แชร์

บทที่ 134

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
“ในเมื่อตระกูลโจวต้องทำงานหนักมาก เช่นนั้นก็ไม่ต้องร่วมมือกันหรอก!”

หวังหยวนยิ้มเย็นชา “ครั้งล่าสุดที่ข้าร่วมมือกับตระกูลหู คุณหนูหูไม่ได้เสนอราคาตอนที่นางซื้อสบู่ด้วยซ้ำ วันนี้ข้าจะเสนอสูตรน้ำตาลให้นาง เพื่อดูว่าตระกูลหูจะสนใจหรือไม่”

สีหน้าของโจวฉางฟาเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบฝืนยิ้มอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “น้องชาย เจ้ากำลังคิดจะทำอะไร? ในการทำธุรกิจจะต้องยึดหลักมาก่อนได้ก่อนเสมอ เราทำงานร่วมมือกันได้ดี ไม่อาจเปลี่ยนคู่ค้าได้ง่าย ๆ!”

หวังหยวนหรี่ตาลง แล้วพูดอย่างเย็นชา “ข้าผู้นี้น่ะหรือ? ข้าเป็นคนเอาใจเขามาใส่ใจเรา! เจ้าปฏิบัติต่อข้าอย่างไร ข้าก็จะปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนั้น ข้ารู้ทุกอย่างว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ หากเจ้าคิดให้ดี เราก็สามารถร่วมมือกันต่อไปได้ หากไม่คิด เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวตระกูลโจวของเจ้าหรือไม่ พวกเจ้าดุร้ายกว่าค่ายซานหู่หรือเปล่า!”

เอ้อหู่และสามพี่น้องกัวฉางหรี่ตาลง งอหลังถือดาบในมือ พวกเขาดูเหมือนสัตว์ดุร้ายสี่ตัวที่อยากจะกลืนกินใครสักคน รังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมา

เจ้าของร้านโจวรู้สึกว่าใจสั่นสะท้าน คนไร้ศีลธรรมเหล่านี้ล้วนเป็นนักฆ่า หลังจากไตร่ตรองดูแล้ว ในที่สุดเขาก็ระงั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 135

    ลุงทุกคนต่างหากที่ต้องช่วยหลานชายหาภรรยา หลานชายจะช่วยลุงหาภรรยาได้อย่างไร!“ชิงเหอ!”หวังหยวนเม้มปาก แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อท่านลุงชอบนาง เหตุใดไม่จ้างคนมาเป็นแม่สื่อล่ะ!”จ้าวชิงเหอกลอกตา “ก่อนหน้านี้ไม่มีเงิน ครั้งสุดท้ายที่ท่านให้เงินข้ามากกว่าหนึ่งร้อยก้วน ข้าวางแผนจะหาแม่สื่อมาดูแลเรื่องนี้ให้พ่อ แต่สุดท้ายเข้าก็ต้องทำเบ้าหลอมดินเหนียว ต้องซื้อวัสดุและทำเตาเผา จึงใช้เงินไปหนึ่งร้อยก้วน ท่านพ่อรู้สึกว่ามีเงินเหลือไม่มาก จึงบอกว่าจะไม่แต่งงานแล้ว!”“หุบปาก!”ใบหน้าของลุงเปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะโบกมือ “หยวนเอ๋อร์ อย่าไปฟังเรื่องเหลวไหลของผู้หญิงคนนี้!”“ลุง นี่คือธุรกิจ!”หวังหยวนยกยิ้มมุมปาก “เมื่อตระกูลโจวส่งเงินมา ข้าจะให้เงินหนึ่งพันตำลึงแก่ท่าน ให้ท่านรีบดำเนินการให้เสร็จอย่างรวดเร็ว หากท่านลังเลอีกครั้ง ก็รอให้คนอื่นไปขอนางแต่งงาน หากนางตอบตกลง ท่านจะต้องเสียใจ!”“ไม่ได้!”ลุงส่ายหน้า “นางมีเงื่อนไขในการแต่งงาน นางต้องดูแลแม่สามีตาบอด ลูกสองคน มีอีกสามปากท้องต้องเลี้ยงดู ไม่มีใครกล้าไปขอหรอก! ลุงไม่กล้าหรอก เงินที่ได้จากร้านตีเหล็กนั้นไม่เพียงพอสำหรับค่าสินสอดของชิงเห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 136

