ตอนนั้นรู้สึกเศร้าใจมากและอยากจะตำหนิเขาที่ไม่เอาไหน แต่ก็รู้สึกมีความสุขมากในเวลาเดียวกัน! ต่อมาถ้าเบ้าหลอมไม่สามารถละลายเหล็กหลอมเหลวได้ เพราะเห็นแก่สบู่ นางก็จะไม่ตำหนิเขา! “เหล็กหลอมละลายหมดแล้ว!” ทันใดนั้นเอ้อหู่ก็ตะโกน! กัวฉางสามพี่น้องยืดคอและดูประหลาดใจ “มันหลอมละลายแล้วจริง ๆ !” “มันละลายแล้ว ละลายแล้ว เส้นเหล็กทั้งหมดกลายเป็นเหล็กหลอมเหลว มันละลายแล้วจริง ๆ !” ท่านลุงคนด้วยท่อนเหล็กแล้วตะโกนอย่างตื่นเต้นและเต้นเหมือนเด็ก ฟู่! จ้าวชิงเหอที่กำลังเหม่อลอยลุกขึ้นยืนทันที แล้วรีบพุ่งไปที่เตาไฟ มองดูเหล็กหลอมเหลวในเบ้าหลอม ไฟสีแดงสะท้อนความตกใจบนใบหน้าของเธอ ในฐานะลูกสาวของช่างตีเหล็ก เธอรู้ดีว่าเหล็กเส้นหลอมละลายหมายถึงอะไร! นี่คือเตาหลอมเหล็กอย่างดี หากสร้างดาบชื่อดังได้ ก็สามารถขายได้ในราคาหลายร้อยหรือหลายพันกว้าน! “หยวนเอ๋อ เหล็กหลอมละลายแล้วจริง ๆ ละลายแล้วจริง ๆ !” ท่านลุงรีบวิ่งไปหาหวังหยวนอย่างตื่นเต้น โดยไม่ท่าทีเหมอนผู้หลักผู้ใหญ่เลย หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ และพยักหน้า ผลผลิตในสมัยโบราณต่ำมากจนถ้วยใส่เหล็กจะทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ หากบนโลกนี้ เหล็กช
เมื่อตอนเด็กๆ ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองมักจะนอนห้องเดียวกันหรือนอนเตียงเดียวกันด้วยซ้ำ! แต่ตอนนี้พวกเขาต่างโตแล้ว ถึงเวลาที่ควรแบ่งแยกชายหญิง แต่ท่านลุงยังคงปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเด็ก! แต่ก็เข้าใจได้ว่าบุรุษอย่างช่างตีเหล็ก คงจะไม่คิดมากขนาดนั้น ใบหน้าสวยของจ้าวชิงเหอเปลี่ยนเป็นสีแดง “เช่นนั้นท่านก็นอนบนพื้นซิ!” หวังหยวนเลิกคิ้ว “ท่านลุงบอกว่าร่างกายข้าอ่อนแอ เขาจึงขอให้ข้านอนบนเตียงและเจ้านอนบนพื้น!” “ท่านพ่อ นี่มันลำเอียงเกินไปแล้ว ข้าจะไม่เป็นลูกสาวของเขาอีกต่อไป!” จ้าวชิงเหอปูที่นอนลงบนพื้นด้วยความโกรธ! ทันทีที่ปูที่นอนลงบนพื้นเสร็จ หวังหยวนก็นอนลงโดยเอามือไขว้ไว้ด้านหลังศีรษะ! จ้าวชิงเหอดึงเขาด้วยความโกรธ “ท่านกำลังทำอะไรอยู่ รีบลุกขึ้นเร็ว ๆ นี่ที่นอนของข้า!” หวังหยวนนอนอยู่บนพื้น “ข้าเหนื่อยมาก ไม่อยากคลานขึ้นบนเตียงแล้ว คืนนี้ข้าจะนอนที่นี่!” “ท่าน!” จ้าวชิงเหอพูดด้วยความโกรธ “ถ้าอย่างนั้นท่านต้องลุกขึ้นมาล้างเท้าก่อนเข้านอน ไม่เช่นนั้นผ้าห่มของข้าจะเปื้อน!” “อา!” หวังหยวนหาว “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไปเอาน้ำล้างเท้าให้ข้าซิ!” “ไม่ไป!” จ้าวชิงเหอหันกลับมา ญ
