Share

บทที่ 132

Author: หูเทียนเสี่ยว
last update Last Updated: 2024-07-10 18:00:00
แต่แน่นอนว่าเขาไม่เลือกที่จะต่อสู้จนตายได้ หากวจิ่วถูกเหยียนอีตีจนตาย เขาจะไม่รู้ว่าจะอธิบายแก่ตระกูลจั๋วได้อย่างไร

เขารังแกเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีการหนุนหลังของตระกูล และเขายังรังแกนางจนตาย คำเล่าลือสามารถทำลายชื่อเสียงของผู้คนได้ เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลเหยียนเสียหน้าอย่างหนักและไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังคงรอจั๋วซือหรานเป็นแรงงานเปล่าหนึ่งปีเพื่อกลั่นยาให้ตระกูลของเขา

ผู้อาวุโสสี่เหยียนรีบกล่าว "ไม่ต้องถึงขั้นที่ทำร้ายมิตรภาพหรอก หยุดมื่อเมื่อตัดสินชัยชนะได้"

จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดนี้

ผู้ที่ชมการแข่งขันในก่อนหน้านี้เคยเห็นจั๋วซือหรานชนะมาหนึ่งตาแล้ว ดังนั้นในตอนแรกพวกเขาทุกคนจึงคิดว่าจั๋วซือหรานชนะแน่นอน

แต่เมื่อพวกเขาเห็นจั๋วซือหรานตกลงที่จะยอมแข่งกับตระกูลเหยียนอีกสามตา และยอมกฏที่ว่า ผู้ใดชนะสองตา คนผู้นั้นชนะ แถมยังต้องแข่งศิลปะการต่อสูเ ทั้ง ๆ ที่นางไอหนักเช่นนั้น...

ทุกคนไม่เชื่อนางมีโอกาสชนะ พวกเขาแค่รู้สึกว่าสถานการณ์นั้นไม่ดี

“โถ แม่นางจั๋วจิ่วคนนี้จริง ๆ เลย ชนะตาเดียว ดีใจจนเหริงเลยหรือ”

“ใช่สิ นางคิดว่าตัวเ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 133

    เหยียนอีได้ยินเพียงเสียงที่ชัดเจนของนาง แต่เขาไม่รู้ว่าเสียงนั้นมาจากไหน เสียงนั้นปะปนอยู่ในสายลมและลอยเข้าไปในหูของเขาในเวลาเดียวกัน จั๋วซือหรานไม่ได้อยู่ตรงหน้าเขาอีกต่อไปเหยียนอีรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงเมื่อเขาได้ยินเสียงประหลาดใจและเสียงหายใจเข้าลึก ๆ จากรอบตัวเขาพลังที่สะสมอยู่ในร่างกายเขาแต่ก็สลายไปอย่างรวดเร็วก่อนจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งทำให้เขาเจ็บปวดอย่างรุนแรงระบบเส้นลมปราณถูกยืดออกด้วยแรงมหาศาลชั่วครู่หนึ่ง และจากนั้นก็ดูเหมือนจะคลายตัวลงชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกว่างเปล่าทำให้เหยียนอีเกือบทรงตัวไม่ได้ในชั่วขณะนั้น“เกิดอะไรขึ้น...” ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนไม่ทันสังเกตการเคลื่อนไหวของจั๋วซือหราน ต่างไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นแต่พวกเขาเห็นแต่จั๋วซือหรานถือเข็มทองคำสองสามเล่มไว้ในมือ แล้วจู่ ๆ นางก็หายตัวไป เมื่อนางปรากฏตัวอีกครั้ง นางก็อยู่ข้างหลังเหยียนอีเพียงไม่กี่ก้าวแต่เหยียนอี ซึ่งแต่เดิมดูเหมือนเส้นเลือดของเขาจะโผล่ออกมาและท่าทีที่เขากำลังระเบิดความแข็งแกร่งออกมา จู่ ๆ ก็ยุบลงและใบหน้าของเขาก็ซีดขางเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้เขาดูตัวใหญ่มากในขณะนี้ เขาดูเหมือนเ

    Last Updated : 2024-07-10
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 134

