All Chapters of ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: Chapter 151 - Chapter 160

994 Chapters

บทที่ 151

จ้านหลูยังสงสัยว่าเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า ดังนั้นเจ้านายของเขาจึงต้องการลงโทษเขาด้วยวิธีนี้จ้านหลูคิดกับตัวเองว่า หากข้าทำอะไรผิด ขอเจ้านายลงโทษข้าด้วยวิธีการลงโทษต่าง ๆ แต่ไม่ใช่ให้ข้าดมกลิ่นอาหารอร่อย ๆ แต่กินไม่ได้ ซึ่งทรมานคนมากเมื่อจั๋วซือหรานผัดเป็ดเสร็จ แกงก็จะเสร็จแล้วเหมือนกัน และเนื้อแกะก็หมักเรียบร้อยแล้วด้วย กล่าวกันว่าบางทีต้องหมักข้ามคืน รสชาติจะได้เข้าถึงเนื้อ แล้วจะอร่อยกว่าแต่จั๋วซือหรานไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ดังนั้นนางจึงทำได้แค่นั้นฝูซูทำตามคำสั่งของนาง เขาได้จัดชั้นวางในสวนและแขวนตะขอเหล็กอันใหญ่ และจุดไฟและรอนางจั๋วซือหรานแขวนเนื้อแกะแล้วย่างสักพัก จากนั้นทาน้ำปรุงรสแล้วโรยด้วยเครื่องเทศวิญญาณและผงพริกในตอนแรก ฝูซูยังคงอดความอยากกินอาหารของเขาได้อยู่ต่อมาเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว เขานั่งยอง ๆ ข้าง ๆ จั๋วซือหราน เหมือนลูกหมารออาหาร “คุณหนูขอรับ จะเสร็จเมื่อไรขอรับ หอมมากขอรับ ขอชิมก่อนได้ไหมขอรับ”“ยังไม่เสร็จเลย เสร็จก่อนค่อยชิมสิ” จั๋วซือหรานกล่าวจั๋วซือหรานแปรงเนื้อแกะสับด้วยน้ำผึ้งอีกครั้งนางเหลือบมองผนังข้าง ๆ แล้วพูดว่า "ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว ทำไมไม่ลงม
Read more

บทที่ 152

เขาคิดแล้วรู้สึกว่าเขาทานข้าวที่นี่โดยไม่ได้ช่วยอะไร เนื่องจากเขาต้องกินข้าวบ้านนาง เขาจึงต้องทำอะไรบางอย่างให้นางจ้านหลูอาจเดาได้ว่าคนเหล่านั้นที่อยู่ลานด้านนอกอาจถูกตระกูลจั๋วส่งมาเขาลังเลและถามว่า "หากคุณหนูต้องการ ข้าช่วยสั่งสอนพวกเขาก็ได้"จั๋วซือหรานส่ายหัว "ไม่ต้องหรอก ข้าให้พวกมันอยู่ที่นี่ไม่ได้เป็นเพราะข้าสั่งสอนพวกเขาไม่ได้ ข้าให้พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อให้พวกเขากลับไปรายงานตระกูลจั๋วว่า ข้ามีชีวิตสบาย ๆ "จ้านหลูคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาพยักหน้าแล้วเข้าไปกับฝูซู ยกของที่นางสั่งออกมาพวกเขาจัดวางตามจั๋คำสั่งของวซือหราน และพากันเริ่มทานข้าวกันทีแรกฝูซูและจ้านหลูยังเกรงตัวเล็กน้อย แต่หลังจากกินไปสองคำ พวกเขาก็กลับเกรงตัวแล้ว เพราะกับข้าวมีกลิ่นหอมและอร่อยมากฝูซูชมไปและทานไป“คุณหนู คุณหนูเป็นอัจฉริยะจริง ๆ คุณหนูเป็นอัจฉริยะมาก คุณหนูทำเป็นทุกอย่างได้อย่างไรขอรับ”จ้านหลูไม่ค่อยเก่งในการชื่นชมผผู้อื่น ดังนั้นเขามีแต่พยักหน้าอย่างเดียวจั๋วซือหรานยิ้ม นางรู้สึกกับข้าวอร่อยจริง ๆ ความจริงนางไม่ได้ทำกับข้าวมานานแล้ว วันนี้เลยทำไม่คล่องมื่อ คุณภาพของวัสดุอาหารดีเยี่ยม เป็ดมงกุ
Read more

