บททั้งหมดของ เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ: บทที่ 301 - บทที่ 310

730

บทที่ 301

ฉินเย่ว์โหรวนับว่าเป็นคนที่หลับง่ายที่สุดในบรรดาสามพี่น้องตระกูลฉิน อีกทั้งท่าทางของนางก่อนหลับและหลังหลับก็ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนางเป็นคนที่สะดุ้งตื่นกลางดึกน้อยมาก แต่ท่านอนของนางกลับไม่เข้าท่าเอาเสียเลย นางมักจะชอบถีบผ้าห่ม หลังจากที่เฉินฝานข้ามมิติมา เขาต้องคอยหมั่นเข้ามาช่วยห่มผ้าให้นางอย่างน้อยหนึ่งถึงสองครั้งในทุกวันแต่ตอนนี้นางกลับไม่อยู่บนเตียงนางไปไหน? เกิดอะไรขึ้นเฉินฝานรีบกระโดดลงจากเตียงและวิ่งออกไปท้องฟ้ายามราตรีในคืนนี้ค่อนข้างมืดเป็นพิเศษ ไม่มีแม้แต่แสงดวงดาว ภายในลานกว้างก็มืดสนิท มองไม่เห็นอะไรเลยเฉินฝานวิ่งเข้าไปในครัวเป็นที่แรกแต่ภายในครัวกลับเงียบสงัด นอกจากหม้อและกระทะแล้วก็ไม่มีร่างเงาของฉินเย่ว์โหรวเลยสักนิดเฉินฝานวิ่งไปยังเล้าไก่นอกจากห้องครัวแล้ว สถานที่ที่ฉินเย่ว์โหรวมักจะชอบไปอยู่บ่อยครั้งก็คือเล้าไก่พี่น้องตระกูลฉินชอบกินไก่ที่สุด ในบ้านจะมีการฆ่าไก่เป็นประจำ แต่ในช่วงแรกที่เฉินฝานกลับมาจากการล่าสัตว์บนภูเขาหัวเสือพร้อมกับไก่ป่าที่เขาบอกว่าจะให้มันฟักไข่ออกมาไว้บำรุงร่างกายฉินเยว์โหรวตัวนั้น นางสั่งห้ามฉินเย่ว์เจียวฆ่ามันเด็ดขาดฉิน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 302

“อ่า?”เฉินฝานมองเด็กสาวที่กำลังเมามายตำหนิเรื่องที่เขาไม่อยากอยู่กับนางในอ้อมกอดของตัวเอง ในใจของเขาตอนนี้ทั้งโกรธทั้งจนปัญญา อีกทั้งความโกรธนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเรื่องเดียวที่แท้ ที่นางตีตัวออกห่างเขาเป็นเพราะความหึงหวงนี่เองก็ว่าอยู่ เพราะก่อนที่เขาจะส่งครอบครัวของเฉินผิง นางยังดี ๆ อยู่เลย พอเขาหันกลับมา นางก็เปลี่ยนไปทันทีคาดว่าในระหว่างที่เขาส่งครอบครัวของเฉินผิง ฉินเย่ว์เจียวและนางกันคุยเรื่องของเถียนเสี่ยวอวี่แต่...ความหึงหวงของเด็กสาวคนนี้ดูออกได้อย่างชัดเจน ราวกับคนขี้หึง หลังจากโดนกระทำจนตัวเองแตกเป็นเสี่ยง ๆนางจึงได้ลุกขึ้นมาดื่มเหล้ากลางดึกเช่นนี้“เหลวไหล!”เฉินฝานใช้นิ้วดีดหัวของฉินเย่ว์โหรวเสียงดัง “ทำไมข้าจะไม่ต้องการเจ้าเล่า สมองกลวง ๆ ของเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”เขาแค่คิดว่านางยังเด็กเกินไป อยากรอให้นางโตกว่านี้หน่อยก็เท่านั้นเขาไม่อยากให้นางตกอยู่ในอันตราย จึงพยายามข่มความคิดที่อยากได้ตัวนางเอาไว้เพราะยังเด็กนี่ไง ตอนนี้เฉินฝานจึงยังไม่อยากให้นางตั้งท้องเขาข้ามมิติมา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน มีหญิงสาวลาจากโลกนี้ไปในขณะคลอดลูกถึงสองคนแล้วเนื่อง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 303

