ในเวลานี้ เย่จิ่งอวี้ได้ออกจากวังไปแล้วเขาได้ออกคำสั่งเด็ดขาด ผู้ใดก็ห้ามติดตามไป ฉินเทียนและคนอื่นๆ ย่อมไม่กล้าฝ่าฝืนเป็นธรรมดาตลอดทางขี่ม้าไปอย่างอิสระไร้จุดหมาย สัมผัสถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน อารมณ์ก็ค่อยๆ สงบลงโดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว เขาได้ผ่านตลาด มาถึงหน้าวัดที่เคยถูกโจมตีเมื่อยังเยาว์ ทันใดนั้นก็พบว่าสถานที่แห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซม ตอนนี้ได้กลายเป็นอารามเต๋า นามว่าอารามซ่างชิงกวนข้างในนั้นเหมือนจะมีการเทศนาอยู่ เย่จิ่งอวี้ยืนฟังอยู่ที่หน้าประตูครู่หนึ่ง จากนั้นก็ผูกเฟยมั่วไว้ที่ประตู แล้วค่อยๆ เดินเข้าไป พื้นที่ในห้องโถงไม่เล็ก เวลานี้มีชาวบ้านนั่งอยู่จำนวนมาก ตรงหน้าพวกเขามีชายชราผมขาวเคราขาวนั่งอยู่ ใบหน้าของคนผู้นี้ดูสงบ ดวงตาเป็นประกายลักษณะสำรวม สวมใส่ชุดนักพรตเต๋าผ้าหยาบสีเทา ปักรวบผมด้วยปิ่นไม้ ทำให้รู้สึกถึงความเป็นอมตะด้านหน้าของเขามีนักพรตน้อยวัยเยาว์นั่งอยู่แปดคน คนเหล่านี้ล้วนแต่งกายด้วยชุดเก่าๆ เช่นกัน ชุดของบางคนยังมีรอยปะชุนด้วยซ้ำ พวกเขาแต่ละคนหลุบตาก้มหน้าต่ำ สีหน้าเคร่งขรึม ซึ่งความเคร่งขรึมนี้มิได้เกิดจากการเสแสร้งแกล้งทำ หากแต่มาจากธาตุแท้
อ่านเพิ่มเติม