บททั้งหมดของ บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่: บทที่ 121 - บทที่ 130

1858

บทที่ 121

จู่เป๋าหม่าและผู้บัญชาการซุนตกตะลึง! ในตอนนั้น มู่ซ่วยได้ก่อตั้งกองทัพเกราะดำและคนป่าเถื่อนที่ถูกทหารชี้ก็ต่างยอมจำนน! องครักษ์ของเขาที่เก่งที่สุดสามารถต่อสู้แบบหนึ่งต่อสิบได้ สวมชุดเกราะสีดำและสามารถฆ่าคนได้หลายร้อยคน การจัดอันดับองครักษ์ส่วนตัวนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดศีรษะคน และผู้ที่อยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกต่างก็มีความดีความชอบในการสู้รบ! องครักษ์คนแรกมีข่าวลือว่าเขาติดตามมู่ซ่วยสู้รบทั้งทางเหนือไปจนถึงทางใต้ โดยตัดศีรษะคนมานับไม่ถ้วน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปีนั้น องครักษ์ส่วนตัวของมู่ซ่วยคงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้อยู่เหนือพวกเขา แม้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น แต่ก็มีผู้มีอำนาจใหญ่ในวัดที่ออกมาปกป้ององครักษ์ส่วนตัวเหล่านี้ ต่างอยากให้พวกเขาเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง และห้ามปรามคนป่าเถื่อนให้นายท่าน ทว่าองครักษ์ส่วนตัวเหล่านั้นทั้งหมดต่างถูกปลดประจำการและกลับไปยังทุ่งนาของตน จึงไม่มีใครเหลือเพื่อรับใช้ประเทศ! “จู๋เป๋าหม่า ผู้บัญชาการซุน!” ดวงตาของจ้าวเว่ยหมินมืดลง “พวกเจ้ายังต้องการยืนยันตัวตนของเขาหรือไม่ หรือว่าเราจะร่วมกันออกเอกสารและไปสอบถามที่กรมกลาโหม!” “ไม่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 122

“หวังหานซานแห่งหมู่บ้านต้าหวัง หวังเฉียนจุน หวังพั่วหลู่พร้อมชาวบ้านจำนวนมากบุกเข้าไปในค่ายซานหู่ ซึ่งทำให้เทศบาลปราศจากอันตราย ตามรางวัลนำจับของหัวหน้าโจร เงินรางวัลหนึ่งพันตำลึง สำหรับเฮยซานหู่ เงินรางวัลแปดร้อยตำลึง สำหรับฮวางปิ้งหู่และโจรร้ายที่เหลือเป็นเงินรางวัลสิบสองตำลึงต่อคน โดยมีเงินรางวัลสองพันสามร้อยตำลึงจะถูกจัดสรรสำหรับแต่ละครัวเรือน!" “ขอบคุณท่านใต้เท้า!” หวังหานซานนำชาวบ้านทำความเคารพ! ต้าหู่ดูสงบนิ่ง! เอ้อหู่ หวังซื่อไห่ หวังเอ้อโกว หวังเฉียนซานและหวังเสี่ยซานต่างตื่นเต้นมาก! การขึ้นศาลครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้พวกเขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มากจนไม่กลัวอีกต่อไป! สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาได้พบกับผู้พิพากษาผู้นี้และเขาเคารพต่อหวังหยวนมาก! บัดนี้เมื่อมาที่ที่ว่าการอำเภอ ยามที่เอ่ยปากพูดถึงหมู่บ้านต้าหวัง เจ้าหน้าที่ต่างยิ้มอย่างนอบน้อม หมู่บ้านต้าหวังโหดเกินไปแล้ว ทุกครั้งที่มาร้องเรียนก็จะโค่นล้มพวกเขาทีละคน ซ้ำยังโหดมากขึ้นในแต่ละครั้ง! ครั้งแรกเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ครั้งที่สองเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจการ องครักษ์ ครั้งที่สามเป็นหัวหน้าโจรและชายผู้มีอำนาจ ชาว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 123