    แต่ในขณะนี้ เหยียนอีรู้สึกถึงวิกฤติครั้งใหญ่มันเหมือนกับสัญชาตญาณทางชีววิทยา เขามีความรู้สึกน่าขนลุกของสัตว์กินพืชที่ตกเป็นเป้าหมายของสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่แต่นี่เป็นไปได้อย่างไร เด็กผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่สามารถบดขยี้สัตว์ขนาดเล็กจนตายได้เพียงแค่หยิกนิ้วเดียวเขามีความรู้สึกเช่นนี้ได้อย่างไรผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มองไม่ออก พวกเขาแค่คิดว่าจั๋วซือหราน เป็นคนลึกซึ้งและพวกเขาเดาไม่ถูกนางอยากจะทำอะไรส่วนผู้ที่มองรู่เรื่องรวมถึงผู้อาวุโสสี่เหยียน พวกเขาต่างประหลาดใจ นางไม่ใช่เพียงคนลึกซึ้งและเดาออกยากริมฝีปากของผู้อาวุโสสี่เหยียนสั่นไหว ทันใดนั้นเขาก็จำได้คำถามของจั๋วจิ่ว นางได้ถามเขาว่า ให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสมหรือให้นางหยุดจนกว่ามีคนต้องตาย เมื่อเขาตอบว่า ให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสม ความเศร้าแวบขึ้นมาในดวงตาของนางคืออะไรนั่นควรจะเป็น...ความผิดหวังกระมังหากเขาไม่เลือกให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสม จั๋วจิ่วคงฆ่าใครซักคนในสนามนี้ต่อหน้าต่อตาทุกคนแล้วผู้อาวุโสสี่เหยียนรู้สึกเขาแทบจะหายใจไม่ได้ หากไม่ใช่เป็นเพราะเขา... ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไร้ยางอายและยืนกรานที่จะ

    Last Updated : 2024-07-10
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 135

    ในขณะที่ป้ายของศูนย์การแพทย์เหยียนพังและตกบนพื้น ทุกคนต่างตกใจกัน“ จั๋วซือหรานคนนี้ นางกล้าทำจริง ๆ ”“นางนี่แหละ เป็นคนแรกที่พูดจริงทำจริง...นางไม่ไว้หน้าให้ตระกูลเหยียนจริง ๆ ”“ตอนนี้นางไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋วอีกแล้ว นางไม่ได้รับการหนุนหลังจากตระกูล แต่นางไม่กล้าทำให้ผู้อื่นแค้นเคืองจริง ๆ ”“แต่ตอนนี้...ใครจะกล้าทำอะไรนางล่ะ เจ้าเองก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหยียนอีใช่ไหม”“โอ๊ย แค่คิดก็เจ็บคอแล้ว หากผู้อาวุโสของตระกูลเหยียนไม่เรียกให้หยุดทันเวลา จั๋วจิ่วคงตัดหัวของเหยียนอีไปแล้ว”จั๋วซือหรานได้เก็บอาวุธในมือของนางอย่างสบาย ๆจากนั้นทุกคนจึงเห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบ นางยังคงแต่งกายด้วยชุดสีขาวแบบเดียวกับชุดที่นางสวมตอรชนที่นางมาถึง เสื้อผ้าของนางยังคงสะอาดและเรียบ นางดูมีบุคลิกที่ห่างไกลและประณีตที่ไม่เหมือนผู้อื่นหากเจ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่า ก่อนหน้านี้ นางยืนอยู่ข้างหลัง เหยียนอี ดาบในมือของนางยื่นจากด้านหลังและวางที่คอของเหยียนอี ราวกับว่านางกำลังจะตัดคอของเขาในวินาทีถัดไปใครก็ตามที่มองไปที่จั๋วซือหรานที่แต่งกายด้วยชุดสีขาวคงไม่คิดว่า นางเป็นผู้ที่โหด

    Last Updated : 2024-07-11
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 136

    “ เหยียนชางต้องคุกเข่าลงและขอโทษข้า และเขียนแผ่านป้ายที่มีเนื้อหาว่า ยอมแพ้ เรื่องนี้ อย่าว่าล่าช้าไปปหนึ่งวันเลย ต่อให้ล่าช้าไปหนึ่งชั่วยาม หรือล่าช้าไปสิบห้านาทีก็ไม่ได้” เสียงของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความเย็นชาผู้อาวุโสสี่เหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเสนอ "สาวน้อยจั๋วจิ่ว ทำไมเจ้าต้องรีบขนาดนี้..."สาเหตุหลักคือ เขาได้ยินว่า เหยียนชางถูกทรมานอย่างหนักนับตั้งแต่เขาได้รับเชิญไปดื่มชาไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษโดยซือหลี่ตันติ่ง ตอนนี้เหยียนชางดูแย่ามากไม่รู้ว่าตอนนี้เขาหายดีหรือยัง หากเขายังไม่หายดี และให้เขามาที่นี่ เขาจะไม่เสียหน้าต่อสาธารณะหรือจั๋วซือหรานหัวเราะเบา ๆ “เขาทำร้ายข้าอย่างไร ผู้อาวุโสสี่เหยียนต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ สถานการณ์ในวันนี้ทั้งหมดเป็นเพราะเหตุผลนี้ ดังนั้น เว้นแต่ว่าวันนี้ท้องฟ้าถล่ม หากท้องฟ้าไม่ถล่ม เขาต้องมาขอโทษข้าให้ได้ และเขายังต้องเขียนแผ่นป้ายด้วย”นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อาวุโสสี่เหยียนเกลียดเหยียนชางมากในใจ เขาเกลียดเจ้าโง่นั้นมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ไม่ได้สร้างผลงานใด ๆ แก่ตระกูล แต่สร้างปัญหาเก่งจริง ๆหากไม่ใช่เพราะเขาไปหาเรื่องผู้หญิงบ้า ๆ ค

