All Chapters of ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: Chapter 601 - Chapter 610

950 Chapters

บทที่ 601

จั๋วซือหรานฟังคำนี้ มองไปทางเขา “จริงหรือเปล่า?”“ก็ไม่มีอะไรไม่ได้เสียหน่อย” เฟิงเหยียนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง “แต่รสชาติก็รับประกันไม่ได้นะ”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง “ไม่เป็นไร ค่อยๆ พัฒนาไป” ข้าเชื่อว่าคนที่ยอดเยี่ยมอย่างท่านอ๋อง หากคิดจะทำอะไรต้องทำได้แน่เสียงลือเสียงเล่าอ้างภายนอก อันที่จริงก็ยังไม่สงบลงเลยใครก็คงคิดไม่ถึง ว่าในเสียงลือเสียงเล่าอ้างภายนอก สองคนที่อยู่ท่ามกลางเสียงข่าวลือนั้น ยังคงนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุขกินข้าวกับเฟิงเหยียนไปพอประมาณแล้ว จั๋วซือหรานจึงจับข้อมือของเขาขึ้นมาเฟิงเหยียนก้มลงมอง มุมปากก็อดเม้มสนิทขึ้นมาไม่ได้จั๋วซือหรานหลังจากจับชีพจรให้เขา คิ้วก็ขมวดเกิดอะไรขึ้น...นางเปลี่ยนไปจับชีพจรอีกข้างหของเฟิงเหยียน คิ้วที่ขมวดก็ไม่ได้ผ่อนคลายลงมาเลยจั๋วซือหรานไม่พูดอะไร แม้ว่านางจะไม่เห็นโรคภัยใดจากในชีพจรของเฟิงเหยียน แต่จากกลับสังเกตได้ว่าร่างกายของเขาอ่อนแอลงกว่าก่อนหน้านี้จากการจับชีพจรของเฟิงเหยียนแต่เนื่องจากสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงนัก ดังนั้นจั๋วซือหรานถึงแม้จะรู้สึกแปลกหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้คิดจะตกใจเกินเหตุ คิดจะสังเกตไปอีกวันสองวันแล้วค
Read more

บทที่ 602

มองตาของนาง เอ่ยเสียงต่ำว่า “หลักการเพี้ยนๆ”แต่ว่าบางครั้ง ก็ต้องมีหลักการเพี้ยนๆ นี้ของนาง ถึงจะทำให้ไม่อึดอัดนักภายใต้สถานการร์ที่ศัตรูล้อมไว้รอบด้านเช่นนี้เฟิงเหยียนเอาเมล็ดพันธุ์ผลหมากรากไม้ผักสวนครัวต่างๆ ที่ให้ฉุนจวินไปเตรียมมาส่งให้กับนาง“ด้านในแบ่งประเภทเอาไว้เรียบร้อย ถ้าหากยังไม่พอ ก็ให้ฉุนจวินไปเตรียมอีกได้” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานชั่งน้ำหนักดุในมือ “พอแล้วล่ะ”คืนนั้น จั๋วซือหรานก็กลับไปที่เรือนของตนเอง ท่านแม่กับน้องชายส่งออกจากเมืองหลวงไปแล้วนางตอนนี้ถือว่าไม่มีเหลือความกังวลใดอีก ดังนั้นนางจึงเดินกลับเรือนของตนเองอย่างไม่ต้องคิดอะไร ไม่มีท่าทีต้องระมัดระวังตัวอะไรอีกแล้วไม่ต้องกลัวว่าใครจะรู้บนหน้านางแทบจะเขียนเอาไว้ว่า...รีบมาหาเรื่องข้าได้แล้ว!เฉวียนคุนกังวลหน่อยๆ เดินวกไปวนมาตรงหน้าจั๋วซือหรานอย่างยังกังวล“คุณหนู ท่านคอยหลบคลื่นลมเหมือนก่อนหน้านี้ดีกว่าไหมน่ะ? แม้ข่าวลือร้ายๆ ของตระกูลเหยียนจะแก้ไขได้แล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ท่ามกลางคลื่นลมนะ เรื่องในจวนท่านไม่ต้องกังวล ให้ข้าจัดการก็พอ”“คนของตระกูลจั๋ว มาเดินวนไปวนมาหน้าบ้านพวกเรา เด็กฉลาดนั่
Read more

