All Chapters of เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ: Chapter 141 - Chapter 150

730 Chapters

บทที่ 141

“ฮะ?” เฉินฝานเอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วจ้องหลี่ซาน “เจ้าหมายถึงอะไรหรือ?”“อ่อ!” หลี่ซานรีบหยุดส่ายหัวแล้วฉีกยิ้ม “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”“สถานที่อย่างที่ทำการ เป็นสถานที่ที่ชั่วร้ายยิ่งนัก ปกติแล้วถ้าไม่มีธุระใครก็ไม่เข้าไปที่นี่หรอก คนที่เข้ามาก็มีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น”หลี่ซานผลักเฉินฝานเบา ๆ “ไปกันเถอะ ๆ วันนี้ข้าเป็นเจ้ามือเอง ไปที่ร้านของข้ากัน วันนี้เจ้าอยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่ ชำระความโชคร้ายกัน!”เฉินฝานเองก็ไม่เกรงใจกับหลี่ซานอีก เขายืนที่ที่ทำการนานขนาดนั้น รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน“ได้สิ อย่าโทษทีหลังว่าคนของข้าเยอะจึงกินเยอะ ข้าจะกินให้เจ้าเงินหมดเลยทีเดียว”ฉินเย่ว์เจียว ฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่ ต่างก็อยู่ในช่วงการเจริญเติบโตของร่างกาย เรื่องกินไม่มีใครด้อยกว่าใคร“พูดตลกแล้ว!” หลี่ซานฉีกยิ้มและขมวดคิ้ว “คนที่กินจนเงินข้าหมด ยังไม่เกิดเลย”หลังจากกินและดื่มที่เรือนสำราญสุขเสร็จแล้ว เฉินฝานพร้อมกับคนของเขาก็ออกเดินทางกลับเรือนเฉินฝานนั่งอยู่บนรถม้าและเปิดม่านรถม้าพูดกับหลี่ซานว่า “นายน้อยหลี่ ข้าจะไม่พูดคำขอบคุณอะไรมากไปกว่านี้ หากเจ้าต้องการข้าในอนาคตเพียงแค่ตะโกนบอ
Read more

บทที่ 142

“นายท่าน พวกเราแต่งเข้ามาหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้เสียวฉู่ก็กลับมาแล้ว พวกเราอยากกลับไปเยี่ยมปู่กับย่าที่เรือนพ่อกับแม่ เพื่อให้พวกท่านรู้สึกสบายใจเจ้าค่ะ”“ได้หรือไม่เจ้าคะ?”“ได้แน่นอน!”เมื่อสามพี่น้องพูดถึงเรื่องนี้ ในใจของเฉินฝานรู้สึกผิดเล็กน้อยเขาข้ามมิติมาช่วงเวลาหนึ่งแล้วเหมือนกัน ยังไม่เคยถามถึงพี่น้องตระกูลฉินเกี่ยวกับครอบครัวของพวกนางเลย“จริงหรือเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานด้วยความไม่เชื่อหลังจากที่จำนวนผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง ไม่เพียงต้องเตรียมสินเดิมเมื่อผู้หญิงออกเรือนเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเงินและอาหารแห้งให้กับลูกเขยเป็นครั้งคราวอีกด้วยสถานการณ์ของครอบครัวพวกฉินเย่ว์โหรวไม่ดี ในเรือนไม่มีพ่อแม่ มีเพียงปู่กับย่าสูงอายุคู่หนึ่งเท่านั้นเพราะพวกท่านป้าคัดค้าน พวกท่านลุงเลยไม่กล้ายื่นมือเข้าไปช่วยหลังจากที่พวกนางแต่งงานกับเฉินฝาน เฉินฝานก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวของพวกนางเพื่อนบ้านโดยรอบ โดยเฉพาะครอบครัวของเฉินเจียงครอบครัวแม่ย่าของจางเหลียนฮวา จะนำของมาให้เฉินเจียงทุกหนึ่งหรือสองเดือน ไม่เพียงมีแต่ข้าวสารและเนื้อสัตว์ แต่บางครั้งยังส่งเงินมาให้ด้ว
Read more

