แชร์

บทที่ 146

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หวังหยวนพูดช้า ๆ “ในฐานะเจ้าของร้าน หากไม่รู้หนังสือ แล้วจะลงนามในสัญญากับผู้อื่นได้อย่างไร! ในฐานะนักบัญชี หากไม่รู้วิธีเขียนและคำนวณบัญชี จะเก็บเงินได้อย่างไร หากข้าจ่ายค่าจ้าง รับสมัครคนนอกมาดูแลทุกคน ทุกคนก็คงไม่คุ้นเคยและไม่สบายใจด้วย แต่หากไม่รับสมัคร ลำพังแค่ซื่อหานกับข้าก็ดูแลไม่ทั่วถึง!”

“ใช่ ไม่อาจรับสมัครคนนอกได้ พวกเขาไม่ได้มีเป้าหมายเหมือนกับเรา!”

“ไม่อาจปล่อยให้พี่หยวนและซื่อหานลงนามในสัญญา และทำบัญชีได้ตลอดเวลา เจ้านายคนไหนทำเช่นนี้บ้าง!”

“เราควรเรียนรู้อ่านเขียน!”

“แต่นั่นใช้เวลานานในการเรียนรู้ ความจริงแล้วในหมู่บ้านของเรา ผู้นำตระกูลก็สามารถเขียนและคำนวณได้เช่นกัน!”

“ลืมไปเถอะ หัวหน้าตระกูลทำตัวเหมือนเหนือกว่าคนอื่นตลอดเวลา เขาจะมาร่วมกับเราได้อย่างไร!”

“ใช่แล้ว ผู้นำตระกูลเป็นบัณฑิต เขาดูถูกคนบ้านนอกอย่างพวกเรา จึงไม่เต็มใจมายุ่งเกี่ยว!”

“ไปโรงเรียนภาคค่ำ ไปโรงเรียนภาคค่ำกันเถอะ!”

“เราจะเรียนกันได้หรือ?”

ชาวบ้านพูดปรึกษากัน!

นอกลานบ้าน หวังปี่จงขมวดคิ้ว ใครบอกว่าข้าไม่ต้องการ!

แม้แต่ผู้พิพากษาคนใหม่ ผู้เป็นถึงจิ้นซื่ออันดับสอง ก็ยังเรียกแทนตัวเองว่าศิษย์ต่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 147

    หวังปาโต้วเงยหน้าขึ้น “ข้ายังอยากสอนอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม ท่านให้เงินเดือนดีมาก ไม่อาจหาที่ไหนได้อีกแล้ว ข้าไม่มีหวังเรื่องสอบจอหงวนอยู่แล้ว!”“เอาล่ะ!”หวังหยวนพยักหน้าและยิ้ม “กลับไปปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อของเจ้าก่อน ตราบใดที่เขาไม่คัดค้านหรือสร้างปัญหา เจ้าจะเป็นอาจารย์คนแรกในหมู่บ้านต้าหวัง!”“ขอบคุณพี่หยวน!”หวังปาโต้วตะโกนด้วยความดีใจ แล้วรีบวิ่งออกไปจากลานบ้าน “ท่านพ่อ ตอนนี้ข้าเป็นอาจารย์แล้ว ข้าจะได้รับค่าจ้างเท่ากับรองหัวหน้า ข้าจะได้ค่าจ้างเดือนละสามก้วน และอาจจะได้เงินพิเศษด้วย”คาดไม่ถึงว่าจะโดนหวังปี่จงตบหน้า แล้วพูดว่า “เจ้าลูกชายบ้า ความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของเจ้าทั้งหมด ข้าไม่ได้เป็นคนสอนให้หรอกหรือ ไม่รู้หรอกว่ากี่ก้วนกี่ตำลึง แต่เจ้ากล้าทำให้คนอื่นเข้าใจผิด!”หวังปี่จงมีสีหน้าจริงจัง “นั่นก็ไม่ได้เช่นกัน!”หวังปาโต้วพูดด้วยหน้าตาบูดบึ้ง “น่าเสียดายที่ต้องทิ้งงานที่ดีเช่นนี้!”หวังปี่จงเอามือไพล่หลัง “ไม่ต้องทิ้ง พ่อจะไปแทนเจ้าเอง!”“เอ๊ะ!”หวังปาโต้วสับสน “แล้ว แล้วข้าควรทำอย่างไร”ฮ่าฮ่าฮ่า!บทสนทนาระหว่างสองพ่อลูก ทำให้ทั้งลานบ้านมีเสียงหัวเราะลั่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 148

