“เฟยเฟย ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”เฟยเฟยหันมาเห็นเจียงเฉิงที่กำลังเดินมา นางไม่ต้องการรับรู้เรื่องนี้ซ้ำอีก น้ำตานางไหลเป็นทาง เจียงเฉิงรู้แล้วว่าเขาคงมาช้าไป หลิวอี้เจินต้องพูดอะไรกับนางแน่ นางถึงขั้นหลั่งน้ำตา“เฟยเฟย รอข้าก่อน เฟยเฟย”หลิวอีเจินดึงเขาไว้“พี่เฉิงเจ้าคะ ปล่อยนางไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน”“แม่นางหลิว เจ้าพูดอะไรกับนาง เหตุใดนางจึงร้องไห้”“ข้าก็แค่ บอกว่าผู้ใหญ่ของพวกเรากำลังคุยกันด้านใน เรื่องงานแต่งของเรา”“เหลวไหลทั้งเพ คุณหนูหลิว ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าข้าไม่ได้คิดอะไรกับเจ้า ข้าไม่มีทางแต่งงานกับคนอื่น”“แต่ท่านจะแต่งงานกับนางงั้นหรือ เจียงเฉิง ท่านไม่กลัวผู้อื่นนินทาหรืออย่างไร สมภารกินไก่วัด น่าไม่อาย”“ความรักของข้ากับเฟยเฟยเป็นของจริง มีเรื่องใดที่น่าไม่อาย ที่ไร้ยางอายนะ ใครกันแน่ ข้าไม่เคยไปตกลงว่าจะแต่งกับเจ้า แต่เจ้ากลับแต่งเรื่อง พูดขึ้นมาเองจนนางเข้าใจข้าผิด เจ้าต่างหากที่หน้าด้าน ไร้ยางอาย ขอตัว”“ท่านหยุดนะ!! ท่านมาว่าข้าเสียหายแบบนี้แล้วจะเดินหนีอย่างนั้นหรือ ท่านคิดว่าท่านเป็นใคร แค่พ่อค้าคนหนึ่ง ท่านมีอะไรสู้ตระกูลหลิวของข้าได้งั้นหรือ
“ท่านพี่ ท่านแต่งตัวเสร็จหรือยังเจ้าคะ มาช่วยผูกที่คาดเอวให้ข้าทีสิ เว่ยหลง ท่านทำอะไรอยู่”“มาแล้วๆ ฮูหยิน เจ้าอย่าใจร้อนสิ ไหนดูสิ ท้องเจ้าเริ่มโตแล้ว เจ้าจะเดินทางโดยรถม้าอีกไม่ได้แล้วนะ วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ต่อไปก็นั่งรอคลอดอยู่ที่จวนดีๆซะ”“เร็วเข้าๆ ท่านผูกให้ข้าหน่อย อาปิงกับอิ้นสี่ไปเตรียมของขวัญ เดี๋ยวจะไม่ทันแล้ว เว่ยหลง ท่านชักช้าอะไรอยู่”“ก็มัดอยู่นี่ไง เจ้าอย่าเร่งข้าสิ”ฟู่เว่ยหลงเร่งมัดสายคาดเอวให้ฮูหยินอย่างทุลักทุเล ช่วงนี้ท้องนางเริ่มโตขึ้น การแต่งตัวทำได้ยากกว่าเดิม นางมักจะหงุดหงิดง่ายเวลาเรียกหาใครแล้วมาหาช้า ช่วงนี้นางเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ และก็ยังนอนมากเป็นพิเศษอีกด้วย ซึ่งทำให้เว่ยหลงพอใจยิ่งนัก แต่วันนี้ พวกเขาต้องไปร่วมยินดีในงานมงคลสมรสของเจ้าซีห่าวกับเสี่ยวหง และเจียงเฉิง กับเฟยเฟย ซึ่งพวกเขาตกลงหาฤกษ์ยามทันทีที่ตกลงกันได้ เนื่องจากฟู่ลี่เซียนท้องเริ่มโตขึ้นแล้ว จะไปงานพวกเขาลำบาก จะรอให้นางคลอดก่อนค่อยแต่ง สองหนุ่มก็รอไม่ไหว จึงรีบหาฤกษ์วันเดียวกันและแต่งพร้อมกันทีเดียวสองคู่เสียเลย“เสร็จแล้วๆ ไปกันได้แล้ว”“เดี๋ยวเจ้าค่ะ ข้ายังไม่ได้ใส่ต่างหูเล
