Share

บทที่ 144

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-07-05 18:00:00
แม้เฉินฝานพูดแล้วว่า พวกนางอยากซื้ออะไรให้ท่านปู่กับท่านย่า สามารถซื้อได้ตามใจชอบ แต่ถึงเวลาซื้อจริง ๆ พวกนางก็ยังระมัดระวังมาก

พวกนางสามคนเดินดูอยู่ครึ่งค่อนวัน กลับมาถึงก็ถือของเพียงสองสามอย่าง

เฉินฝานมองผ่าน ๆ

ข้าวสารไม่เกินห้าจิน บะหมี่ไม่เกินห้าจิน ผักกาดขาวสองหัว เนื้ออย่างมากหนึ่งจิน และยังคงเป็นเนื้อไม่ติดมัน แม้แต่เนื้อติดมันเล็กน้อยก็ไม่กล้าซื้อ

“ซื้อมาเท่านี้รึ?”

สามพี่น้องไม่กล้าตอบ ดังนั้น เฉินฝานจึงเงยหน้ามองพวกนาง

“นายท่าน…...”

แววตาที่ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานมีความแวววาว นางเม้มริมฝีปากสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างระมัดระวังว่า “พวกเราซื้อมากเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”

“หา?!”

เฉินฝานเพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน และเขายังไม่ค่อยเข้าใจผู้คนที่นี่นัก

พี่น้องตระกูลฉินซื้อสิ่งเหล่านี้ ถือว่าจำนวนไม่น้อยแล้ว

ฉินเย่ว์ฉู่กล่าว “ของเหล่านี้ พวกเรานำไปครึ่งหนึ่งดีหรือไม่!”

ฉินเย่ว์เจียว “ไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ได้”

“......พวกเจ้ารอข้าอยู่ในรถม้านะ!”

หลังจากทิ้งประโยคนี้ไว้เสร็จ เฉินฝานก็กระโดดลงจากรถม้า

สามพี่น้องไปซื้อของมานานถึงเพียงนี้ สายมากแล้ว ไม่ควรเสียเวลาสื่อสารกับพวกนางอีก

Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 145

    “ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจ ถ้าไม่มีท่านปู่กับท่านย่าของเจ้า ข้าจะได้แต่งงานกับภรรยาสวยงามดั่งดอกไม้เช่นพวกเจ้าได้อย่างไร”“ต่อให้เป็นทองคำหนึ่งหมื่นตำลึงข้าก็ยอม ไม่ต้องพูดถึงข้าวสารและบะหมี่เล็กน้อยเหล่านี้หรอก ที่สำคัญภรรยาตัวน้อยผู้น่ารักที่อยู่ใกล้ข้าที่สุดคนนี้!”เฉินฝานใช้นิ้วชี้แตะจมูกของฉินเย่ว์โหรว “ยังแอบจูบข้าเป็นครั้งคราว มีภรรยาน่ารักเช่นนี้ ข้า......”“นายท่าน ท่าน ท่านพูดจาไร้สาระอีกแล้วนะเจ้าคะ”ฉินเย่ว์โหรวปิดหน้าอย่างเขินอายนายท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร เสียวฉู่ยังอยู่ตรงนี้“เสียวฉู่ เจ้าว่าข้าพูดถูกหรือไม่?”“ขะ ข้าจะไปรู้พวกท่านได้อย่างไร”ฉินเย่ว์ฉู่ดึงม่านแล้ววิ่งออกไปนั่งข้างฉินเย่ว์เจียวข้างนอกเฉินฝานหัวเราะและเอนตัวลงบนรถม้า“นายท่านแกล้งพี่สี่ของเจ้าอีกแล้วใช่หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์ฉู่ ฉินเย่ว์เจียวก็เอ่ยถามลอย ๆ ขณะขับรถม้า“พี่สาม พี่หมายความว่า……” ฉินเย่ว์ฉู่ลังเลครู่หนึ่ง “นายท่านทำเช่นนี้ประจำหรือเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์เจียวพยักหน้า “ใช่ บ่อยมาก! นายท่านดูเหมือนจะชอบเห็นพี่สี่ของเจ้าเขินอาย เขาเลยหยอกล้อนางอยู่บ่อยครั้ง”“เมื่อก่อน เขาไม่เป็นเช่นนี

