“เจ้าไม่เข้าใจ!”หวังหยวนขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจแม่สาวน้อยคนนี้ จึงหันหน้าไปทางอื่นได้เจอหูเมิ่งอิ๋งสองครั้งติดต่อกันนางไม่เพียงแต่เข้าใจการบริหารจัดการเท่านั้น แต่นางยังมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย นางเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก!หากมีคนเช่นนี้มาช่วย เขาก็จะสบายใจได้หลายอย่าง“หยวนเอ๋อร์ อย่าตำหนิชิงเหอเลย!”ลุงยังกล่าวอีกว่า “คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหูผู้นั้น ไม่มีใครแตะต้องได้จริง ๆ นางฆ่าสามีไปสามคนติดต่อกัน ทุกคนในเมืองรู้เรื่องนี้ดี บางคนบอกว่านางเป็นปีศาจจิ้งจอก บางคนบอกว่านางเป็นเทพเสือขาว แต่ใครก็ตามที่แตะต้องนางจะต้องตาย เจ้าต้องอย่าคิดฟุ้งซ่าน เจ้ามีคนเดียวพอแล้ว!”“ลุง ข้าไม่เคยเห็นหน้านางด้วยซ้ำ ข้าจะมีความคิดแปลก ๆ เช่นนั้นได้อย่างไร!”หวังหยวนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขากางแขนออก “และท่านคิดว่าข้าดูเหมือนคนเช่นนั้นหรือ!”ลุงยิ้มอ่อน!จ้าวชิงเหอเม้มปาก “เหมือน!”นอกรถม้า เอ้อหู่และสามพี่น้องกัวฉางเม้มปากกลั้นหัวเราะ!คนทั้งเจ็ดกลับไปที่ร้านตีเหล็ก อยู่ที่นั่นอีกสามวัน และทำดาบราชวงศ์ถังทั้งหมดสิบสองเล่ม ก่อนจะกลับไปที่หมู่บ้านต้าหวัง!“พี่หยวนกลับมาแล้
สายตาของหวังหานซานเป็นประกาย “สิบชั้น!”แม้ว่าจะไม่ดีเท่าดาบทมิฬ แต่ก็ยังเป็นอาวุธที่ดี เหนือกว่าอาวุธทั่วไปเอ้อหู่เกาหัวแล้วพูดว่า “ท่านพ่อ นี่คือดาบที่พี่หยวนสร้างขึ้น มันจะสามารถทำลายเกราะได้สิบชั้นเท่านั้นหรือ ท่านช่วยเดาให้ใกล้เคียงมากกว่านี้หน่อยได้หรือไม่”ดวงตาของหวังหานซานสั่นไหว “ยี่สิบชั้นหรือ?”ดาบทมิฬสามารถทะลวงเกราะได้ยี่สิบชั้น หากดาบนี้สามารถทำได้ ก็จะเทียบเท่า!เอ้อหู่ปิดหน้า แล้วหันกลับมา “เจ้าใช่พ่อของข้าจริงหรือเปล่า เหตุใดถึงไม่เหมือนข้าเลย ท่านไม่กล้าเอาเสียเลย เดาไม่ใกล้เคียงสักนิด!”หวังหานซานตัวสั่น “สี่ สี่สิบชั้นหรือ?”เอ้อหู่มีสีหน้าสิ้นหวัง “ท่านพ่อครับ ข้าไม่อยากคุยกับท่านแล้ว ท่านเดาไม่ถูกหลังจากเดามาตั้งนาน ท่านเอาไปลองเองเถอะ จำนวนที่ท่านเดา น่าอายเกินไปสำหรับพี่หยวน... เฮ้อ!”สายตาของหวังหานซานขุ่นเคือง เขาเก็บดาบเข้าฝัก แล้วใช้มันเป็นไม้ตีก้นเอ้อหู่ “เจ้าเด็กปากมาก ข้าจะสั่งสอนเจ้า วันนี้ข้าจะไม่เดาอีกต่อไปแล้ว ข้าจะตีเจ้าจนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้า!”“โอ๊ย โอ๊ย ท่านพ่อ หยุดตีข้าสักที ข้าเจ็บ ข้าผิดไปแล้ว!”เอ้อหู่แยกเขี้ยว ไม่กล้าล้อเล่นอีกต่อไป
