All Chapters of ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์: Chapter 931 - Chapter 940

1168 Chapters

บทที่ 931

เมื่อทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน นอกเหนือจากการขาดแคลนจ่าฝูงแล้ว ต้าโจวยังมีความพร้อมในด้านอื่น ๆ เป็นอย่างดีก่อนที่มู่หรงเจี๋ยจะออกเดินทาง เขาได้ตรวจสอบเงินคงเหลือในคลัง และจัดการเงินสำหรับแผนกเสบียงทหาร ด้านวังหลังมีจื่ออันคอยควบคุมค่าใช้จ่าย และพยายามไม่เพิ่มแรงกดดันต่อท้องพระคลังในขณะนี้ สนมอี้เป็นคนริเริ่มอย่างเหนือความคาดหมายย ในการสั่งให้เหล่านางสนมในวังหลังบริจาคทองคำ เงินและเพชรพลอย เพื่อนำไปขายเป็นค่าใช้จ่ายทางการทหารสิ่งนี้น่าประหลาดใจมาก แต่ไม่มีใครล่วงรู้ลึกถึงแรงจูงใจเบื้องหลังของนาง เนื่องจากท้องพระโรงต้องการเงินยิ่งมากยิ่งดีแน่นอน แรงจูงใจนั้นสามารถคาดเดาได้ไม่ยาก นางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดขององค์ชายเจ็ด หากนางได้รับการยกย่อง องค์ชายเจ็ดก็จะได้รับการยกย่องตามไปด้วย ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะได้รับตำแหน่งองค์รัชทายาทขึ้นสองค่ำเดือนสอง วันมังกรผงาดมู่หรงเจี๋ยได้รับคำสั่งให้ออกเดินทาง จื่ออันตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อสวมชุดเกราะให้เขาเมื่อเห็นเขาทรงอำนาจน่าเกรงขามมาก จื่ออันทั้งรู้สึกภูมิใจและเศร้าใจ นางแต่งงานกับองค์ชายผู้สำเร็จราชการ ก็ต้องการช่วยเขาบริหารกิจการรัฐ นางแต่งงาน
Read more

บทที่ 932

จื่ออันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เจ้าไม่อยากให้ทักษะเสียเปล่า จึงคิดใช้มันไปกับการเข่นฆ่าคนงั้นหรือ?”“เพื่อฆ่าศัตรูต่างหาก!” ตาวเหล่าต้าแก้ไข “ข้าต้องการปกป้องบ้านเมืองและประเทศของเรา ป้องกันไม่ให้ศัตรูต่างชาติรังแกประชาชน!”จื่ออันมองไปที่เขา มองเห็นความมุ่งมั่นในดวงตา ถึงรู้ว่าเขาจริงจัง ที่แท้เขาก็อยากออกรบเพื่อเข่นฆ่าศัตรู ปกป้องผู้คนและประเทศชาติจู่ ๆ หัวใจของจื่ออันก็เกิดความตื้นตันขึ้นมา แม้แต่เสี่ยวตาวยังรู้ว่าทุกคนย่อมมีส่วนร่วมกับความเจริญรุ่งเรืองและตกต่ำของแว่นแคว้น ฉะนั้นต้าโจวไม่มีวันปราชัย“เอาล่ะ หากเจ้าอยากเป็นทหาร ข้าจะแนะนำให้เจ้าไปฝึกที่ค่ายทหาร หลังจากท่านอ๋องได้รับชัยขนะกลับมา”“ข้าอยากไปตอนนี้เลยขอรับ”“หากเจ้าไปแล้วใครจะปกป้องคุ้มครองพระชายา?” เสี่ยวซุนเบิกตากว้าง “ทำไมเจ้าถึงโง่เขลานัก? เจ้าไม่เคยไปอยู่ค่ายทหาร ไม่เคยได้รับการฝึกอบรมมาก่อน เจ้าจะวิ่งกรูเข้าสู่สนามรบและฆ่าศัตรูง่าย ๆ ได้อย่างไร? คิดว่าตนเองสามารถเฉือนใครด้วยดาบยักษ์ก็ได้งั้นหรือ? หากพลาดฆ่าฟันพวกเดียวกันขึ้นมาเล่า? ในสนามรบมีกองกำลังนับแสน แยกไม่ออกว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู จิตใจของเจ้ายังไม่แ
Read more