“แอบใส่ยากเหมือนกันนะคะชุดฮั่นฝูโบราณนี่ แต่สวยเว่อร์วังมากค่ะพี่นิด”โมรินยืนมองตัวเองในกระจกกับชุดจีนโบราณสีฟ้าอ่อน ที่จะใช้ถ่ายงานในวันนี้ เธอเป็นไอดอลสาวที่ชอบ cover เพลงใน youtube ช่องของเธอมีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคน วันนี้เป็นอีกวันที่โมรินจะมา cover เพลง ซึ่งสปอนเซอร์แจ้งความประสงค์มาว่าอยากให้เธอใส่ชุดจีนโบราณเพื่อโปรโมทสินค้าสเปรย์น้ำแร่ตัวนี้“อีก 10 นาที Stanby นะครับพี่โม” วุฒิ ผู้ช่วยในการถ่ายทอดสดของโมรินตะโกนมา“โอเคๆ เกือบเสร็จแล้วๆ”โมรินตะโกนกลับไป เธอหมุนตัวเพื่อจะเดินออกจากห้องแต่งตัว“น้องโม ตอนเดินต้องระวังด้วยนะคะ ชุดมันยาวนิดนึง” พี่นิด ช่าแต่งหน้าทำผมของทีมเตือนเธอ“รุ่มร่ามใช้ได้เลยค่ะพี่”แล้วโมรินก็เดินออกจากห้องไป เข้าไปที่สตูดิโอเพื่อจะถ่ายทำ ทันใดนั้นเอง ชุดสวยนั้นเกิดไปรวบสายไฟของกล่องไฟถ่ายทอดสด เธอยังไม่รู้ตัวจนกระทั่งสายไฟรั้งดึงปลั๊กที่เสียบอยู่ทำให้โต๊ะที่วางแก้วน้ำและอุปกรณ์น้ำแร่ของลูกค้าที่อยู่ใกล้ๆ ล้ม และทำให้เธอสะดุดล้ม“ว๊ายยย อะไรเนี่ย”โมรินตกใจสุดเสียง และกระโปรงชุดของเธอก็พันสายไฟมารัดรอบตัว น้ำหกกระจายเต็มพื้นพร้อมกับร่างของเธอที่ล้มล
นางชื่ออาปิง สาวใช้ประจำตัวข้า เจ้ามาอยู่ในร่างข้า ข้าชื่อหลินลี่เซียน ลูกสาวคนโตของท่านมหาเสนาบดีกรมกลาโหมกับภรรยาเอก แม่ข้าตายไปแล้ว ข้าตายเพราะโดนอนุของพ่อข้า อนุฉินอี้เหนียง วางยาในอาหารทุกวัน พ่อข้าก็เริ่มโดนแล้วเช่นกัน ข้าอยากให้เจ้า ช่วยพ่อข้าจากแผนชั่วของนางด้วย นางทำเพื่อหวังให้ลูกสาวนางได้สมบัติของสกุลหลินทั้งหมด เจ้าต้องช่วยข้า เปิดเผยแผนชั่วของ 2 แม่ลูกนี้“อะไรกัน อย่างกับซีรี่ย์จีนโบราณที่ดูในแอฟมาเมื่อวานไม่มีผิด” “อย่างไรก็แล้วแต่ หากเจ้าทำความปรารถนาของข้าเป็นจริงได้ วิญญาณของข้าก็จะสามารถไปสู่สุคติได้อย่างหมดห่วง”“แล้วเธอต้องมาอยู่ติดตัวฉันแบบนี้ตลอดเหรอ มันไม่โอเคนะ มันดูน่ากลัวเกินน่ะ”“ไม่หรอก ข้าจะมาแค่บางช่วง ข้าไม่มีพลังมากแล้ว ดวงวิญญาณข้าแทบจะแตกสลายอยู่แล้ว ข้าจะมาเฉพาะเวลาที่เจ้าเจอเหตุการณ์คับขันและต้องการให้ช่วยเท่านั้น”“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ” อาปิงเรียกนาง“ห๊ะ อ่ะ เอ่อ ว่าไงๆ หวัดดี อาปิง ยินดีที่ได้รู้จักนะ” โมรินทักทายตามอัตโนมัติ อาปิงทำหน้างงปนแปลกใจ“คุณหนู ท่าน เป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ ให้ข้าเรียกท่านหมออี้มั้ยเจ้าคะ”“ไม่ๆๆๆ ฉันไม่ เอ่อ ข้าไม่เ