บทที่ 153

“ขอรับ ขอรับ” จ้านหลูพูดอย่างหวาดกลัว เขาคิดครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรถกินชกับข้าวของแม่นางจิ่วโดยเปล่าประโยชน์แล้วอีกอย่าง หากแม่นางจิ่วคิดจะทำร้ายเจ้านาย เขาไม่ฟังคำสั่งของนางแน่นอน แต่เป็นเพียงเรื่องการเอากับข้าวมาให้และการฝากบอกคำพูดของนางเท่านั้นต่อให้เขาต้องเผชิญหน้ากับหน้าเย็นชาของเจ้านาย แต่เขาก็ต้องพูดอย่างหวาดกลัว" แม่นางจิ่วให้ข้าถามท่านว่า ก่อนหน้านี้ ท่านดูถูกนางหรือเปล่า ท่านจึงไม่อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน ตอนนี้ท่านเสียใจไหมขอรับ"ทันทีที่จ้านหลูพูดคำเหล่านี้ เจ้านายของเขาก็จ้องมองเขาอย่างโหดเหี้ยมจ้านหลูรีบอธิบาย " แม่นางจิ่วให้ข้าพูดเช่นนี้ขอรับ"“นางยังพูดอะไรอีก” เฟิงเหยียนถามอย่างไร้ความรู้สึกจ้านหลูรู้สึกว่าหนังศีรษะของเขาแข็ง เขารีบตอบ " แม่นางจิ่ว ยังบอกด้วยว่า นี่ถือว่าเป็นของขวัญการเสนอตัวเองของนางขอรับ"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฟิงเหยียนก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยจ้านหลูมองเขาแล้วถามว่า "ท่านจะรับไว้ไหมขอรับ หากท่านไม่อยากรับไว้ ข้าน้อยช่วยเอาไปคืนแม่นางไหมขอรับ"เฟิงเหยียนมองเขาอย่างเย็นชา "ยังไม่ออกไปหรือ""ขอรับ ข้ารับทราบ" จ้านหลูตอบด้วยความดีใจ "ข
Read more

บทที่ 154

ทุกคนต้องยอมรับว่า กรรมพันธุ์ของตระกูลเฟิงนอกจากพลังวิเศษโดยกำเนิดน่ารำคัญไปหน่อย ผู้คนต้องชื่นชมว่าตระกูลนี้หน้าตาดีจริง ๆทุกคนของตระกูลเฟิงมีรูปร่างสูงและตรง พวกเขาดูดีทั้งนั้นแม้ว่าผู้เฒ่าจะอายุมากขึ้น แต่มองจากรูปร่าง หน้าตาและบุคลิกของพวกเขา ยังสามารถมองเห็นเอกลักษณ์ของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาแก่ลงแล้ว ยังมีบุคลิกเฉพาะตัวของพวกเขาเพียงแต่หน้าตาของเฟิงเหยียน ไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน แม้แต่ในตระกูลเฟิง เขาก็ถือว่าดีที่สุดในบรรดาดีที่สุดเฟิงเหยียนเดินเข้าไปในห้องโถงด้านหน้า เหลือบมองพวกเขาเบา ๆ และไม่พูดอะไรผุ้อาวุโสท่านหนึ่งพูดเป็นคนแรก "เหยียนเอ๋อร์ ข้าคิดไม่ถึงเลยว่า เจ้าจะไม่ถูกกับตระกูลเหยียน เพราะผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ สำหรับตระกูลเรา การที่ทำให้ตระกูลเหยียนโกรธ ไม่ใช่พฤติกรรมที่ฉลาด"เฟิงเหยียนเงยหน้าขึ้นและมองเขา "ทำให้พวกเขาโกรธ ไม่ฉลาดอย่างไร"ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งถอนหายใจ "เจ้ารู้ด้วยว่า อาการของตระกูลเราต้องการพึ่งพาตระกูลเหยียนตลอด... "เสียงของเฟิงเหยียนสงบมาก “ข้า ต้องการหรือ”ผู้อาวุโสท่านนี้ตอบคำถามนี้ไม่ได้ อันที่จริง ทุกคนรู้ดีว่า ไม่ว่าอุปสงค์และอุปทานระห
Read more

