Share

บทที่ 547

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ฮองเฮา!” ฉินเย่ว์เหมยกดสายตามองไปที่เสิ่นไต้มั่น ถึงแม้จะเป็นสายตาเรียบนิ่ง ทว่าเปี่ยมไปด้วยรังสีอาฆาต “เจ้าจะฆ่าใครในพระราชวังไท่เหอของข้า?”

“ฮองเฮา” มั่วหมัวมัวดึงเสิ่นไต้มั่นเบาๆ ก้มหน้ากล่าวเตือนนาง “ที่นี้คือพระราชวังไท่เหอ ยังไม่รีบสำนึกผิดกับฝ่าบาทอีก”

“ฝ่า ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้วเจ้าค่ะ” หม่อมฉันถูกเจ้าคนทรยศทำให้สับสน เสิ่นไต้มั่นที่ได้สติกลับมารีบคุกเข่าอย่างลนลาน ใบหน้าอันงดงามซีดเผือกเล็กน้อย

นางทำตัวกร่างจองหองตามเสิ่นหมิงหยวนจนเคยชิน ลืมไปเลยว่าตอนนี้นางอยู่ที่ใด

“ทว่า!” เสิ่นไต้มั่นยังคงพูดแก้ต่างให้เสิ่นหมิงหยวน “ไอ้คนทรยศมันใส่ร้ายพ่อข้า เรื่องนี้จริงแท้แน่นอน ฝ่าบาท ท่านอย่าไปเชื่อเขา ไอ้คนทรยศนี้ช่างน่ารังเกียจ สมควรได้รับโทษรถม้าแหกร่างเดี๋ยวนี้!”

“ฝ่าบาท บ่าวไม่ได้พูดโกหก ท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาส่งข้ามาเอง ของสิ่งนี้เป็นหลักฐานให้ข้าได้” เมื่อได้ยินว่าจะถูกห้าอาชาแหกร่าง ทหารรักษาพระองค์คนนั้นลนลานควักป้ายแขวนเอวออกมาจากอก

หงอิงรับป้ายแขวนเอวมาดู “ฝ่าบาท ป้ายแขวนเอวนี้เป็นของท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาเจ้าค่ะ”

ฉินเย่ว์เหมยหญิงแสร้งเป็นบุรุษเพศชั่วคราว ทำหน้า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 548

    “เหอะ!” ถึงขั้นมีขุนนางบางคนกลั้นขำไว้ไม่หยุด“เป็นผู้ชายที่ขายหน้าตากิน มันต่างอะไรหญิงร่อนเร่ในหอนางโลมอย่างไรกันล่ะ?”เรื่องที่ให้อาตัวเองนอนกับเมียตัวเอง เขาก็ทำมาแล้ว จะเป็นชายขายหน้าตามันจะผิดแปลกอันใด”“ได้ยินเขาเป็นแค่ไอ้ไก่อ่อน”“ไก่อ่อน ฮ่าฮ่า มิน่าล่ะครั้งนี้ใต้เท้าเสิ่นไม่สนใจฝ่าบาทเลย”เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าขุนนางดังขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นที่ว่ามีความถือดีอยู่ในน้ำเสียงเล็กน้อยเพราะคนที่เริ่มเปิดประเด็นก็คือลูกชายคนโตของเสิ่นหมิงหยวน เสิ่นหยวนฮวา“ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องกราบทูล!”เสิ่นหมิงหยวนถือหยกสมปรารถนาในมือรุดหน้าขึ้นมาทันทีการเข้าพระโรงยามเช้าในยุคโบราณ ปกติแล้วจักรพรรดิมักจะเป็นคนพูดก่อนเสมอ อย่างเช่นเหล่าคำพูดที่ว่ามีเรื่องกล่าวรายงาน ไม่มีเรื่องอันใดเลิกการเข้าห้องพระโรง หลังจากนั้นเหล่าขุนนางจึงจะสามารถกราบทูลถวายรายงานได้ฉินเย่ว์เหมยยังไม่ทันได้ปริปาก เสิ่นหมิงหยวนก็ชิงพูดก่อน เห็นได้เลยว่าเขาไม่เห็นหัวฉินเย่ว์เหมยมากเพียงใดเฉินฝานลอบสังเกตอย่างเงียบๆ การกระทำไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมไร้มรรยาทเช่นนี้ของเสิ่นหมิงหยวน ไม่มีขุนนางโต้แย้งแม้แต่คนเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 549

