Share

บทที่ 144

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
แม้เฉินฝานพูดแล้วว่า พวกนางอยากซื้ออะไรให้ท่านปู่กับท่านย่า สามารถซื้อได้ตามใจชอบ แต่ถึงเวลาซื้อจริง ๆ พวกนางก็ยังระมัดระวังมาก

พวกนางสามคนเดินดูอยู่ครึ่งค่อนวัน กลับมาถึงก็ถือของเพียงสองสามอย่าง

เฉินฝานมองผ่าน ๆ

ข้าวสารไม่เกินห้าจิน บะหมี่ไม่เกินห้าจิน ผักกาดขาวสองหัว เนื้ออย่างมากหนึ่งจิน และยังคงเป็นเนื้อไม่ติดมัน แม้แต่เนื้อติดมันเล็กน้อยก็ไม่กล้าซื้อ

“ซื้อมาเท่านี้รึ?”

สามพี่น้องไม่กล้าตอบ ดังนั้น เฉินฝานจึงเงยหน้ามองพวกนาง

“นายท่าน…...”

แววตาที่ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานมีความแวววาว นางเม้มริมฝีปากสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างระมัดระวังว่า “พวกเราซื้อมากเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”

“หา?!”

เฉินฝานเพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน และเขายังไม่ค่อยเข้าใจผู้คนที่นี่นัก

พี่น้องตระกูลฉินซื้อสิ่งเหล่านี้ ถือว่าจำนวนไม่น้อยแล้ว

ฉินเย่ว์ฉู่กล่าว “ของเหล่านี้ พวกเรานำไปครึ่งหนึ่งดีหรือไม่!”

ฉินเย่ว์เจียว “ไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ได้”

“......พวกเจ้ารอข้าอยู่ในรถม้านะ!”

หลังจากทิ้งประโยคนี้ไว้เสร็จ เฉินฝานก็กระโดดลงจากรถม้า

สามพี่น้องไปซื้อของมานานถึงเพียงนี้ สายมากแล้ว ไม่ควรเสียเวลาสื่อสารกับพวกนางอีก

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 145

    “ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจ ถ้าไม่มีท่านปู่กับท่านย่าของเจ้า ข้าจะได้แต่งงานกับภรรยาสวยงามดั่งดอกไม้เช่นพวกเจ้าได้อย่างไร”“ต่อให้เป็นทองคำหนึ่งหมื่นตำลึงข้าก็ยอม ไม่ต้องพูดถึงข้าวสารและบะหมี่เล็กน้อยเหล่านี้หรอก ที่สำคัญภรรยาตัวน้อยผู้น่ารักที่อยู่ใกล้ข้าที่สุดคนนี้!”เฉินฝานใช้นิ้วชี้แตะจมูกของฉินเย่ว์โหรว “ยังแอบจูบข้าเป็นครั้งคราว มีภรรยาน่ารักเช่นนี้ ข้า......”“นายท่าน ท่าน ท่านพูดจาไร้สาระอีกแล้วนะเจ้าคะ”ฉินเย่ว์โหรวปิดหน้าอย่างเขินอายนายท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร เสียวฉู่ยังอยู่ตรงนี้“เสียวฉู่ เจ้าว่าข้าพูดถูกหรือไม่?”“ขะ ข้าจะไปรู้พวกท่านได้อย่างไร”ฉินเย่ว์ฉู่ดึงม่านแล้ววิ่งออกไปนั่งข้างฉินเย่ว์เจียวข้างนอกเฉินฝานหัวเราะและเอนตัวลงบนรถม้า“นายท่านแกล้งพี่สี่ของเจ้าอีกแล้วใช่หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์ฉู่ ฉินเย่ว์เจียวก็เอ่ยถามลอย ๆ ขณะขับรถม้า“พี่สาม พี่หมายความว่า……” ฉินเย่ว์ฉู่ลังเลครู่หนึ่ง “นายท่านทำเช่นนี้ประจำหรือเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์เจียวพยักหน้า “ใช่ บ่อยมาก! นายท่านดูเหมือนจะชอบเห็นพี่สี่ของเจ้าเขินอาย เขาเลยหยอกล้อนางอยู่บ่อยครั้ง”“เมื่อก่อน เขาไม่เป็นเช่นนี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 146