นางสงสัยว่าดาบที่ทำการชุบแข็งด้วยปัสสาวะสัตว์จะคมหรือไม่!“มันต้องคมแน่!”ในฐานะช่างตีเหล็กผู้มีประสบการณ์ ลุงพูดอย่างมั่นใจ “นำเกราะมา!”เพื่อทดสอบดาบใหม่ จึงซื้อชุดเกราะหนังมาเพื่อทดสอบความคมของดาบ!มีเกราะหนังวางซ้อนกันหลายชั้นอยู่บนม้านั่ง!ฟึ่บ!ลุงฟันดาบ ชั้นเกราะหนังแยกออกจากกัน!หวังหยวนไม่ได้นับประวัติศาสตร์ด้านวัสดุศาสตร์เคยบันทึกไว้ว่า ปรมาจารย์ด้านอาวุธอู๋หวยเหวิน แห่งราชวงศ์เหนือและใต้ ใช้เหล็กหุ้มเหล็กสองชั้น แล้วนำไปชุบแข็งสองชั้น เพื่อสร้างอาวุธที่สามารถเจาะเกราะได้สามสิบชั้น!คุณภาพของเหล็กกล้าคาร์บอนย่อมสูงกว่า และดาบราชวงศ์ถังที่ผลิตได้นั้นคมกว่า จะสามารถเจาะเกราะได้เกินสามสิบชั้นแน่นอน!จ้าวชิงเหอเปิดเกราะหนังที่ถูกฟันจนขาด แล้วนับ “หนึ่งชั้น สองชั้น...”เอ้อหู่เบิกตากว้างดาบที่โจรและเจ้าหน้าที่ใช้ ไม่ว่าจะลับให้คมเพียงใด ก็ทำลายเกราะได้เพียงห้าหรือหกชั้นเท่านั้น!แม้แต่ดาบทมิฬของพ่อ ก็สามารถทำลายเกราะได้เพียงยี่สิบชั้นเท่านั้น!“สามสิบหกชั้น ทำลายเกราะได้สามสิบหกชั้น ท่านพ่อ ดาบที่ท่านใช้โจมตีสามารถเจาะเกราะได้ถึงสามสิบหกชั้น!”จ้าวชิงเหอกระโดดขึ้น
ดาบราชวงศ์ถังในมือของเอ้อหู่ยังคงสภาพเดิม แต่ดาบยาวในมือของกัวฉางนั้นหักแล้ว!“หยวนเอ๋อร์ ตัดเหล็กได้เหมือนตัดดินเหนียว นี่คืออาวุธวิเศษ เป็นสมบัติล้ำค่า!”ลุงตื่นเต้นมากจนน้ำตาไหล!จ้าวชิงเหอตกใจมาก ปิดปากมองภาพนี้ด้วยความไม่เชื่อ!หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ “เป็นเช่นนั้น มันใช้ได้เลยขอรับ!”ในฐานะคนจบปริญญาเอก สาขาวัสดุศาสตร์ เขาเคยเห็นดาบโลหะผสมที่คมยิ่งกว่านี้อีก!ไม่ใช่ว่าดาบราชวงศ์ถังสามารถตัดเหล็กเหมือนตัดดินเหนียวได้จริง ๆ แต่ดาบในมือของกัวฉางนั้นเปราะบางเกินไป จึงทนต่อแรงกระแทกไม่ได้!ในความเป็นจริง การหลอมเหล็กคาร์บอนสูง เป็นเพียงวิธีการตีเหล็กธรรมดาเท่านั้น!ทั้งยังสามารถเคลือบด้วยเหล็กหลอม เหล็กบริสุทธิ์ และโลหะอื่น ๆ เพื่อให้การตีขึ้นรูปมีความซับซ้อนมากขึ้นได้ด้วยแต่การใช้เหล็กหุ้มเหล็กนั้นถือว่าล้ำหน้าที่สุดในยุคนี้ ไม่มีใครในโลกเทียบได้!ดวงตาคู่งามของจ้าวชิงเหอเป็นประกายตอนแรกคิดว่าอาวุธวิเศษชนิดนี้ดูธรรมดา แต่ตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องของนางเก่งมาก!“พี่หยวน ดาบเล่มนี้ดีมาก ดีกว่าดาบทมิฬของท่านพ่อด้วยซ้ำ!”เอ้อหู่ไม่อาจวางดาบราชวงศ์ถังที่ถืออยู่ได้!หวังหยวนเลิกคิ้ว