    “นายท่านใหญ่ นายท่านรอง เราเป็นโจร เราต่อสู้และเข่นฆ่ากันตลอดทั้งวัน การทำงานนั้นไม่เพียงแต่เป็นอันตรายเท่านั้น แต่เรายังถูกฝ่ายราชการล้อมปราบปราม และถูกคนทั่วไปเกลียดชังด้วย!”เซี่ยซานหู่ผู้โกนหนวดเครากลายเป็นชายหนุ่มอ้วน หน้ากลม หน้าตาใสซื่อ ขณะนี้เขากำลังชักแม่น้ำทั้งห้าอยู่ที่หุบเขาต้าชิง “ข้ามีวิธีหาเงินได้มากขึ้น โดยไม่ต้องถูกฝ่ายราชการล้อมจับ และยังได้รับคำชมจากผู้คนด้วย พ่อค้าที่ผ่านไปมาก็เริ่มเสนอจ่ายเงินให้เอง ไม่ทราบว่าพวกท่านจะสนใจหรือไม่!”หลังออกจากเมืองฝูแล้ว เขาก็ไปที่เมืองหลางข้าง ๆ แล้วขึ้นไปที่หุบเขาต้าชิง เพื่อก่อตั้งพันธมิตรเส้นทางการค้าป่าเขียวมีกลุ่มโจรในหุบเขาต้าชิง ผู้นำทั้งสองใช้นามแฝงว่าต้าชิงหมั่งและเสี่ยวชิงหมั่ง ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของพวกเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขากบฏและกลายเป็นโจรโดยใช้ชื่อปลอม ไม่ใช้ชื่อจริงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ฝ่ายราชการค้นพบ และขุดหลุมศพบรรพบุรุษของพวกเขา!“บอกมาเลย!”เมื่อได้ยินว่ามีเรื่องดีเช่นนี้ ต้าชิงหมั่งและเสี่ยวชิงหมั่งก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีโดยไม่สนใจข่าวลือว่าค่ายซานหู่ถูกทำลาย และเซี่ยซานหู่ก็กลายเป็นสุนัขหลงทา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 149

    เจ้าหน้าที่จะฆ่าเสี่ยวชิงหมั่งและต้าชิงหมั่ง ฝ่ายราชการจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไป“ไม่อาจเก็บค่าผ่านทางได้อีกแล้ว!”ต้าชิงหมั่งเปลี่ยนเรื่อง “ข้าได้ยินมาว่าค่ายซานหู่ของเจ้าถูกทำลายโดยกลุ่มชาวนา เกิดอะไรขึ้น”เมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ที่น่าอับอายนี้ ใบหน้าของเซี่ยซานหู่ก็มืดมน “พี่ชายทั้งสอง พวกเขาไม่ใช่ชาวนาธรรมดา มีปรมาจารย์อยู่เบื้องหลังพวกเขา!”“ปรมาจารย์ ปรมาจารย์กับผีน่ะสิ!”เสี่ยวชิงหมั่งดูถูก “ไม่ว่าคนผู้นั้นที่เป็นหัวหน้าพวกชาวนาจะเก่งกาจเพียงใด หากได้เผชิญหน้ากับคนของข้า พวกเขาทุกคนคงไม่รอด!”“พี่เสี่ยวชิงหมั่ง พวกเขาในหมู่บ้านต้าหวัง ไม่ใช่ชาวนาธรรมดา พวกเขามีวรยุทธ์ด้วย หากท่านพบพวกเขาจริง ๆ อย่าได้หุนหันพลันแล่น!”เซี่ยซานหู่รีบชักชวน แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าดูถูกของเสี่ยวชิงหมั่ง เขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน “อีกทั้งท่านผู้นั้นอยู่ในเมืองฝู ส่วนพวกท่านอยู่ในเมืองหลาง จะเจอกันได้อย่างไร ในเมื่อพวกท่านสองพี่น้องไม่อาจทำธุรกิจเก็บค่าผ่านทางได้ ข้าก็จะไปยังหุบเขาถัดไป หาโอกาสต่อไป!”ต้าชิงหมั่งยืนขึ้นและพูดอย่างสุภาพ “น้องเซี่ยซานหู่ เหตุใดเจ้าถึงรีบร้อนถึงเพียงนี้ หากไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 150

