ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ด้วยความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากกว่าทุกวันทั้งที่เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า นอนมองร่างบางที่หลับตาพริ้มในอ้อมกอดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ พาตัวเองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆ และออกมาทำอาหารเช้าง่ายๆ ตามวัตถุดิบที่มีในตู้เย็นอย่างข้าวต้มหมูและน้ำส้มคั้นใส่น้ำมะนาวนิดหน่อยแช่เย็นไว้เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้เมียตัวน้อยของผม
ระหว่างรอเธอตื่น ผมเลยนั่งเสิร์ชหาวิธีทำพุดดิ้งชาไทยเมนูขนมง่ายๆ ไว้ทานกับเธอในช่วงบ่าย จะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอกให้ยุ่งยาก เพราะวันนี้ผมตั้งใจจะช่วยเธอตัดคลิปเตรียมลงอีพีใหม่ ส่วนเธอก็อยากจะไลฟ์รีวิวสินค้าด้วย ค่อยพากันออกไปหามื้อเย็นทานข้างนอกแล้วกันจะได้เลยไปร้านเหล้าเพื่อร้องเพลงในคืนนี้ทีเดียว หลังจากดูฮาวทูการทำพุดดิ้งชาไทยจบดูเหมือนว่าผมต้องสั่งวัตถุดิบสำคัญอย่างเจลลาตินเพิ่มเลยกดสั่งผ่านช่องทางเดลิเวอรี่พร้อมขนมคบเขี้ยวสองสามอย่างมาด้วยเลย เห็นเธอตัวเล็กเล็กอย่างนี้แต่ชอบกินขนมจุกจิกมากแล้วก็อ้างตลอดว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง ผมเลยต้องซื้อติดห้องเอาไว้ไม่ให้ขาด แกร๊ก! "ไปไหนมาคะ" "ลงไปเอาขนมให้หนูมา" ฟอด "ทำไม่ตื่นเร็วละ ไม่นอนต่ออีกหน่อย" "ลลิลนอนอิ่มแล้วค่ะ" "ตอนนี้ท้องลลิลหิวมาก" "ยังเจ็บอยู่มั้ยคะ" "เจ็บนิดหน่อยค่ะ พี่นาวาไม่เบากับลลิลเลย" "เรื่องอื่นเบาได้ แต่เรื่องนี้พี่เบาไม่ได้จริงๆ" "..." "พี่ทำข้าวต้มหมูกับคั้นน้ำส้มใส่น้ำมะนาวไว้ให้ด้วย" "กินเลยมั้ย" "ว้าว กินเลยค่ะ" เห็นเธอทำหน้ามุ้ยยู่ปากงอแงใส่ผมนิดหน่อยก็อดเอ็นดูไม่ได้ ก็ผมไม่เบาอย่างที่เธอกล่าวหาจริงๆ นั่นแหละ เลยได้แต่เดินเข้าไปหอมขมับบางแรงแรงหนึ่งทีแล้วเข้าไปในโซนห้องครัวตักข้าวต้มสองถ้วยสำหรับเราสองคน ส่วนเธอก็ช่วยรินน้ำส้มที่ผมคั้นไว้ใส่แก้วเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกัน "ฮัลโหลทุกคน" "วันนี้ลลิลมีนัดปาร์ตี้กับเพื่อนนิดหน่อยค่ะ" "เลยจะแวะมาแต่งตัวเป็นซิมเพิลลุคเบาเบาไปร้านนั่งชิลให้ทุกคนดูกันค่ะ" "ลลิลเลือกเป็นเสื้อกล้ามครอปสีดำที่พึ่งเอฟมาตัวนี้ค่ะ" "เป็นไงคะน่ารักมั้ย น่ารักเนอะ" "มีดีเทลขาดหน่อยๆ ดูมีอะไรดี" "ใส่เป็นกระโปรงยีนส์ตัวนี้ดีมั้ยนะ" "ขอลลิลลองแป๊บ" "เริ่ดอยู่น๊า" "ว้าย" วันนี้ผมตั้งใจนั่งดูเธอไลฟ์อยู่ในห้องโดยไม่กลัวว่าชาวเน็ตจะจับผิดเหมือนคลิปที่ผ่านๆ มา จนนึกสนุกอยากลองพาตัวเองเข้าไปอยู่ในจอเล็กเล็กบ้าง