บททั้งหมดของ ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: บทที่ 271 - บทที่ 280

994

บทที่ 271

เดิมทีเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวยังไม่สบายใจอยู่เลย แต่เมื่อเขาเห็นผู้ชายคนนี้ เขาตตระลึงทันทีน เขาตกใจอย่างมาก "ท่าน... ท่านมาที่นี่ทำไมขอรับ"ไม่เพียงแต่เขาตกใจเล็กน้อย แต่ จั๋วซือหรานตกใจอเล็กน้อยเช่นกันเพราะชายที่สวมหน้ากากที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากท่านซือเจิ้ง ผู้ลึกลับแห่งหน่วยสืบสวนพิเศษนางพยายามถามเจ้าติดอ่างน้อย ชิ่งหมิง นั้น แต่ไม่ได้ข้อมูลเลยไม่ต้องพูดถึงข้อมูล นางยังไม่ทราบชื่อท่านนี้ด้วยซ้ำจั๋วซือหรานจึงเปิดปาก แต่นางเพียงพูดว่า "... ท่านซือเจิ้ง เหตุใดท่านจึงมาที่นี่"แม้ว่านางนั่งอยู่ในที่นั่งที่ข้างในสุด ๆ ของห้องส่วนตัว เพราะมองจากที่นี่เท่านั้น นางจึงสามารถมองเห็นทุกการเคลื่นไหวใน 'ก้นชาม' ได้อย่างชัดเจนแต่จั๋วซือหรานยังคงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ท่านซือเจิ้งกำลังจ้องมองนางและนางสังเกตถึงอารมณ์ของเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวอย่างชัดเจน เขาไม่สงบเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป เขากังวลเล็กน้อย“ เหตุใดท่านจึงมาที่นี่ในครั้งนี้” ปรเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวถาม แม้ว่าจะไม่มีน้ำเสียงที่ถ่อมตัวเกินไปก็ตามแต่เขาใช้คำว่า 'ท่าน' ยังคงแสดงความเคารพต่อท่านซือเจิ้งของหน่วยสื
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 272

ในฐานะที่เป็นหน่วยสืบสวนพิเศษ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของลัทธิ เขามาเขตตะวันตกของเมือง ซึ่งเป็นเรื่องปกติอย่างมากแต่คำพูดถัดไปของซือเจิ้งทำให้เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวรู้สึกตึงเครียด และทำให้จั๋วซือหราน รูสึกประหลาดใจ“แต่ข้าเห็นเจ้าคุมนางมาที่นี่” หน่วยสืบสวนพิเศษมองเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวด้วยสายตาที่เคร่งครัด “เจ้าอยากทำอะไร”เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวอ้าปาก แต่ก็พูดไม่ออกสักคำ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง เขาแค่ตอบ "...ข้าได้ยินเรื่องต่าง ๆ ที่เก่งกาจของคุณหนูจิ่วในเมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้าสนใจนางมาก เลยชวนนางมาคุยกันหน่อย ข้าไม่ทราบเรื่องนี้จะรบกวนถึงท่านขอรับ"เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวกล่าวเช่นนี้ แต่ดูเหมือนซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้นำขององค์กรตลาดมืดเขตตะวันตกของเมือง ซึ่งทำให้ผู้คนคิดว่าเขาไม่น่าเชื่อถือกล่าวโดยสรุป เมื่อซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษได้ยินคำพูดนั้น เขาก็หันไปมองจั๋วซือหราน และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "เขาพูดจริงหรือไม่"ขณะที่จั๋วซือหรานกำลังจะตอบ นางได้ยินท่านซือเจิ้งพูดอีกครั้งว่า "ในหน่วยสืบสวนพิเศษ เจ้าได้ผ่านการสอบของแพทย์กล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 273

เมื่อจั๋วซือหรานเห็นใบหน้าที่ไม่ยิ้มแย้มของเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว สีหน้าของเขามีความโล่งใจและปิติยินดีนางอดไม่ได้ที่ต้องสงสารเขา เจ้าสำนักเจ้าคะ อย่าเพิ่งดีใจก่อนสิจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "เจ้าสำนักให้ข้าขึ้นมา เพื่อให้ข้าเข้าร่วมในการฝึกฝนเถื่อนของหอฟ้าดาว ไม่ทราบว่าท่านเคยได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงหรือไม่"ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษเงียบไปสองสามวินาที แล้วพูดว่า "ได้ยินมานิดหน่อย"“กล่าวโดยสรุปคือ ความทุกข์ที่ข้าได้รับในก่อนหน้านี้คือข้าถูกพี่สาวในตระกูลเล่นงาน ตระกูบจะให้ความยุติธรรมแก่ข้าโดยมีเงื่อนไขบางอย่าง ข้าต้องเอาชนะพี่สาวที่ทำราบข้าในการฝึกฝนของตระกูล"ใบหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีสีหน้าใด ๆ และนางพูดอย่างใจเย็น เหมือนนางกำลังพูดถึงเรื่องไม่สำคัญของคนอื่นซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่า นางไม่ได้จริงจังกับเรื่องเหล่านี้จริง ๆจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "พี่ชายของพี่สาวคนนั้นไม่เป็นศิษย์ของ ลัทธิอู๋จี๋เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เก่งกาจในการฝึกฝนประจำตระกูลด้วย เขากลับมาอยู่เมืองหลวงแล้ว และเขาต้องใช้วิธีทุกประเภทอย่างแน่นอน เพื่อยกระดับแข็งแกร่งของพี่สาวคนนี้ให้ได้ ”“ข้าไม่มีใครชี้แนะเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 274

