อินชิงเสวียนเดินมาถึงตลาดแล้วถนนที่นี่พลุกพล่านกว่าในเมืองหลวง และสิ่งที่แตกต่างก็คือ ชาวบ้านที่นี่ล้วนถืออาวุธ ซึ่งเกือบจะเหมือนกับเป่ยไห่เลยบนถนนบางครั้งอินชิงเสวียนก็ได้ยินคำว่าหนังสือสวรรค์ไร้อักษร ซึ่งนางก็อดแปลกใจไม่ได้ทำไมถึงไม่เคยได้ยินผู้อาวุโสหันพูดถึงเรื่องนี้เลยเขากล่าวว่าตำหนักเทพหอทองคำมีเคล็ดวิชาลับวรยุทธ์ มียอดฝีมือและผู้อาวุโส ทำนองพิณที่หายสาบสูญ และภาพวาดของทุกคน แต่ไม่ได้พูดถึงหนังสือสวรรค์ไร้อักษรเลยหรือว่าเรื่องนี้มีการวางแผนร้ายที่ไม่อาจให้คนล่วงรู้?ขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนขึ้นว่า “ผู้อาวุโสฉีจากสำนักอวิ๋นซานมาแล้ว เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะพาเราไปที่ยอดเขาบรรจบสวรรค์ ตอนนี้กำลังรับสมัครผู้มีความสามารถที่ศาลาหานซาน เรารีบไปดูกันเถอะ”“สำนักอวิ๋นซานเป็นสำนักใหญ่ในยุทธจักร มีเขาเป็นผู้นำของพวกเรา ต้องสามารถค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของสำนักบนเขาได้แน่”“ใช่แล้ว สำนักอวิ๋นซานมินเป็นสำนักคุณธรรมที่ต่อสู้กับพวกตงหลิว สามารถไว้ใจได้แน่นอน”“เรารีบไปดูกันเถอะ”ทุกคนวิ่งไปด้วยประกาศไปด้วย มุ่งหน้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว อินชิงเสวียนยิ้มอย่างเหยียดหยาม ส
อินชิงเสวียนโค้งกายคำนับเล็กน้อย“ขอบคุณเสด็จอามาก ไม่ทราบว่าเหตุใดเสด็จอาถึงพบที่นี่ได้”เย่จั้นถอนหายใจกล่าวว่า “หลังจากออกจากเมืองหลวง ข้าก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ได้ยินมาว่ามีหนังสือสวรรค์ไร้อักษรปรากฏขึ้นที่เทือกเขาเชื่อมเมฆา ชาวยุทธ์จำนวนมากมุ่งหน้ามาที่นี่ จึงลองเสี่ยงโชคดูเหมือนกัน”อินชิงเสวียนพยักหน้า“เป็นโอกาสดีเหมาะกับการมาสืบข่าวจริงๆ น่าเสียดายที่การเดินทางไปเป่ยไห่ สืบข่าวอะไรไม่ได้เลย น่าละอายใจต่อเสด็จอายิ่งนัก”เย่จั้นพูดอย่างอบอุ่น “ฮองเฮาไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง แม่นางอินหายตัวไปหลายปีแล้ว ข้ารู้ว่าการตามหามีความหวังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่อยากเสียใจภายหลัง ไม่ว่าจะผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร ก็ควรพยายามทำให้ดีที่สุด”เขาหยุดครู่หนึ่ง แล้วขมวดคิ้วถามว่า “แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือจ้าวเอ๋อร์ได้อย่างไร ฮองเฮาพอมีวิธีใดที่ให้ข้าขึ้นเขาไปกับเจ้าได้หรือไม่ จะได้ช่วยดูแล?”“ไม่ต้องหรอก ที่ข้ามาพบเสด็จอานั้น ประการแรกคือไม่ต้องการให้อาอวี้รู้เรื่องนี้ ประการที่สองไม่ต้องการให้เสด็จอาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเสด็จอา แต่ผู้อาวุโสหันนั่นเจ้าเล่ห์เ