    “งานประชุมกวีติ้งหลงไถ!”หลังจากได้รับบัตรเชิญ หวังหยวนก็เปิดมันออกแล้วส่ายหน้า “ข้าไม่สนใจงานประชุมกวี!”ในตอนปลายของราชวงศ์จิน เป็นช่วงที่เริ่มมีภัยพิบัติร้ายแรงเกิดขึ้น ฮ่องเต้องค์แรกของต้าเย่ต่อสู้นอกเมืองจิ่วซาน และเอาชนะคู่แข่งศัตรูได้ จากนั้นก็ใช้อำนาจสถาปนาจักรวรรดิ!หลังจากได้รับชัยชนะ เขาได้แต่งบทกวีจากสนามรบ ต่อมาขุนนางเมืองจิ่วซานได้สร้างชมรมที่เรียกว่าติ้งหลงไถ แล้วเรียกประชุมบัณฑิตทั่วเมืองมาเพื่อจัดงานประชุมกวี ซึ่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในที่สุด ด้วยการมีส่วนร่วมของราชวงศ์ อุปสรรคในการเข้าร่วมก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆตอนแรกบัณฑิตทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ และค่อย ๆ เลื่อนเงื่อนไขเป็นบัณทิตถงเซิน ซิ่วไฉ และสุดท้ายคือจู่เหรินใครก็ตามที่เปล่งประกายในงานประชุมกวีติ้งหลงไถ จะมีชื่อเสียงไปทั่วแคว้น และอาจได้รับการสนับสนุนจากบัณฑิตผู้รอบรู้ และขุนนางชั้นสูงอีกด้วยนี่คืองานในฝันของบัณฑิต!แต่สำหรับหวังหยวน เขาไม่สนใจการประชุมกวีประเภทนี้ ไม่ต้องพูดถึงการคบค้าสมาคมกับพวกบัณฑิตขั้นสูงจิ้นซื่อหากอยู่กับคนพวกนี้รู้ เขาพูดแทบไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ!จ้าวเว่ยหมินยิ้มฝืดเฝื่อน “ท่านเป็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 137

    “ให้ข้าดูหน่อย!”หวังหยวนหยิบแผนที่ขึ้นมาแผนที่ขนาดเล็กแสดงเส้นทางที่ทอดจากเมืองฝูไปยังเมืองจิ่วซาน โดยมีการทำเครื่องหมายระบุเมือง ตลาด แม่น้ำ ภูเขา ถนนบนที่ราบ ถนนบนภูเขา โรงเตี๊ยมทั้งใหญ่และเล็กระบุไว้ดูเหมือนเป็นการวาดแบบคร่าว ๆ ที่หยาบมาก!สีหน้าขององครักษ์สวี่เปลี่ยนไป เมื่อเขาเห็นจ้าวเว่ยหมินหันหลังเดินออกไป เขาก็ก้มหน้าลง ไม่พูดอะไรเลย!แผนที่เป็นของเถื่อนในหมู่ประชาชน พลเรือนไม่ได้รับอนุญาตให้เก็บและวาดเป็นการส่วนตัว!พ่อค้าสามารถวาดแผนที่ง่าย ๆ ได้ แต่เป็นเพียงเส้นทางการค้าขาย และการขนส่งสินค้าเท่านั้นแผนที่ที่เขาใช้สำหรับข้าราชการ มีรายละเอียดมากกว่าที่พ่อค้าใช้ และดูง่ายกว่าที่กองทัพใช้!พูดตามหลักเหตุผล คนธรรมดาก็ไม่อนุญาตให้ดูเช่นกัน!แต่นายใหญ่แสร้งทำเป็นไม่เห็น เขาจึงทำได้แค่แสร้งทำเป็นไม่เห็นเช่นกันหลังจากที่หวังหยวนอ่านแผนที่เสร็จ เขาก็จดจำมันได้ทั้งหมดและส่งคืน!องครักษ์สวี่รับแผนที่มา แล้วเริ่มเตือนอีกครั้ง “หากท่านไปที่เมืองจิ่วซานจริง ๆ ก็มีสิ่งที่ควรระวังอีก เพราะนอกเหนือจากกลุ่มโจรกลุ่มใหญ่แล้ว ยังมีกลุ่มโจรกลุ่มเล็ก ๆ อยู่บนเส้นทางนั้นด้วย ดีที่สุ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 138

