Share

บทที่ 160

Author: หูเทียนเสี่ยว
พูดตามตรง หากนางไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะควบคุมมือสังหารได้

หากนักฆ่าประสบความสำเร็จจริง ๆ จะไม่มีใครรู้ว่านางตายที่นี่เป็นเวลาสักพักหนึ่ง

ซือคงเซี่ยนสังเกตเรื่องนี้เหมือนกัน เขาขมวดคิ้วแน่น "จวนของเจ้าเงียบและว่างเปล่าเหลือเกิน นี่อันตรายเกินไป หากเจ้าเป็นอะไรในจวนจริง ๆ ข้าขอพูดอะไรไม่น่าฟังหน่อย เจ้าตายในนี้ ไม่มีใครรู้แน่ ๆ ”

จั๋วซือหรานหรี่ตาลง และไม่มีความกลัวหรือความตื่นตระหนกบนใบหน้าที่สวยงามของนาง นางโค้งมุมปากเล็กน้อย "แต่..."

นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซือคงเซี่ยน "...และในทางกลับกัน ก็เหมือนกันนี่"

เมื่อซือคงเซี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ตกตะลึง

ใช่และในทางกลับกันก็เหมือนกัน วันนี้หากนางฆ่านักฆ่าเหล่านั้นที่นี่ กลัวว่า... จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ

และ... ซือคงเซี่ยนคิดออกว่า เนื่องจากนางสามารถควบคุมมือสังหารทั้งสามคนนั้นได้ นางต้องสามารถฆ่ามือสังหารทั้งสามคนนั้นได้

เพราะโดยทั่วไป การจับคนที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นยากกว่าการฆ่าตาย

ซือคงเซี่ยนเข้าใจทันทีว่า ทำไมจั๋วซือหรานจึงไว้ชีวิตพวกเขา

ซือคงเซี่ยนพึมพำ "ดังนั้น เจ้าต้องการ..."

“ในความเป็นจริง ข้าเป็นหมอ ดังนั้นโดยป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 161

    ในห้องนั้น มือของชายชุดดำสามคนถูกมัดไว้อย่างแน่น และเชือกที่ผูกมือของพวกเขาก็ถูกแขวนไว้บนคานและจั๋วซือหรานได้ปรับความยาวพอดี เพียงพอที่จะยกทั้งสามตัวขึ้นได้ ยิ่งกว่านั้น ปากของเขาเต็มไปด้วยบางสิ่งและพันด้วยผ้า ไม่เพียงแต่พวกเขาพูดไม่ได้ พวกเขายังต้องรักษาอารมณ์ของเขาให้สงบด้วยเพราะเมื่อไรก็ตามที่พวกเขาตื่นตระหนกเหลือเกิน พวกเขาไม่สามารถหายใจจากทางปาก หากพวกเขาไม่ไม่ระวัง พวกเขาอาจจะต้องเป็นลม ดังนั้นพวกเขาจึงต้องสงบสติอารมณ์ให้ได้จั๋วซือหรานไม่ได้แขวนทั้งตัวของพวกมันไว้บนอากาศ แต่นางก็ไม่ให้เท้าของพวกเขาสัมผัสพื้นด้วย พวกเขาทำได้แค่ปล่อยให้ปลายเท้าของพวกเขาสัมผัสพื้นเท่านั้นท่านี้ทรมานมาก เพราะหลังจากถูกแขวนไว้เป็นเวลานาน ข้อมือ แขน และไหล่ทั้งหมดจะรู้สึกเจ็บราวกับว่าหักดังนั้นพวกเขาจึงต้องพยายามยืดหลังเท้าให้ตรงและพยายามให้ปลายเท้าแตะพื้น เพื่อลดแรงกดบนข้อมือ แขน และไหล่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปนาน เท้าของพวกเขาก็เจ็บปวดมากเช่นกันความเจ็บปวดนี้ไม่เคยหายไปแม้แต่วินาทีเดียวยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาสองคนได้รับบาดเจ็บที่ขา โดยมีเลือดหยดลงมาที่ขา แล้วหยดจากปลายเท้าลงสู่พื้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 162

