แชร์

บทที่ 144

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
แม้เฉินฝานพูดแล้วว่า พวกนางอยากซื้ออะไรให้ท่านปู่กับท่านย่า สามารถซื้อได้ตามใจชอบ แต่ถึงเวลาซื้อจริง ๆ พวกนางก็ยังระมัดระวังมาก

พวกนางสามคนเดินดูอยู่ครึ่งค่อนวัน กลับมาถึงก็ถือของเพียงสองสามอย่าง

เฉินฝานมองผ่าน ๆ

ข้าวสารไม่เกินห้าจิน บะหมี่ไม่เกินห้าจิน ผักกาดขาวสองหัว เนื้ออย่างมากหนึ่งจิน และยังคงเป็นเนื้อไม่ติดมัน แม้แต่เนื้อติดมันเล็กน้อยก็ไม่กล้าซื้อ

“ซื้อมาเท่านี้รึ?”

สามพี่น้องไม่กล้าตอบ ดังนั้น เฉินฝานจึงเงยหน้ามองพวกนาง

“นายท่าน…...”

แววตาที่ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานมีความแวววาว นางเม้มริมฝีปากสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างระมัดระวังว่า “พวกเราซื้อมากเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”

“หา?!”

เฉินฝานเพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน และเขายังไม่ค่อยเข้าใจผู้คนที่นี่นัก

พี่น้องตระกูลฉินซื้อสิ่งเหล่านี้ ถือว่าจำนวนไม่น้อยแล้ว

ฉินเย่ว์ฉู่กล่าว “ของเหล่านี้ พวกเรานำไปครึ่งหนึ่งดีหรือไม่!”

ฉินเย่ว์เจียว “ไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ได้”

“......พวกเจ้ารอข้าอยู่ในรถม้านะ!”

หลังจากทิ้งประโยคนี้ไว้เสร็จ เฉินฝานก็กระโดดลงจากรถม้า

สามพี่น้องไปซื้อของมานานถึงเพียงนี้ สายมากแล้ว ไม่ควรเสียเวลาสื่อสารกับพวกนางอีก

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 145

    “ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจ ถ้าไม่มีท่านปู่กับท่านย่าของเจ้า ข้าจะได้แต่งงานกับภรรยาสวยงามดั่งดอกไม้เช่นพวกเจ้าได้อย่างไร”“ต่อให้เป็นทองคำหนึ่งหมื่นตำลึงข้าก็ยอม ไม่ต้องพูดถึงข้าวสารและบะหมี่เล็กน้อยเหล่านี้หรอก ที่สำคัญภรรยาตัวน้อยผู้น่ารักที่อยู่ใกล้ข้าที่สุดคนนี้!”เฉินฝานใช้นิ้วชี้แตะจมูกของฉินเย่ว์โหรว “ยังแอบจูบข้าเป็นครั้งคราว มีภรรยาน่ารักเช่นนี้ ข้า......”“นายท่าน ท่าน ท่านพูดจาไร้สาระอีกแล้วนะเจ้าคะ”ฉินเย่ว์โหรวปิดหน้าอย่างเขินอายนายท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร เสียวฉู่ยังอยู่ตรงนี้“เสียวฉู่ เจ้าว่าข้าพูดถูกหรือไม่?”“ขะ ข้าจะไปรู้พวกท่านได้อย่างไร”ฉินเย่ว์ฉู่ดึงม่านแล้ววิ่งออกไปนั่งข้างฉินเย่ว์เจียวข้างนอกเฉินฝานหัวเราะและเอนตัวลงบนรถม้า“นายท่านแกล้งพี่สี่ของเจ้าอีกแล้วใช่หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์ฉู่ ฉินเย่ว์เจียวก็เอ่ยถามลอย ๆ ขณะขับรถม้า“พี่สาม พี่หมายความว่า……” ฉินเย่ว์ฉู่ลังเลครู่หนึ่ง “นายท่านทำเช่นนี้ประจำหรือเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์เจียวพยักหน้า “ใช่ บ่อยมาก! นายท่านดูเหมือนจะชอบเห็นพี่สี่ของเจ้าเขินอาย เขาเลยหยอกล้อนางอยู่บ่อยครั้ง”“เมื่อก่อน เขาไม่เป็นเช่นนี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 146