บทที่ 603

จั๋วซือหรานแม้จะกลับมาที่เรือน แต่ก็เตรียมตัวไว้แล้วสำหรับคนที่จะมาหาเรื่องนางเรื่องที่ถูกคนมาหาเรื่องกลางดึกดื่นเช่นนี้ นางเองก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอมาก่อน ตอนนั้นจั๋วหรูซินกับท่านจั๋วลิ่ว ก็จ้างมือสังหารจากหอฟ้าดาวมาลอบสังหารนางดังนั้นก่อนนอนจั๋วซือหรานจึงเตรียมการไว้บางส่วนการเตรียมการง่ายๆ“ลูกแก้วมังกรทั้งเจ็ด” ของนาง...วางไว้ตัวหนึ่งบนร่างของชิ่งหมิงเพื่อรักษาอาการป่วยดังนั้นตอนนี้จึงเหลืออยู่หกตัวนางให้หกตัวนี้กางไหมกู่ไว้ในห้องนอน...ต่อให้ไม่ใช่ตาข่ายสวรรค์ อย่างน้อยก็เป็นตาข่ายระวังภัยให้ได้แม้จะไม่ต้องการให้ไหมกู่พวกนี้สร้างความเสียหายอะไร อย่างน้อยก้ญังสามารถคอยตรวจจับได้ตลอดเวลาว่ามีหรือไม่มีคนเพราะว่า จั๋วซือหรานต่อให้ปกติจะระแวดระวังมากอยู่แล้ว แต่ตอนที่อยู่ในมิติแหวนเสวียนเหยียน พอเทียบกับเวลาปกติ ระดับความเฉียบคมจะอ่อนแอลงพอประมาณแต่ว่าพอมีไหมกู่จากทั้งหกตัวนี้ ก็ไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นแล้วดังนั้นจั๋วซือหรานจึงทำงานในมิติอย่างวางใจ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินเพียงแต่ที่ทำให้จั๋วซือหรานคิดไม่ถึงก็คือ ปฏิกิริยาตอนแรกสุด กลับไม่ใช่จากตาข่ายเตือนภัยไหมกู่ทั้งหกตั
Read more

บทที่ 604

เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า “คุณหนูเฟิงสือ เจ้าทำอะไรน่ะ?”จั๋วซือหรานพอเห็นก็จำได้แล้ว คนที่สู้พัวพันอยู่กับเฮยหลิง ก็คือคุณหนูสิบจากตระกูลเฟิง เฟิงหร่านพอคิดๆ แล้ว ก็น่าจะเป็นคนตระกูลเฟิงคนแรกที่ได้เจอ หลังจากที่จั๋วซือหรานข้ามายังโลกนี้จั๋วซือหรานไม่ใช่ไม่เคยคิด ว่าตระกูลเฟิงน่าจะเข้ามาหาเรื่องนาง แต่ที่คิดไม่ถึงคือคนที่เข้ามาหาเรื่องจะเป็นเฟิงหร่านเฉวียนคุนฟังคำนี้แล้วจึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา ว่ากระบี่สั้นที่ไม่ชักออกจากฝักในมือของคนที่สู้กับเฮยหลิงอย่างเต็มที่นั่น คือกระบี่ตระกูลของคนในตระกูลเฟิง!ทั้งสองคนต่อสู้กันจนถึงจุดร้อนแรงสุดแล้วหมัดของเฮยหลิงซัดเข้ามาด้วยพลังที่กระชากภูเขาได้ ส่วนเฟิงหร่านก็สังเกตเห็นท่าทางหมัดนี้ของเฮยหลิง นางกัดฟันกรอด มือที่กุมกระบี่สั้นของตระกูลนั้น ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วพอเห็นว่ากำลังจะชักกระบี่ในตระกูลออกมาตอนนี้เอง ร่างของจั๋วซือหรานก็ไหววูบไปปรากฏตัวระหว่างคนทั้งสองผมสายดำสลวยของนางพัดเบาๆ ข้อมือขาวที่ดูแล้วเหมือนไร้ซึ่งพลังใดๆ เหมือนแค่บิดก็หักแล้วอย่างไรอย่างนั้นนางยกมือขาวขึ้นเบาๆ ซ้ายทีขวาทีนางกระทั่ง! ไม่ได้ใช้แขนทั้งหมดด้วย แต่ใช้เ
Read more

