All Chapters of เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ: Chapter 1111 - Chapter 1120

1302 Chapters

บทที่ 1111

ช่างเป็นปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งเสียจริงหลี่ชิงควบคุมม้าให้ทรงตัวมั่นคง มองไปทางหวงหวั่นเอ๋อร์ลมอ่อนๆโชยมา ทำให้ชุดกระโปรงสีครามลอยพลิ้ว ปอยผมบนหน้าผากหวงหวั่นเอ๋อร์สั่นไหวเบา ๆ เรือนร่างที่สูงโปร่งใบหน้าที่งดงาม แววตาที่เล่ห์เหลี่ยมเย็นชา“แม่นาง ข้าแค่ต้องการชีวิตโจรขายชาติด้านหลังเจ้าเท่านั้น ขอเพียงแค่เจ้าหลีกทางให้ ข้าก็จะไม่ถือโทษอันใด”“คนของเจ้าทำให้ข้าตกใจ เจ้ายังมิได้ขอโทษข้าเลย ข้ามีความจำเป็นอันใดที่ต้องหลีกทางให้เจ้า” หวงหวั่นเอ๋อร์กะพริบตากลมโต เสียงใสกังวานก็ยังไพเราะเสนาะหู สีหน้าของหลี่ชิ่งถมึงทึงขึ้นมาทันที “แม่นาง อย่าแข็งขืนมิดื่มสุราคารวะ แต่ดึงดันจะดื่มสุราลงทัณฑ์”“สุราคารวะ? สุราลงทัณฑ์งั้นรึ? มันคือสิ่งใดกัน?” หวั่นเอ๋อร์เอียงศีรษะเล็กน้อย ถามเฉินฝานอย่างจริงจัง “สิ่งใดเลิศรสกว่ากัน”“เอ่อ...” เฉินฝานเอามือกุมขมับ ตาเฒ่าหวงคงจะสอนลูกสาวเพียงศิลปะการต่อสู้เท่านั้น มิได้สอนความรู้ทั่วไปให้นางแน่ ๆ“ช่างเถอะ เจ้าไม่ต้องบอกข้าหรอก สุราลงทัณฑ์!” หวงหวั่นเอ๋อร์เงยหน้าสบตากับหลี่ชิ่ง “ข้าชอบดื่ม!”ระหว่างที่พูด สะบัดกระบี่ในมือ ปราณกระบี่แผ่พลังออกมาอีกครั
Read more

บทที่ 1112

เสียงฝีเท้าม้าที่ไล่ล่าหวงหวั่นเอ๋อร์เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ฉินเย่ว์เหมยยังคงถือกระบี่อ่อนที่มีรังสีเย็นยะเยือกเปล่งประกายอยู่ ทั้ง ๆที่ตอนนี้มีผู้คนมากมายแท้ ๆ ทว่ากลับมิมีผู้ใดกล้าปริปากพูดลมโชยมาทำให้ใบไม้เสียดสีกันดังพึ่บพั่บ เป็นความรู้สึกอึดอัดใจที่น่าหวาดกลัวคนอื่นมิกล้าปริปากพูดเพราะเกรงว่าฉินเย่ว์เหมยจะลงมือสังหาร แต่ที่พ่อลูกตระกูลเสิ่นมิพูด เพราะสงสัยตัวตนของฉินเย่ว์เหมยแววตาเย็นยะเยือกเข้มงวดของฉินเย่ว์เหมย มีความกระวนกระวายที่ยากจะสังเกตได้อยู่ มือถือกระบี่อ่อนอยากจะเก็บดาบทว่าไม่รู้วิธีก่อนที่ซูซิวฉีจะตายก็สั่งเสียย้ำแล้วย้ำอีกว่าฉินหย่งคังมิรู้วิชากระบี่ใดๆทั้งสิ้น มิว่าจะเวลาใดก็อย่าใช้วิชากระบี่เด็ดขาด มิเช่นนั้นเสิ่นหมิงหยวนจะต้องสงสัยว่าเขามิใช่ฉินหย่งคังเป็นแน่หากภารกิจวันนี้มิสำเร็จ ตัวตนถูกเปิดเผยอย่างรวดเร็วปานนั้น ก็คงจะเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างมากเป็นแน่“ฝ่าบาท ท่านรู้วิชากระบี่ด้วยรึ?” เสิ่นหมิงหยวนจ้องกระบี่ในมือฉินเย่ว์เหมยพลางกล่าวถาม น้ำเสียงและท่าทางมิเหมือนขุนนางพูดกับจักรพรรดิ แต่เหมือนผู้พิพากษาพูดกับผู้ทำผิดเสียมากกว่า“บังอาจ!”เสียงที
Read more