“อื้อ....”ฉินเย่ว์โหรวที่ถูกโอบเอว ถือโอกาสตอนที่ถูกดึงตัวกลับมาใช้ปากประกบปากของเฉินฝานทันที“นายท่าน”เมื่อเห็นเฉินฝานนิ่งไม่ขยับ ความกล้าหาญของฉินเย่ว์โหรวก็ยิ่งทวีคูณริมฝีปากที่อ่อนนุ่มและหนุบหนับของนางขยับอยู่บนริมฝีปากของเฉินฝาน“นายท่านไม่ชอบโหรวเอ๋อร์จริง ๆหรือเจ้าคะ? แต่ตอนนี้โหรวเอ๋อร์ชอบนายท่านมากจริง ๆ นะเจ้าคะ”“นายท่าน ข้าไม่ได้แสนดีเหมือนกับพี่เถียน พี่เถียนเป็นบุตรสาวจากครอบครัวที่มั่งคั่ง มีการศึกษาและสุภาพ ส่วนข้าก็แค่หญิงสาวชาวไร่ ข้า....”เฉินฝานเชยคางของฉินเย่ว์โหรวขึ้น ให้นางและเขาได้สบตากัน “ต่อไปห้ามเจ้าพูดว่าตัวเองเช่นนี้อีก เข้าใจไหม? ในใจของข้า พวกเจ้าทุกคนเหมือนกัน ทุกคนเป็นภรรยาของข้า ไม่มีแบ่งแยกสูงหรือต่ำ”“เช่นนั้นทำไมนายท่านถึงไม่ต้องการข้า?”ภายใต้แสงไฟสีเหลืองเรืองรองจากตะเกียง ใบหน้าที่งดงามของฉินเย่ว์โหรวนั้นดูมัวหมอง ผิวพรรณที่ซีดขาวจู่ ๆ ก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อคล้ายดอกกุหลาบสีสันสดสวยแพรวพรายภายใต้การฉีดน้ำใครเห็นแล้วไม่อยากกัดบ้าง“ใครบอกว่าข้าไม่ต้องการเจ้า!” มือของเฉินฝานลูบไล้อยู่บนแผ่นหลังของฉินเย่ว์โหรว จากนั้นก็กล่าวด้วยน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 304

ผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดระดับมณฑล อย่าว่าแต่จะเป็นอันดับต้นของหมู่บ้านซานเหอในรอบหนึ่งร้อยปีเลย ทั้งยังเป็นอันดับต้นในรอบหนึ่งร้อยปีของตำบลหลีผิงด้วย คนที่มาแสดงความยินดี ไม่เพียงแต่มาจากหมู่บ้านซานเหอเท่านั้น ยังมาจากแคว้นและเมืองที่อยู่รอบ ๆ หมู่บ้าน ไปจนถึงในตัวเมืองของอำเภอผิงอันอีกด้วยสรุปโดยประมาณได้ว่า นอกจากคนที่ดำรงตำแหน่งขุนนางอยู่ในอำเภอผิงอันเพียงไม่กี่คนที่ไม่ได้มา คนอื่น ๆ ที่ทั้งรวยทั้งมีตำแหน่งต่างก็มาแสดงความยินดีทั้งสิ้นบ้างก็อยากมาประจบประแจงเฉินฝาน บ้างก็อยากมาดึงตัวเฉินฝานไปเป็นพวก แต่โดยส่วนใหญ่ล้วนอยากรู้อยากเห็นทั้งนั้นถึงอย่างไรเฉินฝานก็โด่งดังเพราะกลอนคู่ ‘หมาโสด’ บทนั้น แม้แต่ลายมือของเขาก็ยังสู้เด็กน้อยอายุสามสี่ขวบไม่ได้ เรื่องที่เขาสอบได้อันดับรั้งท้ายของอำเภอจึงดังกระฉ่อนไปทั่วเมืองคนที่ดังกระฉ่อนไปทั่วผู้นี้สอบได้คะแนนสูงสุดใครบ้างจะไม่สงสัย ทุกคนถึงได้พากันไปมุงดูว่าเฉินฝานมีหน้าตาอย่างไรเฉินฝานสอบติดอันดับต้น ๆ คนที่ตื่นเต้นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นหลี่เจิ้งและมั่วหงเหวินจากตำบลหลีผิงเขาเพิ่งได้รับการเลื่อนขั้น นักศึกษาในตำบลของเขาต่างก็สอบไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 305