หวังหยวนทำงานเสร็จ และเห็นลุงของเขาในร้านช่างตีเหล็กหยุดตีเหล็ก ชิงเหอเปิดประตูครึ่งเดียว ท่าทางวิตกกังวล เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ใครมา?”ชิงเหอกระซิบ “เจ้าของร้านโจว!”“ไม่ต้องกลัว!”หวังหยวนเปิดประตูเดินไป!เอ้อหู่คว้าดาบราชวงศ์ถังแล้วรีบวิ่งตามไป และสามพี่น้องกัวฉางก็ติดตามไปอย่างรวดเร็วรถม้าอันหรูหราจอดด้านนอกร้านตีเหล็กโจวฉางฟา นายท่านคนที่สามของตระกูลโจวเอาผ้าเช็ดหน้าปิดจมูก รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบสกปรกเลอะเทอะเมื่อเห็นหวังหยวน โจวฉางฟาก็หรี่ตาลง “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายน้อยหวังจากเมืองจิ่วซาน จะเป็นเด็กหนุ่มจากหมู่บ้านต้าหวัง หญิงรับใช้เป็นลูกสาวของช่างตีเหล็ก และช่างตีเหล็กจ้าวเป็นลุงของเจ้า! น้ำตาลทรายขาวไม่ได้มาจากทางตะวันตก แต่เป็นเจ้าที่ทำเอง!”เขาได้พบกับหลิวเจี้ยนเย่เมื่อไม่กี่วันก่อน จึงได้รู้ตัวตนและสายสัมพันธ์ของหวังหยวนเดิมทีเขาวางแผนที่จะไปชนบทเพื่อซื้อสูตรลับ แต่ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินว่าหมู่บ้านต้าหวังได้กวาดล้างค่ายซานหู่แล้วหลังจากชั่งน้ำหนักความสนใจแล้ว เขาก็ตัดสินใจจะซื้อขาย แต่น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้าง!เป็นเรื่องปกติที่จะสุภาพกับคนร่ำรวยขอ
“ในเมื่อตระกูลโจวต้องทำงานหนักมาก เช่นนั้นก็ไม่ต้องร่วมมือกันหรอก!”หวังหยวนยิ้มเย็นชา “ครั้งล่าสุดที่ข้าร่วมมือกับตระกูลหู คุณหนูหูไม่ได้เสนอราคาตอนที่นางซื้อสบู่ด้วยซ้ำ วันนี้ข้าจะเสนอสูตรน้ำตาลให้นาง เพื่อดูว่าตระกูลหูจะสนใจหรือไม่”สีหน้าของโจวฉางฟาเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบฝืนยิ้มอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “น้องชาย เจ้ากำลังคิดจะทำอะไร? ในการทำธุรกิจจะต้องยึดหลักมาก่อนได้ก่อนเสมอ เราทำงานร่วมมือกันได้ดี ไม่อาจเปลี่ยนคู่ค้าได้ง่าย ๆ!”หวังหยวนหรี่ตาลง แล้วพูดอย่างเย็นชา “ข้าผู้นี้น่ะหรือ? ข้าเป็นคนเอาใจเขามาใส่ใจเรา! เจ้าปฏิบัติต่อข้าอย่างไร ข้าก็จะปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนั้น ข้ารู้ทุกอย่างว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ หากเจ้าคิดให้ดี เราก็สามารถร่วมมือกันต่อไปได้ หากไม่คิด เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวตระกูลโจวของเจ้าหรือไม่ พวกเจ้าดุร้ายกว่าค่ายซานหู่หรือเปล่า!”เอ้อหู่และสามพี่น้องกัวฉางหรี่ตาลง งอหลังถือดาบในมือ พวกเขาดูเหมือนสัตว์ดุร้ายสี่ตัวที่อยากจะกลืนกินใครสักคน รังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาเจ้าของร้านโจวรู้สึกว่าใจสั่นสะท้าน คนไร้ศีลธรรมเหล่านี้ล้วนเป็นนักฆ่า หลังจากไตร่ตรองดูแล้ว ในที่สุดเขาก็ระงั