    Last Updated : 2024-07-11
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 137

    เมื่อเหยียนฉีได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสสี่ ม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสสี่กำลังพูดอะไรอยู่น่ะเหยียนฉีทราบดี ผู้อาวุโสสี่ไม่สบายใจ และไม่สามารถระบายความโกรธต่อจั๋วซือหราน ดังนั้นเขาจึงพูดใส่คนอย่างตามอารมณ์แต่หากจั๋วซือหรานเป็นผู้ที่หาเรื่องได้ยาก เฟิงเหยียนก็ยากกว่า จั๋วซือหรานมากกว่าสิบเท่า“ผู้อาวุโสสี่ ท่าน…” เหยียนฉีขมวดคิ้ว แต่เขาไม่สามารถกล่าวหาผู้อาวุโสของตระกูลได้โดยตรง เขาทำได้เพียงหันสายตาไปที่เฟิงเหยียน และพยายามเรียกความสนใจของเฟิงเหยียน “ขอรับ ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปดูตอนนี้... "ก่อนที่เหยียนฉีจะพูดจบ เขาถูกเสียงอันเย็นชาของเฟิงเหยียนขัดจังหวะเฟิงเหยียนจ้องมองผู้อาวุโสสี่เหยียน ทันทีที่เขามองผู้อาวุโสสี่เหยียน ผู้อาวุโสสี่เหยียนก็รู้สึกเหมือนว่าเขาหนาวเหน็บเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้มีพลังวิเศษที่ร้อนแรงที่สุด แต่เขากลับมีสายตาที่เย็นชาที่สุด "เหยียนเซิ่ง ข้ามองไม่ออกเลยว่า เจ้ารู้จักข้อบกพร่องของตัวเองดีนะ ตามความจริง ตระกูลเฟิงไม่จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้ไม่ได้เรื่องอย่างพวกเจ้า "ทันใดนั้นสีหน้าของผู้อาวุโสสี่เหยียน แล้วก่อนหน้านี้เขาพูดอย่

    Last Updated : 2024-07-11
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 138

    อย่างที่นางเดาไว้จริว ๆ เมื่อนางพูดจบ ดวงตาของฮั่วจือโจวก็หรี่ลงเล็กน้อย เขามีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย หากคนภายนอกไม่มองดี ๆ อาจมองไม่ออกเลยจั๋วซือหรานเห็นการเปลี่ยนเปลงจุดนี้ นางจึงหันไปมองฮั่วชิงหยวนฮั่วชิงหยวนยังคงไม่พอใจเล็กน้อย เพราะพี่ชายว่าเขาต่อหน้าผู้อื่น "พี่สาม พี่อย่าว่าข้าเสียมารยาทและโง่เขลาสิ"จั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า " คุณชายห้าฮั่ว "“ฮะ” ฮั่วชิงหยวนมองนาง“เดิมทีเจ้าเลี้ยงข้าดื่มชาเพื่อฟังข้าเล่าเนื้อหาการสอบแพทย์กลั่นยา วันนี้เจ้าน่าจะได้ข้อมูลแล้ว” จั๋วซือหรานกล่าวฮั่วชิงหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตระหนักว่า ตอนที่จั๋วซือหรานเจรจากับผู้อาวุโสสี่เหยียนในเมื่อพวกเขากำลังเดิมพันกัน นางได้พูดถึงข้อสอบของนางในการสอบแพทย์กลั่นยาคือยาเม็ดกู้หยวนชั้นสี่“อ้าว ใช่เลย” ฮั่วชิงหยวนถามด้วยความสงสัย “แล้วมันเป็นยาเม็ดกู้หยวนชั้นสี่จริง ๆ หรือ”ฮั่วจือโจวขมวดคิ้วจากด้านข้าง เขาพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ “ชิงหยวน”ฮั่วชิงหยวนโค้งริมฝีปากแล้วพูดว่า "ขอรับ ขอรับ ข้ารู้แล้วขอรับ แม่นางจิ่วไม่พูดเท็จต่อหน้าซือหลี่หรอก อีกอย่าง ซือหลี่ตันติ่งก็พยักหน้าและยืนยันแล้ว ข้าร