    Last Updated : 2024-07-06
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 146

    ตอนเปิดม่านเมื่อครู่นี้ นางตั้งใจลงมาด้วยตัวเอง แต่กลับถูกเฉินฝานที่ลงไปก่อนอุ้มลงมาเฉินฝานไม่ได้คิดมาก ในสายตาของเขา ฉินเย่ว์ฉู่ก็ไม่ต่างกับเอ้อร์ยา รถม้าสูงเล็กน้อยเขาเลยอุ้มลงมาโดยตรง“ขะ ข้าไม่ได้อนุญาต เขาทำไปเรื่อย”ใบหน้าของฉินเย่ว์ฉู่แดงเล็กน้อย นางก้มศีรษะและดึงมุมเสื้ออยู่อย่างนั้น“พี่ฝานเป็นคนดีขนาดนั้น ได้แต่งงานกับเขา นับว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ”“พี่สะใภ้!”ทันใดนั้น เอ้อร์ยาก็คว้ามือของฉินเย่ว์ฉู่ฉินเย่ว์ฉู่ดึงกลับโดยสัญชาตญาณ และถ้าเอ้อร์ยาไม่พูดเร็วกว่านี้ นางคงโยนเอ้อร์ยาลงไปที่พื้นแล้วลวี่ซิงฟาเคยหาคนมาฝึกให้นาง นางจึงรู้วิธีที่หลบหนีและสู้กลับอยู่บ้างเอ้อร์ยากล่าว “เราไปเล่นกันเถอะ!”ดวงตาเล็ก ๆ เป็นประกาย ไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ อยู่ในนั้น“อื้ม!” ฉินเย่ว์ฉู่ยังพูดไม่จบ เอ้อร์ยาก็คว้านางวิ่งเข้าไปในสวนและเริ่มเล่นโยนถุงหอมช่วงเทศกาลแข่งเรือมังกร[footnoteRef:1] ของทุกปี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวยากจนหรือร่ำรวย ผู้ใหญ่จะเตรียมถุงหอมสำหรับลูก ๆ ของตนเสมอ [1: เทศกาลแข่งเรือมังกร หรือที่เรียกว่า เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง เป็นการระลึกถึงวันที่คุดก้วนกวีผู้รักชาติแห่งรัฐฉู่

    Last Updated : 2024-07-06
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 147

    “นายท่าน เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เฉินฝาน รีบลูบหลังให้เขา“ข้าไม่เป็นไร ๆ!”เฉินฝานปัดมือแล้วมองฉินเย่ว์ฉู่ที่มีใบหน้าแดงระเรื่อ “ต่อจากนี้ไป เรียกว่าเสียวฉู่เถอะ”คำพูดประโยคนี้ เขาไม่เพียงพูดกับนางเจิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นการพูดกับทุกคนเขาตัดสินใจให้อิสระแก่ฉินเย่ว์ฉู่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า นางอยากแต่งงานกับใคร ให้นางเป็นคนเลือกเองนางเจิ้งย่อมเข้าใจความนัยของคำพูดของเฉินฝาน นางจึงยิ้มและกล่าว “เช่นนั้นก็เรียกว่าเสียวฉู่ เสียวฉู่ฟังดูดีเหมือนกัน”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวฟังออกเหมือนกัน ฉินเย่ว์เจียวเป็นคนใจร้อน“นายท่าน ท่านไม่ต้องการเสียวฉู่แล้วหรือเจ้าคะ? หรือเพราะว่านาง……”หรือเพราะว่านางเคยเป็นขโมยมาก่อนนี่คือสิ่งที่ฉินเย่ว์เจียวไม่ได้พูดออกมาฉินเย่ว์ฉู่ก้มหัวลงและไม่พูดอะไรท้ายที่สุดแล้ว นางก็ถูกรังเกียจ“เสี่ยวฝาน เสียวฉู่นาง……”แม้แต่เฉินผิงยังกล่าว “รูปร่างผอมไปเล็กน้อย แต่ลุงมองแล้วคิดว่านางเป็นเด็กฉลาด หากดูแลอย่างดีสักสองสามปี นางจะกลายเป็นหญิงงามที่โดดเด่นอย่างแน่นอน”ความจริง เฉินผิงอยากพูดว่า เขาหวังว่าเฉินฝานจะไม่รังเก

