All Chapters of ใต้หล้าสยบรัก: Chapter 181 - Chapter 190

1015 Chapters

บทที่ 181

“ทำไม? เจ้าเองก็สงสัยในคำสั่งของข้าหรือ?” อวี่เหวินห่าวกวาดสายตามองราวกับแสงฟ้าแล่บแม่นมฉีรีบก้มหัว “มิบังอาจเพคะ”หยวนชิงหลิงโกรธจนปากสั่น “อวี่เหวินห่าว ท่านกลัวตระกูลฉู่หรือไง? หรือว่าท่านยังเห็นแก่ฉู่หมิงชุ่ย เลยปล่อยคนตระกูลฉู่ไปแบบนี้?”สีหน้าของอวี่เหวินห่าวดำมืด “เจ้าอย่าพูดถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”หยวนชิงหลิงมองเขาด้วยความรู้สึกผิดหวัง “ข้าคงจะเดาถูก ท่านยังเห็นแก่ฉู่หมิงชุ่ย เลยไม่คิดผูกพยาบาททำร้ายตระกูลฉู่ ข้ามองท่านผิดไปจริง ๆ คิดว่าท่านเป็นคนฉลาด รู้จักหลบหลีกแสวงหาโชคลาภ วันนี้ท่านปล่อยฮุ่ยติ่งโฮ่ว แล้ววันที่ท่านร้องไห้ต้องมาถึง”อวี่เหวินห่าวสะบัดแขนเสื้ออย่างโกรธ ๆ “ช่างไม่เข้าใจอะไรเลย!” พูดจบก็เดินจากไปอย่างเย็นชาหยวนชิงหลิงมองแผ่นหลังของเขา ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ อีกนิดเดียวเธอก็เกือบต้องเอาชีวิตกับความบริสุทธิ์ไปแลกกับโอกาสนี้มา เขากลับเห็นแก่ผู้หญิงอีกคนนึงและทิ้งมันไปอย่างง่ายดาย เธอต้องลำบากลำบนอย่างเปล่าประโยชน์หรือนี่?แม่นมฉีถอนหายใจเบา ๆ “พระชายาอย่าโกรธเลยนะเพคะ ท่านอ๋องทรงคิดเพื่อท่าน” “เพื่อข้า?” หยวนชิงหลิงยิ้มเย็นชา “ถ้าเพื่อข้า ก็ไปรายงานตามคว
Read more

บทที่ 182

ตอนที่หยวนชิงผิงกลับจวน ก่อนจากไปนางก็เข้าไปกอดหยวนชิงหลิงและพูดเสียงเบาว่า “ขอบคุณ พี่ใหญ่”คำว่าพี่ใหญ่ที่เรียกหยวนชิงหลิง ทำให้ใจของหยวนชิงหลิงนุ่มฟูไปหมดเธอพิจารณาอยู่นาน รู้สึกว่าตัวเองยอมรับเรื่องที่อวี่เหวินห่าวบอกว่าจะทำไม่ได้“ท่านอ๋องอยู่ที่จวนไหม?” เธอถามแม่นมฉี“อยู่เพคะ ท่านอ๋องอยู่ในห้องตำรา”“ข้าจะไปหาเขา” หยวนชิงหลิงจัดเสื้อผ้าของเธอและเดินออกไปยามพลบค่ำ บรรยากาศในสวนที่ย้อมไปด้วยสีสันยามสนธยา ให้ความรู้สึกสงบสุขและนุ่มนวล ควันสีขาวจากห้องครัวลอยละล่องอ้อยอิ่งในอากาศ ลมหายใจของคนที่หายใจออกมาเป็นควันสีขาวอย่างช้า ๆ เต็มไปทั่ว ให้ความรู้สึกทั้งจริงทั้งเลือนลางราวกับภาพลวงตาเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดในวันนี้ ทำให้หยวนชิงหลิงรู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่ในยุคนี้อย่างแท้จริง ไม่ใช่การใช้ชีวิตอย่างธรรมดาเรียบง่ายมาถึงห้องตำรา มีหญิงรับใช้ยกสำรับอาหารและน้ำชาอยู่ที่หน้าประตูพอดี หยวนชิงหลิงพูดเสียงเบากับนาง “มาข้าเอง!”หญิงรับใช้ย่อตัวรับคำ “เพคะ!”หยวนชิงหลิงยกสำรับอาหารเข้าไป ในห้องจุดเทียนสองเล่ม แสงสว่างนั้นพริ้วไหวและหรี่ลงเขาอยู่ที่โต๊ะคัดลายมือ บนพื้นเต็มไปด้ว
Read more

