บททั้งหมดของ ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: บทที่ 131 - บทที่ 140

1130

บทที่ 131

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของจั๋วซือหราน จากลังเลไปสู่ทัศนคติที่สงบและมีความมั่นใจ ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสสี่เหยียนรู้สึกเป็นห่วงทันทีนี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำลายความน่าเกรงขามของตัวเองโดยยกย่องความมุ่งมาดปรารถนาของผู้อื่น แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้มีความสามารถพิเศษอย่างแท้จริง และโดยธรรมชาติแล้วไม่สามารถตัดสินนางและวัดนางด้วยมาตรฐานทั่วไปได้แต่เหยียนหยี่หลิงไม่ได้ระมัดระวังเช่นนี้นัก เมื่อครู่นี้นางเห็นท่าทางที่ลังเลของจั๋วซือหรานและเห็นจั๋วซือหรานอาการไออย่างกะทันหัน นางรู้สึกว่ารอบนี้ตระกูลของนางชนะแล้วเหยียนหยี่หลิงพูดว่า "คุณหนูจั๋วจิ่ว ข้าว่าทำเช่นนี้ไม่เหมาะหรอกนะ หากเจ้าแพ้ เจ้ากลั่นยาให้เราแค่หนึ่งปีเท่านั้น แต่หากเราแพ้ เราจะต้องปิดศูนย์การแพทย์ และร้านขายยายังคงให้บริการเจ้าด้วย เจ้าเรียกร้องเกินเหตุมากไปหน่อยไหมจั๋วซือหรานไม่เคยมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้หญิง ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดนี้ นางก็ตอบอย่างตามอารมณ์ "ใช่แล้ว คุณหนูเจ็ดเหยียน หากเจ้ารู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้เจ้าไปเรียกเหยียนชางที่ฉี่ราดใส่กางเกงกลับมาที่นี่ และเขียนแผ่นป้ายให้ข้าเลย”จั๋วซือหรานเหลือบมองเหยียนหยี่หลิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 132

แต่แน่นอนว่าเขาไม่เลือกที่จะต่อสู้จนตายได้ หากวจิ่วถูกเหยียนอีตีจนตาย เขาจะไม่รู้ว่าจะอธิบายแก่ตระกูลจั๋วได้อย่างไรเขารังแกเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีการหนุนหลังของตระกูล และเขายังรังแกนางจนตาย คำเล่าลือสามารถทำลายชื่อเสียงของผู้คนได้ เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลเหยียนเสียหน้าอย่างหนักและไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนแล้วยิ่งไปกว่านั้น เขายังคงรอจั๋วซือหรานเป็นแรงงานเปล่าหนึ่งปีเพื่อกลั่นยาให้ตระกูลของเขาผู้อาวุโสสี่เหยียนรีบกล่าว "ไม่ต้องถึงขั้นที่ทำร้ายมิตรภาพหรอก หยุดมื่อเมื่อตัดสินชัยชนะได้"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดนี้ผู้ที่ชมการแข่งขันในก่อนหน้านี้เคยเห็นจั๋วซือหรานชนะมาหนึ่งตาแล้ว ดังนั้นในตอนแรกพวกเขาทุกคนจึงคิดว่าจั๋วซือหรานชนะแน่นอนแต่เมื่อพวกเขาเห็นจั๋วซือหรานตกลงที่จะยอมแข่งกับตระกูลเหยียนอีกสามตา และยอมกฏที่ว่า ผู้ใดชนะสองตา คนผู้นั้นชนะ แถมยังต้องแข่งศิลปะการต่อสูเ ทั้ง ๆ ที่นางไอหนักเช่นนั้น...ทุกคนไม่เชื่อนางมีโอกาสชนะ พวกเขาแค่รู้สึกว่าสถานการณ์นั้นไม่ดี“โถ แม่นางจั๋วจิ่วคนนี้จริง ๆ เลย ชนะตาเดียว ดีใจจนเหริงเลยหรือ”“ใช่สิ นางคิดว่าตัวเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 133

