Share

บทที่ 161

Author: หูเทียนเสี่ยว
ในห้องนั้น มือของชายชุดดำสามคนถูกมัดไว้อย่างแน่น และเชือกที่ผูกมือของพวกเขาก็ถูกแขวนไว้บนคาน

และจั๋วซือหรานได้ปรับความยาวพอดี เพียงพอที่จะยกทั้งสามตัวขึ้นได้ ยิ่งกว่านั้น ปากของเขาเต็มไปด้วยบางสิ่งและพันด้วยผ้า ไม่เพียงแต่พวกเขาพูดไม่ได้ พวกเขายังต้องรักษาอารมณ์ของเขาให้สงบด้วย

เพราะเมื่อไรก็ตามที่พวกเขาตื่นตระหนกเหลือเกิน พวกเขาไม่สามารถหายใจจากทางปาก หากพวกเขาไม่ไม่ระวัง พวกเขาอาจจะต้องเป็นลม ดังนั้นพวกเขาจึงต้องสงบสติอารมณ์ให้ได้

จั๋วซือหรานไม่ได้แขวนทั้งตัวของพวกมันไว้บนอากาศ แต่นางก็ไม่ให้เท้าของพวกเขาสัมผัสพื้นด้วย พวกเขาทำได้แค่ปล่อยให้ปลายเท้าของพวกเขาสัมผัสพื้นเท่านั้น

ท่านี้ทรมานมาก เพราะหลังจากถูกแขวนไว้เป็นเวลานาน ข้อมือ แขน และไหล่ทั้งหมดจะรู้สึกเจ็บราวกับว่าหัก

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพยายามยืดหลังเท้าให้ตรงและพยายามให้ปลายเท้าแตะพื้น เพื่อลดแรงกดบนข้อมือ แขน และไหล่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปนาน เท้าของพวกเขาก็เจ็บปวดมากเช่นกัน

ความเจ็บปวดนี้ไม่เคยหายไปแม้แต่วินาทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาสองคนได้รับบาดเจ็บที่ขา โดยมีเลือดหยดลงมาที่ขา แล้วหยดจากปลายเท้าลงสู่พื้น

Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 162

    ขณะที่นางพูด นางมองไปที่ชายชุดดำสามคนที่ถูกแขวนอยู่ "นั่นคือเหตุผลที่ข้าไม่กล้ารบกวนใต้เท้าของกรมสอบสวนคดีอาญา ข้าจะสืบสวนพวกเขาเอง ส่วนขั้นตอนหลัง ๆ ข้าขอใต้เท้าต่งจัดการอย่างเป็นกลาง”จั๋วซือหรานพูดและเดินไปข้างหน้าชายชุดดำสามคนจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง พวกเขาส่งเสียงคำรามจากลำคอและบิดตัวอย่างแรงจั๋วซือหรานเดินเข้าไปหาพวกเขา แล้วเอายาเม็ดในมือของนางให้พวกเขาดู“ก่อนอื่น แน่นอนพวกเจ้าต้องกินยาที่ช่วยขยายการรับรู้ความรู้สึกของอวัยวะ เดี๋ยวเมื่อพวกเจ้าถูกทรมาน พวกเจ้าจะได้รับรู้ความรู้สึกทอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น”พวกเขาทั้งสามฟังนางพูดไป และมองนางค่อย ๆ เขย่าขวดยา เม็ดยากลิ้งอยู่ในขวดและส่งเสียงกึกก้องแล้วพอได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนี้ ทำไมพวกเขากลับรู้สึกนางคลายอารมณ์ ราวกับว่านางกำลังตื่นเต้ากับเรื่องที่นางจะทำในวินาทีต่อมาพวกเขาทั้งสามหวาดกลัว ในใจพวกเขาไม่เพียงแต่เกลียด จั๋วซือหราน แต่ยังเกลียดตัวเองที่ประเมินศัตรูต่ำเกินไป พวกเขายังเกลียดนายจ้าง ซึ่งเป็นตระกูลเหยียนด้วยเพราะพวกเขาบอกชัดเจนว่า วันนี้คุณหนูจั๋วจิ่วได้ใช้พลังมากเกินไปแล้ว ไม่น่ากลัวอีกแล้วนี่หรือที่เรี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 163