    ตอนเปิดม่านเมื่อครู่นี้ นางตั้งใจลงมาด้วยตัวเอง แต่กลับถูกเฉินฝานที่ลงไปก่อนอุ้มลงมาเฉินฝานไม่ได้คิดมาก ในสายตาของเขา ฉินเย่ว์ฉู่ก็ไม่ต่างกับเอ้อร์ยา รถม้าสูงเล็กน้อยเขาเลยอุ้มลงมาโดยตรง“ขะ ข้าไม่ได้อนุญาต เขาทำไปเรื่อย”ใบหน้าของฉินเย่ว์ฉู่แดงเล็กน้อย นางก้มศีรษะและดึงมุมเสื้ออยู่อย่างนั้น“พี่ฝานเป็นคนดีขนาดนั้น ได้แต่งงานกับเขา นับว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ”“พี่สะใภ้!”ทันใดนั้น เอ้อร์ยาก็คว้ามือของฉินเย่ว์ฉู่ฉินเย่ว์ฉู่ดึงกลับโดยสัญชาตญาณ และถ้าเอ้อร์ยาไม่พูดเร็วกว่านี้ นางคงโยนเอ้อร์ยาลงไปที่พื้นแล้วลวี่ซิงฟาเคยหาคนมาฝึกให้นาง นางจึงรู้วิธีที่หลบหนีและสู้กลับอยู่บ้างเอ้อร์ยากล่าว “เราไปเล่นกันเถอะ!”ดวงตาเล็ก ๆ เป็นประกาย ไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ อยู่ในนั้น“อื้ม!” ฉินเย่ว์ฉู่ยังพูดไม่จบ เอ้อร์ยาก็คว้านางวิ่งเข้าไปในสวนและเริ่มเล่นโยนถุงหอมช่วงเทศกาลแข่งเรือมังกร[footnoteRef:1] ของทุกปี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวยากจนหรือร่ำรวย ผู้ใหญ่จะเตรียมถุงหอมสำหรับลูก ๆ ของตนเสมอ [1: เทศกาลแข่งเรือมังกร หรือที่เรียกว่า เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง เป็นการระลึกถึงวันที่คุดก้วนกวีผู้รักชาติแห่งรัฐฉู่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 147

    “นายท่าน เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เฉินฝาน รีบลูบหลังให้เขา“ข้าไม่เป็นไร ๆ!”เฉินฝานปัดมือแล้วมองฉินเย่ว์ฉู่ที่มีใบหน้าแดงระเรื่อ “ต่อจากนี้ไป เรียกว่าเสียวฉู่เถอะ”คำพูดประโยคนี้ เขาไม่เพียงพูดกับนางเจิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นการพูดกับทุกคนเขาตัดสินใจให้อิสระแก่ฉินเย่ว์ฉู่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า นางอยากแต่งงานกับใคร ให้นางเป็นคนเลือกเองนางเจิ้งย่อมเข้าใจความนัยของคำพูดของเฉินฝาน นางจึงยิ้มและกล่าว “เช่นนั้นก็เรียกว่าเสียวฉู่ เสียวฉู่ฟังดูดีเหมือนกัน”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวฟังออกเหมือนกัน ฉินเย่ว์เจียวเป็นคนใจร้อน“นายท่าน ท่านไม่ต้องการเสียวฉู่แล้วหรือเจ้าคะ? หรือเพราะว่านาง……”หรือเพราะว่านางเคยเป็นขโมยมาก่อนนี่คือสิ่งที่ฉินเย่ว์เจียวไม่ได้พูดออกมาฉินเย่ว์ฉู่ก้มหัวลงและไม่พูดอะไรท้ายที่สุดแล้ว นางก็ถูกรังเกียจ“เสี่ยวฝาน เสียวฉู่นาง……”แม้แต่เฉินผิงยังกล่าว “รูปร่างผอมไปเล็กน้อย แต่ลุงมองแล้วคิดว่านางเป็นเด็กฉลาด หากดูแลอย่างดีสักสองสามปี นางจะกลายเป็นหญิงงามที่โดดเด่นอย่างแน่นอน”ความจริง เฉินผิงอยากพูดว่า เขาหวังว่าเฉินฝานจะไม่รังเก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 148