เลยใช้จังหวะที่เธอเปลี่ยนชุดแรกเสร็จยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากล้องวิ่งเข้าไปอุ้มเธอเหมือนตุ๊กตาออกไปอีกทางและจับเธอเปลี่ยนจากกระโปรงเป็นกางเกงภายในสิบวินาทีให้เธอทำทีเป็นวิ่งติดกระดุมกางเกงเข้ามายืนหน้ากล้องทำทีเป็นจับผมดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าดูเป็นธรรมชาติยืนคุยกับชาวเน็ตอีกครั้ง จนเธอนึกสนุกเพราะยอดวิวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากสองพันคนเพิ่มเป็นห้าพันคนในเวลาไม่ถึงสองนาที เลยหันมาส่งสัญญาณให้ผมที่ยืนยิ้มกริ่มกอดอกรอเธออยู่วิ่งเข้ามาอุ้มเธอผ่านหน้าจออีกครั้งในชุดที่สองและสาม ทำเอาชาวเน็ตเปลี่ยนมาสนใจขอเปิดว๊าบผมแทน "ค่าตัวพี่เขาแพงมากค่ะ" "มาบ่อยๆ ไม่ได้ ไม่ได้แน่นอนค่ะ" "ไม่หวงค่ะ ไม่หวง" "แต่ลลิลจ่ายค่าตัวพี่เขาไม่ไหว" "ถึงเวลานัดเพื่อนๆ แล้วลลิลไปก่อนนะคะ" "แล้วเจอกันใหม่ค่ะ" "บ๊ายบายยยย" หลังจากที่ฉันลงไลฟ์ในติ๊กต๊อกเรียบร้อยแล้ว ก็เดินมาหย่อนสะโพกมนลงบนตักแกร่งใช้สองแขนเรียวเล็กคล้องคอเขาไว้อย่างออดอ้อนเพราะถือเป็นไลฟ์ที่เหนื่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ ไหนจะวิ่งเข้าวิ่งออกไหนจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในเวลาอันจำกัด ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงไม่กล้าและเขินหนักมากที่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าเขา แต่ชั่วโมงนี้ฉันคงต้องซ่อนความเขินอายเอาไว้ก่อนเพื่อคอนเทนต์ใหม่น่ารักน่ารัก ให้ชาวเน็ตดูได้ไม่เบื่อ ซึ่งมันก็ได้ผลตอบรับที่ดีมากเพราะชาวเน็ตพากันส่งของขวัญมากันอย่างทล่มทลายเพราะอยากจะเห็นหน้าหล่อหล่อของผู้ชายรูปร่างดีที่วิ่งผ่านไปผ่านมาหน้ากล้อง "วิ่งผ่านกล้องตั้งหลายรอบเหนื่อยมั้ยคะ" "ไม่เหนื่อยค่ะ สนุกดี" "วันหลังหนูถ่ายอีกสิ" "เอาแบบเห็นพี่เต็มๆ" "จะมาแย่งอาชีพลลิลรึป่าวคะ" "ลลิลไม่ยอมนะ" "ก็ไม่แน่ค่ะ ลองคิดดูหน่อยดีกว่า" "หึ ซี้ดดด" ฉันอดหมันไส้ให้กับคำพูดหยอกล้อของเขาไม่ได้เลยแอบยื่นหน้าไปกัดตรงซอกคอใต้ปกเสื้อเชิ้ตสีดำจนเป็นรอยฟัน ก่อนจะเอานิ้วขึ้นมาลูบวนพร้อมกับเป่าเบาเบาให้เขาหายเจ็บ เรานั่งกอดกันอยู่ครู่ใหญ่จนหายเหนื่อย เขาก็เดินไปหยิบพุดดิ้งชาไทยในตู้เย็นที่ช่วยกันทำเมื่อช่วงสายมานั่งกินกันเป็นมื้อว่างระหว่างวัน ระหว่างนี้ฉันก็นั่งไล่อ่านและตอบคอมเมนต์ทั้งในยูทูปและติ๊กต๊อกเป็นการขอบคุณที่ทุกคนติดตามและสนับสนุนฉัน แต่ดูเหมือนว่าฉันจะกินไม่ทันใจคนข้างข้าง เขาก็เลยคอยตักพุดดิ้งรสละมุนไม่หวานมากมาป้อนใส่ปากฉันและเขาเองจนหมด มีเขาเป็นแฟนเหมือนฉันเป็นซินเดอเรลล่าเลย(เสียงดนตรี)พี่คงจะอยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าไม่มีหนูคืนนี้คงนอนไม่ค่อยจะหลับอยาก call หาสักทีได้ไหม ตอนไหนที่หนูมีเวลาก็คิดถึงนี่นา คิดถึงหนูที่สุด จะหยุดตัวเองยังไงก็ไม่ไหว🎵🎵🎵 ผมยืนร้องเพลงโปรดที่ผมชอบร้องให้เธอฟังอยู่บนเวทีกลางร้านเหล้าท่ามกลางผู้คนมากมาย