บทที่ 183

หยวนชิงหลิงพูดกับอวี่เหวินห่าวว่า “ท่านต้องรับปากข้าก่อน”“อย่าพูดอะไรเหลวไหลไร้สาระ กินข้าว!” เขาจับข้อมือเธอแล้วดึงเข้ามา “กินข้าวเป็นเพื่อนข้าหน่อย”“ข้ากินแล้ว ดื่มน้ำแกงแล้วด้วย”“เช่นนั้นก็มารับใช้ข้าตอนกินข้าว”“รับคำสั่งเพคะ!” หยวนชิงหลิงกรอกตาดูเหมือนว่าเขาจะหิวมาก ข้าวมื้อนั้นถูกเขากวาดเรียบ แม้แต่ข้าวสักเม็ดก็ไม่มีเหลือ“หิวขนาดนั้นเลยเหรอ? ให้ข้าเรียกคนให้ทำเพิ่มไหม?” เธอจำได้ว่าเขาเข้มงวดควบคุมการกินของตัวเอง เขากินอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าต้องหิวสุด ๆ“ไม่ต้อง ช่วยข้าเปลี่ยนชุด ข้าจะเข้าวังไปกราบทูล”หยวนชิงหลิงกระโดดขึ้นมาและพูดอย่างชอบอกชอบใจ “เพคะ!”ทั้งสองกลับไปที่ตำหนักเสี่ยวเย่ว หยวนชิงหลิงเปิดหีบเสื้อผ้า เห็นเสื้อผ้าถูกพับวางไว้เรียบร้อยเลยหันไปถามเขา “ใส่ชุดไหนดี?”“ชุดทางการ!” เขาตอบกลับด้วยอรมณ์ไม่ค่อยดี“อื้อ!” เธอปิดหีบเสื้อผ้า เดินไปที่ราวแขวนเสื้อ ถอดเสื้อทางการที่เขาเพิ่งถอดแขวนไว้ เธอยื่นมือไปแตะลูบลายปักอันวิจิตรงดงาม ที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงอำนาจ เสื้อคลุมสีม่วงคาดด้วยเข็ดขัดหยกทองแบ่งสัดส่วนบนล่างอย่างเหมาะสม ช่างสมบูรณ์แบบหม
Read more

บทที่ 184

ไม่ได้รอจนอวี่เหวินห่าวกลับมา แต่ก็รอจนถังหยางกลับมาแล้วเสื้อผ้าของถังหยางเสียหายยับเยินไปทั่วตัว ถังหยางเข้ามาด้วยสภาพที่น่าอับอาย “พระชายา ผู้มีพระคุณของท่านอยู่ที่สวนด้านนอกแล้ว แต่ว่ามีผู้มีพระคุณตัวนึง ให้ตายยังไงก็จะมากับกระหม่อม กระหม่อมเองก็จำใจ ได้แต่พามันกลับมาด้วย”หยวนชิงหลิงมองออกไปดูด้วยความแปลกใจ ใครกันนะที่ยังไงก็จะมาให้ได้?เห็นสวี่อีจูงสุนัขสีดำหูตั้งเข้ามาด้วย มันเป็นสุนัขที่ให้หยวนชิงหลิงหนีไป ตอนนี้มันนั่งยอง ๆ อยู่กับพื้นหูตั้งขึ้น มันอ้าปากแลบลิ้นที่มีจุดด่าง ๆ มองเธอ ทั้งตัวของมันสกปรกมากและบาดเจ็บ บนขนของมันเปื้อนเลือด มีรอยแส้ฟาดพาดผ่านไปทั่วทั้งตัว แส้ฟาดจนเนื้อเปิดเหวอะหวะ มีขนร่วงเป็นหย่อม ๆ เผยให้เห็นเลือดเนื้อที่เป็นแผลสด มองดูแล้วน่ากลัวมากแต่ตอนนี้มันนั่งอยู่บนพื้น ความโหดเหี้ยมดุร้ายของมันก่อนหน้านี้ได้หายไปหมดแล้ว สองตากลมโต จ้องมองหยวนชิงหลิงอย่างแน่วแน่หยวนชิงหลิงรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งตัวของมัน มีแค่หัวเท่านั้นที่ไม่มีแผล เธอยื่นมือออกไปลูบหัวมัน “เด็กดี”“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!” หมาสีดำตัวนั้นพุ่งไปข้างหน้าเห่าเรียกเธอ หางกระดิก
Read more