    ตอนเปิดม่านเมื่อครู่นี้ นางตั้งใจลงมาด้วยตัวเอง แต่กลับถูกเฉินฝานที่ลงไปก่อนอุ้มลงมาเฉินฝานไม่ได้คิดมาก ในสายตาของเขา ฉินเย่ว์ฉู่ก็ไม่ต่างกับเอ้อร์ยา รถม้าสูงเล็กน้อยเขาเลยอุ้มลงมาโดยตรง“ขะ ข้าไม่ได้อนุญาต เขาทำไปเรื่อย”ใบหน้าของฉินเย่ว์ฉู่แดงเล็กน้อย นางก้มศีรษะและดึงมุมเสื้ออยู่อย่างนั้น“พี่ฝานเป็นคนดีขนาดนั้น ได้แต่งงานกับเขา นับว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ”“พี่สะใภ้!”ทันใดนั้น เอ้อร์ยาก็คว้ามือของฉินเย่ว์ฉู่ฉินเย่ว์ฉู่ดึงกลับโดยสัญชาตญาณ และถ้าเอ้อร์ยาไม่พูดเร็วกว่านี้ นางคงโยนเอ้อร์ยาลงไปที่พื้นแล้วลวี่ซิงฟาเคยหาคนมาฝึกให้นาง นางจึงรู้วิธีที่หลบหนีและสู้กลับอยู่บ้างเอ้อร์ยากล่าว “เราไปเล่นกันเถอะ!”ดวงตาเล็ก ๆ เป็นประกาย ไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ อยู่ในนั้น“อื้ม!” ฉินเย่ว์ฉู่ยังพูดไม่จบ เอ้อร์ยาก็คว้านางวิ่งเข้าไปในสวนและเริ่มเล่นโยนถุงหอมช่วงเทศกาลแข่งเรือมังกร[footnoteRef:1] ของทุกปี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวยากจนหรือร่ำรวย ผู้ใหญ่จะเตรียมถุงหอมสำหรับลูก ๆ ของตนเสมอ [1: เทศกาลแข่งเรือมังกร หรือที่เรียกว่า เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง เป็นการระลึกถึงวันที่คุดก้วนกวีผู้รักชาติแห่งรัฐฉู่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 147

    “นายท่าน เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เฉินฝาน รีบลูบหลังให้เขา“ข้าไม่เป็นไร ๆ!”เฉินฝานปัดมือแล้วมองฉินเย่ว์ฉู่ที่มีใบหน้าแดงระเรื่อ “ต่อจากนี้ไป เรียกว่าเสียวฉู่เถอะ”คำพูดประโยคนี้ เขาไม่เพียงพูดกับนางเจิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นการพูดกับทุกคนเขาตัดสินใจให้อิสระแก่ฉินเย่ว์ฉู่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า นางอยากแต่งงานกับใคร ให้นางเป็นคนเลือกเองนางเจิ้งย่อมเข้าใจความนัยของคำพูดของเฉินฝาน นางจึงยิ้มและกล่าว “เช่นนั้นก็เรียกว่าเสียวฉู่ เสียวฉู่ฟังดูดีเหมือนกัน”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวฟังออกเหมือนกัน ฉินเย่ว์เจียวเป็นคนใจร้อน“นายท่าน ท่านไม่ต้องการเสียวฉู่แล้วหรือเจ้าคะ? หรือเพราะว่านาง……”หรือเพราะว่านางเคยเป็นขโมยมาก่อนนี่คือสิ่งที่ฉินเย่ว์เจียวไม่ได้พูดออกมาฉินเย่ว์ฉู่ก้มหัวลงและไม่พูดอะไรท้ายที่สุดแล้ว นางก็ถูกรังเกียจ“เสี่ยวฝาน เสียวฉู่นาง……”แม้แต่เฉินผิงยังกล่าว “รูปร่างผอมไปเล็กน้อย แต่ลุงมองแล้วคิดว่านางเป็นเด็กฉลาด หากดูแลอย่างดีสักสองสามปี นางจะกลายเป็นหญิงงามที่โดดเด่นอย่างแน่นอน”ความจริง เฉินผิงอยากพูดว่า เขาหวังว่าเฉินฝานจะไม่รังเก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 148