    Last Updated : 2024-07-06
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 148

    ครอบครัวฝ่ายหญิงของสามพี่น้อง ไม่เพียงแต่ไม่มีการส่งข้าว แป้งและเงิน แต่ยังให้เฉินฝานช่วย สามพี่น้องนี้ก็กล้ารับจริง ๆ ช่างหน้าด้านเหลือเกินแท้จริงแล้ว สิ่งที่ชาวบ้านพูดนั้นถูกต้อง พวกนางไม่มีสินเดิมติดตัว ปกติครอบครัวฝ่ายหญิงของพวกนางก็ไม่เคยมีใครส่งอะไรมาให้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินฝานสมัยก่อนเลวทรามมากก่อนที่เฉินฝานจะตกลงไปในหุบเขา น้ำลายของคนในหมู่บ้านคงสูงท่วมตัวพวกนาง ไม่ใช่เฉินฝานเฉินฝานมองด้วยความโกรธ “พวกเจ้าเก็บคำพูดเมื่อครู่นี้ของคนในหมู่บ้านมาใส่ใจใช่หรือไม่ ถือไว้!”เฉินฝานยัดถุงเงินใส่มือของฉินเย่ว์โหรว “เงินเหล่านี้ไม่ได้ให้เจ้าเสียหน่อย ให้ท่านปู่กับท่านย่าของเจ้าต่างหาก เจ้าพูดตั้งหลายครั้งไม่ใช่หรือว่า”“ขาของท่านปู่ไม่ดี ตาของท่านย่าไม่ดี ตอนนี้พวกเขาอายุมากขนาดนี้ สุขภาพก็ยังย่ำแย่ขนาดนี้ แล้วเจ้ามีใจที่จะปล่อยให้คนแก่สองคน ใช้ร่างกายที่อ่อนแอและอายุมากไปทำงานลำบากในฤดูหนาวเพื่อความอยู่รอดเช่นนั้นรึ?”เย่ว์โหรวเจ็บจี๊ดที่จมูกนางอยากบอกว่าท่านปู่กับท่านย่ามีเงินเก็บอยู่บ้างแต่เมื่อคิดดูแล้ว เงินออมของท่านปู่กับท่านย่าทั้งหมดถูกนำมาใช้เป็นสินสอดตอนพวกนางแต่ง

    Last Updated : 2024-07-06
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 149

