Share

บทที่ 273

Author: หูเทียนเสี่ยว
last update Last Updated: 2024-08-06 19:07:40
เมื่อจั๋วซือหรานเห็นใบหน้าที่ไม่ยิ้มแย้มของเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว สีหน้าของเขามีความโล่งใจและปิติยินดี

นางอดไม่ได้ที่ต้องสงสารเขา เจ้าสำนักเจ้าคะ อย่าเพิ่งดีใจก่อนสิ

จั๋วซือหรานกล่าวต่อ "เจ้าสำนักให้ข้าขึ้นมา เพื่อให้ข้าเข้าร่วมในการฝึกฝนเถื่อนของหอฟ้าดาว ไม่ทราบว่าท่านเคยได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงหรือไม่"

ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษเงียบไปสองสามวินาที แล้วพูดว่า "ได้ยินมานิดหน่อย"

“กล่าวโดยสรุปคือ ความทุกข์ที่ข้าได้รับในก่อนหน้านี้คือข้าถูกพี่สาวในตระกูลเล่นงาน ตระกูบจะให้ความยุติธรรมแก่ข้าโดยมีเงื่อนไขบางอย่าง ข้าต้องเอาชนะพี่สาวที่ทำราบข้าในการฝึกฝนของตระกูล"

ใบหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีสีหน้าใด ๆ และนางพูดอย่างใจเย็น เหมือนนางกำลังพูดถึงเรื่องไม่สำคัญของคนอื่น

ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่า นางไม่ได้จริงจังกับเรื่องเหล่านี้จริง ๆ

จั๋วซือหรานกล่าวต่อ "พี่ชายของพี่สาวคนนั้นไม่เป็นศิษย์ของ ลัทธิอู๋จี๋เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เก่งกาจในการฝึกฝนประจำตระกูลด้วย เขากลับมาอยู่เมืองหลวงแล้ว และเขาต้องใช้วิธีทุกประเภทอย่างแน่นอน เพื่อยกระดับแข็งแกร่งของพี่สาวคนนี้ให้ได้ ”

“ข้าไม่มีใครชี้แนะเ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 274

    จั๋วซือหรานยิ้มและมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกมั่นใจเล็กน้อย "เจ้าสำนัก ท่านซือเจิ้งต้องเห็นด้วยแน่นอน"จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าทำไมนางถึงมั่นใจขนาดนั้น อาจเป็นเพราะดูเหมือนซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษมาที่นี่เพราะนางหรือจั๋วซือหรานมองเขาแล้วเรียกเขาอีกครั้ง “ ท่านซือเจิ้ง”นางเอียงศีรษะและมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ นางพยายามการเห็นชอบหรือไม่จากรูดวงตาของเขาจากหน้ากาก แต่นางมองไม่เห็นอะไรเลย รูตานั้นลึกและมืดท่านซือเจิ้งเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็มีเสียงของชายคนนั้นดังมาจากใต้หน้ากาก "ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว ไปเอาพู่กันและกระดาษมา"ชั่วขณะต่อมาที่เขาพูดคำเหล่านี้ เขาเห็นรอยยิ้มอันสดใสปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวนางสวยอย่างมาก และใบหน้าเล็ก ๆ ของนางก็ดูสวยงามยิ่งขึ้นด้วยรอยยิ้มอันงดงามนี้เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวเสีนใจเกือบต้องกัดฟันหัก แต่เขาก็ยังไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เขาทำได้เพียงให้คนรับใช้นำกระดาษและพู่กันมาให้ตายเถอะ คนรับใช้ของเขามีน้ำใจมาก เขาคงเดาได้ว่าเจ้านายของเขาต้องการเขียนเอกสารสำคัญ ดังนั้นกระดาษที่เขาส่งให้เขาจึงเป็นกระดาษที่ทำจากหนังแพะ ซึ่งเป

    Last Updated : 2024-08-07
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 275

