แชร์

บทที่ 169

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานฟังคำพูดของท่านแม่ของ นางไม่รู้สึกหงุดหงิดเลย แต่นางกลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ค่อย ๆ ไหลออกมาในหัวใจของนาง

เทียบกับการขดตัวอยู่คนเดียวเสมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วเลียบาดแผลเอง มีคนดูแลตัวเอง แม้ว่าคนผู้นั้นดูแลตัวเองในยามที่เราไม่รู้ตัวก็ตาม

เมื่อตื่นขึ้น ยังรู้สึกอบอุ่นอยู่

ความอบอุ่นนี้ทำให้จั๋วซือหรานซึ้งใจ จนทำให้ดวงตาของนางอ่อนโยนอย่ามาก นางมองผู้อาวุโสใหญ่ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยบนริมฝีปากของนาง

นางถาม“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสใหญ่หาข้าเพราะเรื่องอันใด”

จั๋วหลานมองนาง "ข้ารู้เรื่องที่เกิดในเรือนของเจ้าในเมื่อคืนแล้ว"

จั๋วซือหรานตกใจ เพราะนางเดาออกได้ว่า ผู้อาวุโสอยากพูดอะไรกับนาง แต่นางไม่แน่ใจว่าท่านแม่ทราบเรื่องนี้หรือไม่ หากท่านแม่ยังไม่ทราบเรื่องนี้ นางก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อคืนนี้ และไม่อยากทำให้ท่านแม่กังวล

นางรู้สึกว่าท่านแม่ไม่สนใจว่า สุดท้ายแล้วนางได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ท่านแม่ไม่สนใจด้วยว่า นักฆ่ามุ่งมาโจมตีนาง นางสังหารนักฆ่าสามคนด้วยนางคนเดียว

จั๋วซือหรานรู้สึกว่าแค่คำว่า "นักฆ่า" ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ท่านแม่เป็นห่วงอย่างมากแล้ว

ดังนั้น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Duangthip
เนื้อหาซ้ำซ้อน วนประโยคเดิมๆหลายหนมาก ทำให้เนื้อเรื่องเดินช้า
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 170

    จั๋วหลานกล่าวต่อว่า "ตระกูลรู้ดีว่าเจ้าได้รับความน้อยใจอย่างมาก และเมื่อคืนยังเกิดเรื่องเช่นนี้ด้วย เจ้าไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แม้ว่าเจ้าถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลแล้ว แต่เจ้าก็ยังเป็นสมาชิกของตระกูลจั๋ว และเจ้ายังใช้นามสกุลจั๋วด้วย เจ้ายังเป็นสายเลือดของตระกูลจั๋ว "“ดังนั้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเหยียน ตระกูลจะไปช่วยพูดอยู่แล้ว” จั๋วหลานพูดถึงเหตุการณ์ที่มีคนแอบเข้ามาและพยายามโจมตีนางในเมื่อคืนนี้จากนั้นเขาก็กล่าวถึงอีกเรื่องหนึ่ง“แต่วันนี้ข้ามาที่นี่ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องที่เจ้าถูกโจมตีในเมื่อคืนนี้ ความจริงในเมื่อคืน มีคนถูกโจมตีในจวนจั๋วเช่นกัน” คำพูดของ จั๋วหลานทำให้จั๋วซือหรานเกิดความสนใจนางเลิกคิ้วเล็กน้อย มองจั๋วหลาน แล้วถามว่า "หากข้าเดาไม่ผิด คนที่ถูกโจมตี...คือ หลิ่วเย่ใช่ไหม"จั๋วหลานไม่แปลกใจเลยที่นางเดาได้ หญิงสาวคนนี้เป็นคนที่ฉลาดมากอยู่แล้ว เกรงว่านางเดาออกเรื่องนี้ตั้งนานแล้ว แต่นางไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อใด... ไม่ จั๋วหลานคิดว่านางอาจจะคิดได้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไรเพราะนางค่อย ๆ บังคับจั๋วเห้อหรงและจั๋วหรูซินเดินไปที่ทางตันจั๋วหลา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 171

