Share

บทที่ 606

Author: หูเทียนเสี่ยว
“ขอรับ” เฉวียนคุนรับคำ มองไปทางเฮยหลิง เอ่ยขึ้นว่า “เชิญตามข้ามา”

หลังจากเฉวียนคุนนำทางเฮยหลิงออกไป

จั๋วซือหรานจึงหันกลับมาบอกเฟิงหร่าน “เข้าไปกับข้าเถอะ”

เฟิงหร่านมองเฮยหลิงที่ตามเฉวียนคุนออกไป จากนั้นจึงเดินตามจั๋วซือหรานเข้าไปในห้อง

เฟิงหร่านยู่ปาก ไม่เบิกบานเท่าไรนัก เอ่ยขึ้นเสียงเล็กว่า “ในจวนเจ้ามีผู้ชายตั้งเยอะ...ไม่ค่อยเหมาะไหม? เจ้าไม่กลัวพี่ชายรู้แล้วจะหึงหวงหรือ?”

“เขาน่ะนะ?” จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ ไม่ได้โกรธซ้ำยังหัวเราะถามกลับมาเสียด้วย

เฟิงหร่านร้องเสียงหลงออกมา “ไม่มีทางหรอก! จะมีใครคนไหนที่ดีกว่าพี่ชายข้าบ้าง? นอกจากเจ้าจะเป็นคนโง่เท่านั้นถึงจะไม่เอาพี่ชายข้า”

จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ไม่พูดอะไร แค่ยกมุมปากขึ้นยิ้มๆ หยิบกับข้าวที่เหลือจากการเข้าครัววันนี้ออกมา เดิมทีคิดจะเหลือไว้เป็นมื้อดึกของตนเอง

เฟิงหร่านอันที่จริงยังอยากจะพูดอะไรอยู่ แต่ก็เหมือนตอบสนองไม่ทัน จ้องมองกับข้าวบนโต๊ะอย่างงงงัน

ไม่ค่อยแน่ใจหน่อยๆ ในสายตาก็ถามขึ้นอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เมื่อครู่บนโต๊ะมีกับข้าวพวกนี้อยู่แล้วหรือ?”

แม้ว่าตอนที่เข้ามา ความสนใจของนางก็ยังอยู่บนตัวจั๋วซือหราน

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 607

    พอได้ยินเฟิงหรานพูด ในใจจั๋วซือหรานก็เต้นตึกตักคิ้วของนางขมวดขึ้นมา ประสานตากับเฟิงหร่าน ในน้ำเสียงที่นิ่งเฉยมาแต่ไหนแต่ไร เปลี่ยนเป็นตั้งใจขึ้นมา“คำพูดนี้ของเจ้า หมายถึงอะไร” จั๋วซือหรานถามขึ้นเฟิงหร่านเม้มปาก เหมือนกำลังเรียบเรียงคำพูดพอนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นมาว่า “สิ่งเหล่านี้ที่ข้าบอกกับเจ้า เป็นความลับสุดยอดของตระกูลเรา คนมากมายกระทั่งไม่เคยล่วงรู้ สาเหตุที่ข้ารู้ เพราะตำแหน่งพ่อของข้าไม่ได้ต่ำมากนักในตระกูล...”น่าจะเพราะกำลังจะพูดความลับของตระกูล สิ่งนี้สำหรับเฟิงหรานแล้วเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ดังนั้นตอนที่นางพูดถึงจุดนี้จึงหยุดลงมาสูดลมลึกไปทีหนึ่ง หลังจากพ่นออกมายาวๆ จึงเอ่ยต่อว่า “แต่ถ้าจะพูดถึงตำแหน่งฐานะสูงแค่ไหน มันก็ไม่มีหรอก แค่พ่อของข้ามีหน้าที่ภาระที่พิเศษอย่างหนึ่ง”จั๋วซือหรานเห็นเฟิงหร่านขณะที่พูดสิ่งเหล่านี้ด้วยดวงตาหรุบต่ำ เวลานี้กลับเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองนางเฟิงหร่านเอ่ยต่อว่า “พ่อของข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกที่รับผิดชอบดูแลห้องโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษ”“...” จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ว่าห้องโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 608