    ขณะที่นางพูด นางมองไปที่ชายชุดดำสามคนที่ถูกแขวนอยู่ "นั่นคือเหตุผลที่ข้าไม่กล้ารบกวนใต้เท้าของกรมสอบสวนคดีอาญา ข้าจะสืบสวนพวกเขาเอง ส่วนขั้นตอนหลัง ๆ ข้าขอใต้เท้าต่งจัดการอย่างเป็นกลาง”จั๋วซือหรานพูดและเดินไปข้างหน้าชายชุดดำสามคนจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง พวกเขาส่งเสียงคำรามจากลำคอและบิดตัวอย่างแรงจั๋วซือหรานเดินเข้าไปหาพวกเขา แล้วเอายาเม็ดในมือของนางให้พวกเขาดู“ก่อนอื่น แน่นอนพวกเจ้าต้องกินยาที่ช่วยขยายการรับรู้ความรู้สึกของอวัยวะ เดี๋ยวเมื่อพวกเจ้าถูกทรมาน พวกเจ้าจะได้รับรู้ความรู้สึกทอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น”พวกเขาทั้งสามฟังนางพูดไป และมองนางค่อย ๆ เขย่าขวดยา เม็ดยากลิ้งอยู่ในขวดและส่งเสียงกึกก้องแล้วพอได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนี้ ทำไมพวกเขากลับรู้สึกนางคลายอารมณ์ ราวกับว่านางกำลังตื่นเต้ากับเรื่องที่นางจะทำในวินาทีต่อมาพวกเขาทั้งสามหวาดกลัว ในใจพวกเขาไม่เพียงแต่เกลียด จั๋วซือหราน แต่ยังเกลียดตัวเองที่ประเมินศัตรูต่ำเกินไป พวกเขายังเกลียดนายจ้าง ซึ่งเป็นตระกูลเหยียนด้วยเพราะพวกเขาบอกชัดเจนว่า วันนี้คุณหนูจั๋วจิ่วได้ใช้พลังมากเกินไปแล้ว ไม่น่ากลัวอีกแล้วนี่หรือที่เรี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 163

    ต่งคังไม่เสียเวลาอีกต่อไป เขารีบเรียกหน่วยลาดตระเวนที่มากับเขาทันที เพื่อวางสามคนนั้นลงมาก่อนที่จะวางพวกเขาลง ต่งคังถามจั๋วซือหราน " แม่นางจิ่ว แม่นางมีอะไรจะทำอีกไหมขอรับ หากไม่มีแล้ว ข้าจะให้สั่งคนวางสามคนนี้ลงและพาออกไป"จั๋วซือหรานส่ายหัวแล้วพูดว่า "ข้าไม่มีอะไรทำอีกแล้ว ได้โปรดทุกท่าน"ต่งคังส่งสัญญาณไปยังหน่วยลาดตระเวน พวกเขาเข้ามา และเตรียมเอาชายสามคนนั้นลงจากคานใครจะรู้...“ปมนี้…” ทหารองครักษ์หลายคนปมบนเชือกที่ผูกชายชุดดำทั้งสามคนนั้น พวกเขารู้สึกปมนี้แกะยากพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า ปมที่หญิงสาวผกไว้ พวกเขาแกะไม่ออกมีคนไม่กี่คนยังไม่ยอมรับความจริง พวกเขาพยายามแกะปมอีกสองสามครั้ง พวกเขาแน่ใจว่าแกะปมนี้ไม่ออก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเอามีดตัดเชือกในความเป็นจริง พวกเขาสามารถตัดเชือกได้โดยตรงตั้งแต่ต้น พวกเขาอยากแสดงมิตรภาพต่อจั๋วซือหรานเพราะพวกเขามักจะรู้สึกเสมอว่า นี่คือห้องของเด็กผู้หญิง และหากตัดเชือกออก เหลือเพียงเชือกปอที่หักเพียงสามเส้นห้อยลงจากคาน ซึ่งไม่เหมาะสมใครจะรู้ว่าปมของหญิงสาวคนนี้แปลกมาก ถึงแม้พวกเขาอยากแกะปมนี้ แต่พวกเขาไม่รู้จะแกะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 164