    Last Updated : 2024-07-11
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 139

    หลังจากได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน ฮั่วจือโจวมองนางอีกสองสามครั้ง มีความชื่นชมในดวงตาอันลึกซึ้งของเขาฮั่วจือโจวหยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วพูดกับจั๋วซือหราน" แม่นางจิ่วขอรับ เมื่อก่อนข้าเคยดูถูกเจ้า ทีนี้ ข้าขอดื่มชาแทนสุราเพื่อแสดงความเคารพแก่เจ้า"“คุณชายสามฮั่วเกรงใจเหลือเกิน” จั๋วซือหรานหยิบถ้วยขึ้นมาและพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “เมื่อก่อนข้าเป็นเช่นนั้น ไม่น่าให้คนอื่นชื่นชมหรอก”ในชะตากรรมของเจ้าของร่างเดิม หลังจากนางถูกใส่เสน่ห์หนอนพิษกู่ ชีวติของนางก็พังสลายไป และก่อนหน้านั้นเจ้าของร่างเดิมก็ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเนื่องจากสถานการณ์ที่บ้านเพราะท่านพ่อของนางเสียชีวิตในสงครามเป็นเวลาหลายปี อยู่ไม่เห็นศพ ตายไม่พบศพ ท่านแม่ของนางเป็นผู้ที่อ่อนแอ และเจ้าของร่างเดิมเป็นลูกสาวคนโต ดังนั้นนางจึงมีแรงกดดันและปมด้อยของนางเองโดยธรรมชาติแล้ว นางไม่ได้ใช้ชีวิตอิสระอย่างจั๋วซือหรานหลังจากที่ทั้งสองคนดื่มชาแก้วนี้ไป ฮั่วจือโจวก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา "ข้าจะให้คนไปสืบสวนเรื่องที่แม่นางจิ่วถูกคนวางยาพิษ และเกือบเสียตัวไป"“เช่นนั้นข้าขอขอบคุณนะคุณชายสามฮั่ว” จั๋วซือหรานยิ้มและพูดนางเคยได้ยินมา

    Last Updated : 2024-07-12
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 140

    ดังนั้นเมื่อบุคคลภายนอกเห็นซือหลี่ฝานเทียน พวกเขามักจะกลัวแลเกรงตัว ซึ่งแตกต่างจากจั๋วซือหรานเมื่อจั๋วซือหรานเห็นเขา นางค่อนข้างผ่อนคลายและไม่กังวลเพราะเจอหน้าผู้ใหญ่จั๋วซือหรานถาม "ท่าน ท่านมาหาข้า มีเรื่องอันใดหรือ"ซือหลี่ฝานเทียนไม่ตอบคำใด ๆฃหลังจากรอไปครู่หนึ่ง ใต้เท้าผู้นี้ไม่พูดอะไรเลย เหยียนฉีจึงเริ่มพูดเอง " แม่นางจิ่ว... "จั๋วซือหรานเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อเหยียนฉี ฃพูดประโยคนี้จบ ฟันหน้าของเขากำลังกัดริมฝีปากล่างของเขาอย่างเห็นได้ชัด และเขากำลังจะออกเสียงพยางค์ "เฟิง"แต่เขารั้งไว้ครึ่งทาง อาจเป็นเพราะเฟิงเหยียนหรือตระกูลเฟิง ต้องการเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับทรงปากของเหยียนฉีดูตลกเล็กน้อยเพราะเขา"เปลี่ยนคำพูดในครึ่งทาง"“เขาเป็นห่วง เลยให้ข้ามารักษาเจ้า เพราะก่อนหน้านี้เจ้าไม่ค่อยสบาย”จั๋วซือหรานไม่ได้คาดหวังเหยียนฉีจะพูดเช่นนี้นางเลิกคิ้วเล็กน้อย จากนั้นดวงตาของนางก็โค้งงอเล็กน้อย นางโบกมือแล้วพูดว่า "ไม่ต้องหรอก คุณชายเหยียน ข้าเป็นหมอ ข้าเป็นอะไร ข้ารู้เองเจ้าค่ะ"เหยียนฉีขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาลำบากใจเล็กน้อย "แต่..."“ไม่เป็นไรหรอก ฝากบอกเขาด้วย จำข้อ