    ครอบครัวฝ่ายหญิงของสามพี่น้อง ไม่เพียงแต่ไม่มีการส่งข้าว แป้งและเงิน แต่ยังให้เฉินฝานช่วย สามพี่น้องนี้ก็กล้ารับจริง ๆ ช่างหน้าด้านเหลือเกินแท้จริงแล้ว สิ่งที่ชาวบ้านพูดนั้นถูกต้อง พวกนางไม่มีสินเดิมติดตัว ปกติครอบครัวฝ่ายหญิงของพวกนางก็ไม่เคยมีใครส่งอะไรมาให้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินฝานสมัยก่อนเลวทรามมากก่อนที่เฉินฝานจะตกลงไปในหุบเขา น้ำลายของคนในหมู่บ้านคงสูงท่วมตัวพวกนาง ไม่ใช่เฉินฝานเฉินฝานมองด้วยความโกรธ “พวกเจ้าเก็บคำพูดเมื่อครู่นี้ของคนในหมู่บ้านมาใส่ใจใช่หรือไม่ ถือไว้!”เฉินฝานยัดถุงเงินใส่มือของฉินเย่ว์โหรว “เงินเหล่านี้ไม่ได้ให้เจ้าเสียหน่อย ให้ท่านปู่กับท่านย่าของเจ้าต่างหาก เจ้าพูดตั้งหลายครั้งไม่ใช่หรือว่า”“ขาของท่านปู่ไม่ดี ตาของท่านย่าไม่ดี ตอนนี้พวกเขาอายุมากขนาดนี้ สุขภาพก็ยังย่ำแย่ขนาดนี้ แล้วเจ้ามีใจที่จะปล่อยให้คนแก่สองคน ใช้ร่างกายที่อ่อนแอและอายุมากไปทำงานลำบากในฤดูหนาวเพื่อความอยู่รอดเช่นนั้นรึ?”เย่ว์โหรวเจ็บจี๊ดที่จมูกนางอยากบอกว่าท่านปู่กับท่านย่ามีเงินเก็บอยู่บ้างแต่เมื่อคิดดูแล้ว เงินออมของท่านปู่กับท่านย่าทั้งหมดถูกนำมาใช้เป็นสินสอดตอนพวกนางแต่ง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 149

    หลังคาเป็นกระเบื้อง แต่ปูไว้บางมากและมีกระเบื้องหลายแผ่นที่ผุพัง วันที่ฝนตก ข้างนอกฝนตกหนัก ข้างในฝนตกโปรยปรายแน่นอนเมื่อถึงฤดูร้อน ทนสักหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไป แต่เมื่อถึงฤดูหนาวคงลำบากไม่น้อย เรือนที่มีช่องลมเต็มไปหมดนี้ต้องหนาวแน่ ๆไม้เน่าบางส่วนถูกนำมาทำเป็นรั้วรอบบ้าน เมื่อมองผ่านรั้วจะเห็นลานสวนที่เป็นหลุมเป็นบ่อมุมหนึ่งของสวน เสื้อผ้าสองสามชิ้นที่ตากไว้ก็เป็นเสื้อผ้าที่มีการปะอีกสองหลังที่อยู่ติดกับเรือนอิฐดินหลังนี้ดูดีกว่ามากแม้ว่าจะเป็นเรือนทำจากอิฐดินทั้งหมด แต่ก็เป็นของใหม่ กระเบื้องบนหลังคาก็ปูไว้อย่างหนากระเบื้องเหล่านั้นไม่ดีเท่ากับที่เฉินฝานสั่งกับโรงเผา คงเผาด้วยตนเองท่าทางของสามพี่น้องตระกูลฉิน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมันคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนออกเรือนฉินเย่ว์โหรวผลักประตูที่ทำจากไม้กระดานเก่าหลายแผ่นฉินเย่ว์เจียวเดินเข้าไปคนแรก“ท่านปู่ ท่านย่า!”ฉินเย่ว์โหรวกับฉินเย่ว์ฉู่เดินตามเข้าไป และเอ่ยเรียกท่านปู่กับท่านย่าเหมือนกันไม่มีใครตอบพวกนาง ภายในเรือนเงียบสงบฉินเย่ว์ฉู่ที่มือเท้าว่องไววิ่งดูห้องสามห้องในพริบตาเดียว “ท่านปู่กับท่านย่าไม่อยู่ที่เรือน!”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 150

    ฉินเต๋อโห่วและนางไป๋ไม่เคยเห็นเฉินฝานมาก่อน ตอนนั้นทางการส่งสามพี่น้องไปที่หมู่บ้านซานเหอโดยตรงหลังจากสามพี่น้องไปถึงหมู่บ้านซานเหอ หากไม่ได้รับอนุญาตจากหลานเขย ประกอบกับครอบครัวยังขาดแคลนเงินมากและไม่มีของอะไรให้ คนชราสองคนจึงไม่เคยไปหมู่บ้านซานเหออยากเห็นหลานสาว ทำได้เพียงอดทนเมื่อไปหาไม่ได้ ก็ถามไถ่จากคนหลายคนเมื่อได้ยินว่าฉินเย่ว์ฉู่ไม่อยู่ในหมู่บ้านซานเหออีกต่อไป นางไป๋ร้องไห้จนเป็นลมพวกเขาเข้าใจดี ถ้าไม่อยู่ในหมู่บ้านซานเหอก็แสดงว่าถูกเฉินฝานขายแล้วทุกวันนี้ ผู้ชายขายภรรยานั้นเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไปดังนั้น เมื่อฉินเต๋อโห่วเห็นฉินเย่ว์ฉู่ เขาจึงตื่นเต้นมากฉินเต๋อโห่วกลัวนางไป๋เสียใจ จึงไม่กล้าถามข่าวคราวอีกภายหลัง เขาทนคำวิงวอนของนางไป๋ไม่ไหว หลังผ่านไปครึ่งปีฉินเต๋อโห่วเริ่มถามไถ่อีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้รับในครั้งนี้คือเฉินฝานไม่ให้ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวกินข้าว และยังทุบตีฉินเย่ว์โหรวจนขาหักหลังจากได้ยินข่าว นางไป๋ถึงกระทั่งล้มป่วยอาการหนัก หากฉินเต๋อโห่วไม่บอกนางว่าถ้านางจากไปตอนนี้ เมื่อหลาน ๆ ของนางกลับมาแล้วไม่เห็นนาง พวกนางคงจะเสียใจมากที่จา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 151