    จั๋วซือหรานหันไปมองผู้อาวุโสใหญ่ เดิมทีนางคิดว่าผู้อาวุโสใหญ่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่จากสีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ ไม่มีร่องรอยใด ๆ เลยยิ่งไปกว่านั้น ผู้อาวุโสใหญ่เป็นคนจริงจังและคนตรงไปตรงมา จั๋วซือหรานแทบจะมองเห็นความประหลาดใจในดวงตาของเขาจะเห็นได้ว่าขบวนรถม้าของตระกูลเฟิงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของผู้อาวุโสใหญ่ และแม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่ก็ยังคาดไม่ถึงเลยจากรถม้าคันแรกของตระกูลเฟิง มีชายคนหนึ่งสวมชุดของคนรับใช้ของตระกูลเฟิงกระโดดลงรถม้าและเดินไปหาจั๋วซือหรานเขาพูดด้วยความเคารพว่า " แม่นางจั๋วจิ่วขอรับ อรุณสวัสดิ์ขอรับ"จั๋วซือหรานพยักหน้าเล็กน้อยแล้วมองเขา“ข้าน้อยได้รับคำสั่งมาหาท่าน เพื่อมอบ…” คนรับใช้ตของระกูลเฟิง กล่าวด้วยความเคารพจั๋วซือหรานขัดจังหวะเขา “คำสั่งของใคร”“ ซื่อจื่อ …และคำสั่งของผู้อาวุโสทั้งหลายขอรับ” หลังจากคนรับใช้ตอบแล้ว เขาพูดเรื่องของเมื่อครู่นี้ต่อ “มอบของขวัญตอบให้ท่านขอรับ”คนรับใช้ถือใบรายการของขวัญด้วยมือทั้งสองข้าง ไม่ทราบว่าใบรายการของขวัญได้ระบุของขวัญกี่ชิ้น มันถูกม้วนเป็นม้วนและถูกปิดผนึกด้วยกระดาษสีแดง เขาส่งมอบให้กับจั๋วซือหรานห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 172

    “ก็หนูติดธุระน่ะแม่” จั๋วซือหรานพูดและยิ้ม “แต่ท่านแม่ไม่ต้องกังวล ท่านอ๋องไม่ใช่คนไร้เหตุผล และท่านอ๋องมีช่องทางทราบข่าวของข้าอย่างรวดเร็วแน่ ๆ ท่านอ๋องต้องเข้าใจหนูแน่ ๆ”แม้ว่าเป็นอย่างนั้นก็จริง ๆ แต่อวิ๋นเหนียงยังคงรู้สึกการกระทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมเล็กน้อย คิ้วของนางบิดเบี้ยวเล็กน้อย "แม่ไม่กังวลว่า ท่านอ๋องจะไม่เข้าใจ"แม้ว่าอวิ๋นเหนียงไม่เคยพยเฟิงบหยียน แต่ฟังจากข่าวรือของชาวบ้าน นางฟังออกว่า เขาเป็นชายหนุ่มที่อ่อนน้อมถ่อมตนและดีเยี่ยม มิฉะนั้น เขาจะไม่ถูกเรียกว่าเป็นที่หนึ่งในบรรดาหนุ่ม ๆ อันหล่อเหลาและดีเยี่ยมในเมืองหลวง“แม่กังวลเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเฟิงจะไม่เข้าใจหนู” อวิ๋นเหนียงกล่าวว่า “เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะคิดว่าหนูไม่เสียมารยาท วันหลังพวกเขาจะหาเรื่องหนู ”จั๋วซือหรานยิ้มเมื่อนางได้ยินคำพูดของท่านแม่"หนูไม่ต้องการให้พวกเขาเข้าใจหนู เฟิงเหยียนต้องเข้าใจหนูก็พอ นอกจากนี้ ท่านแม่คงมองออกว่า หนูไม่ใช่คนที่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาอาจมีอคติกับหนูอยู่บ้าง แต่หลังจากเมื่อวานเป็นต้นไป คงไม่ใช่เช่นนั้นแล้วเจ้าค่ะ”ผู้อาวุโสใหญ่ยืนฟังคำพูดของ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 173