“คุณหนูเจ้าคะ วันนี้ท่านสวยจังเลย ท่านแต่งหน้าเอง งามยิ่งนักเจ้าค่ะ”อาปิงชมลี่เซียนไม่หยุด นางไม่เคยเห็นการแต่งหน้าเช่นนี้มาก่อน นางไม่ได้แต่งเข้มอะไร แต่ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี ปากไม่ได้ทาสีแดง ทาสีชมพูอมส้ม แต่เหมือนมีการผสมมากกว่า 2 สี แก้มไม่แดง แต่กลับดูเป็นธรรมชาติเข้ากับสีผิวของคุณหนูของนางยิ่งนัก ตาของนางดูชัดมากขึ้นทั้งๆ ที่ปกติตานางก็สวยอยู่แล้ว คิ้วที่เขียนอย่างได้รูป นางไม่เคยเห็นมาก่อนหลินลี่เซียนเดินออกมาพร้อมกับอาปิง เพื่อจะไปขึ้นรถม้าหน้าจวน กลับได้เจอคนที่ไม่คาดฝันว่าจะเจอเข้า“ท่านแม่ ท่านแม่ นั่นมัน ลี่เซียนมิใช่หรือเจ้าคะ ไหนท่านว่าจะ จะอยู่ไม่ถึงคืนนี้ไง ทำไมนาง ดูปกติเลยล่ะ”ลู่ชิงกระตุกแขนเสื้อมารดาอย่างแรง อีเหนียงเองก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอลี่เซียนตอนนี้ คิดว่านางจะไม่รอดถึงคืนนี้แล้ว“ใจเย็นก่อน อย่าทำพิรุธ”นางเดินเข้าไปหาลี่เซียน“คุณหนูใหญ่ ทำไมวันนี้ออกมาเดินเล่นได้ล่ะ สุขภาพเจ้า ดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่”นางแสร้งยิ้มอย่างเป็นมิตร** ข้อมูล: ฉินอีเหนียง** อนุฉินของท่านพ่อ ผู้ดูแลจวนและบัญชีรับ - จ่ายของจวนสกุลหลิน** นิสัย หน้าไหว้หลังหลอก ตอแหลได้โล่เป็นสันดาน ขี
นั่นคือความทรงจำเดิมของเขา ที่หมิงอี้เคยบอก ว่าคุณหนูใหญ่จะแอบมองเขาทุกครั้งที่เจอกัน นางค่อนข้างลุ่มหลงเขาเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ไม่กล้าเข้ามาคุย แต่เขาเองกลับไม่เคยเห็นหน้านางแบบเต็มๆ เช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นนางชัดๆ“ไหนเจ้าบอกว่านางขี้โรค ดูแล้วน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน พูดน้อย ขี้อายอย่างไรล่ะ”เขาถามหมิงอี้ด้วยความแปลกใจ เพราะสตรีที่เขาเห็นอยู่ข้างหน้านี้ นางทั้งสดใส ร่าเริง เป็นมิตรกับทุกคน นางยิ้มเก่ง และยังเอื้อเฟื้อต่อคนใช้ของนางด้วย เขากำลังสงสัยว่า“หมิงอี้ ข่าวกรองของเจ้า มีผิดพลาดได้ขนาดนี้เลยหรือ”“อาปิง ข้าลืมบอกพี่ใหญ่ว่าข้าจะเอาผ้าคลุมไหล่ขนจิ้งจอกขาวตัวนั้นด้วย เดี๋ยวข้ามานะ เจ้ารอนี่ก่อน”นางบอกอาปิง และหันกลับ เพื่อจะเดินไปที่ร้านตัดชุดที่พึ่งเดินออกมา และ ชนเข้ากับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนั้น“ว๊าย ขอโทษๆ เจ้าค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าเจ้าคะ ขอโทษที ข้ารีบไปหน่อย”นางเงยหน้าขึ้นมอง โอววว งานดี หล่อจัง สูง โปร่ง ผิวขาวดูเป็นผู้ดี ตาคม จมูกได้รูป หล่ออย่างกับพระเอกซีรี่ย์ คือดีงามที่หลุดมายุคนี้ ขอบคุณโชคชะตา อิอิ“เอ่อ หากท่านไม่เป็นไร ข้าขอตัวก่อน ขอโทษอีกทีนะเจ้าคะ บาย” นา
