All Chapters of ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์: Chapter 101 - Chapter 110

1168 Chapters

บทที่ 101

ฮองเฮามองดูนางด้วยสายตาที่เฉียบแหลม “สองเดือน”นางแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นเขาอาการดีขึ้น เซี่ยจื่ออานกล่าวก่อนหน้านี้ว่าต้องใช้เวลาสามวันกว่าที่อาซินจะผ่านพ้นช่วงอันตรายไปได้ แต่ตอนนี้อาการของอาซินทรงตัวแล้วจื่ออานยิ้มอย่างขมขื่น “ฮองเฮาเพคะ การเจ็บป่วยของท่านอ๋องไม่ใช่แค่วันสองวัน มันไม่ง่ายเลยที่จะรักษากระดูกที่หักให้งอกขึ้นมาใหม่”“สามเดือนต่อจากนี้ ถ้าหากว่าพระอาการของอ๋องเหลียงยังรักษาไม่ได้เล่า เจ้าก็เป็นคนฉลาด คงจะรู้ผลที่จะตามมา” ฮองเฮากล่าวอย่างเย็นชาจื่ออานรู้ได้ในทันทีว่า ถ้ารักษาอ๋องเหลียงไม่หายขาด และนางก็ล่วงรู้ความลับของท่านอ๋อง ฮองเฮาคงจะไม่ปล่อยให้นางอยู่ในโลกนี้เป็นแน่?นางกล่าวว่า “ฮองเฮา สามเดือนถึงครึ่งปี นี่เป็นคำตอบสุดท้ายที่หม่อมฉันจะมอบให้พระองค์ได้เพคะ” ฮองเฮากล่าวอย่างเคร่งขรึม “เซี่ยจื่ออาน การรักษาต้องมีความคืบหน้า เจ้าพูดก่อนหน้านี้ว่าอ๋องเหลียงสามารถผ่านช่วงเวลาที่อันตรายได้หลังจากสามวัน และตอนนี้ก็เพิ่งจะผ่านไปแค่สองวันเท่านั้น”จื่ออานส่ายหัว “ทูลฮองเฮา ครั้งนี้มันต่างออกไป ครานี้ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ เกิดจากอาการป่วยกะทันหัน มันง่ายที่อาการจะ
Read more

บทที่ 102

การเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอ๋องเหลียง “ที่คนนอกพูดกัน มันจะเป็นจริงได้อย่างไร?”จื่ออานนั่งลงวัดชีพจรของท่านอ๋อง ภาวะชีพจรสงบลงมาก และเขาต้องชื่นชมรากฐานความดีของอ๋องเหลียงด้วย“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” อ๋องเหลียงพูดแล้วมองไปรอบ ๆ “ท่านอาไปแล้วหรือ?”“เพิ่งออกไปเพคะ!”อ๋องเหลียงเอื้อมมือออกไปอย่างเกียจคร้าน พับมือลงบนผ้าห่ม จ้องมองที่จื่ออานและถามว่า “เจ้ากำลังจะอภิเษกกับท่านอาแล้ว เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?”จื่ออานส่ายหัว “มิทราบเพคะ หม่อมฉันไม่อยากคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น”อ๋องเหลียงเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็พูดว่า “อภิเษกกับเขาเถิด”จื่ออานแปลกใจเล็กน้อย “หือ?”“เขาคู่ควร” อ๋องเหลียงกล่าวโดยไม่เริ่มต้นและสิ้นสุดก่อนจะหลับตาลงจื่ออานอยากบอกว่านี่ไม่ใช่คำถามว่าคู่ควรหรือเปล่า ถ้าคนสองคนอยากจะอภิเษกกันตลอดชีวิต นอกจากจะดูสภาพภายนอกแล้ว ยังต้องดูว่ามีความรู้สึกต่อกันหรือไม่แน่นอนว่านางรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องบอกอ๋องเหลียงเกี่ยวกับความรัก เขาคงไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงต้องอภิเษกกับเขา?อภิเษกกับตระกูลผู้สูงศักดิ์ มันเป็นลำดับศักดิ์ในวงศ์ตระกูล แต่ก็ไม่ใช่กับคนนี้จื่ออานมึนงง อ
Read more