    “ดังนั้น ความหมายของเจ้าก็คือ...” จั๋วซือหรานถาม “ในโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงอยู่” “ใช่แล้ว” เฟิงหร่านพยักหน้า “ดวงใจแห่งหงส์แดง!”จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นมา บอกมาคำหนึ่ง “ฟังแล้วเหมือนไม่ใช่ของธรรมดาเลย จากลักษณะตระกูลเฟิงของพวกเจ้า ไม่ได้เอาเจ้าสิ่งนี้ไปปิดผนึกไว้บนตัวใครหรือ?”เหมือนที่เอาพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงมาผนึกไว้บนตัวเฟิงเหยียน ด้วยหลักการใช้ของให้ได้คุณประโยชน์สูงสุดจั๋วซือหรานมองเห็น ว่าหลังจากที่ตนเองพูดคำนี้ออกมา สีหน้าของเฟิงหร่าน ก็เปลี่ยนเป็นเศร้าสลดขึ้นมากะทันหันจั๋วซือหรานขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไป”เฟิงหร่านตอบ “หวงใจแห่งหงส์แดงกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงนั้นต่างกัน พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงก็เป็นเช่นชื่อของมัน เป็นพลังงาน”“แต่ดวงใจแห่งหงส์แดง...”จั๋วซือหรานพอฟังถึงจุดนี้ ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีขึ้นแล้วเฟิงหรานพูดต่อไป “...เป็นพลังที่เอาไว้ควบคุม”เสียง ‘เพล้ง...!’ ดังขึ้น ถ้วยเคลือบถูกปลายนิ้วจั๋วซือหรานบีบจนแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร่วงลงมาจากปลายนิ้วของนางคมขอบของชิ้นส่วน บาดปลายนิ้วของนางจนเลือดไหลซิบ แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 609

    “เหลือป่าเขาเอาไว้ ไม่ต้องกลัวจะขาดฟืน” เฟิงเอ่ยขึ้น “เขาต้องมีชีวิตอยู่ก่อน จากนั้นค่อยขบคิดหาวิธีอื่น...”จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ ก็เหลือบมองเฟิงหร่านผาดหนึ่ง นางมองออกว่าคุณหนูสิบตระกูลเฟิงคนนี้ แม้จะนิสัยดูหยิ่งทะนงไปบ้างแม้บิดาอยู่ในตระกูลจะไม่ใช่คนที่ฐานะสูงส่ง แต่ตระกูลเฟิงก็ให้ความสำคัญกับความสามารถและพรสวรรค์ของลูกหลานถ้าหากความสามารถพรสวรรค์ของตนเองดี ก็ได้จะได้รับการให้ความสำคัญและเลี้ยงดูอย่างดีจากตระกูลเฟิงหร่านเพราะความสามารถพรสวรรค์ของตนเองไม่เลวนัก ดังนั้นในตระกูลเฟิงแม้จะไม่ได้รับความสำคัญมากเท่ากับเฟิงเหยียน แต่ในกลุ่มคนรุ่นเดียวกันก็ถือว่าไม่เลวแล้วดังนั้นก่อนหน้านี้จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกว่า นางมีนิสัยค่อนข้างหยิ่งทะนงแต่หลังจากที่จั๋วซือหรานได้รู้จักคนอย่างเหยียนอี่หลิงและจั๋วหรูซินแล้วอดพูดไม่ได้จิรงๆ ว่าคนอย่างเฟิงหร่านนี่ถือว่าไม่เลวแล้วมองออกไม่ยาก เฟิงหร่านตัดสินใจตรงมาที่นี่หานางก็เพราะเป็นห่วงเฟิงเหยียนจริงๆยิ่งไปกว่านั้นยังมาเปิดเผยเรื่องที่เรียกว่าเป็นความลับของตระกูลเฟิงอีกจั๋วซือหรานหลังจากฟังคำพูดนี้ของเฟิงหร่าน ก็ไม่พูดอะไรอีก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 610

    เฟิงหร่านถลึงตาโต ไม่รู้ว่าเพราะกังวลจากในคำพูดของจั๋วซือหรานที่บอกว่าสุขภาพของพี่ชายนางไม่ปกติ หรือว่าเพราะตกตะลึงที่จั๋วซือหรานบอกว่าอาหารรสเลิศพวกนี้นางเป็นคนทำผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิงหร่านจึงพูดออกมาคำหนึ่ง “เจ้านี่เป็น...แม่ศรีเรือนจริงๆ นี่ยังทำอาหารอร่อยขนาดนี้ได้ด้วย”“ใช่สิ สร้างประสบการณ์ในบ้าน...” นางพูดพลางมองไปทางเฟิงหร่าน ยกมุมปากขึ้น เอ่ยต่อว่า “สังหารคนชิงทรัพย์ข้าก็ทำได้นะ”เฟิงหร่านถูกรอยยิ้มปากโค้งนี้ของนางแย่จนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง ตะลึงงันไปทั้งตัวเลยทีเดียว ตอนได้สติกลับมา หน้าก็แดงก่ำไปหมดแค่รู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้ ทั้งที่ไม่ได้สวมชุดสีแดงปีศาจแบบที่ปกติสวมแท้ๆร่างในชุดขาวอ่อนนุ่ม ผมสยายรุงรัง แต่ก็ยังมีสื่อถึงความอ่อนโยน ทว่ากลับรู้สึกแปลก ที่ทุกการขยับทุกการยิ้มดุเหมือนจะเย้ายวนราวกับเป็นปีศาจนางเงือก เฟิงหร่านจู่ๆ เข้าใจขึ้นมา ว่าเพราะอะไรพี่ชายที่ไม่เคยญาติดีกับใครเลย แต่กลับปฏิบัติกับหญิงสาวคนนี้แตกต่างออกไปใครจะไปทัดทานไหวกัน?!เฟิงหร่านกระแอมออกมาเสียงหนึ่ง การกระแอมนี้ก็เหมือนดึงวิญญาณตนเองกลับมา จู่ๆ ก็มีปฏิกิริยาขึ้น “พี่ชายของข้าเขา สุขภาพมี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 611