    “ข้ารู้” จั๋วซือหรานเม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าเคยญญาว่าจะไปกับเจ้าไม่ใช่หรือ”นางเคยสัญญาว่านางจะไปร่วมการฝึกฝนเถื่อนการกลั่นนอกระบบกับซือคงเซี่ยนโดยปกติแล้ว การฝึกฝนเถื่อนจะถูกจัดขึ้นโดยองค์กรตลาดมืดบางแห่ง ไม่เพียงแต่เพื่อเลือกผู้มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังจัดเพื่อการจัดบ่อนพนันด้วยและธุรกิจที่องค์กรตลาดมืดเหล่านี้แอบทำ ไม่ใช่แค่การเปิดบ่อนพนันเถื่อนหรือการฃฝึกฝนเถื่อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจอย่างอื่นด้วย เช่น การประมูล การจ้างงาน เป็นต้นตราบใดที่เจ้าจ่ายเงิน เจ้าสามารถไปที่องค์กรประเภทนี้ได้และจ้างผู้อื่นให้ทำเรื่องต่าง ๆ ให้เจ้าได้ หากราคาสูงพอ ต่อให้เจ้าอยากจ้างผู้อื่นมารับใช้เจ้า นั่นก็เป็นไปได้หอฟ้าดาวเป็นหนึ่งในองค์กรตลาดมืดเหล่านี้ และขนาดของหอฟ้าดาวไม่เล็กในเมืองหลวง ไม่มีใครรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังกล่าวโดยสรุป จั๋วซือหรานพูดเช่นนี้ ซึ่งทำให้ซือคงเซี่ยนต้องตกตะลึงอย่างมากเดิมทีเขาคิดว่านางลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว เนื่องจากเวลาผ่านไปนานมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้จั๋วซือหรานกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงทั่วเมืองหลวงแล้วพูดตามหลักแล้ว นางไม่จำเป็นต้องไปร่วมก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 165

    “บ่าวเข้าใจขอรับ อะไรที่มิใช่คุณหนูสั่ง บ่าวห้ามทำเด็ดขาดขอรับ” ฉวนคูนรีบพูด เขาไม่กล้าทำจริง ๆ เขาเห็นจุดจบของว่างฝูด้วยตาของเขาเองยิ่งกว่านั้น ใครล่ะจะมองไม่ออกอีก แม้ว่าตอนนี้คุณหนูไม่ได้อยู่ในสำนักงานใหญ่ของตระกูลแล้ว แต่ด้วยความสามารถของคุณหนู แม้ว่านางจะไม่ได้อยู่ใน สำนักงานใหญ่ของตระกูล ชีวิตของนางไม่ได้แย่กว่าตอนที่นางอยู่ในสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋วซือหรานพยักหน้าและพูดว่า "ดี เจ้าไปทำความสะอาดห้องนี้และจัดระเบียบทุกอย่างภายในให้เรียบร้อย"จั๋วซือหรานพูดจบ นางหาวและเดินไปที่ห้องนอนของนาง และนอนฉวนคูนเดินเข้าไปในห้อง เขาสะดุ้งทันทีภายในไม่อาจพูดได้ว่าน่ากลัว แต่เดิมห้องนี้ว่างเปล่า และห้องที่ว่างมานานก็จะกลายเป็นห้องร้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในขณะนี้ ในห้องร้าง ภายใต้แสงสลัว มีเชือกสามเส้นห้อยลงมาจากคาน เชือกเหล้านี้พลิ้วไหวอยู่ที่นั่น และมีเลือดสองแห่งอยู่บนพื้นประกอบกับแสงนี้ดูน่าขนลุกมาก...ฉวนคูนอดไม่ได้ที่ต้องตัวสั่น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขานึกถึง คุณหนูจิ่ว ผู้ทรงพลังกำลังนอนอยู่ห้องข้าง ๆทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ต้องกลัว ท้ายที่สุดแล้ว ในสายตาของ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 166

    ความจริงจ้านหลูควรหยุดแค่นี้และเลิกถามต่อ แต่โดยไม่คาดคิด เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า "อีกอย่าง ท่านอ๋องเซี่ยนไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขามาที่นี่ทันที และตอนนี้เขายีงสวมเสื้อคลุมให้แม่นางจิ่วด้วย พวกเขาคงสนิทมากใช่ไหมขอรับ”จ้านหลูไม่ได้สังเกตว่าดวงตาที่ปกติแล้วไม่แยแสของเจ้านายของเขาดูเย็นชากว่า“ข้าให้เจ้ากลับไปรับการลงโทษ หากเจ้าไม่ได้ยิน…” เสียงของ เฟิงเหยียนเย็นชาและน่ากลัวจ้านหลูหดคอและพูดอย่างรวดเร็วก่อนที่เจ้านายจะพูดจบ "ข้าได้ยินแล้ว ข้าได้ยินแล้วขอรับ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ"หลังจากพูดเช่นนี้ จ้านหลู ก็ตีลังกาบนกระเบื้องเคลือบบนหลังคาของหอระฆังอย่างรวดเร็ว เขา 'กลิ้ง' ลงบนพื้นอย่างมีพลังหลังจากจ้านหลูจากไปเฟิงเหยียนยังคงยืนอยู่บนหลังคาของหอระฆัง เขาหันหน้าไปทางจวนของจั๋วซือหราน เขายืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานจนกระทั่งราตรีค่อย ๆ หายไปจนกระทั่งเส้นขอบฟ้าเปลี่ยนเป็นสีซีด จนกระทั่งรังสีแห่งแสงย้อมท้องฟ้าเป็นสีแดงฉูนจวีนรีบวิ่งจากจวนเฟิงอย่างรวดเร็ว เขาอยู่บนหลังคาหอระฆังภายในไม่กี่วินาที เสียงของเขาเป็นกังวลอย่างยิ่ง "ท่านขอรับ พระอาทิตย์จะขึ้นเร็ว ๆ นี้ขอรับ"ในอด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 167

