Share

บทที่ 552

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ไม่ต้องกลัว กระหม่อมจะช่วยฝ่าบาทเองพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเย่ว์เหมยที่นั่งร้องไห้บนพื้น ตัวสั่นเทาเล็กน้อย

เสียงนี้ หนักแน่นมาก ทั้งยังมีพลัง ฟังแล้ว ให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างมีเกียรติ

นางเงยหน้าขึ้น

ดวงตาเย็นชาในวันวานที่ผ่านมา ตอนนี้เคล้าไปด้วยน้ำตาแวววาว

แววตาคาดหวัง สุดท้ายมองไปทางเฉินฝาน

“เจ้านี่เอง!”

แววตาคาดหวังเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์หายวับในชั่วพริบตา พร้อมกับคำว่าเจ้านี่เอง แทนที่ด้วยแววตาสิ้นหวัง

เฉินฝานมองแล้วยิ่งรู้สึกปวดใจ เขาจับมือฉินเย่ว์เหมยด้วยความดื้อรั้น บีบแรงขึ้น มองไปที่นาง พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ใช่กระหม่อมเอง เชื่อกระหม่อม กระหม่อมช่วยฝ่าบาทได้”

คล้ายฉินเย่ว์เหมยไม่ได้ยินคำพูดของเฉินฝาน แววตาของนาง มองไปยังมือของเฉินฝานที่จับมือนาง ชะงักครู่หนึ่ง

“เหตุใดเจ้าจึงยังอยู่ที่นี่?”

“ฝ่าบาท กระหม่อมอยู่ที่นี่มาโดยตลอด!”

“สามหาว!”

น้ำเสียงเย็นชาที่เฉินฝานคุ้นเคย ดังขึ้นอีกครั้ง ฉินเย่ว์เหมยกลับมาเย็นชาและทระนงเหมือนเดิม

นางชักมือตนเองกลับมา ลุกขึ้นยืนหันพร้อมกับหันหลังให้เฉินฝาน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เป็นเพียงบุรุษให้สตรียั่วเย้า ของเล่นของข้า เจ้าจะเข้าใจสงครามใ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Shutravi's Wira
จุใจเลยวันนี้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 553

    “ฝ่าบาท...” เฉินฝานฉงนงงงวย ผู้หญิงคนนี้บอกให้เขาไสหัวไปไกลๆ ไม่ใช่หรือ แล้วนี่มันอะไร?คิ้วของฉินเย่ว์เหมยโค้งงอเล็กน้อย โอบเอวของเฉินฝาน “ขุนนางอันเป็นที่รัก เจ้าอย่าโมโห เมื่อครู่ข้าไม่ควรโมโหใส่เจ้า เจ้าอย่าไป อยู่กับข้าได้หรือไม่?”“...” ด้วยประสบการณ์ เฉินฝานเดาว่า มีคนมาพระตำหนักไท่เหอ อีกทั้งหากไม่ใช่เสิ่นหมิงหยวนก็คือคนของเสิ่นหมิงหยวนขณะที่เฉินฝานกำลังคิดอยากจะให้ความร่วมมือกับฉินเย่ว์เหมย คนด้านนอกก็เดินเข้ามาแล้วคนที่เข้ามา คือมัวมัวของฮองเฮาจากวังหลัง“ฝ่าบาท!” มัวมัวคนนั้นทำความเคารพฉินเย่ว์เหมยอย่างลวกๆ ไม่รอฉินเย่ว์เหมยอนุญาตให้นางพูด นางก็พูดแล้ว“ท่านอัครเสนาบดีให้คนมาบอกเพคะว่า ฝ่าบาทขึ้นครองบัลลังก์นานหนึ่งปีครึ่งแล้ว ทายาทคือรากฐานของแคว้น เรื่องในวันนี้ ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ฮองเฮาไม่ได้ทำสิ่งใดไม่เหมาะสม ฝ่าบาทรีบปล่อยตัวฮองเฮาออกมจากสำนักกิจการราชวงศ์ คืนนี้เสด็จไปตำหนักของฮองเฮาและร่วมโล้สำเภาต่อเพคะ”เมื่อคืน ทั้งที่ส่งตัวองครักษ์ชายเข้าไปในตำหนักนอนของฮองเฮา เพื่อเป็นการสวมเขาให้ฉินเย่ว์เหมยแล้วแท้ๆตอนเช้า ทั้งที่ต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย ข่มขู่แล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 554