    หลิ่วเย่ฟังเสียงฝีเท้านั้น นางรู้สึกเจ้าของเสียงนี้อารมณ์ดีมาก และเจ้าของผู้นี้เดินอย่างสบาย ๆหลิ่วเย่ตาบอดข้างหนึ่ง แต่หูของนางยังคงดีมาก ดังนั้นนางได้ยินการเคลื่อนไว้ของข้างนอกอย่างชัดเจนนี่ไม่ใช่เสียงฝีเท้าของฝูซาง ฝูซางเป็นคนรอบคอบ นางทำงานได้ทั้งรวดเร็วและดี ดังนั้นนางจึงไม่ค่อยมีจังหวะผ่อนคลายเช่นนี้ และนางมักจะรีบร้อนเล็กน้อยส่วนฝูซูกับจั๋วหวาย ฝีเท้าของพวกเขามีชีวิตชีวาและอ่อนเยาว์หน่อย หากจะบอกว่าพวกเขาเดิน พวกเขากระโดดและวิ่งไป ๆ มา ๆ มากกว่าฮูหยินเป็นผู้ที่อ่อนโยน วิธีการพูดและการกระทำเหมือนฝีเท้าของฮูหยิน เสียงฝีเท้าของฮูหยินนุ่มนวลและเสียงฝีเท้าที่ผ่อนคลายเช่นนี้ หลิ่วเย่จำคนได้เพียงคนเดียวเท่านั้น...หญิงสาวผู้นั้นมีพรสวรรค์อันโดดเด่น นางอายุน้อยและงามเสมือนนางฟ้า บางทีอาจเป็นเพราะนางดีทุกอย่าง นางไม่ต้องใจร้อนในเรื่องใด ๆ ดังนั้นนางจึงดูสบาย ๆ และผ่อนคลายอยู่เสมอหรืออาจเป็นเพราะในฐานะที่เป็นลูกสาวคนโต นางต้องแบกรับความกดดันมากกว่าผู้อื่น นางจึงไม่กล้าเดินและกระโดดมากเกินไป นางเลยก้าวได้ทีละก้าวเท่านั้น เดินอย่างสบาย ๆ และมั่นคงเมื่อหลิ่วเย่จำเสียงฝีเท้าได้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 174

    จั๋วซือหรานกล่าวและมองหลิ่วเย่ นางยิ้มแต่ไม่มีรอยยิ้มตั้งแต่จั๋วซือหรานเดินเข้าห้อง หลิ่วเย่จ้องมองจั๋วซือหรานด้วยดวงตาข้างที่ยังมองได้จั๋วซือหรานมองนางแล้วพูดเบา ๆ “ หลิ่วเย่ ไม่เจอกันนานเลย”ริมฝีปากแตกของหลิ่วเย่สั่น นางขยับริมฝีปากเล็กน้อย แต่นางไม่พูดอะไร นางไม่รู้ว่าจะพูดอะไร และสุดท้ายนางก็แค่เรียกจั๋วซือหรานด้วยเสียงแหบ "คุณหนู..."จั๋วซือหรานเลิกคิ้วและมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ "นางพูดได้และสารภาพได้อยู่นี่"เดิมทีนางนึกว่าหลิ่วเย่อาจถูกวางยาและเป็นใบ้ หรือหมดสติ หรืออะไรบางอย่างโดยไม่คาดคิดนางยังมีสติอยู่และยังพูดได้ด้วยนั่นเป็นอาการที่ยังสามารถสารภาพได้ ทำไมผู้อาวุโสใหญ่ ถึงไปหานางจั๋วซือหรานสับสนเล็กน้อยผู้อาวุโสใหญ่กล่าวว่า “นางกลัวตาย นางบอกว่าหากเราไม่ช่วยชีวิตนาง นางจะไม่สารภาพ หากนางไม่สารภาพ ข้าจะเหนื่อยใจ”จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของผู้อาวุโสใหญ่ สำหรับคนซื่อสัตย์อย่างเขา แม้ว่าเขาจะต้องการให้ความยุติธรรมแก่นางจริง ๆ เขาก็ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเนื่องจากเขาไม่มีสิทธิ์จัดการฉินตวนหยาง ซึ่งผู้ที่เป็นข้าราชการแห่งราชสำนัก เขาจึงต้องหาทางแก้ไขจากหลิ่วเย่ หา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 175