มีเธอนั่งยิ้มและร้องตามพร้อมโยกตัวเบาเบาไปกับผมอยู่ตรงโต๊ะมุมประจำของเรา เป็นผมเองที่คะยั้นคะยอขอให้เธอมาดูผมเล่นคืนนี้เพราะไม่อยากขับรถดึกดึกดื่นดื่นคนเดียวหรือจะบอกว่าผมติดเธอมากก็ได้ คืนนี้ร้านไอ้เตอร์เต็มไปด้วยผู้คนที่พากันมาแฮงค์เอ้าท์อย่างเนืองแน่น เป็นอีกคืนที่มีคนขอเพลงที่อยากฟังมากเป็นพิเศษทั้งขอให้ตัวเองขอให้โต๊ะข้างข้างขอให้คนที่แอบชอบ ใช้ผมเป็นสะพานสื่อรัก หรือขอให้ผมร้องเพลงจีบพร้อมขอไอดีคอนแทคส่วนตัวผมก็มี ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงจะร้องให้ฟังขำขำสนุกสนุกไปเรื่อยไม่คิดอะไร แต่วันนี้...ผมมีคนมาคุมแล้วครับ"ขอเพลงได้ครับ แต่ถ้าไอดีคงให้ไม่ได้""แฟนผมมาด้วย เดี๋ยวโดนดุครับผม" พอผมพูดจบเท่านั้นแหละ ลูกค้าในร้านก็พากันส่งเสียงแซวดั
"เอาไก่ย่างมั้ย" "เอา" "กาย หรือ ไก่ย่าง""ไก่ย่างงงงงง""อย่าไปพูดคำนี้กับคนอื่นนะ""มีแต่กายนี่แหละ ที่คิดทะลึ่ง""รู้หรอ กายคิดอะไร""รู้""คิดว่า?" "..." ปึก"โอ้ย!" "ตัวเองนั่นแหละ ทะลึ่ง" "หึ" ไอ้เด็กบ้านี่! เขาเอาหน้าผากกว้างของตัวเองมาชนเข้ากับหน้าผากมนของฉันแทนการใช้มะเหงกเพราะมือกำลังยุ่งอยู่กับการแกะไก่ให้ฉันอยู่ แถมยังเอาสิ่งที่ตัวเองคิดมายัดเยียดให้ฉันคิดเหมือนเขาอีก ร้ายกาจที่สุด ใจดีด้วยหน่อยไม่ได้เลยจริงๆระหว่างรอเขาอาบน้ำ ฉันก็หยิบไอแพดขึ้นมานอนวาดรูปไดอารี่เก็บไว้ เพราะตั้งแต่ไปค่ายฉันก็ยังไม่ได้วาดเลยสักรูป พอหัวถึงหมอนหนังตาก็ปิดสนิทเหมือนถูกปิดสวิตช์ทุกคืนรูปแรกที่ฉันเลือกวาด เป็นรูปเขาที่กำลังยืนทาสีมีฉันนั่งเทสีอยู่ใกล้ๆ ส่วนอีกรูปก็เป็นคืนสุดท้ายที่เราสองคนกำลังนั่งมองตากันอยู่หน้าเต๊นท์ตอนที่คนอื่นๆ กำลังเล่นเกมส์กันอย่างสนุก วาดไปก็คิดถึงช่วงเวลาตอนนั้นไปมันอดทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาไม่ได้ พอวาดเสร็จฉันก็โพสต
"พีช""เรียกเป็นเพื่อน""หรือจะให้เรียกเป็นแฟน?""...""ที่รัก""นี่ ไม่ต้องมาแกล้งเลยนะ""หึ""ไปขับรถเล่นกันมั้ยหรืออยากนอนพัก""อยากไป แต่ก็อยากนอน""ต้องแยกผ้าใส่เครื่องซักผ้าด้วยแหละ""อืม เอาไปปั่นที่ร้านข้างๆ ตรงนี้มั้ย""จะได้ไปหากาแฟกินด้วย""ไปสิ เอาผ้ากายไปปั่นด้วยกันสิ"เมื่อเช้าเราสองคนพากันไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะและแวะกินโจ๊กร้านประจำของเขาจนอิ่ม แต่ก็ยังซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋กับมากินกันที่ห้องอีก เลยทำให้ฉันแปลงร่างเป็นแม่หมูนอนอืดอยู่บนโซฟาอย่างตอนนี้ มีเขานั่งที่พื้นพิงหลังกับโซฟาอยู่ใกล้ๆ ฉันเริ่มชินกับการมีเขานอนเล่นเกมส์อยู่ข้างๆ ซะแล้วสิ พอเราสองคนตกลงกันเรียบร้อย ฉันก็ปลีกตัวมาแยกผ้าใส่ถุงซัก ส่วนเขาก็ลงไปเอากระเป๋าขึ้นมาแยกผ้าเพื่อเอาไปซักพร้อมกัน อันที่จริงที่ห้องฉันก็มีเครื่องซักผ้านะ แต่เห็นคนไปใช้บริการร้านนี้เยอะเลยอยากจะลองไปใช้บ้าง เดินลงมาไม่ถึงห้านาทีก็ถึงร้านเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าขนาดใหญ่ เขาเลือกเครื่องใกล้ก
