

950

บทที่ 611

จุดที่เฟิงหร่านมีปฏิกิริยากลับมาว่าผิดปกติก็คือ...“ถ้าหากข้ากลับไปแล้วไม่เกิดสถานการณ์อะไรขึ้น...มันไม่ใช่ว่าข้าถูกอัดเปล่าๆ ไปหรือไรกัน?!” เฟิงหร่านถลึงตาโตและจึงเห็นสาวงามตรงหน้า ยิ้มจนตาหงส์คู่โค้ง ยิ่งงดงามจนไม่อาจหาสิ่งที่มาเทียบเทียมได้พอใบหน้างามมีรอยยิ้ม มือข้างหนึ่งก็ดึงถุงมือของมืออีกข้าง เพื่อให้ถุงมือกระชับขึ้นอีกหน่อยและเอ่ยว่า “ถือเสียว่า...กินของคนอื่นแล้วปากอ่อนไปแล้วกัน คุณหนูเฟิงสือ ต้องผิดใจกันเสียแล้ว”“อุ๊อ๊าๆๆ...!”......ประตูจวนเฟิง ยังคงเป็นเหมือนเมื่อหลายวันก่อน การป้องกันอยู่ในสถานภาพเข้มงวดรัดกุมองครักษ์ที่หน้าประตู เห็นเงาร่างหนึ่งมาแต่ไกล เดินโซเซโงนเงนเข้ามาจึงตะคอกขึ้นว่า “ใครน่ะ!”รอจนร่างที่โซเซโงนเงนค่อยเดินเข้ามาใกล้ เหล่าองครักษ์จึงเห็นได้ชัดขึ้น“คุณหนูสิบ? ท่านกลับมาแล้ว...” องครักษ์เอ่ยขึ้น “แล้วทำไมท่านถึงเป็นเช่นนี้ไปได้?”เฟิงหร่านใบหน้าบวมปูดเขียวช้ำ สีหน้าอึมครึมจั๋วจิ่วนั่น! ลงมือได้...ไม่เจ็บเลยสักนิด!ในใจเฟิงหร่านไม่ได้จงใจพูดแขวะแดกดันอะไร แต่ว่า...มันไม่เจ็บจริงๆ!เฟิงหร่านเองก็ไม่รู้ว่าถุงมือของนางนั้นมีคุณสมบั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 612

ก่อนหน้านี้ตอนที่จั๋วซือหรานได้ยินเรื่องตระกูลเฟิง ก็ยังเคยรู้สึกเสียอกเสียดายอยู่ทว่าตอนนี้...นางรู้สึกแค่ว่าตระกูลเฟิงเป็นพวกโง่เง่าตอนนี้เฟิงหร่านยืนอยู่หน้าประตูตระกูลเฟิงองครักษ์พอเห็นนางไม่ตอบ จึงถามตามขึ้นมาคำหนึ่ง “คุณหนูสิบ ท่านทำไมจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปกัน?”เฟิงหร่านเงยหน้าเหลือบมององครักษ์ “ข้าเป็นอย่างไร จำเป็นต้องมารายงานเจ้าด้วยหรือ?”เสียงของนางก็ไม่มีความอ่อนโยนเลย ราวกับว่าลูกหมาน่ารักอ่อนโยนที่อยู่ในเรือนจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ตอนนี้กลับกลายเป็นสุนัขเฝ้าบ้านดุร้ายตัวหนึ่งที่แทบจะแยกเขี้ยวออกมาแล้วองครักษ์พอได้ยินเสียงเย็นชาของนางก็งงงันไป เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้านอบน้อม “ข้าน้อยมิกล้า เพียงแต่...”องครักษ์หยุดลงครู่หนึ่ง เอ่ยต่อว่า “เหล่าผู้อาวุโสหวังว่าหลังจากคุณหนูสิบกลับมาจากเรือนของแม่นางจั๋วจิ่วแล้ว จะตรงไปพบพวกเขาที่ห้องโถงบรรพบุรุษเลย”สีหน้าเฟิงหร่านไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด น่าจะเพราะฟ้ามืดแล้ว ดังนั้นเหล่าองครักษ์จึงไม่เห็นประกายประหลาดที่แวบผ่านด้วยตาของเฟิงหร่าน“รู้แล้ว” เฟิงหร่านเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา แบกร่างโซซัดโซเซเดินเข้าไปหลังจากเข้าไประยะหนึ่ง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 613

พอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่าน จั๋วซือหร่านก็ถอนใจ “ใจอ่อนสิ อ่อนจนเป็นก้อนโคลนไปแล้ว”“ถ้าอย่างนั้น...” เฟิงหร่านกัดริมฝีปากยังไม่ทันที่ตนเองจะได้เอ่ยอะไร นางก็เห็นว่ารอยยิ้มบนสีหน้าจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ มลายหายสิ้นไปแล้ว ความลึกซึ้งเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มในดวงตานั่น ก็เหลือเพียงความเย็นชา“แต่ว่าพวกเจ้าทำไมจึงรู้สึกว่า พอข้าใจอ่อนกับเฟิงเหยียน แล้วต้องใจอ่อนกับพวกเจ้าด้วย?”เสียงของจั๋วซือหรานเย็นยะเยือก “ต่อให้พวกตระกูลขุนนางรู้ว่าข้า ‘รักลึกซึ้ง’ ต่อเฟิงเหยียน นั่นมันก็แค่กับเฟิงเหยียนเท่านั้น พวกเขาใช้งานเฟิงเหยียนจนเป็นเช่นนี้ คงไม่ได้คิดว่าข้าจะยอมรับพวกเขาหรอกใช่ไหม”เฟิงหร่านรู้สึกว่าคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานมีเหตุผล จึงพยักหน้าเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นเจ้าคิดจะให้ข้าทำอย่างไร”จั๋วซือหรานหรี่ตาลง เลิกคิ้วขึ้นยิ้ม “เจ้าก็แค่...”......ในโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษเฟิงหร่านคุกเข่าอยู่ในนั้น ใบหน้าขาวซีด มุมปากสั่นระริกกลุ่มผู้อาวุโสจ้องมองนาง “เฟิงสือ เอาคำพูดของเจ้าเมื่อครู่ เล่าออกมาอีกครั้ง”เฟิงหร่านปากสั่น “เหล่าผู้อาวุโสโปรดระงับความโกรธด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าไม่ได้ตั้งใจจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 614

ในใจเฟิงหร่านบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร แค่รู้สึกว่า...ตนเองเหมือนจะเคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อนอย่างไรอย่างนั้นเพราะตอนที่อยู่ในเรือนพี่สาวจั๋วก่อนหน้านี้ พี่สาวจั๋วก็ให้นางได้ซ้อมไว้แล้วล่วงหน้าเฟิงหร่านเงยขึ้นมองเหล่าผู้อาวุโส ด้วยท่าทีขึงขัง เอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ “จั๋วจิ่วบอกว่า ตระกูลเฟิงครั้งนี้กระทำการอย่างไม่สำนึกบุญคุณ ไม่เพียงแต่ร่วมมือกับตระกูลจั๋วตระกูลเหยียนใส่ร้ายป้ายสีนางเรื่องโรคระบาด แต่ยังซ่อนตัวพี่ชายเอาไว้ ไม่ยอมให้นางได้พบเจอ”“แล้วยังส่งข้าไปลอบโจมตีนางอีก เรื่องเหล่านี้ นางไม่อาจยอมรับได้ จะแตกหักขั้นเด็ดขาดกับตระกูลเฟิง”เหล่าผู้อาวุโสพอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่านก็งงงันไปแล้ว “นางบอกว่าอะไรนะ?”“นางบอกว่าพวกเราซ่อนตัวเหยียนเอ๋อร์อย่างนั้นหรือ?”“นาง...”“เหยียนเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าถูกนางซ่อนตัวเอาไว้หรือไรกัน!”“แล้วนางทำไมถึงยังใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นก่อนล่ะ!”เฟิงหร่านตอนนี้ก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียงเอ่ยต่อว่า “ข้าไม่รู้ นางบอกกับข้าเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังบอกว่า...”เฟิงหร่านมองไปทางเหล่าผู้อาวุโส ถามขึ้นว่า “นางให้ข้ามาถามเหล่าผู้อาวุโส ว่ายังจำสัญญาณที่นางตั้งข
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 615

เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงก็หัวร้อนหน้าไหม้กันขึ้นมาเฟิงหร่านมอง และรอตอนที่รู้สึกว่าเวลาใกล้เคียงแล้ว จึงค่อยๆ ยกมือขึ้น เอ่ยปากว่า “เหล่าผู้อาวุโส เพราะ...เพราะว่าข้าถูกนางควบคุมไป จนคายความลับออกมามากมายอย่างควบคุมไม่อยู่ ในนี้ยังรวมถึง เรื่องที่พี่ชายได้รับการลงโทษจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย...”คำพูดของเฟิงหร่าน ทำเอาผู้อาวุโสทั้งหลายเงียบกันลงมาทันทีพวกเขารู้เรื่องที่เฟิงหร่านไปจวนของจั๋วซือหรานนานแล้ว เดิมทีพวกเขาคิดว่าเฟิงหร่านน่าจะไปบอกความลับกับจั๋วซือหรานเพราะเฟิงหร่านเทิดทูนศรัทธาเฟิงเหยียนมาแต่ไหนแต่ไร จุดนี้ในตระกูลไม่ใช่ความลับอะไรยิ่งไปกว่านั้นเฟิงหร่านเนื่องจากที่พ่อของนางทำงานในโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษ คิดแล้วจึงน่าจะเข้าใจเรื่องการที่เฟิงเหยียนถูกลงโทษโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยเหล่าผู้อาวุโสคำนวณไว้แล้วถ้าเฟิงหร่านออกไป จะต้องนำความลับไปบอกแน่ใครจะรู้ ว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้เดินตามหมากที่พวกเขาวางเอาไว้เลย!แต่กลับไปทะเลาะกับจั๋วจิ่วมาอีก?! สมองคิดอะไรอยู่กันแน่...แต่ดูแล้ว ก็เหมือนว่าข้อมูลที่จะให้จั๋วจิ่วได้รู้ ก็ถูกจั๋วจิ่วรับรู้ไปแล้วเช่นกันว่าตามหลัก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 616

ผลลัพธ์น่าจะไม่ดีขนาดนี้ แต่ตอนนี้เป็นเฟิงฉี เช่นนั้นผลลัพธ์จึง...เฟิงหร่านพอคิดเช่นนี้ นิ่งงันคำนวณในใจ เวลาน่าจะใกล้เคียงแล้วพี่สาวจั๋วจิ่วบอกว่าประมาณหนึ่งเค่อก็จะบังเกิดผลในใจเฟิงหร่านเพิ่งจะคิด ก็เห็นสีหน้าของผู้อาวุโสเฟิงฉีเปลี่ยนไปแล้วดวงตาของเขาถลึงโต ยางกลับว่าจะทะลักออกมาจากในเบ้าตาอย่างไรอย่างนั้น!บนหน้าผาก บนคอ เส้นเลือดปูดโปน พูดอะไรออกมาไม่ออกแม้แต่คำเดียว จากแก้มที่ตึงก็มองออกไม่ยาก เขาขบฟันแน่นเหมือนกำลังทนความทุกข์ทรมานแสนสาหัส!ผู้อาวุโสเฟิงฮ่วนที่อยู่ข้างๆ ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของเขาแล้ว“เฟิงฉี เจ้าเป็นอะไร? เป็นอะไรไหม?” เฟิงฮ่วนถามขึ้นแต่เสียงเขายังไม่ทันขาด เฟิงฉีก็ยืนไม่อยู่แล้ว คุกเข่าลงเสียงดังตุบ!ผู้อาวุโสคนอื่นก็ระแวดระวังขึ้นมาทันที พวกเขาไม่รู้ว่าเฟิงฉีทำไมจึงกลายเป็นเช่นนี้แค่คิดว่า น่าจะเป็นเพราะโรคระบาดกู่ก่อนหน้านี้กระตุ้นให้เกิดขึ้น แค่คิดว่าเฟิงฉีน่าจะกำลังจะกลายพันธุ์!กระทั่งมีคนเอามือทาบไว้บนด้ามกระบี่ตระกูลแล้ว ตั้งท่าเตรียมรับมือไว้ตลอดเวลาส่วนเฟิงฉี ในที่สุดก็หอบหายใจถี่ท่ามกลางความทรมานแสนสาหัสนั่น ดวงตาที่แดงก่ำจากควา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 617