    แผลถูกเปิดออกอีกครั้ง สีหน้าของเซี่ยซานหู่แข็งค้าง เขาเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “ช่วงนี้พี่อู่จั้งโหวเป็นอย่างไรบ้าง?”ว่ากันว่าอู่จั้งโหวผู้เรืองอำนาจ สามารถกระโดดได้สูงห้าวา!แต่นั่นเป็นเพียงการคุยโว เมื่ออู่จั้งโหวไปที่ค่ายซานหู่เขาก็แสดงวรยุทธ์ด้วยการกระโดดของเขาสูงเกือบสิบฟุต กำแพงสูงของหมู่บ้านไม่อาจหยุดเขาได้โจรกล่าวว่า “นายท่านใหญ่ไม่ได้อยู่บนภูเขา แต่นายท่านรองอยู่บนภูเขา นายท่านรองบอกว่า หากพี่น้องคนใดที่มีปัญหาในค่ายซานหู่มาขอลี้ภัย อีเซี่ยนเทียนจะรับทุกคนเข้ามา ไป ท่านไปพบนายท่านรองก่อนดีกว่า!”“นายท่านรองเป็นคนชอบธรรมยิ่งนัก!”เซี่ยซานหู่หลั่งน้ำตาด้วยความขอบคุณ แต่เมื่อเขามาถึงหมู่บ้านอีเซี่ยนเทียน เขาก็ตกใจมากเมื่อเปรียบเทียบกับค่ายซานหู่แล้ว หมู่บ้านอีเซี่ยนเทียนแตกต่างจากบ้านดินมุงจากอย่างสิ้นเชิงหลังจากเดินผ่านเส้นทางบนภูเขาที่ขรุขระ ก็จะถึงที่ราบบนหุบเขา เป็นพื้นที่เกษตรกรรมอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ บ้านหินกระจัดกระจายอย่างเป็นระเบียบ และห้องโถงตรงกลางมีป้ายแขวนอยู่มีตัวอักษรตัวใหญ่สามตัวเขียนอยู่บนนั้น แต่เขาอ่านไม่ออกเลยสักตัว!“ไปที่โถงจวี้อี้กันเถอะ นายท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 151

    “เขาเป็นปรมจารย์ท่านหนึ่ง!” เมื่อนึกถึงคำเตือนของคุณชาย เฮยซินหู่ก็ตัวสั่น “นายท่านรอง เราอย่าไปยั่ยยุเขาจะดีกว่า ตัวเขาเต็มไปด้วยเจตนาชั่วร้าย ใครก็ตามที่ยั่วยุเขาจะต้องตายแน่ ๆ!” หลังจากที่พี่รองถูกสังหารและพี่ใหญ่ถูกจับ เขาก็แอบเข้าไปในเทศบาลเพื่อไถ่ถาม!และได้รู้ว่าตระกูลหลิวก็จบสิ้นเช่นกัน คนที่ต่อต้านคุณชายผู้นั้นก็ต่างติดคุกกันหมด! หงเยี่ยเงยหน้าอันหล่อเหลาขึ้น เขาหยิบมีดยาวขึ้นมาแล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “เมื่อมีจิตใจที่เฉียบแหลม เช่นนั้นจะต้องเป็นบัณฑิตอย่างแน่นอน เมื่อต้องรับมือกับบัณฑิตก็อย่าพูดอะไรมากนัก แค่เข้าไปแทงเขาด้วยมีดให้ตาย ไม่ว่าเขาจะฉลาดแค่ไหนยังไงก็ใช้มันไม่ได้อยู่ดี!” “...อืม ๆ!” เฮยซินหู่หัวเราะอย่างอดไม่ได้ คุณชายเป็นคนรอบคอบขนาดนั้น มันไม่ง่ายเลยที่จะฆ่าเขา ก่อนที่ใครจะเข้าใกล้เขาแล้วชักดาบแทง การซุ่มโจมตีของเขาจากทุกทิศทุกทางจะทำให้คนผู้นั้นล้มลง เขาเคยเห็นมาก่อน ตอนที่กำลังจะลักพาตัวคุณชาย เขาก็ถูกซุ่มโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า! ทันใดนั้น โจรภูเขาก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องโถง “นายท่านรอง พวกเราปล้นสตรีได้นางหนึ่ง” หงเยี่ยพูดอย่างสบาย ๆ “ไม่มีเงินจ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 152

