แชร์

บทที่ 547

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-09 18:00:00
“ฮองเฮา!” ฉินเย่ว์เหมยกดสายตามองไปที่เสิ่นไต้มั่น ถึงแม้จะเป็นสายตาเรียบนิ่ง ทว่าเปี่ยมไปด้วยรังสีอาฆาต “เจ้าจะฆ่าใครในพระราชวังไท่เหอของข้า?”

“ฮองเฮา” มั่วหมัวมัวดึงเสิ่นไต้มั่นเบาๆ ก้มหน้ากล่าวเตือนนาง “ที่นี้คือพระราชวังไท่เหอ ยังไม่รีบสำนึกผิดกับฝ่าบาทอีก”

“ฝ่า ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้วเจ้าค่ะ” หม่อมฉันถูกเจ้าคนทรยศทำให้สับสน เสิ่นไต้มั่นที่ได้สติกลับมารีบคุกเข่าอย่างลนลาน ใบหน้าอันงดงามซีดเผือกเล็กน้อย

นางทำตัวกร่างจองหองตามเสิ่นหมิงหยวนจนเคยชิน ลืมไปเลยว่าตอนนี้นางอยู่ที่ใด

“ทว่า!” เสิ่นไต้มั่นยังคงพูดแก้ต่างให้เสิ่นหมิงหยวน “ไอ้คนทรยศมันใส่ร้ายพ่อข้า เรื่องนี้จริงแท้แน่นอน ฝ่าบาท ท่านอย่าไปเชื่อเขา ไอ้คนทรยศนี้ช่างน่ารังเกียจ สมควรได้รับโทษรถม้าแหกร่างเดี๋ยวนี้!”

“ฝ่าบาท บ่าวไม่ได้พูดโกหก ท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาส่งข้ามาเอง ของสิ่งนี้เป็นหลักฐานให้ข้าได้” เมื่อได้ยินว่าจะถูกห้าอาชาแหกร่าง ทหารรักษาพระองค์คนนั้นลนลานควักป้ายแขวนเอวออกมาจากอก

หงอิงรับป้ายแขวนเอวมาดู “ฝ่าบาท ป้ายแขวนเอวนี้เป็นของท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาเจ้าค่ะ”

ฉินเย่ว์เหมยหญิงแสร้งเป็นบุรุษเพศชั่วคราว ทำหน้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 548

    “เหอะ!” ถึงขั้นมีขุนนางบางคนกลั้นขำไว้ไม่หยุด“เป็นผู้ชายที่ขายหน้าตากิน มันต่างอะไรหญิงร่อนเร่ในหอนางโลมอย่างไรกันล่ะ?”เรื่องที่ให้อาตัวเองนอนกับเมียตัวเอง เขาก็ทำมาแล้ว จะเป็นชายขายหน้าตามันจะผิดแปลกอันใด”“ได้ยินเขาเป็นแค่ไอ้ไก่อ่อน”“ไก่อ่อน ฮ่าฮ่า มิน่าล่ะครั้งนี้ใต้เท้าเสิ่นไม่สนใจฝ่าบาทเลย”เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าขุนนางดังขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นที่ว่ามีความถือดีอยู่ในน้ำเสียงเล็กน้อยเพราะคนที่เริ่มเปิดประเด็นก็คือลูกชายคนโตของเสิ่นหมิงหยวน เสิ่นหยวนฮวา“ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องกราบทูล!”เสิ่นหมิงหยวนถือหยกสมปรารถนาในมือรุดหน้าขึ้นมาทันทีการเข้าพระโรงยามเช้าในยุคโบราณ ปกติแล้วจักรพรรดิมักจะเป็นคนพูดก่อนเสมอ อย่างเช่นเหล่าคำพูดที่ว่ามีเรื่องกล่าวรายงาน ไม่มีเรื่องอันใดเลิกการเข้าห้องพระโรง หลังจากนั้นเหล่าขุนนางจึงจะสามารถกราบทูลถวายรายงานได้ฉินเย่ว์เหมยยังไม่ทันได้ปริปาก เสิ่นหมิงหยวนก็ชิงพูดก่อน เห็นได้เลยว่าเขาไม่เห็นหัวฉินเย่ว์เหมยมากเพียงใดเฉินฝานลอบสังเกตอย่างเงียบๆ การกระทำไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมไร้มรรยาทเช่นนี้ของเสิ่นหมิงหยวน ไม่มีขุนนางโต้แย้งแม้แต่คนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 549

