บททั้งหมดของ ใต้หล้าสยบรัก: บทที่ 551 - บทที่ 560

1015

บทที่ 551

วันรุ่งขึ้นนางตื่นแต่เช้าตรู่ นางให้บ่าวแต่งตัวให้อย่างพิถีพิถันแล้วเดินออกไปอย่างคึกคักกระชับกระแชงพอมาถึงหน้าประตูจวนจึงพบว่าอ๋องฉีก็ออกมาแล้วอ๋องฉีเห็นท่าทางที่กำลังดีอกดีใจเช่นนั้นของนาง ก็อดถามไม่ได้ว่า "จะไปที่ใดกัน?"หยวนหย่งอี้หน้าตาเต็มไปด้วยแววตาความตื่นเต้น "เข้าวังเพคะ""เข้าวัง?" อ๋องฉีขมวดคิ้ว "นี่ก็ไม่ได้เป็นวันอะไรแล้วเจ้าจะเข้าวังไปทำอะไร? ใครเรียกเข้าเฝ้ารึ? เจ้าไปได้หรือไม่?"หยวนหย่งอี้ลดเสียงให้ลง แต่กลับไม่อาจระงับรอยยิ้มที่เหม่อลอยนั้นได้ "พระชายาฉู่บอกให้ข้าไปเป็นเพื่อนนาง นางเชิญข้าไปด้วย สวรรค์เถอะ ข้าดีใจจะแย่แล้ว นี่ก็ไม่ได้นอนทั้งคืน"อ๋องฉียังคงขมวดคิ้ว "มีอะไรน่ายินดีกัน? ถ้าเจ้าต้องการเข้าวัง ข้าเองก็ไปกับเจ้าได้""เข้าวังมีอะไรน่ายินดีกัน?" หยวนหย่งอี้หมุนตัวเดินจากไปอ๋องฉีรู้สึกว่านางไร้เหตุผลจริง ๆ "เข้าวังไม่มีอะไรน่ายินดี แล้วเช่นนั้นเหตุใดนางถึงมีความสุขเล่า?"ต้าอันองครักษ์คนสนิทที่อยู่ด้านข้างยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น "ท่านอ๋อง พระชายารองหยวนดีใจมากไม่ใช่เพราะได้เข้าวัง แต่เป็นเพราะพระชายาฉู่เชื้อเชิญนางพ่ะย่ะค่ะ"อ๋องฉีเอ่ย "เช่นนั้นข้าก็สาม
Read More

บทที่ 552

หยวนชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะเปิดโปง "พวกเขากำลังดื่มเหล้ากันอยู่ในนั้น" ฉางกงกงกล่าวขึ้นอย่างจริงจังว่า "มันเป็นเรื่องที่สำคัญจริง ๆ พระชายาโปรดเสด็จไปเข้าเฝ้าไทเฮาก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ" หยวนชิงหลิงรู้ว่าการดื่มนั้นไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรแต่ประตูใหญ่ปิดอยู่ นางจึงไม่สามารถเข้าไปได้จึงได้แต่กล่าว "เช่นนั้น ท่านไปทูลเสด็จปู่ว่าข้ามีเรื่องสำคัญที่จะกราบทูล ข้าจะไปเข้าเฝ้าไทเฮาแล้วจะรีบกลับมาทันที ขอให้ท่านผู้เฒ่าทั้งหลายอนุญาตให้ข้าเข้าไป" ฉางกงกงยิ้มและกล่าวว่า "พ่ะย่ะค่ะ! พระชายาท่านเสด็จไปก่อนเถอะวันนี้ไท่ซ่างหวงมีความสุขโปรดให้เขามีความสุขอีกสักครู่"หยวนชิงหลิงพยักหน้า แน่นอนว่าอีกสักครู่เรื่องที่เธอต้องการจะพูดจะต้องทำให้ไท่ซ่างหวงไม่พอใจเป็นแน่ ดังนั้นก็ให้พวกเขาดื่มให้มากอีกสักครู่เถอะเมื่อมาถึงที่ไทเฮาก็พบว่าเต๋อเฟยก็อยู่ที่นี่พอดี ไทเฮารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง นางดึงหยวนชิงหลิงเข้ามาสังเกตอย่างละเอียด ส่วนใหญ่แล้วจะมองที่ท้องเพียงแต่พอมองไปก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง "ท้องนี้โตขึ้นเร็วนักอีกทั้งดูแล้วก็กลม ๆ "เต๋อเฟยยิ้มพลางเอ่ยว่า "ไทเฮา กลม ๆ เช่นนี้ไม่ดีหรือเพคะ?"ไทเฮาหันกลับไป
Read More

บทที่ 553

เขาได้บทเรียนนี้มากี่ครั้งแล้ว? จะต้องให้สั่งสอนอีกกี่ครั้ง)จึงจะรู้ทันเด็กสาวตระกูลฉู่ผู้นั้นไม่มีอนาคต!หยวนหย่งอี้เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า "ก็คือเขาไม่ได้นอนกับหม่อมฉัน ตั้งแต่แต่งงานมาก็ไม่เคยมานอนที่ห้องหม่อมฉันเลยเพคะ" ไทเฮาไม่พอใจเล็กน้อย "เช่นนี่ได้รึ? ไม่ใช่ว่ามันเหมือนกับตอนเจ้าห้าไม่ใช่หรือ? แต่งงานมาปีหนึ่งแล้วแต่ไม่เคยร่วมหอ ยังไม่พออีกรึ? ข้าจะต้องพูดคุยกับเขา""ไม่ต้องพูดหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ต้องการให้เขามานอนกับหม่อมฉัน นอนคนเดียวสบายมากเลยเพคะ" หยวนหย่งอี้รีบกล่าว ขณะที่กล่าวนางก็เหลือบไปมองหยวนชิงหลิง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความปิติยินดี ดีจริง ๆ นางและพี่หญิงฉู่หวางต่างประสบชะตากรรมที่เหมือนกันหยวนชิงหลิงเห็นสายตาที่นางมองมาก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เด็กคนนี้ช่างแปลกประหลาดจริง ๆ!แต่ตอนนี้อ๋องฉีและหยวนหย่งอี้นั้นเหมือนตนเองกับเจ้าห้าในตอนนั้น เพราะในใจของเจ้าห้ามีเพียงฉู่หมิงชุ่ย และตอนนี้ในใจของอ๋องฉีก็มีเพียงฉู่หมิงชุ่ยเท่านั้นเป็นสองพี่น้องที่ตาบอดจริง ๆ!หยวนชิงหลิงนั่งต่อไปไม่ไว้แล้วจริง ๆ นางไม่สนใจหัวข้อเหล่านี้เลย นางเพียงแค่ต้องการพบมหาเสนาบดีฉ
Read More

บทที่ 554

หยวนชิงหลิงและหยวนหย่งอี้ไม่ได้นั่งอยู่ในตำหนักเต๋อซ่างนานนัก ก็กลับไปที่วังเฉียนคุนอีกครั้ง แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อไท่ซ่างหวงและทั้งสามคนยังดื่มกันอย่างสนุกสนานสบายอกสบายใจอยู่ ประตูใหญ่ก็ปิดสนิทห้ามไม่ให้ผู้ใดรบกวนไม่มีทางเลือกหยวนชิงหลิงจึงไปเข้าเฝ้าเสียนเฟย และเข้าเฝ้าฮองเฮา แล้วก็เดินลงมาสุดท้ายก็ทำได้เพียงกลับไปรอที่ตำหนักเต๋อซ่าง แล้วให้ฉางกงกงรอไท่ซ่างหวงดื่มเสร็จ จึงให้คนไปแจ้งนางที่ตำหนักเต๋อซ่างผลก็คือครั้งนี้รอสักพักฉางกงกงก็ยังไม่มา แต่แล้วก็มีจดหมายด่วนจากอวี่เหวินห่าวมารออยู่นอกตำหนักเต๋อซ่างหยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนั้นก็ได้ยินว่าเป็นจดหมายด่วนจากอวี่เหวินห่าว ก็รีบเรียกให้เข้ามาครู่ต่อมาอาซื่อก็วิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน พอเข้าไปในตำหนักเต๋อซ่างแล้วก็ไม่ได้มีเวลามาคารวะ เต๋อเฟยก็ร้องไห้ออกมาทันที "พระชายา ท่านรีบกลับเถอะ นางข้าหลวงสี่ฆ่าตัวตายแล้ว!"คำพูดนี้ทําให้หยวนชิงหลิงตกใจจนแทบจะสิ้นสติ จึงรีบสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วใช้มืออีกข้างดึงแขนของหยวนหย่งอี้แล้วถามอาซื่อว่า "ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?"อาซื่อร่ำไห้ขึ้น "ไม่ทราบเพคะ คนที่มารายงานเพียงบอกว่าเห็นอาเจียนเป็นเลือดเพ
Read More

บทที่ 555

ฉางกงกงรีบส่ายหน้าทันที "ไม่ ไม่พ่ะย่ะค่ะ พระชายายังสบายดี"มหาเสนาบดีฉู่เอ่ยขึ้น "ไท่ซ่างหวงท่านสงบใจลงหน่อย โปรดฟังเหล่าฉางพูดก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ"ฉางกงกงกลับสะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออกเต๋อเฟยจึงเดินไปข้างหน้า และย่อกายคำนับ "ไท่ซ่างหวง เป็นจวนอ๋องฉู่ที่สั่งให้คนมาแจ้งข่าวบอกว่า นางข้าหลวงสี่ฆ่าตัวตาย จึงเรียกให้พระชายากลับไปโดยด่วนเพคะ"มหาเสนาบดีฉู่ลุกขึ้นยืนทันที ลูกกระตาทั้งสองข้างแทบจะพุ่งออกมาจากศีรษะ ถามเสียงหลงว่า "เต๋อเฟยท่านว่าอะไรนะ? นางข้าหลวงสี่ฆ่าตัว? แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร? ทำไมต้องฆ่าตัวตาย? เกิดอะไรขึ้นกับนาง? ใช่ว่าได้รับความคับข้องใจในจวนอ๋องหรือไม่?"เซียวเหยากงเอ่ย "ท่านฉู่ เจ้าสงบใจลงหน่อยแล้วฟังเต๋อเฟยพูดก่อน"มหาเสนาบดีฉู่ที่เคร่งขรึมมาตลอดหลายปี กลับถูกทำลายลงในวันนี้ ใบหน้าแทบจะบ้าคลั่ง "เต๋อเฟย ท่านบอกมา ท่านรีบบอกเร็วเข้า!"เต๋อเฟยสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเลือกประเด็นสำคัญ "ช่วงนี้ภายนอกมีข่าวลือเกี่ยวกับนางข้าหลวงสี่และมหาเสนาบดีในปีนั้นว่า นางข้าหลวงสี่ไร้ยางอาย ใช้ฐานะหัวหน้านางข้าหลวงข้างกายไท่ซ่างหวงเพื่อยั่วยวนมหาเสนาบดี แต่ถูกเสนาบดีรังเกียจจึงพยายามฆ่
Read More

บทที่ 556

กูกูกินยาพิษไม่รู้ว่านางกินยาพิษชนิดไหนลงไป เพราะหมอหลวงยังตรวจสอบไม่พบ ในห้องก็ไม่พบสิ่งใดหลงเหลืออยู่เลย หลังจากที่นางดื่มเหล้าพิษลงไปลงแล้ว นางยังสามารถไปล้างแก้วจนสะอาดได้อีกถึงแม้ว่าหมอหลวงเฉาจะให้ยาแก้พิษไปแล้ว แต่หลังจากกินยาแก้พิษลงไปแล้วสองเม็ด นางข้าหลวงสี่ก็ยังคงไม่มีชีวิตชีวาขึ้นแม้แต่น้อย มีเพียงลมหายใจที่รวยริน แต่ลมหายใจของนางก็เบาบางจนทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจ ราวกับว่าในอีกชั่วพริบตาเดียวนางก็จะขาดใจหยวนชิงหลิงเดินเข้ามาเห็นทั่วทั้งร่างก็แทบจะอ่อนยวบลงทันที เธอฉวยโอกาสที่อวี่เหวินห่าวเข้ามาขวางหมอหลวงเฉา ในชั่วพริบตาหยิบกล่องยาออกมาเธอคุกเข่าลงข้างเตียงแล้วหยิบหูฟังออกมาฟังเสียงหัวใจเต้น หัวใจเต้นอ่อนมาก เธอใช้สองมือที่สั่นระริกค้นกล่องยาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบยารักษาโรคกระเพาะ ลำไส้ออกมา เธอไม่สนใจว่าเป็นพิษชนิดใดที่กินเข้าไปให้นำออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากันมหาเสนาบดีฉู่ก็เข้ามาแล้วเช่นกัน เขาลังเลอยู่หน้าประตูเช่นนั้นอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงพุ่งตัวเข้ามาทันทีอวี่เหวินห่าวขวางเขาไว้ชั่วครู่ แล้วมองเขาแวบหนึ่งภายในใจอดตกใจไม่ได้ เขารู้จักมหาเสนาบดีฉู่มาหลายปี แต่ยังไ
Read More

บทที่ 557

เขาตกใจตื่นขึ้นมาราวกับวิญญาณที่ถูกแผดเผาอย่างหนักเขาก้าวไปข้างหน้าและมองใบหน้าของนางความทรงจำยังไม่ทันได้หายไปจากหัวสมอง เมื่อมองหน้านางอีกครั้งก็พลันรู้สึกว่าวันเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายสิบปีแล้วลมหายใจของนางแผ่วเบา และไม่เห็นหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงข้อมือของนางโผล่ออกมาให้เห็นมันดูผอมมาก มือนี้เขาเคยกอบกุมไว้ในฝ่ามืออย่างมั่นคงในชีวิตนี้ของเขาสิ่งที่เสียใจมากที่สุดคือการปล่อยมือจากนางเขากอบกุมมันใหม่อีกครั้ง มือของนางเย็นเฉียบเป็นอย่างมากไม่มีความอบอุ่นเหมือนเมื่อก่อนอีกในใจของเขาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ราวกับติดอยู่ในฤดูหนาวมานานหลายสิบปีมันทำให้ทั่วทั้งร่างหนาวเหน็บ เขาเหลือบตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหยวนชิงหลิง "นางไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ใช่หรือไม่?"เขาเตรียมใจในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว แต่ใจของเขาก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะสั่นไหวหยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้นแล้วเช็ดน้ำตา เมื่อครู่หลังจากที่เธอปฐมพยาบาลฉุกเฉินต่อเนื่องกัน ก็เหนื่อยล้าอย่างมากจึงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้โฮออกมา"ไม่รู้ สถานการณ์ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ข้าพยายามอย่างเต็มที่แล้วเพื่อทำให้พิษที่นางกินลงไปเจือจางลง แต่พิษได้เข้าไ
Read More

บทที่ 558

คำพูดเหล่านี้ในเวลาเดียวกันก็ราวกับเป็นมีดนับไม่ถ้วนที่แทงเข้าไปในหัวใจของอวี่เหวินห่าวเขาเอื้อมมือไปกอดนางไว้ ในใจเจ็บปวดเกินกว่าจะรับไหว เขาหลับตาลงแทบจะสะกดกลั้นเลือดลมและน้ำตา ไม่ให้พรั่งพรูออกมาได้"ขอโทษ ข้าขอโทษ..." เสียงของเขาความเจ็บปวดและเสียใจอย่างมากหยวนชิงหลิงเบิกตากว้างนัยน์ตาเต็มไปด้วยความเสียใจเดิมทีความเมตตาต่อศัตรูก็คือคำพูดที่โหดร้ายต่อตนเอง เป็นคำพูดที่สมเหตุสมผลน่าเชื่อถือ นางเคยใจอ่อน เคยมีความเมตตา และครั้งหนึ่งเคยเป็นพระแม่มารี แต่ตอนนี้ทั้งหมดล้วนน่าขันไม่แพ้กันบ่าวรับใช้ของมหาเสนาบดีฉู่นำยามามากมายมาแล้วมหาเสนาบดีฉู่เทยาลงบนโต๊ะแล้วเลือกออกมาจากในนั้นสองสามขวด เปิดฝาแล้วเทยาออกมาทุกชนิด ทุกอย่างเขาล้วนกินก่อนหนึ่งเม็ดแล้วรอผลประมาณหนึ่งจิบถ้วยชาก่อนจะบดแล้วป้อนให้นางข้าหลวงสี่ หยวนชิงหลิงไม่ได้ห้ามเขา และหมอหลวงเองก็ไม่ได้ห้ามเขาเช่นกันภายในห้องนี้เขามีอำนาจที่จะรักษาและช่วยเหลือใด ๆ นางข้าหลวงสี่ก็ได้เขาไม่ได้เอ่ยอะไร และก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาบนใบหน้าของเขาไม่มีสีหน้าของความเศร้าโศกและความกังวล เขาเหมือนท่อนไม้ทื่อ ๆ ท่อนหนึ่ง แต่ทั้งร่างขอ
Read More

