บททั้งหมดของ เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต: บทที่ 1041 - บทที่ 1050

1063

บทที่ 1041

ในขณะนั้น แรงกดดันที่เหนือธรรมชาติได้กดทับลงมาที่จัตุรัส ทำให้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ของสำนักกระบี่ ที่ต่างกำลังเข้ามาใกล้ ก็ต้องล่าถอยออกไปอย่างควบคุมไม่ได้แม้ว่าเย่ชิงชานจะไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายใคร แต่แรงกดดันนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะต้านทานได้ภายใต้แรงกดดัน บรรรดาลูกศิษย์ทำได้เพียงต้องถอยหลังกลับไป“นี่….มันเป็นไปได้ยังไง เธอเพิ่งมาที่สำนักได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ระดับความก้าวหน้าของเธอจะรวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”“ไม่ผิด นี่ก็เพิ่งผ่านไปไม่นานเอง และระดับวรยุทธก็แซงหน้าพวกเราไปแล้ว จะเป็นไปได้ยังไงกัน”เหล่าศิษย์ของสำนักกระบี่ร้องอุทาน ออกมาด้วยความประหลาดใจพร้อมกับก้าวเท้าถอยหลัง“เธอเป็นลูกศิษย์สายตรงของเจ้าสำนัก ส่วนนายเป็นเพียงลูกศิษย์ธรรมดา ดังนั้นไม่ควรเอาตัวเองไปเทียบกับศิษย์น้องเย่หรอก”“ต้องเป็นว่าเจ้าสำนักที่ให้ของวิเศษแก่เธอแน่นอน ไม่เช่นนั้นเรื่องมันจะไม่เป็นเช่นนี้หรอก”เมื่อเห็นว่าทิศทางของความคิดเห็นของสาธารณชนเริ่มหันเห แถมบางคนพูดจาว่าร้ายกับเจ้าสำนักอีกด้วยในฐานะศิษย์พี่ใหญ่อย่าง เจี้ยนอี้จำเป็นต้องลุกขึ้นและพูด“อย่าพูดจาเหลวไหล ศิษย์น้องเย่มีกายากร
Read More

บทที่ 1042

“หมายความว่าอะไรสามารถวัดรอยเท้ากับศิษย์พี่ใหญ่ จากที่ฉันเห็น พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน”“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเราจะเรียกเธอว่า ศิษย์น้องเล็กไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พวกเราควรเริ่มเรียกเธอว่า ศิษย์พี่หญิงดีกว่า”จากบทสนทนาไม่กี่ประโยค ลำแสงดาบทั้งสองปะทะกันไป ไม่น้อยกว่าร้อยครั้งเสียงดาบกระทบกันดังก้องไปทั่วสำนักกระบี่ เมื่อเวลาผ่านไป ลูกศิษย์ก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และมารวมตัวกันเพื่อรับชมการดวล"ผู้อาวุโสคนไหนกำลังประลองกับศิษย์พี่ใหญ่"ลูกศิษย์ที่เพิ่งมาถึงบางคนไม่ทราบถึงสถานการณ์ จึงคิดว่าผู้อาวุโสกำลังประลองกับเจี้ยนอี้ เมื่อพวกเขาพบว่าเป็นศิษย์น้องคนเล็กที่เพิ่งเข้าร่วมสำนักไม่นาน ก็อ้างปากค้างไปตามๆ กันจากหนึ่งไปเป็นสิบ จากสิบไปเป็นร้อย เกือบทั้งสำนักกระบี่รู้ว่า เย่ชิงชาน คนที่เพิ่งเข้ามาในสำนัก มีพละกำลังเเท่ากับศิษย์พี่ใหญ่ เรื่องนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงในความว่างเปล่าที่เหล่าศิษย์สาวกมองไม่เห็นชายชราผมขาวสองสามคนก็เฝ้าดูการต่อสู้ของคนทั้งสอง“หวู่เฉิน เจ้ามีลูกศิษย์ชั้นยอดอีกคนหนึ่งแล้ว เธอได้อยู่ที่นี่เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่เธอก็มีพลังมากขนาดนี้แล้ว อีกไม่นานเธอจะตาม
Read More