    หลังคาเป็นกระเบื้อง แต่ปูไว้บางมากและมีกระเบื้องหลายแผ่นที่ผุพัง วันที่ฝนตก ข้างนอกฝนตกหนัก ข้างในฝนตกโปรยปรายแน่นอนเมื่อถึงฤดูร้อน ทนสักหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไป แต่เมื่อถึงฤดูหนาวคงลำบากไม่น้อย เรือนที่มีช่องลมเต็มไปหมดนี้ต้องหนาวแน่ ๆไม้เน่าบางส่วนถูกนำมาทำเป็นรั้วรอบบ้าน เมื่อมองผ่านรั้วจะเห็นลานสวนที่เป็นหลุมเป็นบ่อมุมหนึ่งของสวน เสื้อผ้าสองสามชิ้นที่ตากไว้ก็เป็นเสื้อผ้าที่มีการปะอีกสองหลังที่อยู่ติดกับเรือนอิฐดินหลังนี้ดูดีกว่ามากแม้ว่าจะเป็นเรือนทำจากอิฐดินทั้งหมด แต่ก็เป็นของใหม่ กระเบื้องบนหลังคาก็ปูไว้อย่างหนากระเบื้องเหล่านั้นไม่ดีเท่ากับที่เฉินฝานสั่งกับโรงเผา คงเผาด้วยตนเองท่าทางของสามพี่น้องตระกูลฉิน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมันคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนออกเรือนฉินเย่ว์โหรวผลักประตูที่ทำจากไม้กระดานเก่าหลายแผ่นฉินเย่ว์เจียวเดินเข้าไปคนแรก“ท่านปู่ ท่านย่า!”ฉินเย่ว์โหรวกับฉินเย่ว์ฉู่เดินตามเข้าไป และเอ่ยเรียกท่านปู่กับท่านย่าเหมือนกันไม่มีใครตอบพวกนาง ภายในเรือนเงียบสงบฉินเย่ว์ฉู่ที่มือเท้าว่องไววิ่งดูห้องสามห้องในพริบตาเดียว “ท่านปู่กับท่านย่าไม่อยู่ที่เรือน!”

    Last Updated : 2024-07-07
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 150

    ฉินเต๋อโห่วและนางไป๋ไม่เคยเห็นเฉินฝานมาก่อน ตอนนั้นทางการส่งสามพี่น้องไปที่หมู่บ้านซานเหอโดยตรงหลังจากสามพี่น้องไปถึงหมู่บ้านซานเหอ หากไม่ได้รับอนุญาตจากหลานเขย ประกอบกับครอบครัวยังขาดแคลนเงินมากและไม่มีของอะไรให้ คนชราสองคนจึงไม่เคยไปหมู่บ้านซานเหออยากเห็นหลานสาว ทำได้เพียงอดทนเมื่อไปหาไม่ได้ ก็ถามไถ่จากคนหลายคนเมื่อได้ยินว่าฉินเย่ว์ฉู่ไม่อยู่ในหมู่บ้านซานเหออีกต่อไป นางไป๋ร้องไห้จนเป็นลมพวกเขาเข้าใจดี ถ้าไม่อยู่ในหมู่บ้านซานเหอก็แสดงว่าถูกเฉินฝานขายแล้วทุกวันนี้ ผู้ชายขายภรรยานั้นเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไปดังนั้น เมื่อฉินเต๋อโห่วเห็นฉินเย่ว์ฉู่ เขาจึงตื่นเต้นมากฉินเต๋อโห่วกลัวนางไป๋เสียใจ จึงไม่กล้าถามข่าวคราวอีกภายหลัง เขาทนคำวิงวอนของนางไป๋ไม่ไหว หลังผ่านไปครึ่งปีฉินเต๋อโห่วเริ่มถามไถ่อีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้รับในครั้งนี้คือเฉินฝานไม่ให้ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวกินข้าว และยังทุบตีฉินเย่ว์โหรวจนขาหักหลังจากได้ยินข่าว นางไป๋ถึงกระทั่งล้มป่วยอาการหนัก หากฉินเต๋อโห่วไม่บอกนางว่าถ้านางจากไปตอนนี้ เมื่อหลาน ๆ ของนางกลับมาแล้วไม่เห็นนาง พวกนางคงจะเสียใจมากที่จา

    Last Updated : 2024-07-07
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 151