บทที่ 605

จั๋วซือหรานตอนที่ได้ยินนางบอกว่ามาแจ้งข่าวให้ทราบ ก็เลิกคิ้วขึ้นจากนั้นก็ได้ยินความโกรธที่ไม่มีปิดบังในน้ำเสียงของเฟิงหร่าน หญิงสาวคนนี้โมโหได้ค่อนข้างตรงไปตรงมา และไม่มีการเหน็บแนมอะไรทั้งนั้น แต่หน้าก็แดงก่ำไปหมดเสียงแกร๊กดังขึ้น จัดการคาดเข็มขัดกระบี่ตระกูลของตนเองจนเรียบร้อย จากนั้นก็หมุนตัวกระฟัดกระเฟียดเดินออกไปจั๋วซือหรานคิดๆ ยื่นมือไปจับแขนของนางไว้ ไม่ให้นางออกไปเฟิงหร่านชะงักไป น่าจะเพราะถูกทำให้โกรธ แล้วยังถูกการกระทำนี้ของจั๋วซือหรานรั้งไว้อีก อาการโกรธแต่เดิม เวลานี้จึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ มุมปากนางเบ้ออกเล็กน้อย หันไปมองจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจ “ข้าปิดบังที่บ้านแล้วแอบออกมา ยังต้องมาสู้กับเจ้าคนประหลาดนี่ แล้วเจ้ายังมาสงสัยขี้อีก แล้วยังมาดูถูกข้า...”จั๋วซือหรานรู้สึกว่า ถ้าแม่นางคนนี้ยังพูดต่อ น่าจะร้องไห้ออกมาแน่ๆจั๋วซือหรานจนใจ ถอนหายใจออกมาเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า “เป็นข้าที่เข้าใจผิดเอง มืดค่ำขนาดนี้แล้ว เจ้าหิวไหม? ข้ามีของกินบางส่วนเอามากินเป็นมื้อค่ำได้ เจ้ากินไปด้วยแล้วค่อยๆ เล่าออกมาดีไหม?”เฟิงหร่านหลังจากได้ยินคำพูดนี้ก็เริ่มลังเล
Read more

บทที่ 606

“ขอรับ” เฉวียนคุนรับคำ มองไปทางเฮยหลิง เอ่ยขึ้นว่า “เชิญตามข้ามา”หลังจากเฉวียนคุนนำทางเฮยหลิงออกไปจั๋วซือหรานจึงหันกลับมาบอกเฟิงหร่าน “เข้าไปกับข้าเถอะ”เฟิงหร่านมองเฮยหลิงที่ตามเฉวียนคุนออกไป จากนั้นจึงเดินตามจั๋วซือหรานเข้าไปในห้องเฟิงหร่านยู่ปาก ไม่เบิกบานเท่าไรนัก เอ่ยขึ้นเสียงเล็กว่า “ในจวนเจ้ามีผู้ชายตั้งเยอะ...ไม่ค่อยเหมาะไหม? เจ้าไม่กลัวพี่ชายรู้แล้วจะหึงหวงหรือ?”“เขาน่ะนะ?” จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ ไม่ได้โกรธซ้ำยังหัวเราะถามกลับมาเสียด้วยเฟิงหร่านร้องเสียงหลงออกมา “ไม่มีทางหรอก! จะมีใครคนไหนที่ดีกว่าพี่ชายข้าบ้าง? นอกจากเจ้าจะเป็นคนโง่เท่านั้นถึงจะไม่เอาพี่ชายข้า”จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ไม่พูดอะไร แค่ยกมุมปากขึ้นยิ้มๆ หยิบกับข้าวที่เหลือจากการเข้าครัววันนี้ออกมา เดิมทีคิดจะเหลือไว้เป็นมื้อดึกของตนเองเฟิงหร่านอันที่จริงยังอยากจะพูดอะไรอยู่ แต่ก็เหมือนตอบสนองไม่ทัน จ้องมองกับข้าวบนโต๊ะอย่างงงงัน ไม่ค่อยแน่ใจหน่อยๆ ในสายตาก็ถามขึ้นอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เมื่อครู่บนโต๊ะมีกับข้าวพวกนี้อยู่แล้วหรือ?”แม้ว่าตอนที่เข้ามา ความสนใจของนางก็ยังอยู่บนตัวจั๋วซือหรานแ
Read more