บทที่ 933

ที่แท้ก็มาเพื่อขับไล่นางออกไปเองหรือ? รอยยิ้มเยาะเย้ยบนริมฝีปากของจื่ออันชัดเจนขึ้น “พระราชวังออกจะใหญ่โตถึงเพียงนี้ เหตุใดจะไม่มีที่สำหรับเซี่ยจื่ออัน? หากสนมอี้ต้องการขับไล่ข้า เช่นนั้นข้าต้องไปถามฝ่าบาทก่อนว่าทรงเห็นด้วยหรือไม่?”“เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อถวายการรักษาอีกต่อไปแล้ว ข้าจะบอกพระองค์ว่าเจ้าป่วยเป็นโรคร้ายแรง ไม่สามารถถวายการรักษาพระองค์ได้อีกต่อไป” สนมอี้พูดอย่างเย็นชา“ข้าจำได้ว่าตอนแรกที่สนมอี้เข้ามา ท่านบอกว่าตนเองมาที่นี่เพื่อปลอบโยนข้านี่ วิธีการปลอบโยนคือการขับไล่ข้าออกไปหรือ?” จื่ออันอยากรู้นัก นางไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงคิดว่าตนสามารถขับไล่นางออกไปอย่างไรก็ได้?“เซี่ยจื่ออัน ข้าเชิญเจ้าออกไปก็เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง หากเจ้าอยู่ที่จวนจะไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับเจ้า เจ้าจะยังคงเป็นพระชายา สามารถเพลิดเพลินไปกับเกียรติยศและความมั่งคั่งที่ตนพึงมี แต่ในพระราชวังแห่งนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะมีชีวิตที่มั่นคง”“ขอบคุณสนมอี้ยิ่งนัก แต่ข้าเป็นคนต่ำต้อย ไม่มีเกียรติยศหรือความมั่งคั่งให้ได้ดื่มด่ำเพลิดเพลิน ดังนั้นข้าขอใช้ชีวิตที่ไม่มั่นคงเช่นนี้ต่อไป
Read more

บทที่ 934

วันนี้องค์จักรพรรดิตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันที่มู่หรงเจี๋ยนำกองทัพของเขาออกเดินทาง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าองค์จักรพรรดิรักและหวงแหนแคว้นนี้มากที่สุด จนสามารถเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างได้เขาถอนหายใจอยู่หลายครั้ง พลางรำพึงว่ามันจะดีเพียงใดหากตนไม่เจ็บป่วยเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจ ความรู้สึกมากมายก็ประเดประดังเข้ามา ชีวิตคนเราไม่เที่ยงเสียจริง ชายหนุ่มผู้เดือดดาลเป็นฟืนไฟอาจตายในสนามรบได้ในชั่วพริบตา และชีวิตหญิงงามก็อาจพังพินาศได้ภายในพริบตาเช่นกัน“เจ้าเบื่อหน่ายที่ได้ยินข้าพูดเช่นนั้นรึ?” องค์จักรพรรดิหันมองจื่ออันด้วยสายตาผ่อนคลาย“ไม่... ไม่ใช่เช่นนั้นเพคะ” จื่ออันหลุดออกจากห้วงความคิด ก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สถานการณ์ในตอนนี้ของแคว้นต้าโจวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พวกเราคิด ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลไปเลยเพคะ”“ข้าไม่ได้กังวลสักหน่อย เพียงแค่กำลังวิงวอนต่อสวรรค์เท่านั้น ข้าไม่อยากให้พสกนิกรของข้าพลัดถิ่นไปอยู่ที่อื่นอย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว”พึ่งพาตนเองดีกว่ารอคอยความเมตตาจากสวรรค์ถึงกระนั้นจื่ออันก็ยังประทับใจในความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีต่อประเทศชาติและประชาชนแม้องค์จักรพรรดิจะตกอยู่ในอันตราย
Read more