    จั๋วซือหรานมองไปที่หน้ากากของชายคนนั้นที่มีรูปแบบเปลวไฟสีแดง นางเห็นแววตาที่อยากรู้อยากเห็นในดวงตาของเขา นางอดไม่ได้ที่ต้องรู้สึกตัวเองหมดคำพูดสีหน้าของนางดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ซึ่งค่อนข้างทำให้ผู้คนประหลาดใจ เพราะผู้หญิงคนนี้สามารถวางกลยุทธ์และทำทุกอย่างได้อย่างง่ายดายสีหน้าที่ผู้คนมักจะเห็นบนใบหน้าของนางนั้นคือความสงบไม่ต้องพูดถึงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ความเศร้า ความกลัว และความเกลียดชัง ใบหน้าของนางไม่มีสีหน้าที่หมดคำพูดเหมือนอย่างที่นางมีในตอนนี้แต่ในขณะนี้ สีหน้าของนางบอกได้ว่า นางกำลังไม่รู้ต้องทำอย่างไรดี“จริง ๆ แล้ว มันไม่ของวิเศษอะไรหรอก มันเป็นแค่อุปกรณ์เล็ก ๆ ” จั๋วซือหรานกล่าว“แม่นางถ่อมตัว” เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพูดอย่างเคร่ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สบายใจเพราะจั๋วซือหรานโกงเขาต่อหน้าซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเย็นชาเล็กน้อยในขณะนี้ “อุปกรณ์ขนาดเล็กสามารถทำให้นักฆ่าของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากระยะไกลได้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ง่ายเลย ยิ่งทำให้ข้าอยากเห็นมาก”ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษไม่พูดอะไร แต่มองนางครู่หนึ่งวินาทีต่อมา จั๋วซือหรานส่ายแขนเสื้อ แล

    Last Updated : 2024-08-08
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 276

    สถานการณ์ในสนามยิ่งวุ่นวายและปั่นป่วน เสียงของปืนดังเช่นนี้ ซึ่งปิดบังความวุ่นวายของสนามฝึก ทำให้ทุกคนตกตระลึงคนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเสียงนั้นคืออะไรก็ตาม เมื่อต้องเผชิญกับเสียงดัง ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือ พวกเขาจะคิดว่ามีอันตรายเกิดขึ้นหรือไม่ และสัญชาตญาณแรกของพวกเขาคืออยากหนีทันใดนั้นทุกคนในก็เริ่มปั่นป่วน และผู้คนจากหอฟ้าดาวควบคุมสถานการณ์ได้จั๋วซือหรานหยุดยิง นางหันไปมองเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว "แค่นี้พอหรือยัง"นางถามต่อ "หากเจ้าคิดว่าแค่นี้ยังไม่พอ ข้าเต็มใจที่จะฆ่าใครสักคน ให้เจ้าเห็นเลือดหน่อย""..." สีหน้าของเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวดูมืดมนเล็กน้อย เขาเงียบไปสองสามวินาทีแล้วพูดว่า "พอแล้ว"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้นอย่างที่นางคาดไว้ หลอกเขาง่ายมากโดยปกติแล้ว ระยะห่างจากชั้นสองถึงก้นชามนั้น จริง ๆ แล้วไกลกว่าระยะห่างจากหอนาฬิกาถึงประตูห้องของนางในวันนั้นมากมายแต่นางมันใจตัวเองสามารถหลอกผู้คนได้ ท้ายที่สุด ของชิ้นนี้ดูไม่เหมือนคันธนู แต่มันเป็นอาวุธระยะไกล และมันก็ส่งเสียงดังมากมันสามารถหลอกคนได้ง่ายโดยปกตินี่คือพลังของอาวุธสุดร้อนแรง“ข้าขอดูหน่อยไ

    Last Updated : 2024-08-09
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 277

    เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวรู้สึกเขินอายเล็กน้อยในความเป็นจริง เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาปืนนี้ เขาจะไม่ทำเรื่องที่น่าเกลียดขนาดนี้หรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ยังมีซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษอยู่ด้วยแต่เขามีความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาเอง เช่น หากเขาลูบปืนนี้นาน ๆ หน่อย จั๋วจิ่วอาจจะเต็มใจที่จะมอบอาวุธนี้ให้เขาเล่นด้วยจากนั้นเขาจะมีเวลามากพอที่จะหาช่างมาหาวิธีทำอาวุธนี้ จากนั้นเขาค่อย ๆ ศึกษาอาวุธชิ้นนี้ เขามีนักกลั่นอาวุธรับใช้เขาอยู่ หากเขาสามารถทำอาวุธชิ้นนี้ได้...แม้ว่าคนที่มีการฝึกฝนที่เป็นทางการจะดูถูกอาวุธนี้ แต่ราชวงศ์ เชื้อวงศื และเหล่าขุนนางมีผู้ที่ไม่ขาดแคลนเงินอย่างมาก พวกเขาอาจอยากใช้เงินซื้อของเล่น ไม่ต้องห่วงเรื่องกำไรเพราะ แม้แต่จะติดอัญมณีไว้บนดาบสั้นของพวกเขา พวกคนโง่ที่มีเงินจำนวนมากเหล่านี้ยังแข่งราคาในงานประมูลได้หากเขาหลอมอาวุธนี้ออกมาได้จริง ๆ เขาติดอัญมณีไว้บ้างและทำให้สวยหน่อย แล้วเขาแต่งเรื่องที่ว่า อาวุธชิ้นนี้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณและเกือบจะหายไปแล้ว และเผยแพร่สู่โลกภายนอก เขาไม่ต้องกังวลคนโง่ที่มีเงินมากมายไม่ซื้อของชิ้นนี้หรอกโดยเฉพาะเขาไม่จำเป็นต