    สองทหารรักษาพระองค์หญิงคุมตัวชายที่ตัวสั่นเทาสวมชุดทหารรักษาพระองค์เข้ามาพระตำหนัก“คุกเข่าลงไป!”ทหารรักษาพระองค์หญิงเตะหัวเข่าของผู้ชาย ผู้ชายคุกเข่าเสียงดังตุ้บลงกับพื้น“ฮือ......”ผู้ชายที่คุกเข่าล้มลงไปร้องไห้เสียงออกมาอย่างกะทันหันสีหน้าฉินเย่ว์เหมยและหงอิงตกตะลึงทันที เสียงนี้มัน......ผู้ชายที่อยู่พื้นรีบคลานไปหาเสิ่นหมิงหยวนอย่างรวดเร็ว กอดขาของเขาไว้“ท่านพ่อ!”ท่านพ่อ?ท่านพ่อ!ฉินเย่ว์เหมยและหงอิงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากพร้อมกันเป็นแค่ทหารรักษาพระองค์ธรรมดาแท้ๆ จะเป็น......หงอิงกระโดดลงมา เพียงครู่เดียวก็มาถึงด้านหน้าเสิ่นหมิงหยวน หิ้วชายที่เกาะขาเสิ่นหมิงหยวนออกมาหน้าตาซื่อบื้อไร้เดียงสาพลันปรากฏต่อหน้าสาธารณชนนี่ไม่ใช่......ในพระตำหนัก นอกจากเฉินฝานแล้ว คนอื่นสีหน้าเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้งฉินเย่ว์เหมยและหงอิงตกตะลึง สับสนงงงวย!เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ทหารรักษาพระองค์ที่พวกนางจับมาคนนั้นล่ะ?เหล่าขุนนางทั้งหลายในพระตำหนักจินหลวน พากันส่ายหน้า ล้วนรอชมละครครั้งใหญ่ที่จะกำลังจะเริ่มขึ้นอยู่ด้านข้าง“ท่านพ่อ! ช่วยข้าด้วย นางหญิงโหดเหี้ยมนี้ทำร้ายข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 550

    “ฝ่าบาท ได้โปรดสืบสอบการปลดออกจากตำแหน่งทันที!”ในท้องพระโรง ขุนนางจำนวนนับไม่ถ้วนคุกเข่าอยู่ด้านหลังเสิ่นหยวนฮวาเสิ่นหยวนเลี่ยงมวลเสียงร้องขอให้ฉินเย่ว์เหมยตัดหัวหงอิงพุ่งทะยานดังขึ้นเรื่อยๆ“เสิ่นหมิงหยวน เจ้าโจรเฒ่าสมควรตาย!” หงอิงโมโหจนหน้าดำหน้าแดง “เห็นชัดๆอยู่ว่าเจ้าใส่ความข้า ฝ่าบาท ท่านอย่าหลงนะเพคะ!”มือของฉินเย่ว์เหมยสั่นเทาจนดูไม่ได้ กลัวว่าเหล่าขุนนางจะเห็น นางจึงทำได้เพียงซ่อนไว้ใต้ร่างใบหน้าที่งดงาม ซีดเซียวเล็กน้อย หลับตาลง ออกคำสั่งเสียงดังอย่างเจ็บปวดใจ “ปลดหงอิงออกจากตำแหน่งแม่ทัพกองกำลังสืบราชการลับ ขับไล่ออกจากพระราชวัง ไม่สามารถกลับเข้าวังได้ตลอดกาล!”“ฝ่าบาท ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาดนะเพคะ!” หงอิงเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง “หากไม่มีหม่อมฉัน เช่นนั้นความปลอดภัยของท่าน......”ไร้ซึ่งหงอิง เช่นนั้นฉินเย่ว์เหยก็ไร้ซึ่งที่พึ่งพาจริงๆ“ทหาร ลากหงอิงออกไป โบยอย่างหนักห้าสิบที จึงค่อยขับไล่ออกจากวัง!”ฉินเย่ว์เหมยจะชักช้าไม่ได้ จะไม่รุนแรงก็ไม่ได้เช่นกันหากนางไม่ทำเช่นนี้ หงอิงจะไม่ได้เสียแค่ตำแหน่ง แต่ต้องเสียชีวิตเพื่อที่จะช่วยหงอิง นางไม่เพียงแต่ขับไล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 551

    เฉินฝานหันกลับไปมองไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทุกคนในวังหลวงวิ่งไปตรงหน้าเสิ่นหมิงหยวน มีหลายคนยืนเงียบอยู่ที่มุมตอนเฉินฝานถอนสายตากลับมา เสิ่นหมิงหยวนมองมาที่เขาพอดีไม่ได้มองนานเท่าใดนัก สบตากันไม่ถึงหนึ่งวินาที เฉินฝานถอนสายตากลับ หมุนตัวหันหลังเดินตามหลังฉินเย่ว์เหมยแตกต่างกับเฉินฝานที่ถอนสายตากลับในหนึ่งวินาที เสิ่นหมิงหยวนจ้องมองเฉินฝานตลอดเวลาท่ามกลางแววตาทระนง มีความสงสัยปะปนเล็กน้อยเมื่อครู่เขาบีบคั้นฉินเย่ว์เหมยทุกอย่าง ถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายอับอาย นอกจากอยากสังหารหงอิงแล้ว เขายังมีอีกหนึ่งจุดประสงค์ ซึ่งก็คือบีบให้เฉินฝานแสดงฝีมือแต่ไม่ว่าเขาจะทำเกินไปเพียงใด เฉินฝานยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไร้ซึ่งสีหน้าและไร้ซึ่งการกระทำใดๆ ไม่แตกต่างจากตอนเจอกันครั้งแรกเมื่อครั้นในอดีตเฉินฝานโง่เขลาจริงๆ หรือว่าแกล้งทำเป็นโง่เขลา?ตอนเดินออกมาจากตำหนัก ฉินเย่ว์เหมยเดินสะดุด“ฝ่าบาท ระวังพ่ะย่ะค่ะ!”เฉินฝานพยุงฉินเย่ว์เหมย...ค่ำคืนนี้จวนอัครเสนาบดีเบื้องขวาจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ขุนนางและชนชั้นสูงมากมายมาร่วมแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่องงานเลี้ยงนี้ยิ่งใหญ่ดั่งงานเฉลิมฉลองแคว้น เสิ่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 552

    “ไม่ต้องกลัว กระหม่อมจะช่วยฝ่าบาทเองพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินเย่ว์เหมยที่นั่งร้องไห้บนพื้น ตัวสั่นเทาเล็กน้อยเสียงนี้ หนักแน่นมาก ทั้งยังมีพลัง ฟังแล้ว ให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างมีเกียรตินางเงยหน้าขึ้นดวงตาเย็นชาในวันวานที่ผ่านมา ตอนนี้เคล้าไปด้วยน้ำตาแวววาวแววตาคาดหวัง สุดท้ายมองไปทางเฉินฝาน“เจ้านี่เอง!”แววตาคาดหวังเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์หายวับในชั่วพริบตา พร้อมกับคำว่าเจ้านี่เอง แทนที่ด้วยแววตาสิ้นหวังเฉินฝานมองแล้วยิ่งรู้สึกปวดใจ เขาจับมือฉินเย่ว์เหมยด้วยความดื้อรั้น บีบแรงขึ้น มองไปที่นาง พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ใช่กระหม่อมเอง เชื่อกระหม่อม กระหม่อมช่วยฝ่าบาทได้”คล้ายฉินเย่ว์เหมยไม่ได้ยินคำพูดของเฉินฝาน แววตาของนาง มองไปยังมือของเฉินฝานที่จับมือนาง ชะงักครู่หนึ่ง“เหตุใดเจ้าจึงยังอยู่ที่นี่?”“ฝ่าบาท กระหม่อมอยู่ที่นี่มาโดยตลอด!”“สามหาว!”น้ำเสียงเย็นชาที่เฉินฝานคุ้นเคย ดังขึ้นอีกครั้ง ฉินเย่ว์เหมยกลับมาเย็นชาและทระนงเหมือนเดิมนางชักมือตนเองกลับมา ลุกขึ้นยืนหันพร้อมกับหันหลังให้เฉินฝาน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เป็นเพียงบุรุษให้สตรียั่วเย้า ของเล่นของข้า เจ้าจะเข้าใจสงครามใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 553

    “ฝ่าบาท...” เฉินฝานฉงนงงงวย ผู้หญิงคนนี้บอกให้เขาไสหัวไปไกลๆ ไม่ใช่หรือ แล้วนี่มันอะไร?คิ้วของฉินเย่ว์เหมยโค้งงอเล็กน้อย โอบเอวของเฉินฝาน “ขุนนางอันเป็นที่รัก เจ้าอย่าโมโห เมื่อครู่ข้าไม่ควรโมโหใส่เจ้า เจ้าอย่าไป อยู่กับข้าได้หรือไม่?”“...” ด้วยประสบการณ์ เฉินฝานเดาว่า มีคนมาพระตำหนักไท่เหอ อีกทั้งหากไม่ใช่เสิ่นหมิงหยวนก็คือคนของเสิ่นหมิงหยวนขณะที่เฉินฝานกำลังคิดอยากจะให้ความร่วมมือกับฉินเย่ว์เหมย คนด้านนอกก็เดินเข้ามาแล้วคนที่เข้ามา คือมัวมัวของฮองเฮาจากวังหลัง“ฝ่าบาท!” มัวมัวคนนั้นทำความเคารพฉินเย่ว์เหมยอย่างลวกๆ ไม่รอฉินเย่ว์เหมยอนุญาตให้นางพูด นางก็พูดแล้ว“ท่านอัครเสนาบดีให้คนมาบอกเพคะว่า ฝ่าบาทขึ้นครองบัลลังก์นานหนึ่งปีครึ่งแล้ว ทายาทคือรากฐานของแคว้น เรื่องในวันนี้ ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ฮองเฮาไม่ได้ทำสิ่งใดไม่เหมาะสม ฝ่าบาทรีบปล่อยตัวฮองเฮาออกมจากสำนักกิจการราชวงศ์ คืนนี้เสด็จไปตำหนักของฮองเฮาและร่วมโล้สำเภาต่อเพคะ”เมื่อคืน ทั้งที่ส่งตัวองครักษ์ชายเข้าไปในตำหนักนอนของฮองเฮา เพื่อเป็นการสวมเขาให้ฉินเย่ว์เหมยแล้วแท้ๆตอนเช้า ทั้งที่ต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย ข่มขู่แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-10
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 554