บทที่ 185

“เวียนหัว เวียนหัวมาก!” หยวนชิงหลิงรีบออดอ้อนอวี่เหวินห่าว “เมื่อครู่ไม่ทันรู้สึก พอได้หยุดอยู่นิ่ง ๆ แล้วก็รู้สึกเวียนหัวมากเลย”“เด็ก ๆ ช่วยพาพระชายากลับห้อง ” อวี่เหวินห่าวออกคำสั่ง ลวี่หยารีบไปข้างหน้าช่วยหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงซบพิงศีรษะที่เตี้ยกว่าครึ่งหนึ่งของลวี่หยาแล้วค่อย ๆ เดินกลับไปขันทีมู่หรูส่ายหน้าด้วยความรู้สึกสงสาร “ช่างน่าสงสาร แค่ไม่กี่วันที่ไม่ได้พบ พระชายา ผอมลงไปมาก”ในใจของอวี่เหวินห่าวยิ้มเย็น สงสาร? ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ หรอก รู้สึกน่าเกลียดน่าชังซะมากกว่าหลังจากส่งขันทีมู่หรูกลับแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ตรงไปที่ตำหนักเฝิงอี้ทันทีที่ก้าวเข้าไปที่ประตู ก็พบสุนัขสีดำตัวให้วิ่งออกมาขวางทางและเห่าใส่อย่างดุร้าย เขากลัวเงาของหมาตัวนั้นกระโจนใส่เสียจนขาอ่อนไปหมดหยวนชิงหลิงพิงประตูแล้วเรียกเจ้าหมา “ตัวเป่า อย่าดุสิ รู้จักไว้ นี่พ่อของเจ้า”“เจ้าสิพ่อมัน” อวี่เหวินห่าวขมวดคิ้วพูดต่อไป “ใครพามันมา? รีบพามันกลับไปซะ”หยวนชิงหลิงพูดไปว่า “ตัวเป่า ออกไปเล่นเถอะ”ตัวเป่ากระดิกหางอย่างเชื่อฟังและออกไปแล้ว“ตัวเป่า? มีชื่อให้มันด้วย?” อวี่เหวินห่าวพูดอย่างโกรธเ
Read more

บทที่ 186

ในวังหลวงจักรพรรดิหมิงหยวนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวทั้งวัน โกรธจนเจ็บในอกไปหมดความยโสโอหังของงตระกูลฉู่นั้นมันเกิดกว่าที่เขาจินตนาการไปมากอิทธิพลของตระกูลฉู่ วันนี้ก็กดดันอำนาจจักรพรรดิของเขา ฉู่โซ่วฝูในอดีตยังมีความเคารพยำเกรงเขา แต่วันนี้พูดไปแล้วหนึ่งคำ ทำให้เขาเข้าใจได้ว่าตระกูลฉู่ได้กลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงของชาติบ้านเมืองของตระกูลอวี่เหวินแล้วฉู่โซ่วฝูตำหนิฮุ่ยติ่งโฮ่วด้วยความเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง บอกว่าเขาอยู่ในสถานะสูงส่งทรงอำนาจเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ แต่กลับถูกคนที่อยู่ต่ำกว่าชักชวนให้ทำเรื่องชั่วช้าสะเทือนฟ้าสะเทือนดินเช่นนี้ออกมา ทำลายชื่อเสียงเกียรติยศของตระกูลฉู่ชื่อเสียงเกียรติยศของตระกูลฉู่? แล้วชื่อเสียงเกียรติยศของราชวงศ์ล่ะ?เขาได้ยินตาแก่นั้นแค่โพล่งพูดเรื่องออกมาเช่นนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะไม่ให้เขาคิดลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าจากที่เขาพูด ชื่อเสียงเกียรติยศของตระกูลฉู่มีค่าสำคัญกว่าชื่อเสียงเกียรติยศของราชวงศ์สมาชิกวัยกลางคนของตระกูลฉู่เองล้วนดำรงตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก ส่วนคนรุ่นเยาว์ก็ล้วนเริ่มสั่งสมประสบการณ์ในกองทัพ ไต่เต้าตำแห
Read more