เหยียนอีได้ยินเพียงเสียงที่ชัดเจนของนาง แต่เขาไม่รู้ว่าเสียงนั้นมาจากไหน เสียงนั้นปะปนอยู่ในสายลมและลอยเข้าไปในหูของเขาในเวลาเดียวกัน จั๋วซือหรานไม่ได้อยู่ตรงหน้าเขาอีกต่อไปเหยียนอีรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงเมื่อเขาได้ยินเสียงประหลาดใจและเสียงหายใจเข้าลึก ๆ จากรอบตัวเขาพลังที่สะสมอยู่ในร่างกายเขาแต่ก็สลายไปอย่างรวดเร็วก่อนจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งทำให้เขาเจ็บปวดอย่างรุนแรงระบบเส้นลมปราณถูกยืดออกด้วยแรงมหาศาลชั่วครู่หนึ่ง และจากนั้นก็ดูเหมือนจะคลายตัวลงชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกว่างเปล่าทำให้เหยียนอีเกือบทรงตัวไม่ได้ในชั่วขณะนั้น“เกิดอะไรขึ้น...” ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนไม่ทันสังเกตการเคลื่อนไหวของจั๋วซือหราน ต่างไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นแต่พวกเขาเห็นแต่จั๋วซือหรานถือเข็มทองคำสองสามเล่มไว้ในมือ แล้วจู่ ๆ นางก็หายตัวไป เมื่อนางปรากฏตัวอีกครั้ง นางก็อยู่ข้างหลังเหยียนอีเพียงไม่กี่ก้าวแต่เหยียนอี ซึ่งแต่เดิมดูเหมือนเส้นเลือดของเขาจะโผล่ออกมาและท่าทีที่เขากำลังระเบิดความแข็งแกร่งออกมา จู่ ๆ ก็ยุบลงและใบหน้าของเขาก็ซีดขางเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้เขาดูตัวใหญ่มากในขณะนี้ เขาดูเหมือนเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 134

แต่ในขณะนี้ เหยียนอีรู้สึกถึงวิกฤติครั้งใหญ่มันเหมือนกับสัญชาตญาณทางชีววิทยา เขามีความรู้สึกน่าขนลุกของสัตว์กินพืชที่ตกเป็นเป้าหมายของสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่แต่นี่เป็นไปได้อย่างไร เด็กผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่สามารถบดขยี้สัตว์ขนาดเล็กจนตายได้เพียงแค่หยิกนิ้วเดียวเขามีความรู้สึกเช่นนี้ได้อย่างไรผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มองไม่ออก พวกเขาแค่คิดว่าจั๋วซือหราน เป็นคนลึกซึ้งและพวกเขาเดาไม่ถูกนางอยากจะทำอะไรส่วนผู้ที่มองรู่เรื่องรวมถึงผู้อาวุโสสี่เหยียน พวกเขาต่างประหลาดใจ นางไม่ใช่เพียงคนลึกซึ้งและเดาออกยากริมฝีปากของผู้อาวุโสสี่เหยียนสั่นไหว ทันใดนั้นเขาก็จำได้คำถามของจั๋วจิ่ว นางได้ถามเขาว่า ให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสมหรือให้นางหยุดจนกว่ามีคนต้องตาย เมื่อเขาตอบว่า ให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสม ความเศร้าแวบขึ้นมาในดวงตาของนางคืออะไรนั่นควรจะเป็น...ความผิดหวังกระมังหากเขาไม่เลือกให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสม จั๋วจิ่วคงฆ่าใครซักคนในสนามนี้ต่อหน้าต่อตาทุกคนแล้วผู้อาวุโสสี่เหยียนรู้สึกเขาแทบจะหายใจไม่ได้ หากไม่ใช่เป็นเพราะเขา... ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไร้ยางอายและยืนกรานที่จะ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 135

