共有

บทที่ 272

作者: หูเทียนเสี่ยว
ในฐานะที่เป็นหน่วยสืบสวนพิเศษ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของลัทธิ เขามาเขตตะวันตกของเมือง ซึ่งเป็นเรื่องปกติอย่างมาก

แต่คำพูดถัดไปของซือเจิ้งทำให้เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวรู้สึกตึงเครียด และทำให้จั๋วซือหราน รูสึกประหลาดใจ

“แต่ข้าเห็นเจ้าคุมนางมาที่นี่” หน่วยสืบสวนพิเศษมองเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวด้วยสายตาที่เคร่งครัด “เจ้าอยากทำอะไร”

เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวอ้าปาก แต่ก็พูดไม่ออกสักคำ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง เขาแค่ตอบ "...ข้าได้ยินเรื่องต่าง ๆ ที่เก่งกาจของคุณหนูจิ่วในเมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้าสนใจนางมาก เลยชวนนางมาคุยกันหน่อย ข้าไม่ทราบเรื่องนี้จะรบกวนถึงท่านขอรับ"

เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวกล่าวเช่นนี้ แต่ดูเหมือนซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้นำขององค์กรตลาดมืดเขตตะวันตกของเมือง ซึ่งทำให้ผู้คนคิดว่าเขาไม่น่าเชื่อถือ

กล่าวโดยสรุป เมื่อซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษได้ยินคำพูดนั้น เขาก็หันไปมองจั๋วซือหราน และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "เขาพูดจริงหรือไม่"

ขณะที่จั๋วซือหรานกำลังจะตอบ นางได้ยินท่านซือเจิ้งพูดอีกครั้งว่า "ในหน่วยสืบสวนพิเศษ เจ้าได้ผ่านการสอบของแพทย์กล
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

関連チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 273

    เมื่อจั๋วซือหรานเห็นใบหน้าที่ไม่ยิ้มแย้มของเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว สีหน้าของเขามีความโล่งใจและปิติยินดีนางอดไม่ได้ที่ต้องสงสารเขา เจ้าสำนักเจ้าคะ อย่าเพิ่งดีใจก่อนสิจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "เจ้าสำนักให้ข้าขึ้นมา เพื่อให้ข้าเข้าร่วมในการฝึกฝนเถื่อนของหอฟ้าดาว ไม่ทราบว่าท่านเคยได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงหรือไม่"ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษเงียบไปสองสามวินาที แล้วพูดว่า "ได้ยินมานิดหน่อย"“กล่าวโดยสรุปคือ ความทุกข์ที่ข้าได้รับในก่อนหน้านี้คือข้าถูกพี่สาวในตระกูลเล่นงาน ตระกูบจะให้ความยุติธรรมแก่ข้าโดยมีเงื่อนไขบางอย่าง ข้าต้องเอาชนะพี่สาวที่ทำราบข้าในการฝึกฝนของตระกูล"ใบหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีสีหน้าใด ๆ และนางพูดอย่างใจเย็น เหมือนนางกำลังพูดถึงเรื่องไม่สำคัญของคนอื่นซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่า นางไม่ได้จริงจังกับเรื่องเหล่านี้จริง ๆจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "พี่ชายของพี่สาวคนนั้นไม่เป็นศิษย์ของ ลัทธิอู๋จี๋เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เก่งกาจในการฝึกฝนประจำตระกูลด้วย เขากลับมาอยู่เมืองหลวงแล้ว และเขาต้องใช้วิธีทุกประเภทอย่างแน่นอน เพื่อยกระดับแข็งแกร่งของพี่สาวคนนี้ให้ได้ ”“ข้าไม่มีใครชี้แนะเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 274