    หน้าประตูตำหนักมีตัวอักษรหมองหม่นสามตัวใหญ่ๆ“ฝ่ายซักล้าง”เฉินฝานเดินข้ามธรณีประตูเก่าๆ เดินเข้าไปด้านในมีนางกำนัลมากมายกำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน มีทั้งกำลังซักเสื้อผ้า มีทั้งกำลังขัดถังส้วม...แตกต่างจากตำหนักอื่น เสื้อผ้าอาภรณ์ของนางกำนัลที่นี่เก่าและซอมซ่อ พวกนางผอมโซ สีหน้าซีดเหลือง แววตาเลื่อนลอยไม่มีชีวิตชีวาพวกนางก้มหน้าก้มตาทำงานเดิมๆ วนซ้ำไปมาด้วยความชินชาบางครั้งที่ทำช้า ขันทีที่คอยจับตาดูพวกนางอยู่นั้นก็จะใช้แส้ฟาดและทุบตีคนที่ถูกฟาดด้วยแส้ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ราวกับคนรอบข้างไม่ได้ยินและมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น พวกเขายังคงทำงาน เดินไปมาไม่แตกต่างอะไรกับศพเดินได้“ชักช้าเช่นนี้ ข้าวปลาที่กินเมื่อคืนไร้ประโยชน์น่ะสิ!”“เพี๊ยะ”“โอ๊ย!”ทันใดนั้นเอง ด้านหน้าก็มีเสียงด่าทอและเสียงกรีดร้องจากการถูกฟาดด้วยแส้ดังขึ้นเฉินฝานเงยหน้าขึ้นมอง ขันทีสองคนกำลังฟาดแส้สุดกำลัง ฟาดไปยังหญิงสาวชุดสีม่วงเก่าๆ คนหนึ่ง“กงกง หยุดตีได้แล้ว หยุดตีได้แล้วเจ้าค่ะ!” นางกำนัลที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่นและเก่ากว่าโน้มตัวไปหาสตรีชุดสีม่วง ใช้ร่างกายของตนเองป้องสตรีชุดสีม่วงจากแส้ที่ฟาดล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-10
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 555

    “ตุ้บ”ขันทีถูกทุ่มลงบนพื้นอีกครั้ง อีกทั้งครั้งนี้ยังรุนแรงกว่าครั้งแรกไม่ใช่แค่เพียงหนึ่งเท่า“อ๊าก!”ขันทีที่กระเสือกกระสนอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นได้ ฟาดแส้ไปทางเฉินฝานด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “เจ้าอยากตายหรืออย่างไร...”“อย่าๆ!”ขันทีอีกคนที่ตัวเตี้ยกว่ารีบเดินมา เขาคว้าขันทีตัวสูงใหญ่ที่คิดอยากจะฟาดแส้ใส่เฉินฝานขันทีเตี้ยพูดกระซิบบางอย่างข้างหูขันทีสูงหลังจากขันทีสูงฟังจบ แม้ไม่ได้แยกเขี้ยวยิงฟันใส่เฉินฝานเหมือนเดิม แต่แววตาของเขา เปี่ยมไปด้วยความดูแคลนตอนเดินผ่านเฉินฝาน อดไม่ได้ที่จะพูดเย้ยหยัน “ข้าก็คิดว่าใคร? แค่บุรุษให้สตรียั่วเย้าคนหนึ่งก็เท่านั้น!”เฉินฝานเพียงยิ้มบางๆความสุขทางคำพูด ล้วนไม่มีความหมายเฉินฝานตั้งใจจะเดินไปแล้ว นางกำนัลคนนั้นขวางหน้าเขา “ท่านชาย ท่านชายโปรดเป็นคนดีให้ถึงที่สุดได้ไหมเจ้าคะ ท่านชายได้โปรดทูลกับฝ่าบาทแต่เรื่องดีๆ ของพระสนมของข้าน้อย ให้พระสนมของข้าน้อยไปจากฝ่ายซักล้าง ขืนยังไม่ไปจากที่นี่ พระสนมของข้าต้องถูกขันทีทุบตีจนตายแน่นอนเจ้าค่ะ”กลัวเฉินฝานไม่เชื่อ นางกำนัลดึงแขนเสื้อของสตรีชุดสีม่วงขึ้น เผยให้เห็นแขนทั้งสองข้างของสตรีชุดสีม่วงแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-10