หากว่าปีนสูงขึ้นอีก เมื่อถึงครานั้น อาจจะมีสักวันหนึ่งที่เขาสามารถลากคนเสเพลผู้นั้นตายโดยไม่มีหลุมฝังศพ คนรับใช้ถือถาดเงินมา “นายท่านหลิว สิ่งที่นายท่านร้องขอ นายน้อยสองบอกว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้ เงินเพียงเล็กน้อยนี้เป็นสินน้ำใจเล็กน้อยจากนายน้อย จากนี้ไปตระกูลหลิว และตระกูลหลี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก!” ปัง! คนใช้หันหลังกลับและประตูใหญ่ก็ปิดสนิท! หลิวเจี้ยนเย่ตกตะลึง ทันใดนั้นเขาก็โยนถาดในมือแล้วทุบประตูด้วยความโกรธ “หลี่ซานซือ เจ้าคิดว่าข้าเป็นตัวอะไร ข้าเป็นคนโง่เขลาหรือไง! หากไม่ใช่เพราะน้องสาวของเจ้า แล้วใยตระกูลหลิวมาถึงจุดนี้ได้?ออกมา เจ้าออกมาอธิบายให้ข้าฟังหน่อย ออกมาซิ!” ภายในตระกูลหลี่ หลี่ซานซือขมวดคิ้ว! เขาหวังว่าน้องสาวจะกลับมาพบกันอีกครั้ง แต่เขาไม่เคยคิดที่จะปล่อยให้ใครฆ่าหวังหยวน! หากเขารู้ว่าตระกูลหลิวชั่วร้ายเช่นนี้ เขาจะไม่มีวันสนใจหรือนึกถึงเป็นอันขาด! ชายผู้ที่ไร้ศีลธรรม และไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จได้ ก็ไม่สามารถไว้วางใจให้คนดีได้ “หลี่ซานซือ ออกมา ออกมา…” เมื่อเหนื่อยกับการตะโกน หลิวเจี้ยนเย่ก็ได้สติและจากไปด้วยความสิ้นหวัง เขาไม่ได้เก็บ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 124

หยางเฟิ่งกั๋วเสนาบดีฝ่ายซ้ายหรี่ตาลง “เจ้ากระทรวงสือ ผู้พิพากษาถูกลดตำแหน่งอย่างไม่เป็นทางการ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าท่าน ซึ่งเป็นเจ้ากระทรวงเสนาบดีกรมโยธาได้เข้ามาแทนที่เจ้ากระทรวงหยวน และกลายเป็นเสนาบดีกรมขุนนางเองแล้ว” เมืองต้าเย่มีคณะขุนนางขั้นเสนาบดีทางฝั่งซ้ายและขวา ซึ่งมีทั้งหมดหกกรม และแต่ละคนมีเลขานุการสองคน ในขั้นแรกจะเป็นการประมวลผลสาส์นสำหรับกราบทูลที่ได้รับ และจะถวายให้องค์จักรพรรดิตรวจสอบในขั้นสุดท้าย จากนั้นขันทีจะประทับตราแล้วจึงส่งให้คนทั้งประเทศ ทั้งหกกรมประกอบไปด้วย กรมขุนนาง กรมพีธีการ กรมกลาโหม กรมยุติธรรม กรมพระคลัง และกรมโยธาธิการ! กรมขุนนางมีอำนาจสูงกว่าทั้งหกกรม โดยรับผิดชอบในการควบคุม ประเมิน แต่งตั้ง และถอดถอนเจ้าหน้าที่ทั่วหล้า! กรมโยธาธิการอยู่ล่างสุดของทั้งหกกรม รับผิดชอบโครงการทั่วหล้า โดยทำงานหนักและยากลำบาก การแสดงออกของสือเหยาเฉียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “การแต่งตั้งและการเลิกจ้างเจ้าหน้าที่จากทั่วหล้าถือเป็นความรับผิดชอบภายใต้กรมขุนนางอย่างแน่นอน จ้าวเว่ยหมินและหวังหยวนมีจุดประสงค์แอบแฝงโดยต้องการทลายกำแพง กรมโยธาธิการของข้ามีหน้าที่ควบคุมดูแล โดยทำ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 125