บทที่ 1043

เย่ชิงชานซึ่งเข้าใจอาณาเขตกระบี่ ตั้งแต่ในระดับปรมาจารย์แล้ว ตอนนี้เมื่อมาถึงระดับจอมยุทธ และอาณาเขตกระบี่ของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นมาก แม้ว่าเธอจะไม่ได้ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ แต่แรงกดดันก็มีพละกำลังมหาศาลไม่เพียงแต่มันครอบคลุมทั้งลานจัตุรัสเท่านั้น แต่ยังสามารถดูดพื้นที่เข้ามา แล้วเปลี่ยนแปลงพื้นที่ในพริบตา ลานจัตุรัสทั้งหมดก็กลายเป็นโลกแห่งกระบี่เจี้ยนอี้ยังไม่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ และสันนิษฐานว่าเย่ชิงฉานเพียงแค่ปลดปล่อยอาณาเขตกระบี่ทั่วไปของจอมยุทธออกมา“ศิษย์น้อง นี่คือท่าไม้ตายของเธองั้นรึ? ก็แค่อาณาเขตของจอมยุทธ จอมยุทธทุกคนสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ เพียงอาณาเขตของเธอแค่มีขนาดใหญ่กว่าเท่านั้น ฉันจะแสดงให้เห็นเองว่า ขนาดไม่ได้บ่งบอกว่า จะแข็งแกร่งเสมอไป!”ทันทีที่เจี้ยนอี้พูด ก็ร่ายอาณาเขตกระบี่ของตัวเองออกมาด้วยในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักกระบี่ ตัวเองก็เข้าใจอาณาเขตกระบี่เช่นกันทันทีที่เจี้ยนอี้คิด ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างน่าอึดอัด และในเวลาเดียวกัน คลื่นความกลัวมากมายก็ผุดขึ้นมาในจิตใจเป็นไปได้ยังไงกัน? อาณาเขตกระบี่ของฉันไม่ตอบสนองโดยปกติแล้ว อาณาเขตจะปรากฏ
Read More

บทที่ 1044

“ก็จะดูว่านายจะทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องได้อย่างไร”“ศิษย์ของฉัน ชิงชานตอนที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ก็สามารถเข้าใจอาณาเขตกระบี่ของจอมยุทธได้แล้ว และตอนนี้เธออยู่ในระดับจอมยุทธแล้ว ซึ่งคิดว่านั่นหมายถึงอะไร?”เจี้ยนหวู่เฉินหัวเราะเบาๆ “นายกำลังบอกว่า….”ผู้อาวุโสหลายคนตกใจเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ จากนั้นปากก็เปิดกว้าง“โอเค ฉันไม่อยากเปลืองน้ำลายกับพวกนายแล้ว ฉันจะตามลูกศิษย์ เพื่อดูว่าเธอรีบร้อนที่จะออกจากสำนัก เพื่อไปทำอะไร”“ไม่ได้ เจี้ยนหวู่เฉิน นายเป็นเจ้าสำนักกระบี่ นายจะหายตัวไปจากสำนักได้ยังไง และนอกจากนี้ การสร้างร่างจุติซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันสิ้นเปลืองทรัพยากรของสำนัก และเป็นการฟุ่มเฟือยเกินไป” ผู้อาวุโสคนหนึ่งคัดค้าน“หากนายมีลูกศิษย์เช่นนี้ นายจะไว้ใจให้เธอออกไปคนเดียว? ทรัพยากรที่ใช้สร้างสร้างร่างจุติ เมื่อเทียบกับลูกศิษย์ของฉันแล้ว พวกนายคงรู้ว่าอะไรสำคัญกว่ากันใช่ไหม”ผู้อาวุโสเงียบไปเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้นออกมา และไม่มีใครโต้แย้งเหตุผลของเขาแม้ว่าตัวตนที่เหนือกว่าจอมยุทธ จะไม่สามารถย่างก้าวบนพื้นโลกได้ แต่นักสู้ที่ทรงพลังก็มีวิธีแก้ปัญหาเช่นนั้น ซึ่งก็คือการรวมร่างจุ
Read More