ครอบครัวของทั้งสี่กลุ่ม รวมทั้งชาวบ้านบางคน ต่างก็สงสัยว่าพวกเขาจะได้รับเงินพิเศษเยอะเพียงใดในห้องโถง หลี่ซื่อหานนั่งตัวตรงพร้อมพู่กันในมือ มีเหรียญเงินและทองแดงวางอยู่ข้าง ๆ จ้าวชิงเหอที่เปลี่ยนทรงผมใหม่ และแต่งหน้าแบบบางเบานั่งอยู่ข้างนางลุงนั่งข้างกล่องเก็บเงินหลายใบ แม้จะเสียดายเล็กน้อยแต่ก็มีความสุข!หลังจากมาถึงหมู่บ้านต้าหวัง เขาก็ตระหนักได้ว่าหลานชายของเขาทำไปมากเพียงใดเมื่อเร็ว ๆ นี้เขายินดีกับหลานชาย แต่ในขณะเดียวกันก็กังวลเรื่องเงินนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอะไร!เพราะเขายินดีที่หวังหยวนคิดค้นอาวุธวิเศษ ที่คมราวกับสามารถตัดเหล็กได้เหมือนตัดดินเหนียว และเขายังเข้าใจหลักการของความมั่งคั่ง และการจัดการคนด้วย!เมื่อมองดูฝูงชนที่ลานบ้าน หวังหยวนก็ยืนบนเก้าอี้ แล้วพูดเสียงดังว่า “พี่น้อง ลุงป้าน้าอาทั้งหลาย เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มประมง กลุ่มขายปลา กลุ่มจัดซื้อ และกลุ่มทำสบู่ของเรา!”“ใช่แล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก!”ทันใดนั้นผู้คนในลานบ้านก็ดูราวกับอยู่ในความฝัน หลายคนยิ้มแย้มแจ่มใส และบางคนก็มีน้ำตาไหลอาบหน้าเมื่อเดือนที่แล้ว ทุกครัวเรือนต่างอดอยาก จิ
ชาวบ้านก็ดูตื่นเต้นมีเรื่องสำคัญคือจะตั้งกลุ่มใหม่ และเปิดรับสมัครคนหรือเปล่าปัจจุบันครอบครัวส่วนใหญ่ในหมู่บ้าน ต่างมีคนทำงานกับหวังหยวนแต่ส่วนใหญ่จะมีคนในครอบครัวคนเดียวที่ทำ ถึงแม้จะทำเงินได้มากมาย แต่ก็ซื้อได้แค่อาหารและเสื้อผ้าเท่านั้นมีเพียงครอบครัวที่มีสมาชิกสองคนทำงานนี้เท่านั้น ที่นอกจากจะสามารถใช้ซื้ออาหาร และเสื้อผ้าได้เพียงพอแล้ว ยังสามารถที่จ่ายค่ารักษาอาการป่วยได้!หากมีสามคนในครอบครัวทำงานนี้ ก็สามารถเริ่มวางแผนสร้างบ้านหลังคากระเบื้อง และซื้อที่ดินได้หวังหยวนยิ้มและพูดว่า “ข้ากำลังวางแผนจะจัดตั้งโรงเรียนภาคค่ำในหมู่บ้าน!”ชาวบ้านหลายคนสงสัย “โรงเรียนภาคค่ำคืออะไร?”หวังหยวนอธิบายว่า “มันเกือบจะเหมือนกับโรงเรียนเอกชน! แต่มีความแตกต่างคือ โรงเรียนคือที่ที่เด็กไปเรียน ส่วนโรงเรียนภาคค่ำคือที่ที่ผู้ใหญ่เรียน ใครก็ตามที่ยินดีเรียนสามารถมาเรียนได้เลย กลุ่มประมงจะจ่ายเอง!”แผงลอยเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และพนักงานของเขาไม่มีใครรู้หนังสือสักคน มีแค่เขาและหลี่ซื่อหานที่ทำบัญชีไม่สบายใจที่จะจ้างคนนอก เพราะที่นี่มีความลับมากเกินไป และอาจรั่วไหลได้ง่ายปลูกฝังคนในกลุ่ม