เจ้ากระทรวงกรมพิธีการ และเจ้ากระทรวงกรมกลาโหมต่างยืนหยัดเพื่อปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง! ทันใดนั้น เสนาบดีทั้งสองฝ่ายทางขวาและซ้ายก็ทะเลาะกัน ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำ! เจ้ากระทรวงกรมขุนนางดูสาสน์กราบทูลอยู่ข้าง ๆ โดยไม่มีผู้สนใจ เขาไม่แสดงท่าทีใดออกมา! “มาลงคะแนนกันเถอะ!” ทันใดนั้น เป้าชิงสื่อก็พูดขึ้นว่า “ข้าคิดว่ากลยุทธ์นี้ไม่เหมาะสม!” “ข้าเห็นด้วย!” เจ้ากระทรวงกรมพระคลัง กรมยุติธรรม และกรมโยธาธิการต่างพูดออกมาด้วยท่าทีต่อต้าน! หยางเฟิ่งกั๋วขมวดคิ้วและกัดฟัน เขาโมโหจนอยากจะเดินออกไป เป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่มีการลงคะแนนเสียง สิ่งสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนไม่สามารถดำเนินการได้! เสนาบดีฝ่ายซ้ายผู้นี่ทำเกินไปจริง ๆ ! “แม้ว่ากลยุทธ์นี้จะมีข้อบกพร่อง แต่ก็มีบางสิ่งที่สามารถทำได้!” หยวนกวนหลวน เจ้ากระทรวงกรมขุนนางที่เงียบงันมาจนถึงตอนนี้ จู่ ๆ ก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม! สวบ! เจ้ากระทรวงทั้งสามของกรมพระคลัง กรมยุติธรรมและกรมโยธาธิการต่างหันศีรษะและขมวดคิ้วมองสหายร่วมงานผู้นี้ด้วยความเหินห่าง! เจ้ากระทรวงกรมขุนนางที่ไม่เคยมีส่วนร่วมในข้อพิพาทระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 126

“ผู้ที่เสนอนโยบายนี้ต้องมีเจตนาชั่วร้าย ต้องถูกจับกุมและตัดสินลงโทษในเมืองจิงตู!” ขุนนางจากฝ่ายขวาออกมาปะทะ! “ไม่มีอะไรต้องกังวลเกี่ยวกับพวกโจรอันธพาล จ้าวเว่ยหมินได้คิดมาตรการตอบโต้แล้ว!” “การทลายกำแพงตลาดและทำการค้าขายสามารถเพิ่มภาษี พัฒนาเศรษฐกิจกลางคืนและเพิ่มการต้าขายเช่นนั้นภาษีของราชสำนักก็จะเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอนพะยะค่ะ!” “ฝ่าบาท นี่เป็นกลยุทธ์โบราณและผู้ที่มีส่วนร่วมจะต้องได้รับรางวัลมากมาย มิฉะนั้นใครหน้าไหนในโลกนี้จะให้คำแนะนำแก่ราชสำนักไก้!” “ข้าเห็นพ้องด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาทโปรดทรงปูนบำเหน็จให้จ้าวเว่ยหมินและให้คำแนะนำแก่บัณฑิตหวังหยวนแห่งเมืองฝูด้วยพะยะค่ะ!” ขุนนางของเสนาบดีฝ่ายซ้ายออกมาสนับสนุน! “หึหึ!” ฮ่องเต้ซิงหลงหรี่ตาลงและเฝ้ามองการปะทะระหว่างสองฝ่าย เมื่อท้องพระโรงเงียบลง เขาก็ตรัสว่า “เจ้ากระทรวงหยวน เจ้าคิดอย่างไรกับกลยุทธ์นี้” “ทูลฝ่าบาท!” หยวนกวนหลวนเจ้ากระทรวงกรมขุนนางออกมากล่าวว่า “หากว่าเมืองจวิ้นทั่วประเทศรื้อถอนกำแพงตลาด รายได้ของท้องพระคลังของประเทศก็จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยยี่สิบเปอร์เซนต์ อย่างไรก็ตามเราต้องระมัดระวังถึงปัญหาหลังรื้อถอนกำแพ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 127

