หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1025 สมองน้อยๆ ไม่เข้าใจอะไรเยอะแยะ

แชร์

บทที่ 1025 สมองน้อยๆ ไม่เข้าใจอะไรเยอะแยะ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-24 16:00:00
รูม่านตาของเย่จั้นก็หดลงเล็กน้อยเช่นกัน

อินชิงเสวียน?

ทำไมนางถึงมาปรากฏตัวที่นี่ หรือเกิดเรื่องขึ้นที่เมืองหลวง?

ดวงตาของเขากวาดไปทั่วร่างของฉางเฮิ่นเทียน แล้วก็เห็นจ้าวเอ๋อร์ทันที

พลันรู้สึกตกใจอีกครั้ง

เกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่กลับเห็นอินชิงเสวียนส่ายศีรษะอย่างไม่เป็นที่ผิดสังเกตกับตัวเอง

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา จากนั้นอินชิงเสวียนก็ตามชายชราผู้นั้นเข้าไปในโรงเตี๊ยมแล้ว

เสี่ยวหนานเฟิงกะพริบตาคู่โตสีดำปริบๆ สมองน้อยๆ รู้สึกไม่เข้าใจมาก เขารู้จักเย่จั้น เด็จแม่เคยบอกเขาว่านั่นคือเสด็จอา แต่ทำไมเด็จแม่ถึงจำเขาไม่ได้

เสี่ยวหนานเฟิงขยับมือเล็กป้อมไปมา สายตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ประพฤติตัวเรียบร้อยยิ่งนัก ไม่ได้อ้าปากร้องเรียกเย่จั้น

อินชิงเสวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก สมแล้วที่เป็นลูกชายคนดีของนาง ฉลาดมาก!

แม้ว่าเย่จั้นจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่เมื่อเทียบกับสัตว์ประหลาดเฒ่าจากตำหนักเทพ แต่ก็ยังต่างชั้นกันมาก

นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบหนีออกจากวัง เพียงเพราะไม่ต้องการให้มีผู้เสียชีวิตมากมายเพราะตัวเอง

แต่ตอนนี้ถูกเย่จั้นพบแล้ว เขาต้องมาถามหาคำตอบอย่างแน่นอน ต้องหาโอกาสเจอเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1026 เคารพเลื่อมใส

    อินชิงเสวียนเดินมาถึงตลาดแล้วถนนที่นี่พลุกพล่านกว่าในเมืองหลวง และสิ่งที่แตกต่างก็คือ ชาวบ้านที่นี่ล้วนถืออาวุธ ซึ่งเกือบจะเหมือนกับเป่ยไห่เลยบนถนนบางครั้งอินชิงเสวียนก็ได้ยินคำว่าหนังสือสวรรค์ไร้อักษร ซึ่งนางก็อดแปลกใจไม่ได้ทำไมถึงไม่เคยได้ยินผู้อาวุโสหันพูดถึงเรื่องนี้เลยเขากล่าวว่าตำหนักเทพหอทองคำมีเคล็ดวิชาลับวรยุทธ์ มียอดฝีมือและผู้อาวุโส ทำนองพิณที่หายสาบสูญ และภาพวาดของทุกคน แต่ไม่ได้พูดถึงหนังสือสวรรค์ไร้อักษรเลยหรือว่าเรื่องนี้มีการวางแผนร้ายที่ไม่อาจให้คนล่วงรู้?ขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนขึ้นว่า “ผู้อาวุโสฉีจากสำนักอวิ๋นซานมาแล้ว เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะพาเราไปที่ยอดเขาบรรจบสวรรค์ ตอนนี้กำลังรับสมัครผู้มีความสามารถที่ศาลาหานซาน เรารีบไปดูกันเถอะ”“สำนักอวิ๋นซานเป็นสำนักใหญ่ในยุทธจักร มีเขาเป็นผู้นำของพวกเรา ต้องสามารถค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของสำนักบนเขาได้แน่”“ใช่แล้ว สำนักอวิ๋นซานมินเป็นสำนักคุณธรรมที่ต่อสู้กับพวกตงหลิว สามารถไว้ใจได้แน่นอน”“เรารีบไปดูกันเถอะ”ทุกคนวิ่งไปด้วยประกาศไปด้วย มุ่งหน้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว อินชิงเสวียนยิ้มอย่างเหยียดหยาม ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1027 ละอายใจต่อเสด็จอา