บทที่ 103

องค์ชายอันพึงพอใจในคำตอบเป็นอย่างมาก จึงหยุดถาม และเดินไปชำเลืองมองที่อ๋องเหลียงเมื่อเขาเดินผ่านจื่ออาน จื่ออานยังคงรู้สึกถึงลมหายใจที่ทรงพลังและน่าดึงดูด ซึ่งคล้ายกับลมหายใจของมู่หรงเจี๋ยมาก แต่ทว่าเขาจะถูกควบคุมมากกว่ามู่หรงเจี๋ยมู่หรงเจี๋ยเป็นคนประเภทที่เปล่งประกายราวกับแสง แม้ในขณะที่นั่งเงียบ ๆ ก็เหมือนถูกครอบงำและน่าเกรงขาม ทำให้ผู้คนไม่อยากเข้าใกล้จื่ออานส่ายหัว ทำไมนางถึงคิดถึงมู่หรงเจี๋ยตลอด?เธอมีความรู้สึกกระสับกระส่ายในหัวใจ จื่ออานพยายามที่จะกำจัดมัน เดินไปและพูดว่า “องค์ชาย ท่านอ๋องมีพระอาการดีขึ้นมากแล้ว”“ข้าดูจากพระพักตร์แล้ว ดีขึ้นมาก” องค์ชายอันตรัสจื่ออานนำภาพวาดจากด้านข้างไปมอบให้กับองค์ชายอัน “ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ ขอให้หม่อมฉันมอบให้พระองค์เพคะ”องค์ชายอันยื่นพระหัตถ์ไปรับโดยไม่แสดงสีหน้าใด พระองค์เพียงตรัสอย่างแผ่วเบาว่า “อืม”จื่ออานไม่ได้เปิดมัน เมื่อเขาเห็น และไม่ได้มอบมันให้องครักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขา เขาแค่ถือมันไว้ในมือของเขาและถามว่า “พระองค์ไม่ดูหรือเพคะ?”แสงที่ส่องลงมาบนใบหน้าของเขา ฉายแววไม่แน่ใจ และเสียงของเขาก็ต่ำลง “ดูแล้ว”
Read more

บทที่ 104

จื่ออานตอบว่า “ขอบพระทัยที่เตือน จื่ออานทราบแล้วเพคะ”พระสนมเหมยพูดว่า “ได้ เช่นนั้นก็ไปเถิด อีกอย่าง ก่อนออกจากวังเจ้าควรจะไปอำลาหวงไท่โฮ่ว ไปอีกสักครั้งเถอะ ถือโอกาสนี้ไปในช่วงที่หวงไท่โฮ่วยังไม่บรรทม”จื่ออานกล่าวว่า “ขอบพระทัยที่เตือนเพคะ”พระสนมเหมยเหลือบมองเธอด้วยรอยยิ้ม และจากไปพร้อมกับนางในจื่ออานมองไปที่ด้านหลังของนาง นางหันกลับมาเงียบ ๆ และเข้าไปในห้องโถงเธอพูดกับแม่นมหยางว่า “แม่นมหยาง ท่านเก็บข้าวของของท่านก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าจะไปบอกลาหวงไท่โฮ่วก่อน”แม่นมหยางกล่าวว่า “เจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ไปเถอะ นี่คือสิ่งที่ควรทำ ยังจำทางนั้นได้หรือไม่? หรือว่าต้องการให้ทาสรับใช้ไปส่งท่านหรือไม่?”จื่ออานกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้าจำทางได้”แม่นมหยางพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณหนูใหญ่เคยไปแค่ครั้งเดียว จำได้หรือ?”จื่ออานมีความทรงจำที่ดีเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทีมหน่วยสืบราชการลับพิเศษที่อ่อนไหวต่อเส้นทางใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีในการเดินจากวังฉางเชิงไปยังวังโช่วอันของหวงไท่โฮ่วเดินทะลุผ่านทางระเบียง และผ่านแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ของประตูวังซีเหวยวังซีเหวยเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิกำลังพัก
Read more