หมิงอี้คิดว่าตัวเองฟังผิดไปแน่นอน คุณชายจะตามไปงั้นหรือ นี่มันเกินความคาดหมายเกินไปแล้ว“คุณชาย บอกว่า จะตามพวกนางไปหรือขอรับ” เขาถามให้แน่ใจอีกทีฟู่เว่ยหลงไม่พูดซ้ำ เขาเดินไปที่หออวิ๋นเจี้ยนทันที และหันมาบอกหมิงอี้“เจ้าไปจองห้องที่ติดกับพวกนางที เร็ว”เขาสั่ง หมิงอี้รีบวิ่งไปก่อนหน้าและบอกเสี่ยวเอ้อให้จัดห้องให้“เจ้าว่าอะไรนะ” หลินลี่เซียนฟังเรื่องที่อาปิงเล่าให้ฟัง ถึงกับอึ้ง แม่นาง เจ้าช่างคลั่งรักอะไรขนาดนี้ โอยน้ออ เค้ารู้มั้ยนั่น ทั้งหาอาหาร ขนมไปให้ตลอด แถมยังสืบว่าเขาจะไปไหนแล้วตามไป เพื่อแอบมอง What ? Just แอบมอง โอยยย นี่มันคล้ายกับพวก Stalker แล้วหนู (พวกชอบตามไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ ออกแนวโรคจิต)“จะเป็นลม ทำไปได้ ถึงว่าล่ะ เรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ไง”ลี่เซียนหัวเสียกับการกระทำนี้มาก นางต่อต้านการทำแบบนี้ที่สุด เพราะเมื่อก่อน นางเองก็เคยโดนพวกนี้ติดตาม ต้องคอยจ้างพวกบอดีการ์ดมา สุดท้ายก็ต้องไปเรียนศิลปะการป้องกันตัวเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ไป“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว จากนี้จะไม่ให้เจ้าลำบากแบบนั้นอีกแล้วอาปิง ข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีก เจ้าวางใจได้เลย ตอนนี้ข้ารู้สึกดีสุดๆ ก
อาปิงยืนอึ้งอยู่ข้างเวที เมื่อกี้ คุณหนูของข้า ยืนร้องเพลงบนเวที ต่อหน้าผู้คนเยอะแยะขนาดนั้น ปกติ แค่มองหน้าคนที่เดินตามถนน นางยังไม่กล้าเลย นี่ถึงกับขึ้นเวที ร้องเพลง และเสียงร้องของนาง ก็ยังไพเราะมาก ฟังแล้วพาเคลิ้มมากจริงๆ เพลงที่ร้องก็ไม่เคยฟังมาก่อน แต่เนื้อหาช่างสวยงาม น่าฟัง และเข้าใจง่ายเสียจริงเว่ยหลงรู้สึกตัว เขาคิดว่าสตรีที่อยู่บนเวทีนี้ ช่างไม่ธรรมดา นางสามารถสะกดสายตาผู้คน และทำให้ทุกคน หยุดมองนางเพียงคนเดียวได้ นี่มันความสามารถน่าทึ่งมากจริงๆ“แม่นาง บทเพลงของเจ้า ช่างไพเราะเสียจริง ข้าชื่นชมยิ่งนัก ไม่ทราบว่าแม่นาง สนใจที่จะเขียนเนื้อเพลงนี้ ออกมาขายได้หรือไม่”ชายผู้นั้นเดินมาถามลี่เซียน“ข้าลืมแนะนำตัว ข้าชื่อเจียงเฉิง เป็นผู้คัดลอกสิ่งพิมพ์ในเมืองหลวง พวกหนังสือนิยาย นิทาน กาพย์ กลอน มักจะให้ร้านข้าเป็นผู้คัดลอก และจำหน่าย และเจ้าของผลงานก็รับส่วนแบ่งกับข้าไป” เขาแนะนำตัวเองเว่ยหลงมองเห็นชายผู้นั้น เดินเข้าไปหานาง เขามองตาม หน้าตาเขายังคงเฉยอยู่ แต่ว่าสายตานั้น โกหกไม่ได้“ขอบคุณ คุณชายเจียงมาก ข้า สามารถทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอเจ้าคะ”นางถามอย่างใคร่รู้“แม่นาง อย่าง
“ท่านพี่ ท่านแต่งตัวเสร็จหรือยังเจ้าคะ มาช่วยผูกที่คาดเอวให้ข้าทีสิ เว่ยหลง ท่านทำอะไรอยู่”“มาแล้วๆ ฮูหยิน เจ้าอย่าใจร้อนสิ ไหนดูสิ ท้องเจ้าเริ่มโตแล้ว เจ้าจะเดินทางโดยรถม้าอีกไม่ได้แล้วนะ วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ต่อไปก็นั่งรอคลอดอยู่ที่จวนดีๆซะ”“เร็วเข้าๆ ท่านผูกให้ข้าหน่อย อาปิงกับอิ้นสี่ไปเตรียมของขวัญ เดี๋ยวจะไม่ทันแล้ว เว่ยหลง ท่านชักช้าอะไรอยู่”“ก็มัดอยู่นี่ไง