บทที่ 607

พอได้ยินเฟิงหรานพูด ในใจจั๋วซือหรานก็เต้นตึกตักคิ้วของนางขมวดขึ้นมา ประสานตากับเฟิงหร่าน ในน้ำเสียงที่นิ่งเฉยมาแต่ไหนแต่ไร เปลี่ยนเป็นตั้งใจขึ้นมา“คำพูดนี้ของเจ้า หมายถึงอะไร” จั๋วซือหรานถามขึ้นเฟิงหร่านเม้มปาก เหมือนกำลังเรียบเรียงคำพูดพอนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นมาว่า “สิ่งเหล่านี้ที่ข้าบอกกับเจ้า เป็นความลับสุดยอดของตระกูลเรา คนมากมายกระทั่งไม่เคยล่วงรู้ สาเหตุที่ข้ารู้ เพราะตำแหน่งพ่อของข้าไม่ได้ต่ำมากนักในตระกูล...”น่าจะเพราะกำลังจะพูดความลับของตระกูล สิ่งนี้สำหรับเฟิงหรานแล้วเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ดังนั้นตอนที่นางพูดถึงจุดนี้จึงหยุดลงมาสูดลมลึกไปทีหนึ่ง หลังจากพ่นออกมายาวๆ จึงเอ่ยต่อว่า “แต่ถ้าจะพูดถึงตำแหน่งฐานะสูงแค่ไหน มันก็ไม่มีหรอก แค่พ่อของข้ามีหน้าที่ภาระที่พิเศษอย่างหนึ่ง”จั๋วซือหรานเห็นเฟิงหร่านขณะที่พูดสิ่งเหล่านี้ด้วยดวงตาหรุบต่ำ เวลานี้กลับเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองนางเฟิงหร่านเอ่ยต่อว่า “พ่อของข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกที่รับผิดชอบดูแลห้องโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษ”“...” จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ว่าห้องโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษน
Read more

บทที่ 608

“ดังนั้น ความหมายของเจ้าก็คือ...” จั๋วซือหรานถาม “ในโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงอยู่” “ใช่แล้ว” เฟิงหร่านพยักหน้า “ดวงใจแห่งหงส์แดง!”จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นมา บอกมาคำหนึ่ง “ฟังแล้วเหมือนไม่ใช่ของธรรมดาเลย จากลักษณะตระกูลเฟิงของพวกเจ้า ไม่ได้เอาเจ้าสิ่งนี้ไปปิดผนึกไว้บนตัวใครหรือ?”เหมือนที่เอาพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงมาผนึกไว้บนตัวเฟิงเหยียน ด้วยหลักการใช้ของให้ได้คุณประโยชน์สูงสุดจั๋วซือหรานมองเห็น ว่าหลังจากที่ตนเองพูดคำนี้ออกมา สีหน้าของเฟิงหร่าน ก็เปลี่ยนเป็นเศร้าสลดขึ้นมากะทันหันจั๋วซือหรานขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไป”เฟิงหร่านตอบ “หวงใจแห่งหงส์แดงกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนั้นต่างกัน พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงก็เป็นเช่นชื่อของมัน เป็นพลังงาน”“แต่ดวงใจแห่งหงส์แดง...”จั๋วซือหรานพอฟังถึงจุดนี้ ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีขึ้นแล้วเฟิงหรานพูดต่อไป “...เป็นพลังที่เอาไว้ควบคุม”เสียง ‘เพล้ง...!’ ดังขึ้น ถ้วยเคลือบถูกปลายนิ้วจั๋วซือหรานบีบจนแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร่วงลงมาจากปลายนิ้วของนางคมขอบของชิ้นส่วน บาดปลายนิ้วของนางจนเลือดไหลซิบ แ
Read more