    Last Updated : 2024-08-10
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 278

    ลวดลายเปลวไฟสีแดงที่สดใส ซึ่งเรียกได้ว่าน่าหลงใหลก็หายไปแล้วหน้ากากของเวลานี้ดูเหมือนหน้ากากธรรมดา ในเขตตะวันตกของเมือง มีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการปกปิดตัวตนของตัวเอง พวกเขามักจะใช้วิธีการปกปิดที่หลากหลาย บางคนเช่น จั๋วซือหรานสวมหมวกผ้ากอซ และโดยธรรมชาติแล้วก็มีคนสวมหน้ากากด้วยทุกคนเห็นคนใส่หน้ากากบ่อยครั้ง เลยไม่แปลกใจแต่ในขณะนี้ หน้ากากบนใบหน้าของชายที่อยู่ข้าง ๆ นางดูธรรมดา ๆ ไม่ดึงดูดความสนใจของใครเลย พูดได้เลยว่า ไม่มีใครสนใจเขาเลยจั๋วซือหรานรู้สึกหมดคำพูดเล็กน้อย นางอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะ "ใต้เท้าเตรียมการดีจริง ๆ ข้ากังวลมากเกินไปเอง"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาและพูดไปด้วย แม้ว่าหน้ากากจะแน่นมากจนมองไม่เห็นใบหน้าเลย แต่ก็ยังสามารถมองเห็นโคงร่างบางส่วนได้จากขอบของหน้ากากต้องบอกว่าผู้ใหญ่ท่านนี้มีรูปทรงที่คมมากว่ากันว่าคนที่หน้าตาดีส่วนใหญ่จะคล้ายกัน แต่คนที่น่าเกลียดก็น่าเกลียดในแบบของตัวเอง จั๋วซือหรานรู้สึกว่าหากรูปร่างของผู้ชายดูดี รูปร่างหน้าตาของเขามักจะดูดีเช่น ท่านอ๋อง ซึ่งผู้ห้ามโดนแสงพระอาทิตย์...จั๋วซือหรานไม่รู้ทำไมจู่ ๆ นางถึงคิดถึงบุคคลนั้น แต่ในขณะนี้ นา

    Last Updated : 2024-08-11
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 279

    จั๋วซือหรานรู้สึกชายคนนี้จ้องมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการซักถามอย่างกระตือรือร้นนั้น ซึ่งสายตานั้นทำให้นางรู้สึกค่อนข้างกดดันแต่นางคือจั๋วซือหราน ตั้งแต่นางเดินทางมายังโลกใบนี้ นางต้องเผชิญกับการกดขี่ทุกรูปแบบนับเรียกได้ว่า ไม่ว่ามีความกดดันมากเท่าไร นางล้วนไม่กลัวแล้วดังนั้นเมื่อเผชิญสายตาของของเขา จั๋วซือหรานไม่เพียงแต่หลบสายตาของเขา นางยังสบตาเขาอีกด้วยและนางยังมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของนางจั๋วซือหรานมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ นางยิ้มแล้วพูดว่า "ท่านเคยได้ยินประโยคบ้างไหมเจ้าคะ"“อะไร” เขาสงสัย“ยิ่งผู้หญิงสวยเท่าไร นางก็ยิ่งมีความลับมากขึ้นเท่านั้น” จั๋วซือหรานกล่าว และรอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ยิ่งหนาขึ้นนางเห็นชายคนนั้นยืนอยู่ที่นั่นเงียบ ๆ เขาเงียบไปไม่กี่วินาที จึงพูดว่า "เจ้าคุยโอ้อวดเหลือเกิน"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น แต่นางยังคงนิ่งเงียบนางไม่อยากโต้เถียง เพราะไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น นางมีหน้าตาเช่นไร นางทราบดีจั๋วซือหรานไม่อยากเจาะลึกประเด็นนี้ เดิมทีเขาพูดเช่นนี้ เพียงเพื่อขัดจังหวะนายของซือเจิ้ง เขาจะได้ไม่เจาะลึกคำถามต่อไปที่ว่าปืนกระบอกนี้มาจากไหน

    Last Updated : 2024-08-12
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 280