    “ท่านย่า พี่สามไม่ได้หลอกลวงท่าน” ฉินเย่ว์โหรวรีบอธิบายทันที “ตอนนี้นายท่านไม่เฆี่ยนพวกข้าแล้ว แถมยังหาเงินได้มากขึ้นอีกด้วย ท่านย่า ท่านดูสิ!”ฉินเหย่ว์โหรวกระชับเสื้อนวมนุ่มยัดฝ้ายละเอียดบนร่างกายให้เข้าหาตัวน้ำเสียงของนางฟังดูผ่อนคลายและมีความสุขมาก“เนื้อผ้าของเสื้อตัวนี้เป็นฝ้ายใยละเอียดอย่างดี เป็นเสื้อที่นายท่านเพิ่งซื้อให้พวกข้า ไม่เพียงแค่บนตัวของข้าเท่านั้น เสื้อผ้าบนตัวของพี่สามและน้องโหรวต่างก็ทำจากเนื้อผ้าใหม่เอี่ยมประเภทนี้ทั้งสิ้น”“ฝ้ายใยละเอียดเช่นนั้นหรือ?”“ใช่ ท่านย่า ท่านดูสิ!”สายตาของนางไป๋ค่อนข้างพร่ามัว ฉินเย่ว์โหรวจึงยกแขนขึ้นมาตรงหน้าของนาง ในขณะที่นางไป๋กำลังเพ่งพินิจอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ถูกฉินเต๋อโห่วที่เดินเข้ามาตัดบทเสียอย่างนั้นในมือของฉินเต๋อโห่วถือถุงผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเย็บปะใบหนึ่ง เดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเฉินฝาน จากนั้นก็ยื่นถุงผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเย็บปะนั้นให้เขาเฉินฝานมองถุงผ้าด้วยสีหน้าสงสัยและไม่ยอมยื่นมือออกไปรับฉินเย่ว์โหรวยืนขึ้นด้วยสายตาคมกริบ “ท่านปู่ ตอนนี้ในบ้านของพวกข้ามีข้าวสารมากพอแล้ว ท่านไม่ต้องเอามาให้พวกข้าแล้วล่ะ”ฉินเต๋อโ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 152

    “พวกเจ้าเร่งมือหน่อย ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเข้ามาในบ้านแล้ว!”เสียงของฉินเต๋อโห่วยังไม่ทันสิ้นสุด ก็มีเสียงสาปแช่งด่าทอดังมาจากข้างนอก ตามมาด้วยการปรากฎตัวของบุรุษสองคนและสตรีสองคนในมือของพวกเขามีทั้งไม้คานหาบ พลั่วขุดดิน ไม้กวาด ไปจนถึงมีดทันทีที่เข้ามาก็จ้องเขม็งไปยังเฉินฝานด้วยสายตาดุดันโหดร้ายฉินเย่ว์เจียวปกป้องน้องสาวทั้งสองคนไว้ด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ“ท่านลุง ท่านป้า.......”“ใครคือลุงและป้าของเจ้า!”สิ้นสุดเสียงของฉินเย่ว์เจียว บุรุษที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดในบรรดาทั้งสี่คนก็ตะโกนด่าเสียงดังเขาคือลุงรองของพี่น้องตระกูลฉิน ฉินไฉจิน“หญิงที่เกิดมาก็เลี้ยงเสียข้าวสุกอย่างพวกเจ้า ใครใช้ให้กลับมาไม่ทราบ รีบไสหัวออกไปจากบ้านของข้าเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น.....”“ไม่อย่างนั้นจะทำไม?”เฉินฝานพูดต่อจากคำพูดของฉินไฉจินด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“อย่างไรเล่า?” ฉินไฉจินแกว่งมีดทำครัวในมือไปมา“ไฉจิน”ฉินเต๋อโห่ววิ่งมาตรงหน้าของเฉินฝาน รีบอธิบายให้กับฉินไฉจินเข้าใจ “พวกเขาแค่คิดถึงพวกข้า กลับมาเยี่ยมพวกข้าเท่านั้น”“เยี่ยมพวกท่านเช่นนั้นหรือ?” นางเย่ภรรยาของฉินไฉจินเค้นเสียงออกมา ก่อนจะกล

