แชร์

บทที่ 938

ผู้เขียน: จูน
“ให้นางหมอบอยู่ข้างนอกนั่นแหละ วันนี้ไม่ต้องเปิดประตู”

“แล้วท่านอ๋องจะเข้ามาได้อย่างไรขอรับ?” อาฝูถาม

“ให้เขาเข้าทางประตูเล็กด้านข้าง ตรงนั้นมีทหารยามอยู่ นางเข้ามาไม่ได้ง่าย ๆ”

“ขอรับ!” อาฝูกวักมือเรียกคนให้เข้ามาแต่งตัวให้กุ้ยไท่เฟย ก่อนจะออกไปเรียกอ๋องหนานหวายให้เข้ามา แต่แล้วเขาก็เห็นหัวคนยื่นเข้ามาจากนอกกำแพงตำหนัก

“สวรรค์ เหล่าไท่จวินคนนี้บ้าจริง ๆ” ตาของอาฝูแทบจะหลุดออกจากเบ้า เมื่อเห็นคนอายุราวเจ็ดสิบแปดสิบกำลังปีนกำแพงเข้ามา

“อาฝูใช่หรือไม่? มา ยื่นมือมาหน่อย!” เหล่าไท่จวินนอนอยู่บนกำแพง แล้วยื่นมือออกมาด้วยรอยยิ้ม

อาฝูกัดฟันเดินเข้าไปหา “เหล่าไท่จวิน ท่านทำเช่นนี้มันอันตรายเกินไป”

“จะทำอย่างไรได้เล่า? ข้าตะโกนเรียกตั้งหลายครั้ง แต่ไม่มีใครมาเลย จึงคิดว่ากุ้ยไท่เฟยตายแล้วหรือเปล่า? ไม่สิ ข้ากลัวมากจึงรีบปีนกำแพงเข้ามาดู”

อาฝูพูดไม่ออก เจ้าหรือเปล่าที่จะตาย? สาปแช่งผู้อื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เหตุใดจิตใจโหดเหี้ยมนัก

เขาเดินไปแล้วยื่นมือออกไปโดยไม่เต็มใจ ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว หากนางตกลงไปขาหัก ก็ไม่มีทางที่จะกลับมาได้อีก

ทันทีที่เขาคิดเรื่องนี้ เขาก็เงยหน้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
จิตราพัชญ์ ศิวัฒน์
สนุกสนาน ชอบมาก
goodnovel comment avatar
Angsana Santy
เพิ่มอัพตอนอีหสักหน่อยได้มั้ย แต่ละวันรอหนึ่งตอนเศร้า อาจยังไม่จุใจเลยค่ะ งือออ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 939

    กุ้ยไท่เฟยย่นจมูกด้วยความเดือดดาลหากยังมารบกวนนางเช่นนี้ ก็ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว มานั่งคุยเรื่องมโนสาเร่ทั้งวันเช่นนี้ ทำให้นางเสียเวลามากนางไม่อาจเสียเวลาไปกับเฉินไท่จวินเช่นนี้ได้ เมื่อไหร่จะไปให้พ้นเสียที?ถูกนางรบกวนเกือบทั้งวัน ในที่สุดนางก็จากไปในยามโหย่ว นี่เป็นวันแรกที่กลับไปเร็วถึงเพียงนี้นางรีบส่งคนไปเรียกซุนฟางเอ๋อร์มาที่ตำหนัก แล้วให้คนไปถามว่าอ๋องหนานหวายจะกลับมาเมื่อใดทว่าเมื่อซุนฟางเอ๋อร์ได้รับเชิญ นางก็บอกว่าจะเข้าไปในตำหนักเมื่อถึงยามซวี แต่อ๋องหนานหวายไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง เขาไปที่ชานเมือง โดยไม่รู้ว่าไปทำอะไรนางอดสงสัยไม่ได้ว่ายายแก่คนนั้นรู้หรือไม่ว่าเจ้าแปดจะออกมาคืนนี้ จึงจงใจไม่อยู่ที่นี่นานแต่ไม่เป็นอะไร หากฟางเอ๋อร์เข้ามาในตำหนักแล้ว นางก็สามารถคุยธุระ และปรึกษาเรื่องวิธีไล่เฉินไท่จวินออกไปได้ความปรารถนานั้นงดงามเสมอ ทว่าความจริงนั้นแสนโหดร้ายซุนฟางเอ๋อร์เพิ่งมาถึงประตูตำหนัก แต่ก่อนที่นางจะคุกเข่าลงเพื่อแสดงความเคารพ นางก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น “กุ้ยไท่เฟย ข้ามาอีกแล้ว คราวนี้ข้าเอาของว่างมาให้เจ้า ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของแม่สาวหลิวหลิ่วคนนั้นน