กัวเหลียงและกัวเฉียงเหลือบมองพี่ใหญ่ แล้วทั้งสองก็ก้มหน้าลงโดยไม่ส่งเสียง! “ไม่ ไม่มีอะไรขอรับ!” กัวฉางหน้าแดงและพูดว่า “ท่านแม่ของข้าสุขภาพไม่ดี เราจึงไปเรียกหมอ!” หวังหยวนถามด้วยความห่วงใย “หมอพูดว่าอย่างไรบ้าง? อาการป่วยร้ายแรงหรือไม่?” สังคมนี้ขาดการรักษาและยารักษาโรค แม้แต่เป็นไข้หวัดก็อาจคร่าชีวิตผู้คนได้! กัวฉางก้มศีรษะลงและพูดตะกุกตะกัก “ไม่ ไม่ร้ายแรง หมอบอกว่ากินยาสองสามห่อก็จะไม่เป็นไรแล้ว!” หวังหยวนกำชับว่า “คนชราสุขภาพอ่อนแอ หาอะไรดี ๆ ให้นางกินทุกวัน ไข่ไก่ เนื้อปลา เนื้อหมูก็ดีหมดไปรีดนมวัวนมแพะแล้วต้มให้ท่านดื่ม ล้วนดีต่อร่างกาย! อย่าคิดที่จะเก็บหอมรอมริด ไม่เช่นนั้น เมื่อสุขภาพของหญิงชราทรุดโทรมลงไม่ว่าจะมีเงินมากเท่าไรก็เอาคืนไม่ได้ !” คนในยุคสมัยนี้มักขาดโปรตีน แม้ว่าทั้งสามพี่น้องจะได้รับเงินมากมาย แต่ครอบครัวของพวกเขาก็เคยชินกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก จึงก็ไม่กล้ากินหรือดื่มมากเกินไป อย่างมากที่สุดก็ทานอาหารอิ่ม แบ่งปลาจากกลุ่มตกปลาแล้วนำมาปรุงด้วยน้ำมันและเกลือเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ปลาเหล่านี้โดยพื้นฐานแล้วมีไว้สำหรับเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ดื่มได้เพียงซุ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 128

หวังหยวนตามอยู่ด้านหลังด้วยความมึนงง โดยไม่รู้ว่าคนตัวเล็กนี่จะพูดอะไรอีก! จ้าวชิงเหอชี้ไปที่ขวดสามใบในสวน “ตามวิธีที่ท่านพูด ท่านพ่อและข้าพบปรมาจารย์ที่เผาเครื่องลายคราม ทำไหขนาดต่าง ๆ มากกว่า 20 ใบ และเปิดเตาเผาสามเตาเพื่ออบมัน เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเป็นเงินทั้งหมดห้าสิบกว้านเราก็เผาไหที่แตกทั้งสามใบนี้ได้! รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินหนึ่งร้อยกว้าน!” “เยอะขนาดนี้เลยหรือ!” เมื่อมองไปยังไหที่เต็มไปด้วยฝุ่นสามใบ ซึ่งไม่ต่างจากไปราคาหลายสิบเหวินในท้องถนน เอ้อหู่รู้สึกเศร้าใจมากจนอยากจะร้องไห้ เขาทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเป็นเวลาสามวัน ซ้ำยังถูกตราหน้าจากการไปตรวจสอบที่หอนางโลม แต่กลับเห็นของเล่นอะไรแบบนี้ เป็นไปได้ไหมที่พี่หยวนกำลังสุรุ่ยสุร่ายจริง ๆ ? “มีสามใบ มันก็คุ้มมากแล้ว!” หวังหยวนหยิบเบ้าหลอมตะกั่วดำขึ้นมาเคาะมันและฟังเสียง เขารู้สึกมีความสุขมาก เดิมทีคิดว่าหลอมได้สักหนึ่งใบก็ดีมากแล้ว แต่ท้ายที่สุดกลับหลอมได้สามใบงาม! ไม่ใช่เพราะวัตถุดิบที่เขาผสมมีปัญหา แต่เป็นเพราะยุคนี้ควบคุมความร้อนได้ยาก สามารถหลอมได้ถึงสามใบ นับว่าเกินความคาดหมาย! จ้าวชิงเหอวางมือคาดเอว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 129