    “ขอบคุณขอรับท่าน!”จ้าวเว่ยหมินถือสบู่เจ็ดก้อน พลางขมวดคิ้ว ท่านมอบสบู่กองหนึ่งให้ข้า แล้วบอกให้ข้ามอบให้คนใต้บัญชา คำพูดนี้ต้องมีความหมายลึกซึ้งใช่หรือไม่? จะให้ข้าลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับล่าง เพื่อหยุดการขู่กรรโชกคนหรือ! ใช่ การปกครองบ้านเมืองก็เหมือนกับการปกครองผู้ใต้บัญชา เจ้าหน้าที่ปกครองบ้านเมือง และนำความสงบสุขมาสู่โลก นี่คงเป็นสิ่งที่ท่านต้องการจะสื่อสินะ! ท่านไม่ต้องกังวลขอรับ ข้าจะจัดการอบรมพวกข้าราชการ และนำความสงบสุขมาสู่ประชาชนเองขอรับ!เมื่อเห็นทั้งสองคนออกไป หวังหยวนก็ถอนหายใจจ้าวเว่ยหมินเป็นคนซื่อสัตย์ เขาปล่อยให้คนรอบตัวเขาทำงาน โดยไม่ให้หาผลประโยชน์พิเศษใด ๆข้าราชการระดับล่างก็ต้องเลี้ยงดูครอบครัวตัวเอง ดังนั้นการให้สบู่สักสองสามก้อน ก็สามารถเอาชนะใจผู้คนได้ลุงตกตะลึง “หยวน หยวนเอ๋อร์ คนเมื่อครู่นี้เป็นใคร!”ในฐานะช่างตีเหล็ก “ข้าราชการ” ที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเจอคือเสมียนในโรงงาน ในหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยเจอหัวหน้าเจ้าของโรงงานด้วยซ้ำ!เขาไม่กล้าคิดถึงตัวตนของชายวัยกลางคน ที่เป็นบุคคลสำคัญในการปกครองเมือง“ท่านพ่อ ยังต้องถามอีกหรือเจ้าคะ! คนที่ถือดาบคือองครั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 139