    สองทหารรักษาพระองค์หญิงคุมตัวชายที่ตัวสั่นเทาสวมชุดทหารรักษาพระองค์เข้ามาพระตำหนัก“คุกเข่าลงไป!”ทหารรักษาพระองค์หญิงเตะหัวเข่าของผู้ชาย ผู้ชายคุกเข่าเสียงดังตุ้บลงกับพื้น“ฮือ......”ผู้ชายที่คุกเข่าล้มลงไปร้องไห้เสียงออกมาอย่างกะทันหันสีหน้าฉินเย่ว์เหมยและหงอิงตกตะลึงทันที เสียงนี้มัน......ผู้ชายที่อยู่พื้นรีบคลานไปหาเสิ่นหมิงหยวนอย่างรวดเร็ว กอดขาของเขาไว้“ท่านพ่อ!”ท่านพ่อ?ท่านพ่อ!ฉินเย่ว์เหมยและหงอิงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากพร้อมกันเป็นแค่ทหารรักษาพระองค์ธรรมดาแท้ๆ จะเป็น......หงอิงกระโดดลงมา เพียงครู่เดียวก็มาถึงด้านหน้าเสิ่นหมิงหยวน หิ้วชายที่เกาะขาเสิ่นหมิงหยวนออกมาหน้าตาซื่อบื้อไร้เดียงสาพลันปรากฏต่อหน้าสาธารณชนนี่ไม่ใช่......ในพระตำหนัก นอกจากเฉินฝานแล้ว คนอื่นสีหน้าเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้งฉินเย่ว์เหมยและหงอิงตกตะลึง สับสนงงงวย!เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ทหารรักษาพระองค์ที่พวกนางจับมาคนนั้นล่ะ?เหล่าขุนนางทั้งหลายในพระตำหนักจินหลวน พากันส่ายหน้า ล้วนรอชมละครครั้งใหญ่ที่จะกำลังจะเริ่มขึ้นอยู่ด้านข้าง“ท่านพ่อ! ช่วยข้าด้วย นางหญิงโหดเหี้ยมนี้ทำร้ายข้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 550

    “ฝ่าบาท ได้โปรดสืบสอบการปลดออกจากตำแหน่งทันที!”ในท้องพระโรง ขุนนางจำนวนนับไม่ถ้วนคุกเข่าอยู่ด้านหลังเสิ่นหยวนฮวาเสิ่นหยวนเลี่ยงมวลเสียงร้องขอให้ฉินเย่ว์เหมยตัดหัวหงอิงพุ่งทะยานดังขึ้นเรื่อยๆ“เสิ่นหมิงหยวน เจ้าโจรเฒ่าสมควรตาย!” หงอิงโมโหจนหน้าดำหน้าแดง “เห็นชัดๆอยู่ว่าเจ้าใส่ความข้า ฝ่าบาท ท่านอย่าหลงนะเพคะ!”มือของฉินเย่ว์เหมยสั่นเทาจนดูไม่ได้ กลัวว่าเหล่าขุนนางจะเห็น นางจึงทำได้เพียงซ่อนไว้ใต้ร่างใบหน้าที่งดงาม ซีดเซียวเล็กน้อย หลับตาลง ออกคำสั่งเสียงดังอย่างเจ็บปวดใจ “ปลดหงอิงออกจากตำแหน่งแม่ทัพกองกำลังสืบราชการลับ ขับไล่ออกจากพระราชวัง ไม่สามารถกลับเข้าวังได้ตลอดกาล!”“ฝ่าบาท ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาดนะเพคะ!” หงอิงเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง “หากไม่มีหม่อมฉัน เช่นนั้นความปลอดภัยของท่าน......”ไร้ซึ่งหงอิง เช่นนั้นฉินเย่ว์เหยก็ไร้ซึ่งที่พึ่งพาจริงๆ“ทหาร ลากหงอิงออกไป โบยอย่างหนักห้าสิบที จึงค่อยขับไล่ออกจากวัง!”ฉินเย่ว์เหมยจะชักช้าไม่ได้ จะไม่รุนแรงก็ไม่ได้เช่นกันหากนางไม่ทำเช่นนี้ หงอิงจะไม่ได้เสียแค่ตำแหน่ง แต่ต้องเสียชีวิตเพื่อที่จะช่วยหงอิง นางไม่เพียงแต่ขับไล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 551

    เฉินฝานหันกลับไปมองไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทุกคนในวังหลวงวิ่งไปตรงหน้าเสิ่นหมิงหยวน มีหลายคนยืนเงียบอยู่ที่มุมตอนเฉินฝานถอนสายตากลับมา เสิ่นหมิงหยวนมองมาที่เขาพอดีไม่ได้มองนานเท่าใดนัก สบตากันไม่ถึงหนึ่งวินาที เฉินฝานถอนสายตากลับ หมุนตัวหันหลังเดินตามหลังฉินเย่ว์เหมยแตกต่างกับเฉินฝานที่ถอนสายตากลับในหนึ่งวินาที เสิ่นหมิงหยวนจ้องมองเฉินฝานตลอดเวลาท่ามกลางแววตาทระนง มีความสงสัยปะปนเล็กน้อยเมื่อครู่เขาบีบคั้นฉินเย่ว์เหมยทุกอย่าง ถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายอับอาย นอกจากอยากสังหารหงอิงแล้ว เขายังมีอีกหนึ่งจุดประสงค์ ซึ่งก็คือบีบให้เฉินฝานแสดงฝีมือแต่ไม่ว่าเขาจะทำเกินไปเพียงใด เฉินฝานยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไร้ซึ่งสีหน้าและไร้ซึ่งการกระทำใดๆ ไม่แตกต่างจากตอนเจอกันครั้งแรกเมื่อครั้นในอดีตเฉินฝานโง่เขลาจริงๆ หรือว่าแกล้งทำเป็นโง่เขลา?ตอนเดินออกมาจากตำหนัก ฉินเย่ว์เหมยเดินสะดุด“ฝ่าบาท ระวังพ่ะย่ะค่ะ!”เฉินฝานพยุงฉินเย่ว์เหมย...ค่ำคืนนี้จวนอัครเสนาบดีเบื้องขวาจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ขุนนางและชนชั้นสูงมากมายมาร่วมแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่องงานเลี้ยงนี้ยิ่งใหญ่ดั่งงานเฉลิมฉลองแคว้น เสิ่น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 552