    เขาขมวดคิ้วและมองคนรับใช้ของเขา " จั๋วจิ่วบอกเจ้าว่าราคาต่ำสุดที่ตระกูลเหยียนเสนอนั้นคือสองเท่าของราคาเดิมเช่นนั้นหรือ"“ขอรับ” คนรับใช้พยักหน้าผู้อาวุโสสามพูด "นางบอกเจ้าอย่างไร เจ้าพูดอย่างละเอียดอีกสิ"“ คุณหนูจิ่วบอกข้าว่า ราคาต่ำสุดที่ตระกูลเหยียนเสนอได้คือสองเท่าของราคาเดิม จะไม่มีราคาที่ต่ำกว่านี้อีกแล้ว และตระกูลเหยียนให้ราคานี้เพราะคึณหนูจิ่วเดิมพันชนะ พวกเขาจึงต้องยอมลดราคานี้ให้"คนรับใช้สังเกตเห็นสีหน้าของผู้อาวุโสทุกคนแย่มาก ดังนั้นเขาจึงลังเลที่จะพูดต่อผู้อาวุโสเจ็ด จั๋วอี้ พูดกับเขาว่า "พูดต่อเลย"คนรับใช้จึงพูดต่อด้วยความกังวล "ไม่เช่นนั้น ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างทั้งสองตระกูลแย่ช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงห้าเท่าของราคาเดิมเลย ตระกูลเหยียนแทบจะไม่อยากขายยาให้ตระกูลจั๋ว ด้วยซ้ำ ดูจากตระกูลเหยียนขึ้นราคาครางนี้ เห็นได้ชัดว่า พวกเขากำลังจงใจสร้างปัญหากับตระกูลจั๋ว และใกล้จะถึงวันที่จัดการฝึกฝนประจำตระกูลแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะขายไม่ออก "คนรับใช้เหลือบมองใบหน้าที่ซีดเซียวของผู้อาวุโสสามอย่างระมัดระวัง เสียงของเขาก็อ่อนลงมาก“ดัง ดังนั้น... คุณหนูจิ่วบ

    Last Updated : 2024-08-13
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 281

    เมื่อฉวนคูนได้ยินคำพูดของคุณหนู เขาก็ทราบคุณหนูทำเรื่องนี้สำเร็จแล้วแน่ ๆจั๋วซือหรานจิบชาดอกไม้ด้วยความสบายใจ นางหันกลับไปคิดเรื่องของวันนี้ นางรู้สึกตัวเองทำได้เยี่ยมนางถามฉวนคูน “เมื่อครู่มีเด็กมาหาหรือไม่”“คุณหนูกำลังพูดถึงน้องที่ผอม ๆ คนนั่นหรือขอรับ”“ใช่ ฉลาดมาก ข้าเห็นจวนเรายังต้องการคนรับใช้ จะให้เจ้ากับฝูซูไปทำทุกเรื่อง คงไม่ได้สิ”จั๋วซือหรานจำได้ผู้คนในลานด้านนอกและพูดต่อว่า "ข้าขี้เกียจทดลองใช้คนของจวนจั๋วแล้ว ข้าก็ไม่รู้ว่าใครสั่งพวกเขามา มันน่ารำคาญมาก คราวนี้ส่งพวกเขากลับด้วยกันเถิด"ฉวนคูนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของคุณหนู เขารู้สึกตัวเองโชคดีมาก เขาได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูอย่างมาก“ข้าทำตามคำสั้งของคุณหนูขอรับ แต่น้องคนผอม ๆ นั้น เขาพูดติดอ่างเล็กน้อย ข้ากังวลว่าเขาโกหก แต่ข้าก็กังวัลนั่นเป็นคำสั่งของคุณหนูจริง ๆ ข้าจึงให้อาหารเขาก่อน แล้วให้เขาพรุ่งนี้มาใหม่ขอรับ”แล้วพอถึงพรุ่งนี้ คุณหนูน่าจะกลับมาแล้ว ข้าก็จะได้รู้ว่านั่นเป็นคำพูดของคุณหนูจริง ๆ หรือไม่ ฉวนคูนคิดอย่างนั้นหลังจากได้ยินคำพูดของฉวนคูน จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้วแล้วพูดว่า "เจ้าทำงานรอบคอบดี เช่