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 940

    กุ้ยไท่เฟยโกรธจัด “คืนนี้ป้าอาเฉอมาที่นี่เพื่อจับผิด”“ข้าไม่มีเวลาว่างมากถึงเพียงนั้นหรอก ข้ามาที่นี่เพื่อจุดธูปถวายหวงไท่โฮ่ว” ป้าอาเฉอชี้ไปที่ซุนฟางเอ๋อร์ “เจ้าช่วยไปจุดธูปถวายหวงไท่โฮ่วแทนข้าที อายุข้านั้นเกือบจะร้อยปีแล้ว กระดูกเปราะบางไปหมด เดินไปเพียงสองก้าวก็แทบจะหมดแรงแล้ว”ซุนฟางเอ๋อร์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำสั่ง นางหันไปจุดธูปสามดอก แล้ววางไว้หน้าป้ายวิญญาณ เนื่องจากยังไม่ได้ไหว้บรรพบุรุษ ป้ายวิญญาณจึงถูกวางไว้บนโต๊ะในห้องโถงใหญ่ชั่วคราวธูปสามดอกเริ่มติดไฟ จู่ ๆ ก็มีลมกระโชกแรงพัดเข้ามาจากนอกประตู ทำให้ควันธูปปลิวว่อนหลังจากจุดธูปเสร็จ ก็ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา ป้าอาเฉอหลับตา ดูเหมือนว่าจะเหนื่อยล้าจริง ๆซุนฟางเอ๋อร์มองกุ้ยไท่เฟยเงียบ ๆ ด้วยท่าทางยับยั้งชั่งใจกุ้ยไท่เฟยมองป้าอาเฉอด้วยความโกรธ นางรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าหญิงชราคนนี้กำลังจะทำอะไร? หวังว่าจะไม่กลับมาทำลายเรื่องดี ๆ ของนางอีกเซี่ยจื่ออันคนเดียวนั้นก็ยากจะรับมืออยู่แล้ว ยังมีมู่หรงจ้วงจ้วงเพิ่มเข้ามาอีก จากนั้นเฉินไท่จวินอีกคนก็มา หากป้าอาเฉอมาเพิ่มอีก นางจะมีโอกาสชนะมากเพียงใด?ทันใ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 941

    ป้าอาเฉอย้ายมาอาศัยอยู่ในตำหนักของจื่ออันโดยตรง เฉินเหล่าไท่จวินจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกไปเปลาะหนึ่งนางบ่นอยู่ในตำหนักฮุ่ยชิงว่า “เจ้าคิดว่าข้าชอบไปที่นั่นหรือ? แค่เห็นหน้านางทุกวันในใจก็รู้สึกหงุดหงิดแย่แล้ว ดีที่อาเฉอมาช่วยแบ่งเบาภาระข้าไปสักสองสามวัน ชีวิตข้าจะได้สงบสุขและผ่อนคลายไปอีกหลายวัน”จื่ออันยิ้มและกล่าวว่า “คงเป็นงานหนักสำหรับเหล่าไท่จวินไม่น้อย ตามติดราวกับกอเอี๊ยะเหนียวหนึบทุกวันเช่นนี้ แม้แต่ข้ายังคิดว่าใบหน้าของนางช่างน่ารังเกียจเสียนี่กระไร”“ใช่หรือไม่? วัน ๆ เอาแต่วางตัวสูงส่งราวกับตนเป็นหวงไท่โฮ่ว สนทนากับผู้ใดก็มักจะเผยสีหน้าเย็นชา ทำอย่างกับข้าต้องเป็นฝ่ายอ้อนวอนนางอย่างนั้น”“เอาล่ะ ป้าอาเฉอจะมาอยู่ที่นี่สักสองสามวัน คราวนี้ท่านก็กลับไปได้แล้ว” จ้วงจ้วงกล่าว“ข้าว่าจะออกไปตั้งแต่เช้าตรู่ ข้าไม่ชอบอยู่ในวัง” เหล่าไท่จวินหาว “เฮ้อ ข้าแก่ตัวลงมากแล้ว ทนเรื่องพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ”“ท่านย่า กลับไปเข้านอนเร็วเถิดเจ้าค่ะ” หลิวหลิ่วเร่งนางด้วยความลำบากใจ“เอาล่ะ ไว้ข้ากินข้าวเสร็จแล้วจะรีบเข้านอนแต่หัววันเชียว” หญิงชรามีนิสัยชอบทานอาหารมื้อค่ำทุกคืนก่อนที่จะเข้าน