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 910

    เฉินฝานที่พักสายตาโดยตลอดลืมตาขึ้น “ครอบครัวผู้เฒ่ามีหลานสาวสิบคนที่ยังมิได้ออกเรือนงั้นหรือ?”“เฮ้อ หากจะกล่าวให้ถูกต้องคือมีทั้งหมดสิบห้าคน มีห้าคนที่คิดว่าตนเองอายุมากแล้ว กลายเป็นภาระของคนในบ้านจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย”เสียงของผู้เฒ่าตาบอดตะกุกตะกักเป็นอย่างมาก “ปีที่แล้วผูกคอตาย เดือนที่แล้ว ก็มีอีกสองคนที่จวนจะ...โชคดีที่ยายเฒ่าไปเจอเสียก่อน มิเช่นนั้นก็คง...”ผู้เฒ่าตาบอดพูดมิออกแล้ว มีเพียงดวงตาที่ขาวโพลนมิมีตาดำพรั่งพรูน้ำตาอุ่นๆออกมามิหยุดอากาศหนาวจนถึงจุดเยือกแข็ง มินานนักน้ำตาก็แข็งตัวเป็นน้ำแข็งคำพูดของผู้เฒ่าตาบอดแทงใจดำของเย่ว์หนูในตอนแรกที่นางอยู่ในครอบครัว ก็มีพี่น้องสิบคนเช่นกัน รายชื่อล้วนถูกแจ้งไปที่จวนอำเภอแล้ว ทว่าต่อให้ถูกส่งตัวไปแล้ว ท้ายที่สุดก็ถูกส่งตัวคืนมาอยู่ดีหากมิใช่ตอนนั้นเห็นว่าเฉินฝานกำลังรับกองกำลังหญิงพอดี ตอนนี้นางก็คงจะเป็นวิญญาณสาวเร่ร่อนตนหนึ่งในอำเภอผิงอันไปเรียบร้อยแล้ว“เช่นนั้นพ่อแม่เหล่าหลานสาวของท่านล่ะ? พวกเขามิสนใจพวกนางเลยหรือ?”ถึงแม้จะยากลำบาก พ่อแม่ของเย่ว์หนู ก็ยังดูแลพวกนางอย่างดีที่สุด“เฮ้อ~”เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ว์ห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 909

    “ตอบคำถามข้ามา!”“คำถามของเจ้างั้นรึ? คำถามอันใดกัน?”“อย่ามาแกล้งโง่!”“นี่ ๆ ข้ามิได้แกล้งเสียหน่อย!” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นของเซียนเจี้ยนหวงทำเหมือนกับว่ามิมีความผิด “เมื่อครู่ข้าเผลอหลับไป ได้ยินมิชัดเจนจริง ๆ เจ้ากล่าวว่าตำหนักเซียวเหยารึ? ตำหนักเซียวเหยาคืออะไรกัน?”“จุดประสงค์ที่ตำหนักเซียวเหยายังคงอยู่คืออันใด เจ้าก็รู้แก่ใจดีมิใช่รึ หรือว่าเจ้าจะรอให้ผู้ชายจำนวนมากต้องถูกสังหารโดยที่เจ้ามิทำอันใดเลยงั้นรึ”“เพื่อนของซูซิวฉีเป็นเช่นนี้งั้นรึ?”เฉินฝานมองซียนเจี้ยนหวงอย่างมิละสายตา“ข้า ข้า...” ในท้ายที่สุดเสียงของเซียนเจี้ยนหวงก็ขาดหายไป “ข้าทำได้เพียงรับปากเจ้าว่าจะมิยอมให้คนของตำหนักเซียวเหยาสังหารชายผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้าอย่างเด็ดขาด”“เรื่องอื่นข้าก็มิรู้แล้ว เจ้ามิต้องถามข้าแล้ว” เซียนเจี้ยนหวงวิ่งหายไปในกลีบเมฆทันทีตอนที่เฉินฝานเดินออกจากหลุมศพของเมี่ยวอวี่แล้วเดินมาตรงถนน เห็น...“เย่ว์หนู ไฉนเจ้ายืนอยู่คนเดียว? รถม้าล่ะ?”เฉินฝานกล่าวถามเย่ว์หนูสีหน้าคับข้องใจยืนอยู่บนถนนโดยลำพังนิสัยของเย่ว์หนูค่อนข้างคล้ายคลึงกับผู้ชาย น้อยครั้งที่จะเป็นเช่นน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 908