บทที่ 143

“ที่ตำบลไม่มีอะไรน่าซื้อ ต้องไปซื้อที่อำเภอ ถ้าไปที่อำเภอแล้วเร่งไปที่เรือนฉิน คงจะดึกเกินไป”เฉินฝานมีความทรงจำคลุมเครืออยู่บ้างเกี่ยวกับเรือนของพี่น้องตระกูลฉินในความทรงจำของเขา หมู่บ้านเรือนตระกูลฉินไม่ได้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านซานเหอ แต่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อยสามสิบกิโลเมตรในโลกปัจจุบันที่มีคมนาคมที่พัฒนาแล้ว ระยะทางสามสิบกิโลเมตรเป็นเพียงเรื่องของการเหยียบคันเร่งแต่ในสมัยโบราณแห่งนี้หมู่บ้านตระกูลฉินตั้งอยู่ไกลกว่าหมู่บ้านซานเหอและถนนก็เดินลำบากมาก ในความทรงจำของเขา ช่วงระยะทางที่เข้าไปในหมู่บ้าน เกวียนวัวไม่สามารถเข้าไปได้“เราไปกันวันมะรืน พรุ่งนี้ข้าไปบอกกล่าวกับผู้ดูแลเรือนสำราญสุขก่อนและขอให้ท่านลุงและคนอื่น ๆ ช่วยส่งปลาไปที่ร้านวันมะรืน จากนั้นเราก็ออกเดินทางสู่หมู่บ้านตระกูลฉินกันตั้งแต่เช้า”“ออกเดินทางกันเช้าหน่อย ถึงเวลานั้นพวกเจ้าจะได้อยู่ที่นั่นนานขึ้นและใช้เวลาอยู่กับท่านปู่ท่านย่าให้มากขึ้น”“พวกเจ้าคิดว่า การวางแผนเช่นนี้ของข้า ดีกว่าพวกเจ้าเริ่มเดินทางพรุ่งนี้หรือไม่?”เมื่อเฉินฝานพูดจบ เขาก็ยืนอยู่กับที่แล้วมองสามพี่น้องด้วยความได้ใจเล็กน้อยเขาแค่อยากได้
Read more

บทที่ 144

แม้เฉินฝานพูดแล้วว่า พวกนางอยากซื้ออะไรให้ท่านปู่กับท่านย่า สามารถซื้อได้ตามใจชอบ แต่ถึงเวลาซื้อจริง ๆ พวกนางก็ยังระมัดระวังมากพวกนางสามคนเดินดูอยู่ครึ่งค่อนวัน กลับมาถึงก็ถือของเพียงสองสามอย่างเฉินฝานมองผ่าน ๆข้าวสารไม่เกินห้าจิน บะหมี่ไม่เกินห้าจิน ผักกาดขาวสองหัว เนื้ออย่างมากหนึ่งจิน และยังคงเป็นเนื้อไม่ติดมัน แม้แต่เนื้อติดมันเล็กน้อยก็ไม่กล้าซื้อ“ซื้อมาเท่านี้รึ?”สามพี่น้องไม่กล้าตอบ ดังนั้น เฉินฝานจึงเงยหน้ามองพวกนาง“นายท่าน…...”แววตาที่ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานมีความแวววาว นางเม้มริมฝีปากสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างระมัดระวังว่า “พวกเราซื้อมากเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”“หา?!”เฉินฝานเพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน และเขายังไม่ค่อยเข้าใจผู้คนที่นี่นักพี่น้องตระกูลฉินซื้อสิ่งเหล่านี้ ถือว่าจำนวนไม่น้อยแล้วฉินเย่ว์ฉู่กล่าว “ของเหล่านี้ พวกเรานำไปครึ่งหนึ่งดีหรือไม่!”ฉินเย่ว์เจียว “ไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ได้”“......พวกเจ้ารอข้าอยู่ในรถม้านะ!”หลังจากทิ้งประโยคนี้ไว้เสร็จ เฉินฝานก็กระโดดลงจากรถม้าสามพี่น้องไปซื้อของมานานถึงเพียงนี้ สายมากแล้ว ไม่ควรเสียเวลาสื่อสารกับพวกนางอีก
Read more

