แชร์

บทที่ 1023 ศิลาตอบสวรรค์

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ตำหนักเฉิงเทียน

เย่จิ่งอวี้ยืนเอามือไพล่หลังอยู่กลางลาน ในใจยังคงนึกถึงสิ่งที่นักพรตเต๋าชราพูด

รุ้งขาวทะลวงตะวันเกิดเข่นฆ่าโกลาหล บัญชาทัณฑ์กำลังจะไป!

คำนี้หมายความว่าอะไรกันแน่

หรือว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในเมืองหลวง?

“เจวี๋ยอิ่ง”

“กระหม่อมอยู่นี่”

เจวี๋ยอิ่งปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังเย่จิ่งอวี้ราวกับภูตผีทันที

“ไปตรวจสอบดูว่ามีการจลาจลในเมืองหลวง หรือว่ามีเหตุการณ์ที่ส่อเค้าลางบ้างหรือไม่”

“กระหม่อมน้อมรับบัญชา”

เจวี๋ยอิ่งรับคำสั่งแล้วออกไป

เย่จิ่งอวี้ยืนอยู่สักพัก แล้วค่อยกลับเข้าไปในตำหนัก

หลังจากฝึกโคจรพลังยุทธ์ได้ระยะหนึ่ง ความรู้สึกเหมือนติดคอขวดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

เย่จิ่งอวี้เริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจพิกล จึงรวบรวมกำลังภายใน แล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน

สิ่งนี้แตกต่างจากม้วนไม้ไผ่ของต้าโจว มันเป็นกระดาษที่ทำจากเปลือกไม้ใบหญ้า หลี่เต๋อฝูกล่าวว่าฉินไห่ฉิวเป็นผู้สร้างขึ้นมา ซึ่งเย่จิ่งอวี้ก็ขี้เกียจเกินกว่าจะถามอะไรอีก

หลังจากพลิกดูไปหลายหน้า ถึงพบว่านี่ไม่ใช่ฎีกา ในหนังสือมีภาพการฝึกยุทธ์จำนวนมาก มีทั้งมุทรา มีทั้งแนวทางท่าเคลื่อนไหว ซึ่งดูเหมือนวรยุทธ์มากกว่า

เหตุใดต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Nootjarin Nokphrmphanao
ไม่มีทีท่าว่าจะจบยิ่งอ่านยิ่งอ่านยิ่งิรื่อยเปื่อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1024 เจอเย่จั้นอีกแล้ว

    นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“นั่นไม่เหมือนกัน การวิวาทของทั้งสองแคว้น ล้วนทำเพื่อเจ้าเหนือหัวของแต่ละฝ่าย พวกเขาอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกัน มีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ยังไม่นับว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งคนบาปที่แท้จริง คือผู้ที่สังหารคนอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มีเพียงคนดังกล่าวนี้เท่านั้น ถึงจะกระตุ้นพลังของศิลาตอบสวรรค์ และเปิดประตูสำนักบนเขาได้”นักพรตน้อยทั้งหมดโค้งคำนับพร้อมกัน“ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชี้แนะ พวกเราทราบแล้ว”นักพรตน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่อายุน้อยที่สุดกลับก้มหน้าอยู่ตลอด ไม่ปริปากเอ่ยคำใดนักพรตเทียนชิงเหลือบมองเขา แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ชิงฮุย เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าไม่คุ้นชินกับเมืองจอแจที่อยู่เบื้องหน้านี้?”ชิงฮุยกล่าวอย่างนอบน้อม “หากใจบริสุทธิ์ดุจน้ำแข็ง ถึงโดนแลบเลียก็ไม่แปรเปลี่ยน มิไหวหวั่น จิตสงบร่มเย็น ศิษย์ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็เหมือนกัน”นักพรตเทียนชิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“ดีมาก หากศิลาตอบสวรรค์ไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันอีก หลังจากลงทัณฑ์คนบาปคราวนี้แล้ว พวกเราก็กลับได้แล้ว”“ขอรับ”ทั้งหมดโค้งคำนับ แล้วจากไปเมื่อเด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1025 สมองน้อยๆ ไม่เข้าใจอะไรเยอะแยะ