    หน้าประตูตำหนักมีตัวอักษรหมองหม่นสามตัวใหญ่ๆ“ฝ่ายซักล้าง”เฉินฝานเดินข้ามธรณีประตูเก่าๆ เดินเข้าไปด้านในมีนางกำนัลมากมายกำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน มีทั้งกำลังซักเสื้อผ้า มีทั้งกำลังขัดถังส้วม...แตกต่างจากตำหนักอื่น เสื้อผ้าอาภรณ์ของนางกำนัลที่นี่เก่าและซอมซ่อ พวกนางผอมโซ สีหน้าซีดเหลือง แววตาเลื่อนลอยไม่มีชีวิตชีวาพวกนางก้มหน้าก้มตาทำงานเดิมๆ วนซ้ำไปมาด้วยความชินชาบางครั้งที่ทำช้า ขันทีที่คอยจับตาดูพวกนางอยู่นั้นก็จะใช้แส้ฟาดและทุบตีคนที่ถูกฟาดด้วยแส้ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ราวกับคนรอบข้างไม่ได้ยินและมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น พวกเขายังคงทำงาน เดินไปมาไม่แตกต่างอะไรกับศพเดินได้“ชักช้าเช่นนี้ ข้าวปลาที่กินเมื่อคืนไร้ประโยชน์น่ะสิ!”“เพี๊ยะ”“โอ๊ย!”ทันใดนั้นเอง ด้านหน้าก็มีเสียงด่าทอและเสียงกรีดร้องจากการถูกฟาดด้วยแส้ดังขึ้นเฉินฝานเงยหน้าขึ้นมอง ขันทีสองคนกำลังฟาดแส้สุดกำลัง ฟาดไปยังหญิงสาวชุดสีม่วงเก่าๆ คนหนึ่ง“กงกง หยุดตีได้แล้ว หยุดตีได้แล้วเจ้าค่ะ!” นางกำนัลที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่นและเก่ากว่าโน้มตัวไปหาสตรีชุดสีม่วง ใช้ร่างกายของตนเองป้องสตรีชุดสีม่วงจากแส้ที่ฟาดล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 555

    “ตุ้บ”ขันทีถูกทุ่มลงบนพื้นอีกครั้ง อีกทั้งครั้งนี้ยังรุนแรงกว่าครั้งแรกไม่ใช่แค่เพียงหนึ่งเท่า“อ๊าก!”ขันทีที่กระเสือกกระสนอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นได้ ฟาดแส้ไปทางเฉินฝานด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “เจ้าอยากตายหรืออย่างไร...”“อย่าๆ!”ขันทีอีกคนที่ตัวเตี้ยกว่ารีบเดินมา เขาคว้าขันทีตัวสูงใหญ่ที่คิดอยากจะฟาดแส้ใส่เฉินฝานขันทีเตี้ยพูดกระซิบบางอย่างข้างหูขันทีสูงหลังจากขันทีสูงฟังจบ แม้ไม่ได้แยกเขี้ยวยิงฟันใส่เฉินฝานเหมือนเดิม แต่แววตาของเขา เปี่ยมไปด้วยความดูแคลนตอนเดินผ่านเฉินฝาน อดไม่ได้ที่จะพูดเย้ยหยัน “ข้าก็คิดว่าใคร? แค่บุรุษให้สตรียั่วเย้าคนหนึ่งก็เท่านั้น!”เฉินฝานเพียงยิ้มบางๆความสุขทางคำพูด ล้วนไม่มีความหมายเฉินฝานตั้งใจจะเดินไปแล้ว นางกำนัลคนนั้นขวางหน้าเขา “ท่านชาย ท่านชายโปรดเป็นคนดีให้ถึงที่สุดได้ไหมเจ้าคะ ท่านชายได้โปรดทูลกับฝ่าบาทแต่เรื่องดีๆ ของพระสนมของข้าน้อย ให้พระสนมของข้าน้อยไปจากฝ่ายซักล้าง ขืนยังไม่ไปจากที่นี่ พระสนมของข้าต้องถูกขันทีทุบตีจนตายแน่นอนเจ้าค่ะ”กลัวเฉินฝานไม่เชื่อ นางกำนัลดึงแขนเสื้อของสตรีชุดสีม่วงขึ้น เผยให้เห็นแขนทั้งสองข้างของสตรีชุดสีม่วงแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 556