บทที่ 1045

สิ่งเหล่านี้ได้ ปรากฏขึ้นหลังจากที่พลังจิตวิญญาณของสวรรค์และโลกสลายไป แม้แต่ในฐานะสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ซวนหวู่ จวินอู๋ซี ซึ่งติดอยู่ในเมืองลับแลมังกร และเหยาหลิงเฉินก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำมีเพียงตัวตนที่ทรงพลังในยุคปัจจุบันเท่านั้นที่ทราบหากหลี่ชางไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ให้ฉู่เฉินฟัง และฉู่เฉินเองก็ไม่รู้ความจริงเรื่องนี้แม้แต่น้อยฉู่เฉินได้ไปเยี่ยมนิกายแพทย์ซวนเทียนและได้พบกับเจ้าสำนักกระบี่ ในตอนนั้น ฉู่เฉินคิดว่าแปลกมากแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้นำของนิกายชั้นนำ แต่ความแข็งแกร่งที่พวกเขาแสดงออกมานั้นแทบจะพอๆกับตัวเขาเอง และตอนนี้ ฉู่เฉินก็ได้รู้ความจริงข้อนั้นแล้วเดาว่าในเวลานั้น สิ่งที่ตัวเขาเห็นล้วนเป็นร่างจุติ และร่างกายจริงๆ ของพวกเขาไม่ได้เดินอยู่ในโลกนี้“ฉู่ซวนหวู่ มีใครบางคนอยู่ข้างนอกประตู ต้องการท้าดวลคุณ”ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสี่ยวเหลียนก็ตะโกนขึ้นมา จึงทำให้ฉู่เฉินได้สติกลับมาฉู่เฉินมีท่าทางงุนงง“ใครกัน? ทำไมถึงมาท้าดวลฉันล่ะ?”ฉู่เฉินไม่รู้เลยว่า คำพูดของเขาได้แพร่กระจายไปทั่วโลกยุทธภพแล้ว ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาฟ้ามืดแล้ว และเป็นเวลาที่คนทั่วไปควรจะรับประ
Read More

บทที่ 1046

ฉู่เฉินเอนหลัง และหลบการแทงที่คาดไม่ถึงในขณะที่เอนหลังลง เท้าซ้ายก็รับแรงมหาศาล และเตะผู้หญิงคนนั้นไปที่เอวผู้หญิงคนนั้นปล่อยดาบที่ขดอยู่ และร่างของเธอกระพริบไป เพื่อหลบการเตะด้วยเท้าซ้ายของฉู่เฉินในขณะที่ฉู่เฉินคิดว่า เธอจะทิ้งดาบที่พันอยู่รอบดาบดาราเจ็ดแสงดาบนั้นก็หายไปในพริบตา และปรากฏขึ้นอีกครั้งในมือของหลี่ชิงเมื่อดาบปรากฏขึ้น ก็ถูกหลี่ชิงกำไว้ในมือทันทีน่าแปลกที่เป็นของวิเศษที่สามารถหักเหความจริงได้ฉู่เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อยตระหนักว่าดาบนี้มีความพิเศษ ไม่แพ้ดาบดาราเจ็ดแสงของเขา“สมแล้วกับชื่อเสียงของนาย ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง”ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างใจเย็น และสังเกตว่าฉู่เฉินจัดการกับการโจมตีของเธอได้อย่างสบายๆ“แต่จากนี้ไป นายควรระวังตัวไว้จะดีกว่า!”จู่ๆ เธอเก็บดาบยาวเข้าฝัก และตะโกนออกมา“หลี่หยาง!”ทันใดนั้น ร่างกายของหญิงสาวก็เปล่งประกายแสงออกมา แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่ร่างเปล่งแสงของเธอส่องสว่างทุกสิ่งรอบตัวผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นลูกบอลแสงที่เปล่งประกาย เหมือนกับดวงอาทิตย์ดวงเล็ก ๆ ที่ปรากฏขึ้นที่นี่อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นทันที และข้าวของที่สามารถติดไฟไ
Read More