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1018

    ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง“ความเมตตาของสวรรค์ก็ไม่อาจทนต่อความโหดร้ายในโลกนี้ได้ ตอนที่ลูกชายของข้าออกไปปราบโจรครั้งที่ห้า โจรพวกนั้นฉวยโอกาสบุกเข้ามาในเมือง และเอาหลานชายฝาแฝดที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานของข้า...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอก็สะอื้นไม่หยุด ริมฝีปากอ้าอยู่หลายครั้งแต่ก็พูดไม่ออก“หลานชายฝาแฝดของเจ้าถูกโจรพวกนั้นฆ่าไปแล้วหรือ?”อ๋องตวนถามขึ้น ความจริงไม่ต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ อ๋องตวนก็นึกคำตอบได้แล้ว เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วส่งเสียงดังกร๊อบ“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องสังหารหัวหน้าโจรเหล่านั้นให้หมดอย่างแน่นอน!”“ท่านอ๋อง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเหอคุกเข่าลงอีกครั้ง “ทหารแคว้นจ้าวถูกขับไล่ไปแล้ว ขอร้องท่านกลับไปยังเมืองหลวงเสียเถิด”“หญิงชราผู้นี้เป็นอะไรไป?” อ๋องตวนโกรธจัดจนเต้นเร่า ๆ แล้ว“พวกเจ้าบอกว่าโจรส่วนมากล้วนเป็นลูกชายของชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะไม่ฆ่าโจรทั่วไป จะฆ่าแค่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้หรือ?”“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานดึงอ๋องตวนไว้"ผู้อาวุโส" เฉินฝานก้มตัวประคองนางเหอให้ลุกขึ้นมา“โจรให้หลานชายฝาแฝดของพวกท่านเป็นหัวหน้าแล้วใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1017

    “พวกสตรีชั่วช้าอยากจะฆ่าอัครเสนาบดีก็เหมือนก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้ายังจะขอร้องแทนพวกนางอีกหรือ?”อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยด้วยความเดือดดาลเหอจื้อเฟยคลานขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานต่อเพื่อขอร้องแทนสตรีเหล่านั้น “พวกนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ลูกชายของพวกนางล้วนอยู่ในกำมือของโจรพวกนั้น หลายคนถูกจับตัวไปตั้งแต่ที่ยังเด็กมาก ๆ พวกเขากลายเป็นโจรก็เพราะถูกบีบบังคับ”“เพราะว่าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมฝึกฝนกลายเป็นโจร หัวหน้าโจรเหล่านั้นก็จะสังหารมารดาของพวกเขาแทน”เหอจื้อเฟยเอ่ยคำพูดสองประโยคนี้ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นทั่วบริเวณแม้ว่าเฉินฝานจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเองกับหูถึงสิ่งที่เหอจื้อเฟยพูดออกมา เขาก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมาก แม่กลัวลูกต้องตาย จึงห้ามไม่ให้ทางการส่งทหารออกไปปราบโจรลูกกลัวแม่ต้องตาย จึงฝึกฝนสุดชีวิตเพื่อเป็นโจรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องยอมรับว่าหัวหน้าโจรพวกนั้นเฉลียวฉลาดมาก“นั่นเป็นเพราะเจ้าบกพร่องต่อหน้าที่!” อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยอีกครั้ง “หากเจ้าส่งคนไปกำจัดโจรพวกนี้ตั้งแต่แรก จะมีผลที่ตามมาเยอะถึงเพียงนี้หรือ?”ทันทีที่อ๋องตวนพูดจบก็มีสตรีผู้หนึ่งออก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1016

    “เมื่อครู่ข้าได้ยินชัดเจนว่าเจ้าแค่สั่งให้เหอจื้อเฟยไปปราบโจรเท่านั้น เหตุใดถึงไปทำร้ายลูกของพวกเขา...”อ๋องตวนพลันหยุดชะงัก“โจร?!” อ๋องตวนร้องอุทานขึ้นมา “หรือว่าโจรพวกนั้นก็คือลูกชายของพวกนาง?”“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วน” เฉินฝานพยักหน้าเช่นกัน“พวกเขาไม่ใช่โจรร้าย ขุนนางใหญ่สูงส่งอย่างพวกท่านจะไปเข้าใจอะไร?” บทสนทนาระหว่างอ๋องตวนกับเฉินฝานทำให้สตรีเหล่านั้นอารมณ์ร้อนมาก แต่ละคนเหมือนกับไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ไม่ปาน ผลักดันเบียดเสียดกันห้อมล้อมนักการในศาลาว่าการข้างกายเฉินฝานกับอ๋องตวนไว้ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ได้แล้ว ก็ใช้มีดหั่นผักในมือฟันใส่ทันที“เพล้ง!”อ๋องตวนโยนไหเหล้าในมือลงกับพื้น“พวกสตรีชั่วช้า พอพยัคฆ์ไม่แสดงบารมี พวกเจ้าก็เห็นว่าเป็นแมวป่วยใช่หรือไม่?” พวกนางคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร? ถ้าเสือไม่คำราม พวกเจ้าไม่เห็นรัศมีหรืออย่างไร?”อ๋องตวนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตะสตรีหลายคนจนกระเด็นไปทันทีอย่างไรก็ตามแม้สตรีหลายคนจะถูกถีบกระเด็น แต่ก็ไม่เกิดผลให้หวาดกลัวใด ๆ เลย สตรีเหล่านั้นกลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ปากตะโกนว่าจะให้พวกเฉินฝานตายไปพร้อมกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1015

    หญิงชราวัยประมาณหกสิบปีผู้หนึ่งขวางหน้าเหอจื้อเฟยไว้“ท่านแม่ ลูกต้องไปทำงาน ท่านอย่าขัดขวางลูกเลย” เหอจื้อเฟยเอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจคนที่ยืนขวางเหอจื้อเฟยไม่ให้เหอจื้อเฟยไปทำร้ายโจร ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมารดาของเขาเองนางเหอเหลือบมองดาบในมือของเหอจื้อเฟยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “งานของเจ้าอยู่ในที่ว่าการไม่ใช่หรือ? เจ้าเป็นขุนนาง ไม่อยู่ในที่ว่าการ ถือดาบวิ่งออกมา นี่จะไปทำสิ่งใด? เจ้าเป็นเพชฌฆาตหรือไร? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์หรือไร?”“ท่านแม่ ลูกมีงานราชการเร่งด่วนจริง ๆ ใครก็ได้!”เหอจื้อเฟยพูดพลางหันหน้าไปสั่งนักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างหลังเสียงดัง “พาฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน!” “ใครกล้าแตะต้องข้า!”นางเหอหยิบกรรไกรออกมาทันที แล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการที่เดินมาหานางหลังจากที่นักการในศาลาว่าการหยุดเดินไม่กล้าเดินข้างหน้า นางเหอก็ใช้กรรไกรจ่อคอตัวเองทันที“เหอจื้อเฟย เจ้าอย่าคิดว่าแม่แก่แล้วหูตาฟ้าฟาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ใด หากเจ้าไปสังหารโจรก็สังหารแม่ก่อน หลังจากนั้นค่อยข้ามศพของแม่ไป”“ท่านแม่ นี่ท่านทำอะไร?” ใบหน้าของเหอจื้อเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอับจนปัญญาอ๋องตวนถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1014

    โจรเข้ามาในเมืองกันหมดแล้ว แต่เหอจื้อเฟยกลับทำเป็นไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่สตรีวัยกลางคนยังบอกว่าเหอจื้อเฟยเป็นขุนนางที่ดี หรือว่าจะไม่กล้าพูดความจริงเฉินฝานบอกลาครอบครัวของสตรีวัยกลางคน แล้วรีบรุดไปยังที่ว่าการเมืองเฟิ่งหวงด้านนอกศาลาว่าการ เฉินฝานยังจงใจมองรอบหนึ่ง มีชายหลายคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการจริง ๆ ดวงตาชำเลืองมองศาลาว่าการของเมืองเฟิ่งหวงเป็นครั้งคราวสายตาของชายเหล่านั้นดูอำมหิตดุดัน มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาพวกเขาน่าจะเป็นโจรที่สตรีวัยกลางคนพูดถึงโจรป่าคอยนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ว่าการช่างอุกอาจนัก!เฉินฝานสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในที่ว่าการ“ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน เหอจื้อเฟยก็วิ่งเข้ามาหาทันทีเฉินฝานเองก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปหาเช่นกัน เมื่ออยู่ห่างจากเหอจื้อเฟยไม่ถึงห้าเมตร...“เคร้ง!”เฉินฝานชักดาบคู่กายของนักการในศาลาว่าการคนหนึ่งออกมาอย่างฉับไว“ตะ ใต้...”ขณะที่นักการในศาลาว่าการพูดติดอ่าง เฉินฟานก็ถือดาบชี้ไปที่เหอจื้อเฟยแล้วเหอจื้อเฟยมองเฉินฟานอย่างตกตะลึง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างเงียบงัน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1013

    “ใต้เท้า ซาลาเปาของข้าไม่ได้แพงเช่นนั้น หาได้มีราคาสูงถึงหนึ่งตำลึงไม่!”สตรีวัยกลางคนตอบไม่ตรงคำถาม นางห่อซาลาเปาบนแผงทั้งหมดให้เฉินฝาน เฉินฝานนึกว่าสตรีวัยกลางคนได้ยินคำพูดของตนไม่ชัด จึงคิดจะพูดอีกครั้งปรากฏว่าเขายังไม่ทันเอ่ยปาก สตรีวัยกลางคนก็เอ่ยขึ้นมาอีกทันที“อันที่จริงแล้วซาลาเปาพวกนี้ก็มิได้มีราคาสูงถึงหนึ่งตำลึงเช่นกัน! พ่อหนุ่ม วันนี้ข้าไม่ได้ทำมาเยอะขนาดนั้น!” สตรีวัยกลางคนพลันเอ่ยเสียงดัง “หากท่านยังต้องการ เช่นนั้นท่านก็รอสักครู่เถิด ข้าจะกลับไปทำเพิ่มให้ท่านอีกหนึ่งเข่ง ท่านรอไม่ไหว? เช่นนั้นรบกวนท่านไปกับข้าแล้ว”เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เฉินฝานก็เข้าใจในพริบตา สตรีวัยกลางคนทราบถึงเหตุผล แต่ตอนนี้นางไม่กล้าเอ่ยออกมาตรง ๆเฉินฝานติดตามสตรีวัยกลางคน เดินเลี้ยวเจ็ดแปดครั้งไม่นานก็มาถึงย่านทิศเหนือของเมืองย่านทิศเหนือของเมืองแร้นแค้น ผู้คนที่อาศัยอยู่ล้วนเป็นผู้ที่ยากจนที่สุดในเมืองนี้บ้านของสตรีวัยกลางคนสร้างด้วยฟางหญ้า เสาไม้ที่ค้ำกระท่อมฟางหญ้าผุกร่อนจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว แค่ลมพัดทีเดียวก็ดูอันตรายเต็มที ผุพังยิ่งกว่าบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านซานเหอหลังนั้นเมื่อตอนท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1012

    เหอจื้อเฟย ขุนนางของเมืองเฟิ่งหวงคุกเข่าลงกับพื้นดังตุบ “ท่านอ๋อง! ใต้เท้า! ต่อให้ข้าน้อยมีความกล้าอีกสิบเท่า ก็ไม่กล้าทำเช่นนี้หรอกขอรับ!”“เจ้ามิได้กระทำ เช่นนั้นเหตุใดจึงไม่มีผู้ใดมารับเงินเล่า?”“เรื่องนี้...” เหอจื้อเฟยทำสีหน้าลำบากใจ “ข้าน้อยก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นขอรับ”“เจ้าไม่รู้ แล้วเป็นขุนนางเมืองนี้ได้อย่างไร?” อ๋องตวนที่อารมณ์ร้อนและไม่มีความอดทนอะไรกวัดแกว่งกำปั้นขึ้นมาหมายจะอัดคน“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานรีบห้ามเขาทันที “ลุกขึ้นเถิด!” เฉินฝานกล่าวกับเหอจื้อเฟย“ขอบคุณขอรับใต้เท้า”เหอจื้อเฟยลุกขึ้นมาแล้ว แต่ท่าทางยังคงสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว พยายามยืนห่างจากอ๋องตวนเล็กน้อย“เจ้าออกไปเถิด พานักการในศาลาว่าการไปประกาศอีกครั้ง บางทีชาวบ้านจำนวนมากอาจยังไม่ทราบก็ได้”“ขอรับ ใต้เท้า!”เหอจื้อเฟยวิ่งออกไปราวกับหนีตายอ๋องตวนจ้องมองร่างของเหอจื้อเฟยที่จากไปอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวว่า “เฉินฝาน แค่เห็นเหอจื้อเฟยคนนั้นก็รู้ว่าพูดโกหกอยู่ เจ้าปล่อยเขาไปเช่นนี้ได้อย่างไร?”“ปล่อยเขาไป หากให้เขาอยู่ที่นี่ ท่านคิดว่าเขาจะพูดหรือ?”“อัดสักยกสิ!” อ๋องตวนชูกำปั้นขนาดใหญ่ของต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1011