    ความเย็นที่หัวไหล่ปลุกฉินเย่ว์เหมยที่กำลังเคลิบเคลิ้มให้ตื่นจากภวังค์“ชายมักมาก!”ฉินเย่ว์เหมยที่อับอายจนโมโหถีบเฉินฝานออกไปทันที“โอ๊ย ๆ ๆ!”เฉินฝานกุมท้องที่ถูกถีบจนเจ็บปวดกลิ้งตัวไปมา ครั้งนี้เป็นความเจ็บของจริงทว่าครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยเพิกเฉยอย่างจริงจัง มิว่าเฉินฝานจะร้องอย่างไร นางก็จะมิเดินเข้าไปหาอีกนางพร่ำบอกตนเองเสมอนางเป็นจักรพรรดินีของต้าชิ่ง ๆชีวิตของนางถูกลิขิตให้อุทิศแก่ราชวงศ์ต้าชิ่ง นางจะอภิเษกสมรสมิได้“ตอนนี้ก็เป็นเวลาดึกดื่นแล้ว เจ้ายังมีเรื่องอันใดจะกราบทูลอีกหรือไม่? หากมิมีก็กลับไปเถอะ”ความเจ็บตรงท้องของเฉินฝานเพิ่งจะจางหายไป โสตประสาทก็ได้ยินเสียงอันเยือกเย็นของฉินเย่ว์เหมยเมื่อเงยหน้ามอง เห็นว่าฉินเย่ว์เหมยที่นั่งตรงข้ามกับเขาได้กลับสู่ท่าทางเย่อหยิ่งเยือกเย็นดังเดิมแล้วเฉินฝานยักไหล่หากต้องการพิชิตจักรพรรดินีท่านนี้ ดูแล้วหนทางด้านยังอีกยาวไกลสินะ“ข้ามิได้มีเรื่องอันใดเป็นพิเศษ เดิมทีก็แค่อยากเจอเจ้า”เฉินฝานจัดเสื้อผ้าตนเองเล็กน้อย เขาก็เตรียมตัวที่จะจากไปแล้วเช่นกันหลังจากที่กลับมาพบกับพวกฉินเย่ว์โหรวอีกครั้ง ก็อยู่ในสถานการณ์เสี่ย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 907

    “เจ้า...เจ้าผู้ชายมักมาก ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”ฉินเย่ว์เหมยที่สูญเสียการทรงตัวไถลเข้าไปในอ้อมอกของเฉินฝาน ใบหน้าขึ้นสี ใช้มือผลักเฉินฝานออกไป“มิปล่อย!”เฉินฝานกอดรัดแน่นกว่าเดิม“เจ้าตัวหอมนุ่มนิ่มเช่นนี้ ข้าจะตัดใจยอมปล่อยได้อย่างไรกัน”“เจ้า!” ฉินเย่ว์เหมยโกรธจนตัวสั่น “หน้าด้านไร้ยางอาย!”“ถูกต้อง!” เฉินฝานทำท่าทีหน้าด้านหน้าทน “ข้าก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ฝ่าบาทท่านเพิ่งมารู้ตัวตอนนี้งั้นหรือ?”“เจ้า...”ฉินเย่ว์เหมยยื่นมือออกไปคิดที่จะผลักเฉินฝานออกอีกครั้ง“ห้ามขยับตัว!” เฉินฝานจับมือสองข้างของฉินเย่ว์เหมยไว้ “เจ้าให้ข้านอนพักสักครู่ได้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานก็ปล่อยมือของฉินเย่ว์เหมย หยิบหมอนมาไว้บนตักของนางสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ หากเขามิได้อยู่ในเส้นทางการสู้รบกำจัดกบฏ ก็เผชิญความยากลำบากที่คาบเกี่ยวกับความตายห้องของฉินเย่ว์เหมยอบอุ่น เรือนร่างของฉินเย่ว์เหมยกลิ่นช่างหอมหวนยิ่งนัก ทำให้เฉินฝานได้สัมผัสกับความอบอุ่นและความปลอดภัยที่มิเคยรู้สึกมาก่อน“อยากนอน เจ้าไยมิกลับห้องตนเอง...”ฉินเย่ว์เหมยหยุดพูดทันที เพราะนางเห็นว่าเฉินฝานที่นอนหนุนตักของนางได้หลับไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 906

    ยามค่ำคืนสำนักบัณฑิตเมืองเซียนตูตอนนี้เป็นที่พำนักของฉินเย่ว์เหมยชั่วคราวณ เรือนหลักลานกลางฉินเย่ว์เหมยสวมชุดบรรทมสีเหลือง ก้มหน้าก้มตาอ่านสาสน์กราบทูล“นี่โกรธข้าอยู่งั้นหรือ มิใช่ว่าข้ามิอยากพบเจ้าในทันทีเสียหน่อย กองกำลังทหารหลวงของหลี่ชิ่งปิดล้อมจวนเจ้าเมืองอย่างแน่นหนา เข้าได้ไปยากยิ่งนัก!”เฉินฝานพูดอธิบายกับฉินเย่ว์เหมย ฉินเย่ว์เหมยกลับเพิกเฉยมิได้สนใจเขาแม้แต่น้อยเฉินฝานเดินไปทางซ้าย นางก็จะหันหน้าไปทางขวาเฉินฝานเดินไปทางขวา นางก็จะหันหน้าไปทางซ้ายอย่างไรเสียมิว่าเฉินฝานจะพยายามเพียงใด นางก็จะมิสบตากับเฉินฝานหมดหนทางแล้วจริง ๆ เฉินฝานจึงแย่งสาสน์กราบทูลในมือฉินเย่ว์เหมยมา จากนั้นมิพูดมิจาดึงฉินเย่ว์เหมยเข้ามาในอ้อมอกทันที“เจ้า เจ้าผู้ชายมักมาก!”ฉินเย่ว์เหมยมีวรยุทธ์ต่อสู้ติดตัว และฝีมือยอดเยี่ยมอีกด้วยตบสองสามทีก็สามารถทำให้เฉินฝานลงไปนอนกับพื้นได้“โอ๊ย ๆ ๆ เจ็บเหลือเกิน เจ็บจะตายแล้ว!”เฉินฝานกุมท้องตนเอง กลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น“เจ้าอย่ามาแสร้ง...”ราวกับเฉินฝานมิได้ยินคำพูดของฉินเย่ว์เหมย ยังคงกุมท้องกลิ้งไปกลิ้งมา สีหน้าแสดงถึงความเจ็บปวดสุดขีด“เจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 905