บทที่ 1047

ไปแบบนี้เลยเหรอ?ฉู่เฉินดูตกใจ แต่คนจากนิกายหลี่หยางคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมาในตอนนี้ ฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชอบนิกายหลี่หยางขึ้นมานิดหน่อยขณะที่เขากำลังจะเดินกลับไปที่โถงสมุนไพร โทรศัพท์ก็ดังขึ้นภายใต้อุณหภูมิที่สูงมากเมื่อสักครู่ ฉู่เฉินไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกอะไรกับตัวเอง แถมเสื้อผ้ายังคงสภาพดีและไม่เสียหายฉู่เฉินหยิบโทรศัพท์ออกมาและมองดูเป็นเยว่ฟู่หลงที่โทรมา เขาจึงกดปุ่มรับสายและทักทายอย่างไม่ใส่ใจ“มีอะไร?”"หัวหน้าผู้ฝึกสอน พวกเราถูกหยุดเอาไว้"“อีกฝ่ายเป็นใคร กล้าดียังไงมาหยุดคนของฉัน นายไม่ได้เปิดเผยตัวตนเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วด้วยความสับสน จากคำสั่งส่วนตัวของผู้อาวุโสเฉิน ซึ่งผลบังคับใช้ทันที แล้วใครหน้าไหนในเมืองหลวงถึงกล้าที่จะหยุดกองกำลังซวนหวู่ได้“หัวหน้าผู้ฝึกสอน เป็นเพราะพวกเราบอกว่าเป็นสมาชิกของซวนหวู่ พวกเขาจึงไม่อนุญาตให้พวกเราเข้าไปในเมืองหลวง หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทำไมคุณไม่มาที่นี่เองล่ะ”ฉู่เฉินสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหมดหนทางในน้ำเสียงของเยว่ฟู่หลงเมื่อเห็นเช่นนี้ ฉู่เฉินจึงสอบถามเกี่ยวกับตำแหน่งโดยคราวๆ และทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า บินไปยังสถานที่นั้นไม่นา
Read More

บทที่ 1048

คนผู้นี้ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวแล้วเดินไปหาฉู่เฉิน จากนั้นก็พูดต่อ“ฉู่เฉิน สั่งให้คนจากซวนหวู่ของแกกลับไปซะ มาทางไหนก็กลับไปทางเดิม เมืองหลวงไม่อนุญาตให้แกใช้อิทธิพลของซวนหวู่!”“แล้วนายเป็นใคร?”ฉู่เฉินถามอีกครั้ง“จู่ซิงซู่ ผู้ส่งสารของหงส์เพลิง!”ชายหนุ่มคือจู่ซิงซู่ หนึ่งในสองผู้ส่งสารผู้ยิ่งใหญ่ของหงส์เพลิงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่า ฉู่เฉินตกใจมากนี้ คนที่ขวางทางเขาคือคนของหงส์เพลิงนี่เอง นี่เป็นเรื่องที่ฉู่เฉินไม่เคยคาดคิดมาก่อน หงส์เพลิงไม่ได้ยินข่าวใดๆ เลยตั้งแต่เขาเข้ามาในเมืองหลวง และตอนนี้กลับปรากฏตัวขึ้นหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่เฉินก็คิดถึงความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ อาจจะเป็นเพราะพูดเรื่องในปีนั้นออกมา“ทหารของซวนหวู่อมาที่นี่ตามคำสั่งของผู้อาวุโสเฉิน นายกล้าขัดขวางพวกเราเหรอ? อย่ามาบอกฉันว่าหงส์เพลิงก็เหมือนกับเสือขาว ที่กลายเป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลหวังงั้นเหรอ?”“ตระกูลหวังเหรอ? ไอ้พวกโง่สมองทึบนั่นเหรอ? พวกมันจะควบคุมพวกเราได้ยังไง ฉู่เฉิน นายไม่เข้าใจสถานการณ์ในเมืองหลวงสักนิดเลย ฉันจะบอกให้นายให้นะ ชิงหลงและซวนหวู่อยู่ภายใต้คำสั่งของผู้อาวุโสเฉินเพียงเพราะ
Read More