    “น่าอายมาก!” เด็ก ๆ ต่างโห่ร้อง ส่วนผู้ใหญ่ต่างปิดตาอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขามอง! สะใภ้หลายคนต่างมองไปทางอื่น แต่กลับพยายามมองทั้งสองจากหางตา! ผู้อาวุโสเช่นหวังหานซานและท่านลุงต่างอ้าปากค้าง แล้วหันไปทางอื่นราวกับมองไม่เห็น! หนุ่มสาวหลายคนต่างหัวเราะอย่างเลิ่กลั่ก! “ว้าว!” ใบหน้าของจ้าวชิงเหอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ จากนั้นก็ปิดตาด้วยมือเล็ก ๆ นั่น แต่นางแอบมองออกมาจากระหว่างนิ้ว! ไอ้พี่ชายบ้า วัน ๆ เอาแต่ทรมานพี่สะใภ้จนนางนอนไม่หลับทุกคืน! ตอนนี้ยังจูบพี่สะใภ้ในที่สาธารณะ ที่มีผู้คนเยอะขนาดนี้อีก มันน่าอายจริง ๆ! “อื้ม อื้ม...” หลี่ซื่อหานรู้สึกละอายใจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน จิตใจของนางก็ว่างเปล่า เมื่อหวังหยวนปล่อยมือ นางก็หันหลังกลับและโผเข้าไปในอ้อมแขนของจ้าวชิงเหอ นางเขินอายเกินกว่าจะเจอใคร! เฮ้อ! หวังหยวนถอนหายใจยาว เขาเช็ดน้ำลายที่มุมปากแล้วพูดว่า “ท่านลุง ลุงหานซาน กัวฉาง ฝากดูแลหมู่บ้านต้าหวังด้วย” พวกเขาทั้งสามพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม ท่านลุงเป็นห่วงและอยากจะตามไปด้วย แต่เขากำลังจะแต่งงานใหม่เร็ว ๆ นี้ และต้องสร้างดาบราชวงศ์ถังที่บ้าน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 153

    “กลัวที่ไหนกันเล่า พวกเขาเป็นแค่กลุ่มโจรกระจอก หากกล้าบุกเข้ามาจริง ๆ ล่ะก็ ข้าจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดเอง!” เอ้อหู่กำลังนำทาง โดยถือบังเหียนในมือข้างหนึ่งและอีกมือหนึ่งก็จับดาบราชวงศ์ถังไว้ ดวงตาของเขากวาดสายตาไปรอบ ๆ ราวกับสายฟ้า ร่างกายของเขาตึงเครียดและพร้อมที่จะปลดปล่อยพลังของเขาพี่น้องทั้งสองคน กัวเฉียงและกัวเหลียง ซึ่งอยู่ด้านหลังก็เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะรับมือกับเหตุฉุกเฉิน คนกลุ่มหนึ่งก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ! ในป่าทั้งสองด้าน มีโจรภูเขามากกว่ายี่สิบคนปรากฏตัวขึ้น พวกเขามองกลุ่มคนด้วยดวงตาที่เป็นประกาย “นายท่านรอง คนกลุ่มนี้ดูยากที่จะรับมือ เราจะรับมือกันไหวหรือขอรับ?” โจรภูเขามีสายตาหวาดกลัว รถม้าหนึ่งคัน ผู้คุ้มกันสิบคน ทุกคนมีดาบติดอาวุธ ดูท่าทางจะยั่วยุได้ยาก “ข้าอยู่นี่ กลัวอะไร!” เสี่ยวชิงหมั่งพูดอย่างเหยียดหยาม “ดูคนพวกนั้นที่อยู่ข้างหลังซิ แต่ละคนดูขลาดกลัวกันหมด การมีมีดอยู่ในมือไม่สำคัญหรอก พวกมันฆ่าไก่ไม่ได้สักตัวเลยด้วยซ้ำ! ยิ่งดูท่าทางของพวกเขา คงจะเป็นแกะอ้วนแน่ ๆ หากปล้นได้จริง ๆ ล่ะก็ ไม่เพียงแต่ได้กินดื่มอย่างสุขสำราญเท่านั้น แต่ยังไปหอคณิกาใน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 154