    ต่งคังไม่เสียเวลาอีกต่อไป เขารีบเรียกหน่วยลาดตระเวนที่มากับเขาทันที เพื่อวางสามคนนั้นลงมาก่อนที่จะวางพวกเขาลง ต่งคังถามจั๋วซือหราน " แม่นางจิ่ว แม่นางมีอะไรจะทำอีกไหมขอรับ หากไม่มีแล้ว ข้าจะให้สั่งคนวางสามคนนี้ลงและพาออกไป"จั๋วซือหรานส่ายหัวแล้วพูดว่า "ข้าไม่มีอะไรทำอีกแล้ว ได้โปรดทุกท่าน"ต่งคังส่งสัญญาณไปยังหน่วยลาดตระเวน พวกเขาเข้ามา และเตรียมเอาชายสามคนนั้นลงจากคานใครจะรู้...“ปมนี้…” ทหารองครักษ์หลายคนปมบนเชือกที่ผูกชายชุดดำทั้งสามคนนั้น พวกเขารู้สึกปมนี้แกะยากพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า ปมที่หญิงสาวผกไว้ พวกเขาแกะไม่ออกมีคนไม่กี่คนยังไม่ยอมรับความจริง พวกเขาพยายามแกะปมอีกสองสามครั้ง พวกเขาแน่ใจว่าแกะปมนี้ไม่ออก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเอามีดตัดเชือกในความเป็นจริง พวกเขาสามารถตัดเชือกได้โดยตรงตั้งแต่ต้น พวกเขาอยากแสดงมิตรภาพต่อจั๋วซือหรานเพราะพวกเขามักจะรู้สึกเสมอว่า นี่คือห้องของเด็กผู้หญิง และหากตัดเชือกออก เหลือเพียงเชือกปอที่หักเพียงสามเส้นห้อยลงจากคาน ซึ่งไม่เหมาะสมใครจะรู้ว่าปมของหญิงสาวคนนี้แปลกมาก ถึงแม้พวกเขาอยากแกะปมนี้ แต่พวกเขาไม่รู้จะแกะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 164

    “ข้ารู้” จั๋วซือหรานเม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าเคยญญาว่าจะไปกับเจ้าไม่ใช่หรือ”นางเคยสัญญาว่านางจะไปร่วมการฝึกฝนเถื่อนการกลั่นนอกระบบกับซือคงเซี่ยนโดยปกติแล้ว การฝึกฝนเถื่อนจะถูกจัดขึ้นโดยองค์กรตลาดมืดบางแห่ง ไม่เพียงแต่เพื่อเลือกผู้มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังจัดเพื่อการจัดบ่อนพนันด้วยและธุรกิจที่องค์กรตลาดมืดเหล่านี้แอบทำ ไม่ใช่แค่การเปิดบ่อนพนันเถื่อนหรือการฃฝึกฝนเถื่อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจอย่างอื่นด้วย เช่น การประมูล การจ้างงาน เป็นต้นตราบใดที่เจ้าจ่ายเงิน เจ้าสามารถไปที่องค์กรประเภทนี้ได้และจ้างผู้อื่นให้ทำเรื่องต่าง ๆ ให้เจ้าได้ หากราคาสูงพอ ต่อให้เจ้าอยากจ้างผู้อื่นมารับใช้เจ้า นั่นก็เป็นไปได้หอฟ้าดาวเป็นหนึ่งในองค์กรตลาดมืดเหล่านี้ และขนาดของหอฟ้าดาวไม่เล็กในเมืองหลวง ไม่มีใครรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังกล่าวโดยสรุป จั๋วซือหรานพูดเช่นนี้ ซึ่งทำให้ซือคงเซี่ยนต้องตกตะลึงอย่างมากเดิมทีเขาคิดว่านางลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว เนื่องจากเวลาผ่านไปนานมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้จั๋วซือหรานกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงทั่วเมืองหลวงแล้วพูดตามหลักแล้ว นางไม่จำเป็นต้องไปร่วมก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 165