ผู้อาวุโสหันแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา“ถ้านางตาย นั่นก็เพราะว่ารนหาที่เอง ตลอดหลายปีที่นางทรยศหลบหนีออกไปข้างนอก ข้าไม่ได้คิดบัญชีกับนาง ก็นับว่าเมตตามากแล้ว”“ผู้อาวุโสหัน!”ฉุยอวี้ตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้เสียงของผู้อาวุโสหันเข้มขึ้น“หุบปาก”อินชิงเสวียนตื่นจากภวังค์ทันทีดูเหมือนว่าตัวเองจะดูไม่ผิด โจรเฒ่าแซ่หันคนนี้ไม่ใช่คนดีจริงๆแต่มีสิ่งหนึ่งที่นางไม่เคยเข้าใจมาโดยตลอดในเมื่อตำหนักเทพหอทองคำสูงส่งเพียงนี้ ทั้งยังมีอำนาจทุกอย่าง ทำไมฉุยอวี้ถึงทรยศต่อสำนัก มาก่อตั้งสำนักที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างเช่นสำนักเซียวเหยา?โชคดีที่พรุ่งนี้ก็จะขึ้นเขาแล้ว ทุกสิ่งที่นางอยากรู้ จะต้องหาคำตอบให้กระจ่างขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เสียงฝีเท้าก็มาถึงชั้นบนแล้วฉางเฮิ่นเทียนกล่าวด้วยความเคารพ “ผู้อาวุโสหัน แม่นางอินกลับมาแล้ว”ผู้อาวุโสหันถามด้วยเสียงแผ่วต่ำ “นางได้ไปหาฉุยอวี้หรือไม่”ฉางเฮิ่นเทียนกล่าวว่า “ไม่ขอรับ ซื้อของเล่นมาให้ลูก แล้วกลับไปพักผ่อนในห้องแล้ว”ผู้อาวุโสหันเหลือบมองที่ห้องของอินชิงเสวียน แล้วพูดเบาๆ “ดีมาก เฟิงอวิ๋นลี่ เจ้าเอาของกินไปให้นาง จำไว้ ระวังปากของเจ้าด้วย”“เจ้
ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีความหวังริบหรี่อยู่ในใจ บางทีการปรากฏตัวของอินชิงเสวียน อาจเป็นสิ่งดีที่สวรรค์ประทานให้พี่หญิงใหญ่ก็เป็นได้...อินชิงเสวียนก็คิดเช่นเดียวกันในตอนแรกที่โจรเฒ่าหันคนนี้ไปเมืองหลวง ก็เพื่อต้องการน้ำพุวิญญาณในตัวนาง ตอนนี้ก็ข่มขู่ตัวเองให้ขึ้นเขา อาจทำเพื่อเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงหากเฟิงเอ้อร์เหนียงพูดความจริง และเฮ่อยวนกับแม่ของเจ้าของร่างเดิมยังไม่ตาย จุดประสงค์ของโจรเฒ่า ก็คือให้ตัวเองและเฮ่อยวนต่อสู้ศึกสายเลือด เพื่อให้ตัวเองกอบโกยผลประโยชน์ช่างเป็นตาแก่ร้ายกาจจริงๆ แต่ว่า ตอนนี้แม่ของเจ้าของร่างเดิมอยู่ที่ไหนอินชิงเสวียนมองไปที่ฉุยอวี้ แต่กลับเห็นเฟิงเอ้อร์เหนียงเดินโซซัดโซเซ แบกฉุยอวี้ขึ้นบันไดหินขึ้นไปทีละก้าว แม้ว่าความประทับใจของนางที่มีต่อเฟิงเอ้อร์เหนียงและฉุยอวี้จะไม่ดีนัก แต่ในเวลานี้ยังคงรู้สึกว่าศิษย์พี่น้องคู่นี้น่าสงสารอยู่บ้าง“ไม่สู้...ให้ข้าช่วยแบกสักประเดี๋ยวเถอะ”เฟิงเอ้อร์เหนียงยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ“ไม่ต้องหรอก ข้าไหว”อินชิงเสวียนความซับซ้อนในแววตาของนาง แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้มากนัก จึงทำได้เพียงยอมแพ้ทุกคนเคลื่อนตัวไปข้างหน้า หลังจ
เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กป้อมออกมาทันที กอดคอของอินชิงเสวียน แล้วกดใบหน้าเล็กๆ ที่เรียบเนียนซุกคอของอินชิงเสวียน เฉกเช่นกระต่ายตัวน้อยที่รู้ความ“เด็จแม่ไม่ร้องไห้ ลูกไม่ลำบากเลย ถ้าท่านร้องไห้ ลูกจะไม่ชอบเอาน้า”เสี่ยวหนานเฟิงเกลือกใบหน้ากับตัวนาง จากนั้นถอยหลังเล็กน้อย ขมวดคิ้วมอง และเชิดริมฝีปากใส่อินชิงเสวียน แสดงท่าทางข่มขู่เล็กๆเมื่อเห็นเขาที่ดูเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็ก อินชิงเสวียนก็หัวเราะออกมา“เจ้าตัวแสบ กล้าขู่แม่งั้นรึ”เสี่ยวหนานเฟิงซบตัวเข้าไปในอ้อมแขนของอินชิงเสวียนอีกครั้ง หอมแก้มนางอย่างอ่อนหวาน พูดด้วยเสียงเล็กๆ “ลูกไม่ขู่เด็จแม่เสียหน่อย ลูกชอบเด็จแม่ที่สุด คนแก่นั่นเป็นคนไม่ดี ลูกกลัวๆ”อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมานั่งบนตัก แล้วพูดปลอบใจ “ไม่กลัวนะคนดี แม่จะแก้แค้นแทนลูกรักแน่นอน แต่ในช่วงนี้ เกรงว่าเจ้าจะเหงานิดหน่อย ต้องอยู่เล่นในนี้คนเดียวแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงเงยหน้าเล็กๆ ขึ้นมาแล้วถามว่า “เด็จแม่จะไปตีคนแก่ชั่วคนนั้นหรือ”“อื้ม แม่จะหาทางจัดการกับเขา แม่จะไม่ให้เจ้าอยู่คนเดียวนานเกินไป ถ้าเจ้าพูด แม่ยังได้ยินเสียงเจ้าอยู่”อินชิงเสวียนโบกมือ ทันใด
เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ หลอกง่ายตลอดเสี่ยวหนานเฟิงกระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุขอินชิงเสวียนเล่นกับลูกชายด้วยความรักและเอ็นดูอยู่พักหนึ่ง จากนั้นป้อนข้าวและเครื่องเคียงให้เขา แล้วอุ้มเขานอนบนเตียงหลังใหญ่เมื่อได้กลิ่นของผู้เป็นแม่ เสี่ยวหนานเฟิงก็รู้สึกปลอดภัยมาก จนหลับลึกไปในเวลาเพียงไม่นานอินชิงเสวียนดึงผ้าห่มคลุมตัวลูกชาย แล้วหายตัวออกจากมิตินางต้องแสดงละคร เพื่อให้พวกเขาคิดว่าเสี่ยวหนานเฟิงหายไปแล้วจริงๆ เพื่อกันไม่ให้กำลังภายในไม่เพียงพอ อินชิงเสวียนใช้พลังมิติอีก แล้วซัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นประตูหินหนาก็ถูกพังออกเป็นสองส่วน จากนั้นเหาะลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว และกระอักเลือดเต็มปาก“อ้าก! คืนลูกชายมาให้ข้า!”นางตะโกนเสียงแหลมเสียงร้องแหลมสูงดังก้องขึ้นกลางความเงียบสงบของยามค่ำคืนในทันที เสียงสะท้อนก้องกังวานท่ามกลางภูเขาปังอินชิงเสวียนชนต้นไม้โบราณขนาดสองคนโอบเข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดสาหัสทำให้นางหายใจไม่ออกในไม่ช้าก็มีเสียงเสื้อผ้าแหวกอากาศดังขึ้นจากด้านบนผู้อาวุโสหันอุ้มนางขึ้นมา แล้วถามอย่างเย็นชา “เกิดอะไรขึ้น”ดวงตาของอินชิงเสวียนเป็นสีแดง