บทที่ 105

เธอมั่นใจได้เลยว่าต้องมีบางสิ่งในห้องโถงที่คนนอกไม่รู้ องครักษ์บอกว่ากำลังดักฟังอยู่นอกประตู และพระสนมอี๋ก็โกรธมากจื่ออานไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในวัง ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปองครักษ์มาถึง มีคนหลายคนจับเธอลง ผลักเธอเข้าไปในห้องโถงด้านข้าง และปิดประตูขังไว้ในห้องโถงจื่ออานสามารถมองเห็นผ่านรอยแตกที่ประตู ทหารในวังกำลังเฝ้าอยู่ด้านนอก มีร่างหนึ่งจากไปอย่างรวดเร็ว บุคคลนี้ไม่ได้พานางรับใช้มาด้วยจื่ออานจำด้านหลังนี้ได้ดี คือองค์ชายมู่หรงเฉียวหัวใจของจื่ออานจมลง เป็นไปได้ไหมที่มีบางสิ่งที่ไม่อาจบรรยายได้ระหว่างพระสนมอี๋และองค์ชาย?ถ้าเป็นเช่นนั้น พระสนมอี๋จะไม่ยอมให้เธอเดินออกจากประตูนี้แม้เพียงครึ่งก้าวไม่นานนัก ประตูห้องก็เปิดออกการแสดงออกของจื่ออานเปลี่ยนไป ถอยกลับไปด้านข้างและตั้งเนื้อตั้งตัวห้อยมือลงมีหญิงสาวในชุดหรูเดินเข้ามา ผมของเธอถูกม้วนขึ้นตามอำเภอใจ แล้วก็หวีเป็นมวยผมที่เรียบง่ายแต่อ่อนล้า ปิ่นปักผมเอียงและจอนผมของเธอก็หลวมเล็กน้อยเธอมีผิวแดง หน้าแดง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโกรธหรือเหตุผลอื่น เธอจึงก้าวไปข้างหน้า นั่งบนเก้าอี้ มองดูจื่ออานด้วยดวงตา
Read more

บทที่ 106

จื่ออานแสร้งทำเป็นตื่นตระหนกรีบก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมุนแหวนแห่งจิตวิญญาณปลดปล่อยพลังจากแหวนเพื่อให้ไปรบกวนคลื่นสมองของพระสนมอี๋ ทำให้พระสนมเดินไปตามความคิดของนางการรบกวนแบบนี้ไม่ใช่การสะกดจิต แต่ผลที่ได้ก็คล้ายกับการสะกดจิต ด้วยระยะห่างที่ใกล้กันแบบนี้ จื่ออานน่าจะสะกดจิตพระนางได้ ทว่าในพระตำหนักยังมีคนอื่นอยู่อีก หากพระสนมถูกสะกด คนอื่นจะมองเห็นได้ง่าย ทำได้เพียงรบกวนคลื่นสมองเพื่อควบคุมการเดินเท่านั้นเพียงแต่ผลจากการรบกวนคลื่นสมองอยู่ได้มากสุดก็แค่สิบห้านาที หลังจากสิบห้านาทีผ่านไปแล้ว ผลนั้นก็จะหายไปดังนั้นก่อนที่พระสนมจะหลุดจากภวังค์ นางจะต้องออกจากพระตำหนักอี๋หลานให้ได้ซะก่อนก่อนหน้านี้ที่พระสนมอี๋กำลังดุด่า นางก็หยุดเดิน หน้ามืดหายใจหอบ "นึกไม่ถึงเลยว่าพระสนมจะรับรู้เรื่องอื้อฉาวพวกนี้แล้ว หม่อมฉันชอบเขาจะมีประโยชน์อันใด? หากเขาไม่ได้ชอบหม่อมเลยสักนิดเดียว ในใจของเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ไม่มีวันจะมาชายตามองหม่อมฉันหรอกเพคะ"พระสนมอี๋ที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ รูม่านตาก็หดตัวลง รูจมูกก็ขยายออกเล็กน้อย ยกมุมปากขึ้น "ฝ่าบาทมีนางในดวงใจแล้ว? ใครกัน? ข้าล่ะสงสัยจริง ๆ"จื่ออาน
Read more