    “บ่าวเข้าใจขอรับ อะไรที่มิใช่คุณหนูสั่ง บ่าวห้ามทำเด็ดขาดขอรับ” ฉวนคูนรีบพูด เขาไม่กล้าทำจริง ๆ เขาเห็นจุดจบของว่างฝูด้วยตาของเขาเองยิ่งกว่านั้น ใครล่ะจะมองไม่ออกอีก แม้ว่าตอนนี้คุณหนูไม่ได้อยู่ในสำนักงานใหญ่ของตระกูลแล้ว แต่ด้วยความสามารถของคุณหนู แม้ว่านางจะไม่ได้อยู่ใน สำนักงานใหญ่ของตระกูล ชีวิตของนางไม่ได้แย่กว่าตอนที่นางอยู่ในสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋วซือหรานพยักหน้าและพูดว่า "ดี เจ้าไปทำความสะอาดห้องนี้และจัดระเบียบทุกอย่างภายในให้เรียบร้อย"จั๋วซือหรานพูดจบ นางหาวและเดินไปที่ห้องนอนของนาง และนอนฉวนคูนเดินเข้าไปในห้อง เขาสะดุ้งทันทีภายในไม่อาจพูดได้ว่าน่ากลัว แต่เดิมห้องนี้ว่างเปล่า และห้องที่ว่างมานานก็จะกลายเป็นห้องร้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในขณะนี้ ในห้องร้าง ภายใต้แสงสลัว มีเชือกสามเส้นห้อยลงมาจากคาน เชือกเหล้านี้พลิ้วไหวอยู่ที่นั่น และมีเลือดสองแห่งอยู่บนพื้นประกอบกับแสงนี้ดูน่าขนลุกมาก...ฉวนคูนอดไม่ได้ที่ต้องตัวสั่น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขานึกถึง คุณหนูจิ่ว ผู้ทรงพลังกำลังนอนอยู่ห้องข้าง ๆทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ต้องกลัว ท้ายที่สุดแล้ว ในสายตาของ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 166

    ความจริงจ้านหลูควรหยุดแค่นี้และเลิกถามต่อ แต่โดยไม่คาดคิด เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า "อีกอย่าง ท่านอ๋องเซี่ยนไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขามาที่นี่ทันที และตอนนี้เขายีงสวมเสื้อคลุมให้แม่นางจิ่วด้วย พวกเขาคงสนิทมากใช่ไหมขอรับ”จ้านหลูไม่ได้สังเกตว่าดวงตาที่ปกติแล้วไม่แยแสของเจ้านายของเขาดูเย็นชากว่า“ข้าให้เจ้ากลับไปรับการลงโทษ หากเจ้าไม่ได้ยิน…” เสียงของ เฟิงเหยียนเย็นชาและน่ากลัวจ้านหลูหดคอและพูดอย่างรวดเร็วก่อนที่เจ้านายจะพูดจบ "ข้าได้ยินแล้ว ข้าได้ยินแล้วขอรับ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ"หลังจากพูดเช่นนี้ จ้านหลู ก็ตีลังกาบนกระเบื้องเคลือบบนหลังคาของหอระฆังอย่างรวดเร็ว เขา 'กลิ้ง' ลงบนพื้นอย่างมีพลังหลังจากจ้านหลูจากไปเฟิงเหยียนยังคงยืนอยู่บนหลังคาของหอระฆัง เขาหันหน้าไปทางจวนของจั๋วซือหราน เขายืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานจนกระทั่งราตรีค่อย ๆ หายไปจนกระทั่งเส้นขอบฟ้าเปลี่ยนเป็นสีซีด จนกระทั่งรังสีแห่งแสงย้อมท้องฟ้าเป็นสีแดงฉูนจวีนรีบวิ่งจากจวนเฟิงอย่างรวดเร็ว เขาอยู่บนหลังคาหอระฆังภายในไม่กี่วินาที เสียงของเขาเป็นกังวลอย่างยิ่ง "ท่านขอรับ พระอาทิตย์จะขึ้นเร็ว ๆ นี้ขอรับ"ในอด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 167