ลุงทุกคนต่างหากที่ต้องช่วยหลานชายหาภรรยา หลานชายจะช่วยลุงหาภรรยาได้อย่างไร!“ชิงเหอ!”หวังหยวนเม้มปาก แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อท่านลุงชอบนาง เหตุใดไม่จ้างคนมาเป็นแม่สื่อล่ะ!”จ้าวชิงเหอกลอกตา “ก่อนหน้านี้ไม่มีเงิน ครั้งสุดท้ายที่ท่านให้เงินข้ามากกว่าหนึ่งร้อยก้วน ข้าวางแผนจะหาแม่สื่อมาดูแลเรื่องนี้ให้พ่อ แต่สุดท้ายเข้าก็ต้องทำเบ้าหลอมดินเหนียว ต้องซื้อวัสดุและทำเตาเผา จึงใช้เงินไปหนึ่งร้อยก้วน ท่านพ่อรู้สึกว่ามีเงินเหลือไม่มาก จึงบอกว่าจะไม่แต่งงานแล้ว!”“หุบปาก!”ใบหน้าของลุงเปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะโบกมือ “หยวนเอ๋อร์ อย่าไปฟังเรื่องเหลวไหลของผู้หญิงคนนี้!”“ลุง นี่คือธุรกิจ!”หวังหยวนยกยิ้มมุมปาก “เมื่อตระกูลโจวส่งเงินมา ข้าจะให้เงินหนึ่งพันตำลึงแก่ท่าน ให้ท่านรีบดำเนินการให้เสร็จอย่างรวดเร็ว หากท่านลังเลอีกครั้ง ก็รอให้คนอื่นไปขอนางแต่งงาน หากนางตอบตกลง ท่านจะต้องเสียใจ!”“ไม่ได้!”ลุงส่ายหน้า “นางมีเงื่อนไขในการแต่งงาน นางต้องดูแลแม่สามีตาบอด ลูกสองคน มีอีกสามปากท้องต้องเลี้ยงดู ไม่มีใครกล้าไปขอหรอก! ลุงไม่กล้าหรอก เงินที่ได้จากร้านตีเหล็กนั้นไม่เพียงพอสำหรับค่าสินสอดของชิงเห
“งานประชุมกวีติ้งหลงไถ!”หลังจากได้รับบัตรเชิญ หวังหยวนก็เปิดมันออกแล้วส่ายหน้า “ข้าไม่สนใจงานประชุมกวี!”ในตอนปลายของราชวงศ์จิน เป็นช่วงที่เริ่มมีภัยพิบัติร้ายแรงเกิดขึ้น ฮ่องเต้องค์แรกของต้าเย่ต่อสู้นอกเมืองจิ่วซาน และเอาชนะคู่แข่งศัตรูได้ จากนั้นก็ใช้อำนาจสถาปนาจักรวรรดิ!หลังจากได้รับชัยชนะ เขาได้แต่งบทกวีจากสนามรบ ต่อมาขุนนางเมืองจิ่วซานได้สร้างชมรมที่เรียกว่าติ้งหลงไถ แล้วเรียกประชุมบัณฑิตทั่วเมืองมาเพื่อจัดงานประชุมกวี ซึ่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในที่สุด ด้วยการมีส่วนร่วมของราชวงศ์ อุปสรรคในการเข้าร่วมก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆตอนแรกบัณฑิตทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ และค่อย ๆ เลื่อนเงื่อนไขเป็นบัณทิตถงเซิน ซิ่วไฉ และสุดท้ายคือจู่เหรินใครก็ตามที่เปล่งประกายในงานประชุมกวีติ้งหลงไถ จะมีชื่อเสียงไปทั่วแคว้น และอาจได้รับการสนับสนุนจากบัณฑิตผู้รอบรู้ และขุนนางชั้นสูงอีกด้วยนี่คืองานในฝันของบัณฑิต!แต่สำหรับหวังหยวน เขาไม่สนใจการประชุมกวีประเภทนี้ ไม่ต้องพูดถึงการคบค้าสมาคมกับพวกบัณฑิตขั้นสูงจิ้นซื่อหากอยู่กับคนพวกนี้รู้ เขาพูดแทบไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ!จ้าวเว่ยหมินยิ้มฝืดเฝื่อน “ท่านเป็
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห