All Chapters of ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์: Chapter 121 - Chapter 130

1168 Chapters

บทที่ 121

เพราะฉะนั้น มู่หรงจ้วงจ้วงนางนี้ แม้แต่หวงไท่โฮ่วองค์ปัจจุบัน ก็ต้องเห็นแก่หน้านางสักหน่อย เพราะจักรพรรดิองค์ก่อน เอาแต่ดูแลประคบประหงมน้องสาวคนเล็กสุดราวกับเด็กแรกเกิดและยิ่งไปกว่านั้น องค์หญิงนางนี้ก็ยังได้รับการสถาปนาเป็นองค์หญิงแห่งเจิ้นกั๋ว และองค์หญิงแห่งเจิ้นกั๋วก็มีอำนาจอยู่เหนือฮองเฮา และยังอยู่ในชนชั้นบรรดาศักดิ์เดียวกันกับหวงไท่โฮ่วอีกด้วย และที่รู้ ๆ กัน นางเป็นตำนานคนหนึ่งเลยเป็นตำนานที่สุด เพราะไม่มีผู้ใดที่เกินกว่านางอีกแล้ว อายุยี่สิบกว่าปี แต่ก็ยังไม่ยอมอภิเษกเสียทีหวงไท่โฮ่เองก็ใจสลายเรื่องงานอภิเษกสมรสของนางเช่นกันมู่หรงจ้วงจ้วงดึงจื่ออานให้นั่งลง และถามเธอด้วยความสนใจ “เจ้าไม่ชอบอาซินใช่หรือไม่? เรื่องไม่ชอบเขานั้นไม่สำคัญหรอก ตระกูลมู่หรงของเรามีชายที่โดดเด่นอยู่มาก หากเจ้าถูกใจใครข้าจะช่วยตัดสินใจ”จื่ออานเขยิบตัวเข้ามาข้างในเล็กน้อย นี่นางกำลังขายสินค้าที่ขายไม่ออกหรือไง?“จื่ออานหยุดชั่วคราว…”เธอยังพูดไม่ทันจบ มู่หรงจ้วงจ้วงก็ขึ้นมาเหยียบบนเก้าอี้ของเธอ เหยียดตัวตรง นัยน์ตาสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น “เจ้าคิดว่าอาจื่อเป็นไง”จื่ออานไม่มีคำพูดใด ๆ อาจื
Read more

บทที่ 122

เมื่อมาถึงลานอิสระแห่งหนึ่งภายในตำหนัก ภายในสวนจุดโคมไฟหยางเจี่ยว หน้าประตูมีทหารกว่าสิบนายถือดาบอันยาวคอยคุ้มกันอยู่ เมื่อลมพัดโชยมา มีกลิ่นคาวเลือดก็ฟุ้งกระจายในอากาศอย่างรุนแรง เมื่อประตูทางเข้าเปิดออก มีคนถือน้ำออกมา จื่ออานเห็นว่าในอ่างน้ำนั้นแดงไปหมด และส่งกลิ่นคาวเลือดแรงมากองค์ชายอานและจื่ออานรีบเดินเข้าไปข้างใน แต่กลับพบว่าภายในห้องโถงมีศพวางเรียงรายกันอยู่จำนวนหนึ่งโดยมีผ้าสีขาวคลุมเอาไว้ และบนผ้าสีขาวนั้นก็เปื้อนคราบเลือดเดินเข้าไปห้องชั้นในอีกหน่อย ภายในห้องมีเตียงชั่วคราววางเรียงกันอยู่ แต่ละเตียงมีคนบาดเจ็บนอนอยู่ หนึ่งในนั้นคือ หนี่หรงมีหมอหลวงกว่าสิบคนกำลังวิ่งวุ่น พวกเขาสวมชุดเครื่องแบบ คาดว่าคงจะเป็นหมอจากสำนักฮุ้ยหมินจื่ออานตกใจมาก ตกลงว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ภัยพิบัติใหญ่หรือ? ทำไมผู้คนถึงถูกส่งกลับมาที่นี่กันหมด?ม่านถูกเปิดออก ชายร่างสูงสวมชุดเครื่องแบบทหารสีดำเดินออกมา เมื่อเห็นองค์ชายอานมาถึง เขาก็เลิกคิ้วขึ้นและถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ท่านอ๋องมาแล้ว พาหมอเซี่ยมาหรือยังพ่ะย่ะค่ะ?”องค์ชายอานดันตัวจื่ออานออกมา เขาจึงถาม “ซูชิง เขาเป็นยังไงบ้าง
Read more