    "เอ่อ... เอ่อ..." จั๋วซือหรานนอนขดตัวอยู่บนเตียง หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ และเสื้อผ้าด้านในของนางเปียกโชกไปด้วยเหงื่อนางไม่คาดคิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้แม้แต่คนอย่างนางที่มีความอดทนสูง ตอนนี้นางก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วในความเป็นจริง ทันทีที่นางตัดสินใจรักษาอาการบาดเจ็บให้เฟิงเหยียน นางได้เตรียมใจไว้แล้วว่านี่จะไม่ใช่เรื่องง่ายมิฉะนั้น ตระกูลที่มีฐานะสูงส่งอย่างตระกูลเฟิงจะถูกพลังวิเศษ ครอบงำมาเป็นหลายปีได้อย่างไรหากพูดได้ว่า ก่อนหน้านี้ จั๋วซือหรานรู้ความเป็นไปได้นี้หลังจากเฟิงเหยียนจูบนางโดยไม่สนใจนาง นางดื่มสุราของเขา และกัดริมฝีปากของเขาคืนนั้นนางได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากความหนาวเย็นและความร้อน ซึ่งทำให้จั๋วซือหรานแน่ใจว่า การที่รักษาอาการบาดเจ็บแก่เฟิงเหยียน นางต้องเจ็บทรมานแน่ ๆเนื่องจากการเจ็บปวดนี้ถูกคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว จั๋วซือหรานได้เตรียมพร้อมทางจิตใจจริง ๆ แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้นางยังคงไม่ทันรับมือกับความเจ็บปวดเช่นนี้ระดับความเจ็บปวดที่นางได้รับจากการลงโทษของหน่วยสืบสวนพิเศษในครั้งที่แล้ว นางสามารถให้คะแนนเป็นสิบคะแนน ความเจ็บปวดที่นางต้องทนอยู่ในขณะนี้ นางสามารถใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 168

    แต่ขณะนี้ นางรู้สึกสดชื่นแล้วจั๋วซือหรานลุกขึ้นจากเตียง นางเห็นว่าเสื้อคลุมของนางถูกพับอย่างเรียบร้อยและวางไว้ที่ปลายเตียงนางสวมเสื้อคลุมแล้วลงจากเตียงนางยังรู้สึกเท้าสั่นเล็กน้อย แต่เพราะนางไม่เจ็บปวดเหมือนเมื่อคืนแล้ว อาการของนางยังพอไหวอยู่ นางจึงเดินไปที่ประตูทันทีที่นางเดินไปที่ประตู นางก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่อ่อนโยนและความเป็นกังวลอยู่ข้างนอก “นางไม่มีคนรับใช้ที่เชื่อใจได้เลย หากไม่ใช่เป็นเพราะข้ากังวลและอยากเข้ามาดูนี่ ดูสิ ไม่รู้สาวน้อยนี้จะอดทนไปถึงเมื่อไร”น้ำเสียงของอวิ๋นเหนียงเต็มไปด้วยความเป็นห่วง” หรานหราน เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด พ่อของนางเสียชีวิตเร็วเกินไปและข้าก็ทำอะไรไม่ได้ นางในฐานะที่เป็นลูกสาวคนโต นางต้องแบกทุกอย่างด้วยตัวเอง ปกป้องข้า ยังต้องการปกป้องเสี่ยวหวายด้วย และแถมยังต้องปกป้องชื่อเสียงของครอบครัวเรา นางไม่อยากเสียศักดิ์ศรีของพ่อนาง นจางเลยต้องแบกทุกอย่างด้วยตัวเอง”“แต่นางเอง... ยังเป็นแค่เด็ก” อวิ๋นเหนียงพูดไปและสะอื้นไปด้วยจั๋วซือหรานฟังออกได้ว่านี่เป็นเสียงของท่านแม่ของนาง และนางยังฟังว่าแม่ของเขาออกด้วยว่า ท่านแม่อาจได้ทราบเรื่องการแข่งขันระหว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 169