    รูม่านตาของเย่จั้นก็หดลงเล็กน้อยเช่นกันอินชิงเสวียน?ทำไมนางถึงมาปรากฏตัวที่นี่ หรือเกิดเรื่องขึ้นที่เมืองหลวง?ดวงตาของเขากวาดไปทั่วร่างของฉางเฮิ่นเทียน แล้วก็เห็นจ้าวเอ๋อร์ทันทีพลันรู้สึกตกใจอีกครั้งเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่กลับเห็นอินชิงเสวียนส่ายศีรษะอย่างไม่เป็นที่ผิดสังเกตกับตัวเองทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา จากนั้นอินชิงเสวียนก็ตามชายชราผู้นั้นเข้าไปในโรงเตี๊ยมแล้วเสี่ยวหนานเฟิงกะพริบตาคู่โตสีดำปริบๆ สมองน้อยๆ รู้สึกไม่เข้าใจมาก เขารู้จักเย่จั้น เด็จแม่เคยบอกเขาว่านั่นคือเสด็จอา แต่ทำไมเด็จแม่ถึงจำเขาไม่ได้เสี่ยวหนานเฟิงขยับมือเล็กป้อมไปมา สายตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ประพฤติตัวเรียบร้อยยิ่งนัก ไม่ได้อ้าปากร้องเรียกเย่จั้นอินชิงเสวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก สมแล้วที่เป็นลูกชายคนดีของนาง ฉลาดมาก!แม้ว่าเย่จั้นจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่เมื่อเทียบกับสัตว์ประหลาดเฒ่าจากตำหนักเทพ แต่ก็ยังต่างชั้นกันมากนางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบหนีออกจากวัง เพียงเพราะไม่ต้องการให้มีผู้เสียชีวิตมากมายเพราะตัวเองแต่ตอนนี้ถูกเย่จั้นพบแล้ว เขาต้องมาถามหาคำตอบอย่างแน่นอน ต้องหาโอกาสเจอเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1026 เคารพเลื่อมใส

    อินชิงเสวียนเดินมาถึงตลาดแล้วถนนที่นี่พลุกพล่านกว่าในเมืองหลวง และสิ่งที่แตกต่างก็คือ ชาวบ้านที่นี่ล้วนถืออาวุธ ซึ่งเกือบจะเหมือนกับเป่ยไห่เลยบนถนนบางครั้งอินชิงเสวียนก็ได้ยินคำว่าหนังสือสวรรค์ไร้อักษร ซึ่งนางก็อดแปลกใจไม่ได้ทำไมถึงไม่เคยได้ยินผู้อาวุโสหันพูดถึงเรื่องนี้เลยเขากล่าวว่าตำหนักเทพหอทองคำมีเคล็ดวิชาลับวรยุทธ์ มียอดฝีมือและผู้อาวุโส ทำนองพิณที่หายสาบสูญ และภาพวาดของทุกคน แต่ไม่ได้พูดถึงหนังสือสวรรค์ไร้อักษรเลยหรือว่าเรื่องนี้มีการวางแผนร้ายที่ไม่อาจให้คนล่วงรู้?ขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนขึ้นว่า “ผู้อาวุโสฉีจากสำนักอวิ๋นซานมาแล้ว เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะพาเราไปที่ยอดเขาบรรจบสวรรค์ ตอนนี้กำลังรับสมัครผู้มีความสามารถที่ศาลาหานซาน เรารีบไปดูกันเถอะ”“สำนักอวิ๋นซานเป็นสำนักใหญ่ในยุทธจักร มีเขาเป็นผู้นำของพวกเรา ต้องสามารถค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของสำนักบนเขาได้แน่”“ใช่แล้ว สำนักอวิ๋นซานมินเป็นสำนักคุณธรรมที่ต่อสู้กับพวกตงหลิว สามารถไว้ใจได้แน่นอน”“เรารีบไปดูกันเถอะ”ทุกคนวิ่งไปด้วยประกาศไปด้วย มุ่งหน้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว อินชิงเสวียนยิ้มอย่างเหยียดหยาม ส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1027 ละอายใจต่อเสด็จอา

    อินชิงเสวียนโค้งกายคำนับเล็กน้อย“ขอบคุณเสด็จอามาก ไม่ทราบว่าเหตุใดเสด็จอาถึงพบที่นี่ได้”เย่จั้นถอนหายใจกล่าวว่า “หลังจากออกจากเมืองหลวง ข้าก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ได้ยินมาว่ามีหนังสือสวรรค์ไร้อักษรปรากฏขึ้นที่เทือกเขาเชื่อมเมฆา ชาวยุทธ์จำนวนมากมุ่งหน้ามาที่นี่ จึงลองเสี่ยงโชคดูเหมือนกัน”อินชิงเสวียนพยักหน้า“เป็นโอกาสดีเหมาะกับการมาสืบข่าวจริงๆ น่าเสียดายที่การเดินทางไปเป่ยไห่ สืบข่าวอะไรไม่ได้เลย น่าละอายใจต่อเสด็จอายิ่งนัก”เย่จั้นพูดอย่างอบอุ่น “ฮองเฮาไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง แม่นางอินหายตัวไปหลายปีแล้ว ข้ารู้ว่าการตามหามีความหวังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่อยากเสียใจภายหลัง ไม่ว่าจะผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร ก็ควรพยายามทำให้ดีที่สุด”เขาหยุดครู่หนึ่ง แล้วขมวดคิ้วถามว่า “แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือจ้าวเอ๋อร์ได้อย่างไร ฮองเฮาพอมีวิธีใดที่ให้ข้าขึ้นเขาไปกับเจ้าได้หรือไม่ จะได้ช่วยดูแล?”“ไม่ต้องหรอก ที่ข้ามาพบเสด็จอานั้น ประการแรกคือไม่ต้องการให้อาอวี้รู้เรื่องนี้ ประการที่สองไม่ต้องการให้เสด็จอาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเสด็จอา แต่ผู้อาวุโสหันนั่นเจ้าเล่ห์เ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1028 ขึ้นเขา