    เฉินฝานหยุดชะงักขณะเติมหมึก เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที เขากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง “ฝ่าบาทต้องไม่ยอมแน่นอน”แม้กระทั่งหัวหน้าองครักษ์ลับยังเป็นคนของเสิ่นหมิงหยวน เช่นนั้นฉินเย่ว์เหมยจะสู้ไปทำไม ยกตำแหน่งจักรพรรดิให้เลยก็สิ้นเรื่อง“ข้าไม่ได้ตอบตกลง แต่ข้าไม่อาจยื้อได้นานเท่าใดนัก” น้ำเสียงของฉินเย่ว์เหมยเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวังและสับสนฉินเย่ว์เหมยโยนพู่กันหยกในมือทิ้ง โน้มตัวพิงบัลลังก์มังกรสภาพของนางดูอิดโรยอย่างมากเฉินฝานดันชาดอกเก็กฮวยไปตรงหน้าฉินเย่ว์เหมยอีกเล็กน้อยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาดอกเก็กฮวย โชยเข้าไปในจมูกของฉินเย่ว์เหมยสีหน้าตึงเครียดของฉินเย่ว์เหมย ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เห็นชัดว่ากลิ่นหอมของดอกเก็กฮวย ช่วยบรรเทาความตึงเครียดของนางขนตางอนยาว สั่นไหวแผ่วเบา นางลืมตาขึ้น มองเฉินฝานเงียบๆนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เฉินฝานเข้ามาในวังหลวง ฉินเย่ว์เหมยมองเขาด้วยแววตาอ่อนโยนเช่นนี้จู่ๆ ฉินเย่ว์เหมยก็รู้สึกว่าการแกร่งแย่งชิงดีในราชสำนักช่างเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก โลกของบุรุษช่างน่าหวาดกลัว ตอนนั้นนางตั้งใจทำให้ร่างเดิมเฉินฝานโมโห เพราะอยากให้เขาหย่ากับนาง นางต้องการอิสรภาพ อยากใช้ชีวิต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 557