บทที่ 1049

“ฉู่เฉิน นายจะเลือกทำสงครามกับหงส์เพลิง เพียงเพราะตาแก่เฉิน ธรรมดาๆ คนหนึ่ง?”ใบหน้าของจูซิงซิ่วแสดงท่าทีโกรธขึ้นมา ตระหนักได้ดีว่าฉู่เฉินไม่ได้ล้อเล่นเมื่อได้ยินคำพูดของจู่ซิงซู่ ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างโกรธเคือง“ฮ่าๆ แกคิดว่าผู้อาวุโสเฉินเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งจริงๆ เหรอ? ขอถามหน่อยเถอะ ถ้าเขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง แล้วนั่นหมายถึงอะไร? ผู้อาวุโสเฉินทำอะไรเพื่อต้าเซี่ยมากมายกว่าที่แกจะจินตนาการได้ เขาปกป้องประเทศแห่งนี้อย่างลับๆ มาหลายปี ถ้าไม่มีการปกป้องของเขา แกจะเติบโตขึ้นมาอย่างสงบสุข เดินบนเส้นทางแห่งวรยุทธ หรือแม้แต่ไปเลียขาหงส์เพลิงได้ยังไง”คำพูดของฉู่เฉิน ทำให้จู่ซิงซู่รู้สึกละอายใจอย่างมากหลังจากนั้นครู่หนึ่ง จู่ซิงซู่ก็ได้สติขึ้นมาตัวเองเป็นผู้ส่งสารของหงส์เพลิง จะปล่อยให้ฉู่เฉินหักหน้าแบบนี้ได้ยังไง“ถ้าไม่มีตาแก่เฉินก็คงยังมีผู้อาวุโสหลี่อยู่ อย่าคิดว่าตาแก่เฉินพิซงพิเศษอะไรขนาดนั้นไปหน่อยเลย หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ฉู่เฉิน ถ้าแกยังดื้อรั้นขัดคำสั่งของหงส์เพลิงและยอมให้ซวนหวู่เข้าไปในเมืองหลวงอีก พวกเราก็จะมีแต่ต้องต่อสู้กันเท่านั้น”จู่ซิงซู่มองไปท
Read More

บทที่ 1050

ไม่คาดคิด จู่ซิงซู่ตบคนที่พูดด้วยหลังมือ“เงียบปากซะ! ฆ่าพวกมันให้หมด! ถ้าไม่มีใครพูดอะไร แล้วจะมีใครรู้ นอกจากนี้ นี่คือคำสั่งของหงส์เพลิง! พวกแกจะขัดคำสั่งงั้นเหรอ? จัดการมันซะ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันจะรับผิดชอบเอง!”ทันทีที่พูดจบ คนของหงส์เพลิงก็ไม่ลังเลอีกต่อไป และคนมากกว่าสี่สิบคนก็โจมตีกลุ่มคนจากซวนหวู่อย่างพร้อมเพรียงแต่การทำลายล้างอยู่แค่ฝ่ายเดียว อย่างที่คาดหวังไม่ได้เกิดขึ้นการโจมตีพร้อมกันจากคนสี่สิบคน กลับถูกต้านทานอย่างง่ายดาย โดยคนยี่สิบคนจากซวนหวู่ ไม่เพียงแค่นั้น ซวนหวู่ยังโจมตีสวนกลับอีกด้วยเว่ยอิงลั่วและเยว่ฟู่หลงเป็นผู้นำ ดาบแสงขนาดใหญ่สองเล่มก็ก่อตัวขึ้นและฟันตรงเข้าไปท่ามกลางกลุ่มคนจากหงส์เพลิงนี่มัน!จู่ซิงซู่ที่ยืนอยู่แถวหน้ารู้สึกถึงความน่ากลัวของดาบแสงทั้งสองเล่มโดยสัญชาตญาณจะเป็นไปได้ยังไง!จู่ซิงซู่จึงรู้ดีว่า หากดาบแสงทั้งสองเล่มนี้ ได้โจมตีโดนเป้าหมาย ก็จะไม่มีใครรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว รวมถึงตัวเขาเองด้วยจู่ซิงซู่ไม่เข้าใจว่า ทำไมกลุ่มทหารซวนหวู่ธรรมดาๆ ถึงสามารถเปิดฉากโจมตีอย่างรุนแรงเช่นนี้ได้ เมื่อพวกเขารวมพลังกัน แต่ไม่มีเวลาให้เขาได้คิดวิเคร
Read More
ก่อนหน้า
1
...
102103104105106107
DMCA.com Protection Status