บททั้งหมดของ ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์: บทที่ 581 - บทที่ 590

1168

บทที่ 581

หลังจากที่มู่หรงเจี๋ยและเซี่ยจื่ออันเข้าไปอาบน้ำแล้วออกมา เมื่อทุกคนเห็นว่าเจ้าสาวคือเซี่ยจื่ออันก็ต้องตื่นตกใจขึ้นมา อยู่เหนือความคาดหมายทุกอย่างที่มี ที่สำคัญที่สุดก็คืองานแต่งงานนี้จะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่? หากว่าใช่แล้ว ชุดแต่งงานจะไปเอามาจากที่ใดกัน? ท่ามกลางกลุ่มคน มีเสียงอ่อนโยนดังขึ้นมา “ก่อนหน้านั้นคุณหนูใหญ่เคยมีงานอภิเษกกับอ๋องเหลียงมิใช่หรือ? ชุดอภิเษกนั่นยังอยู่หรือไม่?” ทุกคนหันกลับไปมอง คนที่เอ่ยออกมานั่นก็คือเฉินหลิวหลิ่ว นางเห็นว่ามีคนมากมายจ้องมองมายังตนเอง ก็นึกว่าตนเองเอ่ยอะไรพลาดไป ก็รีบโบกมือออกมา “ข้าเพียงแต่เสนอแนะเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องนำมาใช้” ไท่หวงไท่โฮ่วตรัสออกมา “เอาตามนี้” แต่ทว่าก็เกิดอีกคำถามหนึ่งขึ้นมา ชุดอภิเษกของอ๋องเหลียงนั้นยังคงสภาพดีอยู่ แต่ชุดแต่งงานของเซี่ยจื่ออันนั้นเต็มไปด้วยรูพรุน ชุดแต่งงานชุดนี้ ทำให้เหตุการณ์อันน่าอนาถวันนั้นปรากฏขึ้นมาต่อหน้าต่อตาของนางอีกครั้ง จื่ออันไม่คิดเลยว่าไป ๆ มา ๆ แล้วนางก็ต้องสวมใส่ชุดแต่งงานชุดนี้เพื่อแต่งงานอีกครั้ง นางไม่ยินดีนัก ไท่หวงไท่โฮ่วที่ได้ยินเสียงคัดค้านของนาง ก็หันไปตรัสออกมาว่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 582

ในตอนที่เซี่ยจื่ออันเพิ่งจะกลับมานั้น ก็ได้รับรู้สถานการณ์ของโรคผีดิบจากปากของเซียวท่า ซูชิง และก็รู้เรื่องราวของจวนมหาเสนาบดี นางมองไปยังหยวนฉุ่ยยวี่ ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา “ท่านแม่ คราวนี้ท่านได้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์แล้ว” ในใจของหยวนฉุ่ยยวี่เต็มไปด้วยความซับซ้อน นางตัดใจที่จะให้จื่ออันแต่งออกไปไม่ได้ แต่ก็รู้ว่านี่เป็นปลายทางที่ดีที่สุดของนาง ถึงแม้ว่าท่านอ๋องจะดูอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็เป็นคนดี นางกอดจื่ออันเอาไว้อย่างอ่อนโยน “จื่ออัน แม่หวังแต่เพียงว่าลูกจะปลอดภัยมีความสุข” ก่อนที่หยวนฉุ่ยยวี่จะมานั้น หน้าผากก็ถูกเครื่องสำอางปกปิดเอาไว้อย่างหนา และยังมีมวยผมปิดเอาไว้ จื่ออันไม่ได้มองเห็นรอยบาดแผลของนาง แต่เมื่อสัมผัสหลังจากที่กอดกันอย่างใกล้ชิดแล้ว ก็พบว่าบนศีรษะนางนั้นมีบาดแผลอยู่ “เกิดอะไรขึ้น?” จื่ออันเอ่ยถามออกมาด้วยความตื่นตกใจ เซียวท่าไม่ได้บอกกับนางว่าหยวนฉุ่ยยวี่ถูกทุบตีอย่างโหดร้าย เพราะฉะนั้นนางจึงไม่รู้ เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมา “จื่ออัน เจ้าไม่รู้สินะ หลังจากที่เจ้าหายไปแล้ว มหาเสนาบดีเซี่ยก็ทุบตีมารดาของเจ้าเสียยกใหญ่ ทุบตีเสียจนอีกเพียงนิดเด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 583