    จั๋วซือหรานฟังคำพูดของท่านแม่ของ นางไม่รู้สึกหงุดหงิดเลย แต่นางกลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ค่อย ๆ ไหลออกมาในหัวใจของนางเทียบกับการขดตัวอยู่คนเดียวเสมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วเลียบาดแผลเอง มีคนดูแลตัวเอง แม้ว่าคนผู้นั้นดูแลตัวเองในยามที่เราไม่รู้ตัวก็ตามเมื่อตื่นขึ้น ยังรู้สึกอบอุ่นอยู่ความอบอุ่นนี้ทำให้จั๋วซือหรานซึ้งใจ จนทำให้ดวงตาของนางอ่อนโยนอย่ามาก นางมองผู้อาวุโสใหญ่ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยบนริมฝีปากของนางนางถาม“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสใหญ่หาข้าเพราะเรื่องอันใด”จั๋วหลานมองนาง "ข้ารู้เรื่องที่เกิดในเรือนของเจ้าในเมื่อคืนแล้ว"จั๋วซือหรานตกใจ เพราะนางเดาออกได้ว่า ผู้อาวุโสอยากพูดอะไรกับนาง แต่นางไม่แน่ใจว่าท่านแม่ทราบเรื่องนี้หรือไม่ หากท่านแม่ยังไม่ทราบเรื่องนี้ นางก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อคืนนี้ และไม่อยากทำให้ท่านแม่กังวลนางรู้สึกว่าท่านแม่ไม่สนใจว่า สุดท้ายแล้วนางได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ท่านแม่ไม่สนใจด้วยว่า นักฆ่ามุ่งมาโจมตีนาง นางสังหารนักฆ่าสามคนด้วยนางคนเดียวจั๋วซือหรานรู้สึกว่าแค่คำว่า "นักฆ่า" ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ท่านแม่เป็นห่วงอย่างมากแล้วดังนั้น

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1085

    หัวหน้าคนคุ้มกันถอนหายใจออกมาเบาๆ "เป็นข้าที่เลินเล่อเอง ตอนที่แม่นางเข้าเมืองข้าลืมเตือนแม่นาง ว่าในเมืองหยางนี้มีเจ้าถิ่นอยู่""ถ้าหากไปเจอเข้า เลี่ยงไว้หน่อยก็จะดี ถึงอย่างไรแม่นางก็ไม่ได้คิดจะอยู่นานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอกับเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น แม่นางมาจากเมืองหลวง คิดว่าก็น่าจะเข้าใจ ว่ามันจะมีพวกคน...ที่เหมือนกับพวกคางคงอะไรแบบนั้น" หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ คางคกเวลาปีนขึ้นมาหลังเท้า ต่อให้ไม่กัดคน ก็ยังน่าขยะแขยงจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น "ตระกูลเหอหรือ?"หัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้า "ตระกูลเหอขอรับ"เขาควรจะคิดถึงตั้งนานแล้ว ว่าคนตรงหน้าคนนี้ ตอนอยู่ที่เมืองหลวง ก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหยางเลยคิดๆ แล้วก็ใช่ คนตรงหน้าคนนี้คือคนที่ไม่เห็นห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงในสายตา เป็นหญิงสาวที่ถูกตระกูลขับไล่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสมาเชิญให้กลับตระกูล...คนเช่นนี้ จะมาหวาดกลัวตระกูลเหอในเมืองหยางได้อย่างไรกันแต่หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงจดจำบุญคุณที่จั๋วซือหรานมีต่อค่ายคุ้มกันและท่านแม่ทัพ ดังนั้น ไม่ว่าจั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1084

    จั๋วซือหรานชูเข็มในมือขึ้น เอ่ยว่า "สมอง"จากนั้นก็ใช้เข็มชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"ดีมาก ตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย!ไม่ว่าจะแมงมุมน้อยหรือพวกก้อนเนื้อ ตอนนี้ก็น่าจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ลิงโลดของจั๋วซือหรานแล้วเพราะตาของนางเปล่งประกายมาก!จากนั้นนางจึงชูเข็มในมือขึ้นอีกครั้ง "สมอง"ชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"หลังจากพูดซ้ำเช่นนี้ไปหลายรอบ ตอนที่แมงมุมน้อยกับพวกก้อนเนื้อทวนซ้ำคำพูดกับท่าทางของนางได้การเคลื่อนไหวของนางในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง!นางบีบขนมถั่วแดงไว้ในมือ เอ่ยขึ้นว่า "สมอง""เอ๋?" ในดวงตาเล็กๆ ของขนมถั่วแดงเบิกกว้างสงสัย ไม่ใช่เข็มนั่นที่เป็นสมองหรือ?จากนั้นนายท่านก้ดึงไหมกู่ของมันออกมาหลายเส้น เอ่ยขึ้นว่า "ระบบประสาท"จั๋วซือหรานตาเป็นประกายจนเหมือนดวงดาว "ไม่ต้องอธิบายแล้ว" นางหัวเราะขึ้นมา "ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ อัจฉริยะ"เหล่าก้อนเนื้อันที่จริงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายท่นา แต่สัมผัสได้ถึงอารมณ์เบิกบานของนายท่าน พวกมันก็รู้สึกดีใจตามขึ้นมาแมงมุมน้อยเหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1083