บทที่ 559

"เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ เจ้าอายุมากแล้วทนไม่ได้แล้ว เจ้าคิดว่าเจ้ายังอ่อนเยาว์อยู่รึ?" เซียวเหยากงพยายามเกลี้ยกล่อม"ไม่ต้องรีบร้อน หาได้ยากนักที่ข้าจะสามารถมองนางเงียบ ๆ เช่นนี้ได้" เขาหันหน้าไปมองใบหน้าของนางข้าหลวงสี่แล้วยื่นมือไปเกี่ยวผมของนาง "คราวที่แล้วที่ข้าบังเอิญสัมผัสผมของนางเช่นนี้ ในตอนนั้นผมของนางยังไม่มีผมหงอก แต่ตอนนี้ล้วนขาวขึ้นไปมากแล้ว เหล่าเซียวเหยา พวกเราแก่แล้วจริง ๆ หลายสิ่งหลายอย่างที่คิดว่ายังรอต่อไปได้อีก แต่ความจริงแล้วไม่มีวันนั้นอีกแล้ว ”เซียวเหยากงรู้ว่าเขาเป็นทุกข์มาทั้งชีวิต ในบรรดาพวกเขาสามคน ท่านฉู่เป็นคนที่อดทนต่อความทุกข์และเก็บไว้ในใจได้มากที่สุด ยิ่งเป็นอารมณ์ที่ด้านชาและสิ่งที่ตัดสินแล้วก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิตคนภายนอกล้วนบอกว่าท่านฉู่มีความทะเยอทะยานเขาเห็นด้วย ใช่ ท่านฉู่มีความทะเยอทะยานแต่ความทะเยอทะยานของเขาไม่เคยอยู่เหนือตำแหน่งนั้นตอนที่หยวนชิงหลิงและอวี่เหวินห่าวมาถึง เมื่อเห็นผมทั้งศีรษะของมหาเสนาบดีฉู่ที่ขาวราวหิมะก็ตะลึงงันหากบอกว่าหยวนชิงหลิงเคยเคียดแค้นมหาเสนาบดีฉู่เพราะเรื่องของนางข้าหลวงสี่ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีเป็นเช่นนั
Read More

บบที่ 560

หลังจากมหาเสนาบดีฉู่เข้าพบเสนาบดีเจียงหนิงแล้ว ก็ขอให้ถังหยางไปส่งเสนาบดีเจียงหนิงและภรรยากลับจวนพักรับรองจ่านด้วยตนเอง เขาเองก็ไม่ได้เข้าไปดูนางข้าหลวงสี่อีก พอได้ยินคําพูดของหยวนชิงหลิงเขาก็สบายใจแล้วหยวนชิงหลิงเข้าไปในห้องโถงหลักแล้วขวางเขาไว้ดวงตาของหยวนชิงหลิงยกขึ้น "มหาเสนาบดีฉู่ บางทีอาจจะไปสอบถามที่โรงน้ำชาเต๋อคังดู ข่าวลือที่แพร่สะพัดอยู่ภายนอกมีต้นกําเนิดมาจากโรงน้ำชาเต๋อคัง"มหาเสนาบดีฉู่มองนางเมื่อผ่านไปครู่ใหญ่ จึงคอยเอ่ยขึ้นช้า ๆ ว่า "อืม ขอบคุณพระชายามาก" เขาและเซียวเหยากงเดินออกไปยืนตระหง่านอยู่บนถนน เสื้อผ้าสีเขียวของเขาถูกลมพัดเส้นผมที่ขาวราวหิมะเกิดแสงส่องประกายระยิบระยับ ภายใต้แสงแดดอ่อน ๆ ยามรุ่งอรุณอากาศหนาวแล้วผู้คนที่สัญจรไปมาก็ใส่เสื้อผ้าตัวหนาเพิ่มเข้าไปเขาจูงม้าแล้วเดินช้า ๆ เซียวเหยากงเดินอยู่ข้างกายเขาอยากจะเอ่ยกับเขาสักสองสามประโยค แต่เขารู้สึกว่าสถานการณ์ตรงหน้าเหมือนกับช่วงเวลาตอนที่พวกเขาต่อสู้ทําสงครามในทะเลทรายอย่างหนัก พวกเขาทั้งหมดล้วนไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพราะบางทีสงครามครั้งนั้น ทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามันเป็นการต่อสู้ที่ดูย่ำแย่ จนบางทีอาจจะ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
5455565758
...
102
DMCA.com Protection Status