บทที่ 145

“ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจ ถ้าไม่มีท่านปู่กับท่านย่าของเจ้า ข้าจะได้แต่งงานกับภรรยาสวยงามดั่งดอกไม้เช่นพวกเจ้าได้อย่างไร”“ต่อให้เป็นทองคำหนึ่งหมื่นตำลึงข้าก็ยอม ไม่ต้องพูดถึงข้าวสารและบะหมี่เล็กน้อยเหล่านี้หรอก ที่สำคัญภรรยาตัวน้อยผู้น่ารักที่อยู่ใกล้ข้าที่สุดคนนี้!”เฉินฝานใช้นิ้วชี้แตะจมูกของฉินเย่ว์โหรว “ยังแอบจูบข้าเป็นครั้งคราว มีภรรยาน่ารักเช่นนี้ ข้า......”“นายท่าน ท่าน ท่านพูดจาไร้สาระอีกแล้วนะเจ้าคะ”ฉินเย่ว์โหรวปิดหน้าอย่างเขินอายนายท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร เสียวฉู่ยังอยู่ตรงนี้“เสียวฉู่ เจ้าว่าข้าพูดถูกหรือไม่?”“ขะ ข้าจะไปรู้พวกท่านได้อย่างไร”ฉินเย่ว์ฉู่ดึงม่านแล้ววิ่งออกไปนั่งข้างฉินเย่ว์เจียวข้างนอกเฉินฝานหัวเราะและเอนตัวลงบนรถม้า“นายท่านแกล้งพี่สี่ของเจ้าอีกแล้วใช่หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์ฉู่ ฉินเย่ว์เจียวก็เอ่ยถามลอย ๆ ขณะขับรถม้า“พี่สาม พี่หมายความว่า……” ฉินเย่ว์ฉู่ลังเลครู่หนึ่ง “นายท่านทำเช่นนี้ประจำหรือเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์เจียวพยักหน้า “ใช่ บ่อยมาก! นายท่านดูเหมือนจะชอบเห็นพี่สี่ของเจ้าเขินอาย เขาเลยหยอกล้อนางอยู่บ่อยครั้ง”“เมื่อก่อน เขาไม่เป็นเช่นนี
Read more

บทที่ 146

ตอนเปิดม่านเมื่อครู่นี้ นางตั้งใจลงมาด้วยตัวเอง แต่กลับถูกเฉินฝานที่ลงไปก่อนอุ้มลงมาเฉินฝานไม่ได้คิดมาก ในสายตาของเขา ฉินเย่ว์ฉู่ก็ไม่ต่างกับเอ้อร์ยา รถม้าสูงเล็กน้อยเขาเลยอุ้มลงมาโดยตรง“ขะ ข้าไม่ได้อนุญาต เขาทำไปเรื่อย”ใบหน้าของฉินเย่ว์ฉู่แดงเล็กน้อย นางก้มศีรษะและดึงมุมเสื้ออยู่อย่างนั้น“พี่ฝานเป็นคนดีขนาดนั้น ได้แต่งงานกับเขา นับว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ”“พี่สะใภ้!”ทันใดนั้น เอ้อร์ยาก็คว้ามือของฉินเย่ว์ฉู่ฉินเย่ว์ฉู่ดึงกลับโดยสัญชาตญาณ และถ้าเอ้อร์ยาไม่พูดเร็วกว่านี้ นางคงโยนเอ้อร์ยาลงไปที่พื้นแล้วลวี่ซิงฟาเคยหาคนมาฝึกให้นาง นางจึงรู้วิธีที่หลบหนีและสู้กลับอยู่บ้างเอ้อร์ยากล่าว “เราไปเล่นกันเถอะ!”ดวงตาเล็ก ๆ เป็นประกาย ไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ อยู่ในนั้น“อื้ม!” ฉินเย่ว์ฉู่ยังพูดไม่จบ เอ้อร์ยาก็คว้านางวิ่งเข้าไปในสวนและเริ่มเล่นโยนถุงหอมช่วงเทศกาลแข่งเรือมังกร[footnoteRef:1] ของทุกปี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวยากจนหรือร่ำรวย ผู้ใหญ่จะเตรียมถุงหอมสำหรับลูก ๆ ของตนเสมอ [1: เทศกาลแข่งเรือมังกร หรือที่เรียกว่า เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง เป็นการระลึกถึงวันที่คุดก้วนกวีผู้รักชาติแห่งรัฐฉู่
Read more