บทที่ 609

“เหลือป่าเขาเอาไว้ ไม่ต้องกลัวจะขาดฟืน” เฟิงเอ่ยขึ้น “เขาต้องมีชีวิตอยู่ก่อน จากนั้นค่อยขบคิดหาวิธีอื่น...”จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ ก็เหลือบมองเฟิงหร่านผาดหนึ่ง นางมองออกว่าคุณหนูสิบตระกูลเฟิงคนนี้ แม้จะนิสัยดูหยิ่งทะนงไปบ้างแม้บิดาอยู่ในตระกูลจะไม่ใช่คนที่ฐานะสูงส่ง แต่ตระกูลเฟิงก็ให้ความสำคัญกับความสามารถและพรสวรรค์ของลูกหลานถ้าหากความสามารถพรสวรรค์ของตนเองดี ก็ได้จะได้รับการให้ความสำคัญและเลี้ยงดูอย่างดีจากตระกูลเฟิงหร่านเพราะความสามารถพรสวรรค์ของตนเองไม่เลวนัก ดังนั้นในตระกูลเฟิงแม้จะไม่ได้รับความสำคัญมากเท่ากับเฟิงเหยียน แต่ในกลุ่มคนรุ่นเดียวกันก็ถือว่าไม่เลวแล้วดังนั้นก่อนหน้านี้จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกว่า นางมีนิสัยค่อนข้างหยิ่งทะนงแต่หลังจากที่จั๋วซือหรานได้รู้จักคนอย่างเหยียนอี่หลิงและจั๋วหรูซินแล้วอดพูดไม่ได้จิรงๆ ว่าคนอย่างเฟิงหร่านนี่ถือว่าไม่เลวแล้วมองออกไม่ยาก เฟิงหร่านตัดสินใจตรงมาที่นี่หานางก็เพราะเป็นห่วงเฟิงเหยียนจริงๆยิ่งไปกว่านั้นยังมาเปิดเผยเรื่องที่เรียกว่าเป็นความลับของตระกูลเฟิงอีกจั๋วซือหรานหลังจากฟังคำพูดนี้ของเฟิงหร่าน ก็ไม่พูดอะไรอีก
Read more

บทที่ 610

เฟิงหร่านถลึงตาโต ไม่รู้ว่าเพราะกังวลจากในคำพูดของจั๋วซือหรานที่บอกว่าสุขภาพของพี่ชายนางไม่ปกติ หรือว่าเพราะตกตะลึงที่จั๋วซือหรานบอกว่าอาหารรสเลิศพวกนี้นางเป็นคนทำผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิงหร่านจึงพูดออกมาคำหนึ่ง “เจ้านี่เป็น...แม่ศรีเรือนจริงๆ นี่ยังทำอาหารอร่อยขนาดนี้ได้ด้วย”“ใช่สิ สร้างประสบการณ์ในบ้าน...” นางพูดพลางมองไปทางเฟิงหร่าน ยกมุมปากขึ้น เอ่ยต่อว่า “สังหารคนชิงทรัพย์ข้าก็ทำได้นะ”เฟิงหร่านถูกรอยยิ้มปากโค้งนี้ของนางแย่จนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง ตะลึงงันไปทั้งตัวเลยทีเดียว ตอนได้สติกลับมา หน้าก็แดงก่ำไปหมดแค่รู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้ ทั้งที่ไม่ได้สวมชุดสีแดงปีศาจแบบที่ปกติสวมแท้ๆร่างในชุดขาวอ่อนนุ่ม ผมสยายรุงรัง แต่ก็ยังมีสื่อถึงความอ่อนโยน ทว่ากลับรู้สึกแปลก ที่ทุกการขยับทุกการยิ้มดุเหมือนจะเย้ายวนราวกับเป็นปีศาจนางเงือก เฟิงหร่านจู่ๆ เข้าใจขึ้นมา ว่าเพราะอะไรพี่ชายที่ไม่เคยญาติดีกับใครเลย แต่กลับปฏิบัติกับหญิงสาวคนนี้แตกต่างออกไปใครจะไปทัดทานไหวกัน?!เฟิงหร่านกระแอมออกมาเสียงหนึ่ง การกระแอมนี้ก็เหมือนดึงวิญญาณตนเองกลับมา จู่ๆ ก็มีปฏิกิริยาขึ้น “พี่ชายของข้าเขา สุขภาพมี
Read more
PREV
1
...
5960616263
...
95
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status