บทที่ 935

ความจริงแล้วจื่ออันและจ้วงจ้วงต่างรู้ดีว่า ไม่ว่าพวกนางจะย้ายอาศัยอยู่ที่ตำหนักใด สนมอี้ก็จะวางแผนการและออกกลอุบายหลอกลวงพวกนางอยู่เสมออีกเหตุผลหนึ่งที่สนมอี้ไม่ต้องการให้พวกนางอาศัยอยู่ที่ตำหนักฉางเฉิง เพราะที่นั่นตั้งอยู่ใกล้กับวังซีเหวย ซึ่งหากนางลงมือทำบางอย่าง เรื่องนั้นอาจจะดังไปถึงหูของจักรพรรดิ ทั้งยังง่ายต่อการขอความช่วยเหลืออีกด้วยตอนนี้ตำหนักฮุ่ยชิงอยู่ห่างไกลจากวังซีเหวยมาก ด้านหน้าของตำหนักติดกับตำหนักเสี้ยวหนิง ซึ่งเป็นที่พำนักของกุ้ยไท่เฟยและอ๋องหนานหวาย ด้านซ้ายติดกับตำหนักฉางเฉิงที่ถูกทิ้งร้าง และวังอี้หลานของสนมอี้ ด้านขวาติดกับตำหนักไฉ่อี้ของชุ่ยกุ้ยผินที่มีความสัมพันธ์อันดีกับสนมอี้ นั่นหมายความว่าจื่ออันกำลังตกอยู่ในกำมือของนางกล่าวได้ว่า บ้านของนางถูกศัตรูขนาบทั้งหน้าทั้งหลังมู่หรงเจี๋ยกล่าวก่อนที่เขาจะจากไปว่า อ๋องเหลียงและอ๋องอันจะเป็นผู้ดูแลที่นี่ ทว่าตอนนี้อ๋องอันจำเป็นต้องนำกองทัพออกรบเช่นกัน ดังนั้นจึงเหลืออ๋องเหลียงเพียงผู้เดียวอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขายกทัพออกไปแล้วสามวัน จู่ ๆ องค์ฮ่องเต้ก็มีพระราชโองการแต่งตั้งให้อ๋องเยี่ยเป็นไท่เวย และยึดอำนา
Read more

บทที่ 936

ไม่สิ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้ปกครองโฮ่วกง จ้วงจ้วงก็ออกคำสั่งสามข้อเช่นกันข้อแรก ย้ายกุ้ยไท่เฟยไปยังตำหนักสีอัน ซึ่งเป็นตำหนักที่หวงไท่โฮ่วเคยประทับอยู่ เพราะกุ้ยไท่เฟยอยากจะอยู่ตำหนักสีอันมาโดยตลอด ครั้งนี้จ้วงจ้วงจึงอนุญาตให้นางเข้าไปอยู่ แต่ด้วยธรรมเนียมไว้ทุกข์ เดิมทีหลังจากเจ็ดสิบเก้าวัน ก็จะสามารถถอนที่ตั้งป้ายวิญญาณบรรพบุรุษได้แล้ว แต่จ้วงจ้วงบอกว่าเพื่อแสดงความเศร้าโศก จึงจะจัดตั้งป้ายวิญญาณเป็นเวลาถึงสามปีซึ่งหมายความว่ากุ้ยไท่เฟยจะต้องไว้ทุกข์ให้พี่สาว ในนามของพระสนม โดยไม่อาจออกจากตำหนักสีอันตามความประสงค์ได้เป็นเวลาสามปีข้อสอง เลื่อนสถานะของสนมอี้ให้เป็นกุ้ยเฟย นี่เป็นข่าวดีสำหรับสนมอี้ เพราะในที่สุดนางก็ได้อยู่เหนือนางสนมทุกคน ตอนนี้ไม่มีฮองเฮาในวังหลังแล้ว สถานะของนางจึงถือว่าสูงสุดแต่ก็เป็นดั่งคำโบราณว่าไว้ ยิ่งตำแหน่งสูง ความรับผิดชอบยิ่งมากองค์หญิงเจิ้นกั๋วบอกว่าตนสุขภาพไม่ดี ทำให้ไม่สามารถดูแลกิจการน่าเบื่อหน่ายของโฮ่วกงได้ นางจึงมอบหมายงานบางส่วนให้สนมอี้ เช่นการปรับลดงบประมาณประจำปีในวังหลวง บอกให้นางช่วยอธิบายให้นางสนมฟังทีละคน และวางแผนจัดงานทั้งงานเล็ก ง
Read more