    การกระทำของฝูซางว่องไวมาก นางก็มัดหลิ่วเย่ให้แน่นตามคำแนะนำของจั๋วซือหรานในเวลาอันสั้นฝูซางกับฝูซูเป็นผู้ติดตามที่แท้จริง ผู้ติดตามไม่แตกต่างกับคนรับใช้ผู้ติดตามสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ กับเจ้านายได้ ตัวอย่างเช่น เด็กรับใช้ของเจ้านายสามารถไปเรียนที่สถานศึกษากับเจ้านาย เด็กรับใช้ของเจ้านายยังสามารถฝึกศิลปะการต่อสู้กับเจ้านายได้เช่นกันแม้ว่าเด็กรับใช้ไม่ได้เรียนและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจังเหมือนเจ้านาย แต่การที่สามารถอยู่ข้างกายของเจ้านายนั้นได้ความรู้หรือไม่มันขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเอง บางทีเด็กรับใช้อาจจะเป็นผู้ทรงพลังก็ได้นะกล่าวโดยสรุป ฝูซางกับฝูซู ฝึกศิลปะการต่อสู้กับเจ้าของร่างเดิม พวกเขาอาจไม่ได้มีความสามารถที่โดดเด่น แต่ความสามารถของพวกเขาก็เหนือกว่าคนรับใช้อย่างหลิ่วเย่ตั้งเยอะฝูซางมัดหลิ่วเย่ไว้อย่างรวดเร็วแม้ว่าหลิ่วเย่จะรู้ว่าจั๋วซือหรานจะรักษานาง แต่นางก็ยังตื่นตระหนกเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนี้"คุณห คุณหนูอยากทำอะไร ปล่อยข้าไป ปล่อยข้า"แต่เนื่องจากนางได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้แต่นางตื่นตระหนกอย่างมาก เสียงของนางยังฟังอ่อนแออย่างมากฝูซางไม่สนใจนางกำลังพู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 176

    ในขณะนี้ จั๋วซือหรานได้ดึงมือของนางออกแล้วหลิ่วเย่ถูกความเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก และในช่วงที่นางยังเบลออยู่ นางได้ยินเสียงของจั๋วซือหราน "ก็ไม่เลว ลำไส้ไม่ได้เสียกมากนัก ถือว่าเจ้าโชคดี"ลูกตาดำที่ไร้ชีวิตชีวาของหลิ่วเย่เหลือบมองจั๋วซือหรานอีกครั้งจากนั้นนางก็เห็นจั๋วซือหรานเริ่มหยิบเครื่องมือสำหรับการผ่าตัดออกมาจั๋วหลานกับฝูซางไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่านางหยิบเครื่องมือออกมาที่ไหน และพวกเขาไม่เข้าใจว่าเครื่องมือพวกนี้คืออะไรอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเครื่องมือเหล่านี้ไม่ใช่ของที่ใช้กับผู้ที่ได้รับมีบาดเจ็บทั่วไปหลิ่วเย่มองเครื่องมือที่จั๋วซือหรานหยิบออกมา หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกลัวที่ไม่รู้จักแต่นางไม่สามารถพูดอะไรได้ และเมื่อเห็นเครื่องมือโลหะแวววาวเหล่านั้น หลิ่วเย่ก็ไม่กล้าขยับตัวแม้ว่านางถูกมัดไว้แน่น แต่ก่อนหน้านี้ นางยังบิดตัวเล็กน้อย แต่ในเวลานี้ เมื่อนางเห็นเครื่องมือที่จั๋วซือหรานหยิบออกมาและนางรู้ดีว่านางได้รับบาดเจ็บที่ไหน ดังนั้นนางเห็นเครื่องมือเย็น ๆ เหล่านี้ เมื่อนางรู้ว่าของเหล่านี้จะถูกใช้ที่ไหนหลิ่วเย่สั่นเบาลง“ ฝูซาง ไปเอาน้ำร้อนมา” จั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 177