ส่วนทางด้านของเรือนชิงหนิงนั้น รับรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่ออาฝูเข้ามาบอกว่าเจ้าสาวคือเซี่ยจื่ออันนั้น กุ้ยไท่เฟยไม่ส่งเสียงใดออกมา นางสีหน้าซีดขาว สถานะของเจ้าสาวที่ถูกปิดบังมาโดยตลอด จนถึงตอนนี้ถึงได้เปิดเผยออกมา ไม่มีอะไรนอกเสียจากป้องกันคนคนหนึ่ง และคนคนนี้ก็คือนางนั่นเอง ไท่หวงไท่โฮ่วต้องการจะป้องกันนาง นี่หมายความว่า ถึงแม้ว่านางจะอยู่ไกลไปถึงผู้เขาอันเยือกเย็นแล้ว ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับทุกสิ่งอย่างในเมืองหลวง ทุกการกระทำของตนเอง เกรงว่าคงจะปิดบังนางเอาไว้ไม่ได้ ความร้ายกาจของผู้หญิงคนนี้ หลายปีก่อนหน้านั้น นางเองก็เคยพบเจอมาก่อนแล้ว พลังอำนาจมีมากในราชวงศ์ โดยเฉพาะตระกูลที่มีอายุร้อยปีเหล่านั้น ล้วนแต่ติดตามอยู่กับนาง ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้อยู่ในอาราม ไม่ได้อยู่ในวัง แต่ว่าอิทธิพลของนางก็ยังคงอยู่ แม่มดเฒ่าที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมตาย นางไม่คิดที่ต่อต้านอะไรในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ไม่ว่านางจะทำอย่างไร วันนี้ก็ล้วนแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยายแม่มดเฒ่านั่น นางแต่งหน้าเล็กน้อย แล้วออกไปพร้อมกับอาฝูที่ประคองเอาไว้ นางเดินออกไปไม่แม้แต่จะหันกลับ เดินไปถึงหน้าพ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 584

มู่หรงเจี๋ยที่เดิมนั้นเป็นคนชื่นชอบดื่มเหล้า บวกกับคืนนี้ร้านจู้เสียนที่ส่งเหล้าชั้นดีมาให้ และแน่นอนว่าเขาย่อมไม่อั้นกับการดื่มเหล้าของเขา จึงรับการเชิญชวนให้ดื่มเหล้าจากผู้ที่มีเจตนาร้ายกลุ่มใหญ่ ในตอนที่ถูกหามกลับห้องหอนั้น เขาก็เดินไม่ตรงเสียแล้ว เหลียงซื่อที่ทำหน้าที่เป็นซี่เหนียงชั่วคราวที่อยู่ในห้องนั้น ส่งไม้คันชั่งมา ยิ้มแล้วเอ่ย “เจ้าบ่าวจะต้องเปิดผ้าคลุมหน้าให้กับเจ้าสาว ขอให้คู่บ่าวสาวมีความสุขตลอดร้อยปี ลูกหลานเต็มบ้าน แก่เฒ่าไปด้วยกัน มู่หรงเจี๋ยยื่นมือออกไปรับไม้คันชั่งมา แต่เมื่อหมุนเป็นวงกลมไปแล้วก็ไม่อาจยืนได้อย่างมั่นคงได้ กลับทำให้คนกลุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวเราะออกมา “ไป ไป ไป ห้องบ่าวสาวไม่อนุญาตให้คนจำนวนมากเข้ามา” เหลียงซื่อพยายามผลักไล่คนออกไปตามหน้าที่ “ก่อความวุ่นวายห้องบ่าวสาว พวกเราจะมาก่อความวุ่นวายห้องบ่าวสาว” ซูชิงโห่ร้องออกมา “วุ่นวายอะไรกัน? ทำให้เรื่องมันชักช้า รีบออกไป รีบออกไป!” เหลียงซื่อโบกมือเหมือนไล่แมลงวัน ซูชิงหัวเราะออกมาอย่างมาดร้าย “เขาที่ดื่มเหล้าเสียจนกลายเป็นลูกแมวไปแล้ว คืนนี้อย่างไรแล้วจะต้องเสียเวลาอย่างแน่นอน” จื่ออัน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 585