    นิ้วของจั๋วซือหรานมีแสงหยกครบอยู่ชั้นหนึ่ง ยื่นตรงไปยังเข็มยาวสีดำที่ปักอยู่ตรงท้ายทอยของหุ่นเชิดความมืดเล่มนั้นขนมชาเขียวอยู่ข้างหูนาง เอ่ยขึ้นอย่างกังวล "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อันตรายมากเลย...ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ขนมชาเขียวไม่ได้ร่าเริงเหมือนขนมถั่วแดง น่าจะเพราะมันมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัวดังนั้นการที่มันพูดเช่นนี้ จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกใจมาก"อื๋อ? ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?" จั๋วซือหรานมองไปทางมันขนมชาเขียวส่ายหัว เพราพวกมันล้วนเป็นก้อนเนื้อ พูดว่าส่ายหัว อันที่จริงก็คือก็โยกไปมาของครึ่งท่อนบนขนมชาเขียวบอกว่า "ข้าเองก็บอกไม่ถูก แค่รู้สึก ว่ามันเย็นเยือกมาก""เย็นเยือก..." จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดนี้ของขนมชาเขียวจั๋วซือหรานรู้ เพราะขนมชาเขียวมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างฉับไวกับสิ่งที่เย็นเยียบยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดความมืดคนนี้กับอักขระคำสาปบนตัวเหล่านั้น จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งที่มีพลังหยางเลยในใจจั๋วซือหรานคิดอะไรไว้บ้างแล้ว แสงหยกบนมือนางค่อยๆ สลายไป ค่อยๆ เปล่งแสงสีสันสวยงาม และมีความร้อนเหมือนเปลวไฟขึ้นมานางควบร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1082

    แต่อันที่จริงด้านในมีโพรงสวรรค์อยู่สมบัติที่นางสะสมมาจากชาติที่แล้วและชาตินี้ ห้องคลังก็ล้วนอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งสิ้นคลังของนางพูดได้ว่าใหญ่โตเอามากๆ กระทั่งคลังยังถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วย คลังยา คลังอาวุธ คลังเสบียงอาหารประจำวัน คลังของจิปาถะเป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีห้องหลอมสกัดยาของนางด้วย...อันที่จริงในชาติที่แล้ว มิติห้องหลอมสกัดยานี้ไม่ได้เอามาใช้หลอมยา แต่บางครั้งนางนำมาใช้เป็นการทดลองยาอะไรพวกนี้พอมาชาตินี้ ก็นำมาใช้หลอมยาสกัดยา ก็ยังถือว่าตรงสายงานเฉพาะทางอยู่ ไม่เสียเปล่าแล้วยังมีห้องเพาะเลี้ยงของตนเองด้วย ตอนนั้นตั้งใจจะมาเพาะเลี้ยงพวกของที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ พวกเห็ดอะไรทำนองนี้ในมิติของนาง ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่ง พวกพืชเองก็ปลูกแบบสะเปะสะปะแต่ว่าพวกเห็ดมันคือเชื้อราจริงๆ อยู่ด้านนอกก็ปลูกไม่ค่อยโต ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงจงใจสร้างห้องเพาะขึ้นมาโดยเฉพาะเพียงแต่ตอนนี้ยังว่างอยู่จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้โยนหุ่นเชิดความมืดเข้ามาในห้องเพาะปลูกนี้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ มันไม่อยู่ด้านในแล้วถ้าตามที่แมงมุมน้อยว่า มันหลบอยู่ที่ด้านหลังของบ้านจั๋วซือหรานเดินเข้าไป ยื่นหน้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1081