ในขณะที่ป้ายของศูนย์การแพทย์เหยียนพังและตกบนพื้น ทุกคนต่างตกใจกัน“ จั๋วซือหรานคนนี้ นางกล้าทำจริง ๆ ”“นางนี่แหละ เป็นคนแรกที่พูดจริงทำจริง...นางไม่ไว้หน้าให้ตระกูลเหยียนจริง ๆ ”“ตอนนี้นางไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋วอีกแล้ว นางไม่ได้รับการหนุนหลังจากตระกูล แต่นางไม่กล้าทำให้ผู้อื่นแค้นเคืองจริง ๆ ”“แต่ตอนนี้...ใครจะกล้าทำอะไรนางล่ะ เจ้าเองก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหยียนอีใช่ไหม”“โอ๊ย แค่คิดก็เจ็บคอแล้ว หากผู้อาวุโสของตระกูลเหยียนไม่เรียกให้หยุดทันเวลา จั๋วจิ่วคงตัดหัวของเหยียนอีไปแล้ว”จั๋วซือหรานได้เก็บอาวุธในมือของนางอย่างสบาย ๆจากนั้นทุกคนจึงเห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบ นางยังคงแต่งกายด้วยชุดสีขาวแบบเดียวกับชุดที่นางสวมตอรชนที่นางมาถึง เสื้อผ้าของนางยังคงสะอาดและเรียบ นางดูมีบุคลิกที่ห่างไกลและประณีตที่ไม่เหมือนผู้อื่นหากเจ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่า ก่อนหน้านี้ นางยืนอยู่ข้างหลัง เหยียนอี ดาบในมือของนางยื่นจากด้านหลังและวางที่คอของเหยียนอี ราวกับว่านางกำลังจะตัดคอของเขาในวินาทีถัดไปใครก็ตามที่มองไปที่จั๋วซือหรานที่แต่งกายด้วยชุดสีขาวคงไม่คิดว่า นางเป็นผู้ที่โหด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 136

“ เหยียนชางต้องคุกเข่าลงและขอโทษข้า และเขียนแผ่านป้ายที่มีเนื้อหาว่า ยอมแพ้ เรื่องนี้ อย่าว่าล่าช้าไปปหนึ่งวันเลย ต่อให้ล่าช้าไปหนึ่งชั่วยาม หรือล่าช้าไปสิบห้านาทีก็ไม่ได้” เสียงของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความเย็นชาผู้อาวุโสสี่เหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเสนอ "สาวน้อยจั๋วจิ่ว ทำไมเจ้าต้องรีบขนาดนี้..."สาเหตุหลักคือ เขาได้ยินว่า เหยียนชางถูกทรมานอย่างหนักนับตั้งแต่เขาได้รับเชิญไปดื่มชาไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษโดยซือหลี่ตันติ่ง ตอนนี้เหยียนชางดูแย่ามากไม่รู้ว่าตอนนี้เขาหายดีหรือยัง หากเขายังไม่หายดี และให้เขามาที่นี่ เขาจะไม่เสียหน้าต่อสาธารณะหรือจั๋วซือหรานหัวเราะเบา ๆ “เขาทำร้ายข้าอย่างไร ผู้อาวุโสสี่เหยียนต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ สถานการณ์ในวันนี้ทั้งหมดเป็นเพราะเหตุผลนี้ ดังนั้น เว้นแต่ว่าวันนี้ท้องฟ้าถล่ม หากท้องฟ้าไม่ถล่ม เขาต้องมาขอโทษข้าให้ได้ และเขายังต้องเขียนแผ่นป้ายด้วย”นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อาวุโสสี่เหยียนเกลียดเหยียนชางมากในใจ เขาเกลียดเจ้าโง่นั้นมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ไม่ได้สร้างผลงานใด ๆ แก่ตระกูล แต่สร้างปัญหาเก่งจริง ๆหากไม่ใช่เพราะเขาไปหาเรื่องผู้หญิงบ้า ๆ ค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 137