    “เฉินฝาน ถึงแม้ตอนเจ้าจะเป็นอัครเสนาบดีขั้นหนึ่งระดับสูง ทว่าก็มิสามารถสังหารเลขาธิการขั้นสองระดับสูงอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ได้!”เสิ่นหมิงหยวนที่พอจะสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เริ่มประณามเฉินฝาน“ถูกต้อง ในฐานะที่หยางอวิ๋นหู่เป็นเลขาธิการกรมโยธาธิการขั้นสอง ต่อให้จะทำความผิด ก่อนที่จะสังหารก็ต้องฝ่าบาทออกคำสั่งก่อนจึงจะสังหารได้ อัครเสนาบดีเบื้องซ้ายทำเกินไปแล้ว”“เพิ่งจะได้รับตำแหน่งอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย ก็กำเริบเสิบสานแล้วหรือ? คิดว่าสามารถสังหารขุนนางที่ยศน้อยกว่าเขาได้ ตามอำเภอใจงั้นหรือ?”“คนที่โหดเหี้ยม และมิให้เกียรติฝ่าบาทเช่นนี้ จะสามารถเป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายเยี่ยงไร?”มีขุนนางจำนวนมากที่เดือดดาลกับการกระทำของเฉินฝานแน่นอนว่าเหล่าคนที่เดือดดาลเหล่านั้น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพรรคพวกของเสิ่นหมิงหยวน“ฝ่าบาท!” เสิ่นหยวนเลี่ยงรีบเดินออกมาจากด้านหลังเสิ่นหมิงหยวนทันที “ท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย...”“ชิ้ง!”เฉินฝานตวัดกระบี่ในมือชี้ไปที่เสิ่นหยวนเลี่ยงทันที “ถ้าเจ้ายังพูดพล่ามอีก อย่าหาว่ากระบี่ในมือข้าไร้ความปรานี”น้ำเสียงเฉินฝานดุดันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ท่าทางโหดเหี้ยมอย่างมา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 904

    “ฝ่าบาท”เฉินฝานพุ่งตัวขึ้นไป ส่ายหน้าให้กับฉินเย่ว์เหมยหลี่ชิ่งยังมีทหารหลวงประจำการอยู่ด้านนอกเมืองเซียนตูห้าหมื่นกว่าคน สามารถเคลื่อนทัพตามคำสั่งของเสิ่นหมิงหยวนได้ทุกเมื่ออำนาจของเสิ่นหมิงหยวนเป็นปึกแผ่นอย่างมาก ตอนนี้หากอยากจะโค่นล้มเสิ่นหมิงหยวนในคราเดียว ต้องบีบบังคับให้เสิ่นหมิงหยวนจนตรอกให้ได้สถานการณ์ตอนนี้ ควรปล่อยตามน้ำไปก่อนน้ำเสียงของฉินเย่ว์เหมยผ่อนคลายลงแล้ว “ทหารหลวงรวมพลมากมายอยู่ที่แห่งนี้ ข้าคิดว่าใต้เท้าเสิ่นจะก่อกบฏเสียอีก?”เสิ่นหมิงหยวนเลิกคิ้วขึ้นทันที เขารู้ว่าฉินเย่ว์เหมยยอมอ่อนข้อแล้วเหมือนกับที่เฉินฝานคาดการณ์ เสิ่นหมิงหยวนได้เตรียมการโต้กลับไว้เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงฉินเย่ว์เหมยออกคำสั่งโจมตีเขา เขาก็จะสั่งให้กองกำลังทหารหลวงห้าหมื่นคนของหลี่ชิ่งปิดล้อมเมืองทันทีเสิ่นหมิงหยวนรีบกล่าวอย่างลนลาน “ฝ่าบาทคิดจะทำให้ข้าน้อยตกใจตายหรือกระไร ข้าน้อยเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นคนหนึ่ง ไฉนจะคิดก่อกบฏได้”คำพูดนี้เสิ่นหมิงหยวน มิเพียงแสดงความจงรักภักดีเท่านั้น และยังเป็นการพูดจาเหน็บแนมเฉินฝานอีกด้วยอำนาจในการนำทัพกองกำลังลาดตระเวนยังคงอยู่ในมือของเฉินฝาน ถึงแม้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 903