    ทันทีที่จั๋วหลานเดินเข้ามา เขาเห็นจั๋วซือหรานใช้เครื่องมือที่ดูเหมือนกรรไกร นางกำลังคีบ... เข็มโค้งที่ดูเหมือนเบ็ดตกปลา แล้วจี้ไปที่ท้องของหลิ่วเย่มือของเขาไม่นิ่ง และกะละมังก็ตกบนพื้น เสียงนั้นดังก้อง ซึ่งทำให้ฝูซางสะดุ้งแต่ดูเหมือนการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อย่างกะทันหันนี้ไม่ได้ทำให้จั๋วซือหรานเสียสมาธิ ไม่ต้องพูดถึงนางตกใจ นางไม่แม้แต่จะขยับคิ้ว และนางไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยในการเคลื่อนไหวเลยนางปักเข็มอย่างแม่นยำ จากนั้นดึงเข็มแล้วดึงด้าย...หลิ่วเย่ส่งเสียงคำรามแหลมออกมาจากลำคอของนางดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดจากจั๋วหลานทำกะละมังตกบนพื้น ฝูซางตกใจจนกระโดดในที่เดิม หรือเสียงคำรามอันแหลมคมที่ออกมาจากลำคอหลิ่วเย่การเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่สามารถทำให้จั๋วซือหรานเสียสมาธิเลยเธอทำให้ผู้คนรู้สึกว่าแม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาเธอ แต่เธอก็ยังสามารถทำสิ่งที่เธอทำอยู่ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสีหน้าของเธอนี่คือคุณสมบัติทางจิตตวิทยาที่แพทย์ควรมี และในความคิดเห็นของจั๋วซือหราน นี่เป็นเรื่องธรรมชาติแต่ในสายตาของคนด้านข้าง นี่คือคุณสมบัติที่ทรงพลังอย่างมาก ซึ่งแตกต่างจากผ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1090

    จั๋วซือหรานไม่ตอบ แค่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ยอมรับหรือปฏิเสธหัวหน้าคนคุ้มกันออกแรงเม้มปาก ในดวงตาแดงก่ำขึ้นจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเห็นแล้วว่าเจ้านายเจ้าเป็นพวกที่ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคน จะมองออกถึงดวงชะตาแล้ว ทั้งที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วก็น่าจะหวงแหนชีวิตขึ้นมาบ้างจึงจะถูก นี่เจ้ากลับเข้ามารนหาที่ตาย"หัวหน้าคนคุ้มกันริมฝีปากสั่นระริก "แม่นาง..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ เลือกมา"พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันก็ตกตะลึง "อะ อะไรหรือ?""อยากจะรอดหรืออยากจะตาย" จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ อาวุธเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ "ถ้าจะส่งเจ้าไปสบายมันง่ายดายมาก ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย อย่าว่าแต่เจ้า พวกลูกน้องเหล่านี้ของเจ้า ข้าสังหารทั้งหมดได้แค่ในไม่กี่อึดใจ"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ในดวงตาสงบนิ่งไปแล้วแท้ๆ แต่กลับเหมือนมีประกายของดวงดาวเปล่งปลั่งขึ้นมา"ยังมี...ชีวิตต่อได้หรือ?" ในน้ำเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันมีความหวังขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ได้ แต่มีสิ่งที่ต้องจ่าย""จ่ายด้วย...อะไรหรือ?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1089