ดูเหมือนว่าความสุขของเฉียนเจิ้งหยางและความสุขของเศรษฐีอย่างมั่วหงเหวินนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในที่สุดเขาก็กลับมามีความสุขได้อีกครั้งหลังจากที่อึดอัดมาหลายปีก่อนงานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น ในตอนที่อยู่ในบ้านของเฉินฝาน เฉียนเจิ้งหยางที่มีอายุเกินห้าสิบปีแล้วยังคงจับมือของเฉินฝานด้วยความตื้นตันจนน้ำตาไหลเขายังคงพร่ำพูดไม่หยุด "มันไม่ง่ายเลย มันไม่ง่ายเลยจริงๆ"ก่อนหน้าของเฉินฝาน มีเพียงเฉียนหย่งหนิงจากหมู่บ้านซานเหอคนเดียวเท่านั้นที่สอบผ่านระดับต้น ทั้งยังสอบแค่พอผ่านอันดับล่างขึ้นมาเท่านั้นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านโดยรอบต่างเยาะเย้ยเฉียนเจิ้งหยางมาหลายปีแล้ว พวกเขาขบขันที่เขายอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเชิญท่านอาจารย์เฉียนมาสอนในหมู่บ้าน แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านซานเหอก็ยังคงไร้ประโยชน์เช่นเดิมต่อมาหลังจากที่นักพรตจากวัดซานชิงกวนทำนายว่าเฉินเจียงจะได้กลายเป็นทายาทตระกูลสูงศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านโดยรอบพยายามกลั้นขำและเก็บการที่มีต่อเฉียนเจิ้งหยางแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นถึงอย่างไรทุกคนต่างก็รู้ดีว่าคำทำนายของนักพรตซานชิงกวนไม่มีทางเป็นเรื่องโกหกข่าวที่เฉินฝานสอบได้ค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 306

“เสี่ยวฝาน จะเริ่มงานเลี้ยงตอนนี้ก็เร็วไปหน่อย นักเรียนด้านล่างก็รอคอยให้เจ้าแบ่งปันนิสัยและจิตสำนึกในการเรียนหนังสือให้กับพวกเขา”ที่จริงแล้วมั่วหงเหวินไม่อยากให้เฉินฝานพูดอะไรมากมาย ทว่าเป็นตัวเขาเองที่อยากพูดเยอะๆหลี่เจิ้งมั่วหงเหวินไม่อยากเริ่มงานเลี้ยงเร็วขนาดนั้น รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้พูดอะไรเลย งานแบบนี้ ในฐานะที่เขาเป็นหลี่เจิ้ง การพูดในงานจะขาดไปได้อย่างไรกัน ถ้าเป็นคนธรรมดา ต้องตามใจมั่วหงเหวินอย่างแน่นอนทว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหน้ามั่วหงเหวินไม่ใช่คนอื่น เป็นเฉินฝาน“ใต้เท้า”เฉินฝานเกาหัวด้วยสีหน้าเหยเก “เมื่อวานข้าเคลิบเคลิ้มกับการอ่านหนังสือ อ่านจนฟ้าเกือบสว่าง สูบพลังไปค่อนข้างมาก ตอนนี้... ”เฉินฝานลูบท้องตัวเองเบาๆอย่างเหนียมอายผู้ใหญ่บ้านเฉียนเจิ้งหยางพยักหน้าเงียบๆอยู่ด้านข้าง เมื่อครู่ตอนที่เฉินฝานเสนอให้เริ่มงานเลี้ยงก่อนกำหนด เขายังรู้สึกร้อนรนอยู่ในใจเจ้าเด็กคนนี้จะว่าฉลาดก็ฉลาด ทว่าในด้านการรู้ทันโลกจะขาดแคลนไปเสียหน่อยตอนนี้เขาคือผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุด เป็นถงเซิงไม่ผิดแน่ ทว่าคนอยู่ด้านหน้าเขาคือหลี่เจิ้งถึงแม้หลี่เจิ้งจะเป็นขุนนางผู้น้อย ทว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 307