บทที่ 147

“นายท่าน เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เฉินฝาน รีบลูบหลังให้เขา“ข้าไม่เป็นไร ๆ!”เฉินฝานปัดมือแล้วมองฉินเย่ว์ฉู่ที่มีใบหน้าแดงระเรื่อ “ต่อจากนี้ไป เรียกว่าเสียวฉู่เถอะ”คำพูดประโยคนี้ เขาไม่เพียงพูดกับนางเจิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นการพูดกับทุกคนเขาตัดสินใจให้อิสระแก่ฉินเย่ว์ฉู่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า นางอยากแต่งงานกับใคร ให้นางเป็นคนเลือกเองนางเจิ้งย่อมเข้าใจความนัยของคำพูดของเฉินฝาน นางจึงยิ้มและกล่าว “เช่นนั้นก็เรียกว่าเสียวฉู่ เสียวฉู่ฟังดูดีเหมือนกัน”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวฟังออกเหมือนกัน ฉินเย่ว์เจียวเป็นคนใจร้อน“นายท่าน ท่านไม่ต้องการเสียวฉู่แล้วหรือเจ้าคะ? หรือเพราะว่านาง……”หรือเพราะว่านางเคยเป็นขโมยมาก่อนนี่คือสิ่งที่ฉินเย่ว์เจียวไม่ได้พูดออกมาฉินเย่ว์ฉู่ก้มหัวลงและไม่พูดอะไรท้ายที่สุดแล้ว นางก็ถูกรังเกียจ“เสี่ยวฝาน เสียวฉู่นาง……”แม้แต่เฉินผิงยังกล่าว “รูปร่างผอมไปเล็กน้อย แต่ลุงมองแล้วคิดว่านางเป็นเด็กฉลาด หากดูแลอย่างดีสักสองสามปี นางจะกลายเป็นหญิงงามที่โดดเด่นอย่างแน่นอน”ความจริง เฉินผิงอยากพูดว่า เขาหวังว่าเฉินฝานจะไม่รังเก
Read more

บทที่ 148

ครอบครัวฝ่ายหญิงของสามพี่น้อง ไม่เพียงแต่ไม่มีการส่งข้าว แป้งและเงิน แต่ยังให้เฉินฝานช่วย สามพี่น้องนี้ก็กล้ารับจริง ๆ ช่างหน้าด้านเหลือเกินแท้จริงแล้ว สิ่งที่ชาวบ้านพูดนั้นถูกต้อง พวกนางไม่มีสินเดิมติดตัว ปกติครอบครัวฝ่ายหญิงของพวกนางก็ไม่เคยมีใครส่งอะไรมาให้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินฝานสมัยก่อนเลวทรามมากก่อนที่เฉินฝานจะตกลงไปในหุบเขา น้ำลายของคนในหมู่บ้านคงสูงท่วมตัวพวกนาง ไม่ใช่เฉินฝานเฉินฝานมองด้วยความโกรธ “พวกเจ้าเก็บคำพูดเมื่อครู่นี้ของคนในหมู่บ้านมาใส่ใจใช่หรือไม่ ถือไว้!”เฉินฝานยัดถุงเงินใส่มือของฉินเย่ว์โหรว “เงินเหล่านี้ไม่ได้ให้เจ้าเสียหน่อย ให้ท่านปู่กับท่านย่าของเจ้าต่างหาก เจ้าพูดตั้งหลายครั้งไม่ใช่หรือว่า”“ขาของท่านปู่ไม่ดี ตาของท่านย่าไม่ดี ตอนนี้พวกเขาอายุมากขนาดนี้ สุขภาพก็ยังย่ำแย่ขนาดนี้ แล้วเจ้ามีใจที่จะปล่อยให้คนแก่สองคน ใช้ร่างกายที่อ่อนแอและอายุมากไปทำงานลำบากในฤดูหนาวเพื่อความอยู่รอดเช่นนั้นรึ?”เย่ว์โหรวเจ็บจี๊ดที่จมูกนางอยากบอกว่าท่านปู่กับท่านย่ามีเงินเก็บอยู่บ้างแต่เมื่อคิดดูแล้ว เงินออมของท่านปู่กับท่านย่าทั้งหมดถูกนำมาใช้เป็นสินสอดตอนพวกนางแต่ง
Read more