    จุดที่เฟิงหร่านมีปฏิกิริยากลับมาว่าผิดปกติก็คือ...“ถ้าหากข้ากลับไปแล้วไม่เกิดสถานการณ์อะไรขึ้น...มันไม่ใช่ว่าข้าถูกอัดเปล่าๆ ไปหรือไรกัน?!” เฟิงหร่านถลึงตาโตและจึงเห็นสาวงามตรงหน้า ยิ้มจนตาหงส์คู่โค้ง ยิ่งงดงามจนไม่อาจหาสิ่งที่มาเทียบเทียมได้พอใบหน้างามมีรอยยิ้ม มือข้างหนึ่งก็ดึงถุงมือของมืออีกข้าง เพื่อให้ถุงมือกระชับขึ้นอีกหน่อยและเอ่ยว่า “ถือเสียว่า...กินของคนอื่นแล้วปากอ่อนไปแล้วกัน คุณหนูเฟิงสือ ต้องผิดใจกันเสียแล้ว”“อุ๊อ๊าๆๆ...!”......ประตูจวนเฟิง ยังคงเป็นเหมือนเมื่อหลายวันก่อน การป้องกันอยู่ในสถานภาพเข้มงวดรัดกุมองครักษ์ที่หน้าประตู เห็นเงาร่างหนึ่งมาแต่ไกล เดินโซเซโงนเงนเข้ามาจึงตะคอกขึ้นว่า “ใครน่ะ!”รอจนร่างที่โซเซโงนเงนค่อยเดินเข้ามาใกล้ เหล่าองครักษ์จึงเห็นได้ชัดขึ้น“คุณหนูสิบ? ท่านกลับมาแล้ว...” องครักษ์เอ่ยขึ้น “แล้วทำไมท่านถึงเป็นเช่นนี้ไปได้?”เฟิงหร่านใบหน้าบวมปูดเขียวช้ำ สีหน้าอึมครึมจั๋วจิ่วนั่น! ลงมือได้...ไม่เจ็บเลยสักนิด!ในใจเฟิงหร่านไม่ได้จงใจพูดแขวะแดกดันอะไร แต่ว่า...มันไม่เจ็บจริงๆ!เฟิงหร่านเองก็ไม่รู้ว่าถุงมือของนางนั้นมีคุณสมบั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 612

    ก่อนหน้านี้ตอนที่จั๋วซือหรานได้ยินเรื่องตระกูลเฟิง ก็ยังเคยรู้สึกเสียอกเสียดายอยู่ทว่าตอนนี้...นางรู้สึกแค่ว่าตระกูลเฟิงเป็นพวกโง่เง่าตอนนี้เฟิงหร่านยืนอยู่หน้าประตูตระกูลเฟิงองครักษ์พอเห็นนางไม่ตอบ จึงถามตามขึ้นมาคำหนึ่ง “คุณหนูสิบ ท่านทำไมจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปกัน?”เฟิงหร่านเงยหน้าเหลือบมององครักษ์ “ข้าเป็นอย่างไร จำเป็นต้องมารายงานเจ้าด้วยหรือ?”เสียงของนางก็ไม่มีความอ่อนโยนเลย ราวกับว่าลูกหมาน่ารักอ่อนโยนที่อยู่ในเรือนจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ตอนนี้กลับกลายเป็นสุนัขเฝ้าบ้านดุร้ายตัวหนึ่งที่แทบจะแยกเขี้ยวออกมาแล้วองครักษ์พอได้ยินเสียงเย็นชาของนางก็งงงันไป เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้านอบน้อม “ข้าน้อยมิกล้า เพียงแต่...”องครักษ์หยุดลงครู่หนึ่ง เอ่ยต่อว่า “เหล่าผู้อาวุโสหวังว่าหลังจากคุณหนูสิบกลับมาจากเรือนของแม่นางจั๋วจิ่วแล้ว จะตรงไปพบพวกเขาที่ห้องโถงบรรพบุรุษเลย”สีหน้าเฟิงหร่านไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด น่าจะเพราะฟ้ามืดแล้ว ดังนั้นเหล่าองครักษ์จึงไม่เห็นประกายประหลาดที่แวบผ่านด้วยตาของเฟิงหร่าน“รู้แล้ว” เฟิงหร่านเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา แบกร่างโซซัดโซเซเดินเข้าไปหลังจากเข้าไประยะหนึ่ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 613

    พอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่าน จั๋วซือหร่านก็ถอนใจ “ใจอ่อนสิ อ่อนจนเป็นก้อนโคลนไปแล้ว”“ถ้าอย่างนั้น...” เฟิงหร่านกัดริมฝีปากยังไม่ทันที่ตนเองจะได้เอ่ยอะไร นางก็เห็นว่ารอยยิ้มบนสีหน้าจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ มลายหายสิ้นไปแล้ว ความลึกซึ้งเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มในดวงตานั่น ก็เหลือเพียงความเย็นชา“แต่ว่าพวกเจ้าทำไมจึงรู้สึกว่า พอข้าใจอ่อนกับเฟิงเหยียน แล้วต้องใจอ่อนกับพวกเจ้าด้วย?”เสียงของจั๋วซือหรานเย็นยะเยือก “ต่อให้พวกตระกูลขุนนางรู้ว่าข้า ‘รักลึกซึ้ง’ ต่อเฟิงเหยียน นั่นมันก็แค่กับเฟิงเหยียนเท่านั้น พวกเขาใช้งานเฟิงเหยียนจนเป็นเช่นนี้ คงไม่ได้คิดว่าข้าจะยอมรับพวกเขาหรอกใช่ไหม”เฟิงหร่านรู้สึกว่าคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานมีเหตุผล จึงพยักหน้าเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นเจ้าคิดจะให้ข้าทำอย่างไร”จั๋วซือหรานหรี่ตาลง เลิกคิ้วขึ้นยิ้ม “เจ้าก็แค่...”......ในโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษเฟิงหร่านคุกเข่าอยู่ในนั้น ใบหน้าขาวซีด มุมปากสั่นระริกกลุ่มผู้อาวุโสจ้องมองนาง “เฟิงสือ เอาคำพูดของเจ้าเมื่อครู่ เล่าออกมาอีกครั้ง”เฟิงหร่านปากสั่น “เหล่าผู้อาวุโสโปรดระงับความโกรธด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าไม่ได้ตั้งใจจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 614

    ในใจเฟิงหร่านบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร แค่รู้สึกว่า...ตนเองเหมือนจะเคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อนอย่างไรอย่างนั้นเพราะตอนที่อยู่ในเรือนพี่สาวจั๋วก่อนหน้านี้ พี่สาวจั๋วก็ให้นางได้ซ้อมไว้แล้วล่วงหน้าเฟิงหร่านเงยขึ้นมองเหล่าผู้อาวุโส ด้วยท่าทีขึงขัง เอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ “จั๋วจิ่วบอกว่า ตระกูลเฟิงครั้งนี้กระทำการอย่างไม่สำนึกบุญคุณ ไม่เพียงแต่ร่วมมือกับตระกูลจั๋วตระกูลเหยียนใส่ร้ายป้ายสีนางเรื่องโรคระบาด แต่ยังซ่อนตัวพี่ชายเอาไว้ ไม่ยอมให้นางได้พบเจอ”“แล้วยังส่งข้าไปลอบโจมตีนางอีก เรื่องเหล่านี้ นางไม่อาจยอมรับได้ จะแตกหักขั้นเด็ดขาดกับตระกูลเฟิง”เหล่าผู้อาวุโสพอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่านก็งงงันไปแล้ว “นางบอกว่าอะไรนะ?”“นางบอกว่าพวกเราซ่อนตัวเหยียนเอ๋อร์อย่างนั้นหรือ?”“นาง...”“เหยียนเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าถูกนางซ่อนตัวเอาไว้หรือไรกัน!”“แล้วนางทำไมถึงยังใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นก่อนล่ะ!”เฟิงหร่านตอนนี้ก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียงเอ่ยต่อว่า “ข้าไม่รู้ นางบอกกับข้าเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังบอกว่า...”เฟิงหร่านมองไปทางเหล่าผู้อาวุโส ถามขึ้นว่า “นางให้ข้ามาถามเหล่าผู้อาวุโส ว่ายังจำสัญญาณที่นางตั้งข

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status