    เพราะขนมชามมีไฟวิเศษเปลวเพลิงอู๋ซื่ออยู่ในตัว รูปร่างเดิมจึงกึ่งโปร่งใสถนัดการพรางตัวมากที่สุดและสภาพก่อนหน้านี้ การปรากฏตัวกะทันหันของจั๋วซือหราน ตอนที่ผู้เฒ่าเหอมีอาการสั่นไปทั้งตัวจากความผวาต่อตัวนาง แน่นอนว่าความสนใจทั้งหมดจึงพุ่งไปบนตัวนางจนไม่ทันได้สังเกตถึงการเคลื่อนไหวผิดปกติอื่น ดังนั้นจึงไม่รู้สึกตัวเลย ว่าแมลงกู่ที่ร่างกายกึ่งโปรงใสในปกติ และในตอนที่จำเป็นก็เพิ่มระดับความโปร่งใสได้อีก ตัวนี้ ไปเกาะอยู่บนไหล่เขาตั้งแต่เมื่อไรตอนนีเ้อง พอเห็นว่าร่างของผู้เฒ่าเหอล้มลงกะทันหันขนมชามก็รีบกระพือปีกน้อยทั้งสองนั่นขึ้นมา แม้จะบินไม่ได้เร็วหรือสูงนัก แต่การจะบินขึ้นมาจากจุดเดิมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ตุบตุบ...ตุบตุบ...มาอยู่เบื้องหน้าจั๋วซือหราน หยุดลงข้างๆ หูแล้วจึงส่งเสียงจี๊ดๆ ขึ้นมาแต่ที่ได้ยินในหูจั๋วซือหราน ขนมชามกำลังบอกว่า "นายท่าน เขาสลบไปแล้ว"จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นมา "ชิ อ่อนแอเสียจริง""ใช่เลย" ขนมชามเห็นด้วยกับคำพูดของนายท่าน หลังจากนั้นก็ร่อนลงมาบนไหล่จั๋วซือหราน เอ่ยว่า "ทั้งที่ข้าเป็นคนที่ทนรับได้ง่ายที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้วด้วยซ้ำ"จั๋วซือหรานคิดแล้วก็ขำ พูดอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1088

    สีหน้าผู้เฒ่าเหอแข็งทื่อไป หลังจากตั้งสติกลับมาได้ สีหน้าก็เขียวจนซีดไป นี่นางกำลังตอบโต้เขาว่าก่อนหน้านี้ผายลมออกมาไม่ดังพอสินะ!ผู้เฒ่าเหอโมโหไม่พอใจ สูดลมหายใจลึก แล้วจึงสงบลงมาได้เขาจ้องจั๋วซือหราน "ใต้เท้าจั๋ว ท่านมาโดยไม่ได้รับเชิญถึงสองรอบ วางยาพิษลูกชายข้า ทำร้ายผู้ใต้บัญชาข้า นี่รังแกกันมากเกินไปแล้ว ทำไมหรือ? ขุนนางราชสำนักสามารถรังแกคนได้แบบนี้หรือไรกัน? คิดว่าต้าชางไม่มีกฏหมายหรือไร?"จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำนี้ พูดออกมาแค่ว่า "เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?""ความหมายของข้าก็คือ..." ผู้เฒ่าเหอกำลังคิดจะพูดแต่เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกจั๋วซือหรานตัดบทไปแล้ว "เจ้าคิดว่ายกเอากฏหมายออกมาแล้วจะช่วยชีวิตเจ้าได้เรอะ?""นี่เจ้า...!" ผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตในดวงตาถลึงโตของเขา สะท้อนใบหน้ารอยยิ้มชั่วร้ายของจั๋วซือหราน "ในเมื่อเจ้ากล้าคิดวิธีมาทำร้ายข้า ก็คงจะเคยหาข่าวเรื่องข้ามาแล้ว คงเข้าใจในตัวข้าอยู่บ้างสินะ""ในเมื่อเจ้าเข้าใจตัวข้า ก็น่าจะชัดเจนว่า จั๋วจิ่วอย่างข้าไม่มีนิสัยที่ทำตามกฏระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร" จั๋วซือหรานเหลือบตามองเขา"เจ้ายกกฏหมายขึ้นมามีประโยชน์อะไร? ต่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1087