บทที่ 123

จื่ออานขณะช่วยชีวิต พลางหันไปสั่งหมอหลวง “รีบไปเตรียมยาขาว เทลงไปก่อน แล้วค่อยเตรียมกุยลู่ทัง เพื่อใช้สำหรับผลิตเลือด เพิ่มตี้หวางทังเข้าไป จากนั้นผสมให้เข้ากันแล้วเอามาให้ข้า”หมอหลวงลังเลครู่หนึ่ง แล้วกล่าว “เกรงว่าจะไม่มีประโยชน์แล้ว”“รีบไป!” จื่ออานตะโกนใส่เขาด้วยโทนเสียงที่เปลี่ยนไป เธอไม่สามารถปล่อยให้มู่หรงเจี๋ยตายได้ มู่หรงเจี๋ยเป็นที่พึ่งเดียวของเธอ อย่างน้อยตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นองค์ชายอานคว้าคอเสื้อของหมอหลวงคนนั้นเอาไว้แน่น “ทำตามคำสั่งของนาง”“พ่ะย่ะค่ะ พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงรีบไปทันทีมู่หรงจ้วงจ้วงเห็นว่าจื่ออานไม่กลัวเลือดและบาดแผล นางค่อย ๆ จัดการไปตามขั้นตอน และยังสามารถออกคำสั่งให้หมอหลวงทำอะไรได้เป็นขั้นเป็นตอน เมื่อเห็นใบหน้าที่หนักแน่นและเด็ดเดี่ยวของนาง ไม่รู้เพราะอะไร อยู่ ๆ ในใจก็เกิดเบาใจขึ้นมาดินปืนที่ซูชิงหามาได้มีไม่มาก ทั้งหมดล้วนเอามาจากประทัดทั้งนั้นจื่ออานนำดินปืนมาวางไว้บนบาดแผลที่เป็นพิษ จากนั้นนำไฟมาลน และหลังจากที่เปลวไฟดับไป เลือดตรงบาดแผลก็ไม่มีแล้ว ซูชิงเข้าใจและปิดปากของตนไปในทันที แบบนี้พิษที่อยู่บนบาดแผลของผิวชั้นนอกก็ไม่มีทางไหลเข้าไปได
Read more

บทที่ 124

ทุกคนเห็นว่าเธอพันแผลเล็ก ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็วางมือ หมอหลวงจึงถามว่า “แล้วบาดแผลที่เหลือไม่พันแล้วหรือ?”จื่ออานส่ายหน้า “บาดแผลใหญ่ ๆ พวกนี้ต้องรอสักครู่หนึ่ง ข้าต้องเย็บสักหน่อย”หมอหลวงคิดว่าตนฟังผิดไป “อะไรนะ? เย็บสักหน่อย? จะเย็บอะไร?”จื่ออานกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะใช้ด้ายอะไร จึงไม่ได้ตอบเขากลับไป หากเป็นเส้นด้ายธรรมดา คงจะไม่มีความเหนียวแน่พอในการเย็บบาดแผลเธอคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก็เงยหน้าขึ้นตั้งใจว่าจะถามองค์ชายอาน แต่กลับเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เธออย่างงง ๆ ราวกับว่ากำลังรอคำตอบของเธออยู่ เธอถึงจะเพิ่งนึกคำถามที่หมอหลวงถามขึ้นมาได้ จึงอธิบายไปว่า “ข้อดีของการเย็บคือช่วยให้บาดแผลสมานกันเร็วขึ้น และป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกมา อีกทั้งยังลดโอกาสการติดเชื้อไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น บาดแผลหนึ่งบาดแผล หากไม่มีการเย็บแผล เวลาในการสมานแผลของมันคือสิบวัน แต่หากได้เย็บแผลมันจะใช้เวลาเพียงแค่สี่วันเท่านั้น มันจะช่วยเพิ่มความสามารถในการสมานแผลได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ และยังหลีกเลี่ยงไม่ให้บาดแผลเพิ่มระดับการฉีกออกอีกด้วย…”เธอหยุดไปครู่หนึ่ง ต่อให้มีการเย็บแผลแผลก็มีโอกาสฉีกออกได้ เ
Read more