เจ้าอย่าเร่งข้าสิ”ฟู่เว่ยหลงเร่งมัดสายคาดเอวให้ฮูหยินอย่างทุลักทุเล ช่วงนี้ท้องนางเริ่มโตขึ้น การแต่งตัวทำได้ยากกว่าเดิม นางมักจะหงุดหงิดง่ายเวลาเรียกหาใครแล้วมาหาช้า ช่วงนี้นางเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ และก็ยังนอนมากเป็นพิเศษอีกด้วย ซึ่งทำให้เว่ยหลงพอใจยิ่งนัก แต่วันนี้ พวกเขาต้องไปร่วมยินดีในงานมงคลสมรสของเจ้าซีห่าวกับเสี่ยวหง และเจียงเฉิง กับเฟยเฟย ซึ่งพวกเขาตกลงหาฤกษ์ยามทันทีที่ตกลงกันได้ เนื่องจากฟู่ลี่เซียนท้องเริ่มโตขึ้นแล้ว จะไปงานพวกเขาลำบาก จะรอให้นางคลอดก่อนค่อยแต่ง สองหนุ่มก็รอไม่ไหว จึงรีบหาฤกษ์วันเดียวกันและแต่งพร้อมกันทีเดียวสองคู่เสียเลย“เสร็จแล้วๆ ไปกันได้แล้ว”“เดี๋ยวเจ้าค่ะ ข้ายังไม่ได้ใส่ต่างหูเล
“เฟยเฟย ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”เฟยเฟยหันมาเห็นเจียงเฉิงที่กำลังเดินมา นางไม่ต้องการรับรู้เรื่องนี้ซ้ำอีก น้ำตานางไหลเป็นทาง เจียงเฉิงรู้แล้วว่าเขาคงมาช้าไป หลิวอี้เจินต้องพูดอะไรกับนางแน่ นางถึงขั้นหลั่งน้ำตา“เฟยเฟย รอข้าก่อน เฟยเฟย”หลิวอีเจินดึงเขาไว้“พี่เฉิงเจ้าคะ ปล่อยนางไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน”“แม่นางหลิว เจ้าพูดอะไรกับนาง เหตุใดนางจึงร้องไห้”“ข้าก็แค่ บอกว่าผู้ใหญ่ของพวกเรากำลังคุยกันด้านใน เรื่องงานแต่งของเรา”“เหลวไหลทั้งเพ คุณหนูหลิว ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าข้าไม่ได้คิดอะไรกับเจ้า ข้าไม่มีทางแต่งงานกับคนอื่น”“แต่ท่านจะแต่งงานกับนางงั้นหรือ เจียงเฉิง ท่านไม่กลัวผู้อื่นนินทาหรืออย่างไร สมภารกินไก่วัด น่าไม่อาย”“ความรักของข้ากับเฟยเฟยเป็นของจริง มีเรื่องใดที่น่าไม่อาย ที่ไร้ยางอายนะ ใครกันแน่ ข้าไม่เคยไปตกลงว่าจะแต่งกับเจ้า แต่เจ้ากลับแต่งเรื่อง พูดขึ้นมาเองจนนางเข้าใจข้าผิด เจ้าต่างหากที่หน้าด้าน ไร้ยางอาย ขอตัว”“ท่านหยุดนะ!! ท่านมาว่าข้าเสียหายแบบนี้แล้วจะเดินหนีอย่างนั้นหรือ ท่านคิดว่าท่านเป็นใคร แค่พ่อค้าคนหนึ่ง ท่านมีอะไรสู้ตระกูลหลิวของข้าได้งั้นหรือ
หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการแสดงแล้ว ช่วงต่อไปก็เป็นช่วงที่มีการแสดงของโรงงิ้ว และแขกเหรื่อก็ทยอยเข้ามาแสดงความยินดีกันอย่างไม่ขาดสาย รวมถึง“คุณชายเจียง ข้ามาช้า โปรดอภัย”“ใต้เท้าหลิว ไม่เป็นไรขอรับ ยินดีต้อนรับ เชิญตามสบายขอรับ”“พี่เฉิง ยินดีด้วยนะเจ้าคะที่เปิดร้านใหม่ วันนี้ข้าตั้งใจมาหาท่านโดยเฉพาะเลยเจ้าค่ะ”เฟยเฟยหันไปมองเจ้าของเสียง สตรีหน้าตาน่ารัก ดูสูงศักดิ์ เรียกเขาว่าพี่เฉิงอย่างสนิทสนม“คุณหนูหลิว ขอบใจเจ้ามาก”เฟยเฟยหันไปมองหน้าเขา เจียงเฉิงจึงนึกขึ้นได้“ออ ลืมแนะนำไปขอรับ นี่ เจ้าเฟยเฟย น้องสาวเจ้าซีห่าว