บทที่ 155

สีหน้าของเหล่าผู้อาวุโสแข็งทื่อจริงด้วย หากเป็นผู้อื่น พวกเขายังสามารถคิดแผนรับมือโดยคิดว่าคนผู้นั้นมีความคิดเหมือนคนทั่วไป แต่จั๋วจิ่วนั้น...นางบ้าคลั่งจริง ๆดูเหมือนนางมีความคิดไม่เหมือนผู้อื่น ดูเหมือนนางไม่สนใจว่าจะมีใครคอยหนุนหลังนางหรือไม่ นางไม่สนใจว่าตระกูลของคู่แข่งจะแข็งแกร่งเพียงใด นางอยากโจมตีผู้ใดเมื่อใด นางโจมตีทันทีแม้ว่าพวกเขาจะมาจากตระกูลเฟิง ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมาก แต่ในขณะนี้ เหล่าผู้อาวุโสก็หมดคำพูดเช่นกันเฟิงเหยียนพูดเบา ๆ “นางทำให้ตระกูลเหยียนอับอายมากจนทุกคนรู้ สุดท้าย มันเป็นเพียงการชนะเพื่อเรียกร้องการเดิมพันเท่านั้น ให้เหยียนชางคุกเข่าลงและยอมรับความพ่ายแพ้ นางให้ความสำคัญกับการเดิมพันอย่างมาก”ผู้อาวุโสท่านหนึ่งอดไม่ได้ที่ต้องพูดว่า "แล้วทำไมเจ้าถึงอยากเดิมพันกับนางล่ะ"เฟิงเหยียนจ้องมองเขาอย่างเย็นชาและไม่แยแส "หากนางสามารถรักษาข้าได้ ทำไมข้าไม่เดิมพันกับนางล่ะ หรือข้าต้องเหมือนพวกท่าน ฝากความหวังไว้กับคนของตระกูลเหยียน เช่นนั้นจะแก้ปัญหาได้หรือ"เฟิงเหยียนไม่ไคิดจะอยู่นานเกินไป เขาหันหลังกลับและเดินไปที่ทางเข้าห้องโถงด้านหน้า“เหยียนเอ๋อร์...”
Read more

บทที่ 156

โดยปกติแล้ว เรื่องที่ทำได้ง่ายเกินไปจะทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยอยู่เสมอแต่มันง่ายมากในขณะนี้ และทุกอย่างดูสมเหตุสมผล ทุกการสงสัยมีคำตอบหมดดังนั้นพวกเขาไม่เพียงแต่ไม่สงสัยและระมัดระวังเท่านั้น แต่... พวกเขากลับผ่อนคลายลงมากแม้ว่าจั๋วจิ่วผู้นี้จะมีความสามารถและทรงพลังมากแค่ไหนก็ตาม ก็เป็นเพียงคนตัวเล็กที่น่าสมเพชและไม่ได้รับการหนุนหลังจากตระกูลชายชุดดำสามคนมาถึงประตูห้องนอนของจั๋วซือหรานอย่างราบรื่นพวกเขาไม่ได้พูดอะไรเพื่อไม่ให้นางตื่นตระหนกดังนั้นพวกเขาจึงสบตากัน และดวงตาของพวกเขาดูเหมือนจะมีความหมายเหมือนกัน นี่มันง่ายเกินไป ไม่มีการป้องกันแต่สิ่งที่พวกเขาทั้งสามไม่รู้ก็คือทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกหลอดอันสีดำสังเกตบนหลังคากระจกของหอระฆังที่อยู่ห่างไกลออกไป มีร่างสีดำเรียวยาวนอนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ โดยมีของที่เป็นสีดำขนาดใหญ่พาดอยู่บนสันหลังคาของหอระฆังรูม่านตาของนางอยู่ใกล้กับกล้องส่องทางไกลของของชิ้นใหญ่นี้ นิ้วเรียวเล็กของนางกำลังค่อย ๆ ปรับความแม่นยำของการมองเห็นเป้าเล็งเคลื่อนไป ๆ มา ๆ บนร่างกายของทั้งสามคนจั๋วซือหรานพึมพำกับตัวเอง "พวกเจ้าไม่ระมัดระวังเลย
Read more