    เคร้ง เคร้ง... มีดยาวในมือของโจรภูเขาถูกตัดออก ดาบราชวงศ์ถังยังคงตัดต่อไป โดยเฉือนหน้าอกและหน้าท้องของคนเจ็ดคน พรวด พรวด...เลือดและเครื่องในพุ่งออกมาในขณะที่โจรทั้งเจ็ดล้มลงกับพื้น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อจนวินาทีสุดท้ายการตระหนักว่าดาบสามารถตัดผ่านดาบอีกเล่มหนึ่งได้ทำให้พวกเขาประหลาดใจ! “เฮ้ย...” หวังซื่อไห่และหวังเอ้อโกวทั้งเจ็ดคนก็ตกใจเช่นกัน พวกเขาไม่คาดคิดว่าโจรภูเขาที่ชั่วร้ายจะฆ่าได้ง่ายขนาดนี้ แต่เมื่อก้มหน้าลงและมองไปที่ดาบราชวงศ์ถัง ต่างก็รู้ทันทีว่าพี่หยวนเป็นคนสร้างดาบขึ้นมา! “พวกเขามีดาบล้ำค่าที่สามารถตัดเหล็กได้เหมือนดินเหนียว!” โจรภูเขาทั้งห้าคนที่อยู่ข้างหลังตกใจมาก จนหันหลังวิ่งหนีไป! “เฮ้ย ฆ่าซิวะ!” หวังเอ้อโกวเลือดร้อนทันที เขาไล่ตามไปพร้อมกับดาบราชวงศ์ถัง และสังหารโจรภูเขาอีกคนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว! ชายหนุ่มทั้งห้าจากกลุ่มขายปลาก็ตะโกน และรีบกระโจนไปข้างหน้าเช่นกัน “ฆ่า!” หวังซื่อไห่เป็นคนสุดท้ายที่ดึงเขาลง เขาระงับอาการคลื่นไส้เมื่อเห็นเลือด และก้าวไปข้างหน้าโจมตีด้วยดาบ! เมื่อครู่นี้ทั้งเจ็ดคน พวกเขาเป็นเหมือนแกะ แต่

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1853

    “มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ถือว่าเป็นแขกผู้มาเยือนได้หรือ?” ตงฟางฮั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ในเมื่อเจ้าชอบสถานที่นี้ ก็จงดื่มสุราอยู่ที่นี่คนเดียวเถิด” “ลาก่อน”เพียงชั่วพริบตา ตงฟางฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังจะเดินสวนกับชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงชายคนนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านตงฟาง ท่านพร้อมจะวางเดิมพันไว้ที่หวังหยวน แต่กลับไม่คิดจะพบกับท่านประมุขของข้าหรือ?”“ฮึ” “พวกเจ้าก็เป็นเพียงพวกหนูที่อาศัยอยู่ในความมืดมิด” “ใครเล่าจะอยากร่วมมือกับพวกเจ้า?” ตงฟางฮั่นเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจชายผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป มือหนึ่งคว้ามีดสั้นจากอกเสื้อ แล้วแทงเข้าที่หลังของตงฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว! ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ!“ถ้าไม่เป็นมิตร ก็ต้องเป็นศัตรู!” “ไปลงนรกซะ!”สีหน้าของตงฟางฮั่นเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้การหลบหลีกนั้นสายเกินไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธใด ๆ เลย!ในขณะที่เขาเตรียมใจยอมรับชะตากรรม ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ปรากฏว่าเกาเล่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างกายเขายังมีสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้ออีกหลายคนมีกำลังคนม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1852