    “ไม่ต้องกลัว กระหม่อมจะช่วยฝ่าบาทเองพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินเย่ว์เหมยที่นั่งร้องไห้บนพื้น ตัวสั่นเทาเล็กน้อยเสียงนี้ หนักแน่นมาก ทั้งยังมีพลัง ฟังแล้ว ให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างมีเกียรตินางเงยหน้าขึ้นดวงตาเย็นชาในวันวานที่ผ่านมา ตอนนี้เคล้าไปด้วยน้ำตาแวววาวแววตาคาดหวัง สุดท้ายมองไปทางเฉินฝาน“เจ้านี่เอง!”แววตาคาดหวังเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์หายวับในชั่วพริบตา พร้อมกับคำว่าเจ้านี่เอง แทนที่ด้วยแววตาสิ้นหวังเฉินฝานมองแล้วยิ่งรู้สึกปวดใจ เขาจับมือฉินเย่ว์เหมยด้วยความดื้อรั้น บีบแรงขึ้น มองไปที่นาง พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ใช่กระหม่อมเอง เชื่อกระหม่อม กระหม่อมช่วยฝ่าบาทได้”คล้ายฉินเย่ว์เหมยไม่ได้ยินคำพูดของเฉินฝาน แววตาของนาง มองไปยังมือของเฉินฝานที่จับมือนาง ชะงักครู่หนึ่ง“เหตุใดเจ้าจึงยังอยู่ที่นี่?”“ฝ่าบาท กระหม่อมอยู่ที่นี่มาโดยตลอด!”“สามหาว!”น้ำเสียงเย็นชาที่เฉินฝานคุ้นเคย ดังขึ้นอีกครั้ง ฉินเย่ว์เหมยกลับมาเย็นชาและทระนงเหมือนเดิมนางชักมือตนเองกลับมา ลุกขึ้นยืนหันพร้อมกับหันหลังให้เฉินฝาน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เป็นเพียงบุรุษให้สตรียั่วเย้า ของเล่นของข้า เจ้าจะเข้าใจสงครามใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 553

    “ฝ่าบาท...” เฉินฝานฉงนงงงวย ผู้หญิงคนนี้บอกให้เขาไสหัวไปไกลๆ ไม่ใช่หรือ แล้วนี่มันอะไร?คิ้วของฉินเย่ว์เหมยโค้งงอเล็กน้อย โอบเอวของเฉินฝาน “ขุนนางอันเป็นที่รัก เจ้าอย่าโมโห เมื่อครู่ข้าไม่ควรโมโหใส่เจ้า เจ้าอย่าไป อยู่กับข้าได้หรือไม่?”“...” ด้วยประสบการณ์ เฉินฝานเดาว่า มีคนมาพระตำหนักไท่เหอ อีกทั้งหากไม่ใช่เสิ่นหมิงหยวนก็คือคนของเสิ่นหมิงหยวนขณะที่เฉินฝานกำลังคิดอยากจะให้ความร่วมมือกับฉินเย่ว์เหมย คนด้านนอกก็เดินเข้ามาแล้วคนที่เข้ามา คือมัวมัวของฮองเฮาจากวังหลัง“ฝ่าบาท!” มัวมัวคนนั้นทำความเคารพฉินเย่ว์เหมยอย่างลวกๆ ไม่รอฉินเย่ว์เหมยอนุญาตให้นางพูด นางก็พูดแล้ว“ท่านอัครเสนาบดีให้คนมาบอกเพคะว่า ฝ่าบาทขึ้นครองบัลลังก์นานหนึ่งปีครึ่งแล้ว ทายาทคือรากฐานของแคว้น เรื่องในวันนี้ ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ฮองเฮาไม่ได้ทำสิ่งใดไม่เหมาะสม ฝ่าบาทรีบปล่อยตัวฮองเฮาออกมจากสำนักกิจการราชวงศ์ คืนนี้เสด็จไปตำหนักของฮองเฮาและร่วมโล้สำเภาต่อเพคะ”เมื่อคืน ทั้งที่ส่งตัวองครักษ์ชายเข้าไปในตำหนักนอนของฮองเฮา เพื่อเป็นการสวมเขาให้ฉินเย่ว์เหมยแล้วแท้ๆตอนเช้า ทั้งที่ต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย ข่มขู่แล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 554