บทที่ 125

ณ เวลานี้ มีผู้มาเยือนคนหนึ่ง แต่งกายด้วยชุดหมังผาวสีดำ ทรงมงกุฎ คาดเอวด้วยเข็มขัดหยก บนหน้าผากมีรอยแผลเป็นลากยาวไปจนถึงกลางคิ้วข้างซ้าย ใบหน้าน่ารักที่ดูเด็ดเดี่ยว นัยน์ตามราวกับประกายไฟหลังจากที่เขาและองค์ชายอานผลัดเปลี่ยนกันส่งสายตาให้แล้ว เขาก็ยืนอยู่ข้าง ๆ จื่ออานไม่ทันสังเกตว่าเขานั้นใจจดใจจ่ออยู่กับการเย็บด้ายทีละเส้นทีละเส้นบนร่างกายของมู่หรงเจี๋ยหัวของเธอนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ มู่หรงจ้วงจ้วงจึงซับออกให้เธอ ราวกับว่าเป็นภรรยาคนหนึ่งที่คอยดูแลอยู่ข้าง ๆการเย็บแผลต่อเนื่องกันเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม ไม่ว่าจะมีฝีมือชำนาญมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถต้านทานความล้าหลังของเครื่องมือได้เมื่อจื่ออานยืนขึ้น ร่างกายก็ไม่สามารถประคองตัวได้ ตรงหน้ามืดสนิท จนแทบจะเป็นลมล้มพับไปกับพื้นคนที่เพิ่งมายื่นมือออกมาพยุงตัวจื่ออานเอาไว้ และกล่าวเรียบ ๆ “ระวังหน่อย”จื่ออานเย็บแผลจนมือทั้งสองข้างนั้นสั่นไปหมด พอวางไว้บนข้อมือของเขาคนนั้น ก็หยุดสั่นไม่ได้ใบหน้าของเธอนั้นเป็นประเภทที่ว่าหมองมัวและซีดขาว เมื่อเหลือบมองเขา ก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าการที่ชายหญิงถูกเนื้อต้องตัวกันเป็นเรื่องที่ไม่ดี เธอจึงรีบปล
Read more

บทที่ 126

เซียวท่ากล่าวอย่างเย็นชาว่า “มีหนอนบ่อนไส้”องค์ชายอานตกใจ “หนอนบ่อนไส้หรือ?”“ถ้าไม่มีหนอนบ่อนไส้แล้วจะค้นพบการกระทำนี้ได้อย่างไร? การกระทำนี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ นอกจากมีคนนอกไม่กี่คน ก็ยังไม่มีใครรู้”“เจ้าหมายถึง” องค์ชายอานลดเสียงลง “ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บข้างนอกนั้น มีใครเป็นหนอนบ่อนไส้หรือไม่”“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ หนอนบ่อนไส้ตายแล้ว” ดวงตาของเซียวท่าเย็นชา “หม่อมฉันทรงตรวจสอบร่างของผู้ตายแล้ว หนึ่งในนั้นมีรอยสักชื่อที่ฝ่าเท้า ซึ่งเหมือนกับรอยสักชื่อเหลียงจื่อของศัตรูที่เราพบในเหมียวซาน”เมื่อได้ยินเช่นนี้ จื่ออานก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่เซียวท่าด้วยความประหลาดใจ เหลียงจื่อ? หรือจะเป็นคนของอ๋องเหลียง? แต่อ๋องเหลียงยังคงประชวรอยู่ มู่หรงเจี๋ยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอ๋องเหลียง เหตุใดอ๋องเหลียงจึงคิดจะฆ่ามู่หรงเจี๋ยองค์ชายอานพูดว่า “ตายแล้ว ก็ไม่มีทางสืบสาวเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างนั้นสินะ” “คราวนี้พวกเขาทำให้คนของเราพ่ายแพ้ ยังทำให้องค์ชายบาดเจ็บ อีกทั้งยังฆ่าปิดปากหนอนบ่อนไส้อีก” เซียวท่ากล่าวองค์ชายอานไม่พูด ขมวดคิ้วและมองมู่หรงเจี๋ยอย่างกังวลใจมู่หรงจ้วงจ้วงปกป้องมู่หรงเจี๋
Read more