    ตอนที่ห่างจากเฉินฝานอย่างน้อยสิบเมตร ฉินเย่ว์เหมยก็ลงจากเกี้ยวเดินลงมาสาวเท้ามาหาเฉินฝานอย่างเร่งรีบตอนที่ห่างจากเฉินฝานประมาณสามสี่เมตร ฉินเย่ว์เหมยกลับหยุดฝีเท้าของตนเองไว้หิมะค่อยๆโปรยปรายลงมาตอนที่ห่างกันประมาณสองสามเมตร ฉินเย่ว์เหมยและเฉินฝานยืนมองหน้ากันและกันห่างกันไปเพียงเวลาสั้นๆมิกี่เดือน ทว่ารู้สึกห่างจากเฉินฝานไปสองภพชาติจึงได้กลับมาพบกันอีกครั้งน้ำตาคลอเบ้า จวนจะเอ่อล้นไหลออกมาแต่ท้ายที่สุดก็ต้องฝืนกล้ำกลืนน้ำตากลับไปแต่ไรมานางมิเคยลืมนางเป็นจักรพรรดินี เขาเป็นขุนนางนางต้องเก็บอาการไว้!“เขาคือใต้เท้าเฉินจริงๆ”“ใต้เท้าเฉินฝานยังมีชีวิตอยู่!”ท่ามกลางเหล่าขุนนาง มีคนตะโกนลั่นด้วยความดีใจคนผู้นี้คือเลขาธิการกรมยุติธรรมไป่เผยหราน“ใต้เท้าเฉินคืนชีพจากความตาย ช่างเป็นโชคดีของพวกเราต้าชิ่งเสียจริง!”เหล่าขุนนางที่ปกติมิฝักใฝ่เป็นพวกของเสิ่นหมิงหยวนพากันซาบซึ้งใจ“เฉินฝาน!”เสียงตื่นเต้นดีใจครั้งนี้ดังกว่าเสียงดีใจก่อนหน้านี้เสียอีก“ไอ้หยา!”ร่างเงาหนึ่งพุ่งผ่านเหล่าขุนนาง ข้ามผ่านฉินเย่ว์เหมยไป เดินตรงไปหาเฉินฝานทันที“เป็นเจ้าจริงๆด้วย ช่างดีเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 902

    ตวนซินอ๋องมิอยากเชื่อสายตาของตนเอง เขายกกำปั้นไปด้านหน้าเฉินฝานทันที หลังนั้นก็ชูสามนิ้วออกไปชูสามนิ้วแล้วตะโกนพูดขึ้นหนึ่งประโยค“หนึ่งกฎเกณฑ์ สองสตรี สามเงินเหวิน!”เมื่อตะโกนจบก็จ้องไปที่เฉินฝาน สื่อความหมายว่าถึงตาเจ้าแล้วเฉินฝานรู้สึกหมดคำพูดอีกครั้ง ถูกพลทหารหนึ่งพันปิดล้อมมิสำคัญ จวนจะถูกตัดหัวประหารก็มิสำคัญเช่นกันสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ...เฉินฝานก็ยกกำปั้นขึ้นมาชูนิ้วยื่นไปด้านหน้าตวนซินอ๋องเช่นกัน“สี่ฤดูกาล ห้าปรมาจารย์ หกที่นั่ง!”ทหารหลวงที่ปิดล้อมเฉินฝานและตวนซินอ๋องไว้มึนงงในบัดดลแม้กระทั่งหลี่ชิ่งที่เป็นหัวหน้าของพวกเขายังกวาดสายตามองไปรอบข้าง เขากำลังสงสัยว่านี้เป็นสัญญาณลับระหว่างเฉินฝานและตวนซินอ๋องหรือไม่“ถูกต้องทั้งหมด ๆ!”ตวนซินอ๋องดีใจออกนอกหน้าเดินไปกอดเฉินฝาน “เจ้าพูดรหัสลับของการเล่นทายตัวเลขถูกทั้งหมด เจ้าเป็นลูกเขยที่แสนดีของข้าจริงๆด้วย เจ้ายังมีชีวิตดังคาดสินะ”กำปั้นแห่งความปีติของตวนซินอ๋อง ทุบไปหลังเฉินฝานครั้งแล้วครั้งเล่าเฉินฝานรู้สึกวิงเวียนศีรษะ เขาจวนจะถูกพ่อตาของตนเองตบหลังจนแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว“ชาวบ้านใจกล้า ก่อความวุ่

DMCA.com Protection Status