บทที่ 107

จื่ออานต้องการที่จะออกไปให้เร็วที่สุด เมื่อออกจากพระตำหนักอี๋หลานได้ นางก็จะปลอดภัยแล้วอย่างไรก็ตามนางยังต้องแน่ใจว่าตนเองจะสามารถออกจากเขตพระหนักอี๋หลานได้อย่างปลอดภัย เพราะเมื่อนางจากไป แหวนแห่งจิตวิญญาณปล่อยพลังงานไฟฟ้าออกมาก็จะไม่สามารถรบกวนคลื่นสมองของพระสนมอี๋ได้อีกต่อไป พระนางจะต้องรู้สึกตัวขึ้นมาแน่ และจะส่งคนมาดักฆ่านางพระตำหนักเยว่ชิงประตูพระตำหนักปิดอยู่ พระสนมเหมยนั่งอยู่ในพระตำหนัก เซี่ยหลินก็นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในนั้น ชายสวมชุดดำคนหนึ่งที่ใบหน้าปกคลุมไปด้วยหนวดเคราเขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพระสนมเหมยบนโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าพวกเขาต่างมีถ้วยชาวางไว้หนึ่งใบ มันยังกรุ่น ๆอยู่ แสดงให้รู้ว่าคนที่มาเพิ่งจะนั่งลงไปได้ไม่นาน"ข้าไม่รู้จะทำยังไงแล้วก็เลยให้นางไปพระตำหนักอี๋หลาน ตามนิสัยของพระสนมอี๋แล้วจะต้องไม่ให้นางออกมาจากพระหนักอย่างปลอดภัยโดยเด็ดขาด" พระสนมเหมยกล่าวอย่างจริงจัง"พระนางมีความมั่นใจหรือ?" ชายที่มีเคราถามพระสนมเหมยยิ้มเย้ยหยัน "น้องชาย พระตำหนักคือที่ของข้า หากเพียงคน ๆ เดียวข้ายังไม่สามารถฆ่าได้ แล้วจะรักษาตำแหน่งพระสนมเหมยมาได้ตั้งหลายปีได้อย่างไร?""กระหม่
Read more

บทที่ 108

"อะไรนะ?" พระสนมเหมยกัดฟันแล้วมองไปที่เขา "เจ้าเสียสติไปแล้วเหรอ จะให้คนของข้าลงมือ?”มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าว "พระสนม เซี่ยจื่ออานจะต้องรู้ว่าตนเองติดกับดักเข้าให้แล้ว นางจะต้องสงสัยท่าน หากนางไปเข้าเฝ้าหวงไท่โฮ่ว กล่าวถึงเรื่องของวันนี้ ถึงแม้ว่าหวงไท่โฮ่วจะไม่เชื่อนางทั้งหมด แต่ก็ต้องถามความคิดเห็นของท่านบ้างอย่างแน่นอน"พระสนมเหมยกล่าวอย่างโกรธเคือง "เซี่ยหวายจุน ข้าไม่น่าช่วยเจ้าเลย""พระนางไม่ได้ช่วยกระหม่อม พวกเราก็แค่ร่วมมือกันเพื่อผลโยชน์ของตนเอง" มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวอย่างมีเลศนัยพระสนมเหมยมองไปที่ใบหน้าที่แลเยือกเย็นดุจน้ำแข็งของเขา แล้วก็โมโหมาก"เจ้านี่ช่างไร้ยางอายได้ถึงขีดสุดจริง ๆ"มหาเสนาบดีเซี่ยเมินเฉยต่อการดูหมิ่นของพระสนมเหมยอย่างสิ้นเชิง กล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว "ยังต้องให้พระนางรีบส่งคนไปดักฆ่าเซี่ยจื่ออาน นังเด็กนอกคอกนั่น เพื่อตัวพระนางเอง และก็เพื่อกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ"พระสนมเหมยมองไปที่องครักษ์ "อาฟา เจ้าพูดซิ"องครักษ์อาฟาเป็นคนที่นางไว้วางใจได้ อาฟาเป็นพี่น้องกับต้าฉวนที่อยู่ในพระตำหนักของพระสนมอี๋ ดังนั้นพระสนมเหมยจึงสามารถติดสินบนต้าฉวนได้อย่างง่ายดา
Read more

บทที่ 109

มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวอย่างรำคาญ “เขาน่ะเหรอ กระหม่อมเอง ก็ไม่ได้สนใจอีกแล้วว่าจะมีหรือไม่มีลูกคนนี้"พระสนมเหมยส่ายหัวแล้วกล่าว “เจ้านี่มันฟั่นเฟือนไปแล้วจริง ๆ เจ้ามีเขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว เขาจะโง่เขลาขนาดไหน ยังไงก็เป็น บุตรของเจ้าอยู่ดี”มหาเสนาบดีเซี่ยยิ้มเย้ยหยัน “เช่นนั้นเหรอ? เขาเป็นบุตรชายของกระหม่อม แต่เขาจะไม่ใช่บุตรคนสุดท้าย”เขานั่งลง ถือถ้วยน้ำชาลายครามสีขาวไว้ในมือ ตั้งแต่ที่เขากัดฟันจนเปลี่ยนเป็นท่าทางที่เมินเฉยเขาก็ยังนั่งที่เดิมอยู่อย่างนั้นด้วยใบหน้าที่มืดมนพระสนมเหมยรู้สึกว่าเมื่อมองไปที่ใบหน้าของเขา มันมีความน่ากลัวบางอย่างที่กล่าวออกมาเป็นคำพูดไม่ได้แตกต่างจากตัวเขาในตอนก่อนหน้านี้เป็นอย่างมากราวกับว่าเขากำลังวางแผนบางอย่างในใจ และไม่รู้สึกเสียดายแผนการทั้งหมดที่ได้วางไว้ในขณะเดียวกัน หลังจากที่จื่ออานออกจากพระตำหนักอี๋หลานแล้ว นางก็รีบเดินไปที่ริมทะเลสาบนางเดินเร็วมาก องครักษ์ต้าฉวนก็ตามนางไปอย่างรวดเร็วเช่นกันเมื่อเขาพบว่านางไม่ได้ไปที่พระตำหนักเยว่ชิง เขาเรียกให้จื่ออานหยุด "ช้าก่อน เจ้าจะไปพระหนักเยว่ชิงมิใช่หรือ?"จื่ออานไม่ได้หยุดเดิน ที่นี่ย
Read more

บทที่ 110

อาฟาเห็นต้าฉวนติดตามนางไปตามริมแนวทะเลสาบ เขาก็ติดตามไปเช่นกันบริเวณนี้มีร่มเงาของต้นไม้ที่เจริญงอกงามกลายเป็นป่า ซึ่งมันก็เป็นโล่กำบังอย่างดี เพื่อไม่ให้ทางด้านของพระตำหนักซีเหวยรู้เรื่อง พวกเขาจึงต้องหลบซ่อนอย่างระมัดระวังเดินไปรอบ ๆ และข้ามไปฝั่งตรงข้ามที่นี่เป็นพระตำหนักที่ถูกทิ้งร้างไว้ แทบไม่มีคนเข้าออก มีแต่ข้าหลวงในวังเข้ามาทำความสะอาดทุกเดือน แต่เนื่องจากไม่มีคนอาศัยอยู่ คนทำความสะอาดจึงมาแค่เดือนละครั้งเท่านั้นอาฟาสังเกตว่าที่ในพุ่มดอกโบตั๋นมีเงาคนเคลื่อนไหวลื่อนไหวอยู่ เขาไม่คิดอะไรเลย หยิบคันธนูและลูกธนูที่อยู่ด้านหลังออกมา เขาหมอบลงแล้ว ง้างคันธนู ยิงลูกธนูออกไปหัวลูกธนูตัดผ่านอากาศพุ่งตรงไปที่พุ่มดอกไม้นั้นได้ยินเพียงเสียงโลหะที่ปักลงในผิวหนังเท่านั้น และมีคนล้มลงไปที่พื้นดังตุบอาฟาเดินไปตรงนั้น เห็นเพียงคน ๆนึงในพุ่มดอกไม้นอนจมกองเลือดอยู่ อาฟาพลิกตัวเขาขึ้นมา เมื่อเห็นใบหน้าแล้ว อาฟาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ที่แท้เขาก็คือเซี่ยหลินบุตรชายคนเดียวของท่านมหาเสนาบดีเซี่ยเซี่ยหลินกระตุกไปทั้งตัว เลือดไหลทะลักออกจากหน้าอก ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด
Read more
PREV
1
...
910111213
...
117
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status