“ฮองเฮา!” ฉินเย่ว์เหมยกดสายตามองไปที่เสิ่นไต้มั่น ถึงแม้จะเป็นสายตาเรียบนิ่ง ทว่าเปี่ยมไปด้วยรังสีอาฆาต “เจ้าจะฆ่าใครในพระราชวังไท่เหอของข้า?”“ฮองเฮา” มั่วหมัวมัวดึงเสิ่นไต้มั่นเบาๆ ก้มหน้ากล่าวเตือนนาง “ที่นี้คือพระราชวังไท่เหอ ยังไม่รีบสำนึกผิดกับฝ่าบาทอีก”“ฝ่า ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้วเจ้าค่ะ” หม่อมฉันถูกเจ้าคนทรยศทำให้สับสน เสิ่นไต้มั่นที่ได้สติกลับมารีบคุกเข่าอย่างลนลาน ใบหน้าอันงดงามซีดเผือกเล็กน้อยนางทำตัวกร่างจองหองตามเสิ่นหมิงหยวนจนเคยชิน ลืมไปเลยว่าตอนนี้นางอยู่ที่ใด“ทว่า!” เสิ่นไต้มั่นยังคงพูดแก้ต่างให้เสิ่นหมิงหยวน “ไอ้คนทรยศมันใส่ร้ายพ่อข้า เรื่องนี้จริงแท้แน่นอน ฝ่าบาท ท่านอย่าไปเชื่อเขา ไอ้คนทรยศนี้ช่างน่ารังเกียจ สมควรได้รับโทษรถม้าแหกร่างเดี๋ยวนี้!”“ฝ่าบาท บ่าวไม่ได้พูดโกหก ท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาส่งข้ามาเอง ของสิ่งนี้เป็นหลักฐานให้ข้าได้” เมื่อได้ยินว่าจะถูกห้าอาชาแหกร่าง ทหารรักษาพระองค์คนนั้นลนลานควักป้ายแขวนเอวออกมาจากอกหงอิงรับป้ายแขวนเอวมาดู “ฝ่าบาท ป้ายแขวนเอวนี้เป็นของท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาเจ้าค่ะ”ฉินเย่ว์เหมยหญิงแสร้งเป็นบุรุษเพศชั่วคราว ทำหน้า
อ่านเพิ่มเติม