    Last Updated : 2024-07-12

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 906

    แพทย์ทหารเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "ข้าข้ามีทักษะเช่นนี้...ทหารราบเหล่านั้นก็คงไม่ตายกันแล้ว..."เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาประจักษ์กับตาแล้วถึงการเปลี่ยนสิ่งเน่าเสียกลายเป็นสิ่งอัศจรรย์ของแม่นางจั๋วจิ่วแล้วพอเห็นว่านางทำตัวราวกับเป็นช่างยอดฝีมือ จัดการเย็บช่องท้องของคนผู้นี้ราวกับเย็บกระเป๋าขาดยิ่งไปกว่านั้นยังจัดการรักษาส่วนที่บาดเจ็บของอวัยวะภายในไปแล้วด้วยนี่ทำให้เขาอดคิดไปถึงทหารที่ตายอย่างน่าเวทนาเหล่านั้น ต่อมาถูกก็ถูกพวกคนเถื่อนเอาหัวขึ้นไปแขวนบนคาน...เขาอดคิดไม่ได้เลย ถ้าหากตนเองมีฝีมือเสียหน่อย ไม่แน่คนเหล่นั้นอาจจะช่วยไว้ได้กระมังคำพูดนี้มีอารมณ์อยู่ด้วย เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาถูกส่งผลกระทบอยู่จริงๆแต่เสียงของจั๋วซือหรานกลับสงบ นางก้มหน้าพูดว่า "ไม่หรอก ถ้าหากเจ็บหนักเกินไป อย่างเช่นหัวขาดออกจากกัน ต่อให้เทพเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน ข้าเป็นแค่แพทย์ ไม่ใช่พระเจ้า"แม้คำพูดนี้จะดูใจเย็น ราวกับกำลังอธิบายข้อเท็จจริงอยู่ แต่คำพูดนี้ก็ยังทำให้แพทย์ทหารที่ยังรู้สึกโทษตัวเองอยู่ก่อนหน้านี้ อารมณ์ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานเย็บเข็มส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 905

    สถานการณืเช่นนี้ ทำให้คนรู้สึกไม่อยากเชื่อจริงๆ!เดิมทีในใจก็เห็นความหวังแล้ว ตอนนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นมาใหญ่ในดวงตาเขาเมหือนมีพลังชีวิตเปล่งออกมาจั๋วซือหรานพอใจกับสถานการณ์เช่นนี้ พลังชีวิตเช่นนี้ อันที่จริงก็มีประโยชน์กับอาการบาดเจ็บของเขาคนอื่นๆ อันที่จริงก็รู้สึกสนใจกับวิธีการรักษษของจั๋วซือหรานมากแต่ว่า...วิชาและขั้นตอนการรักษษ ในบางระดับ ก็ถือว่าเป็นความลับของแพทย์ด้วยดังนั้น ต่อให้จะอยากรู้อยากเห็นแค่ไหน พวกเขาก็ทำได้แค่รออยู่ด้านนอกฉากกั้นลมเพียงแต่ว่า พวกเขาก่อนหน้านี้ยังได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของคนเจ็บอยู่เลยตอนนี้กลับค่อยๆ สงบลงมาแล้วนี่ทำเอาทุกคนมีการคาดเดาขึ้น...ว่าคนคนนั้น...คงจะไม่ได้ตายไปแล้วกระมัง?มีแพทย์ทหารที่ทนไม่ไหว ต่อให้รู้ว่าหน้าไม่อาย แต่เขาก็ยังเปิดปากขึ้นอย่างหน้าด้านๆบอกว่า "แม่นางจิ่ว ข้าอยากรู้จริงๆ ให้ข้าเข้าไปดูด้วยได้ไหม?"ตอนที่พูดคำนี้จบ แพทย์ทหารคนอื่นที่อยู่รอบๆ สายตาก็เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อจ้องมองเขาเจ้าไหวไหมน่ะ? หน้าตาน่ะมีไหม?แต่คนผู้นี้ก็ยังกัดฟัน ไร้เกียรติก็ช่างมัน!ยิ่งไปกว่นั้นด้านในก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ทุกคนจึงรู้สึกว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 904