เฟิงเอ้อร์เหนียงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แสงในดวงตาค่อยๆ จางลงนางจ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า แล้วพูดเสียงเบาหวิว “ศิษย์พี่เหมยเป็นศิษย์พี่หญิงของเรา ครั้งหนึ่งตอนที่นางลงเขาไปทำธุระ ก็ได้พบกับเฮ่อยวนเจ้าเมืองหนุ่มแห่งอิ๋นเฉิง นางตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น มอบตัวให้กับเขา ต่อมาผู้อาวุโสหันทราบเรื่อง จึงกักขังศิษย์พี่เหมยไว้ในผาเฟิงเริ่น ต้องทุกข์ตรมต่อความเจ็บปวดจากการต้องลมหนาวเสียดกระดูกทุกวัน”ที่แท้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแบบนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าแม้ว่าแม่ของเจ้าของร่างเดิมจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็มีชีวิตอยู่แบบอยู่มิสู้ตาย“เหตุใดผู้อาวุโสหันจึงทำเช่นนี้”อินชิงเสวียนถามอีกครั้งเฟิงเอ้อร์เหนียงพูดด้วยทื่อๆ “หันเจิงหมิงลูกชายของเขาชอบพี่หญิงใหญ่ เขาอยากได้ศิษย์พี่เป็นลูกสะใภ้มาโดยตลอด เมื่อเขารู้ว่าพี่หญิงใหญ่มอบกายให้คนอื่นแล้ว หันเจิงหมิงก็ธาตุไฟเข้าแทรก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผู้อาวุโสเกลียดศิษย์พี่มาก”เมื่อพูดจบ นางก็กล่าวเสริมอีกว่า“นี่เป็นการคาดเดาของข้าเอง”“ผาเฟิงเริ่นอยู่ที่ไหน แล้ว...ลิ่นเซียวอาศัยอยู่ที่ไหน”เฟิงเอ้อร์เหนียงชี้ไปที่บนหัวเหมือนหุ่นเชิด“ผาเฟิงเริ่นอยู่ท
ธิดาเทพคนใหม่?อินชิงเสวียน อดไม่ได้ที่จะมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งนางสวมผ้าคลุมสีขาวบริสุทธิ์ วางมือทับกันด้านหน้าอก ทำให้คนรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาทั้งคู่หลุบลงเล็กน้อย ทำให้ไม่สามารถตัดสินสีหน้าของนางได้แต่ดูจากรูปร่างแล้ว คงมีอายุไม่มากนักวินาทีต่อมา อินชิงเสวียนเห็นลิ่นเซียวที่มีผมสีขาวอยู่ท่ามกลางฝูงชนรูปร่างหน้าตาของเขายังคงหล่อเหลาเหมือนตอนที่พบครั้งแรก แต่แววตากลับดูวิปลาสกว่าตอนนั้นมีคนถามว่า “ผู้อาวุโสหัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเรียกทุกคนมาที่นี่กลางดึก”ผู้อาวุโสหันยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนแท่นสูง สายตาคมกริบดั่งสายฟ้า กวาดมองทุกคนทีละคน“วันนี้ข้าพาแม่ลูกคู่หนึ่งขึ้นมาบนเขา เมื่อสามสิบนาทีที่แล้ว เด็กคนนั้นถูกลักพาตัวไป ไม่ทราบว่าช่วงนี้มีใครออกไปข้างนอกบ้างหรือไม่”ทันทีที่ผู้อาวุโสหันพูดจบ ทุกคนก็มองหน้ากันด้วยความตกใจอาคันตุกะมักจะบำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำของตน ยกเว้นศิษย์ที่ลาดตระเวนบนภูเขาแล้ว ก็แทบไม่มีใครเดินเพ่นพ่านในตอนกลางคืนลิ่นเซียวได้เห็นอินชิงเสวียนแล้ว จิตใจพลันเกิดความผันผวนทันทีเขาเหาะไปที่หน้าแท่น แล้วคว้าข้อมือของอินชิงเสวียนเขาถามด้วยน้