บทที่ 937

การต่อสู้ระหว่างนางสนมในวังมีสองวิธี วิธีที่หนึ่ง คือการต่อสู้เพื่อแย่งชิงความโปรดปราน การต่อสู้เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานนี้ เป็นการใช้กลอุบายต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของจักรพรรดิ แต่ตอนนี้จักรพรรดิกำลังประชวร จึงไม่อาจใช้วิธีนี้ได้ เพราะพวกนางไม่แม้แต่จะได้เห็นหน้าจักรพรรดิเลยด้วยซ้ำวิธีที่สอง คือการใช้ตำแหน่งของตนแอบวางยานางสนมคนอื่น ๆ ในวัง นอกจากวางแผนใช้ยาพิษแล้ว การนำยาพิษเข้ามาในวังหลวงก็ไม่ง่ายนัก หากสาวใช้และขันทีออกไปซื้อของข้างนอก ก็จะเป็นที่สะดุดตา เพราะทหารรักษาพระองค์จะตรวจค้นเป็นครั้งคราว หากพบยาพิษติดตัวอยู่ก็คือหายนะมีคนประเภทหนึ่งในวังหลวงที่สามารถสัมผัสพิษได้ นั่นคือคนของสำนักแพทย์หลวง หากสำนักแพทย์หลวงถูกควบคุม วังหลังก็จะสงบลงชั่วคราว เรื่องนี้จะไม่ทำให้พวกนางเสียสมาธิ เพื่อจะได้จดจ่ออยู่กับการจัดการสนมอี้และคนอื่น ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้มากมายแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มีนางสนมคนใดบ้างที่ไม่เคยคิดวิธีเช่นนั้น? ทุกคนต่างเคยเกี่ยวข้องกับสำนักแพทย์หลวง เมื่อจื่ออันเข้าครอบครองสำนักแพทย์หลวงแล้ว นางสนมเหล่านั้นจึงต้องประจบประแจงนาง เพื่อให้นางไม่เป
Read more

บทที่ 938

“ให้นางหมอบอยู่ข้างนอกนั่นแหละ วันนี้ไม่ต้องเปิดประตู”“แล้วท่านอ๋องจะเข้ามาได้อย่างไรขอรับ?” อาฝูถาม“ให้เขาเข้าทางประตูเล็กด้านข้าง ตรงนั้นมีทหารยามอยู่ นางเข้ามาไม่ได้ง่าย ๆ”“ขอรับ!” อาฝูกวักมือเรียกคนให้เข้ามาแต่งตัวให้กุ้ยไท่เฟย ก่อนจะออกไปเรียกอ๋องหนานหวายให้เข้ามา แต่แล้วเขาก็เห็นหัวคนยื่นเข้ามาจากนอกกำแพงตำหนัก“สวรรค์ เหล่าไท่จวินคนนี้บ้าจริง ๆ” ตาของอาฝูแทบจะหลุดออกจากเบ้า เมื่อเห็นคนอายุราวเจ็ดสิบแปดสิบกำลังปีนกำแพงเข้ามา“อาฝูใช่หรือไม่? มา ยื่นมือมาหน่อย!” เหล่าไท่จวินนอนอยู่บนกำแพง แล้วยื่นมือออกมาด้วยรอยยิ้มอาฝูกัดฟันเดินเข้าไปหา “เหล่าไท่จวิน ท่านทำเช่นนี้มันอันตรายเกินไป”“จะทำอย่างไรได้เล่า? ข้าตะโกนเรียกตั้งหลายครั้ง แต่ไม่มีใครมาเลย จึงคิดว่ากุ้ยไท่เฟยตายแล้วหรือเปล่า? ไม่สิ ข้ากลัวมากจึงรีบปีนกำแพงเข้ามาดู”อาฝูพูดไม่ออก เจ้าหรือเปล่าที่จะตาย? สาปแช่งผู้อื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เหตุใดจิตใจโหดเหี้ยมนักเขาเดินไปแล้วยื่นมือออกไปโดยไม่เต็มใจ ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว หากนางตกลงไปขาหัก ก็ไม่มีทางที่จะกลับมาได้อีกทันทีที่เขาคิดเรื่องนี้ เขาก็เงยหน้า
Read more