    "เอ่อ... เอ่อ..." จั๋วซือหรานนอนขดตัวอยู่บนเตียง หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ และเสื้อผ้าด้านในของนางเปียกโชกไปด้วยเหงื่อนางไม่คาดคิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้แม้แต่คนอย่างนางที่มีความอดทนสูง ตอนนี้นางก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วในความเป็นจริง ทันทีที่นางตัดสินใจรักษาอาการบาดเจ็บให้เฟิงเหยียน นางได้เตรียมใจไว้แล้วว่านี่จะไม่ใช่เรื่องง่ายมิฉะนั้น ตระกูลที่มีฐานะสูงส่งอย่างตระกูลเฟิงจะถูกพลังวิเศษ ครอบงำมาเป็นหลายปีได้อย่างไรหากพูดได้ว่า ก่อนหน้านี้ จั๋วซือหรานรู้ความเป็นไปได้นี้หลังจากเฟิงเหยียนจูบนางโดยไม่สนใจนาง นางดื่มสุราของเขา และกัดริมฝีปากของเขาคืนนั้นนางได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากความหนาวเย็นและความร้อน ซึ่งทำให้จั๋วซือหรานแน่ใจว่า การที่รักษาอาการบาดเจ็บแก่เฟิงเหยียน นางต้องเจ็บทรมานแน่ ๆเนื่องจากการเจ็บปวดนี้ถูกคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว จั๋วซือหรานได้เตรียมพร้อมทางจิตใจจริง ๆ แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้นางยังคงไม่ทันรับมือกับความเจ็บปวดเช่นนี้ระดับความเจ็บปวดที่นางได้รับจากการลงโทษของหน่วยสืบสวนพิเศษในครั้งที่แล้ว นางสามารถให้คะแนนเป็นสิบคะแนน ความเจ็บปวดที่นางต้องทนอยู่ในขณะนี้ นางสามารถใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 168

    แต่ขณะนี้ นางรู้สึกสดชื่นแล้วจั๋วซือหรานลุกขึ้นจากเตียง นางเห็นว่าเสื้อคลุมของนางถูกพับอย่างเรียบร้อยและวางไว้ที่ปลายเตียงนางสวมเสื้อคลุมแล้วลงจากเตียงนางยังรู้สึกเท้าสั่นเล็กน้อย แต่เพราะนางไม่เจ็บปวดเหมือนเมื่อคืนแล้ว อาการของนางยังพอไหวอยู่ นางจึงเดินไปที่ประตูทันทีที่นางเดินไปที่ประตู นางก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่อ่อนโยนและความเป็นกังวลอยู่ข้างนอก “นางไม่มีคนรับใช้ที่เชื่อใจได้เลย หากไม่ใช่เป็นเพราะข้ากังวลและอยากเข้ามาดูนี่ ดูสิ ไม่รู้สาวน้อยนี้จะอดทนไปถึงเมื่อไร”น้ำเสียงของอวิ๋นเหนียงเต็มไปด้วยความเป็นห่วง” หรานหราน เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด พ่อของนางเสียชีวิตเร็วเกินไปและข้าก็ทำอะไรไม่ได้ นางในฐานะที่เป็นลูกสาวคนโต นางต้องแบกทุกอย่างด้วยตัวเอง ปกป้องข้า ยังต้องการปกป้องเสี่ยวหวายด้วย และแถมยังต้องปกป้องชื่อเสียงของครอบครัวเรา นางไม่อยากเสียศักดิ์ศรีของพ่อนาง นจางเลยต้องแบกทุกอย่างด้วยตัวเอง”“แต่นางเอง... ยังเป็นแค่เด็ก” อวิ๋นเหนียงพูดไปและสะอื้นไปด้วยจั๋วซือหรานฟังออกได้ว่านี่เป็นเสียงของท่านแม่ของนาง และนางยังฟังว่าแม่ของเขาออกด้วยว่า ท่านแม่อาจได้ทราบเรื่องการแข่งขันระหว

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status