    “ท่านย่า พี่สามไม่ได้หลอกลวงท่าน” ฉินเย่ว์โหรวรีบอธิบายทันที “ตอนนี้นายท่านไม่เฆี่ยนพวกข้าแล้ว แถมยังหาเงินได้มากขึ้นอีกด้วย ท่านย่า ท่านดูสิ!”ฉินเหย่ว์โหรวกระชับเสื้อนวมนุ่มยัดฝ้ายละเอียดบนร่างกายให้เข้าหาตัวน้ำเสียงของนางฟังดูผ่อนคลายและมีความสุขมาก“เนื้อผ้าของเสื้อตัวนี้เป็นฝ้ายใยละเอียดอย่างดี เป็นเสื้อที่นายท่านเพิ่งซื้อให้พวกข้า ไม่เพียงแค่บนตัวของข้าเท่านั้น เสื้อผ้าบนตัวของพี่สามและน้องโหรวต่างก็ทำจากเนื้อผ้าใหม่เอี่ยมประเภทนี้ทั้งสิ้น”“ฝ้ายใยละเอียดเช่นนั้นหรือ?”“ใช่ ท่านย่า ท่านดูสิ!”สายตาของนางไป๋ค่อนข้างพร่ามัว ฉินเย่ว์โหรวจึงยกแขนขึ้นมาตรงหน้าของนาง ในขณะที่นางไป๋กำลังเพ่งพินิจอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ถูกฉินเต๋อโห่วที่เดินเข้ามาตัดบทเสียอย่างนั้นในมือของฉินเต๋อโห่วถือถุงผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเย็บปะใบหนึ่ง เดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเฉินฝาน จากนั้นก็ยื่นถุงผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเย็บปะนั้นให้เขาเฉินฝานมองถุงผ้าด้วยสีหน้าสงสัยและไม่ยอมยื่นมือออกไปรับฉินเย่ว์โหรวยืนขึ้นด้วยสายตาคมกริบ “ท่านปู่ ตอนนี้ในบ้านของพวกข้ามีข้าวสารมากพอแล้ว ท่านไม่ต้องเอามาให้พวกข้าแล้วล่ะ”ฉินเต๋อโ

    Last Updated : 2024-07-07
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 152

    “พวกเจ้าเร่งมือหน่อย ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเข้ามาในบ้านแล้ว!”เสียงของฉินเต๋อโห่วยังไม่ทันสิ้นสุด ก็มีเสียงสาปแช่งด่าทอดังมาจากข้างนอก ตามมาด้วยการปรากฎตัวของบุรุษสองคนและสตรีสองคนในมือของพวกเขามีทั้งไม้คานหาบ พลั่วขุดดิน ไม้กวาด ไปจนถึงมีดทันทีที่เข้ามาก็จ้องเขม็งไปยังเฉินฝานด้วยสายตาดุดันโหดร้ายฉินเย่ว์เจียวปกป้องน้องสาวทั้งสองคนไว้ด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ“ท่านลุง ท่านป้า.......”“ใครคือลุงและป้าของเจ้า!”สิ้นสุดเสียงของฉินเย่ว์เจียว บุรุษที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดในบรรดาทั้งสี่คนก็ตะโกนด่าเสียงดังเขาคือลุงรองของพี่น้องตระกูลฉิน ฉินไฉจิน“หญิงที่เกิดมาก็เลี้ยงเสียข้าวสุกอย่างพวกเจ้า ใครใช้ให้กลับมาไม่ทราบ รีบไสหัวออกไปจากบ้านของข้าเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น.....”“ไม่อย่างนั้นจะทำไม?”เฉินฝานพูดต่อจากคำพูดของฉินไฉจินด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“อย่างไรเล่า?” ฉินไฉจินแกว่งมีดทำครัวในมือไปมา“ไฉจิน”ฉินเต๋อโห่ววิ่งมาตรงหน้าของเฉินฝาน รีบอธิบายให้กับฉินไฉจินเข้าใจ “พวกเขาแค่คิดถึงพวกข้า กลับมาเยี่ยมพวกข้าเท่านั้น”“เยี่ยมพวกท่านเช่นนั้นหรือ?” นางเย่ภรรยาของฉินไฉจินเค้นเสียงออกมา ก่อนจะกล