บทที่ 157

กลิ่นหอมแปลก ๆ อบอวลไปทั่วทั้งห้องในไม่ช้า ชายชุดดำผู้นี้ก็สังเกตร่างกายของตัวเองเริ่มอ่อนแอลง ไม่เพียงแต่ร่างกายของเขาค่อย ๆ หมดแรงเท่านั้น แต่เขาก็ค่อย ๆ พร่ามัวไปด้วยและผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสองของเขาที่ได้รับบาดเจ็บด้านนอกก็ค่อย ๆ หมดสติไปก่อนที่พวกเขาหมดสติไป ดวงตาของพวกเขาก็มองไปในทิศทางนั้นพวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นอาการประสาทหลอนเมื่อพวกเขาหมดสติหรือว่าพวกเขามองเห็นนางจริง ๆ บนหลังคาหอระฆังที่อยู่ไกล ๆ มีร่างผอมของใครบางคนกำลังแบกอาวุธยาวเครื่องหนึ่งและกำลังยืนขึ้น...ก่อนที่พวกเขาจะหมดสติไป ความคิดสุดท้ายในสมองของพวกเขาคือ ตระกูลใหญ่เช่นนี้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เพราะพวกเขาประเมินนางต่ำเกินไป ทำไมพวกเขาทั้งสามถึงไม่ได้ประสบการณ์จากตัวอย่างของคนอื่นบ้างล่ะเพราะหากดูถูกผู้หญิง จะเกิดปัญหาใหญ่แน่ ๆจั๋วซือหรานดูสถานการณ์ที่นี่จากระยะไกลกล้องส่องทางไกล จริง ๆ แล้วก่อนที่นางออกมา นางได้จุดธูปที่ทำให้คนสลบในห้องเพื่อให้ไม่มีภัยเดิมทีนางยังรู้สึกอยู่ว่า นางกำลังทำสิ่งที่ไม่จำเป็นโดยไม่คาดคิด...มีคนถูกหลอกจริง ๆจั๋วซือหราน"เชอะ"หนึ่งที วางของชิ้นใหญ่บนไหล่ของนางเข้าไป
Read more

บทที่ 158

กวนคุนรีบรับเหรียญที่เจ้านายยื่นให้ด้วยมือทั้งสองข้าง "บ่าวรีบไปเดี๋ยวนี้ขอรับ"เขารีบออกไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเขาออกจากจวน เขาจึงตระหนักได้ถึงคำพูดของคุณหนูจิ่ว“อะไรนะ...นักฆ่าหรือ”หลังจากนั้นไม่นาน จวนของท่านอ๋องเซี่ยนห้องโถงด้านหน้าสว่างไสว ซือคงเซี่ยนสวมเสื้อคลุมและนั่งบนเก้าอี้ เขากำลังรับถ้วยชาร้อนจากคนรับใช้และจิบชาหนึ่งคำเขามองคนรับใช้ที่อยู่ใต้เก้าอี้ของเขา เหรียญในมือของคนรับใช้คนนี้คือของที่เขามอบให้กับจั๋วซือหรานจริง ๆ“ใช่ขอรับ คุณหนูให้บ่าวมาส่งข่าวถึงท่านอ๋องขอรับ ว่ามีนักฆ่า แอบมาที่จวน แต่คุณหนูคุมพวกมันไว้แล้ว คุณหนูบอกว่าตราบใดที่บ่าวแค่นี้ ท่านจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร ”ฉวนคูนวิ่งถึงที่นี่สุดพลัง เขาแทบจะหายใจไม่ได้ เขากลั้นหายใจและวิ่งถึงที่นี่ และหลังจากรายงานเรื่องที่จั๋วซือหรานให้เขาพูด เขาจึงเริ่มหายใจแรง ๆซือคงเซี่ยนนั่งอยู่ที่นั่น เขายกมือขึ้นแล้วบีบดั้งจมูกตรงของเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าของเขาแสดงถึงความทำอะไรไม่ถูกและความกังวลเขาใช้นิ้วจับหน้าผากแล้วเหลือบมองฉวนคูน "คุณหนูของเจ้าปลอดภัยอยู่ไหม"ฉวนคูนคิดสักพักแล้วตอบว่า "กราบท่านอ๋อง ดูจาก
Read more