    หน้าประตูตำหนักมีตัวอักษรหมองหม่นสามตัวใหญ่ๆ“ฝ่ายซักล้าง”เฉินฝานเดินข้ามธรณีประตูเก่าๆ เดินเข้าไปด้านในมีนางกำนัลมากมายกำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน มีทั้งกำลังซักเสื้อผ้า มีทั้งกำลังขัดถังส้วม...แตกต่างจากตำหนักอื่น เสื้อผ้าอาภรณ์ของนางกำนัลที่นี่เก่าและซอมซ่อ พวกนางผอมโซ สีหน้าซีดเหลือง แววตาเลื่อนลอยไม่มีชีวิตชีวาพวกนางก้มหน้าก้มตาทำงานเดิมๆ วนซ้ำไปมาด้วยความชินชาบางครั้งที่ทำช้า ขันทีที่คอยจับตาดูพวกนางอยู่นั้นก็จะใช้แส้ฟาดและทุบตีคนที่ถูกฟาดด้วยแส้ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ราวกับคนรอบข้างไม่ได้ยินและมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น พวกเขายังคงทำงาน เดินไปมาไม่แตกต่างอะไรกับศพเดินได้“ชักช้าเช่นนี้ ข้าวปลาที่กินเมื่อคืนไร้ประโยชน์น่ะสิ!”“เพี๊ยะ”“โอ๊ย!”ทันใดนั้นเอง ด้านหน้าก็มีเสียงด่าทอและเสียงกรีดร้องจากการถูกฟาดด้วยแส้ดังขึ้นเฉินฝานเงยหน้าขึ้นมอง ขันทีสองคนกำลังฟาดแส้สุดกำลัง ฟาดไปยังหญิงสาวชุดสีม่วงเก่าๆ คนหนึ่ง“กงกง หยุดตีได้แล้ว หยุดตีได้แล้วเจ้าค่ะ!” นางกำนัลที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่นและเก่ากว่าโน้มตัวไปหาสตรีชุดสีม่วง ใช้ร่างกายของตนเองป้องสตรีชุดสีม่วงจากแส้ที่ฟาดล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 555

    “ตุ้บ”ขันทีถูกทุ่มลงบนพื้นอีกครั้ง อีกทั้งครั้งนี้ยังรุนแรงกว่าครั้งแรกไม่ใช่แค่เพียงหนึ่งเท่า“อ๊าก!”ขันทีที่กระเสือกกระสนอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นได้ ฟาดแส้ไปทางเฉินฝานด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “เจ้าอยากตายหรืออย่างไร...”“อย่าๆ!”ขันทีอีกคนที่ตัวเตี้ยกว่ารีบเดินมา เขาคว้าขันทีตัวสูงใหญ่ที่คิดอยากจะฟาดแส้ใส่เฉินฝานขันทีเตี้ยพูดกระซิบบางอย่างข้างหูขันทีสูงหลังจากขันทีสูงฟังจบ แม้ไม่ได้แยกเขี้ยวยิงฟันใส่เฉินฝานเหมือนเดิม แต่แววตาของเขา เปี่ยมไปด้วยความดูแคลนตอนเดินผ่านเฉินฝาน อดไม่ได้ที่จะพูดเย้ยหยัน “ข้าก็คิดว่าใคร? แค่บุรุษให้สตรียั่วเย้าคนหนึ่งก็เท่านั้น!”เฉินฝานเพียงยิ้มบางๆความสุขทางคำพูด ล้วนไม่มีความหมายเฉินฝานตั้งใจจะเดินไปแล้ว นางกำนัลคนนั้นขวางหน้าเขา “ท่านชาย ท่านชายโปรดเป็นคนดีให้ถึงที่สุดได้ไหมเจ้าคะ ท่านชายได้โปรดทูลกับฝ่าบาทแต่เรื่องดีๆ ของพระสนมของข้าน้อย ให้พระสนมของข้าน้อยไปจากฝ่ายซักล้าง ขืนยังไม่ไปจากที่นี่ พระสนมของข้าต้องถูกขันทีทุบตีจนตายแน่นอนเจ้าค่ะ”กลัวเฉินฝานไม่เชื่อ นางกำนัลดึงแขนเสื้อของสตรีชุดสีม่วงขึ้น เผยให้เห็นแขนทั้งสองข้างของสตรีชุดสีม่วงแ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status