บทที่ 187

จักรพรรดิหมิงหยวนลุกขึ้นยืน “เสด็จพ่อ งั้นเรื่องนี้ก็...”ไท่ซ่างหวงหันกายออกไป “ใครจะไปรู้? แต่ข้าได้ยินมาว่าเดิมทีจิ้งโฮ่วจะเอาลูกสาวไปแต่งเป็นภรรยาฮุ่ยติ่งโฮ่ว จิ้งโฮ่วคนนี้ก็เป็นคนที่น่าสนใจเสียจริง ถ้าให้พูด มีเวลาเจ้ามองสถานการณ์ในราชสำนักไม่ชัดเจน ก็จะเห็นเพียงคนประเภทจิ้งโฮ่ว พวกเขาก็จะกระดิกหางไปมา คน ๆ นี้ใครก็ต้องเป็นคนที่แย่มากๆ ”จักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกถ่มถุยจิ้งโฮ่วจากของก้นบึ้งหัวใจ เป็นญาติกับคนแบบนี้ ช่างน่าขายหน้าเสียจริงจักรพรรดิหมิงหยวนโค้งคำนับแล้วทูลลามารอบนี้ ในใจก็เข้าใจกระจ่างชัดดูเหมือนว่า เขาประเมินเจ้าห้าต่ำเกินไปจิ้งโฮ่วอยากจะเอาลูกสาวไปแต่งกับฮุ่ยติ่งโฮ่ว พระชายากับน้องสาวผูกพันลึกซึ้ง เพื่อนางจึงไม่ลังเลเลยสักนิด เจ้าห้าสบโอกาสนี้ใช้หักแขนข้างหนึ่งของตระกูลฉู่ เมื่อคิดเช่นนี้ ไฟโกรธเกรี้ยวก็มอดลงไปกว่าครึ่ง แล้วเมื่อคิดดูก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้คนรู้สึกยินดีจริง ๆในใจของจักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกมีความสุข รับสั่งให้พระราชทานอาหารอันโอชะและเครื่องประดับจำพวกไข่มุกพลอยมากมายให้แก่พระชายาฉู่ โดยใช้พระเมตตาขององค์จักรพรรดิ เพื่อ
Read more

บทที่ 188

หยวนชิงหลิงมองดูการลดความอ้วนของอ๋องซุนที่สลายหายไป ของว่างสองจาน ซี่โครงแกะทอดจานนึง ยังต้องการเมนูผัดอีกสองอย่าง ข้าวขาวอีกหนึ่งถ้วย กินเสียจนน้ำก็ไม่มีเหลือ “พี่รองถ้าไม่พอ เรียกให้คนทำมาเพิ่ม” หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าเขายังมองจานเปล่าพวกนั้นอย่างโหยหา การกินไม่อิ่มแบบนี้มันน่าสงสารอ๋องซุนมองหยวนชิงหลิงอย่างจริงจัง “ไม่ต้องแล้ว ข้าต้องลดน้ำหนัก เจ้าต้องไม่ทำร้ายข้าแบบนี้”หยวนชิงหลิงรู้สึกทำอะไรไม่ถูก มีคนบอกว่าจะลดน้ำหนักมาหาเธอที่นี่แล้วก็กินข้าวไปชุดใหญ่ หลังจากนั้นก็บอกว่าเธอทำร้ายเขา“ถ้าอย่างนั้นพี่รองก็อย่ากินอีกเลย” หยวนชิงหลิงทำได้แค่พูดแบบนี้อ๋องซุนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นด้วยใบหน้าที่โศกเศร้าเสียใจ “ไม่ให้กินของว่างสองชิ้นของเจ้าแล้วหรือ? ทำไมถึงขี้งกแบบนี้?”“ไม่ใช่เพคะ...” หยวนชิงหลิงมองใบหน้าอ้วนกลมที่มองหน้าเธออย่างขุ่นเคืองใจ เธอปล่อยไหล่ลงแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ข้าจะบอกว่า วันนี้พี่รองเองก็กินไปพอควรแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมากินอีก”“พรุ่งนี้ทำของว่างอะไร?” อ๋องซุนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบเปื้อนมันที่มุมปาก ถึงจะถามแบบเฉย ๆ ดูไม่มีอะไร แต่ในแววตาของเขาคาดหวังอย่างชั
Read more