ตอนนั้นรู้สึกเศร้าใจมากและอยากจะตำหนิเขาที่ไม่เอาไหน แต่ก็รู้สึกมีความสุขมากในเวลาเดียวกัน! ต่อมาถ้าเบ้าหลอมไม่สามารถละลายเหล็กหลอมเหลวได้ เพราะเห็นแก่สบู่ นางก็จะไม่ตำหนิเขา! “เหล็กหลอมละลายหมดแล้ว!” ทันใดนั้นเอ้อหู่ก็ตะโกน! กัวฉางสามพี่น้องยืดคอและดูประหลาดใจ “มันหลอมละลายแล้วจริง ๆ !” “มันละลายแล้ว ละลายแล้ว เส้นเหล็กทั้งหมดกลายเป็นเหล็กหลอมเหลว มันละลายแล้วจริง ๆ !” ท่านลุงคนด้วยท่อนเหล็กแล้วตะโกนอย่างตื่นเต้นและเต้นเหมือนเด็ก ฟู่! จ้าวชิงเหอที่กำลังเหม่อลอยลุกขึ้นยืนทันที แล้วรีบพุ่งไปที่เตาไฟ มองดูเหล็กหลอมเหลวในเบ้าหลอม ไฟสีแดงสะท้อนความตกใจบนใบหน้าของเธอ ในฐานะลูกสาวของช่างตีเหล็ก เธอรู้ดีว่าเหล็กเส้นหลอมละลายหมายถึงอะไร! นี่คือเตาหลอมเหล็กอย่างดี หากสร้างดาบชื่อดังได้ ก็สามารถขายได้ในราคาหลายร้อยหรือหลายพันกว้าน! “หยวนเอ๋อ เหล็กหลอมละลายแล้วจริง ๆ ละลายแล้วจริง ๆ !” ท่านลุงรีบวิ่งไปหาหวังหยวนอย่างตื่นเต้น โดยไม่ท่าทีเหมอนผู้หลักผู้ใหญ่เลย หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ และพยักหน้า ผลผลิตในสมัยโบราณต่ำมากจนถ้วยใส่เหล็กจะทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ หากบนโลกนี้ เหล็กช
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 130

เมื่อตอนเด็กๆ ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองมักจะนอนห้องเดียวกันหรือนอนเตียงเดียวกันด้วยซ้ำ! แต่ตอนนี้พวกเขาต่างโตแล้ว ถึงเวลาที่ควรแบ่งแยกชายหญิง แต่ท่านลุงยังคงปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเด็ก! แต่ก็เข้าใจได้ว่าบุรุษอย่างช่างตีเหล็ก คงจะไม่คิดมากขนาดนั้น ใบหน้าสวยของจ้าวชิงเหอเปลี่ยนเป็นสีแดง “เช่นนั้นท่านก็นอนบนพื้นซิ!” หวังหยวนเลิกคิ้ว “ท่านลุงบอกว่าร่างกายข้าอ่อนแอ เขาจึงขอให้ข้านอนบนเตียงและเจ้านอนบนพื้น!” “ท่านพ่อ นี่มันลำเอียงเกินไปแล้ว ข้าจะไม่เป็นลูกสาวของเขาอีกต่อไป!” จ้าวชิงเหอปูที่นอนลงบนพื้นด้วยความโกรธ! ทันทีที่ปูที่นอนลงบนพื้นเสร็จ หวังหยวนก็นอนลงโดยเอามือไขว้ไว้ด้านหลังศีรษะ! จ้าวชิงเหอดึงเขาด้วยความโกรธ “ท่านกำลังทำอะไรอยู่ รีบลุกขึ้นเร็ว ๆ นี่ที่นอนของข้า!” หวังหยวนนอนอยู่บนพื้น “ข้าเหนื่อยมาก ไม่อยากคลานขึ้นบนเตียงแล้ว คืนนี้ข้าจะนอนที่นี่!” “ท่าน!” จ้าวชิงเหอพูดด้วยความโกรธ “ถ้าอย่างนั้นท่านต้องลุกขึ้นมาล้างเท้าก่อนเข้านอน ไม่เช่นนั้นผ้าห่มของข้าจะเปื้อน!” “อา!” หวังหยวนหาว “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไปเอาน้ำล้างเท้าให้ข้าซิ!” “ไม่ไป!” จ้าวชิงเหอหันกลับมา ญ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1112131415
...
186
DMCA.com Protection Status