    แสงสว่างในดวงตาของฉินเย่ว์เหมย ทอประกายเจิดจรัสไม่ถึงหนึ่งวินาที กลับมามอดดับลงอีกครั้ง “เป็นไปได้อย่างไร ช่างเถอะ”ฉินเย่ว์เหมยโบกมือ “ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นเพียงชาวไร่ชาวนาคนหนึ่ง เจ้าไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น!”พูดจบ ฉินเย่ว์เหมยลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงแผ่นหลังเย็นชาให้กับเฉินฝานเฉินฝานยักไหล่ด้วยความจนปัญญาช่างเถอะ ไม่ถือสาสตรีไร้ที่พึ่งพิงยามค่ำคืนเฉินฝานยังคงนอนบนเตียงมังกรดั่งเช่นที่ผ่านมา ฉินเย่ว์เหมยยังคงนอนบนผ้าขาวของนางเหมือนที่ผ่านมาเช่นกันปกติทั้งสองไม่ค่อยพูดกันเป็นทุนเดิม ค่ำคืนนี้กลับเงียบกว่าเดิม“เรื่องนั้น...”ทางผ้าขาวมีเสียงเย็นชาของฉินเย่ว์เหมยดังขึ้น“หลังจากรอให้เสิ่นหยวนฮวารับช่วงดูแลองครักษ์ลับ เจ้าพาน้องๆ และลูกๆ ไปเถอะ ใต้เตียงมังกรมีกล่องใบหนึ่ง ด้านในมีทองคำและตั๋วเงิน มากพอให้เจ้าสุขสบายทั้งชีวิต“...” แปลกพิลึก ลมหายใจอุ่นๆ รินรดบนแผงอกกว้างของเฉินฝาน ข่มใจจนกระวนกระวายเล็กน้อย น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความใจร้อน“ทำไม ฝากฝังเรื่องในอนาคตหรือพ่ะย่ะค่ะ? วางใจเถอะ หากท่านตาย กระหม่อมไม่เพียงเอาทองตำและตั๋วเงินไป แม้กระทั่งของล้ำค่าทุกชิ้น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 558

    หน้าอกของทั้งสองแทบจะแนบชิดฉินเย่ว์เหมยได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเฉินฝานแล้วตึก ตัก ตึก ตักเสียงหัวใจเต้นที่แข็งแรงและมีกำลังของชายหนุ่ม ทำให้หัวใจของนางเต้นเร็วเช่นเดียวกันทั้งอยากวิ่งหนี และอยากเข้าหาด้วยสัญชาตญาณของบุรุษในฐานะผู้ชายปกติคนหนึ่ง สาวงาม รูปร่างดีแนบชิดตนหากบอกว่าเฉินฝานไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ล้วนเป็นเรื่องโกหกมือของเขาที่โอบเอวของฉินเย่ว์เหมย เริ่มหมุนวนอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้ผิวของนางเนียนละเอียด ทำให้คนมีความสุขจนไม่อาจถอนมือได้อย่างไม่รู้ตัว มือของเฉินฝาน ค่อยๆ ลูบไล้เข้าไปด้านในวินาทีที่สัมผัสผิวหนัง ตัวของฉินเย่ว์เหมยกระตุก ร่างกายสั่นเทาอย่างไม่อาจหักห้ามความรู้สึกนี้ การกระทำนี้แปลกใหม่สำหรับฉินเย่ว์เหมยมาก“เจ้า เจ้าปล่อยข้า!” ใบหน้าเย็นชาของฉินเย่ว์เหมย มีเหงื่อผุดขึ้นมา“หื้ม?” เสียงของเฉินฝานแหบพร่าเล็กน้อย “ฝ่าบาทเป็นคนขึ้นมาเองไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ? เหตุใดจึงกลับกลายเป็นให้ข้าปล่อยท่าน”“ทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะ?” เฉินฝานตั้งใจท้าทาย “กลัวหรือ?”“ข้าไม่กลัวเจ้า!”ใบหน้าแดงระเรื่อของฉินเย่ว์เหมยเบือนหนีไปอีกทาง “ข้ากลัวจะพลาดเข้าท้องพระโรงเช้าวั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 559