“อะไรนะ?!” เหล่าผู้อาวุโสตกตะลึงกันขึ้นมาเฟิงหร่านโขกศีรษะ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว “ข้า ข้าเดิมทีก็ไม่รู้...ไม่รู้ว่าเป็นอะไร นาง นางบอกว่ารอให้ถึงเวลา ข้าก็จะรู้ว่ามันมีไว้ทำอะไร...ข้าคิด ข้าคิดว่าตอนนี้ นี่คือเวลาที่นางบอกไว้กระมัง?”“รีบ...รีบ...” เฟิงฉีนอนตะแคงอยู่บนพื้น มุมปากมีน้ำลายฟูมออกมาแล้ว ดวงตาเริ่มพร่ามัว “ให้..รีบ...ให้ข้า...”เฟิงหร่านรีบลุกขึ้น เดินโซซัดโซเซนำยาไปมอบให้ใครจะคิดว่าพอเท้าไม่มั่นคง จึงคะมำตัวไปด้านหน้า ล้มคว่ำลงไป!ขวดยาในมือเองก็แตกกระจาย ผงยาในขวดก็กระจายลงบนพื้นเฟิงหร่านเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสลด “ขอโทษขอโทษ ข้า ข้าของข้ามันชาจนยืนไม่อยู่...”ไม่มีคนโทษนาง คนทั้งหมดล้วนตกตะลึงกับฉากตรงหน้าเฟิงฉีที่หยิ่งทะนงมาแต่ไหนแต่ไร เฟิงฮ่วนที่ชอบกู่ก้องเรื่องความสง่างาม ส่วนเฟิงฉีใส่ใจกับภาพลักษณ์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเวลานี้กลับทิ้งภาพลักษณ์ไปจนหมด เลื้อยตัวไปตามพื้น เหมือนคนใกล้ตายที่ได้พบเข้ากับน้ำทิพย์ชโลมใจใช้ลิ้นที่ยังเหมือนขยับได้ จัดการเลียผงยาที่อยู่บนพื้นทีละนิดๆ ต่อหน้าต่อตาคนทุกคนท่าทางหกล้มของเฟิงหร่านนี้ไม่ได้จงใจเจตนาแต่นางก็ไม่คาดไม่ฝันเหมือ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 618

“...คนไหนก็ได้ทั้งนั้น เฟิงหร่าน ก็เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้ข้าจัดการพวกตระกูลเฟิง ตระกูลจั๋วกับตระกูลเหยียน พวกที่เข้ามากำเริบเสิบสานที่ประตูบ้านข้า”“พวกเขามาร้องอย่างเวทนาหน้าบ้านข้า ร้องห่มร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลนอง กระทั่งขี้เยี่ยวราดออกมาอย่างคุมไม่อยู่ หลังจากนั้น คนอื่นๆ ก็เปลี่ยนเป็นว่าง่ายขึ้นทันที”“เฟิงหร่าน เจ้าต้องรู้ ว่าไม่มีอะไรที่จะมีพลังคุกคามไปมากกว่าเสียงกรีดร้องของพวกเดียวกันแล้ว”เฟิงหร่านคิดถึงบทสนทนากับจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้และขณะเดียวกัน นางเองก็มองเห็นความหวาดกลัวในสีหน้าของผู้อาวุโสคนอื่นแล้ว โดยเฉพาะหน้าของผู้อาวุโสทั้งสี่คนที่จั๋วซือหรานมีสัญญาณจิตวิญญาณแห่งคำพูดด้วยอย่างน้อย พวกเขาก็ไม่ได้ก่นด่าตบจนที่รองแขนพังเหมือนเฟิงฉีก่อนหน้านี้เหมือนกับว่า เปลี่ยนลงมาเย็นชาในพริบตา“แล้วตอนนี้ จะทำอย่างไร?”“หญิงสาวคนนี้ไม่ได้กำเริบเสิบสานแค่วันสองวันแล้ว การไปยั่วโมโหนางไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเลย”“แต่พวกเราจะไปหาเหยียนเอ๋อร์มาจากที่ไหนให้นางล่ะ? เอาจริงๆ เหยียนเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าถูกนางเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนแล้วหรอกหรือ?”เฟิงฉีหอบหายใจหนัก เอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า “สร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 619