    ถ้าในชาติที่แล้วคือไม่น้อยเลยต่อให้ไม่ใช่ชาติที่แล้ว ในโลกที่การรักษาล้าหลังอย่างที่นี่ จั๋วซือหรานเองก็เคยมีประสบการณ์มาแล้วแพทย์ทหารพอได้ยินคำนี้ก็งงงันไป น่าจะเพราะคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบมั่นใจนี้จากปากจั๋วซือหราน"อะ อะ...อะไรนะ?" แพทย์ทหารมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ เขาจ้องจั๋วซือหรานนิ่งจากนั้นนึงดึงผ้าที่คลุมบนตัวคนเจ็บผืนนั้นออก เอ่ยขึ้นว่า "ท่านว่าอาการอย่างนี้น่ะนะ?!"การกระทำที่ตามมาหลังคำพูด คือการเปิดเผยอาการบาดเจ็บออกมายังสายตาคนทั้งหมดบาดแผลที่น่ากลัว ช่องท้องเปิดโหว่ ประจักษ์เข้ามาในสายตาคนทั้งหมดคนทั้งหมดในนี้ล้วนเป็นขุนพลสายบู๊ทุกคนไม่กลัวกับภาพสยดสยองที่เลือดเนื้อเหวอะหวะแต่ไม่กลัวมันก็ส่วนไม่กลัวแต่เพระาเคยเห็นเลือดกับความตายมาแล้ว ตอนที่เจอกับอาการบาดเจ็บเช่นนี้ก็แทบจะคิดถึงปลายทางได้เลย ถ้าหากจากความคิดพวกเขา แค่รู้สึกว่า...มอบความเมตตาให้เขาไปสบายจะดีกว่าไหม?ใครจะคิดว่าคำตอบที่จั๋วซือหรานให้มากลับเป็น..."อืม บาดแผลแบบนี้เลย คุ้มค่าที่จะลองดู" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ นางเดินขึ้นไปก้าวหนึ่งส่วนน้องชายคนเจ็บ เดิมทีถูกปฏิกิริยาของแพทย์ทหารเมื่อครู่ทำ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 903

    ใกล้จะตายแล้วฉีฮ่าวมากับจั๋วซือหราน ตอนที่ตามคนผู้นี้มาด้วยกัน แค่เห็นน้องชายเขาผาดเดียวก็มองออกแล้ว ว่าคนผู้นี้กำลังจะตายสีหน้าเขาไม่มีสีเลือดแล้ว เขียวคล้ำ หายใจออกแรงหายใจเข้าเบา...บางทีไม่ควรพูดว่าหายใจออกแรงหายใจเข้าเบาด้วยซ้ำ นี่เหมือนไม่ได้ยินเสียงหายใจเข้าของเขาด้วยซ้ำตอนที่พวกเขาเข้าไป ทหารราบที่มาโขกศีรษะกับจั๋วซือหรานก่อนหน้าคนนั้น ก็รีบตะโกนขึ้นว่า "ท่านพี่! ท่านพี่! เจ้ารีบตื่นเร็ว! ข้าพาคนมาแล้ว ข้าพาคนมาช่วยเจ้าแล้ว! ข้าพาแม่นางจิ่วมาช่วยเจ้าแล้ว!"ไม่รู้ว่าเพราะได้ยินเสียงที่คุ้นเคยหรือเปล่า หรือว่าได้ยินคำว่าแม่นางจิ่ว จึงทำให้เขาเชื่อมั่นขึ้นมาเขาที่เดิมทีตาปรืออยู่แล้ว ตอนนี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยดวงตาที่พร่ามัว ฝืนตัวเพ่งสมาธิขึ้นมาอีกครั้งตกมาอยู่บนตัวจั๋วซือหรานหลังจากนั้นก็เหมือนว่าจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อยฉีฮ่าวขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ มองด้านบนผ้าที่คลุมร่างเขาไว้ เลือดสดดวงใหญ่นั่น...ฉีฮ่าวเอ่ยขึ้นกับทหารที่โขกศีรษะคนนั้นก่อน "พี่ชายเจ้าสภาพแบบนี้..."ทหารคนนี้ขยี้ตาอย่างแรง เอ่ยขึ้นว่า "พี่ชายข้ายังพอช่วยไหวไหม..."ฉีฮ่าวเอ่ยตอบ "เกรงว่าจะ...ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 902

    แต่ว่าเนื้อหาในคำพูด กลับมีเหตุผล และชัดเจนมากเหล่าขุนพลไม่มีใครฟังไม่เข้าใจเข้าใจความคิดที่ฉีฮ่าวต้องการแสดงออกมาในทันที ถ้าหากพวกเขาเหล่านี้เป็นทหาร หากสูญเสียจิตใจปวงประชาไป เช่นนั้นก็จบสิ้นกันแล้ว...เช่นนั้นพวกเขาจะต่างอะไรกับโจรขโมย?จั๋วซือหรานยืนอยู่ข้างๆ ฟังฉีฮ่าวพูดประโยคเหล่านี้นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่า ฉีฮ่าวแม้จะเป็นชายชาติทหารร่างใหญ่กักขฬะ แต่ในจุดนี้กลับเข้าใจเป็นอย่างดีนางไม่ได้คิดจะมอบให้เปล่าๆ นางไม่ใช่พวกทำการกุศลอะไรแคว้นชางอะไร กองทหารอะไร นั่นโน่นนี่ถ้าเจ้าของร่างเดิมก็อาจจะมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งอยู่กระมัง?แต่จั๋วซือหรานอย่างนางนั้นไม่มีนางไม่ใช่ว่าคิดจะไม่มอบให้ เพียงแต่ว่านางคิดจะทำขึ้นเอง ถ้าเป็นไปได้ก็จะหขายให้กับกองทหารมีทักษะเช่นนี้ แน่นอนว่าอยู่ในมือตนเองจะมั่นคงกว่านางมาจากต่างโลก ต่างโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าโลกใบนี้พูดได้ว่ายืนอยู่บนบ่าของยักษ์ใหญ่แล้วยักษ์ใหญ่ก็ไม่ได้มีไว้ให้คนอื่นขโมยไป...คนคนนั้นเดินเข้ามา คุกเข่าลงตรงหน้าจั๋วซือหราน"ข้าขอโทษ แม่นางจิ่ว ข้ายอมรับโทษแล้ว!" ขุนพลเอ่ยขึ้น เขาหยิบหน้าไม้กลสอง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 901