บทที่ 1113

“ต้าเฉียง เจ้าจากไปทั้งแบบนี้ พวกเราสามแม่ลูกจะทำเช่นใดเล่า?”“ลูกชายของข้า อย่าห้ามข้า ลูกชายข้าตายแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่จะมีความหมายอันใด”“พ่อ พ่อ พ่อข้ายังมิตาย พวกเจ้าจงขวางไว้อย่าให้เขาเอาไปฝัง เขายังมิตาย เขายังมิตาย!”ยังมิทันถึงศูนย์บรรเทาทุกข์ ก็ได้ยินเสียงโวยวายเสียงร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังมาจากที่ไกล ๆ เฉินฝานและฉินเย่ว์เหมยมองหน้ากันไปมา ในขณะเดียวกันก็เร่งฝีเท้าไปด้วยทางเข้าศูนย์บรรเทาทุกข์ เหล่าพลทหารทยอยขนศพไปด้านนอกอย่างต่อเนื่อง ญาติของคนตายเหล่านั้นร้องไห้ตะโกนอยู่ข้างกาย คิดจะขวางมิให้เหล่าทหารขนศพญาติที่เสียชีวิตไปแล้วของพวกเขาออกไปเหล่าพลทหารเมินเฉยต่อคำขอของญาติเหล่านั้น ทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด หากจัดการคนตายมิทันเวลาจะทำให้คนอีกจำนวนมากต้องพลอยเสียชีวิตไปด้วยคนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ล้วนเป็นชายหนุ่มที่ร่างกายกำยำ คนที่วิ่งตามศพเหล่านั้นล้วนเป็นคนแก่สตรีและเด็กเล็ก ตั้งปากทางเข้าศูนย์บรรเทาทุกข์จนไปถึงสุดทาง ล้วนเป็นภาพร่ำไห้กู่ร้องอย่างสิ้นหวัง ราวกับนรกบนดินมิมีผิด“พ่อ พ่อ ปล่อยพ่อข้าเดี๋ยวนี้!” มีเด็กสาวเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งคนหนึ่งหกล้มต
Read more

บทที่ 1114

ราษฎรที่เดือดดาลพากันปิดล้อมอีกครั้ง เรื่องครั้งนี้เกี่ยวกับความเป็นความตาย เฉินฝานมิมีเวลามาอธิบายเหตุผลกับคนเหล่านี้ จึงยิงปืนออกไปนัดสองนัด หลังจากที่ทำให้ราษฎรตกใจจนล่าถอยไปแล้ว ก็สั่งให้พลทหารเหล่านั้นขนย้ายคนกลับมาที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ทันทีราษฎรถูกเฉินฝานทำให้ตกใจกลัวจนล่าถอย เหล่าพลทหารทำตามที่เฉินฝานสั่ง“นี่กำลังทำอันใดกัน หากมิจัดการศพให้ทันเวลา ผลที่ตามมาก็จะ...”หมอหลี่วิ่งออกมาจากด้านในศูนย์บรรเทาทุกข์มากล่าวถาม ถูกเฉินฝานดึงคอเสื้อโยนร่างไปด้านหน้าทันที “รักษาได้ก็ต้องรักษาสิ หากรักษามิได้ก็ไสหัวหลบไป“ท่านพ่อ ท่านคิดว่าเขาขนคนเหล่านั้นกลับมาทำอันใด?”เสิ่นหยวนเลี่ยงที่ตามมากล่าวถามเสิ่นหมิงหยวน“คนเหล่านั้นล้วนเสียชีวิตไปแล้ว เฉินฝานคงจะมิได้คิดว่าตนเองเป็นเทพเจ้าจริงๆ เพียงเพราะถูกเหล่าราษฎรเมืองเฟิ่งหวงเรียกว่าท่านเทพเจ้าไม่กี่คำกระมัง”พรรคพวกข้างกายเสิ่นหมิงหยวนเยาะเย้ยเฉินฝาน ได้ทั้งเยาะเย้ยและถือโอกาสประจบประแจงพ่อลูกตระกูลเสิ่นไปด้วยเสิ่นหมิงหยวนถลึงตามองคนที่เยาะเย้ยเฉินฝานเจ้าโง่ มิรู้จักดูสถานการณ์“ท่านพ่อ เรื่องราษฎรเป็นเรื่องใหญ่หลวง พวกเราก็ไปดู
Read more