จั๋วซือหรานยิ้มและมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกมั่นใจเล็กน้อย "เจ้าสำนัก ท่านซือเจิ้งต้องเห็นด้วยแน่นอน"จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าทำไมนางถึงมั่นใจขนาดนั้น อาจเป็นเพราะดูเหมือนซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษมาที่นี่เพราะนางหรือจั๋วซือหรานมองเขาแล้วเรียกเขาอีกครั้ง “ ท่านซือเจิ้ง”นางเอียงศีรษะและมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ นางพยายามการเห็นชอบหรือไม่จากรูดวงตาของเขาจากหน้ากาก แต่นางมองไม่เห็นอะไรเลย รูตานั้นลึกและมืดท่านซือเจิ้งเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็มีเสียงของชายคนนั้นดังมาจากใต้หน้ากาก "ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว ไปเอาพู่กันและกระดาษมา"ชั่วขณะต่อมาที่เขาพูดคำเหล่านี้ เขาเห็นรอยยิ้มอันสดใสปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวนางสวยอย่างมาก และใบหน้าเล็ก ๆ ของนางก็ดูสวยงามยิ่งขึ้นด้วยรอยยิ้มอันงดงามนี้เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวเสีนใจเกือบต้องกัดฟันหัก แต่เขาก็ยังไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เขาทำได้เพียงให้คนรับใช้นำกระดาษและพู่กันมาให้ตายเถอะ คนรับใช้ของเขามีน้ำใจมาก เขาคงเดาได้ว่าเจ้านายของเขาต้องการเขียนเอกสารสำคัญ ดังนั้นกระดาษที่เขาส่งให้เขาจึงเป็นกระดาษที่ทำจากหนังแพะ ซึ่งเป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 275

จั๋วซือหรานมองไปที่หน้ากากของชายคนนั้นที่มีรูปแบบเปลวไฟสีแดง นางเห็นแววตาที่อยากรู้อยากเห็นในดวงตาของเขา นางอดไม่ได้ที่ต้องรู้สึกตัวเองหมดคำพูดสีหน้าของนางดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ซึ่งค่อนข้างทำให้ผู้คนประหลาดใจ เพราะผู้หญิงคนนี้สามารถวางกลยุทธ์และทำทุกอย่างได้อย่างง่ายดายสีหน้าที่ผู้คนมักจะเห็นบนใบหน้าของนางนั้นคือความสงบไม่ต้องพูดถึงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ความเศร้า ความกลัว และความเกลียดชัง ใบหน้าของนางไม่มีสีหน้าที่หมดคำพูดเหมือนอย่างที่นางมีในตอนนี้แต่ในขณะนี้ สีหน้าของนางบอกได้ว่า นางกำลังไม่รู้ต้องทำอย่างไรดี“จริง ๆ แล้ว มันไม่ของวิเศษอะไรหรอก มันเป็นแค่อุปกรณ์เล็ก ๆ ” จั๋วซือหรานกล่าว“แม่นางถ่อมตัว” เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพูดอย่างเคร่ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สบายใจเพราะจั๋วซือหรานโกงเขาต่อหน้าซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเย็นชาเล็กน้อยในขณะนี้ “อุปกรณ์ขนาดเล็กสามารถทำให้นักฆ่าของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากระยะไกลได้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ง่ายเลย ยิ่งทำให้ข้าอยากเห็นมาก”ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษไม่พูดอะไร แต่มองนางครู่หนึ่งวินาทีต่อมา จั๋วซือหรานส่ายแขนเสื้อ แล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 276