    พอได้ยินเสียงนี้ที่ดังขึ้นกะทันหัน แล้วยังคุ้นหูขนาดนี้คุ้นหูจนทำให้ผู้เฒ่าเหอยังหลังเย็นวาบ จนถึงตอนนี้ ข้างหูเขาก็เหมือนยังได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกชายอยู่เลย...ดังนั้น พริบตาที่ได้ยินเสียงนี้ เสียงของผู้เฒ่าเหอที่เดิมทียังกระฟัดกระเฟียด ก็หยุดลงไปทันทีทั่วทั้งลานเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด!และเสียงใสเย็นของหญิงสาวคนนั้น ก็ดังลอดเข้ามาอีกครั้ง "เจ้าเองก็ลองผายลมเสียงดังๆ ให้ฟังหน่อยสิ"ผู้เฒ่าเหอก็เหมือนจะเพิ่งยืนยันได้ว่านี่ไม่ได้หูฝาด แต่เป็นเสียงของหญิงสาวคนนั้นจริงๆสีหน้าเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาทันทีและตอนนี้เองหัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลเหอที่นอนหายใจรวยรินกันบนพื้น แม้แต่จะเหลือบตามองก็ยังสุดกำลัง ก็เลิกหนังตาขึ้น แล้วมองไปทางเสียงที่ดังลอดเข้ามาเหลือบมองออกไปอย่างสุดกำลังที่มีในสายตา เงาสีแดงร่างหนึ่ง ก็รวกับเป็นเปลวไฟกลุ่มหนึ่ง เผาไหม้เข้ามาจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น จากนั้น จึงก้มลงมองเขาผาดหนึ่งและสบตาเข้ากับเขาที่เงยขึ้นมาพอดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว จุ๊ปากขึ้นมาทีหนึ่ง "ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว"หัวหน้าคนนี้เข้าใจความหมายในคำพูดของจั๋วซือหรานซึ่งก็จริง ก่อนหน้านี้นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1085

    หัวหน้าคนคุ้มกันถอนหายใจออกมาเบาๆ "เป็นข้าที่เลินเล่อเอง ตอนที่แม่นางเข้าเมืองข้าลืมเตือนแม่นาง ว่าในเมืองหยางนี้มีเจ้าถิ่นอยู่""ถ้าหากไปเจอเข้า เลี่ยงไว้หน่อยก็จะดี ถึงอย่างไรแม่นางก็ไม่ได้คิดจะอยู่นานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอกับเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น แม่นางมาจากเมืองหลวง คิดว่าก็น่าจะเข้าใจ ว่ามันจะมีพวกคน...ที่เหมือนกับพวกคางคงอะไรแบบนั้น" หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ คางคกเวลาปีนขึ้นมาหลังเท้า ต่อให้ไม่กัดคน ก็ยังน่าขยะแขยงจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น "ตระกูลเหอหรือ?"หัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้า "ตระกูลเหอขอรับ"เขาควรจะคิดถึงตั้งนานแล้ว ว่าคนตรงหน้าคนนี้ ตอนอยู่ที่เมืองหลวง ก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ใครมาข่มเหงง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหยางเลยคิดๆ แล้วก็ใช่ คนตรงหน้าคนนี้คือคนที่ไม่เห็นห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงในสายตา เป็นหญิงสาวที่ถูกตระกูลขับไล่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสมาเชิญให้กลับตระกูล...คนเช่นนี้ จะมาหวาดกลัวตระกูลเหอในเมืองหยางได้อย่างไรกันแต่หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงจดจำบุญคุณที่จั๋วซือหรานมีต่อค่ายคุ้มกันและท่านแม่ทัพ ดังนั้น ไม่ว่าจั๋วซือหรา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1084

    จั๋วซือหรานชูเข็มในมือขึ้น เอ่ยว่า "สมอง"จากนั้นก็ใช้เข็มชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"ดีมาก ตอนนี้ก็เข้าใจได้แล้วจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย!ไม่ว่าจะแมงมุมน้อยหรือพวกก้อนเนื้อ ตอนนี้ก็น่าจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ลิงโลดของจั๋วซือหรานแล้วเพราะตาของนางเปล่งประกายมาก!จากนั้นนางจึงชูเข็มในมือขึ้นอีกครั้ง "สมอง"ชี้ไปที่ห่วงแขนขาทั้งสี่ "ระบบประสาท"หลังจากพูดซ้ำเช่นนี้ไปหลายรอบ ตอนที่แมงมุมน้อยกับพวกก้อนเนื้อทวนซ้ำคำพูดกับท่าทางของนางได้การเคลื่อนไหวของนางในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลง!นางบีบขนมถั่วแดงไว้ในมือ เอ่ยขึ้นว่า "สมอง""เอ๋?" ในดวงตาเล็กๆ ของขนมถั่วแดงเบิกกว้างสงสัย ไม่ใช่เข็มนั่นที่เป็นสมองหรือ?จากนั้นนายท่านก้ดึงไหมกู่ของมันออกมาหลายเส้น เอ่ยขึ้นว่า "ระบบประสาท"จั๋วซือหรานตาเป็นประกายจนเหมือนดวงดาว "ไม่ต้องอธิบายแล้ว" นางหัวเราะขึ้นมา "ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ อัจฉริยะ"เหล่าก้อนเนื้อันที่จริงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนายท่นา แต่สัมผัสได้ถึงอารมณ์เบิกบานของนายท่าน พวกมันก็รู้สึกดีใจตามขึ้นมาแมงมุมน้อยเหมือนจะเข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดแท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1083