    Last Updated : 2024-08-14

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 918

    ดังนั้น กลุ่มองครักษ์เหล่านี้ก็คือคนของรองแม่ทัพจากค่ายคุ้มกันและค่ายป้องกันลาดตระเวนที่จั๋วซือหรานพามาก่อนหน้านี้พวกเขาเดิมทีก็ศรัทธาในตัวจั๋วซือหรานอยู่แล้วตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานนั่งอยู่บนแมงมุมขนาดยักษ์ตัวนั้นด้านหน้าสุดก็ยิ่งรู้สึกเคารพยำเกรงขึ้นมาจั๋วซือหรานไม่รู้การเคลื่อนไหวในเมืองหลวงตอนนี้เลยแต่นางก็มีลางสังหรณ์ขึ้นมารางๆ ว่าเส้นทางครั้งนี้อาจจะไม่ได้ราบรื่นนักไม่แน่ว่าซือคงอวี้ยังมีการลอบโจมตีอยู่จั๋วซือหรานเดาไม่ผิดจริงๆ แต่นางเองก็คิดไม่ถึง ว่าคนที่ซุ่มโจมตีอยู่จะเป็นตัวซือคงอวี้เองเลยครั้นจะบอกว่าเป็นตัวเขาเองก็ยังไม่ถูกนัก เขายังคงมาคนบางส่วนมา แค่องครักษ์สองกลุ่มเท่านั้น กลุ่มหนึ่งมีสิบห้าคน รวมกันแล้วก็แค่สามสิบคนพอเทียบกับขบวนองครักษ์ที่ยิ่งใหญ่นับร้อยขององค์จักรพรรดิเฒ่าแล้วดูไม่จืดเลยจริงๆกระทั่งว่า จั๋วซือหรานแทบจะไม่เกิดความระแวดระวังอะไรขึ้นมาเลยแต่นางก็รู้ว่าการดูถูกศัตรูนั้นไม่ถูกต้อง ดังนั้นยังพยายามกระตุ้นความระแวดระวังขึ้นมาซือคงอวี้อยู่ไม่ห่างไปนัก ขี่ม้าพันธุ์ดีสูงใหญ่ตัวหนึ่งอยู่เขามองบนแผ่นหลังแมงมุมตัวยักษ์นั่นอยู่ห่างๆ มีเงา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 917

    ชัดเจนมาก เฟิงหร่านก่อนที่จะมาหาเขา ในใจได้ตัดสินใจไว้แล้วก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกว่า ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้จะเน่าถึงรากแค่ไหน ก็ยังเป็นตระกูลของตนเองลูกชายไม่รังเกียจที่แม่น่าเกลียด สุนัขไม่รังเกียจที่บ้านจน...แต่ตอนนี้เฟิงหร่านรู้สึกขึ้นแล้วจริงๆ ว่าสุนัขก็ยังรังเกียจความโง่เขลาของตาแก่พวกนี้เป็นศัตรูก่อกบฏ...กล้ากันเสียเหลือเกิน!คิดแล้วคงเป็นเพราะต้าชางหลายปีนี้ ให้หน้ากับพื้นที่กับพวกตระกูลใหญ่มากเกินไป ปล่อยปละจนพวกเขาทำตัวเกะกะระราน!เฟิงหร่านเองก็ทนไม่ไหวแล้ว คิดแต่อยากจะรีบหนีออกไปแต่ก็ออกไปแบบนี้เลยไม่ได้ ก่อนหน้าที่จะออกไป ตนเองก็มีเรื่องที่ต้องทำดังนั้นนางจึงมาหาเฟิงเหยียนด้านนอกมีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย เฟิงหร่านเองก็ปีนกำแพงออกไปโดยไม่หันกลับเพียงครู่เดียว องครักษ์ตระกูลเฟิงกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาในเรือน"ซื่อจื่อ มีคนน่าสงสัยเข้ามาไหม?" หัวหน้าองครักษ์ถามขึ้นเฟิงเหยียนมองพวกเขาสายตาเย็นชา "พวกเจ้านั่นล่ะที่ข้าเห็นว่าน่าสงสัยที่สุด"หัวหน้าองครักษ์ขมวดคิ้ว "แต่เมื่อครู่นี้มีหน่วยลาดตระเวนเห็นคุณหนูเฟิงสือตามท่านเข้ามา...""เช่นนั้นก็ให้หน่วยลาดตระเวนคนน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 916