“สรุปแล้วเจ้ากำลังจะพูดอะไรกันแน่?”เฉินฟู่จ้องเฉินเจียงที่สีหน้ายิ้มเยาะ ในหัวสมองงงงวยคงจะไม่ใช่หลังจากที่เฉินเจียงตกอันดับ สมองเลอะเลือนไปแล้วหรอกนะทุกปีหลังจากการสอบฤดูวสันต์ผ่านพ้นไป ล้วนจะมีปัญญาชนและนักเรียนที่ตกอันดับเสียสติ“ลูกเจียง ถึงแม้ปีนี้เจ้าพลาดท่าไปแล้ว ทว่าซานหยวนของการสอบระดับอำเภอก็ไม่แย่ เจ้าอย่ายอมแพ้ ปีหน้าพยายามต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน จะต้องสอบได้แน่นอน”เฉินเจียงตกอันดับ เฉินฟู่ผิดหวังมาก ทว่าเฉินเจียงเสียสติแบบนี้ ก็เป็นสิ่งที่เฉินฟู่ไม่อยากเห็นอย่างเด็ดขาดและ...เฉินฟู่ก็ยังเชื่อมั่นว่าผู้สูงศักดิ์ตระกูลเฉินที่นักพรตซานซิงกวนพูดถึงคือเฉินเจียงไม่ใช่เฉินฝานเพราะว่านักพรตซานซิงกวนยังพูดอีกว่าผู้สูงศักดิ์ของตระกูลเฉินคนนั้น ยิ่งมีลูกมากยิ่งมีความสุขมากเฉินเจียงมีลูกชาย เฉินฝานไม่มีสมัยนี้คลอดลูกชายยากกว่าการสอบขุนนางเสียอีกพี่น้องนางฉินเข้าบ้านฝ่ายชายไปปีกว่าแล้ว ท้องยังแบนราบเหมือนตอนที่เพิ่งจะเข้าบ้านฝ่ายชายเมื่อตอนนั้น ข่าวคราวสักนิดก็ไม่มีกล่าวว่าภรรยาหนึ่งคนท้องไม่โต อาจจะเป็นเพราะปัญหาของภรรยาคนนั้น ทว่าภรรยาทุกคนทั้งหมดท้องไม่โตเช
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 308

“แม่ยายท่านพูดถูก วันนี้เป็นวันสิริมงคล พูดเรื่องที่ไม่น่ายินดี ก็เป็นเจ้านั้นแหละที่ไม่ถูกเหลียนฮวา”“ถูกต้อง เรื่องที่ได้รับวาสนาจากผู้ชายเรื่องนี้ บางคนก็เร็วหน่อย บางคนก็ช้าหน่อย บางคนช้าหน่อยก็สามารถให้กำเนิดลูกชายได้ เจ้าดูภรรยาของเหล่าหวังที่อยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน แต่งงานสิบปีแล้ว เดือนที่แล้วก็ให้กำเนิดลูกชายไม่ใช่หรือ?”อาสะใภ้ข้างบ้านเฉินฝานสองสามคนก็ต่างพากันตำหนิจางเหลียนฮวาหลังจากที่จางเหลียนฮวาให้กำเนิดลูกชาย ทำตัวเป็นจุดสนใจและกำเริบเสิบสาน ทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงในวงศ์ตระกูลเช่นนี้ จางเหลียนฮวามักจะกระแหนะกระแหนพวกภรรยาพวกนั้นที่ไม่ได้กำเนิดลูกชายโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ไม่เพียงแต่ภรรยาพวกนั้นรู้สึกอัดอั้นในใจ อาสะใภ้สองสามคนเหล่านั้นก็รู้สึกไม่สบายใจมานานแล้ว ล้วนแต่ใช้โอกาสในสั่งสอนจางเหลียนฮวาหนึ่งยกเพราะว่าไม่ชอบใจจางเหลียนฮวามานานเกินไปแล้ว อาสะใภ้สองสามคนนั้นยิ่งพูดเยอะขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงก็ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก“อย่าคิดว่าตัวเองให้กำเนิดลูกชาย แล้วอยากพูดอะไรก็พูดได้นะ”“ไม่รู้จักกาลเทศะ ไร้มารยาทอย่างยิ่ง”“งงอะไรอยู่ ยังไม่รีบขอโทษเย่ว์เจีนวกับเย่ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 309