บทที่ 127

เมื่อเซียวท่าเห็นว่าเธอไม่ได้พูดอะไร อีกทั้งยังคงนิ่งเฉย ความกังวลใจรวมกับความกระวนกระวายใจ และยังรวมกับความไม่ไว้วางใจ เมินเฉยต่อการปรากฏตัวขององค์ชายอานที่อยู่ ณ ที่นั่น ก้าวขึ้นไปจับไหล่ของจื่ออาน แล้วส่ายหน้าอย่างโกรธเคือง “เจ้าพูดออกมาสิ เขาเป็นอย่างไรบ้าง?” เขาเป็นนายทหาร พละกำลังของเขาจะแตกต่างจากคนทั่วไป จื่ออานเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ ถูกเขาดุด่าอย่างนี้ สายตาเหมือนกับถูกท้องฟ้าที่ปั่นป่วน โลกที่แปรปรวน ทำให้เป็นลมเซียวท่าตกใจ รีบกอดเธอไว้อย่างรวดเร็วองค์ชายอานก้าวไปข้างหน้า พูดอย่างไม่พอใจว่า “เซียวท่า เจ้านำตัวนางออกมาทำไม? ถ้านางมีวิธี จะนั่งนิ่ง ๆ ได้อย่างไร? นางก็ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว”เมื่อมู่หรงจ้วงจ้วงเห็นความตื่นเต้นของเซียวท่าที่ทำให้จื่ออานเป็นลม และโกรธ เขาผลักเซียวท่าออกเล็กน้อย “เจ้านี่มันบุ่มบ่าม เจ้ามีฝีมือในการดูแลตัวเอง เป็นผู้ชายแบบไหนกันที่มารังแกผู้หญิง?”เธอคว้าตัวจื่ออานกลับมาจากอ้อมแขนของเซียวท่า ต้องการที่กอดกลับไป แต่เธอไม่มีกำลังพอที่จะ “ปัง” มีเสียงดังขึ้น จื่ออานก็ล้มลงกับพื้น ใบหน้าของเธอก็คลายความโกรธ และก็พูดว่า “หรือว่าพวกเจ้าจะกอดไว
Read more

บทที่ 128

เขาเหลือบมองจื่ออานอย่างเย็นชา “เอาเถอะ ข้าไปจะดูให้ เจ้ายังต้องการอะไรอีก? หรือว่าอยากกินอะไรสักหน่อยไหม?”จื่ออานหิวแล้ว ตอนเย็นก็ยังไม่ได้กินอะไรเข้าไป จนถึงตอนนี้ เมื่อก่อนต่อให้งานจะยุ่งขนาดไหน เขาล้วนต้องมีอะไรกิน แต่ตอนนี้รู้ชัดเจนแล้วว่าตัวเองต้องการใช้พละกำลัง การอยากอาหารกลับไม่มีเลยสักนิด“เตรียมมาให้นางสักหน่อยเถอะ” มู่หรงจ้วงจ้วงพูดกับข้ารับใช้ข้ารับใช้ตอบรับแล้วออกไปอาหารมาพร้อมแล้ว จื่ออานมองไปที่อาหารที่ค่อนข้างหลากหลายและหรูหรา เธอจำขึ้นมาได้ว่าในช่วงสองสามวันในสมัยก่อน เวลารับประทานอาหารของเธออยู่ที่หน้าเตียงของโรงพยาบาล เธอแทบจะไม่ได้กินอาหารตามปกติเลย“กินสิ หรือว่ายังไม่ถูกใจเหรอ?” เซียวท่ามองไปที่จื่ออาน เหล้าขาวก็เอามาให้แล้ว จื่ออานหยิบทรัพย์สมบัติออกมาแล้วเดินไปที่ด้านหน้าของเทียน วางเข็มยาวเผาบนเปลวไฟ แล้วจุ่มลงในเหล้าขาวเธอนั่งลงและหยิบซาลาเปานึ่งขึ้นมากัดทีละคำ และพยายามกลืนมันลงไปกินหมดไปหนึ่งลูก แล้วกินอีกลูก เหมือนกับการทำภารกิจ หลังจากกินซาลาเปาสามลูกในชามหมดแล้ว กับข้าวในจานก็ไม่แตะเลยน้ำในบ่อวางอยู่บนอ่างล้างหน้า เธอเดินผ่านไป จุ่มมือลงใ
Read more