    ความเย็นเยือกของฝักกระบี่ สัมผัสลงบนคอของผู้ที่เข้ามาถ้าหากเขาชักกระบี่ล่ะก็ ตอนนี้ที่สัมผัสกับคอก็จะไม่ใช่ฝักกระบี่ที่เย็นเยียบ แต่เป็นคมกระบี่ที่แหลมคมแทนเฟิงเหยียนขมวดคิ้วมองคนที่เข้ามา ถามขึ้นว่า "เฟิงสือ เจ้าทำตัวลับๆ ล่อๆ ทำไมกัน""ท่าน ท่านพี่!" เฟิงหร่านรู้สึกว่าหัวใจตนเองแทบจะทะลักออกจากคอหอยแล้วเฟิงเหยียนเก็บกระบี่ลงไป แขวนกระบี่เสวียนเหยียนไปที่เอว ไปที่บ่อน้ำในเรือนตักน้ำล้างมือในเรือนเขา เดิมทีควรจะมีคนรับใช้อยู่ แต่ตอนนี้กลับว่างเหล่า ไม่มีอะไรเลยเหล่าผู้อาวุโสเดิมทีก็ส่งคนรับใช้เข้ามา แต่ถูกเขาปฏิเสธไป พวกหูตาเหล่านี้ ถ้าเขาปล่อยให้เข้ามา มันจะยุ่งยากเวลากำจัดออกไปดังนั้นในเรือนเขาจึงว่างเปล่า เขาลงมือรับผิดชอบอาหารการกินของตนเอง ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดตรงไหนเฟิงหร่านตามอยู่ด้านหลังเฟิงเหยียน รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า "ท่านพี่ ท่านไม่สงสัยเลยหรือว่าคนใช้ในเรือนท่าน เหล่าองครักษ์เงาของท่านหายไปไหนหมด? หรือว่าท่านจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ?"เฟิงเหยียนขมวดคิ้ว น้ำใสในถังที่มือกระฉอกไปมามองคลื่นน้ำในถังไม้ที่สะท้อนเงาจันทร์บนฟ้าไหวๆ ใจของเขาก้เหมือนจะสั่นคลอนหน่อยๆเขาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 915

    ในตระกูลชั้นสูงอันที่จริงก็มีเหตุการณ์อยู่ไม่น้อย เรื่องการนินทาคนอื่นลับหลังน่าจะไม่ใช่แค่ในตระกูลชั้นสูงหรอก ไอ้เรื่องการซุบซิบนินทาเรื่องชาวบ้าน ที่ไหนก็มีทั้งนั้นเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรเฟิงเหยียนไม่เคยมีปฏิกิริยาใหญ่โตเรพาะภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาไม่ได้สนใจหัวข้อสนทนาของผู้อาวุโสพวกนี้ และไม่อยากจะเข้าร่วมด้วยดังนั้นปกติจึงไม่ใส่ใจ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาก็ถือว่ามีมารยาทให้แล้ว หลายครั้งที่แม้แต่หูซ้ายก็ยังไม่เข้าแต่ตอนนี้ เฟิงเหยียนกลับไม่ได้ไม่สนใจแยแสกับหัวข้อสนทนาและเนื้อหาในคำพูดของเหล่าผู้อาวุโสเหมือนกับว่า ความรู้สึกบางอย่างในใจที่พูดออกมาไม่ได้กำลังคุกรุ่น ทำให้เขาเกิดความรำคาญขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ อยากจะฉีกปากแก่ๆ พวกนี้ทิ้งเสียเจ้าพวกขยะพูดอะไรซี้ซั้วไปเรื่อย ไม่รู้จักหุบปากเงียบๆ เสียบ้าง!หญิงสาวคนนั้นเป็นใคร หรือเขาจะไม่รู้ลึกเท่าพวกเขา?ใครก็เข้ามาแตะต้องได้เรอะ? ตลกตายในคืนนั้นที่สวนชิวอีก นางกับเขามีครั้งแรกด้วยกันชัดๆพวกเขาอะไรอะไรมาพูดว่า "ใครก็เข้ามาแตะต้องได้" กัน?ในใจเฟิงเหยียนรำคาญมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่า แค่เพื่อหญิงสาวคนเดีย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 914

    ทุกคนรู้สึกว่านางผิด เพียงแค่เพราะ นางไม่ยอมทำตัวเป็นปกติเหมือนพวกเขาสายตาของเหยียนเจินเปล่งประกาย เอ่ยขึ้นว่า "จะไม่มีทางออกเลยหรือไร? ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไปเข้ากับจั๋วจิ่วเลย!"เหยียนฉีพอได้ยินก็ตกตะลึง งงงันไป "ได้...ได้หรือ? ตระกูลเหยียนกับนาง...ตอนนี้น่าจะอยู่ในสภาพไม่ตายไม่เลิกรากันแล้วกระมัง?""ตระกูลเหยียนก็คือตระกูลเหยียน" เหยียนเจินไม่แยแส "พวกเราถ้าออกจากตระกูลเหยียน เช่นนั้นความแค้นนั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็มองออกถึงนิสัยจั๋วจิ่ว ขอแค่ไม่ผิดใจกับนาง นางก็จะไม่ทำอะไรคนอื่น"อดพูดไม่ได้ เหยียนเจินมองนิสัยจั๋วซือหรานออกจริงๆดังนั้น พ่อลูกตระกูลเหยียนคู่นี้ หลังจากที่หารือกันเสร็จคืนนี้เช้าวันถัดมาตอนที่ข่าวเรื่องจั๋วซือหรานถูกพระราชทานรางวัลลือมาถึงเมืองหลวง จึงออกจากตระกูลเหยียนไปเงียบๆสถานการณ์ของตระกูลเหยียนเป็นเช่นนี้ ตระกูลอื่นกลับเป็นอีกแบบหนึ่งบรรยากาศของตระกูลเฟิงตึงเครียดมากแต่สิ่งเหล่านี้ เฟิงเหยียนไม่คิดจะเข้าร่วม เขานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกันเขาก็ไม่เข้าร่วมการสนทนาเลยสายตาเหม่อลอยหน่อยๆ ราวกับคิดถึงเรื่อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 913