    ครอบครัวฝ่ายหญิงของสามพี่น้อง ไม่เพียงแต่ไม่มีการส่งข้าว แป้งและเงิน แต่ยังให้เฉินฝานช่วย สามพี่น้องนี้ก็กล้ารับจริง ๆ ช่างหน้าด้านเหลือเกินแท้จริงแล้ว สิ่งที่ชาวบ้านพูดนั้นถูกต้อง พวกนางไม่มีสินเดิมติดตัว ปกติครอบครัวฝ่ายหญิงของพวกนางก็ไม่เคยมีใครส่งอะไรมาให้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินฝานสมัยก่อนเลวทรามมากก่อนที่เฉินฝานจะตกลงไปในหุบเขา น้ำลายของคนในหมู่บ้านคงสูงท่วมตัวพวกนาง ไม่ใช่เฉินฝานเฉินฝานมองด้วยความโกรธ “พวกเจ้าเก็บคำพูดเมื่อครู่นี้ของคนในหมู่บ้านมาใส่ใจใช่หรือไม่ ถือไว้!”เฉินฝานยัดถุงเงินใส่มือของฉินเย่ว์โหรว “เงินเหล่านี้ไม่ได้ให้เจ้าเสียหน่อย ให้ท่านปู่กับท่านย่าของเจ้าต่างหาก เจ้าพูดตั้งหลายครั้งไม่ใช่หรือว่า”“ขาของท่านปู่ไม่ดี ตาของท่านย่าไม่ดี ตอนนี้พวกเขาอายุมากขนาดนี้ สุขภาพก็ยังย่ำแย่ขนาดนี้ แล้วเจ้ามีใจที่จะปล่อยให้คนแก่สองคน ใช้ร่างกายที่อ่อนแอและอายุมากไปทำงานลำบากในฤดูหนาวเพื่อความอยู่รอดเช่นนั้นรึ?”เย่ว์โหรวเจ็บจี๊ดที่จมูกนางอยากบอกว่าท่านปู่กับท่านย่ามีเงินเก็บอยู่บ้างแต่เมื่อคิดดูแล้ว เงินออมของท่านปู่กับท่านย่าทั้งหมดถูกนำมาใช้เป็นสินสอดตอนพวกนางแต่ง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 149

    หลังคาเป็นกระเบื้อง แต่ปูไว้บางมากและมีกระเบื้องหลายแผ่นที่ผุพัง วันที่ฝนตก ข้างนอกฝนตกหนัก ข้างในฝนตกโปรยปรายแน่นอนเมื่อถึงฤดูร้อน ทนสักหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไป แต่เมื่อถึงฤดูหนาวคงลำบากไม่น้อย เรือนที่มีช่องลมเต็มไปหมดนี้ต้องหนาวแน่ ๆไม้เน่าบางส่วนถูกนำมาทำเป็นรั้วรอบบ้าน เมื่อมองผ่านรั้วจะเห็นลานสวนที่เป็นหลุมเป็นบ่อมุมหนึ่งของสวน เสื้อผ้าสองสามชิ้นที่ตากไว้ก็เป็นเสื้อผ้าที่มีการปะอีกสองหลังที่อยู่ติดกับเรือนอิฐดินหลังนี้ดูดีกว่ามากแม้ว่าจะเป็นเรือนทำจากอิฐดินทั้งหมด แต่ก็เป็นของใหม่ กระเบื้องบนหลังคาก็ปูไว้อย่างหนากระเบื้องเหล่านั้นไม่ดีเท่ากับที่เฉินฝานสั่งกับโรงเผา คงเผาด้วยตนเองท่าทางของสามพี่น้องตระกูลฉิน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมันคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนออกเรือนฉินเย่ว์โหรวผลักประตูที่ทำจากไม้กระดานเก่าหลายแผ่นฉินเย่ว์เจียวเดินเข้าไปคนแรก“ท่านปู่ ท่านย่า!”ฉินเย่ว์โหรวกับฉินเย่ว์ฉู่เดินตามเข้าไป และเอ่ยเรียกท่านปู่กับท่านย่าเหมือนกันไม่มีใครตอบพวกนาง ภายในเรือนเงียบสงบฉินเย่ว์ฉู่ที่มือเท้าว่องไววิ่งดูห้องสามห้องในพริบตาเดียว “ท่านปู่กับท่านย่าไม่อยู่ที่เรือน!”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 150

    ฉินเต๋อโห่วและนางไป๋ไม่เคยเห็นเฉินฝานมาก่อน ตอนนั้นทางการส่งสามพี่น้องไปที่หมู่บ้านซานเหอโดยตรงหลังจากสามพี่น้องไปถึงหมู่บ้านซานเหอ หากไม่ได้รับอนุญาตจากหลานเขย ประกอบกับครอบครัวยังขาดแคลนเงินมากและไม่มีของอะไรให้ คนชราสองคนจึงไม่เคยไปหมู่บ้านซานเหออยากเห็นหลานสาว ทำได้เพียงอดทนเมื่อไปหาไม่ได้ ก็ถามไถ่จากคนหลายคนเมื่อได้ยินว่าฉินเย่ว์ฉู่ไม่อยู่ในหมู่บ้านซานเหออีกต่อไป นางไป๋ร้องไห้จนเป็นลมพวกเขาเข้าใจดี ถ้าไม่อยู่ในหมู่บ้านซานเหอก็แสดงว่าถูกเฉินฝานขายแล้วทุกวันนี้ ผู้ชายขายภรรยานั้นเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไปดังนั้น เมื่อฉินเต๋อโห่วเห็นฉินเย่ว์ฉู่ เขาจึงตื่นเต้นมากฉินเต๋อโห่วกลัวนางไป๋เสียใจ จึงไม่กล้าถามข่าวคราวอีกภายหลัง เขาทนคำวิงวอนของนางไป๋ไม่ไหว หลังผ่านไปครึ่งปีฉินเต๋อโห่วเริ่มถามไถ่อีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้รับในครั้งนี้คือเฉินฝานไม่ให้ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวกินข้าว และยังทุบตีฉินเย่ว์โหรวจนขาหักหลังจากได้ยินข่าว นางไป๋ถึงกระทั่งล้มป่วยอาการหนัก หากฉินเต๋อโห่วไม่บอกนางว่าถ้านางจากไปตอนนี้ เมื่อหลาน ๆ ของนางกลับมาแล้วไม่เห็นนาง พวกนางคงจะเสียใจมากที่จา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 151