    และเพราะนางยิ้มอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังยิ้มอย่างอัธยาศัยดีด้วย ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่านางตอบรับแล้วอย่างน้อยปฏิกิริยาแรกของฉีฮ่าวก็คือนางตอนรับแล้ว ดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า "เช่นนั้นก็ขอบคุณ..."พูดไปได้แค่ครึ่งเดียว ฉีฮ่าวจึงเพิ่งตั้งตัวได้ ว่านางบอกว่าไม่ได้นี่นาชั่วขณะหนึ่งก็งงงันไป"ไม่ ไม่...ไม่ได้หรือ?" ฉีฮ่าวถามงึมงำขึ้นมาจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม ไม่ได้"ข้างๆ มีขุนพล ที่น่าจะรู้สึกหวั่นไหวกับอาวุธนี้จริงๆบวกกับอาการร้อนรน จึงเอ่ยขึ้นทันที "ทำไมจึงไม่ได้หรือ? ถ้าหากอาวุธเช่นนี้สามารถมอบให้กับกองทหารได้ จะยกระดับความสามารถการทำสงครามขึ้นมหาศาลเลย...""แต่นั้นเกี่ยวอะไรกับข้าหรือ" จั๋วซือหรานมองไปทางเขาขุนพลคนนี้ถูกคำพูดของนางทำให้ชะงัก ชั่วขณะหนึ่งพูดอะไรไม่ออกแต่ก็มองออกไม่ยาก สีหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาแล้ว ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า "ท่านเป็นประชาชนของต้าชาง ของเช่นนี้ หากมอบให้กับกงอทหาร จะนำคุณประโยชน์มาได้มากมาย"จั๋วซือหรานมองเขาเย็นชา "ตอนที่ข้าถูกคนเป็นหมื่นตำหนิ ก็ไม่เห็นว่าพวกเจ้าจะมาปกป้องข้าในฐานะคนของต้าชางเลย"ฉีฮ่าวพอได้ยินน้ำเสียงของจั๋วซือหราน ในใจก็สั่นกึก ฉั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 900

    "จั๋วจิ่ว! เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีจุดจบอย่างไรกัน?! แดนใต้ไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้แน่""สำนักพวกเราเองก็จะไม่ปล่อยเจ้าด้วย!""สภาผู้อาวุโสก็จะไม่ปล่อยเจ้า!""จั๋วจิ่วเจ้าจะไม่ตายดี! เจ้าจะไม่ได้ตายดี!"จั๋วซือหรานได้ยินเสียงก่นด่าของพวกเขา สีหน้ายังคงเรียบเฉยแต่รองแม่ทัพที่อยู่ข้างๆ นาง พอได้ยินคำนี้ กระทั่งคิ้วก็ยังขมวดขึ้นมาเขากำลังจะเตือนจั๋วซือหรานว่าไม่ต้องโกรธ อย่าไปใส่ใจคำพูดของคนพวกนี้แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูด ก็ได้ยินหญิงสาวข้างกาย เอ่ยขึ้นมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ "โอ้ ถ้าอย่างนั้นตอนเจ้าไปเข้าฝันพวกเขาก็อย่าจำผิดล่ะ ข้าชื่อจั๋วซือหราน"เพียงไม่นาน คนเหล่านี้ก็ตอบอะไรนางไม่ได้อีกรองแม่ทัพดูจนใจขึ้นมา "ท่านไม่ได้โกรธเลยสินะ...""จะไปโกรธอะไรกับคนใกล้ตายกัน" จั๋วซือหรานกลอกตามองรองแม่ทัพ "มาหาข้ามีอะไรหรือ?"รองแม่ทัพพยักหน้า "ท่านแม่ทัพเชิญท่านเข้าไปน่ะ"จั๋วซือหรานขานรับคำหนึ่ง เงยหน้าเหลือบมองคานหัวมนุษย์ผาดหนึ่ง แล้วจึงหมุนตัวขึ้นม้ากลับไปในค่ายในกระโจมค่าย ฉีฮ่าวนั่งอยู่ที่นั่น ไม่ใช่แค่ฉีฮ่าว แต่ยังมีกลุ่มขุนพลของเขาด้วยอยู่กันครบองค์ประชุม"คึกครื้นขนาดนี้เชี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 899