    Last Updated : 2024-07-07

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 850

    “ผู้จัดสรร มิสามารถแบ่งให้คนนอกที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ถูกต้องแล้ว แบ่งให้คนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามิได้!”คนรับใช้สองสามคนข้างกายเหลยหย่งอัน พูดเสริมทันที“เช่นนั้นนายน้อยเหลยคิดว่าผู้ใดเป็นผู้จัดสรรจึงจะเหมาะสม?”มีคนตะโกนถามท่ามกลางผู้เหลือรอดเหลยหย่งอันเลิกคิ้วขึ้นทันที ประโยคที่เขารอก็คือประโยคนี้ผู้นั้นเพิ่งจะกล่าวจบ เหลยหย่งอันก็ส่งสายตาไปที่คนรับใช้ข้างกายทันที“ร้านค้าตระกูลเหลยมากมายมหาศาล นายน้อยของพวกเราก็มีส่วนร่วมดูแล ไปตรวจสอบที่ร้านค้าทุกเดือน”ตรวจสอบแบบใดกัน ไปเกี้ยวพาราสีสตรีในร้านเสียมากกว่าเรื่องนี้ทุกคนในเมืองเซียนตูทราบดี เพียงแต่มิอยากให้เหลยหย่งอันมิพอใจ จึงมิมีผู้ใดกล้าพูดเปิดโปง“ดังนั้น...” คนใช้ผู้นั้นกล่าวต่อ “ผู้จัดสรรนี้ นายน้อยของข้าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด “ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเจ้า...” เหลยหย่งอันยกมือขึ้นทำท่าทางแบกรับรับความผิดชอบไว้เพียงผู้เดียว “คนที่ร่วมทุกข์กับข้าทุกคน ขอเพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ ก็สามารถไปรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงได้ที่ตระกูลเหลยของพวกเรา”เพื่อที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดสรรนี้ เหลยห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 849

    “ต่อให้เสบียงอาหารทั้งหมดต้องถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเท่าเทียม เช่นนั้นไฉนอำนาจในการจัดการจัดแบ่งต้องเป็นเจ้าคนเดียวงั้นหรือ? เจ้าเป็นใครกัน?”ชายหนุ่มที่สวมชุดผ้าไหมอย่างดี ศีรษะสวมหมวกสีทองประดับด้วยไข่มุกเดินเข้ามากล่าวถามเฉินฝานด้วยท่าทีโอหังบุคคลนี้คือลูกชายคนโตของตระกูลเหลยเก่าแก่อันดับหนึ่งของเมืองเซียนตู เหลยหย่งอันด้วยความที่ชาติตระกูลมีเงินและอำนาจ เหลยหย่งอันได้รับสมญานามให้เป็นอันธพาลอันดับหนึ่งในเมืองเซียนตู ปกติก็มักจะรังแกผู้ชายข่มเหงผู้หญิง กระทำชั่วทุกรูปแบบสำหรับวีรกรรมของเหลยหย่งอันแล้ว เจ้าเมืองซื่อต้าเผิงต้องยอมปล่อยผ่านไปเหลยหย่งอันรู้สึกว่ามิถูกชะตาเฉินฝานอยู่ก่อนแล้วเรือนเซียนผาสุกมีกฎว่านอกจากผู้ฟังโชคดี่ถูกเมี่ยวอวี่สุ่มเลือกมา บุคคลที่ให้เงินรางวัลจำนวนมากที่สุด เมี่ยวอวี่ก็จะบรรเลงพิณเป็นการส่วนตัวเช่นกันทว่า ทุกปีจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นต้นปีเหลยหย่งอันก็เริ่มให้เงินรางวัลจำนวนมหาศาล ในที่สุดเมื่อมาถึงเดือนท้ายปีก็ได้ลำดับที่หนึ่งมาครองเห็นว่าตนเองสามารถเข้าไปในกระท่อมหิมะพบกับเมี่ยวอวี่ ได้ฟังพิณที่นางบรรเลงให้ตนเองโดยเฉพาะ กลับคาดมิถึงว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 848