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 942

    ยิ่งไปกว่านั้น นางเคยเห็นคนบ้าก่อปัญหา หรือถึงขั้นฆ่าคน แต่ไม่ค่อยเห็นพวกเขาฆ่าตัวตายมาก่อน เว้นแต่จะเป็นโรคซึมเศร้านางได้ตรวจสอบชีพจรของสนมเหลียงแล้ว พบว่าชีพจรตึงอย่างรุนแรง อัตราการเต้นของหัวใจก็อยู่ในระดับที่ผิดปกติ ดูเหมือนว่านางถูกบางอย่างกระทบกระเทือนจิตใจจนคลุ้มคลั่งในคราวเดียวคนอย่างสนมเหลียงไม่เคยประสบกับเรื่องเลวร้ายใดบ้าง? นางกลายเป็นคนเสียสติได้อย่างไรหลังจากถูกโจมตีอย่างกะทันหัน?องค์รัชทายาททรยศนางในตอนนั้น จนนางถูกลดขั้นเป็นสนมเหลียง แต่นางก็ยังสามารถทนรับความอัปยศต่อไปได้ กระทั่งในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์บังคับพระราชวังต่อมา แม้ว่านางจะถูกโยนเข้าไปในตำหนักเย็น แต่อ๋องเหลียงกลับได้เลื่อนตำแหน่ง นางควรจะมีความหวังสิ ทำไมนางถึงคลั่งไคล้เช่นนี้?เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แปลว่าต้องมีผี“บางทีเราอาจมองข้ามอะไรไป วันพรุ่งนี้ข้าจะเรียกทหารองครักษ์ประจำตำหนักเย็นมาสอบถามอีกครั้ง”ทางด้านทหารองครักษ์ นางไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย เพราะพวกเขาจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ห่าง ๆ ไม่ได้เฝ้าอยู่ด้านหน้าตลอดเวลาจื่ออันจึงขยายขอบเขตมากขึ้น ไปถามบรรดานางกำนัลและขันทีในตำหนักใกล้เคียง เพื่อดู

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 943

    ตอนนี้จื่ออันนึกขึ้นได้แล้วว่าเป็นไท่ฟู่เป็นคนของไท่ฟู่นั่นเองที่ต้องการฆ่าสนมเหลียง การโจมตีเพียงหนึ่งครั้งสามารถทำให้นางคลั่งไคล้ได้ทำไมไทฟู่ถึงทำเช่นนี้? นั่นง่ายมาก หากสนมเหลียงฆ่าตัวตาย อ๋องเหลียงก็จะแปดเปื้อน ยากที่จะได้รับการสถาปนาเป็นองค์รัชทายาทจื่ออันไม่แปลกใจเลยที่ไทฟู่ไม่ยอมให้อ๋องเหลียงขึ้นเป็นรัชทายาท เพราะสำหรับเขาแล้วเขาไม่เคยรักอีกฝ่ายเหมือนคนในครอบครัวเลยต่อให้เขาต้องการผงาดกลับคืนอีกครั้ง เขาก็ไม่สามารถฝากฝังตัวเองกับอ๋องเหลียงได้ อ๋องเหลียงได้ปฏิเสธเขาแล้ว ไม่ต้องการแม้แต่จะชายตามองเขาเขาเคยร่วมมือกับอ๋องหนานหวายมาก่อน รู้ว่าอ๋องหนานหวายชั่วร้าย ดังนั้นเขาคงไม่คิดจะร่วมมือกับอ๋องหนานหวายอีก นอกจากนี้ อ๋องเหลียงยังกล่าวว่า อดีตราชครูแห่งราชสำนักต่างก็เป็นปรปักษ์กับอ๋องหนานหวายเช่นนั้นไท่ฟู่จะร่วมมือกับใคร?สนมอี้หรือ? แต่สนมอี้ก็มีนอกมีในอยู่กับอ๋องหนานหวายจื่ออันรู้สึกงงงวยจริง ๆเป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาอาจร่วมมือกับสนมอี้อย่างลับ ๆ ในขณะที่สนมอี้สร้างพันธมิตรให้กับอ๋องหนานหวายอย่างออกนอกหน้า? หากเป็นกรณีนี้ก็สมเหตุสมผล เพราะก่อนหน้านี้สนมอี้มีท่าทางมั