บทที่ 189

ฉู่หมิงชุ่ยได้ยินคำพูดของพระชายาจี่ ในใจรู้สึกไม่ยินดีอยู่บ้าง แม้ว่าเป็นความหายนะที่ฮุ่ยติ่งโฮ่วเป็นคนก่อขึ้น แต่นี้เป็นเจตนาจงใจพูดต่อหน้านางนางไม่พูดไม่จา มองแค่เพียงหยวนชิงหลิงอย่างเงียบ ๆทั้งคู่เคยมีเรื่องขัดแย้งบาดหมางกันมาก่อน ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมาเสแสร้งต่อกัน แต่อ๋องฉีกำลังจะมา นางจ้องเขม่งเล็กน้อยอยู่ตรงนั้น ด้วยความสับสนพระชายาจี่ดูเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นมีชีวิตชีวา “ได้ยินว่าเสด็จพ่อทรงพระราชทานพ่อครัวหลวงสองคนมาที่จวนนี้ วันนี้พวกเรามากินข้าวด้วยกันดีไหม? นี่ก็นานมากแล้ว ที่พวกเราเหล่าสะใภ้ไม่ได้นั่งพูดคุยด้วยกัน” หยวนชิงหลิงพยักหน้า “ได้สิ!”เดิมทีทั้งสามคนก็ไม่ได้พูดคุยสนุกสนาน แต่พระชายาจี่หาเรื่องพูดได้เก่งจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศดูเย็นลงเลย นางดึงหยวนชิงหลิงเข้ามาในบทสนทนา ถามโน้นถามนี้ตลอด ทั้งเรื่องในจวนหรือนอกจวน รวมไปถึงการพูดถึงการรับใช้ไท่ซ่างหวง “ไท่ซ่างหวงทรงโปรดอะไรบ้าง? เจ้าตอนอยู่ที่พระตำหนักเฉียนคุนรับใช้ไท่ซ่างหวงยากไหม?”หยวนชิงหลิงรู้สึกระแวดระวังขึ้นมาเล็กน้อยและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ ว่า “ข้าเพียงแค่อยู่ในพระตำหนักรับใช้ไท่ซ่างหวงใน
Read more

บทที่ 190

หลังจากที่ผู้หญิงสองนั้นเดินออกไปแล้ว หยวนชิงหลิงพ่นหายใจยาว ๆ และกล่าวกับนางข้าหลวงสี่ด้วยความซาบซึ้งว่า “เจ้าได้ช่วยชีวิตข้าไว้”นางข้าหลวงสี่พูดอย่างเรียบเฉยว่า “พระชายาจี่เป็นคนลึกซึ้ง พระชายาก็พูดตอบโต้กับนางให้น้อย ๆ ไว้นะเพคะ”หยวนชิงหลิงพูดอย่างยิ้ม ๆ “นางลึกซึ้ง? ไม่รู้สึกเลย ออกจะดูเหลาะแหละไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวสักเท่าไหร่”นางข้าหลวงสี่ยิ้มเย้ยหยัน “เหลาะแหละ? นั้นมันแค่การเสแสร้งแกล้งทำออกมา”หยวนชิงหลิงตกตะลึง “แสร้งทำออกมา? ทำไมต้องเสแสร้งด้วย?”“คนเราล้วนมีด้านพรางตัวเพื่อปกป้องตัวเอง” นางเทน้ำชาให้หยวนชิงหลิงหนึ่งแก้วแล้วนั่งลงเล่าต่อ “พระชายาฉีเองก็คิดไปเอง ด้วยความเฉลียวฉลาดเล็กน้อยนั้น นางคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมทุกอย่างได้ นางไม่เพียงก่อให้เกิดปัญหา แต่หากนางจะยืนกรานอย่างดื้อรั้น ก็คงเป็นเพราะนางคือคนตระกูลฉู่ แต่พระชายาจี่นั้นไม่เหมือนกัน พระชายาจี่เชี่ยวชาญเรื่องการเขียนมาตั้งแต่เด็ก ทรงรอบรู้ นางคือที่ปรึกษาเบื้องหลังของอ๋องจี่ พระชายารู้ไหมเพคะ ว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของพระชายาจี่คืออะไร?”หยวนชิงหลิงถาม “อะไรเหรอ?”“ถึงแม้ว่านางจะเก่งกาจ แต่นางก็เต็มใจ
Read more
PREV
1
...
1718192021
...
102
DMCA.com Protection Status