    จ้าวเว่ยหมินสวมชุดสีเขียว และจู่เป๋าหม่าสวมชุดสีน้ำเงิน ทั้งสองเข้ามาในห้องโถงจากด้านหลังทีละคน!ระบบเครื่องขุนนางของต้าเย่นั้น ระดับแปดหรือเก้าเป็นสีน้ำเงิน ระดับหกหรือเจ็ดเป็นสีเขียว ระดับสี่หรือห้าเป็นสีแดง ระดับสามขึ้นไปเป็นสีม่วง เสื้อคลุมมังกรของฮ่องเต้ก็จะมีลวดลายอลังการมากที่สุด ลำดับชั้นมีความเข้มงวด สีเครื่องแต่งกาย สามารถแยกแยะลำดับของตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว!“ทำความเคารพท่านผู้พิพากษาและท่านจู่เป๋า!”ทุกคนคุกเข่าทำความเคารพ!แม้ว่าพ่อค้าจะร่ำรวย แต่พวกเขาก็มีสถานะต่ำที่สุด จึงต้องคุกเข่าลงเมื่อเจอผู้พิพากษากัวฉางก็คุกเข่าลงบนพื้น หัวใจของเขาเต้นรัวไม่ต้องพูดถึงขุนนางระดับสูงเช่นนี้เลย แม้แต่เจ้าหน้าที่อาวุโส หัวหน้าหมู่บ้าน ผู้นำตระกูล และข้าราชการระดับล่าง เขาก็เคยคุกเข่าให้มาแล้วทั้งนั้น!นายน้อยเคยกล่าวไว้ว่าไม่ควรคุกเข่าให้ใคร นอกจากพ่อแม่ นักปราชญ์ และเทพเจ้าเช้านี้นายน้อยเรียกพวกเขาทั้งสี่คนไป และถามว่าใครยินดีจะไปจัดการเรื่องใบอนุญาตค้าเกลือให้เขาเขาและเอ้อหู่ลุกขึ้นพร้อมกัน และนายน้อยก็มอบภารกิจนี้ให้เขา!“ไม่ต้องพิธีรีตอง!”จ้าวเว่ยหมินนั่งลงทางด้านขว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 140

    แต่หากนางขาดทุนมากเกินไป นางจะไม่เข้าร่วม การขายเกลือต้องใช้กำลังคนจำนวนมากเมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งได้สบู่มา และจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะขายในเมืองจิ่วซาน โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวแทนของเมือง!ตระกูลหูขาดแคลนกำลังคน หากขาดทุนจากการขายเกลือมากเกินไป ก็ไม่คุ้มที่จะรับสมัครคน“หลานสาวเมิ่งอิ๋งกล้าหาญยิ่งนัก!”โจวฉางฟู่กำหมัดแน่น และหัวเราะเบา ๆ “ลุงผู้นี้ยอมรับในความกล้าหาญ เช่นนั้นข้าจะเพิ่มอีกหนึ่งอีแปะ!”ถึงปีหน้าจะขาดทุน แต่ก็ยังต้องได้ใบอนุญาตค้าเกลือ เพื่อหาลู่ทางพิเศษให้กับครอบครัว!“ยี่สิบเอ็ดอีแปะแล้ว!”“นายท่านโจวกล้าหาญมาก!”“ขอแสดงความยินดีกับตระกูลโจว!”พ่อค้ามากกว่าสิบคนปรบมือแสดงความยินดีกับเขา โดยเชื่อว่าตระกูลโจวได้รับใบอนุญาตค้าเกลือแล้วโจวฉางฟู่หัวเราะ และตอบแทนด้วยการเหลือบมองเล็กน้อย!จู่เป๋าหม่าป๋อพูดทันที “หากไม่มีใครประมูลอีก ใบอนุญาตค้าเกลือจะตกเป็นของตระกูลโจว”จากนั้นกัวฉางจึงพูด “ตระกูลหวังจ่ายยี่สิบสองอีแปะ!”ในเมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ ของเมืองฝู ไม่มีตระกูลใหญ่ชื่อหวัง โจวฉางฟู่ขมวดคิ้ว “ตระกูลหวังอยู่ที่ไหน?”กัวฉางเงยหน้าขึ้นตอบ “ตำบลเป่ยผิง หมู่บ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 141