บทที่ 1115

จุดที่หวงหวั่นเอ๋อร์กด มีเพียงปล่อยให้คลายเองตามเวลาหรือให้นางแก้จุดให้เท่านั้นจึงสามารถคลายจุดได้ ยอดฝีมือยุทธภพเหล่านั้นที่หลี่ชิ่งและเสิ่นหมิงหยวนชุบเลี้ยงไว้มิมีทางทำได้หลังจากที่เสิ่นหมิงหยวนและเสิ่นหยวนเลี่ยงพูดมิได้แล้ว ด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ก็เงียบสงบลงอย่างมากดังคาดพ่อลูกตระกูลเสิ่นมิสามารถส่งเสียงได้ ฉินเย่ว์เหมยลงมาดูแลด้วยตนเอง มิมีผู้ใดกล้าก่อความวุ่นวายอีก ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ อยากรู้ว่าสรุปแล้วเฉินฝานจะทำสิ่งใดกันแน่ญาติของคนเหล่านั้นที่ ‘ตาย’ ไปแล้ว ในใจมีความเดือดดาลทว่าในขณะเดียวก็มีความหวังเล็กๆว่าญาติของพวกเขาจะเป็นดั่งที่เฉินฝานพูด ก็คือยังมิตายไป เพียงแค่หยุดหายใจไปชั่วครู่เท่านั้นคนด้านนอกอยากจะคิดอยากดูอย่างไร เฉินฝานก็มิมีเวลามาใส่ใจเรื่องเหล่านี้ เขาทำตามขั้นตอนจากความรู้การปฐมพยาบาลที่ได้เรียนรู้ในยุคปัจจุบันเฉินฝาน: “ฟางต้าไห่!”“ใต้เท้า ข้าน้อยอยู่นี้ขอรับ!” ฟางต้าไห่วิ่งมาด้านหน้าเฉินฝานอย่างรีบร้อน“นำคนที่ยังรู้สึกตัวแยกออกไปก่อน!”“แยกออกไปหรือขอรับ? พวกเขา...”“ข้าเรียกเจ้าเข้ามารับคำสั่งเท่านั้น มิได้ให้เจ้ามาพูดพล
Read more

บทที่ 1116

“มาสิ!”เฉินฝานกระโดดทะยานตัว แหวกแนวทหารรักษาพระองค์ที่ล้อมเขาไว้ออกไปยืนต่อหน้าเหล่าญาติที่เสียสติเหล่านั้น“ใครอยากจะสังหารข้า จงดาหน้าเข้ามา!”จู่ ๆ เฉินฝานก็มายืนต่อหน้าคนเหล่านั้นเช่นนี้ กลับทำให้พวกเขามึนงง สติหลุดไปชั่วขณะหนึ่ง“จะต้องมีกับดักเป็นแน่ เขามีอาวุธสังหารที่ชั่วร้ายอยู่กับตัว!”หลังจากที่มีคนกล่าวเตือน ญาติเหล่านั้นก็ถอยหลังไปเล็กน้อย ทว่าก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พวกเขายังคงปิดล้อมถลึงตาจ้องเขม็งไปที่เฉินฝาน“สิ่งนี้งั้นรึ?”เฉินฝานชักดาบปลายปืนออกมาจากเอวหลังจากนั้นโยนไปบนพื้นทันทีพลางตะโกนลั่น “ใครจะสังหารข้า จงดาหน้าเข้ามา!”ญาติเหล่านั้นมองกันไปมา คิดจะรุดหน้าขึ้น ทว่าก็กลัวว่าจะมีกับดับ“กลัวกันหมดแล้วล่ะสิ เช่นนั้นจงอยู่นิ่ง ๆ อย่าได้หนีไปไหน อีกประเดี๋ยวญาติของพวกเจ้าฟื้นแล้ว จงมาคุกเข่าสารภาพผิดกับข้า!”พูดจบเฉินฝานก็สะบัดแขนเสื้อ แล้วจึงสาวเท้าเดินกลับไปที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ญาติเหล่านั้นมิมีผู้ใดโวยวาย ทำเพียงมองเฉินฝานเดินจากไปอย่างนิ่งเงียบ มิใช่ว่าพวกเขาเชื่อคำพูดของเฉินฝาน ทว่าถูกรังสีของเฉินฝานทำให้ตกใจจนทำสิ่งใดมิถูกทั้ง ๆ ที่เฉินฝานมิได้
Read more

บทที่ 1117

ใบสั่งยาของเฉินฝานเขียนไว้เพียงสองบรรทัดเท่านั้น บรรทัดแรกเขียนว่า จงต้มน้ำให้เดือดเดี๋ยวนี้ บรรทัดที่สองเขียนว่าจงใส่น้ำตาลและเกลือลงในน้ำเดือด ตัวอักษรบรรทัดที่สองยาวกว่าบรรทัดแรกเล็กน้อย เพราะเฉินฝานต้องการระบุว่าน้ำ หนักหนึ่งชั่งต้องใส่น้ำตาลและเกลืออย่างละกี่กรัม“นี่มิใช่สิ่งที่เจ้าควรถาม จงทำตามคำสั่งเดี๋ยวนี้!”เรื่องใบสั่งยาที่เฉินฝานแจกจ่ายไป มินานนักก็แพร่กระจายไปด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ใส่น้ำตาลและเหลือลงไปในน้ำเดือด ก็สามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้งั้นรึ?ฝูงชนแปรเปลี่ยนจากความเดือดดาลเป็นความสงสัย“พวกเจ้าว่า เฉินฝานผู้นั้นเสียสติไปแล้วหรือไม่?”“เขาก็คงจะมิได้ถูกโอวหยางน่าหลันของแคว้นหลู่วางยา จนทำให้สมองมีปัญหาแล้วหรอกหรือ?”“โอวหยางน่าหลันเป็นคนชั่วร้าย วิธีการค่อนข้างโหดเหี้ยม ก็ใช่ว่านางจะมิสามารถใช้วิธีเช่นนี้กับอัครเสนาบดีต้าชิ่งของพวกเราได้”ระหว่างที่พูดไป คาดมิถึงว่าจะมีคนเริ่มรู้สึกสงสารเฉินฝาน คิดว่าที่เฉินฝานวางยาพิษเพราะถูกโอวหยางน่าหลันบีบบังคับ ความคิดของเหล่าฝูงชนกำลังไปในทางที่ทำให้คนคาดมิถึงในหมู่คนที่ร้อนรนใจที่สุดก็คงจะเป็นพ่อลูกตระกูลเสิ
Read more

บทที่ 1118

มิอยากเชื่อว่าหมอหลี่จะลงมือทันที“หมอหลี่ เจ้าหยิกข้าปานนี้ ข้าเจ็บมิเป็นหรือกระไร?” จางเถี่ยหนิวถูกหมอหลี่หยิกจนหน้านิ่วคิ้วขมวดหมอหลี่กำลังจะอ้าปากพูดอีกครั้ง เขาคิดที่จะพูด ทว่ากลับถูกเสียงอึกทึกครึกโครมด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์กลบมิด“ใต้เท้า พวกเราผิดไปแล้ว ใต้เท้าโปรดลงโทษ!”ญาติของคนตายเหล่านั้นคุกเข่ากันเป็นทิวแถว ร้องขอให้เฉินฝานยกโทษให้“ขอบคุณความเมตตาที่ใต้เท้าช่วยชีวิตขอรับ!”มิเพียงด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์เท่านั้น ด้านในก็มีเสียงขอบคุณดังกระหึ่มเช่นกัน จางเถี่ยหนิวที่อยู่ด้านหน้าหมอหลี่ก็คุกเข่าให้เฉินฝานเช่นกัน“นี่....”เมื่อหมอหลี่หันหน้ากลับไป ก็ตัวแข็งทื่อทันทีมิเพียงแต่จางเถี่ยหนิวเท่านั้น คนที่ตายไปเมื่อครู่นี้ฟื้นขึ้นมาทุกคนแล้วเฉินฝานใช้น้ำเดือดที่ใส่น้ำตาลและเกลือช่วยชีวิตคนที่ตายไปแล้วให้ฟื้นกลับมา!!หมอหลี่รุดหน้าขึ้น ทำความเคารพขั้นสูงสุดในหมู่หมอด้วยกันให้กับเฉินฝาน “ใต้เท้า ท่านเป็นหมอเทวดาจริงๆเสียด้วย!”“ท่านหมอเทวดา ขอบคุณความเมตตาที่ใต้เท้าช่วยชีวิตขอรับ!”คนที่ตายแล้วได้ฟื้นคืนชีพใหม่น้อมคำนับขอบคุณเฉินฝานอย่างต่อเนื่อง คนด้านนอกศูนย์บร
Read more