บทที่ 159

ต่งคังตระหนักได้อย่างรวดเร็วโดยธรรมชาติว่า นี่ไม่ใช่ทางที่ไปจวนของท่านอ๋องจริง ๆ แต่ท่านอ๋องเซี่ยนเป็นผู้ที่นำทาง ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ใช่ทางไปจวนอ๋องก็ตาม...ไหน ๆ ก็มาแล้ว เขาก็ไม่ละเลยเรื่องนี้ดังนั้น เมื่อพวกเขาหยุดที่หน้าบ้านของจั๋วซือหราน ผู้ที่อยู่หน้าบ้านจวนของจั๋วซือหราน ได้แก่ ซือคงเซี่ยน, ต่งคัง ซึ่งผู้เป็นผู้อำนวยการของกรมสอบสวนคดีอาญา และเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนสองทีม รวมเป็นสิบคนพวกเขาเห็นร่างผอมบางยืนอยู่ที่ประตูบ้านจาดที่ไกล ๆ แม่นางผู้นี้มีผมยาวไว้ด้านหลัง ถือตะเกียงอยู่ในมือดูเหมือนมีพลังที่แข็งแกร่งในความเหงาซือคงเซี่ยนเสียนรัดบังเหียนให้แน่น เขาหยุดม้าที่หน้าประตู พลิกตัวลงจากม้าทันที แล้ววิ่งไปหาจั๋วซือหราน " แม่นางจิ่ว เจ้าสบายดีไหม"ซือคงเซี่ยนถามไปและมองจั๋วซือหรานอย่างละเอียดด้วย แต่เขาไม่เห็นอาการบาดเจ็บใด ๆ บนร่างกายของนางซือคงเซี่ยนจึงรู้สึกโล่งใจและถอนหายใจด้วยความโล่งอกจั๋วซือหรานส่ายหัว "ข้าสบายดี" นางยิ้มอย่างหมดคำพูด "ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ด้วยตัวเอง คนรับใช้ที่ข้าส่งไปบอกข่าวไม่ชัดเจนหรือ"“คนรับใช้ของเจ้าพูดชัดเจนเพียงพอแล้ว แต่เขาอาจจะวิ่งไปจนส
Read more

บทที่ 160

พูดตามตรง หากนางไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะควบคุมมือสังหารได้หากนักฆ่าประสบความสำเร็จจริง ๆ จะไม่มีใครรู้ว่านางตายที่นี่เป็นเวลาสักพักหนึ่งซือคงเซี่ยนสังเกตเรื่องนี้เหมือนกัน เขาขมวดคิ้วแน่น "จวนของเจ้าเงียบและว่างเปล่าเหลือเกิน นี่อันตรายเกินไป หากเจ้าเป็นอะไรในจวนจริง ๆ ข้าขอพูดอะไรไม่น่าฟังหน่อย เจ้าตายในนี้ ไม่มีใครรู้แน่ ๆ ”จั๋วซือหรานหรี่ตาลง และไม่มีความกลัวหรือความตื่นตระหนกบนใบหน้าที่สวยงามของนาง นางโค้งมุมปากเล็กน้อย "แต่..."นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซือคงเซี่ยน "...และในทางกลับกัน ก็เหมือนกันนี่"เมื่อซือคงเซี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ตกตะลึงใช่และในทางกลับกันก็เหมือนกัน วันนี้หากนางฆ่านักฆ่าเหล่านั้นที่นี่ กลัวว่า... จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำและ... ซือคงเซี่ยนคิดออกว่า เนื่องจากนางสามารถควบคุมมือสังหารทั้งสามคนนั้นได้ นางต้องสามารถฆ่ามือสังหารทั้งสามคนนั้นได้เพราะโดยทั่วไป การจับคนที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นยากกว่าการฆ่าตายซือคงเซี่ยนเข้าใจทันทีว่า ทำไมจั๋วซือหรานจึงไว้ชีวิตพวกเขาซือคงเซี่ยนพึมพำ "ดังนั้น เจ้าต้องการ..."“ในความเป็นจริง ข้าเป็นหมอ ดังนั้นโดยป
Read more
PREV
1
...
1415161718
...
100
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status