    “ในเมื่อเจ้านายของเจ้าพูดเช่นนั้น ตระกูลโจวก็จะมอบใบอนุญาตค้าเกลือให้กับตระกูลหวัง!”โจวฉางฟู่พ่นลมหายใจและหันกลับไป หูเมิ่งอิ๋งและพ่อค้าอีกกว่าสิบคนก็จากไปเช่นกัน!กัวฉางส่งมอบทองคำ ฝ่ายราชการเขียนใบรับรอง และการประมูลใบอนุญาตค้าเกลือสิ้นสุดลง!เมื่อมาถึงนอกที่ทำการฝ่ายราชการประจำเขต กัวฉางก็เดินไปที่รถม้า แล้วยื่นใบอนุญาตค้าเกลือให้!“ก้าวหน้าร่ำรวย เมืองจิ่วซาน เฟ่ยชาง หยานจิ่ง เมืองฝู หนึ่งแสนจิน!”หวังหยวนหยิบใบอนุญาตค้าเกลือขึ้นมา ดูนอกจากการเขียนแล้วยังมีตราประทับอีกด้วยลุงเบิกตากว้าง “ทั้งเมืองของเรากินเกลือทั้งปี เราต้องผลิตเกลือกันมากเท่าใด?”“ท่านพี่ นำมาให้ข้าดูหน่อยสิ!”จ้าวชิงเหอเช็ดมือขาวให้สะอาด เพราะกลัวว่าใบอนุญาตค้าเกลือจะเปื้อนหวังหยวนยื่นใบอนุญาตค้าเกลือให้!จ้าวชิงเหอพูดอย่างตื่นเต้น “ท่านพ่อ ลูกพี่ลูกน้องของข้ากลายเป็นพ่อค้าเกลือแล้ว จากนี้ไป ลูกพี่ลูกน้องของข้าจะขายเกลือทั้งหมดในเมืองฝู ลูกพี่ลูกน้องของข้าจะรวยแล้ว!”“ฮ่าฮ่า!”ลุงก็หัวเราะด้วยความดีใจ!การเป็นพ่อค้าเกลือนั้น แม้แต่เศรษฐีตระกูลจ้าวก็ไม่อาจเป็นได้!ตอนนี้หลานชายได้เป็นพ่อค้าเกลือแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 142

    “เจ้าไม่เข้าใจ!”หวังหยวนขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจแม่สาวน้อยคนนี้ จึงหันหน้าไปทางอื่นได้เจอหูเมิ่งอิ๋งสองครั้งติดต่อกันนางไม่เพียงแต่เข้าใจการบริหารจัดการเท่านั้น แต่นางยังมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย นางเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก!หากมีคนเช่นนี้มาช่วย เขาก็จะสบายใจได้หลายอย่าง“หยวนเอ๋อร์ อย่าตำหนิชิงเหอเลย!”ลุงยังกล่าวอีกว่า “คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหูผู้นั้น ไม่มีใครแตะต้องได้จริง ๆ นางฆ่าสามีไปสามคนติดต่อกัน ทุกคนในเมืองรู้เรื่องนี้ดี บางคนบอกว่านางเป็นปีศาจจิ้งจอก บางคนบอกว่านางเป็นเทพเสือขาว แต่ใครก็ตามที่แตะต้องนางจะต้องตาย เจ้าต้องอย่าคิดฟุ้งซ่าน เจ้ามีคนเดียวพอแล้ว!”“ลุง ข้าไม่เคยเห็นหน้านางด้วยซ้ำ ข้าจะมีความคิดแปลก ๆ เช่นนั้นได้อย่างไร!”หวังหยวนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขากางแขนออก “และท่านคิดว่าข้าดูเหมือนคนเช่นนั้นหรือ!”ลุงยิ้มอ่อน!จ้าวชิงเหอเม้มปาก “เหมือน!”นอกรถม้า เอ้อหู่และสามพี่น้องกัวฉางเม้มปากกลั้นหัวเราะ!คนทั้งเจ็ดกลับไปที่ร้านตีเหล็ก อยู่ที่นั่นอีกสามวัน และทำดาบราชวงศ์ถังทั้งหมดสิบสองเล่ม ก่อนจะกลับไปที่หมู่บ้านต้าหวัง!“พี่หยวนกลับมาแล้

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status