หวังหยวนพูดช้า ๆ “ในฐานะเจ้าของร้าน หากไม่รู้หนังสือ แล้วจะลงนามในสัญญากับผู้อื่นได้อย่างไร! ในฐานะนักบัญชี หากไม่รู้วิธีเขียนและคำนวณบัญชี จะเก็บเงินได้อย่างไร หากข้าจ่ายค่าจ้าง รับสมัครคนนอกมาดูแลทุกคน ทุกคนก็คงไม่คุ้นเคยและไม่สบายใจด้วย แต่หากไม่รับสมัคร ลำพังแค่ซื่อหานกับข้าก็ดูแลไม่ทั่วถึง!”“ใช่ ไม่อาจรับสมัครคนนอกได้ พวกเขาไม่ได้มีเป้าหมายเหมือนกับเรา!”“ไม่อาจปล่อยให้พี่หยวนและซื่อหานลงนามในสัญญา และทำบัญชีได้ตลอดเวลา เจ้านายคนไหนทำเช่นนี้บ้าง!”“เราควรเรียนรู้อ่านเขียน!”“แต่นั่นใช้เวลานานในการเรียนรู้ ความจริงแล้วในหมู่บ้านของเรา ผู้นำตระกูลก็สามารถเขียนและคำนวณได้เช่นกัน!”“ลืมไปเถอะ หัวหน้าตระกูลทำตัวเหมือนเหนือกว่าคนอื่นตลอดเวลา เขาจะมาร่วมกับเราได้อย่างไร!”“ใช่แล้ว ผู้นำตระกูลเป็นบัณฑิต เขาดูถูกคนบ้านนอกอย่างพวกเรา จึงไม่เต็มใจมายุ่งเกี่ยว!”“ไปโรงเรียนภาคค่ำ ไปโรงเรียนภาคค่ำกันเถอะ!”“เราจะเรียนกันได้หรือ?”ชาวบ้านพูดปรึกษากัน!นอกลานบ้าน หวังปี่จงขมวดคิ้ว ใครบอกว่าข้าไม่ต้องการ!แม้แต่ผู้พิพากษาคนใหม่ ผู้เป็นถึงจิ้นซื่ออันดับสอง ก็ยังเรียกแทนตัวเองว่าศิษย์ต่
หวังปาโต้วเงยหน้าขึ้น “ข้ายังอยากสอนอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม ท่านให้เงินเดือนดีมาก ไม่อาจหาที่ไหนได้อีกแล้ว ข้าไม่มีหวังเรื่องสอบจอหงวนอยู่แล้ว!”“เอาล่ะ!”หวังหยวนพยักหน้าและยิ้ม “กลับไปปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อของเจ้าก่อน ตราบใดที่เขาไม่คัดค้านหรือสร้างปัญหา เจ้าจะเป็นอาจารย์คนแรกในหมู่บ้านต้าหวัง!”“ขอบคุณพี่หยวน!”หวังปาโต้วตะโกนด้วยความดีใจ แล้วรีบวิ่งออกไปจากลานบ้าน “ท่านพ่อ ตอนนี้ข้าเป็นอาจารย์แล้ว ข้าจะได้รับค่าจ้างเท่ากับรองหัวหน้า ข้าจะได้ค่าจ้างเดือนละสามก้วน และอาจจะได้เงินพิเศษด้วย”คาดไม่ถึงว่าจะโดนหวังปี่จงตบหน้า แล้วพูดว่า “เจ้าลูกชายบ้า ความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของเจ้าทั้งหมด ข้าไม่ได้เป็นคนสอนให้หรอกหรือ ไม่รู้หรอกว่ากี่ก้วนกี่ตำลึง แต่เจ้ากล้าทำให้คนอื่นเข้าใจผิด!”หวังปี่จงมีสีหน้าจริงจัง “นั่นก็ไม่ได้เช่นกัน!”หวังปาโต้วพูดด้วยหน้าตาบูดบึ้ง “น่าเสียดายที่ต้องทิ้งงานที่ดีเช่นนี้!”หวังปี่จงเอามือไพล่หลัง “ไม่ต้องทิ้ง พ่อจะไปแทนเจ้าเอง!”“เอ๊ะ!”หวังปาโต้วสับสน “แล้ว แล้วข้าควรทำอย่างไร”ฮ่าฮ่าฮ่า!บทสนทนาระหว่างสองพ่อลูก ทำให้ทั้งลานบ้านมีเสียงหัวเราะลั่
“นายท่านใหญ่ นายท่านรอง เราเป็นโจร เราต่อสู้และเข่นฆ่ากันตลอดทั้งวัน การทำงานนั้นไม่เพียงแต่เป็นอันตรายเท่านั้น แต่เรายังถูกฝ่ายราชการล้อมปราบปราม และถูกคนทั่วไปเกลียดชังด้วย!”เซี่ยซานหู่ผู้โกนหนวดเครากลายเป็นชายหนุ่มอ้วน หน้ากลม หน้าตาใสซื่อ ขณะนี้เขากำลังชักแม่น้ำทั้งห้าอยู่ที่หุบเขาต้าชิง “ข้ามีวิธีหาเงินได้มากขึ้น โดยไม่ต้องถูกฝ่ายราชการล้อมจับ และยังได้รับคำชมจากผู้คนด้วย พ่อค้าที่ผ่านไปมาก็เริ่มเสนอจ่ายเงินให้เอง ไม่ทราบว่าพวกท่านจะสนใจหรือไม่!”