    "เจ้าอย่ามาพูดให้เกินจริงนัก! ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพื่อมาฟังเจ้าพูดเกินจริง!""นั่นสิ ตระกูลฮั่วเพราะอะไรถึงได้ช่วยจั๋วจิ่วแบบนี้ เสี่ยงจะผิดใจกับตระกูลอื่นๆ อีก..."และก็มีเสียงคัดค้านไม่เชื่อปรากฏขึ้นเช่นกันแต่คนฉลาดก็หัวเราะเย็นชาขึ้นา "ใช่สิ ข้าพูดเกินจริงเองนั่นล่ะ พวกเจ้าเห็นว่าตระกูลฮั่วมันโง่สินะ"คนผู้นี้โมโหจนหัวเราะ "ตระกูลฮั่วถูกพวกเราสี่ตระกูลกดมาตั้งหลายปี! พวกเขาในสายตาพวกเราคืออะไร? ผู้ค่าข่าว ผู้จัดการโรงเตี๊ยม...หลายปีมานี้ถูกพวกเราสี่ตระกูลกดดัน""ตอนนี้พวกเขาได้เวลาเฉิดฉายแล้ว โดยไม่สิ้นเปลืองกำลังทหารอีกด้วย ก็แค่เพราะ...เดิมพันถูกกับความโดดเด่นของจั๋วจิ่วเท่านั้น! พวกเจายังคิดว่าเขาจะร่วมมือกับเราเพื่อแก้แค้นหรือ? พวกเรานั่นล่ะที่เป็นศัตรูของเขา!"พูดจบสิ่งเหล่านี้ เขาเองก็ขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับคนเหล่านี้แล้วมีแค่วิธีเดียว ออกไป รีบออกไปจากตระกูลที่ไม่มียาอะไรจะช่วยได้แล้วนี่เสียคนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น พ่อของเหยียนฉีนั่นเองในงานประชุมของตระกูลเช่นนี้ แม้ยังพูดเรื่องเหล่านี้ได้บ้าง แต่เพราะความตรงไปตรงมาและรุนแรงเกินไป ทำให้ก่อนหน้านี้มักจะก่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 912

    สิ่งเหล่านี้ จั๋วซือหรานล้วนไม่รู้เหมือนกับที่นางก็ไม่รู้ ว่าตอนนี้ในตระกูลเหล่านั้น ตอนนี้มีสภาพเช่นไรมันวุ่นวายยุ่งเหยิงแค่ไหนเพราะว่า ข่าวที่นางได้รับชัยไม่ใช่เพิ่งลือมาถึงเมืองหลวงเช้าวันนี้แม้จะบอกว่าเช้าวันนี้เพิ่งส่งมาถึงเมืองหลวง แต่ในฐานะตระกูลชั้นสูง เมื่อวานนี้ก็รู้ข่าวที่ค่ายคุ้มกันแล้วดังนั้นเมื่อคืนนี้ ตอนที่จั๋วซือหรานพักผ่อนอยู่ในค่ายคุ้มกันในเมืองหลวง ตระกูลต่างๆ กลับเป็นคนละแบบกันไปเลยในโถงใหญ่งานพิธีตระกูลเหยียน โคมไฟสว่างไสวบรรยายาศกลับตึงเครียด"ตอนนี้อย่างไรถึงจะดี..." คำถามแบบที่ไม่มีความเห็นแบบนี้และมีพวกที่อารมณ์รุนแรง ด่ากราดออกมาทันที "ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าคิดแต่จะไปยุ่งกับตระกูลเฟิง คงไม่ทำให้จั๋วจิ่วผิดใจจนเป็นแบบนี้"มีคนไม่ค่อยยอมรับกับคำพูดนี้ "เจ้าพูดอะไรออกมา! จั๋วจิ่วนั่น! ตระกูลเหยียนของพวกเราผิดใจไปตั้งนานแล้ว! คนที่ผิดใจกับนางตอนแรกสุดคือพวกเรา! ตอนนี้ถ้าคิดจะถอยออกมามันทันเสียที่ไหน!""เพราะอะไรถึงไม่ทัน! ทำไมถึงจะไม่ทัน! เพราะอะไรถึงจะไม่ทัน! นางไปร่วมมือกับตระกูลฮั่วแล้ว! ยิ่งไปกว่านั้นจากที่ข้าเห็น ตระกูลจั๋วเหมือนจะต้องกระโจนขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 911