    จักรพรรดิเฒ่ามองไปทางซือคงเซี่ยน ถามขึ้นมาคำหนึ่ง "น้องเจ็ด เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?"ซือคงเซี่ยนมองออกว่า เสด็จพ่อประทับใจคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานเข้าแล้วยิ่งไปกว่านั้นในคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหราน ซือคงเซี่ยนเองก็สังเกตออก ว่านางมีท่าทีไม่ยอมรับต่อการการมอบงานอภิเษกของเสด็จพ่อดังนั้นซือคงเซี่ยนจึงเอ่ยว่า "ลูก...ไม่มีความเห็น แล้วแต่เสด็จพ่อจะจัดวางเลย"จักรพรรดิเฒ่าได้ยินคำนี้ของซือคงเซี่ยน ในใจก็อดถอนใจไม่ได้อันที่จริงถ้าหากน้องเจ็ดกัดฟันพูดว่าต้องการงานอภิเษกนี้ล่ะก็จักรพรรดิเฒ่าคิดว่า ตนเองจะยอมรับอยู่แต่ว่าลูกชายของตนเองนั้น...ถ้าหากบอกว่าน้องห้าทะเยอทะยานเกินไป เช่นนั้นน้องเจ็ดก็...ไม่มีความทะเยอะทะยานเอาเสียเลยน่าจะเพราะพระสนมเอกคิดได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่แรกนางรู้ว่าฐานะของตัวเองและอำนาจทางตระกูลฝ่ายแม่ จะสร้างความระแวงต่อนางและอ๋องเซี่ยนรวมถึงตระกูลฝ่ายแม่ของนางกับองค์จักรพรรดิภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งแรกที่ต้องวางลงมาก็คือความทะเยอทะยานที่ไม่เหมาะสมสรุปคือ จักรพรรดิเฒ่าไม่เห็นความเร่งร้อนกับความปรารถนาใดจากในตาของซือคงเซี่ยน เห็นแค่ความผิดหวังรางๆ เท่านั้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 898

    นางอดมองไปบนกำแพงสูงไม่ได้คนของ...ตระกูลเฟิงหรือ? หรือว่า...ในลานเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที แต่เพราะจักรพรรดิเฒ่าไม่เป็นอะไร ในลานจึงสงบลงมาอย่างรวดเร็วแต่หัวข้อสนทนาเรื่องจะจัดอภิเษกเมื่อครู่ ก็ถูกปัดตกไปแล้วตอนนี้ถ้าถูกยกขึ้นมาใหม่ ก็ไม่ได้เป็นทางการแบบเมื่อครู่แล้วจั๋วซือหรานมองไปทางจักรพรรดิเฒ่า นางครุ่นคิด หลังจากคิดคำพูดอยู่พักหนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า "ฝ่าบาท ข้ารู้สึกว่า ตัวตนฐานะข้าตอนนี้เหมาะสมไหม ฝ่าบาทคิดว่าอย่างไร? ในเมืองหลวง...ยังวุ่นวายกันอยู่เลย"จักรพรรดิเฒ่าฉลาดเสียขนาดไหน พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ก็เข้าใจความหมายที่นางคิดจะแสดงออกมาทันทีพริบตานี้ จักรพรรดิเฒ่าเองรู้สึกแค่ว่า...อยากจะถอนใจเสียเหลือเกิน หญิงสาวคนนี้ฉลาดจริงๆไม่ใช่คนธรรมดาเลยจริงๆยิ่งไปกว่านั้นยังไม่บอกว่าลูกเจ็ดคู่ควรกับนางหรือไม่ถ้าหากจะนำหญิงสาวแบบนี้ไปพันธนาการไว้ในกรงทองวังหลังล่ะก็ เท่ากับเป็นการทำลายของมีค่าไปหญิงสาวเช่นนี้ สมควรจะบินทะยานจักรพรรดิเฒ่าฟังความหมายคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานออกแน่นอนตัวตนตอนนี้ของนางเหมาะมากเพราะตัวตนของนางตอนนี้ ไม่ชัดเจนอย่างที่สุดจะบอก

DMCA.com Protection Status