บทที่ 129

ก่อนที่จะใช้เข็มแทงเข้าไป เธอเริ่มต้นจุดฝังเข็มที่เฟิงเหมินก่อน เฟ่ยซู่ ต้าฉุย และถาวต้าว ทั้งหมดนี้เพื่อกระตุ้นจุดสำคัญหลายประการที่ด้านหลังการใช้เข็มแทงเข้าไปที่ไขกระดูก ใช้แค่เข็มที่บอบบางไม่ได้ ยังโชคดีที่เธอไม่ต้องดึงไขกระดูกออก เพียงแค่ทำการกระตุ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพึ่งพาพลังไฟฟ้าจากแหวนแห่งจิตวิญญาณ เพื่อนำทางจากเข็มเธอสามารถเปลี่ยนไฟฟ้าให้เป็นไฟฟ้าชีวภาพได้โดยการควบคุมปุ่มแหวนแห่งจิตวิญญาณ จุดฝังเข็มไฟฟ้าสามารถส่งเสริมการเผาผลาญ และเร่งการสร้างใหม่เซลล์ได้แต่ผลลัพธ์นี้ไม่สามารถเทียบกับการถ่ายเลือดได้เลยสิ่งเดียวที่เธอสามารถพึ่งพาได้ในตอนนี้ได้นั้น คือความมุ่งมั่นของเธอเองเมื่อก่อนทำงานเป็นแพทย์ทหารในหน่วยสืบราชการลับ มีคนคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่ป่าฝนเขตร้อนและเสียเลือดมาก เธอไม่สามารถพาไปรักษาที่โรงพยาบาลได้ เธอมีเพียงยาปฏิชีวนะที่เหลืออยู่ในกล่องยา เธอจึงใช้สิ่งนี้ แต่แล้วก็ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตแต่ด้วยจิตใจอันแน่วแน่ที่แข็งแกร่งของเธอ ทำให้เขารอดมาได้อย่างเฉียบพลัน สิ่งที่ยากที่สุดคือไม่มีโรคที่ตกค้างอยู่เธอจำชื่อคนนั้นได้ดี เขาชื่อหูจิ่นหมิง คนนี้ไม่ได้ทำง
Read more

บทที่ 130

จื่ออานค้นพบว่าผงโสมที่อยู่บนนิ้วมือของเขา ทำให้เธอมีความรู้สึกเหมือนภาพลวงตา เขาใช้นิ้วมือบดโสมให้เป็นผงหลังจากที่เทผงโสมผสมกับน้ำแล้ว จากนั้นให้ดื่มลงไปหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนสุดท้ายนี้แล้ว จื่ออานก็มองไปที่ทุกคน “ข้าได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว ตอนนี้ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับจิตใจของเขาเอง”คำพูดนี้ทำให้ทุกคนหวาดหวั่นหมอจากสำนักฮุ้ยหมินก้าวไปข้างหน้าจับชีพจร หลังจากเสร็จสิ้น เขาก็ถอนหายใจอย่างหนัก “สถานการณ์ยังไม่ดี สัญญาณชีพจรเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ แล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ มู่หรงจ้วงจ้วงแอบหันไปเช็ดน้ำตาองค์ชายอานและเซียวท่ามีหน้าตาที่ดูวิตก ซูชิงกระทืบเท้าด้วยความโกรธ และพูดอย่างดุเดือดว่า “ถ้าท่านอ๋องเป็นอะไรไป ข้าซูชิงจะต่อสู้ให้ถึงชีวิต และข้าก็จะทำให้คนปลิ้นปล้อนกลับกลอกนี้ตาย”เซียวท่ากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ซูชิง ได้โปรดสงบลงก่อนเถิด”ซูชิงพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่มีทางที่จะสงบลงได้หรอก นี่มันเป็นเกมตั้งแต่ต้นจนจบ ทำไมพวกเราถึงยังมองไม่ออกกันอีก มันคงจะดูโง่มากเลยสินะ?”องค์ชายอานพูดอย่างเฉยเมยว่า “พูดตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เจ้าควรออกไปสงบอารมณ์ก่อน เพื่อไ
Read more
PREV
1
...
1112131415
...
117
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status