    ตอนนี้ข่าวที่รู้แน่ชัดแล้วคือ องค์จักรพรรดิเฒ่าจะส่งอำนาจพ่อค้าหลวงของตระกูลจั๋วให้กับนางวังสวนอุทยานหลิ่วพ่านของราชวงศ์เองก็ให้นางด้วยแล้วจากที่พูด กระทั่งจวนชินอ๋องอวี้กับสวนชิวอี ก็จะยอมยกให้นางด้วยแล้วยังมีข่าวที่มากกว่า เริ่มทยอยกันลือออกมา"ได้ยินว่าฝ่าบาทยังถามนางด้วยว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนหรือเปล่า!""ให้ตายเถอะ! นี่มันสุดยอดไปเลย""จริงด้วย ตระกูลเฟิงทำผิดกับนาง เอาจริงๆ จั๋วจิ่วคนนี้ควรจะไม่เหลือหน้าตาอีกแล้วสิ คิดไม่ถึงเลย ว่าฝ่าบาทถึงกับถามนางว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนไหม!""จะว่าไป สถานการณ์ตรงหน้านนี้ ชินอ๋องอวี้ท่าจะไม่ไหวแล้วมั๊ง เช่นนั้นหลังจากนี้...ไม่แน่ว่าอ๋องเซี่ยนก็จะเป็น...""จริงด้วย ถ้านางพยักหน้าล่ะก็ อนาคตจะไม่ใช่..."พระมารดาแห่งใต้หล้าหรือ!ตามหลักการ ตัวตนฐานะของจั๋วจิ่วเองก็ไม่ใช่ต่ำต้อย ตระกูลจั๋วเองก็ถือว่าเป็นครอบครัวตระกูลสูงปัญหาคือตอนนี้นางเป็นแค่หญิงสาวที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้นพอบวกกับ ก่อนหน้านี้นางเคยหมั้นไปครั้งหนึ่ง ตัวนางเองก็โดนเสน่ห์หนอนพิษกู่จนต้องมาเสียใจที่แต่งงาน แล้วก็ยังเกือบจะได้แต่งงานไปครั้งหนึ่งด้วย ทำเอาพิธีแต่งงานวั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 910

    แต่พอคิดดู เขาจะไปทำอะไรแม่นางจิ่วได้กันล่ะ?ดังนั้นทุกคนจึงค่อนข้างวางใจ"เจ้าอยากจะรู้อะไร?"และไม่รู้เพราะเห็นจั๋วซือหรานไม่พูดอะไรเลย คนผู้นี้จึงถามนางขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ไม่ต้องรีบ ตอนที่ข้าอยากรู้ ข้าจะถามเจ้าเอง""เจ้าตอนนี้ยังไม่อยากรู้หรือ?" สีหน้าของชายหนุ่มดูแล้วแปลกประหลาดสุดๆจั๋วซือหรานตอบเสียงเรียบ "ยังไม่ถึงเวลา รออีกหน่อยเถอะ"จั๋วซือหรานคิดๆ ถามไปคำหนึ่ง "จริงด้วย เจ้าชื่ออะไรล่ะ?"ชายหนุ่มก้มหน้าลงเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกาย "ฮาร์วีย์ ข้าชื่อฮาร์วีย์"จั๋วซือหรานพยักหน้า เอ่ยเสียงต่ำเรียกชื่อนี้ขึ้นมา "ฮาร์วีย์หรือ? เข้าใจแล้ว"นางบอกกับเขาว่า "เจ้าก็ตามข้ามาแล้วกัน รอตอนที่ข้าอยากถาม ข้าจะถามเจ้าเอง"จั๋วซือหรานเดินมาถึงกระโจมค่าย ซือคงเซี่ยนเองก็เดินเข้ามาพอเห็นว่าด้านหลังนางมีคนแดนใต้ตามอยู่ ก็รู้สึกประหลาดใจหน่อยๆแต่ว่าซือคงเซี่ยนเองก็ไม่ได้ตกใจมากนัก แค่ถามขึ้นว่า "ซือหาาน ได้ยินว่าเจ้าจะไปส่งเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ที่เมืองหลวงด้วยตนเองหรือ?""อืม" จั๋วซือหรานขานกลับเสียงแผ่ว "ถึงอย่างไรข้าก็จะไปเมืองหลวงอยู่แล้ว ถือโอกาสทำให้ไปเลย""

DMCA.com Protection Status