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 944

    “เจ้ามาที่นี่อีกทีตอนเที่ยงสิ” สนมเหมยพูด “หายากยิ่งที่เจ้าจะนึกถึงเขา ข้าจะกระตุ้นให้เขาตั้งใจเรียนอย่างแน่นอน”“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ค่อยกลับมาที่นี่ในตอนเที่ยงอีกครั้ง” จื่ออันตอบด้วยรอยยิ้มนางไม่สามารถรอจนถึงเที่ยงได้แน่นอน ดังนั้นจื่ออันจึงไปหาเขาถึงสำนักศึกษา ในสำนักศึกษา ใต้เท้าเหวินกำลังทำหน้าตาโกรธเคือง ใต้เท้าเหวินคืออาจารย์ที่มู่หรงเจี๋ยมอบหมายให้มาสอนองค์ชายสาม แทนที่อาจารย์คนก่อนหน้าใต้เท้าเหวินเป็นมหาบัณฑิต ลูกศิษย์ของมหาบัณฑิตหยวน แม้ว่าเขาจะอายุเพียงสี่สิบปี แต่เขาก็มีการศึกษาสูงและมีชื่อเสียงโด่งดัง มู่หรงเจี๋ยชื่นชมเขาเป็นอย่างยิ่ง“ใต้เท้าเหวิน!” จื่ออันเข้าไปถามเขาเมื่อใต้เท้าเหวินเห็นจื่ออันตรงมาหา เขาก็ยืนขึ้นและคำนับทักทาย “พระชายามาที่นี่ด้วยเหตุใด? ข้อน้อยขออภัยที่ไม่ได้ต้อนรับท่านอย่างดี”“ไม่ต้องสุภาพมาก ข้ามาที่นี่เพื่อพบองค์ชายสาม เขาอยู่ที่ไหน?” จื่ออันมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นเขา“ไม่อยู่ขอรับ ข้าน้อยกำลังโกรธเขาอยู่พอดี ครู่นี้เขาบอกว่าปวดท้อง จึงขอไปห้องน้ำ แต่เข้าไปครึ่งชั่วยามก็ยังไม่กลับมาเสียที ข้าน้อยจึงสั่งให้เด็กไปตามหาเขา แต่กลับไม