น้องรองของข้า หนึ่งในเจ้าของหออ้ายจือขอรับ”“เฟยเฟยคารวะใต้เท้าหลิว ฮูหยินหลิวเจ้าค่ะ ทุกทานเชิญตามข้ามาได้เลยเจ้าค่ะ ข้าจะไปหาที่นั่งใ ด้านล่างเต็มแล้ว เชิญชั้นสองดีกว่าเจ้าค่ะ”“พี่เฉิง พี่พาพวกเราไปก็ได้เจ้าค่ะ ไม่รบกวนแม่นางเจ้าแล้ว ขอบคุณ”แม่นางหลิวมองเฟยเฟย และเชิดใส่เล็กน้อย นางเดินไปเกาะแขนเจียงเฉิงให้เขาพานางไปเลือกโต๊ะ เฟยเฟยได้แต่เดินตามพวกเขาไปเงียบๆ เมื่อพวกเขาได้โต๊ะแล้ว เจียงเฉิงจึงนั่งกับพวกเขา เฟยเฟยเลยเดินเลี่ยงออกมาลี่เซียนเห็นเฟยเฟยเดินมาหงอยๆ นางจ
เสียงประทัดดังขึ้นหน้าหออ้ายจือหลังใหม่ พร้อมกับทุกคนที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดร้านใหม่ เต็มหน้าลานการแสดง เจียงเฉิงเป็นตัวแทนของร้านออกมากล่าวต้อนรับ“ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ที่ได้สละเวลามาร่วมในงานเปิดร้านใหม่ของหออ้ายจือสาขาสองของพวกเรา วันนี้จะมีการแสดง ทั้งของเหล่าไอดอลหออ้ายจือของเรา และกลางคืนยังมีการแสดงงิ้ว และงานเทศกาลโคมไฟไปพร้อมๆกันด้วย ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับงานในวันนี้ และที่สำคัญ เชิญทุกท่าน ร่วมรับประทานอาหาร เพื่อเป็นสิริมงคลแก่พวกเรา ทุกท่านเชิญ”แขกหน้าร้านทุกคนปรบมือ และทยอยเข้าไปนั่งภายในร้าน ซึ่งโอ่อ่า และกว้างขวางมาก โต๊ะเกือบ 50 โต๊ะ ทยอยเต็มอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ด้านบนชั้นลอย จะเป็นที่สำหรับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน เถ้าแก่อวิ๋นเองก็นั่งโต๊ะถัดไป และคอยช่วยเจ้าซีห่าวจัดแจงที่นั่งให้แขกผู้ใหญ่“พี่เจียง พี่ใหญ่ พี่สามมาแล้วเจ้าค่ะ”เฟยเฟยตะโกนเรียกทั้งสอง ซึ่งพวกเขารีบวิ่งออกไปต้อนรับนาง ฟู่เว่ยหลงค่อยๆพยุงลี่เซียนลงมาจากรถม้า“น้องสามๆๆ คอยๆเดิน ระวังๆหน่อย หลานข้าอยู่ในท้องเจ้า จะเดินไปไหนต้องระวังหน่อย”“พี่รอง ข้ารู้แล้วเจ้าค่ะ ท่านว่าเว่ยหลงจะย
จวนสกุลฟู่“คำนับฟ้าดิน”“คำนับบุพการี”“คำนับกันและกัน”“ส่งตัวเข้าหอ”อาปิงและอิ้นสี่ พาหลินลี่เซียนเดินไปที่ห้องหอที่จัดเตรียมไว้สำหรับพิธีสมรสพระราชทานของท่านเม่ทัพหลวงคนใหม่ และฮูหยินแม่ทัพฟู่“อาปิง ข้าหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว มีอะไรให้ข้ากินได้บ้างมั้ย”“ฮูหยินเจ้าคะ รอสักครู่นะเจ้าคะ ข้าจะเอาขนมมาให้ท่าน แต่ท่านอย่าเปิดผ้าคลุมหน้านะเจ้าคะ จะเสียฤกษ์ ต้องรอให้ท่านแม่ทัพเปิดนะเจ้าคะ”“รู้แล้วๆ รีบไปหาของกินมาทีเร็ว กว่าเว่ยหลงจะเข้ามาอีกนาน เขาต้องรับแขกข้างนอกอีก ป่านนั้นข้าหิวตายอยู่ตรงนี้แหละ”อาปิงรีบออกไปยกขนมมาให้หลินลี่เซียนกิน อิ้นสี่รินน้ำชาส่งให้นางใต้ผ้าคลุมเพื่อให้นางดับกระหาย“อา ค่อยยังชั่วหน่อย