ขณะที่จื่ออันเอ่ยออกมานั้น เสียงดังชัดของเซียวท่าดังขึ้นมาจากด้านนอก “เจ้าเอ่ยออกมาแล้ว เอ่ยออกมาเช่นนี้ ข้าไม่ได้โก......อื้อ อื้อ” เห็นได้ชัดว่าถูกปิดปากเอาไว้ จากนั้นก็ได้ยินเสียง “เอี๊ยดอ๊าด” ดังขึ้น ฟังออกได้ว่า เซียวท่าผู้น่าสงสารถูกคนลากออกไปแล้ว มู่หรงเจี๋ยเงี่ยหูฟัง มุมปากยกยิ้มเย็นชาออกมาเอ่ยถามจื่ออัน “อยากดูเรื่องสนุกหรือไม่?” จื่ออันเอ่ย “ข้าอยากดูมาก” มู่หรงเจี๋ยยื่นมือออกมา “ขอยืมเชือกบ่วงบาศของเจ้าที” “เชือกบ่วงบาศ? เชือกผุพังนี้มีประโยชน์อะไรกัน?” จื่ออันนำเชือกบ่วงบาศส่งให้กับเขา มู่หรงเจี๋ยรับมา ก่อนจะพันรอบข้อมือของเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นไปยังหน้าโต๊ะ แล้วรินเหล้าออกไปจอกหนึ่ง ในปากเอ่ยออกมา “หากว่าตรงประตูมีงูมามากกว่าร้อยตัว เหล้าเหยือกนี้ก็จะเป็นของเจ้าแล้ว” จื่ออันเอนตัวออกไปฟังเขาเอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แล้วเอ่ย “เจ้าหมายความว่าเชือกบ่วงบาศนี้สามารถเรียกงูได้อย่างนั้นหรือ?” “จริงแท้แน่นอน อีกประเดี๋ยวก็จะรู้แล้ว” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมา จื่ออันแน่นอนว่าย่อมไม่เชื่อ เรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้จะมีใครที่เชื่อกัน? ทว่าหลังจากที่เชือกบ่วงบาศถู
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 586

เมื่อจื่ออันเห็นตำราที่อยู่บนโต๊ะ ก็เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย “ตำราอะไรกัน?” มู่หรงเจี๋ยคว้ามันกลับไปทันที “อย่าดู ไม่มีอะไรที่น่าดู” แต่จื่ออันกลับพลิกเปิดหน้าแรกขึ้นมา มองเห็นภาพที่อยู่ด้านในนั้น ดวงตาเหยียดตรง “นี่มันตำราลับนี่!” “อืม ตำราลับฝึกวิชายุทธ์ที่มอบให้ข้า เจ้าไม่ได้ฝึกวิชายุทธ์ ไม่ต้องการมันหรอก” มู่หรงเจี๋ยนำตำราซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม จื่ออันส่งเสียงฮึมฮัมออกมามองไปยังมู่หรงเจี๋ย “ตกลง ต่อไปพวกเราควรจะทำกันอย่างไรกันดี?” มู่หรงเจี๋ยดูค่อนข้างจะไม่เป็นธรรมชาติ “หรือบางที พวกเรามากินอะไรกันก่อนดีไหม?” จื่ออันพยักหน้า “ข้อเสนอนี้ดีมาก” นางนั่งลงก่อน จากนั้นก็มองไปยังจอกสีทองที่พันไว้ด้วยผ้าสีแดง ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า “พวกเราควรจะดื่มเหล้ากันสักจอกหรือไม่?” มู่หรงเจี๋ยส่งเสียงคำรามออกมา “เหมือนว่าจำต้องทำเช่นนี้” จื่ออันรินเหล้าลงไป เหล้าไหลออกมาจากเหยือกลงจอกไปอย่างเงียบ ๆ ในใจของจื่ออันรับรู้ได้ถึงความเป็นจริง นางไม่เพียงแต่เงยหน้าขึ้นไปมองยังมู๋หรงเจี๋ย มู่หรงเจี๋ยเองก็กำลังมองมายังนาง เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 587