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 945

    เมื่อกล่าวถึงท่านบรรพชน สนมเหมยก็เชื่อถือโดยธรรมชาตินางถามอย่างกระวนกระวาย “แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน? ใครพาเขาไป? เขาจะเป็นอันตรายหรือไม่?”“อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต รูปแบบแสดงให้เห็นว่า หากหาเขาไม่พบเขาก่อนพระอาทิตย์ตกดินในวันพรุ่งนี้ ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอน” ป้าอาเฉอกล่าวเหลือเวลาวันเดียวเท่านั้น“สนมอี้เป็นคนทำเช่นนี้หรือ?” สนมเหมยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน“ใคร ๆ ก็ทำเรื่องเช่นนี้ได้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพาเขากลับมาให้ทันท่วงที” ป้าอาเฉอมองจื่ออันอย่างจริงจัง “เจ้ามีวิธีช่วยเขาหรือไม่?”จื่ออันทำอะไรไม่ถูก นางไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้แม้กระทั่งจะเริ่มต้นอย่างไร? โลกภายนอกพระราชวังช่างกว้างใหญ่ นางจะทำอะไรได้บ้าง?หลังจากคิดอย่างรอบคอบ องค์ชายต้องถูกคนของสนมอี้พาตัวไปแน่ แต่หลังจากตรวจสอบรายชื่อคนที่เข้าออกจากวังในวันนี้ ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นขันทีในวังที่ออกไปซื้อของ พวกเขาทั้งหมดอยู่ภายใต้คำสั่งของนาง ทั้งยังออกไปโดยรถเกวียน ไม่สามารถซ่อนผู้คนได้มีผู้ใช้รถม้าเพียงสองคัน คันหนึ่งคือเฉินหลิวหลิ่วที่ออกจากวังเมื่อเช้านี้ อีกคันเป็นของใต้เท้

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 946

    จื่ออันยิ้ม “จริงด้วยเพคะ เด็กอายุสิบเอ็ดขวบนับว่าไม่เด็กแล้วสำหรับเซียนเปย ข้าได้ยินมาว่าเด็กผู้ชายในเซียนเปยต้องได้รับการฝึกขี่ม้าตั้งแต่อายุห้าขวบ จากนั้นจึงฝึกวิชาดาบ ถูกหรือไม่พระสนม?”สนมอี้ฝืนยิ้ม จ้องมองนางและตะคอก “ข้าจะไปรู้เรื่องของคนป่าเถื่อนพวกนั้นได้อย่างไร?”“ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ข้ายังมีธุระที่ต้องไปจัดการ คงนั่งอยู่นานไม่ได้ เชิญพระสนมจิบน้ำขิงต่อไป” จื่ออันลุกขึ้น ก้าวไปสองก้าว แล้วหันกลับมาทันควัน “ข้าจำไม่ได้ว่าข้าบอกพระสนมไปแล้วหรือยัง จริงสิ องค์ชายสามต้องกลับมาภายในคืนนี้ มิเช่นนั้น สนมเหมยต้องร้องไห้จนตาบวมสมพรปากท่านแน่ ท่านน่าจะเข้าใจความรู้สึกของแม่ที่สูญเสียลูกดี พระสนมเองก็เป็นแม่คนเช่นกัน ข้าอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันแล้วจะรู้สึกอย่างไรบ้าง?”“เจ้าขู่ข้าหรือ” สนมอี้ตบโต๊ะแล้วผุดยืนขึ้น ทันใดนั้นใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นดุร้าย“ใช่!” จื่ออันมองนางด้วยรอยยิ้ม “ถือเป็นเรื่องดีที่พระสนมเข้าใจ”“เจ้ากล้าหรือ?” สนมอี้สาวเท้าเข้าหานาง นัยน์ตาปูดโปนราวกับจะถลนออกมา ร่างกายแผ่กระจายออร่าแห่งความเป็นอาชญากรจื่ออันไม่กลัวเลย นางมองเข้าไปในด

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1162

    ฉินโจวกล่าวด้วยความโมโห “ข้าหลอกลวงเจ้าเมื่อไร?”“ไม่งั้นรึ? เจ้าและอ๋องฉีเอ่ยปากว่า หากจื่ออันตกลงเดินทางมาที่เป่ยโม่ พวกเจ้าจะส่งองค์ชายรัชทายาทไปที่ต้าโจวเป็นองค์ประกัน แล้วพวกเจ้าทำตามที่พูดแล้วหรือไม่?”“องค์ชายรัชทายาทเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว!”“ผู้ที่เดินทางไปยังต้าโจวคือองค์ชายเจ็ด ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท องค์ชายเจ็ดไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ดังนั้นจักรพรรดิเป่ยโม่จะส่งเขาไปสังเวยเมื่อใดก็ได้”“เป็นไปไม่ได้!” ฉินโจวประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เดินทางไปคือองค์ชายรัชทายาท เพราะองค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยตนเองว่าจะส่งเขาไปที่ต้าโจว“เจ้าอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งสองแคว้นตกลงทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง แต่เจ้ากลับวางแผนโจมตีพวกเราในขณะที่ข้ายังอยู่ที่เป่ยโม่ เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งเครียดฉินโจวตอบ “ผิดแล้ว เป็นเพราะต้าโจวที่เคลื่อนทัพโจมตีทหารฝั่งขวาของเราก่อน และสังหารทหารของเราไปกว่าร้อยคน ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ เพื่อบีบบังคับให้พวกเจ้าถอยกลับ”“ไร้สาระ กองทัพของเราหยุดเคลื่อนท