บทที่ 149

หลังคาเป็นกระเบื้อง แต่ปูไว้บางมากและมีกระเบื้องหลายแผ่นที่ผุพัง วันที่ฝนตก ข้างนอกฝนตกหนัก ข้างในฝนตกโปรยปรายแน่นอนเมื่อถึงฤดูร้อน ทนสักหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไป แต่เมื่อถึงฤดูหนาวคงลำบากไม่น้อย เรือนที่มีช่องลมเต็มไปหมดนี้ต้องหนาวแน่ ๆไม้เน่าบางส่วนถูกนำมาทำเป็นรั้วรอบบ้าน เมื่อมองผ่านรั้วจะเห็นลานสวนที่เป็นหลุมเป็นบ่อมุมหนึ่งของสวน เสื้อผ้าสองสามชิ้นที่ตากไว้ก็เป็นเสื้อผ้าที่มีการปะอีกสองหลังที่อยู่ติดกับเรือนอิฐดินหลังนี้ดูดีกว่ามากแม้ว่าจะเป็นเรือนทำจากอิฐดินทั้งหมด แต่ก็เป็นของใหม่ กระเบื้องบนหลังคาก็ปูไว้อย่างหนากระเบื้องเหล่านั้นไม่ดีเท่ากับที่เฉินฝานสั่งกับโรงเผา คงเผาด้วยตนเองท่าทางของสามพี่น้องตระกูลฉิน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมันคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนออกเรือนฉินเย่ว์โหรวผลักประตูที่ทำจากไม้กระดานเก่าหลายแผ่นฉินเย่ว์เจียวเดินเข้าไปคนแรก“ท่านปู่ ท่านย่า!”ฉินเย่ว์โหรวกับฉินเย่ว์ฉู่เดินตามเข้าไป และเอ่ยเรียกท่านปู่กับท่านย่าเหมือนกันไม่มีใครตอบพวกนาง ภายในเรือนเงียบสงบฉินเย่ว์ฉู่ที่มือเท้าว่องไววิ่งดูห้องสามห้องในพริบตาเดียว “ท่านปู่กับท่านย่าไม่อยู่ที่เรือน!”
Read more

บทที่ 150

ฉินเต๋อโห่วและนางไป๋ไม่เคยเห็นเฉินฝานมาก่อน ตอนนั้นทางการส่งสามพี่น้องไปที่หมู่บ้านซานเหอโดยตรงหลังจากสามพี่น้องไปถึงหมู่บ้านซานเหอ หากไม่ได้รับอนุญาตจากหลานเขย ประกอบกับครอบครัวยังขาดแคลนเงินมากและไม่มีของอะไรให้ คนชราสองคนจึงไม่เคยไปหมู่บ้านซานเหออยากเห็นหลานสาว ทำได้เพียงอดทนเมื่อไปหาไม่ได้ ก็ถามไถ่จากคนหลายคนเมื่อได้ยินว่าฉินเย่ว์ฉู่ไม่อยู่ในหมู่บ้านซานเหออีกต่อไป นางไป๋ร้องไห้จนเป็นลมพวกเขาเข้าใจดี ถ้าไม่อยู่ในหมู่บ้านซานเหอก็แสดงว่าถูกเฉินฝานขายแล้วทุกวันนี้ ผู้ชายขายภรรยานั้นเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไปดังนั้น เมื่อฉินเต๋อโห่วเห็นฉินเย่ว์ฉู่ เขาจึงตื่นเต้นมากฉินเต๋อโห่วกลัวนางไป๋เสียใจ จึงไม่กล้าถามข่าวคราวอีกภายหลัง เขาทนคำวิงวอนของนางไป๋ไม่ไหว หลังผ่านไปครึ่งปีฉินเต๋อโห่วเริ่มถามไถ่อีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้รับในครั้งนี้คือเฉินฝานไม่ให้ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวกินข้าว และยังทุบตีฉินเย่ว์โหรวจนขาหักหลังจากได้ยินข่าว นางไป๋ถึงกระทั่งล้มป่วยอาการหนัก หากฉินเต๋อโห่วไม่บอกนางว่าถ้านางจากไปตอนนี้ เมื่อหลาน ๆ ของนางกลับมาแล้วไม่เห็นนาง พวกนางคงจะเสียใจมากที่จา
Read more
PREV
1
...
1314151617
...
73
DMCA.com Protection Status