    "ดังนั้นจึงมาลงมือกับเจ้าหรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางแมงมุมน้อย "ถึงอย่างไรพอพูดขึ้นมา เจ้าเองก็ก็เป็นสิ่งมีพิษที่หาได้ยากด้วยนี่ แล้วยังเป็นระดับราชาสัตว์ด้วย ถ้าเขาเสพติดพิษขึ้นมาด้วยคุณสมบัติร่างกายแบบนั้นจริงล่ะก็..."จั๋วซือหรานตบเบาๆ ลงไปบนแขนเคียวของราชาแมงมุมหน้าผี "เจ้าเองก็ตัวใหญ่ขนาดนี้ ถือเป็นของบำรุงที่ไม่เลยเลยทีเดียว"จั๋วซือหรานก็เหมือนตระหนักได้ถึงแก่นแท้เรื่องราวในชั่วพริบตาราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินการคาดเดากับการวิเคราะห์ของจั๋วซือหราน ก็คิดขึ้นมาถึงความเป็นไปได้นี้ พอคิดไปถึงว่าตนเองเกือบถูกคนเอาไปเป็นของบำรุงแล้ว ก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้"ยังดีที่นายท่านช่วยเหลือไว้" แมงมุมน้อยเอ่ยขึ้นแม้จะบอกว่า จั๋วซือหรานเข้าใกล้แก่นแท้ของเรื่องราวไปแล้วในชั่วพริบตานั้น แต่นางก็เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนักนางโบกไม้โบกมือ เอ่ยขึ้นว่า "ช่างเถอะ ไม่มีอะไรน่าคิดเล็กคิดน้อย ด้วยพลังของคนเมื่อครู่นี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ข้าก็ไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก คนแบบนั้น การสู้ให้ตายกันไปข้าง น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร"จั๋วซือหรานพูดไปด้วยพลางสังเกตสภาพของแมงมุมน้อยไปด้วย จากนั้นจึงตบเบาๆ แล้วเอ่ยขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1080

    เจ้าคิดว่าข้าทรยศเจ้า ใช้ประโยชน์จากเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าสูงส่งเต็มประดานักหรือ?! เจ้ามันก็จนตรอกแล้วเท่านั้น!รอให้เจ้าจนตรอกเสียก่อน เพื่อจะมีชีวิตต่อไปเจ้าก็ต้องทรยศคนทั้งหมดเหมือนกัน! เจ้าจะลงหมอบคลานกับพื้นส่ายหางอย่างน่าสงสาร!เจ้าไม่ได้ดีกว่าข้าหรอก! เจ้าก็จะเป็นเหมือนข้า! ถึงอยี่างไร ข้าก็เป็นคนสอนเจ้ามา!"หลงเฉินพูดจบ ก็หัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่งเขาไม่ได้สังเกตเห็นสีตาของเฟิงเหยียน ที่ตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งขึ้นมาพอควรเสียงของเฟิงเหยียนกดลงต่ำมาก แต่กลับหนักแน่น "ข้าไม่มีทางเป็นแบบนั้น"เขาหันกลับไปมองชายหนุ่มที่น่าเศร้าซึ่งพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดในสมองก็อดคิดถึงเรื่องเหล่านั้นสมัยยังเด็กขึ้นมาไม่ได้เสียงที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ นั่งอยู่ใต้ต้นดอกท้อบานสะพรั่ง หลับตาพริ้ม กำลังดื่มชาขาวดอกสาลี่ยิ้มตาหยีบอกกับเขาว่า "เหยียนเอ๋อร์ อันที่จริงเจ้าไม่ต้องพยายามอยากจะเติบโตอยากจะแข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก เพราะพอเติบโตแล้ว...มันไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด คำของข้า รอเจ้าโตแล้วก็จะเข้าใจเอง"ตอนนั้นใบหน้าที่อ่อนโยนอบอุ่นของชายคนนี้ ค่อยๆ ซ้อนทับกับใบหน้าที่บ้าคล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1079