    อินชิงเสวียนโค้งกายคำนับเล็กน้อย“ขอบคุณเสด็จอามาก ไม่ทราบว่าเหตุใดเสด็จอาถึงพบที่นี่ได้”เย่จั้นถอนหายใจกล่าวว่า “หลังจากออกจากเมืองหลวง ข้าก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ได้ยินมาว่ามีหนังสือสวรรค์ไร้อักษรปรากฏขึ้นที่เทือกเขาเชื่อมเมฆา ชาวยุทธ์จำนวนมากมุ่งหน้ามาที่นี่ จึงลองเสี่ยงโชคดูเหมือนกัน”อินชิงเสวียนพยักหน้า“เป็นโอกาสดีเหมาะกับการมาสืบข่าวจริงๆ น่าเสียดายที่การเดินทางไปเป่ยไห่ สืบข่าวอะไรไม่ได้เลย น่าละอายใจต่อเสด็จอายิ่งนัก”เย่จั้นพูดอย่างอบอุ่น “ฮองเฮาไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง แม่นางอินหายตัวไปหลายปีแล้ว ข้ารู้ว่าการตามหามีความหวังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่อยากเสียใจภายหลัง ไม่ว่าจะผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร ก็ควรพยายามทำให้ดีที่สุด”เขาหยุดครู่หนึ่ง แล้วขมวดคิ้วถามว่า “แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือจ้าวเอ๋อร์ได้อย่างไร ฮองเฮาพอมีวิธีใดที่ให้ข้าขึ้นเขาไปกับเจ้าได้หรือไม่ จะได้ช่วยดูแล?”“ไม่ต้องหรอก ที่ข้ามาพบเสด็จอานั้น ประการแรกคือไม่ต้องการให้อาอวี้รู้เรื่องนี้ ประการที่สองไม่ต้องการให้เสด็จอาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเสด็จอา แต่ผู้อาวุโสหันนั่นเจ้าเล่ห์เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1028 ขึ้นเขา

    ผู้อาวุโสหันแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา“ถ้านางตาย นั่นก็เพราะว่ารนหาที่เอง ตลอดหลายปีที่นางทรยศหลบหนีออกไปข้างนอก ข้าไม่ได้คิดบัญชีกับนาง ก็นับว่าเมตตามากแล้ว”“ผู้อาวุโสหัน!”ฉุยอวี้ตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้เสียงของผู้อาวุโสหันเข้มขึ้น“หุบปาก”อินชิงเสวียนตื่นจากภวังค์ทันทีดูเหมือนว่าตัวเองจะดูไม่ผิด โจรเฒ่าแซ่หันคนนี้ไม่ใช่คนดีจริงๆแต่มีสิ่งหนึ่งที่นางไม่เคยเข้าใจมาโดยตลอดในเมื่อตำหนักเทพหอทองคำสูงส่งเพียงนี้ ทั้งยังมีอำนาจทุกอย่าง ทำไมฉุยอวี้ถึงทรยศต่อสำนัก มาก่อตั้งสำนักที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างเช่นสำนักเซียวเหยา?โชคดีที่พรุ่งนี้ก็จะขึ้นเขาแล้ว ทุกสิ่งที่นางอยากรู้ จะต้องหาคำตอบให้กระจ่างขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เสียงฝีเท้าก็มาถึงชั้นบนแล้วฉางเฮิ่นเทียนกล่าวด้วยความเคารพ “ผู้อาวุโสหัน แม่นางอินกลับมาแล้ว”ผู้อาวุโสหันถามด้วยเสียงแผ่วต่ำ “นางได้ไปหาฉุยอวี้หรือไม่”ฉางเฮิ่นเทียนกล่าวว่า “ไม่ขอรับ ซื้อของเล่นมาให้ลูก แล้วกลับไปพักผ่อนในห้องแล้ว”ผู้อาวุโสหันเหลือบมองที่ห้องของอินชิงเสวียน แล้วพูดเบาๆ “ดีมาก เฟิงอวิ๋นลี่ เจ้าเอาของกินไปให้นาง จำไว้ ระวังปากของเจ้าด้วย”“เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-25
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1029 แม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน

    ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีความหวังริบหรี่อยู่ในใจ บางทีการปรากฏตัวของอินชิงเสวียน อาจเป็นสิ่งดีที่สวรรค์ประทานให้พี่หญิงใหญ่ก็เป็นได้...อินชิงเสวียนก็คิดเช่นเดียวกันในตอนแรกที่โจรเฒ่าหันคนนี้ไปเมืองหลวง ก็เพื่อต้องการน้ำพุวิญญาณในตัวนาง ตอนนี้ก็ข่มขู่ตัวเองให้ขึ้นเขา อาจทำเพื่อเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงหากเฟิงเอ้อร์เหนียงพูดความจริง และเฮ่อยวนกับแม่ของเจ้าของร่างเดิมยังไม่ตาย จุดประสงค์ของโจรเฒ่า ก็คือให้ตัวเองและเฮ่อยวนต่อสู้ศึกสายเลือด เพื่อให้ตัวเองกอบโกยผลประโยชน์ช่างเป็นตาแก่ร้ายกาจจริงๆ แต่ว่า ตอนนี้แม่ของเจ้าของร่างเดิมอยู่ที่ไหนอินชิงเสวียนมองไปที่ฉุยอวี้ แต่กลับเห็นเฟิงเอ้อร์เหนียงเดินโซซัดโซเซ แบกฉุยอวี้ขึ้นบันไดหินขึ้นไปทีละก้าว แม้ว่าความประทับใจของนางที่มีต่อเฟิงเอ้อร์เหนียงและฉุยอวี้จะไม่ดีนัก แต่ในเวลานี้ยังคงรู้สึกว่าศิษย์พี่น้องคู่นี้น่าสงสารอยู่บ้าง“ไม่สู้...ให้ข้าช่วยแบกสักประเดี๋ยวเถอะ”เฟิงเอ้อร์เหนียงยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ“ไม่ต้องหรอก ข้าไหว”อินชิงเสวียนความซับซ้อนในแววตาของนาง แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้มากนัก จึงทำได้เพียงยอมแพ้ทุกคนเคลื่อนตัวไปข้างหน้า หลังจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-25
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1030 เด็กดี

    เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กป้อมออกมาทันที กอดคอของอินชิงเสวียน แล้วกดใบหน้าเล็กๆ ที่เรียบเนียนซุกคอของอินชิงเสวียน เฉกเช่นกระต่ายตัวน้อยที่รู้ความ“เด็จแม่ไม่ร้องไห้ ลูกไม่ลำบากเลย ถ้าท่านร้องไห้ ลูกจะไม่ชอบเอาน้า”เสี่ยวหนานเฟิงเกลือกใบหน้ากับตัวนาง จากนั้นถอยหลังเล็กน้อย ขมวดคิ้วมอง และเชิดริมฝีปากใส่อินชิงเสวียน แสดงท่าทางข่มขู่เล็กๆเมื่อเห็นเขาที่ดูเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็ก อินชิงเสวียนก็หัวเราะออกมา“เจ้าตัวแสบ กล้าขู่แม่งั้นรึ”เสี่ยวหนานเฟิงซบตัวเข้าไปในอ้อมแขนของอินชิงเสวียนอีกครั้ง หอมแก้มนางอย่างอ่อนหวาน พูดด้วยเสียงเล็กๆ “ลูกไม่ขู่เด็จแม่เสียหน่อย ลูกชอบเด็จแม่ที่สุด คนแก่นั่นเป็นคนไม่ดี ลูกกลัวๆ”อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมานั่งบนตัก แล้วพูดปลอบใจ “ไม่กลัวนะคนดี แม่จะแก้แค้นแทนลูกรักแน่นอน แต่ในช่วงนี้ เกรงว่าเจ้าจะเหงานิดหน่อย ต้องอยู่เล่นในนี้คนเดียวแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงเงยหน้าเล็กๆ ขึ้นมาแล้วถามว่า “เด็จแม่จะไปตีคนแก่ชั่วคนนั้นหรือ”“อื้ม แม่จะหาทางจัดการกับเขา แม่จะไม่ให้เจ้าอยู่คนเดียวนานเกินไป ถ้าเจ้าพูด แม่ยังได้ยินเสียงเจ้าอยู่”อินชิงเสวียนโบกมือ ทันใด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-25
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1031 การแสดงสมจริง

    เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ หลอกง่ายตลอดเสี่ยวหนานเฟิงกระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุขอินชิงเสวียนเล่นกับลูกชายด้วยความรักและเอ็นดูอยู่พักหนึ่ง จากนั้นป้อนข้าวและเครื่องเคียงให้เขา แล้วอุ้มเขานอนบนเตียงหลังใหญ่เมื่อได้กลิ่นของผู้เป็นแม่ เสี่ยวหนานเฟิงก็รู้สึกปลอดภัยมาก จนหลับลึกไปในเวลาเพียงไม่นานอินชิงเสวียนดึงผ้าห่มคลุมตัวลูกชาย แล้วหายตัวออกจากมิตินางต้องแสดงละคร เพื่อให้พวกเขาคิดว่าเสี่ยวหนานเฟิงหายไปแล้วจริงๆ เพื่อกันไม่ให้กำลังภายในไม่เพียงพอ อินชิงเสวียนใช้พลังมิติอีก แล้วซัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นประตูหินหนาก็ถูกพังออกเป็นสองส่วน จากนั้นเหาะลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว และกระอักเลือดเต็มปาก“อ้าก! คืนลูกชายมาให้ข้า!”นางตะโกนเสียงแหลมเสียงร้องแหลมสูงดังก้องขึ้นกลางความเงียบสงบของยามค่ำคืนในทันที เสียงสะท้อนก้องกังวานท่ามกลางภูเขาปังอินชิงเสวียนชนต้นไม้โบราณขนาดสองคนโอบเข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดสาหัสทำให้นางหายใจไม่ออกในไม่ช้าก็มีเสียงเสื้อผ้าแหวกอากาศดังขึ้นจากด้านบนผู้อาวุโสหันอุ้มนางขึ้นมา แล้วถามอย่างเย็นชา “เกิดอะไรขึ้น”ดวงตาของอินชิงเสวียนเป็นสีแดง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-25
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1032 ธิดาเทพแห่งตำหนักเทพ