    “ท่านย่า พี่สามไม่ได้หลอกลวงท่าน” ฉินเย่ว์โหรวรีบอธิบายทันที “ตอนนี้นายท่านไม่เฆี่ยนพวกข้าแล้ว แถมยังหาเงินได้มากขึ้นอีกด้วย ท่านย่า ท่านดูสิ!”ฉินเหย่ว์โหรวกระชับเสื้อนวมนุ่มยัดฝ้ายละเอียดบนร่างกายให้เข้าหาตัวน้ำเสียงของนางฟังดูผ่อนคลายและมีความสุขมาก“เนื้อผ้าของเสื้อตัวนี้เป็นฝ้ายใยละเอียดอย่างดี เป็นเสื้อที่นายท่านเพิ่งซื้อให้พวกข้า ไม่เพียงแค่บนตัวของข้าเท่านั้น เสื้อผ้าบนตัวของพี่สามและน้องโหรวต่างก็ทำจากเนื้อผ้าใหม่เอี่ยมประเภทนี้ทั้งสิ้น”“ฝ้ายใยละเอียดเช่นนั้นหรือ?”“ใช่ ท่านย่า ท่านดูสิ!”สายตาของนางไป๋ค่อนข้างพร่ามัว ฉินเย่ว์โหรวจึงยกแขนขึ้นมาตรงหน้าของนาง ในขณะที่นางไป๋กำลังเพ่งพินิจอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ถูกฉินเต๋อโห่วที่เดินเข้ามาตัดบทเสียอย่างนั้นในมือของฉินเต๋อโห่วถือถุงผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเย็บปะใบหนึ่ง เดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเฉินฝาน จากนั้นก็ยื่นถุงผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเย็บปะนั้นให้เขาเฉินฝานมองถุงผ้าด้วยสีหน้าสงสัยและไม่ยอมยื่นมือออกไปรับฉินเย่ว์โหรวยืนขึ้นด้วยสายตาคมกริบ “ท่านปู่ ตอนนี้ในบ้านของพวกข้ามีข้าวสารมากพอแล้ว ท่านไม่ต้องเอามาให้พวกข้าแล้วล่ะ”ฉินเต๋อโ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 152

    “พวกเจ้าเร่งมือหน่อย ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเข้ามาในบ้านแล้ว!”เสียงของฉินเต๋อโห่วยังไม่ทันสิ้นสุด ก็มีเสียงสาปแช่งด่าทอดังมาจากข้างนอก ตามมาด้วยการปรากฎตัวของบุรุษสองคนและสตรีสองคนในมือของพวกเขามีทั้งไม้คานหาบ พลั่วขุดดิน ไม้กวาด ไปจนถึงมีดทันทีที่เข้ามาก็จ้องเขม็งไปยังเฉินฝานด้วยสายตาดุดันโหดร้ายฉินเย่ว์เจียวปกป้องน้องสาวทั้งสองคนไว้ด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ“ท่านลุง ท่านป้า.......”“ใครคือลุงและป้าของเจ้า!”สิ้นสุดเสียงของฉินเย่ว์เจียว บุรุษที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดในบรรดาทั้งสี่คนก็ตะโกนด่าเสียงดังเขาคือลุงรองของพี่น้องตระกูลฉิน ฉินไฉจิน“หญิงที่เกิดมาก็เลี้ยงเสียข้าวสุกอย่างพวกเจ้า ใครใช้ให้กลับมาไม่ทราบ รีบไสหัวออกไปจากบ้านของข้าเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น.....”“ไม่อย่างนั้นจะทำไม?”เฉินฝานพูดต่อจากคำพูดของฉินไฉจินด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“อย่างไรเล่า?” ฉินไฉจินแกว่งมีดทำครัวในมือไปมา“ไฉจิน”ฉินเต๋อโห่ววิ่งมาตรงหน้าของเฉินฝาน รีบอธิบายให้กับฉินไฉจินเข้าใจ “พวกเขาแค่คิดถึงพวกข้า กลับมาเยี่ยมพวกข้าเท่านั้น”“เยี่ยมพวกท่านเช่นนั้นหรือ?” นางเย่ภรรยาของฉินไฉจินเค้นเสียงออกมา ก่อนจะกล

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status