สถานการณ์ในสนามยิ่งวุ่นวายและปั่นป่วน เสียงของปืนดังเช่นนี้ ซึ่งปิดบังความวุ่นวายของสนามฝึก ทำให้ทุกคนตกตระลึงคนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเสียงนั้นคืออะไรก็ตาม เมื่อต้องเผชิญกับเสียงดัง ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือ พวกเขาจะคิดว่ามีอันตรายเกิดขึ้นหรือไม่ และสัญชาตญาณแรกของพวกเขาคืออยากหนีทันใดนั้นทุกคนในก็เริ่มปั่นป่วน และผู้คนจากหอฟ้าดาวควบคุมสถานการณ์ได้จั๋วซือหรานหยุดยิง นางหันไปมองเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว "แค่นี้พอหรือยัง"นางถามต่อ "หากเจ้าคิดว่าแค่นี้ยังไม่พอ ข้าเต็มใจที่จะฆ่าใครสักคน ให้เจ้าเห็นเลือดหน่อย""..." สีหน้าของเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวดูมืดมนเล็กน้อย เขาเงียบไปสองสามวินาทีแล้วพูดว่า "พอแล้ว"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้นอย่างที่นางคาดไว้ หลอกเขาง่ายมากโดยปกติแล้ว ระยะห่างจากชั้นสองถึงก้นชามนั้น จริง ๆ แล้วไกลกว่าระยะห่างจากหอนาฬิกาถึงประตูห้องของนางในวันนั้นมากมายแต่นางมันใจตัวเองสามารถหลอกผู้คนได้ ท้ายที่สุด ของชิ้นนี้ดูไม่เหมือนคันธนู แต่มันเป็นอาวุธระยะไกล และมันก็ส่งเสียงดังมากมันสามารถหลอกคนได้ง่ายโดยปกตินี่คือพลังของอาวุธสุดร้อนแรง“ข้าขอดูหน่อยไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 277

เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวรู้สึกเขินอายเล็กน้อยในความเป็นจริง เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาปืนนี้ เขาจะไม่ทำเรื่องที่น่าเกลียดขนาดนี้หรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ยังมีซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษอยู่ด้วยแต่เขามีความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาเอง เช่น หากเขาลูบปืนนี้นาน ๆ หน่อย จั๋วจิ่วอาจจะเต็มใจที่จะมอบอาวุธนี้ให้เขาเล่นด้วยจากนั้นเขาจะมีเวลามากพอที่จะหาช่างมาหาวิธีทำอาวุธนี้ จากนั้นเขาค่อย ๆ ศึกษาอาวุธชิ้นนี้ เขามีนักกลั่นอาวุธรับใช้เขาอยู่ หากเขาสามารถทำอาวุธชิ้นนี้ได้...แม้ว่าคนที่มีการฝึกฝนที่เป็นทางการจะดูถูกอาวุธนี้ แต่ราชวงศ์ เชื้อวงศื และเหล่าขุนนางมีผู้ที่ไม่ขาดแคลนเงินอย่างมาก พวกเขาอาจอยากใช้เงินซื้อของเล่น ไม่ต้องห่วงเรื่องกำไรเพราะ แม้แต่จะติดอัญมณีไว้บนดาบสั้นของพวกเขา พวกคนโง่ที่มีเงินจำนวนมากเหล่านี้ยังแข่งราคาในงานประมูลได้หากเขาหลอมอาวุธนี้ออกมาได้จริง ๆ เขาติดอัญมณีไว้บ้างและทำให้สวยหน่อย แล้วเขาแต่งเรื่องที่ว่า อาวุธชิ้นนี้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณและเกือบจะหายไปแล้ว และเผยแพร่สู่โลกภายนอก เขาไม่ต้องกังวลคนโง่ที่มีเงินมากมายไม่ซื้อของชิ้นนี้หรอกโดยเฉพาะเขาไม่จำเป็นต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 278

ลวดลายเปลวไฟสีแดงที่สดใส ซึ่งเรียกได้ว่าน่าหลงใหลก็หายไปแล้วหน้ากากของเวลานี้ดูเหมือนหน้ากากธรรมดา ในเขตตะวันตกของเมือง มีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการปกปิดตัวตนของตัวเอง พวกเขามักจะใช้วิธีการปกปิดที่หลากหลาย บางคนเช่น จั๋วซือหรานสวมหมวกผ้ากอซ และโดยธรรมชาติแล้วก็มีคนสวมหน้ากากด้วยทุกคนเห็นคนใส่หน้ากากบ่อยครั้ง เลยไม่แปลกใจแต่ในขณะนี้ หน้ากากบนใบหน้าของชายที่อยู่ข้าง ๆ นางดูธรรมดา ๆ ไม่ดึงดูดความสนใจของใครเลย พูดได้เลยว่า ไม่มีใครสนใจเขาเลยจั๋วซือหรานรู้สึกหมดคำพูดเล็กน้อย นางอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะ "ใต้เท้าเตรียมการดีจริง ๆ ข้ากังวลมากเกินไปเอง"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาและพูดไปด้วย แม้ว่าหน้ากากจะแน่นมากจนมองไม่เห็นใบหน้าเลย แต่ก็ยังสามารถมองเห็นโคงร่างบางส่วนได้จากขอบของหน้ากากต้องบอกว่าผู้ใหญ่ท่านนี้มีรูปทรงที่คมมากว่ากันว่าคนที่หน้าตาดีส่วนใหญ่จะคล้ายกัน แต่คนที่น่าเกลียดก็น่าเกลียดในแบบของตัวเอง จั๋วซือหรานรู้สึกว่าหากรูปร่างของผู้ชายดูดี รูปร่างหน้าตาของเขามักจะดูดีเช่น ท่านอ๋อง ซึ่งผู้ห้ามโดนแสงพระอาทิตย์...จั๋วซือหรานไม่รู้ทำไมจู่ ๆ นางถึงคิดถึงบุคคลนั้น แต่ในขณะนี้ นา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 279