    ผู้อาวุโสหันแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา“ถ้านางตาย นั่นก็เพราะว่ารนหาที่เอง ตลอดหลายปีที่นางทรยศหลบหนีออกไปข้างนอก ข้าไม่ได้คิดบัญชีกับนาง ก็นับว่าเมตตามากแล้ว”“ผู้อาวุโสหัน!”ฉุยอวี้ตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้เสียงของผู้อาวุโสหันเข้มขึ้น“หุบปาก”อินชิงเสวียนตื่นจากภวังค์ทันทีดูเหมือนว่าตัวเองจะดูไม่ผิด โจรเฒ่าแซ่หันคนนี้ไม่ใช่คนดีจริงๆแต่มีสิ่งหนึ่งที่นางไม่เคยเข้าใจมาโดยตลอดในเมื่อตำหนักเทพหอทองคำสูงส่งเพียงนี้ ทั้งยังมีอำนาจทุกอย่าง ทำไมฉุยอวี้ถึงทรยศต่อสำนัก มาก่อตั้งสำนักที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างเช่นสำนักเซียวเหยา?โชคดีที่พรุ่งนี้ก็จะขึ้นเขาแล้ว ทุกสิ่งที่นางอยากรู้ จะต้องหาคำตอบให้กระจ่างขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เสียงฝีเท้าก็มาถึงชั้นบนแล้วฉางเฮิ่นเทียนกล่าวด้วยความเคารพ “ผู้อาวุโสหัน แม่นางอินกลับมาแล้ว”ผู้อาวุโสหันถามด้วยเสียงแผ่วต่ำ “นางได้ไปหาฉุยอวี้หรือไม่”ฉางเฮิ่นเทียนกล่าวว่า “ไม่ขอรับ ซื้อของเล่นมาให้ลูก แล้วกลับไปพักผ่อนในห้องแล้ว”ผู้อาวุโสหันเหลือบมองที่ห้องของอินชิงเสวียน แล้วพูดเบาๆ “ดีมาก เฟิงอวิ๋นลี่ เจ้าเอาของกินไปให้นาง จำไว้ ระวังปากของเจ้าด้วย”“เจ้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1029 แม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน

    ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีความหวังริบหรี่อยู่ในใจ บางทีการปรากฏตัวของอินชิงเสวียน อาจเป็นสิ่งดีที่สวรรค์ประทานให้พี่หญิงใหญ่ก็เป็นได้...อินชิงเสวียนก็คิดเช่นเดียวกันในตอนแรกที่โจรเฒ่าหันคนนี้ไปเมืองหลวง ก็เพื่อต้องการน้ำพุวิญญาณในตัวนาง ตอนนี้ก็ข่มขู่ตัวเองให้ขึ้นเขา อาจทำเพื่อเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงหากเฟิงเอ้อร์เหนียงพูดความจริง และเฮ่อยวนกับแม่ของเจ้าของร่างเดิมยังไม่ตาย จุดประสงค์ของโจรเฒ่า ก็คือให้ตัวเองและเฮ่อยวนต่อสู้ศึกสายเลือด เพื่อให้ตัวเองกอบโกยผลประโยชน์ช่างเป็นตาแก่ร้ายกาจจริงๆ แต่ว่า ตอนนี้แม่ของเจ้าของร่างเดิมอยู่ที่ไหนอินชิงเสวียนมองไปที่ฉุยอวี้ แต่กลับเห็นเฟิงเอ้อร์เหนียงเดินโซซัดโซเซ แบกฉุยอวี้ขึ้นบันไดหินขึ้นไปทีละก้าว แม้ว่าความประทับใจของนางที่มีต่อเฟิงเอ้อร์เหนียงและฉุยอวี้จะไม่ดีนัก แต่ในเวลานี้ยังคงรู้สึกว่าศิษย์พี่น้องคู่นี้น่าสงสารอยู่บ้าง“ไม่สู้...ให้ข้าช่วยแบกสักประเดี๋ยวเถอะ”เฟิงเอ้อร์เหนียงยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ“ไม่ต้องหรอก ข้าไหว”อินชิงเสวียนความซับซ้อนในแววตาของนาง แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้มากนัก จึงทำได้เพียงยอมแพ้ทุกคนเคลื่อนตัวไปข้างหน้า หลังจ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1030 เด็กดี

    เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กป้อมออกมาทันที กอดคอของอินชิงเสวียน แล้วกดใบหน้าเล็กๆ ที่เรียบเนียนซุกคอของอินชิงเสวียน เฉกเช่นกระต่ายตัวน้อยที่รู้ความ“เด็จแม่ไม่ร้องไห้ ลูกไม่ลำบากเลย ถ้าท่านร้องไห้ ลูกจะไม่ชอบเอาน้า”เสี่ยวหนานเฟิงเกลือกใบหน้ากับตัวนาง จากนั้นถอยหลังเล็กน้อย ขมวดคิ้วมอง และเชิดริมฝีปากใส่อินชิงเสวียน แสดงท่าทางข่มขู่เล็กๆเมื่อเห็นเขาที่ดูเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็ก อินชิงเสวียนก็หัวเราะออกมา“เจ้าตัวแสบ กล้าขู่แม่งั้นรึ”เสี่ยวหนานเฟิงซบตัวเข้าไปในอ้อมแขนของอินชิงเสวียนอีกครั้ง หอมแก้มนางอย่างอ่อนหวาน พูดด้วยเสียงเล็กๆ “ลูกไม่ขู่เด็จแม่เสียหน่อย ลูกชอบเด็จแม่ที่สุด คนแก่นั่นเป็นคนไม่ดี ลูกกลัวๆ”อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมานั่งบนตัก แล้วพูดปลอบใจ “ไม่กลัวนะคนดี แม่จะแก้แค้นแทนลูกรักแน่นอน แต่ในช่วงนี้ เกรงว่าเจ้าจะเหงานิดหน่อย ต้องอยู่เล่นในนี้คนเดียวแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงเงยหน้าเล็กๆ ขึ้นมาแล้วถามว่า “เด็จแม่จะไปตีคนแก่ชั่วคนนั้นหรือ”“อื้ม แม่จะหาทางจัดการกับเขา แม่จะไม่ให้เจ้าอยู่คนเดียวนานเกินไป ถ้าเจ้าพูด แม่ยังได้ยินเสียงเจ้าอยู่”อินชิงเสวียนโบกมือ ทันใด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1031 การแสดงสมจริง

    เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ หลอกง่ายตลอดเสี่ยวหนานเฟิงกระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุขอินชิงเสวียนเล่นกับลูกชายด้วยความรักและเอ็นดูอยู่พักหนึ่ง จากนั้นป้อนข้าวและเครื่องเคียงให้เขา แล้วอุ้มเขานอนบนเตียงหลังใหญ่เมื่อได้กลิ่นของผู้เป็นแม่ เสี่ยวหนานเฟิงก็รู้สึกปลอดภัยมาก จนหลับลึกไปในเวลาเพียงไม่นานอินชิงเสวียนดึงผ้าห่มคลุมตัวลูกชาย แล้วหายตัวออกจากมิตินางต้องแสดงละคร เพื่อให้พวกเขาคิดว่าเสี่ยวหนานเฟิงหายไปแล้วจริงๆ เพื่อกันไม่ให้กำลังภายในไม่เพียงพอ อินชิงเสวียนใช้พลังมิติอีก แล้วซัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นประตูหินหนาก็ถูกพังออกเป็นสองส่วน จากนั้นเหาะลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว และกระอักเลือดเต็มปาก“อ้าก! คืนลูกชายมาให้ข้า!”นางตะโกนเสียงแหลมเสียงร้องแหลมสูงดังก้องขึ้นกลางความเงียบสงบของยามค่ำคืนในทันที เสียงสะท้อนก้องกังวานท่ามกลางภูเขาปังอินชิงเสวียนชนต้นไม้โบราณขนาดสองคนโอบเข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดสาหัสทำให้นางหายใจไม่ออกในไม่ช้าก็มีเสียงเสื้อผ้าแหวกอากาศดังขึ้นจากด้านบนผู้อาวุโสหันอุ้มนางขึ้นมา แล้วถามอย่างเย็นชา “เกิดอะไรขึ้น”ดวงตาของอินชิงเสวียนเป็นสีแดง

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

DMCA.com Protection Status