    จั๋วซือหรานยิ้มและมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกมั่นใจเล็กน้อย "เจ้าสำนัก ท่านซือเจิ้งต้องเห็นด้วยแน่นอน"จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าทำไมนางถึงมั่นใจขนาดนั้น อาจเป็นเพราะดูเหมือนซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษมาที่นี่เพราะนางหรือจั๋วซือหรานมองเขาแล้วเรียกเขาอีกครั้ง “ ท่านซือเจิ้ง”นางเอียงศีรษะและมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ นางพยายามการเห็นชอบหรือไม่จากรูดวงตาของเขาจากหน้ากาก แต่นางมองไม่เห็นอะไรเลย รูตานั้นลึกและมืดท่านซือเจิ้งเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็มีเสียงของชายคนนั้นดังมาจากใต้หน้ากาก "ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว ไปเอาพู่กันและกระดาษมา"ชั่วขณะต่อมาที่เขาพูดคำเหล่านี้ เขาเห็นรอยยิ้มอันสดใสปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวนางสวยอย่างมาก และใบหน้าเล็ก ๆ ของนางก็ดูสวยงามยิ่งขึ้นด้วยรอยยิ้มอันงดงามนี้เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวเสีนใจเกือบต้องกัดฟันหัก แต่เขาก็ยังไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เขาทำได้เพียงให้คนรับใช้นำกระดาษและพู่กันมาให้ตายเถอะ คนรับใช้ของเขามีน้ำใจมาก เขาคงเดาได้ว่าเจ้านายของเขาต้องการเขียนเอกสารสำคัญ ดังนั้นกระดาษที่เขาส่งให้เขาจึงเป็นกระดาษที่ทำจากหนังแพะ ซึ่งเป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 275

    จั๋วซือหรานมองไปที่หน้ากากของชายคนนั้นที่มีรูปแบบเปลวไฟสีแดง นางเห็นแววตาที่อยากรู้อยากเห็นในดวงตาของเขา นางอดไม่ได้ที่ต้องรู้สึกตัวเองหมดคำพูดสีหน้าของนางดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ซึ่งค่อนข้างทำให้ผู้คนประหลาดใจ เพราะผู้หญิงคนนี้สามารถวางกลยุทธ์และทำทุกอย่างได้อย่างง่ายดายสีหน้าที่ผู้คนมักจะเห็นบนใบหน้าของนางนั้นคือความสงบไม่ต้องพูดถึงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ความเศร้า ความกลัว และความเกลียดชัง ใบหน้าของนางไม่มีสีหน้าที่หมดคำพูดเหมือนอย่างที่นางมีในตอนนี้แต่ในขณะนี้ สีหน้าของนางบอกได้ว่า นางกำลังไม่รู้ต้องทำอย่างไรดี“จริง ๆ แล้ว มันไม่ของวิเศษอะไรหรอก มันเป็นแค่อุปกรณ์เล็ก ๆ ” จั๋วซือหรานกล่าว“แม่นางถ่อมตัว” เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพูดอย่างเคร่ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สบายใจเพราะจั๋วซือหรานโกงเขาต่อหน้าซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเย็นชาเล็กน้อยในขณะนี้ “อุปกรณ์ขนาดเล็กสามารถทำให้นักฆ่าของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากระยะไกลได้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ง่ายเลย ยิ่งทำให้ข้าอยากเห็นมาก”ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษไม่พูดอะไร แต่มองนางครู่หนึ่งวินาทีต่อมา จั๋วซือหรานส่ายแขนเสื้อ แล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 276

    สถานการณ์ในสนามยิ่งวุ่นวายและปั่นป่วน เสียงของปืนดังเช่นนี้ ซึ่งปิดบังความวุ่นวายของสนามฝึก ทำให้ทุกคนตกตระลึงคนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเสียงนั้นคืออะไรก็ตาม เมื่อต้องเผชิญกับเสียงดัง ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือ พวกเขาจะคิดว่ามีอันตรายเกิดขึ้นหรือไม่ และสัญชาตญาณแรกของพวกเขาคืออยากหนีทันใดนั้นทุกคนในก็เริ่มปั่นป่วน และผู้คนจากหอฟ้าดาวควบคุมสถานการณ์ได้จั๋วซือหรานหยุดยิง นางหันไปมองเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว "แค่นี้พอหรือยัง"นางถามต่อ "หากเจ้าคิดว่าแค่นี้ยังไม่พอ ข้าเต็มใจที่จะฆ่าใครสักคน ให้เจ้าเห็นเลือดหน่อย""..." สีหน้าของเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวดูมืดมนเล็กน้อย เขาเงียบไปสองสามวินาทีแล้วพูดว่า "พอแล้ว"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้นอย่างที่นางคาดไว้ หลอกเขาง่ายมากโดยปกติแล้ว ระยะห่างจากชั้นสองถึงก้นชามนั้น จริง ๆ แล้วไกลกว่าระยะห่างจากหอนาฬิกาถึงประตูห้องของนางในวันนั้นมากมายแต่นางมันใจตัวเองสามารถหลอกผู้คนได้ ท้ายที่สุด ของชิ้นนี้ดูไม่เหมือนคันธนู แต่มันเป็นอาวุธระยะไกล และมันก็ส่งเสียงดังมากมันสามารถหลอกคนได้ง่ายโดยปกตินี่คือพลังของอาวุธสุดร้อนแรง“ข้าขอดูหน่อยไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 277

    เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวรู้สึกเขินอายเล็กน้อยในความเป็นจริง เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาปืนนี้ เขาจะไม่ทำเรื่องที่น่าเกลียดขนาดนี้หรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ยังมีซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษอยู่ด้วยแต่เขามีความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาเอง เช่น หากเขาลูบปืนนี้นาน ๆ หน่อย จั๋วจิ่วอาจจะเต็มใจที่จะมอบอาวุธนี้ให้เขาเล่นด้วยจากนั้นเขาจะมีเวลามากพอที่จะหาช่างมาหาวิธีทำอาวุธนี้ จากนั้นเขาค่อย ๆ ศึกษาอาวุธชิ้นนี้ เขามีนักกลั่นอาวุธรับใช้เขาอยู่ หากเขาสามารถทำอาวุธชิ้นนี้ได้...แม้ว่าคนที่มีการฝึกฝนที่เป็นทางการจะดูถูกอาวุธนี้ แต่ราชวงศ์ เชื้อวงศื และเหล่าขุนนางมีผู้ที่ไม่ขาดแคลนเงินอย่างมาก พวกเขาอาจอยากใช้เงินซื้อของเล่น ไม่ต้องห่วงเรื่องกำไรเพราะ แม้แต่จะติดอัญมณีไว้บนดาบสั้นของพวกเขา พวกคนโง่ที่มีเงินจำนวนมากเหล่านี้ยังแข่งราคาในงานประมูลได้หากเขาหลอมอาวุธนี้ออกมาได้จริง ๆ เขาติดอัญมณีไว้บ้างและทำให้สวยหน่อย แล้วเขาแต่งเรื่องที่ว่า อาวุธชิ้นนี้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณและเกือบจะหายไปแล้ว และเผยแพร่สู่โลกภายนอก เขาไม่ต้องกังวลคนโง่ที่มีเงินมากมายไม่ซื้อของชิ้นนี้หรอกโดยเฉพาะเขาไม่จำเป็นต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 278

    ลวดลายเปลวไฟสีแดงที่สดใส ซึ่งเรียกได้ว่าน่าหลงใหลก็หายไปแล้วหน้ากากของเวลานี้ดูเหมือนหน้ากากธรรมดา ในเขตตะวันตกของเมือง มีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการปกปิดตัวตนของตัวเอง พวกเขามักจะใช้วิธีการปกปิดที่หลากหลาย บางคนเช่น จั๋วซือหรานสวมหมวกผ้ากอซ และโดยธรรมชาติแล้วก็มีคนสวมหน้ากากด้วยทุกคนเห็นคนใส่หน้ากากบ่อยครั้ง เลยไม่แปลกใจแต่ในขณะนี้ หน้ากากบนใบหน้าของชายที่อยู่ข้าง ๆ นางดูธรรมดา ๆ ไม่ดึงดูดความสนใจของใครเลย พูดได้เลยว่า ไม่มีใครสนใจเขาเลยจั๋วซือหรานรู้สึกหมดคำพูดเล็กน้อย นางอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะ "ใต้เท้าเตรียมการดีจริง ๆ ข้ากังวลมากเกินไปเอง"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาและพูดไปด้วย แม้ว่าหน้ากากจะแน่นมากจนมองไม่เห็นใบหน้าเลย แต่ก็ยังสามารถมองเห็นโคงร่างบางส่วนได้จากขอบของหน้ากากต้องบอกว่าผู้ใหญ่ท่านนี้มีรูปทรงที่คมมากว่ากันว่าคนที่หน้าตาดีส่วนใหญ่จะคล้ายกัน แต่คนที่น่าเกลียดก็น่าเกลียดในแบบของตัวเอง จั๋วซือหรานรู้สึกว่าหากรูปร่างของผู้ชายดูดี รูปร่างหน้าตาของเขามักจะดูดีเช่น ท่านอ๋อง ซึ่งผู้ห้ามโดนแสงพระอาทิตย์...จั๋วซือหรานไม่รู้ทำไมจู่ ๆ นางถึงคิดถึงบุคคลนั้น แต่ในขณะนี้ นา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 279