จั๋วซือหรานรู้สึกชายคนนี้จ้องมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการซักถามอย่างกระตือรือร้นนั้น ซึ่งสายตานั้นทำให้นางรู้สึกค่อนข้างกดดันแต่นางคือจั๋วซือหราน ตั้งแต่นางเดินทางมายังโลกใบนี้ นางต้องเผชิญกับการกดขี่ทุกรูปแบบนับเรียกได้ว่า ไม่ว่ามีความกดดันมากเท่าไร นางล้วนไม่กลัวแล้วดังนั้นเมื่อเผชิญสายตาของของเขา จั๋วซือหรานไม่เพียงแต่หลบสายตาของเขา นางยังสบตาเขาอีกด้วยและนางยังมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของนางจั๋วซือหรานมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ นางยิ้มแล้วพูดว่า "ท่านเคยได้ยินประโยคบ้างไหมเจ้าคะ"“อะไร” เขาสงสัย“ยิ่งผู้หญิงสวยเท่าไร นางก็ยิ่งมีความลับมากขึ้นเท่านั้น” จั๋วซือหรานกล่าว และรอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ยิ่งหนาขึ้นนางเห็นชายคนนั้นยืนอยู่ที่นั่นเงียบ ๆ เขาเงียบไปไม่กี่วินาที จึงพูดว่า "เจ้าคุยโอ้อวดเหลือเกิน"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น แต่นางยังคงนิ่งเงียบนางไม่อยากโต้เถียง เพราะไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น นางมีหน้าตาเช่นไร นางทราบดีจั๋วซือหรานไม่อยากเจาะลึกประเด็นนี้ เดิมทีเขาพูดเช่นนี้ เพียงเพื่อขัดจังหวะนายของซือเจิ้ง เขาจะได้ไม่เจาะลึกคำถามต่อไปที่ว่าปืนกระบอกนี้มาจากไหน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 280

เขาขมวดคิ้วและมองคนรับใช้ของเขา " จั๋วจิ่วบอกเจ้าว่าราคาต่ำสุดที่ตระกูลเหยียนเสนอนั้นคือสองเท่าของราคาเดิมเช่นนั้นหรือ"“ขอรับ” คนรับใช้พยักหน้าผู้อาวุโสสามพูด "นางบอกเจ้าอย่างไร เจ้าพูดอย่างละเอียดอีกสิ"“ คุณหนูจิ่วบอกข้าว่า ราคาต่ำสุดที่ตระกูลเหยียนเสนอได้คือสองเท่าของราคาเดิม จะไม่มีราคาที่ต่ำกว่านี้อีกแล้ว และตระกูลเหยียนให้ราคานี้เพราะคึณหนูจิ่วเดิมพันชนะ พวกเขาจึงต้องยอมลดราคานี้ให้"คนรับใช้สังเกตเห็นสีหน้าของผู้อาวุโสทุกคนแย่มาก ดังนั้นเขาจึงลังเลที่จะพูดต่อผู้อาวุโสเจ็ด จั๋วอี้ พูดกับเขาว่า "พูดต่อเลย"คนรับใช้จึงพูดต่อด้วยความกังวล "ไม่เช่นนั้น ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างทั้งสองตระกูลแย่ช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงห้าเท่าของราคาเดิมเลย ตระกูลเหยียนแทบจะไม่อยากขายยาให้ตระกูลจั๋ว ด้วยซ้ำ ดูจากตระกูลเหยียนขึ้นราคาครางนี้ เห็นได้ชัดว่า พวกเขากำลังจงใจสร้างปัญหากับตระกูลจั๋ว และใกล้จะถึงวันที่จัดการฝึกฝนประจำตระกูลแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะขายไม่ออก "คนรับใช้เหลือบมองใบหน้าที่ซีดเซียวของผู้อาวุโสสามอย่างระมัดระวัง เสียงของเขาก็อ่อนลงมาก“ดัง ดังนั้น... คุณหนูจิ่วบ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
2627282930
...
100
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status