เมื่อเหยียนฉีได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสสี่ ม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสสี่กำลังพูดอะไรอยู่น่ะเหยียนฉีทราบดี ผู้อาวุโสสี่ไม่สบายใจ และไม่สามารถระบายความโกรธต่อจั๋วซือหราน ดังนั้นเขาจึงพูดใส่คนอย่างตามอารมณ์แต่หากจั๋วซือหรานเป็นผู้ที่หาเรื่องได้ยาก เฟิงเหยียนก็ยากกว่า จั๋วซือหรานมากกว่าสิบเท่า“ผู้อาวุโสสี่ ท่าน…” เหยียนฉีขมวดคิ้ว แต่เขาไม่สามารถกล่าวหาผู้อาวุโสของตระกูลได้โดยตรง เขาทำได้เพียงหันสายตาไปที่เฟิงเหยียน และพยายามเรียกความสนใจของเฟิงเหยียน “ขอรับ ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปดูตอนนี้... "ก่อนที่เหยียนฉีจะพูดจบ เขาถูกเสียงอันเย็นชาของเฟิงเหยียนขัดจังหวะเฟิงเหยียนจ้องมองผู้อาวุโสสี่เหยียน ทันทีที่เขามองผู้อาวุโสสี่เหยียน ผู้อาวุโสสี่เหยียนก็รู้สึกเหมือนว่าเขาหนาวเหน็บเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้มีพลังวิเศษที่ร้อนแรงที่สุด แต่เขากลับมีสายตาที่เย็นชาที่สุด "เหยียนเซิ่ง ข้ามองไม่ออกเลยว่า เจ้ารู้จักข้อบกพร่องของตัวเองดีนะ ตามความจริง ตระกูลเฟิงไม่จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้ไม่ได้เรื่องอย่างพวกเจ้า "ทันใดนั้นสีหน้าของผู้อาวุโสสี่เหยียน แล้วก่อนหน้านี้เขาพูดอย่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 138

อย่างที่นางเดาไว้จริว ๆ เมื่อนางพูดจบ ดวงตาของฮั่วจือโจวก็หรี่ลงเล็กน้อย เขามีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย หากคนภายนอกไม่มองดี ๆ อาจมองไม่ออกเลยจั๋วซือหรานเห็นการเปลี่ยนเปลงจุดนี้ นางจึงหันไปมองฮั่วชิงหยวนฮั่วชิงหยวนยังคงไม่พอใจเล็กน้อย เพราะพี่ชายว่าเขาต่อหน้าผู้อื่น "พี่สาม พี่อย่าว่าข้าเสียมารยาทและโง่เขลาสิ"จั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า " คุณชายห้าฮั่ว "“ฮะ” ฮั่วชิงหยวนมองนาง“เดิมทีเจ้าเลี้ยงข้าดื่มชาเพื่อฟังข้าเล่าเนื้อหาการสอบแพทย์กลั่นยา วันนี้เจ้าน่าจะได้ข้อมูลแล้ว” จั๋วซือหรานกล่าวฮั่วชิงหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตระหนักว่า ตอนที่จั๋วซือหรานเจรจากับผู้อาวุโสสี่เหยียนในเมื่อพวกเขากำลังเดิมพันกัน นางได้พูดถึงข้อสอบของนางในการสอบแพทย์กลั่นยาคือยาเม็ดกู้หยวนชั้นสี่“อ้าว ใช่เลย” ฮั่วชิงหยวนถามด้วยความสงสัย “แล้วมันเป็นยาเม็ดกู้หยวนชั้นสี่จริง ๆ หรือ”ฮั่วจือโจวขมวดคิ้วจากด้านข้าง เขาพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ “ชิงหยวน”ฮั่วชิงหยวนโค้งริมฝีปากแล้วพูดว่า "ขอรับ ขอรับ ข้ารู้แล้วขอรับ แม่นางจิ่วไม่พูดเท็จต่อหน้าซือหลี่หรอก อีกอย่าง ซือหลี่ตันติ่งก็พยักหน้าและยืนยันแล้ว ข้าร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 139