    เรือนเซียนผาสุกมีชื่อเสียงเงินทองมหาศาลดังคาด จำนวนเสบียงที่กักตุนไว้ตอนฤดูหนาว มากกว่าเสบียงครึ่งปีของครอบครัวสามัญชนเสียอีกตรงข้ามกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น เฉินฝานยิ่งฟัง คิ้วยิ่งขมวดหนักขึ้นเรื่อย ๆน้อยไป น้อยเกินไปแล้วคนสามร้อยกว่าคน ต่อให้กินอาหารวันละหนึ่งมื้อ เสบียงอาหารเหล่านี้ก็หมดเกลี้ยงเพียงในพริบตาเดียว“เสบียงอาหารของกระท่อมหิมะนำออกมาไว้ที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?” เฉินฝานหันหน้ากล่าวถามเมี่ยวอวี่“กระท่อมหิมะแห่งนี้ของข้ามิได้ใหญ่โตเสียหน่อย ตุนไว้จำนวนมากเพียงนั้น ยังมินับว่าเยอะอีกหรือ?” เมี่ยวอวี่ย้อนถามเฉินฝาน“ก็จริง” เฉินฝานหัวเราะสมเพชตนเองในส่วนลึกของหัวใจ หวังว่าจะมีเยอะกว่านี้“ตอนนี้นับเสบียงเรียบร้อยแล้ว รีบแบ่งให้ทุกคนเถอะ”มีคนเร่งเร้าหิวจนทนมิไหวแล้วจริง ๆ“แบ่งมิได้!” เฉินฝานกล่าว“มิแบ่งงั้นหรือ?”สายตาสามร้อยกว่าคนจับจ้องไปที่เฉินฝานอย่างพร้อมเพียงมิเข้าใจ มิเชื่อเสบียงอาหารทั้งหมดถูกขนย้ายออกมานับจำนวนแล้ว ไม่เพียงแต่จำนวนเสบียงเท่านั้น จำนวนคนก็นับแล้วเช่นกันทำถึงเพียงนี้แล้ว เฉินฝานกลับกล่าวว่ามิแบ่งแล้ว“เจ้าหมายความว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 847

    เขายืนกรานไม่ยอมนำเสบียงออกมามิใช่หรือ ไฉนตอนนี้ต้องการเอาออกมา และยังต้องนำออกมาทั้งหมดอีกด้วยเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่?“ทำไมล่ะ? แม่นางเมี่ยวอวี่มิเห็นด้วยงั้นหรือ?” เฉินฝานกล่าวถาม“โอ้ ไม่ใช่หรอก!” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างรีบร้อน “แน่นอนว่าข้าต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เจ้ารีบพาคนไปนำเสบียงอาหารในคลังออกมาทั้งหมด”“ช้าก่อน!” เฉินฝานเรียกยายจ้าวไว้ “เพื่อให้มั่นใจว่าเสบียงอาหารทั้งหมดจะถูกขนย้ายออกมา เย่ว์เจียวเจ้าไปตามยายจ้าวไปด้วย พวกเจ้า... ”เฉินฝานหันไปกล่าวกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น “ก็ส่งหนึ่งคนตามไปด้วย”ผ่านไปครู่เดียว เสบียงอาหารทั้งหมดในกระท่อมหิมะถูกขนมาไว้ด้านหน้าฝูงชนเฉินฝานมองดูเสบียงอาหารที่กองเป็นพะเนินด้านหน้า กล่าวอย่างเนิบนาบ “โอ้ จำนวนมิน้อยเลยนะเนี่ย”“อากาศเย็น คร้านออกไปจับจ่าย ดังนั้นจึงซื้อจำนวนมากในคราวเดียว” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างมิใส่ใจมากนักเสบียงอาหารเหล่านั้นมีจำนวนมากก็จริงทว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนจำนวนมากเพียงนี้อยู่รอด!ท้ายที่สุด ก็ยังคงต้องตายอยู่ดีเหล่าผู้เหลือรอด มิได้มองการณ์ไกลเช่นนั้น พวกเขาที่หิวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว มองเสบียงอาห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

DMCA.com Protection Status