กลางดึก จื่ออันลุกขึ้นจากเตียงขึ้นเป็นครั้งที่สาม และปีนกลับขึ้นไปบนเตียง แล้วขดกายไปยังข้างเตียงด้วยความไม่พอใจ ภายหลังนางจะนอนข้างในนั้น มู่หรงเจี๋ยก็พลิกกาย เท้าใหญ่พลันกดลงบนหน้าท้องของนาง นางโกรธเกลียดเป็นอย่างมาก ก่อนจะยืดกายขึ้นเพื่อต้องการจะต่อยไปยังใบหน้าเพื่อทักทาย ทว่าเมื่อมองเห็นใบหน้าที่หลับใหลและไม่เป็นอันตรายใด ก็อดใจไม่ไหว ทำได้เพียงหลับตาลงอย่างไม่พอใจ เช้าตรู่ของวันถัดมา เป็นวันที่ดีมีแสงแดดสว่างสดใส หนี่หรงเคาะประตูอยู่ด้านนอก ร้องตะโกนออกมาเสียงเบา “ท่านอ๋อง พระชายา ตื่นได้แล้ว” จื่ออันที่ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ตอบกลับ ทำให้หนี่หรงต้องร้องตะโกนออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มู่หรงเจี๋ยที่ถูกรบกวนจนตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นว่าจื่ออันนอนยิ้มนิ่งอยู่บนเตียง ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา “เขาร้องตะโกนอยู่ตลอด ท่านไม่ตะโกนออกไปสักคำหนึ่งเล่า? เสียงดังเกินไปแล้ว” จื่ออันส่งเสียงขู่ออกมา “ให้เขาตะโกนออกมาอีก ตะโกนอีก” และแน่นอนว่า หนี่หรงก็ตะโกนขึ้นมาอีก “ท่านอ๋อง พระชายา ตื่นได้แล้ว” รอยยิ้มของจื่ออันยิ่งเพิ่มมากขึ้น เสียงเรียกพระชายานี่ ช่างน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง “หุบปา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 588

เด็กรับใช้ภายในจวนต่างก็พากันมองเห็น พากันปิดปากลอบยิ้มออกมา คู่บ่าวสาวเมื่อคืนนี้ช่างดูสู้กันอย่างสุดแรงจริง ๆ ไท่หวงไท่โฮ่วและกุ้ยเฟยนั่งกันอยู่ภายในห้องโถง และแน่นอนว่ากุ้ยไท่เฟยย่อมที่จะไม่ออกมาด้วยตนเอง เป็นไท่หวงไท่โฮ่วที่เป็นคนสั่งให้คนไปเรียกตัวออกมา อาเฉอที่ยืนอยู่ข้างกายของไท่หวงไท่โฮ่ว ทั้งสองคนมองไปยังมู่หรงเจี๋ยที่ประคองจื่ออันออกมา ล้วนแต่เบิกตากว้างมองดู อาเฉอเอ่ยออกมาเสียงเบาข้างหูของไท่หวงไท่โฮ่ว “ดูเหมือนว่า เมื่อคืนนี้เรื่องคงจะสำเร็จแล้ว” ใบหน้าของไท่หวงไท่โฮ่วเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ข้าบอกแล้วว่าเมื่อคืนให้ไปแอบฟังที่ห้องหอ เจ้าก็เกียจคร้านไม่ยอมไป” อาเฉอส่งเสียงเย็นชาออกมา “เป็นข้าที่ไม่ยอมไปอย่างนั้นหรือ? หรือว่าท่านเองที่บอกว่าไม่ไป” ทั้งสองคนเดินไปยังเบื้องหน้าของไท่หวงไท่โฮ่ว แล้วคุกเข่าลง จื่ออันคุกเข่าลงอย่างฝืน ๆ ตอนที่คุกเข่าลงไปก็เกิดความเจ็บปวดขึ้นมา มู่หรงเจี๋ยที่เห็นนางเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ก็เอ่ยออกมา “พอแล้ว เจ้าไม่ต้องคุกเข่าแล้ว ข้าจะคุกเข่าแทนเจ้าเอง” เมื่อเอ่ยจบแล้ว แล้วโค้งศรีษะคำนับลงให้กับไท่หวงไท่โฮ่วอย่างรวดเร็ว “เอาล่ะ ส่วนของจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 589