    “ใช่ ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อน ทูตของเจ้าพูดจายกตนข่มท่านในพระราชวังต้าชิ่งของข้า บอกว่าหลังจากตะวันลับฟ้าอะไรนั่นยังตกลงกันไม่ได้ ก็จะให้ต้าชิ่งของข้าชดใช้เงินสามสิบล้านตำลึงให้กับพวกเจ้า”“นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสั่งสอนมาใช่หรือไม่? คนต่ำช้าเจ้าเล่ห์!”“ปัง!”อ๋องตวนต่อยไปที่ศีรษะของจ้าวรุ่ยอีกครั้ง “ใครใช้ให้เจ้าตั้งเงื่อนไขส่งเดชเล่า ตอนนี้ก็รับกรรมที่ก่อไว้เสียเถิด เอาตามเงื่อนไขของเสี่ยวฝาน ให้กองทัพสองแสนนายกับทหารรักษาพระองค์อีกหมื่นนายถอยกลับไปที่แคว้นจ้าวของพวกเจ้าก่อนตะวันตกดิน เงินสามสิบล้านตำลึงก็ต้องส่งมาถึงก่อนตะวันตกดินด้วยเช่นกัน” “เจ้าไม่ยอมหรือ...”อ๋องตวนยกกำปั้นขึ้นมาอีกครั้ง“เดี๋ยวก่อน!”แม้ว่าหมัดของอ๋องตวนจะไม่น่ากลัวเท่าปืนในมือเฉินฝาน แต่ก็ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวอยู่เหมือนกัน บัดนี้จ้าวรุ่ยถูกอัดจนจมูกเขียวหน้าบวมช้ำแล้วสุภาษิตกล่าวไว้ว่า หากเขาเขียวยังคงดำรงอยู่ ย่อมมิกลัวขาดฟืนต่อไปเขาจะต้องหาโอกาสล้างความอัปยศในวันนี้ได้อย่างแน่นอนจ้าวรุ่ยกัดฟัน “ได้! ข้า...รับปากพวกเจ้า!”“แต่ว่า ดีหรือร้ายอย่างไรข้าก็เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้นหนึ่ง พวกเจ้ามิอาจให

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1010

    “แหะๆ!” อ๋องตวนหัวเราะแห้งๆ “ไม่อาจปิดบังเจ้าได้สักเรื่องจริงๆ”“ว่าแต่ เสี่ยวฝาน เมื่อวานเจ้าเป่ายิ้งฉุบได้เยี่ยมยอดจริงๆ ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป่ายิ้งฉุบเช่นนี้ก็ได้ เวลานั้นเจ้า...”ขณะพูด อ๋องตวนเริ่มทำไม้ทำมือมือซ้ายคือเฉินฝาน มือขวาคือตัวเขาเองจ้าวรุ่ยไม่เข้าใจ นึกว่าอ๋องตวนกำลังพูดความลับบางอย่าง ดังนั้นจึงเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ทั้งยังท่องจำเงียบๆเฉินฝาน "“..”“เช่นนั้นท่านก็เดาอยู่ที่นี่เถอะ รอท่านเดาออกแล้ว ข้าค่อยกลับมาเจรจากับจ้าวรุ่ย!”เฉินฝานขยับตัวหาท่านั่งที่สบาย“โอ๊ยๆ ไม่เดาแล้ว ข้าไม่เอาแล้ว!” อ๋องตวนรีบคว้าตัวเฉินฝาน แต่เฉินฝานไม่สนใจเขา หาที่ที่มีลมโกรก แล้วนอนพักผ่อน ไม่ว่าอ๋องตวนจะอ้อนวอนขอร้องเขาอย่างไร เขาก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน“เจ้าดูเจ้าสิ ดูเจ้าสิ ทำเสียงเรื่องหมดแล้ว!” จ้าวรุ่ยตำหนิอ๋องตวน“เฮ้อ ทุกครั้งที่ข้าอยากเล่นเป่ายิ้งฉุบ ก็ไม่อาจหยุดตนเองได้”“ชิๆๆ ไม่แปลกที่จักรพรรดิต้าชิ่งคนก่อนกล่าวว่าเจ้าไม่อาจประสบความสำเร็จ ทั้งยังสร้างปัญหาเก่ง วันนี้เห็นกับตาท่าจะเป็นเรื่องจริง”“ใช่ๆๆ!” อ๋องตวนพยักหน้า “ต่อไปนี้ข้า...”จู่ๆ อ๋องตวนก็หยุดลง หันไปม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status