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1161

    อย่างไรก็ตาม การจัดหาเสบียงอาหารสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเสื้อผ้าอาภรณ์ นอกจากนี้หลังจากที่พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาถึงเป่ยโม่ ก็ยังไม่ได้รับใบสั่งยาแม้แต่ฉบับเดียว ดังนั้นความอดทนของประชาชนจึงค่อย ๆ หมดลง แต่ความโกรธและความขุ่นเคืองกลับยิ่งมากขึ้นทันทีที่ข่าวลือแพร่สะพัด ก็เป็นเสมือนเป็นการขว้างเปลวไฟใส่ ‘ระเบิด’ หนึ่งหมื่นตุน ทำให้มันระเบิดออกอย่างรวดเร็วผู้ประสบภัยนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉินโจวลงจากภูเขา นางก็พบว่าองค์จักรพรรดิทำอะไรกับทหารม้า และทหารเจ็ดหมื่นนายที่ประจำการที่เมืองหลวง ซึ่งเขาออกคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นขับไล่เหล่าผู้ประสบภัยออกไปนางเห็นด้วยตาตนเองว่าทหารใต้บังคับบัญชาของนางสร้างกำแพงมนุษย์อันแน่นหนา เมื่อผู้ประสภัยเดินทางเข้ามา พวกเขาก็จะโบกหอกเพื่อขับไล่คนเหล่านั้นออกไปผู้ประสบภัยมากกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บจากหอกทหารเหล่านั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ฆ่าผู้ใด แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการฆ่าแกงกันอย่างแน่นอนฉินโจวโกรธจัดจึงขี่ม้าเข้าไปขวางเอาไว้ “หยุด หยุดเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1160

    ฉินโจวกวาดสายตามองพลางเยาะเย้ยจื่ออันไม่สนใจนาง และพาหลินตานไปยังเขตตะวันตกภายในสองวันนี้มีผู้เสียชีวิตถึงสามคน ซึ่งทั้งหมดถูกหามออกไปหลังจากที่หลินตามเดินเข้ามาเขาหลั่งน้ำตาหลั่งน้ำตาขณะมองดูการเผาศพจื่ออันไม่คิดว่าเขาจะมีความอ่อนไหวมากเพียงนี้ “ท่านหมอหลิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”หลินตานปาดน้ำตา “ข้าขอโทษ ข้าเพียง... คิดถึงครอบครัวขอรับ”“ครอบครัวของท่าน? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดหรือ?” จื่ออันถาม“ตายหมดแล้วขอรับ ภรรยาและลูกสะใภ้ของข้าตายเพราะเหตุแผ่นดินไหวทั้งคู่ ส่วนลูกชายและหลานชายติดเชื้อโรคระบาดก่อนตายไปเช่นกัน ข้าจึงเป็นคนเดียวที่เหลือรอด” หลินตานสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมสีขาวฉายแววความเศร้าโศกและหดหู่จื่ออันไม่คาดคิดว่าเขาจะมาจากพื้นที่โรคระบาดเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย จื่ออันก็ไม่รู้จะปลอบใจเขาเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบและอยู่เคียงข้างไม่นานหลินตานก็ถามว่า “ท่านหมอเซี่ย โรคระบาดนี้สามารถรักษาหายได้จริงหรือขอรับ?”ตอนนั้นเองจื่ออันก็นึกได้ว่าเขาเป็นหมอเท้าเปล่า และหลังจากเดินทางพเนจรไปที่ต่าง ๆ เขาอาจรู้จักจินเย่าฉือก็เป็นได้ ดังนั้นจึงรีบถามว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status