    เฟิงเอ้อร์เหนียงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แสงในดวงตาค่อยๆ จางลงนางจ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า แล้วพูดเสียงเบาหวิว “ศิษย์พี่เหมยเป็นศิษย์พี่หญิงของเรา ครั้งหนึ่งตอนที่นางลงเขาไปทำธุระ ก็ได้พบกับเฮ่อยวนเจ้าเมืองหนุ่มแห่งอิ๋นเฉิง นางตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น มอบตัวให้กับเขา ต่อมาผู้อาวุโสหันทราบเรื่อง จึงกักขังศิษย์พี่เหมยไว้ในผาเฟิงเริ่น ต้องทุกข์ตรมต่อความเจ็บปวดจากการต้องลมหนาวเสียดกระดูกทุกวัน”ที่แท้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแบบนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าแม้ว่าแม่ของเจ้าของร่างเดิมจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็มีชีวิตอยู่แบบอยู่มิสู้ตาย“เหตุใดผู้อาวุโสหันจึงทำเช่นนี้”อินชิงเสวียนถามอีกครั้งเฟิงเอ้อร์เหนียงพูดด้วยทื่อๆ “หันเจิงหมิงลูกชายของเขาชอบพี่หญิงใหญ่ เขาอยากได้ศิษย์พี่เป็นลูกสะใภ้มาโดยตลอด เมื่อเขารู้ว่าพี่หญิงใหญ่มอบกายให้คนอื่นแล้ว หันเจิงหมิงก็ธาตุไฟเข้าแทรก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผู้อาวุโสเกลียดศิษย์พี่มาก”เมื่อพูดจบ นางก็กล่าวเสริมอีกว่า“นี่เป็นการคาดเดาของข้าเอง”“ผาเฟิงเริ่นอยู่ที่ไหน แล้ว...ลิ่นเซียวอาศัยอยู่ที่ไหน”เฟิงเอ้อร์เหนียงชี้ไปที่บนหัวเหมือนหุ่นเชิด“ผาเฟิงเริ่นอยู่ท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-26
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1033 ได้พบลิ่นเซียวอีกครั้ง

    ธิดาเทพคนใหม่?อินชิงเสวียน อดไม่ได้ที่จะมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งนางสวมผ้าคลุมสีขาวบริสุทธิ์ วางมือทับกันด้านหน้าอก ทำให้คนรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาทั้งคู่หลุบลงเล็กน้อย ทำให้ไม่สามารถตัดสินสีหน้าของนางได้แต่ดูจากรูปร่างแล้ว คงมีอายุไม่มากนักวินาทีต่อมา อินชิงเสวียนเห็นลิ่นเซียวที่มีผมสีขาวอยู่ท่ามกลางฝูงชนรูปร่างหน้าตาของเขายังคงหล่อเหลาเหมือนตอนที่พบครั้งแรก แต่แววตากลับดูวิปลาสกว่าตอนนั้นมีคนถามว่า “ผู้อาวุโสหัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเรียกทุกคนมาที่นี่กลางดึก”ผู้อาวุโสหันยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนแท่นสูง สายตาคมกริบดั่งสายฟ้า กวาดมองทุกคนทีละคน“วันนี้ข้าพาแม่ลูกคู่หนึ่งขึ้นมาบนเขา เมื่อสามสิบนาทีที่แล้ว เด็กคนนั้นถูกลักพาตัวไป ไม่ทราบว่าช่วงนี้มีใครออกไปข้างนอกบ้างหรือไม่”ทันทีที่ผู้อาวุโสหันพูดจบ ทุกคนก็มองหน้ากันด้วยความตกใจอาคันตุกะมักจะบำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำของตน ยกเว้นศิษย์ที่ลาดตระเวนบนภูเขาแล้ว ก็แทบไม่มีใครเดินเพ่นพ่านในตอนกลางคืนลิ่นเซียวได้เห็นอินชิงเสวียนแล้ว จิตใจพลันเกิดความผันผวนทันทีเขาเหาะไปที่หน้าแท่น แล้วคว้าข้อมือของอินชิงเสวียนเขาถามด้วยน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-26

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status