“ใช่แล้ว!” หลี่ซานย่อตัวลง พูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวฉู่ ตอนนี้นายท่านของเจ้าเป็นผู้มีอำนาจมากๆ เป็นผู้มีอำนาจแล้ว ข้างกายย่อมต้องมีบ่าวรับใช้ มิเช่นนั้นจะถูกหัวเราะเยาะเอาได้”“เจ้าค่ะ พี่หลี่พูดถูก ไม่อาจให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะนายท่านของข้าได้!”“ดูสิ!” หลี่ซานหันไปมองเฉินฝานแล้วพูด “เสี่ยวฉู่ยังรู้หลักการข้อนี้”“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์ฉู่เอียงหน้าเล็กน้อย หันไปมองเฉินฝาน “ข้ามองแล้วไม่เหมือนผู้มีอำนาจเลยเจ้าค่ะ ยังเหมือนสมัยอยู่ในหมู่บ้าน”“ถูกต้อง!” เฉินฝานอุ้มฉินเย่ว์ฉู่ขึ้นมา “เจ้าอย่าฟังพี่หลี่พูดจาเหลวไหล ข้ายังเหมือนเมื่อก่อน เป็นนายท่านของพวกเจ้า นับจากนี้พวกเราสี่คนร่วมมือกัน ทำให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้น”หลี่ซานยังอยากพูดอีก แต่เฉินฝานใช้สายตาบอกกับเขาให้หยุดพูดฉินเย่ว์ฉู่ยังเด็ก เขาอยากให้นางเติบโตอย่างเข้มแข็งเหมือนเมื่อก่อน“นายท่าน ข้าสิบขวบแล้ว ท่านอย่าเอาแต่อุ้มข้าแบบนี้สิเจ้าคะ”เฉินฝานอุ้มนางต่อหน้าผู้คนมากมาย ทำให้เด็กน้อยรู้สึกอายเล็กน้อย พวงแก้มแดงระเรื่อ“หื้ม?” เฉินฝานหยิกแก้มของฉินเย่ว์ฉู่ “อายเหรอ? เจ้าบอกว่าชอบเวลาข้าอุ้มที่สุดไม่ใช่หรือ? ยามไม่อุ้มเจ้ายังร้อง
อ่านเพิ่มเติม