หลังจากได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน ฮั่วจือโจวมองนางอีกสองสามครั้ง มีความชื่นชมในดวงตาอันลึกซึ้งของเขาฮั่วจือโจวหยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วพูดกับจั๋วซือหราน" แม่นางจิ่วขอรับ เมื่อก่อนข้าเคยดูถูกเจ้า ทีนี้ ข้าขอดื่มชาแทนสุราเพื่อแสดงความเคารพแก่เจ้า"“คุณชายสามฮั่วเกรงใจเหลือเกิน” จั๋วซือหรานหยิบถ้วยขึ้นมาและพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “เมื่อก่อนข้าเป็นเช่นนั้น ไม่น่าให้คนอื่นชื่นชมหรอก”ในชะตากรรมของเจ้าของร่างเดิม หลังจากนางถูกใส่เสน่ห์หนอนพิษกู่ ชีวติของนางก็พังสลายไป และก่อนหน้านั้นเจ้าของร่างเดิมก็ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเนื่องจากสถานการณ์ที่บ้านเพราะท่านพ่อของนางเสียชีวิตในสงครามเป็นเวลาหลายปี อยู่ไม่เห็นศพ ตายไม่พบศพ ท่านแม่ของนางเป็นผู้ที่อ่อนแอ และเจ้าของร่างเดิมเป็นลูกสาวคนโต ดังนั้นนางจึงมีแรงกดดันและปมด้อยของนางเองโดยธรรมชาติแล้ว นางไม่ได้ใช้ชีวิตอิสระอย่างจั๋วซือหรานหลังจากที่ทั้งสองคนดื่มชาแก้วนี้ไป ฮั่วจือโจวก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา "ข้าจะให้คนไปสืบสวนเรื่องที่แม่นางจิ่วถูกคนวางยาพิษ และเกือบเสียตัวไป"“เช่นนั้นข้าขอขอบคุณนะคุณชายสามฮั่ว” จั๋วซือหรานยิ้มและพูดนางเคยได้ยินมา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 140

ดังนั้นเมื่อบุคคลภายนอกเห็นซือหลี่ฝานเทียน พวกเขามักจะกลัวแลเกรงตัว ซึ่งแตกต่างจากจั๋วซือหรานเมื่อจั๋วซือหรานเห็นเขา นางค่อนข้างผ่อนคลายและไม่กังวลเพราะเจอหน้าผู้ใหญ่จั๋วซือหรานถาม "ท่าน ท่านมาหาข้า มีเรื่องอันใดหรือ"ซือหลี่ฝานเทียนไม่ตอบคำใด ๆฃหลังจากรอไปครู่หนึ่ง ใต้เท้าผู้นี้ไม่พูดอะไรเลย เหยียนฉีจึงเริ่มพูดเอง " แม่นางจิ่ว... "จั๋วซือหรานเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อเหยียนฉี ฃพูดประโยคนี้จบ ฟันหน้าของเขากำลังกัดริมฝีปากล่างของเขาอย่างเห็นได้ชัด และเขากำลังจะออกเสียงพยางค์ "เฟิง"แต่เขารั้งไว้ครึ่งทาง อาจเป็นเพราะเฟิงเหยียนหรือตระกูลเฟิง ต้องการเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับทรงปากของเหยียนฉีดูตลกเล็กน้อยเพราะเขา"เปลี่ยนคำพูดในครึ่งทาง"“เขาเป็นห่วง เลยให้ข้ามารักษาเจ้า เพราะก่อนหน้านี้เจ้าไม่ค่อยสบาย”จั๋วซือหรานไม่ได้คาดหวังเหยียนฉีจะพูดเช่นนี้นางเลิกคิ้วเล็กน้อย จากนั้นดวงตาของนางก็โค้งงอเล็กน้อย นางโบกมือแล้วพูดว่า "ไม่ต้องหรอก คุณชายเหยียน ข้าเป็นหมอ ข้าเป็นอะไร ข้ารู้เองเจ้าค่ะ"เหยียนฉีขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาลำบากใจเล็กน้อย "แต่..."“ไม่เป็นไรหรอก ฝากบอกเขาด้วย จำข้อ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1213141516
...
113
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status