    นิ้วของจั๋วซือหรานมีแสงหยกครบอยู่ชั้นหนึ่ง ยื่นตรงไปยังเข็มยาวสีดำที่ปักอยู่ตรงท้ายทอยของหุ่นเชิดความมืดเล่มนั้นขนมชาเขียวอยู่ข้างหูนาง เอ่ยขึ้นอย่างกังวล "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้อันตรายมากเลย...ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ขนมชาเขียวไม่ได้ร่าเริงเหมือนขนมถั่วแดง น่าจะเพราะมันมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัวดังนั้นการที่มันพูดเช่นนี้ จึงทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกใจมาก"อื๋อ? ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?" จั๋วซือหรานมองไปทางมันขนมชาเขียวส่ายหัว เพราพวกมันล้วนเป็นก้อนเนื้อ พูดว่าส่ายหัว อันที่จริงก็คือก็โยกไปมาของครึ่งท่อนบนขนมชาเขียวบอกว่า "ข้าเองก็บอกไม่ถูก แค่รู้สึก ว่ามันเย็นเยือกมาก""เย็นเยือก..." จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดนี้ของขนมชาเขียวจั๋วซือหรานรู้ เพราะขนมชาเขียวมีพลังของไฟเย็นข่งเชวี่ยอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างฉับไวกับสิ่งที่เย็นเยียบยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดความมืดคนนี้กับอักขระคำสาปบนตัวเหล่านั้น จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งที่มีพลังหยางเลยในใจจั๋วซือหรานคิดอะไรไว้บ้างแล้ว แสงหยกบนมือนางค่อยๆ สลายไป ค่อยๆ เปล่งแสงสีสันสวยงาม และมีความร้อนเหมือนเปลวไฟขึ้นมานางควบร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1082

    แต่อันที่จริงด้านในมีโพรงสวรรค์อยู่สมบัติที่นางสะสมมาจากชาติที่แล้วและชาตินี้ ห้องคลังก็ล้วนอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งสิ้นคลังของนางพูดได้ว่าใหญ่โตเอามากๆ กระทั่งคลังยังถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วย คลังยา คลังอาวุธ คลังเสบียงอาหารประจำวัน คลังของจิปาถะเป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีห้องหลอมสกัดยาของนางด้วย...อันที่จริงในชาติที่แล้ว มิติห้องหลอมสกัดยานี้ไม่ได้เอามาใช้หลอมยา แต่บางครั้งนางนำมาใช้เป็นการทดลองยาอะไรพวกนี้พอมาชาตินี้ ก็นำมาใช้หลอมยาสกัดยา ก็ยังถือว่าตรงสายงานเฉพาะทางอยู่ ไม่เสียเปล่าแล้วยังมีห้องเพาะเลี้ยงของตนเองด้วย ตอนนั้นตั้งใจจะมาเพาะเลี้ยงพวกของที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ พวกเห็ดอะไรทำนองนี้ในมิติของนาง ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่ง พวกพืชเองก็ปลูกแบบสะเปะสะปะแต่ว่าพวกเห็ดมันคือเชื้อราจริงๆ อยู่ด้านนอกก็ปลูกไม่ค่อยโต ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงจงใจสร้างห้องเพาะขึ้นมาโดยเฉพาะเพียงแต่ตอนนี้ยังว่างอยู่จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้โยนหุ่นเชิดความมืดเข้ามาในห้องเพาะปลูกนี้ชั่วคราวแต่ตอนนี้ มันไม่อยู่ด้านในแล้วถ้าตามที่แมงมุมน้อยว่า มันหลบอยู่ที่ด้านหลังของบ้านจั๋วซือหรานเดินเข้าไป ยื่นหน้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status