    จั๋วซือหรานรู้สึกชายคนนี้จ้องมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการซักถามอย่างกระตือรือร้นนั้น ซึ่งสายตานั้นทำให้นางรู้สึกค่อนข้างกดดันแต่นางคือจั๋วซือหราน ตั้งแต่นางเดินทางมายังโลกใบนี้ นางต้องเผชิญกับการกดขี่ทุกรูปแบบนับเรียกได้ว่า ไม่ว่ามีความกดดันมากเท่าไร นางล้วนไม่กลัวแล้วดังนั้นเมื่อเผชิญสายตาของของเขา จั๋วซือหรานไม่เพียงแต่หลบสายตาของเขา นางยังสบตาเขาอีกด้วยและนางยังมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของนางจั๋วซือหรานมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ นางยิ้มแล้วพูดว่า "ท่านเคยได้ยินประโยคบ้างไหมเจ้าคะ"“อะไร” เขาสงสัย“ยิ่งผู้หญิงสวยเท่าไร นางก็ยิ่งมีความลับมากขึ้นเท่านั้น” จั๋วซือหรานกล่าว และรอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ยิ่งหนาขึ้นนางเห็นชายคนนั้นยืนอยู่ที่นั่นเงียบ ๆ เขาเงียบไปไม่กี่วินาที จึงพูดว่า "เจ้าคุยโอ้อวดเหลือเกิน"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น แต่นางยังคงนิ่งเงียบนางไม่อยากโต้เถียง เพราะไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น นางมีหน้าตาเช่นไร นางทราบดีจั๋วซือหรานไม่อยากเจาะลึกประเด็นนี้ เดิมทีเขาพูดเช่นนี้ เพียงเพื่อขัดจังหวะนายของซือเจิ้ง เขาจะได้ไม่เจาะลึกคำถามต่อไปที่ว่าปืนกระบอกนี้มาจากไหน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 280

    เขาขมวดคิ้วและมองคนรับใช้ของเขา " จั๋วจิ่วบอกเจ้าว่าราคาต่ำสุดที่ตระกูลเหยียนเสนอนั้นคือสองเท่าของราคาเดิมเช่นนั้นหรือ"“ขอรับ” คนรับใช้พยักหน้าผู้อาวุโสสามพูด "นางบอกเจ้าอย่างไร เจ้าพูดอย่างละเอียดอีกสิ"“ คุณหนูจิ่วบอกข้าว่า ราคาต่ำสุดที่ตระกูลเหยียนเสนอได้คือสองเท่าของราคาเดิม จะไม่มีราคาที่ต่ำกว่านี้อีกแล้ว และตระกูลเหยียนให้ราคานี้เพราะคึณหนูจิ่วเดิมพันชนะ พวกเขาจึงต้องยอมลดราคานี้ให้"คนรับใช้สังเกตเห็นสีหน้าของผู้อาวุโสทุกคนแย่มาก ดังนั้นเขาจึงลังเลที่จะพูดต่อผู้อาวุโสเจ็ด จั๋วอี้ พูดกับเขาว่า "พูดต่อเลย"คนรับใช้จึงพูดต่อด้วยความกังวล "ไม่เช่นนั้น ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างทั้งสองตระกูลแย่ช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงห้าเท่าของราคาเดิมเลย ตระกูลเหยียนแทบจะไม่อยากขายยาให้ตระกูลจั๋ว ด้วยซ้ำ ดูจากตระกูลเหยียนขึ้นราคาครางนี้ เห็นได้ชัดว่า พวกเขากำลังจงใจสร้างปัญหากับตระกูลจั๋ว และใกล้จะถึงวันที่จัดการฝึกฝนประจำตระกูลแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะขายไม่ออก "คนรับใช้เหลือบมองใบหน้าที่ซีดเซียวของผู้อาวุโสสามอย่างระมัดระวัง เสียงของเขาก็อ่อนลงมาก“ดัง ดังนั้น... คุณหนูจิ่วบ

最新チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status