    สีหน้าหลงเฉินปั้นยากมาก แต่...ไอ้การข่มกันของธาตุนี้เหมือนกับเป็นความสามารถแต่กำเนิด! ควบคุมได้ยากมากดังนั้นในพริบตาที่อุณหภูมิร้อนแรงบนตัวเฟิงเหยียน กับประกายไฟไร้รูปร่างปรากฏขึ้นร่างของหลงเฉินก็เบี่ยงหลบไปอย่างควบคุมไม่ได้เขียนเอ่ยเสียงแข็ง "เจ้า...จะทำอะไร"เฟิงเหยียนเหมือนห่อไว้ด้วยเปลวไฟทั้งตัว ทั้งร่างราวกับเป็นลูกไฟ อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างร้ายกาจแล้วจึงเดินไปด้านหน้าโดยไม่สนใจใครไม่นานนักก็มาถึงตำแหน่งใจกลางหมอกพิษ จึงมองเห็นบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบใจกลางเทียนช่อนั้นมันเป็นเหมือนกับชื่อเลย มีเจ็ดดอก ใบเจ็ดใบ ทุกดอกล้วนเป็นสีม่วง เกสรสีเหลืองยาวมาก ราวกับเป็นเทียนแล่มหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นมันบานอยู่ในบ่อน้ำเล็กๆ บ่อน้ำยังใหญ่ไม่เท่าใบหน้าเลย แต่ของเหลวที่อยู่ด้านใน ดูแล้วกลับเป็นสีม่วงเข้ม!และเจ้าของเหลวสีม่วงเข้มเหล่านี้ พอเดือดระเหย แล้วผสมเข้ากับความชื่นในอากาศของป่าทวนแสง นานวันเข้าจึงกลายเป็นหมอกพิษที่เข้มข้นขึ้น"ที่แท้ท่านก็คอยคุ้มครองเจ้าสิ่งนี้นี่เอง" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งหลังจากนั้นจึงยื่นมือไปทางบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนช่อนั้น"หยุดนะ!" หลงเฉินตะโก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1078

    หลงเฉินเนื่องจากร่างกายแบกพลังมังกรหนามม่วงไว้ แต่สิ่งที่ต้องนำมาสะกดนั้นตรงข้ามกับเฟิงเหยียนหลงเฉินเป็นประเภทที่ต้องพึ่งพาคุณสมบัติต่อพิษ ถ้าหากไม่มีการหาสิ่งที่พิษ พิษของมังกรหนามม่วงในร่างกายก็จะเริ่มทำร้ายตนเองอันที่จริงถ้าหากจั๋วซือหรานอยู่ที่นี่แล้วมีปฏิกิริยากับเนื้อหาที่เฟิงเหยียนพูดมาล่ะก็ คงจะมีคำจำกัดความให้อย่างรวดเร็วว่า:นี่มันก็เหมือนกับติดยาเสพติดนี่นาสถานการณ์ของหลงเฉินตอนนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ"เพราะที่พรมแดนใต้มีสิ่งมีพิษอยู่มากกว่า" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น "แต่ก่อน บางทีท่านก็หายไประยะหนึ่ง บอกว่าตนเองปิดด่าน หลังจากกลับมาสีหน้ากับสภาพก็ไม่ค่อยสู้ดีนักตอนนี้พอคิดๆ ดู ท่านก็น่าจะไปเอาสิ่งมีพิษมาใช้ประโยชน์กับตัวเองสินะ...ท่านอยู่แค่ในป่านี้ ก็เพราะที่นี่มีหมอกพิษข้าเดาว่าท่านคิดจะสูดรับหมอกพิษเหล่านี้แล้ว ค่อยไปยังใจกลางหมอกพิษเอาสมบัติที่ก่อหมอกพิษหนาแน่นนี้มาใช้ประโยชน์กับตนเองและสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่านลงมือกับสัตว์อสูรของจั๋วเสียวจิ่ว ก็น่าจะเพราะแมงมุมตัวนั้นไปพบกับสมบัติที่ใจกลางหมอกพิษ แล้วกำลังจะเก็บมันมาสินะยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะ แมงมุมตัวนั้นก็เ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status