ไท่หวงไท่โฮ่วให้จื่ออันยืนรออยู่ด้านนอกของประตู นางมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกับมู่หรงเจี๋ย จื่ออันถอยออกไป ป้าอาเฉอก็ยืนอยู่ด้านนอกประตู เมื่อเห็นนางออกมา และมองไปยังแขนที่มีเชือกบ่วงบาศคล้องอยู่ “ของสิ่งนี้ใช้ง่ายยิ่งนัก เจ้าอยากจะให้ข้าสอนว่ามันใช้อย่างไรหรือไม่?” เมื่อคืนนี้จื่ออันก็ได้เห็นถึงความร้ายกาจของเชือกบ่วงบาศมาแล้ว มาตอนนี้ได้ยินป้าอาเฉอบอกว่ายังมีผลวิเศษอื่นอีก ก็อดไม่ได้ที่ยิ้มออกมา พร้อมเอ่ยขอคำชี้แนะ “ป้าอาเฉอได้โปรดชี้แนะด้วย” ป้าอาเฉอส่งเสียงอืมออกมา “ข้าทนทุกข์ทรมานมาจากเชือกบ่วงบาศนี้ไม่น้อย ก่อนหน้านั้นหญิงชราก็ใช้มันจัดการกับข้า” ภายในห้องโถง ไท่หวงไท่โฮ่วพบว่าสีหน้าของเขาดูไม่ดีนัก ก็ให้เขานั่งลง “เจ้าคิดว่า ข้าเห็นมารดาของเจ้ารังแกเซี่ยจื่ออันแล้วยังไม่ยอมส่งเสียงใดออกมา เป็นเพราะว่าจะช่วยเหลือนาง?" มู่หรงเจี๋ยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา “มิใช่ นางเองไม่อาจจะรังแกเซี่ยจื่ออันได้” “รู้ก็ดีแล้ว เซี่ยจื่ออันไม่ได้คุกเข่าให้กับข้า นางกลับเรียกร้องให้เซี่ยจื่ออันคุกเข่าให้กับนาง ตรงจุดนี้ข้าสามารถเอ่ยอะไรช่วยจื่ออันได้จริง ทว่าข้าอยากจะดูว่าเด็กคนนี้จะสามารถอดทนได
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 590

ทว่าจื่ออันก็ยังคงไม่เข้าใจความหมายเมื่อครู่นี้ของนางอยู่ดี นางบอกว่าสาเหตุที่นางลงมือช่วยเหลือตนเองนั้น เป็นเพราะล้วนแต่มองเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา รู้ที่มาของนาง รู้ทุกสิ่งอย่างที่นางทำ เช่นนั้นแล้ว ที่ช่วยเหลือนางเพราะว่าเหตุใดกัน? เหตุผลที่ช่วยเหลือนางเป็นเพราะว่าอะไรกัน? หรือเป็นเพราะว่ารู้ทุกอย่าง ก็เลยลงมือช่วยเหลือนาง? จื่ออันต้องการที่จะเอ่ยถามออกมา แต่เมื่อเห็นว่านางค่อย ๆ หลับตาลง ในตอนที่อยู่บนเกาะโดดเดี่ยวนั้น หากนางเพียงแค่หลับตาลง ก็หมายความว่าต้องการจะไล่นางออกไป และก็แน่นอนว่า ไท่หวงไท่โฮ่วตรัสออกมาอย่างเรียบเฉย “เจ้าออกไปก่อนเถิด” จื่ออันคิดจะเอ่ยถามนางในภายหลัง เพราะอย่างไรนางก็กลับมาแล้ว ก็คงจะไม่รีบร้อนจากไป ทว่าบ่ายในวันนั้น ก็มีคนมาแจ้งกับมู่หรงเจี๋ยว่า ไท่หวงไท่โฮ่วและป้าอาเฉอจากไปแล้ว จื่ออันรู้สึกผิดหวังขึ้นมา แต่กลับเป็นมู่หรงเจี๋ยที่ไม่ใส่ใจนักเอ่ยออกมา “บรรพชนไปมาไร้ร่องรอย อีกทั้งนางยังเหนื่อยหน่ายกับเรื่องราวภายในเมืองหลวง ข้ารู้ตั้งแต่เนิ่นแล้วว่านางกลับมาก็คงพักอยู่ไม่นาน” ความสงสัยของจื่ออันในเรื่องเหล่านั้น ยังไม่ทันได้รับคำตอบ และแน่นอนว่า
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
5758596061
...
117
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status