นี่ หลังจากนี้ ต้องทำอะไรอีกล่ะ”“ก็รอให้เจ้าบ่าวเข้ามา เปิดผ้าคลุมหน้า ดื่มเหล้ามงคล แล้วก็... เข้าหอเจ้าค่ะ”“ข้าง่วงจังเลย”“ฮูหยิน ท่านจะนอนพักก่อนมั้ยเจ้าคะ แค่นั่งพิงหลับน่าจะได้”“อืม ข้าขอพักสักงีบ พวกเจ้าออกไปเถอะ”“เจ้าค่ะ”หลินลี่เซียนนั่งพิงกับขอบเตียง หลังจากที่กินขนมไป นางรู้สึกง่วงมากเพราะเตรียมตัวมาตั้งหลายวัน และวันนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อเข้าพิธีอีก กว่าจะแ
ลี่เซียนตื่นขึ้นมา พบว่านางสวมใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้ว คงเป็นเพราะพ่อคนดีข้างๆ นางนี่เอง ที่จัดการให้ นางยิ้มและก้มหอมแก้มเขาเบาๆ เขาลืมตาขึ้นมา“เจ้าตื่นแล้วหรือ ยังเจ็บแผลอยู่หรือไม่”“ไม่แล้วเจ้าค่ะ เมื่อคืน ท่านใส่ยาและสวมเสื้อผ้าให้ข้าหรือเจ้าคะ”“ใช่ เจ้าลุกไหวหรือไม่ ให้ป้าจางยกข้าวมาให้กินที่นี่ก็แล้วกันนะ”“วันนี้ท่านจะไปไหนหรือเปล่าเจ้าคะ”“ข้าจะเข้าวังหน่อย เจ้ามีอะไรหรือเปล่า”“เปล่าเจ้าค่ะ งั้นข้าจะรอฟังข่าวอยู่ที่นี่นะเจ้าคะ ท่านลุกเถอะเจ้าค่ะ ไปอาบน้ำ เตรียมเข้าวังได้แล้ว”“ได้สิ เจ้าจะอาบน้ำเลยหรือไม่ ข้าจะได้ให้อาปิงเตรียมน้ำยาแช่ตัวให้”“เจ้าค่ะ ขอบคุณนะเจ้าคะ”เว่ยหลงก้มลงจูบที่หน้าผากนาง วันนี้เขาจะเข้าวังไปสะสางงานที่เหลือจากเมื่อวาน และไปฟังข่าวด้วย ที่สำคัญ วันนี้มีการกำหนดโทษของสนมฉิน ฉืนอี้เหนียงและฉินชุนเหมยด้วยพวกเขากินข้าวเช้าในห้องของลี่เซียนเสร็จแล้ว นางเดินมาส่งเขาหน้าจวน เขาหันมาบอกนาง“รอข้านะ เดี๋ยวข้าก็กลับ”“ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วนี่นา ท่านไปเถอะเจ้าค่ะ ข้าอยู่ได้”เว่ยหลงส่งยิ้มให้นาง ก้มลงหอมแก้มข้างที่ไม่มีผ้าปิดแผล และหันกลับไปขี่ม้าเพื่อเข้าวัง ล
เขาถามนางด้วยเสียงแหบพร่าเต็มที ถึงนางจะบอกว่าเจ็บ ตอนนี้ เขาก็คงไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้ว ลี่เซียนใช้มือน้อยๆ ล้วงลงไปหาท่อนแข็งแรงที่ใต้น้ำ ที่ดันนางอยู่ตอนนางเบียดเข้าไปเมื่อครู่ ตอนนี้ นางถือเอาไว้และค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ“อาาา เซียนเซียน อย่า ข้าเตือนแล้วนะ อาาาาา หากเจ้าไม่หยุดตอนนี้ ข้า อาาา”เว่ยหลงครางเสียงกระเส่า เขาไม่เคยถูกกระตุ้นแบบนี้มาก่อน เขารู้สึกวูบวาบประหลาดอย่างที่อธิบายไม่ถูก แต่รู้สึกดีมาก ลี่เซียนไม่เพียงไม่หยุด นางยังใช้ลิ้นน้อยๆ เลียไปที่แผงอกของเขาเบาๆ สร้างรอยจ้ำแดงๆ ไปทั่วพร้อมส่งเสียงครางเพื่อกระตุ้นอารมณ์เขา เมื่อนางเริ่มเลียที่ยอดอกของเขา เว่ยหลงถึงกับร้องครางเสียงไม่เป็นภาษา“อาาา เจ้าา ข้าเตือนเจ้าแล้ว อย่าหาว่าข้าใจร้ายนะเซียนเซียน”เขาดันนางออก และอุ้มนางขึ้นจากอ่างน้ำทันที และพานางขึ้นมา และใช้ผ้าคลุมตัวให้นางเช็ดตัว และอุุ้มนางเข้าห้องไปทันที…ลี่เซียนกอดคอเขา และดันตัวเองไปจูบที่ปากอวบอิ่มของเขา เขาตกใจที่นางรุกไม่หยุด เกิดอะไรขึ้นกับนางกัน แต่เขาเองก็ห้ามอารมณ์รักนี้ไม่ไหวแล้วเช่นกัน เขาวางนางลงบนเตียงนุ่ม และดึงผ้าที่ห่อตัวนางออกทันที เข