มองขบวนทหารและม้าที่มโหฬารพันลึก คนที่อยู่ที่นั่นล้วนตกตะลึงอ้าปากค้างในงานเลี้ยงต่อให้คนที่ความรู้กว้างขวางอย่างคุณท่านตระกูลอู๋ ก็ไม่เคยพบเจอกระบวนทัพเช่นนี้พลทหารในชุดเกราะเหล็กยืนตามลำดับทั้งสองข้าง“ก็อบ ก็อบ ก็อบ!”ม้าราชสำนักที่รูปร่างกำยำอุดมสมบูรณ์ ค่อยๆเดินออกมาจากด้านหลังพลทหารชายหนุ่มที่อยู่บนม้าราชสำนัก ดูแล้วอายุยี่สิบกว่า แต่งกายชุดสีน้ำเงินหมวกทรงสูง เมื่อเห็นแล้วก็ดูมีภูมิฐานจากชุดข้าราชการสีน้ำเงินชุดนั้น กับหมวกทรงสูงบนหัวนั้นก็รู้เลยว่าตำแหน่งขุนนางของเขาใหญ่นายอำเภอมากโขตอนที่เฉินฝานมองไปทางชายหนุ่มคนนั้น ชายหนุ่มคนนั้นก็มองมาที่เขาพอดีสี่ตาจ้องมองกัน ชายหนุ่มมีปฏิกิริยาก่อน สีหน้าเขาชะงักไปเล็กน้อยชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งสบตากับเขา คาดไม่ถึงว่าจะไม่เกรงกลัวตื่นตระหนกนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอแบบนี้หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งทุกคนกำลังสงสัยว่านี่เป็นคนใหญ่คนโตมาจากไหน?“ใต้ ใต้เท้า!”มั่วหงเหวินที่นั่งอยู่ข้างเฉินฝานราวกับว่าถูกไฟดูด ลุกขึ้นทันทีทันใด หลังจากนั้นงอขาคุกเข่าลงกับพื้น“คุกเข่า เร็ว พวกเจ้าทั้งหมดคุกเข่า”มั่วหงเหวินที่คุกเข่ารีบหันหน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 310

ในหัวสมองของเฉินฝานทบทวนบันทึกรัชสมัยต้าชิ่งที่เพิ่งอ่านจบไปเมื่อสองสามวันก่อนอีกหนึ่งรอบพูดง่ายๆคือบันทึกรัชสมัยต้าชิ่งก็เหมือนกับหนังสือเรียนภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของชั้นมัธยมต้นในยุคปัจจุบันรวมกันในนั้นแนะนำระยะการปกครองของจักรพรรดิราชวงศ์ต้าชิ่ง รวมถึงสถานการณ์โดยพื้นฐานในที่ต่างๆในรัชสมัยต้าชิ่งราชสำนักต้าชิ่งมีทั้งสิบมหานครหนึ่งเมืองหลวงมหานครก็เหมือนกับมณฑลในยุคปัจจุบันในมหานครตำแหน่งที่ใหญ่ที่สุดคือ เจ้าเมืองตำแหน่งขุนที่น้อยกว่าเจ้าเมือง ผู้ว่าราชการประจำมณฑล ถงจื้อ ถงพั่น เป็นต้นผู้ว่าราชการประจำมณฑลที่นั่งอยู่บนหลังม้าคนนี้ ก็เป็นตำแหน่งใหญ่รองจากตำแหน่งเจ้าเมืองหรงตูยังหนุ่มยังแน่น ถ้าหากไม่ใช่ว่าใช้เส้นสาย เป็นผลงานของตัวเองล่ะก็ เขาต้องมีความสามารถที่ล้ำเลิศ“ลู่เฉิงกวง!”ผู้ว่าราชการประจำมณฑลท่านนั้นปราดตามองผ่านนายอำเภอลู่เฉิงกวงไปด้านหลังอย่างเยือกเย็น มือยกขึ้นเล็กน้อย ชี้ไปทางเฉินฝานที่โต๊ะหลัก “เขาก็คือคนที่สอบอันดับแรกในการสอบระดับมณฑลของอำเภอเจ้าครั้งนี้สินะ”ลมวสันตฤดูพาดผ่านใบหน้า ทำให้ชุดข้าราชการผู้ว่าราชการประจำมณฑลสีฟ้าสดชุดนั้น ปลิวข
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
2930313233
...
73
DMCA.com Protection Status