    “ท่านทั้งหลายไปที่นั่นแล้วจะได้ลงทะเบียนทันที!”เมื่อทราบว่าหวังหยวนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกคนจึงรีบขอลา แล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดตะวันออกด้วยความเร่งรีบ การลงทะเบียนโดยเร็วจะช่วยคลายกังวลในใจได้!เมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านมาเร็วไปเร็วเช่นนั้น ฉุนอวี๋อันจึงบ่นหลังถอนหายใจว่า “ประชาชนพวกนี้ช่างร้อนรนนัก!”“หากมีสิ่งใดขัดขวางความประสงค์ของพวกเขา พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายไม่หยุด!”“โชคดีที่ข้าไม่ใช่ผู้ว่าราชการเมืองเมืองนี้แล้ว จึงบรรเทาความกดดันลงได้บ้าง…”แต่หารู้ไม่ว่าหวังหยวนยังคงยืนอยู่ข้างกายฉุนอวี๋อันหันกลับไปเห็นหวังหยวนกำลังมองตนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นเทา ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว และถึงกับหายใจติดขัด“ท่านผู้นำ…”“ข้าไม่ใช่หมายความเช่นนั้น”หวังหยวนเห็นท่าทีขลาดกลัวของเขาจึงส่ายหน้าแล้วยกยิ้มดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะถูกต้อง คนเช่นนี้จะสามารถเป็นใหญ่ในเมืองได้อย่างไร?หากปล่อยให้ฉุนอวี๋อันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองต่อไป แม้การก่อสร้างระบบชลประทานจะแล้วเสร็จก็คงหาผลกำไรไม่ได้มากนักผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเดาได้ไม่ยากไม่ช้าหวังหยวนและคณะก็เดินทางกลับระหว่างทางกลับ เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1851

    “หืม?” หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะเรื่องเกณฑ์แรงงานจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจ“ทุกคน!”“เรื่องนี้คงเกิดจากความเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”“ข้าต้องการแรงงานมาช่วยทำงาน แต่ก็เพื่อการพัฒนาเมืองอู่เจียง!”“เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ ในฤดูฝน พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าแม่น้ำจะเอ่อล้นอีกต่อไป และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองอู่เจียงกับเมืองต่าง ๆ ก็จะใกล้เคียงลงมาก!”“นับเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและประชาชน!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้ใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ข้าจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละหนึ่งตำลึง!” หวังหยวนอธิบายสถานการณ์โดยย่อความจริงเป็นเช่นนั้น เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ เมืองอู่เจียงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! ในอนาคต แม้แต่เมืองหลวงก็อาจจะพัฒนาไม่ดีเท่าเมืองอู่เจียง! แต่ทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพราะเมืองอู่เจียงมีแม่น้ำห้าสายไหลผ่าน หากไม่เป็นเช่นนี้จะมีโอกาสสร้างระบบชลประทานได้อย่างไร?“จ่ายค่าจ้างด้วยหรือ?”“ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ใช่รึ?”“พวกเราคงจำผิดไปกระมัง?”“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1850

    “การเตรียมการต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนยกถ้วยชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังเกาเล่อขณะเอ่ยถามเกาเล่อส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ข้าได้ค้นหาคนผู้มีความสามารถอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ขอรับ” “บางคนก็มีความรู้ความสามารถ บางคนก็ไม่อาจคาดเดาเจตนาได้ โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสมนัก”หวังหยวนพยักหน้า แท้จริงแล้ว การค้นหาคนที่ไว้ใจได้และมีความรู้ความสามารถนั้นจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร? เวลาเพียงสองวันนั้นย่อมไม่เพียงพอ“เช่นนั้นเจ้าจงค้นหาต่อไป” “อย่างไรเสียข้าก็ต้องอยู่ที่เมืองอู่เจียงต่อไปอีกนาน” “เรื่องต่าง ๆ ในที่นี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง” “แต่ก่อนหน้านั้นเจ้ายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดหาแรงงานเพื่อช่วยข้าขุดคลอง” หวังหยวนสั่งการเพิ่มเติมเกาเล่อรับคำแล้วก็จากไปหลังจากอยู่ในห้องมาสองวัน แผนที่ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว หวังหยวนจึงสั่งให้คนจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จแม้ว่าฉุนอวี๋อันจะพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างหวังหยวน เกาเล่อควบคุมข่าวสารต่าง ๆ แต่เรื่องราวภายในเมืองอู่เจียงนั้น ฉุนอวี๋อันย่อมรู้ดีกว่า

DMCA.com Protection Status