ฟู่เว่ยหลงพาหลินลี่เซียนมายังสำนักหมอหลวงเพื่อตรวจอาการและรักษาแผล เขาขอเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางก่อน หมอกวานจึงให้คนไปเรียกนางกำนัลมาช่วย แต่ฟู่เว่ยหลงบอกว่าเขาจะทำเอง ท่านหมอเลยให้นางกำนัลเตรียมของและชุดใหม่มาให้ลี่เซียนเปลี่ยนฟู่เว่ยหลงถอดชุดของนางออกอย่างเบามือ ตัวของลี่เซียนมีรอยฟกช้ำไปทั้งตัว เมื่อกี้เขาได้ยินว่านางบอกว่าอย่างไรนะ นางถูกรุมกระทืบอย่างนั้นหรือ เขาค่อยๆ เช็ดตัวนางอย่างเบามือ นางขยับตัวสะดุ้งเล็กน้อยเพราะความเจ็บ เขากัดกรมแน่น เขาจะต้องเอาคืนคนพวกนี้ให้สาสม ไม่ว่ามันจะเป็นใคร เขาจะต้องจัดการให้หมดเขาสวมชุดใหม่ให้นางเสร็จแล้วจึงเรียกท่านหมอมาตรวจให้นาง เขาเดินมาบอกอี้หมิง“เจ้าไปตามสืบหา คนที่ทำร้ายนางมาให้ครบหมดทุกคน อย่าได้ขาดไปแม้แต่คนเดียว”“ขอรับคุณชาย”ท่านหมอเดินออกมาแล้ว เขาแจ้งอาการให้เว่ยหลงทราบ“คุณหนูหลินมีแผลฟกช้ำแค่ภายนอก ไม่ได้รุนแรงอะไร เพียงแค่อากาศในคุกนั้นอับชื้นและสกปรก ทำให้นางที่ร่างกายพึ่งพักฟื้นได้ไม่นาน พอเจออากาศแบบนี้ ทำให้ไข้กลับมา อีก 2-3 วันก็ดีขึ้น ข้าจะจัดยาแก้ไข้ แก้ช้ำใน ร้อนใน รักษาภายใน และสมุนไพรแช่ตัวเพื่อรักษาบาดแผลภายน
ชุนเหมยพาหลินลี่เซียนเดินขึ้นมาช้าๆ พร้อมเอามีดจี้ที่คอนางไว้ ฟู่เว่ยหลงตกใจที่เห็นนาง“เซียนเซียน แม่นางฉิน อย่านะ อย่าทำอะไรนาง”“ท่านกล้าขอร้องข้าเชียวเหรอ ท่านแม่ทัพ ตอนนี้ท่านขอร้องเป็นแล้วหรือ เมื่อกี้ท่านยังปากดีอยู่เลยนี่ แค่นังแพศยานี่คนเดียว ทำให้ท่านกังวลใจได้ถึงเพียงนี้เชียวเหรอ”หลินลี่เซียนส่งสายตาให้เขาว่าอย่า เพราะสายตาของลีเซียน ไม่ได้บ่งบอกว่านางกังวล“ฮ่าๆๆๆๆ ดีมาก ชุนเหมย หลานน้า ดีๆๆ ฝ่าบาท ถอนรับสั่งสิ ถอนรับสั่งแล้วจับพวกมันตัดหัวให้หมด เร็วสิ”“แม่นาง เหตุใดข้าต้องฟังเจ้า เพียงเพื่อสตรีคนเดียว”“ฝ่าบาท พระองค์จะลองดูก็ได้นี่เพคะ”ชุนเหมยท้าทาย โดยการยกมีดขึ้นจ่อที่คอของหลินลี่เซียน""อย่า""ฟู่เว่ยหลง หลินซือเหยา ลั่วจิ่นหยาง ท่านหมอกวาน และองค์ชายห้าต่างร้องออกมาพร้อมกัน ชุนเหมยหันไปมองพวกเขาอย่างเกลียดชัง ไม่พอใจ และริษยา“นังงูพิษ เจ้านี่หว่านเสน่ห์ไปทั่วเลยจริงๆ นะ ใครๆ ต่างก็ร้องขอชีวิตให้เจ้า เจ้ามันมีดีอะไรกันนะ”“ท่านพ่อ ท่าน ท่านยังไม่ตาย ท่านพ่อ”“เซียนเซียน พ่อปลอดภัย พ่อไม่เป็นอะไร เจ้าอยู่นิ่งๆ นะ”“ฝ่าบาท ปล่อยท่านแม่ และท่านน้าข้าเดี๋ยวนี้ เร็วสิ