หลังออกจากเมืองฝูแล้ว เขาก็ไปที่เมืองหลางข้าง ๆ แล้วขึ้นไปที่หุบเขาต้าชิง เพื่อก่อตั้งพันธมิตรเส้นทางการค้าป่าเขียวมีกลุ่มโจรในหุบเขาต้าชิง ผู้นำทั้งสองใช้นามแฝงว่าต้าชิงหมั่งและเสี่ยวชิงหมั่ง ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของพวกเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขากบฏและกลายเป็นโจรโดยใช้ชื่อปลอม ไม่ใช้ชื่อจริงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ฝ่ายราชการค้นพบ และขุดหลุมศพบรรพบุรุษของพวกเขา!“บอกมาเลย!”เมื่อได้ยินว่ามีเรื่องดีเช่นนี้ ต้าชิงหมั่งและเสี่ยวชิงหมั่งก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีโดยไม่สนใจข่าวลือว่าค่ายซานหู่ถูกทำลาย และเซี่ยซานหู่ก็กลายเป็นสุนัขหลงทา
เจ้าหน้าที่จะฆ่าเสี่ยวชิงหมั่งและต้าชิงหมั่ง ฝ่ายราชการจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไป“ไม่อาจเก็บค่าผ่านทางได้อีกแล้ว!”ต้าชิงหมั่งเปลี่ยนเรื่อง “ข้าได้ยินมาว่าค่ายซานหู่ของเจ้าถูกทำลายโดยกลุ่มชาวนา เกิดอะไรขึ้น”เมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ที่น่าอับอายนี้ ใบหน้าของเซี่ยซานหู่ก็มืดมน “พี่ชายทั้งสอง พวกเขาไม่ใช่ชาวนาธรรมดา มีปรมาจารย์อยู่เบื้องหลังพวกเขา!”“ปรมาจารย์ ปรมาจารย์กับผีน่ะสิ!”เสี่ยวชิงหมั่งดูถูก “ไม่ว่าคนผู้นั้นที่เป็นหัวหน้าพวกชาวนาจะเก่งกาจเพียงใด หากได้เผชิญหน้ากับคนของข้า พวกเขาทุกคนคงไม่รอด!”“พี่เสี่ยวชิงหมั่ง พวกเขาในหมู่บ้านต้าหวัง ไม่ใช่ชาวนาธรรมดา พวกเขามีวรยุทธ์ด้วย หากท่านพบพวกเขาจริง ๆ อย่าได้หุนหันพลันแล่น!”เซี่ยซานหู่รีบชักชวน แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าดูถูกของเสี่ยวชิงหมั่ง เขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน “อีกทั้งท่านผู้นั้นอยู่ในเมืองฝู ส่วนพวกท่านอยู่ในเมืองหลาง จะเจอกันได้อย่างไร ในเมื่อพวกท่านสองพี่น้องไม่อาจทำธุรกิจเก็บค่าผ่านทางได้ ข้าก็จะไปยังหุบเขาถัดไป หาโอกาสต่อไป!”ต้าชิงหมั่งยืนขึ้นและพูดอย่างสุภาพ “น้องเซี่ยซานหู่ เหตุใดเจ้าถึงรีบร้อนถึงเพียงนี้ หากไ
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ
“ทุกคนขึ้นเขาเดี๋ยวนี้!”“ห้ามปล่อยให้ใครหนีรอดไปได้!”หวังหยวนออกคำสั่ง ขุนพลนายกองเริ่มเคลื่อนไหวคนที่อาศัยอยู่บนหน้าผาแห่งนี้ล้วนเป็นระดับสูงของพรรคทมิฬและมีตำแหน่งสำคัญ การกำจัดพวกเขาให้หมดสิ้น จึงจะทำให้พรรคทมิฬหายไปอย่างสมบูรณ์!ตัดวัชพืชไม่ถอนราก เมื่อลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาก็งอกขึ้นมาใหม่!เมื่อทุกคนเข้าไปบนหน้าผาแล้ว หวังหยวนก็ออกคำสั่ง ต่งอวี่และเอ้อหู่ต่างเป็นผู้นำพาผู้ใต้บัญชาบุกขึ้นไปบนยอดเขา!ส่วนหวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ตามไปติด ๆ!“เจ้าจะทำอะไร?”หวังหยวนหันไปคว้าแขนหลิ่วหรูเยียน แล้วถามขึ้นหลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเย็นชา กำหมัดแน่น สีหน้าโกรธเกรี้ยวนางขมวดคิ้วกล่าวว่า “ข้าจะขึ้นไปล้างแค้นด้วยตัวเอง!”“ไม่เพียงแต่ข้าเกือบตายเท่านั้น แม้แต่บิดามารดาข้าก็ถูกคนของพรรคทมิฬฆ่าตาย จะปล่อยพวกมันไปได้อย่างไร?”“วันนี้ไม่มีใครหยุดข้าได้ ข้าจะฆ่าตานสยงเฟย ล้างแค้นให้พ่อแม่!”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็สะบัดแขนหวังหยวนออก ก่อนจะชักกริชออกมาแล้ววิ่งขึ้นไปบนยอดเขา!แม้ว่านางจะเป็นคนบอกที่ตั้งฐานทัพนี้ให้หวังหยวน แต่ไม่มีใครรู้จักที่นี่ดีไปกว่านาง!ไม่นานพวกหวังหยวนก็ขึ้นไปถึงยอดเขา
หวังหยวนกลอกตามองเอ้อหู่ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ชีวิตของทหารที่อยู่ข้างหลังเจ้าล้วนอยู่ในมือเจ้า!”“การที่เจ้าพาพวกเขามาเสี่ยงอันตราย หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็ดีไป แต่หากเกิดความผิดพลาด เจ้าจะเผชิญหน้ากับครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร?”“อย่าลืมว่าการเป็นขุนพลไม่ใช่แค่เพื่อรบชนะ!”“แต่ต้องชนะอย่างสวยงาม ลดการสูญเสียให้มากที่สุด!”ทุกคนต่างตกตะลึงเดิมทีพวกเขาคิดว่าการติดตามหวังหยวนก็เพื่อหาเลี้ยงชีพ ในยุคสงคราม การมีข้าวกินก็ดีมากแล้วชีวิตพวกเขาจะสำคัญอะไร?ในสายตาของชนชั้นสูง ชีวิตพวกเขาไม่ต่างจากเศษหญ้า!เป็นเพียงเครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจ!แต่หวังหยวนกลับมีเมตตา เห็นใจพวกเขา ทำให้พวกเขาซาบซึ้งจริง ๆ!ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ตัดสินใจแล้ว แม้ว่าจะต้องสูญเสียมากมาย พวกเขาก็ยินดีสละชีพเพื่อช่วยหวังหยวนพิชิตหน้าผาแห่งนี้ และฆ่าคนของพรรคทมิฬให้หมดสิ้น!“รีบก่อไฟทำอาหาร!”“เมื่อทุกคนอิ่มท้องแล้วก็คงถึงเวลาพอดี!”“จำไว้! ห้ามส่งเสียงดัง ประเดี๋ยวพวกมันจะรู้ตัว!”“หากพวกมันรู้ตัวจะเป็นอันตรายต่อพวกเรา!”หวังหยวนกำชับทุกคนพยักหน้ารับ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเ
ในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา ด้วยการนำทางของหลิ่วหรูเยียน หวังหยวนและคนอื่น ๆ จึงไม่หลงทาง เดินทางมาถึงเชิงผาได้อย่างรวดเร็ว!บัดนี้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อก็ได้แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่โดยรอบแล้วหวังหยวนและคนอื่น ๆ ตั้งค่ายอยู่ในป่าแห่งหนึ่งเมื่อมองไปรอบ ๆ จะเห็นเงาคนมากมาย พวกเขาล้วนเป็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ“สืบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือ?”หวังหยวนสวมชุดเกราะเตรียมพร้อมรับมือกรณีฉุกเฉินและป้องกันการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว!เกาเล่อรีบเข้ามารายงานด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สืบเรียบร้อยแล้วขอรับ คนร้ายอยู่บนเขาลูกนี้!”“แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังขนย้ายสิ่งของ ตั้งแต่ที่พวกเรามาถึงก็เห็นรถม้าลงมาจากเขาไม่ต่ำกว่าร้อยคันแล้ว!”“แต่พวกเราไม่ได้ลงมือเพื่อไม่ให้พวกมันตื่นตัว!”“ข้าได้ส่งคนไปตามเส้นทางที่พวกมันใช้ หลังจากที่พวกเราจัดการเรื่องบนหน้าผาแล้ว จากนั้นจึงไปกวาดล้างพวกมัน!”“แล้วทรัพย์สมบัติของพวกมันก็จะตกเป็นของพวกเรา!”หวังหยวนพยักหน้าอย่างพึงพอใจเรื่องนี้จัดการได้ดีมาก!เหตุผลที่พรรคทมิฬเติบโตอย่างรวดเร็วก็เพราะความร่ำรวย!หากตัดเส้นทางการเงินของพวกมัน แม้ว่าตานเฟยจ
ตานเฟยยิ้มอย่างพึงพอใจช่วงนี้หลังจากถูกหวังหยวนจับตามอง เขารู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องมองทุกการกระทำของเขาอยู่ตลอดเวลา!แม้แต่การหาสาวกใหม่ก็ยังยากลำบาก!หวังหยวนคอยขัดขวางเขา เขาจึงต้องสั่งสอนหวังหยวนบ้าง!แต่น่าเสียดาย...ยังหาโอกาสไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ตานเฟยไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าตนเองต่างกับหวังหยวน แล้วจะสู้หวังหยวนได้อย่างไร?อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้!ดังนั้นแม้ว่าในใจจะเคียดแค้นอาฆาต แต่ย่อมต้องหลีกเลี่ยง“ที่เจ้าทำงานสำเร็จก็แค่ช่วยถ่วงเวลาเท่านั้น”“ตราบใดที่หลิ่วหรูเยียนยังมีชีวิตอยู่ นางก็เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ!”“ดังนั้นก่อนที่พวกเราจะฆ่านางได้ พวกเราต้องระวังตัวและดำเนินแผนการต่อไป!”“พยายามขนย้ายสิ่งของออกไป หากถึงเวลาจำเป็น พวกเราก็ต้องทิ้งฐานที่มั่นแห่งนี้”ทุกคนต่างรู้สึกเสียดายหน้าผาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดี ไม่เพียงแต่มีชัยภูมิที่ได้เปรียบเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยมากอีกด้วย!จึงทำให้พวกเขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว!แม้ว่าสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะกระจายอยู่ทั่วดินแดนทั้งเก้า แต่ก็ไม่ได้ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงหน้าผาแห่งนี้!แต่น่าเสียดา