บทที่ 1119

หมอหลี่ถูมือแล้วถูมืออีกจึงปริปากพูด “ใต้เท้า ถึงแม้คนเหล่านี้จะฟื้นแล้ว ทว่าพิษในเรือนร่างพวกเขายังมิถูกถอน เดิมทีพิษหญ้าไส้ขาก็มิมียารักษาให้หายขาดได้อยู่แล้ว นับประสาอันใดกับหญ้าไส้ขาดชนิดพิเศษในร่างกายพวกเขากัน”เฉินฝานหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาวางพู่กันลง “ชนิดพิเศษงั้นรึ? หญ้าไส้ขาดมีการแบ่งชนิดธรรมดากับชนิดพิเศษด้วยงั้นรึ?”หมอหลี่กล่าว “ใต้เท้ายังมิรู้ มีคนที่จิตใจโหดเหี้ยม ลอบปลูกหญ้าไส้ขาด ใช้สารพิษในการเลี้ยงให้หญ้าเจริญเติบโต ทำให้พิษของหญ้าไส้ขาดรุนแรงขึ้นหลายเท่าขอรับ”เฉินฝาน : “เจ้าพูดเช่นนี้ข้าเข้าใจแล้ว ก็คือพิษหญ้าไส้ขาดเข้มข้นเพียงพอ โยนลงไปแหล่งน้ำ จึงสามารถทำให้ติดพิษได้ในวงกว้าง”“ถูกต้องขอรับ แต่ ถึงแม้หญ้าไส้ขาดจะพิษรุนแรง ทว่าก็มีวิธีการยุ่งยากในการปลูก โดยเฉพาะชนิดที่พิษรุนแรงเช่นนี้ หากมิมีผู้เชี่ยวชาญ หากมิมีกำลังทรัพย์และกำลังคนที่มากพอล้วนมิสามารถปลูกออกมาได้สำเร็จ ดังนั้น...”จู่ ๆ หมอหลี่ก็หยุดพูดไปมองเฉินฝานโดยที่มิพูดอันใดเฉินฝาน: “ดังนั้นพวกเจ้ากำลังสงสัยว่าข้าเป็นคนทำ”“ราษฎรมิได้สงสัย แต่ปักใจเชื่อไปแล้ว ใต้เท้า” หมอหลี่ขอความเมตตาแทนราษฎร “เรื่อ
Read more

บทที่ 1120

ผู้ที่มาเยือนคือทหารประจำกายของฉินเย่ว์เหมย เมื่อเฉินฝานเห็นเขาก็รีบรุดหน้ามาหาทันที “ฝ่าบาทเป็นอันใดไปงั้นรึ?”“ฝ่าบาทมิได้เป็นอันใดขอรับ แต่เป็นเรื่องร้านขายเครื่องปรุงยาจีนจำนวนมากไฟไหม้พร้อมกันต่างหากขอรับ”เมื่อได้ยินว่ามิใช่เรื่องของฉินเย่ว์เหมย เฉินฝานก็โล่งใจทันที โบกมืออย่างมิแยแสพลางกล่าวว่า “เช่นนั้นก็รีบให้ท่านเจ้าเมืองลู่พานอีเฟยไปดับไฟก็ใช้ได้แล้ว หน้าที่ของเจ้าคืออารักขาฝ่าบาท รีบกลับไปเถอะ”ปรากฏว่าเขาพูดมิทันจบ มีร่างเงาหนึ่งพุ่งตัวจากด้านข้างเฉินฝานออกไป ตอนที่พุ่งตัวออกก็ยังชนเข้ากับเฉินฝานอีกด้วยเฉินฝานกำลังคิดว่าผู้ใดบังอาจมาชนเขา มิรู้จักมองตาม้าตาเรือ คนผู้นั้นก็ตะโกนอย่างเสียสติเสียงดังลั่น“รีบไปดับไฟ ไร้ซึ่งเครื่องยาจีน จะทำอย่างไรกับคนติดพิษเหล่านี้เล่า?”เมื่อฟังเสียงก็รู้ว่าเป็นหมอหลี่มิเพียงหมอหลี่เท่านั้น คนติดพิษในศูนย์บรรเทาทุกข์ก็พากันลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล คิดที่จะวิ่งออกไป เป็นดั่งที่หมอหลีพูด หากยาถูกเผาไหม้จนหมด เช่นนั้นพวกเขาจะรอดได้อย่างไร?“จงกลับไปนอนทั้งหมดเดี๋ยวนี้ ในเมืองมีทหารและขุนนางมากมายปานนั้น มิต้องให้ถึงมือพวกเจ้าไปดับไฟหร
Read more
PREV
1
...
110111112113114
...
131
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status