    ความหล่อเหลาเป็นเรื่องรอง ประเด็นสำคัญคือรัศมีบนตัวเขาทั้งแข็งแกร่งยิ่งใหญ่และเที่ยงตรงตามที่พวกน้องๆ บอกเฉินฝานในตอนนี้ ไม่เหมือนเฉินฝานในอดีตแล้วอย่างเงียบๆ ด้วยความระมัดระวังฉินเย่ว์เหมยซบลงบนอ้อมกอดของเฉินฝานวินาทีที่ศีรษะซบลงบนแผงอกกว้างของเฉินฝาน ฉินเย่ว์เหมยรู้สึกอิจฉาฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวขึ้นมาทุกค่ำคืนที่ผ่านมา พวกนางนอนในอ้อมกอดของเฉินฝานได้อย่างเปิดเผยเฉินฝานเป็นคนนอนหลับง่าย ร่วมกับเหนื่อยแล้วจริงๆไม่นาน เขาก็ผล็อยหลับไปแรกเริ่ม ฉินเย่ว์เหมคิดว่าตนจะนอนไม่หลับคิดไม่ถึงว่านางเองก็เริ่มสะลึมสะลือกอดภรรยายามนอนหลับได้อีกแล้ว เฉินฝานนอนหลับสนิท ทั้งยังฝันดี“ภรรยาของข้าหอมจริงๆ”เฉินฝานนอนละเมอ กอดฉินเย่ว์เหมย ดึงตัวนางเข้ามาในอ้อมกอดเขาในความฝัน คิดว่าตนกำลังกอดฉินเย่ว์โหรว มือวางไว้ตรงจุดนั้นตามความเคยคิด เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของฉินเย่ว์เหมยที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น ตกใจตื่นทันทีทั้งอาย ทั้งตกใจ ทั้งโมโห“คนบ้า!”ฉินเย่ว์เหมยเตะหน้าแข้งของเฉินฝานอย่างแรง“โอ๊ย!”ทั้งชาทั้งเจ็บ เฉินฝานปล่อยฉินเย่ว์เหมยตามสัญชาตญาณ นอนขดตัวกอดหน้าแข้งขอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 560

    โดยใช้บรรดาศักดิ์เสียนที่ปฐมจักรพรรดิตั้งไว้ให้เพราะตอนนั้น กองทัพเสือของเหอกังและกองทัพหมาป่าของเพ่ยจี้กลับเมืองหลวงมีกองทัพเสือของเหอกังคอยกีดขวาง เสิ่นหมิงหยวนไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามวันอภิเษกสมรส โดยทั่วไปฮ่องเต้จะเสด็จไปยังตำหนักฮองเฮาแต่ตอนนั้นฉินเย่ว์เหมยเกลียดเสิ่นหมิงหยวน คืนนั้นจึงไม่ไปตำหนักฮองเฮา ไปตำหนักเหอเสียนเฟยแทนวันรุ่งขึ้นหลังจากซูซิวฉีทราบเรื่อง เขาโมโหอย่างมาก กล่าวว่า “ฝ่าบาท ท่านควรตามกฎ ไม่อาจเพราะเกลียดเสิ่นหมิงหยวนแล้วบุ่มบ่ามไปหาเหอเสียนเฟย”“การกระทำของฝ่าบาทไม่เพียงทำร้ายเหอเสียนเฟย ถึงขั้นที่ว่าทั้งตระกูลเหอเดือดร้อนเพราะฝ่าบาท!”ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งครองบัลลังก์ไม่นาน นางไม่เข้าใจความซับซ้อนของการแกร่งแย่งชิงดีชิงเด่นในราชสำนัก แม้ก้าวผิดเพียงเล็กน้อย ก็ต้องจ่ายค่าชดใช้ราคาแพงนางรู้สึกเสียใจมาก “ข้าเป็นถึงจักรพรรดิของแคว้น ตอนกลางคืนไม่มีแม้แต่อิสระในการไปตำหนักพระชายาหรือ?”ซูซิวฉีส่ายหน้า “ยามปกติฝ่าบาทอยากเสด็จไปหาพระชายาคนใดก็ได้ แต่วันอภิเษกสมรส ไม่มีอิสระข้อนี้”ฉินเย่ว์เหมยไม่พอใจ “แล้วเหตุใดตอนนั้นเสด็จปู่ทำได้?”จักรพรรดิคนก่อนของต้าชิ่

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status