บทที่ 939

กุ้ยไท่เฟยย่นจมูกด้วยความเดือดดาลหากยังมารบกวนนางเช่นนี้ ก็ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว มานั่งคุยเรื่องมโนสาเร่ทั้งวันเช่นนี้ ทำให้นางเสียเวลามากนางไม่อาจเสียเวลาไปกับเฉินไท่จวินเช่นนี้ได้ เมื่อไหร่จะไปให้พ้นเสียที?ถูกนางรบกวนเกือบทั้งวัน ในที่สุดนางก็จากไปในยามโหย่ว นี่เป็นวันแรกที่กลับไปเร็วถึงเพียงนี้นางรีบส่งคนไปเรียกซุนฟางเอ๋อร์มาที่ตำหนัก แล้วให้คนไปถามว่าอ๋องหนานหวายจะกลับมาเมื่อใดทว่าเมื่อซุนฟางเอ๋อร์ได้รับเชิญ นางก็บอกว่าจะเข้าไปในตำหนักเมื่อถึงยามซวี แต่อ๋องหนานหวายไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง เขาไปที่ชานเมือง โดยไม่รู้ว่าไปทำอะไรนางอดสงสัยไม่ได้ว่ายายแก่คนนั้นรู้หรือไม่ว่าเจ้าแปดจะออกมาคืนนี้ จึงจงใจไม่อยู่ที่นี่นานแต่ไม่เป็นอะไร หากฟางเอ๋อร์เข้ามาในตำหนักแล้ว นางก็สามารถคุยธุระ และปรึกษาเรื่องวิธีไล่เฉินไท่จวินออกไปได้ความปรารถนานั้นงดงามเสมอ ทว่าความจริงนั้นแสนโหดร้ายซุนฟางเอ๋อร์เพิ่งมาถึงประตูตำหนัก แต่ก่อนที่นางจะคุกเข่าลงเพื่อแสดงความเคารพ นางก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น “กุ้ยไท่เฟย ข้ามาอีกแล้ว คราวนี้ข้าเอาของว่างมาให้เจ้า ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของแม่สาวหลิวหลิ่วคนนั้นน
Read more

บทที่ 940

กุ้ยไท่เฟยโกรธจัด “คืนนี้ป้าอาเฉอมาที่นี่เพื่อจับผิด”“ข้าไม่มีเวลาว่างมากถึงเพียงนั้นหรอก ข้ามาที่นี่เพื่อจุดธูปถวายหวงไท่โฮ่ว” ป้าอาเฉอชี้ไปที่ซุนฟางเอ๋อร์ “เจ้าช่วยไปจุดธูปถวายหวงไท่โฮ่วแทนข้าที อายุข้านั้นเกือบจะร้อยปีแล้ว กระดูกเปราะบางไปหมด เดินไปเพียงสองก้าวก็แทบจะหมดแรงแล้ว”ซุนฟางเอ๋อร์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำสั่ง นางหันไปจุดธูปสามดอก แล้ววางไว้หน้าป้ายวิญญาณ เนื่องจากยังไม่ได้ไหว้บรรพบุรุษ ป้ายวิญญาณจึงถูกวางไว้บนโต๊ะในห้องโถงใหญ่ชั่วคราวธูปสามดอกเริ่มติดไฟ จู่ ๆ ก็มีลมกระโชกแรงพัดเข้ามาจากนอกประตู ทำให้ควันธูปปลิวว่อนหลังจากจุดธูปเสร็จ ก็ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา ป้าอาเฉอหลับตา ดูเหมือนว่าจะเหนื่อยล้าจริง ๆซุนฟางเอ๋อร์มองกุ้ยไท่เฟยเงียบ ๆ ด้วยท่าทางยับยั้งชั่งใจกุ้ยไท่เฟยมองป้าอาเฉอด้วยความโกรธ นางรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าหญิงชราคนนี้กำลังจะทำอะไร? หวังว่าจะไม่กลับมาทำลายเรื่องดี ๆ ของนางอีกเซี่ยจื่ออันคนเดียวนั้นก็ยากจะรับมืออยู่แล้ว ยังมีมู่หรงจ้วงจ้วงเพิ่มเข้ามาอีก จากนั้นเฉินไท่จวินอีกคนก็มา หากป้าอาเฉอมาเพิ่มอีก นางจะมีโอกาสชนะมากเพียงใด?ทันใ
Read more
PREV
1
...
9293949596
...
117
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status