จั๋วซือหรานสอนคำพูดและการกระทำให้กับเฟิงหร่าน เฟิงหร่านก็ทำตามทั้งหมดจากสิ่งที่เกิดขึ้น ในการคาดการณ์ของพี่สาวจั๋ว ผลลัพธ์ที่ต้องการจากคำพูดและการกระทำเหล่านี้ ก็ล้วนสัมฤทธิ์ผลหมดแล้วและตอนนี้ เฟิงหร่านบอกกับตนเอง ว่านี่คือผลลัพธ์จากสิ่งที่นางตัดสินใจ จากสิ่งที่นางพิจารณาแล้วตัวเฟิงหร่านเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรบางทีคงเพราะหลังจากที่ได้สัมผัสกับจั๋วซือหราน ทำให้นางตระหนักถึงความเป็นหญิงของตนเองมากขึ้นกระมัง?แน่นอน เฟิงหร่านไม่รู้ว่าการตระหนักถึงความเป็นผู้หญิงหมายถึงอะไรในตอนนี้ นางรู้สึกขึ้นมาโดยสัญชาตญาณว่าตนเองควรจะทำอะไร ตนเองเหมือนยังทำอะไรได้บ้าง “...ขอเหล่าผู้อาวุโสให้โอกาสข้าด้วย” เสียงของเฟิงหร่านเต็มไปด้วยความยำเกรงและหวาดกลัวมีผู้อาวุโสหลายคนไม่แม้แต่จะมองนาง เหมือนไม่ได้ยินคำพูดของนาง เหมือนว่าคนคนนี้สำหรับพวกเขาแล้วเป็นเพียงแค่อากาศธาตุแต่ก็ยังมีผู้อาวุโส ที่สังเกตเห็นเฟิงหร่านจากคำพูดของนางเสียงของเฟิงฉีเสียงแหบพร่า มีความอ่อนล้าจากการถูกทรมานจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรงยานี้ที่เวินป๋อยวนค้นคว้า เดิมทีคือไร้สีไร้กลิ่น รักษาแผลไม่ได้ รักษาโรคก็ไม่ได้ ทำให้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 620

บ้านของนาง ถือว่าเป็นตระกูลสาขาเดียวกับผู้อาวุโสเฟิงฉี คิดดูแล้ว ก็เป็นเพราะชุบแสงของผู้อาวุโสเฟิงฉี ถึงได้เข้ามาในตระกูล ตามหลักการแล้วคือต้องฟังคำพูดของผู้อาวุโสเฟิงฉีมากที่สุด เชื่อฟังอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ท่านพ่อกลับโต้เถียงผู้อาวุโสเฟิงฉีเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของนางด้วยนิสัยของผู้อาวุโสเฟิงฉี เฟิงหร่านรู้ว่า ท่านพ่อต่อให้จะพูดอีกแค่ไหน ก็คงโดนลงโทษแน่นอน กฏของตระกูลเฟิงเองก็ไม่ได้เบากว่าของตระกูลจั๋วเลยหลังจากที่เฟิงหร่านยั้งคำพูดพ่อของนางไว้ ก็รีบเอ่ยกับเฟิงฉีว่า “ผู้อาวุโสโปรดระงับความโกรธ ท่านพ่อแค่เป็นห่วงลูกสาวจนจิตใจว้าวุ่น หร่านเอ๋อร์ไม่มีความเห็นใดต่อคำพูดของผู้อาวุโส หร่านเอ๋อร์จะไปเอง”เฟิงฉีเดิมทีก็รู้สึกโกรธอยู่ที่พ่อของเฟิงหร่านดื้อรั้น เดิมทีเขาก็เจอเรื่องไม่ดีมาก่อนหน้าแล้ว จึงยิ่งเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นไปอีกแต่ว่าคำพูดของเฟิงหร่านกลับทำให้เขาสงบลงไปไม่น้อยมีคนไม่เข้าใจกับวิธีการของเฟิงฉี“เจ้าให้เด็กสาวคนหนึ่งไปเจรจากับจั๋วจิ่ว แล้วจะเจรจาอะไรมาได้กัน?”เฟิงฉีตอบ “ก็เพราะนางเป็นเด็กสาวคนหนึ่งนี่ล่ะ ถึงจะทำให้จั๋วจิ่วลดการป้องกันลง เจ้านั่นถ้าไม่ลดการป้อง
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
6061626364
...
95
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status