Part 'นาวา'ผมได้แต่นั่งมองหน้าพี่ชายแฟนตัวเองอย่างใช้ความคิดว่าควรจะรับมือยังไงดี เพราะดูตั้งใจจะเป็นอริกับผมอย่างเห็นได้ชัด ขัดแข่งขัดขาคอยกันซีนผมสุดสุด ทำผมมืดแปดด้านไปหมด ส่วนเธอก็ดูลั้ลลาที่มีคนมาช่วยหนีไปนอนคลุมโปงบนเตียงนุ่มนุ่มไม่สนใจผมเลยสักนิด ตอนนี้ผมได้แต่แอบทดไว้ในใจก่อน รอเธอหายโกรธผมเมื่อไหร่รับประกันได้เลยว่าเธอไม่ได้ลุกจากเตียงแน่หลังจากนอนคิดวิธีชนะใจพี่เมียทั้งคืน ผมก็รีบตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเช้าสไลต์ญี่ปุ่นเพื่อทำคะแนนสักหน่อย เพราะนึกขึ้นได้ที่เธอเคยบอกว่าอลันชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจผมเลยอยากจะขอลองดูสักตั้ง โดยเมนูที่ผมเลือกทำในวันนี้เป็นเมนูง่ายๆ อย่างแซลมอนย่างเกลือ เสิร์ฟคู่กับต้นหอมญี่ปุ่นย่างปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยและเลมอนช่วยเพิ่มรสชาติ มีเครื่องเคียงเป็นทามาโกะยากิและซุปมิโสะ ทันทีที่ผมจัดจานเสร็จเรียบร้อยก็เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกให้สองพี่น้องตื่นขึ้นมาอย่างตรงเวลา ผมเลยเปิดขวดชาเขียวเย็นยี่ห้อด้งที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเทลงแก้วสำหรับผม เธอและพี่ชายของเธอ หันไปมองเธอที่กำลังเดินงัวเงียมาหาผม"ม
"ฮัลโหล พี่ลัน""โอเคค่ะ เดี๋ยวลลิลลงไป รอแป็บน๊า""พี่นาวา ลลิลกลับห้องก่อนนะคะ""เดี๋ยวพี่ลงไปนะ""เดี๋ยวค่ะ พี่ลงไปด้วยเลยดีกว่า""..." หลังจากกินมื้อเย็นที่พี่ชายสุดหล่อซื้อเข้ามาให้เป็นไก่ทอดเกาหลีชุดใหญ่พร้อมกับเบียร์เย็นเย็นห้าหกขวดที่ดูเหมือนว่าซื้อมาเผื่อแฟนน้องสาวด้วยนะ บอกแล้วว่าพี่ลันหน่ะน่ารักแค่ฟอร์มจัดนิดหน่อยเฉพาะกับบางคนเท่านั้นแหละแต่ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกว่าห้องขนาดห้าสิบตารางเมตรที่เคยกว้างเกินไปสำหรับฉัน เวลานี้มันกลับคับแคบเกินไปสำหรับฉัน พี่ลัน และพี่นาวา ที่นั่งเบียดอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันมีพี่ลันนั่งขั้นกลางเราสองคนระหว่างกำลังดูซีรีย์โรแมนติกคอมเมดี้ด้วยกัน อืม... จะพูดยังไงดีแต่มันก็ได้ฟิลลิ่งไปอีกแบบนั่นแหละ"หนู กินป๊อปคอร์นมั้ยคะ""...""อะ เอ่อ""พี่ลัน แบ่งลลิลกินบ้างสิ""อะ พี่ถือให้""หนูน้ำอัดลมค่ะ""แต๊งกิ้ว""..."ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นพี่ลันทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้เลยสักครั้ง ทุกครั้งที่พี่นาวาพยาย
"วันนี้มึงไปร้องเพลงป่ะ""ไปดิ ร้องสี่ทุ่ม""ทำไม จะไป?""เออ อยากชิลหน่อยหว่ะ""ลลิลไปด้วยสิ""...""ทำไมพี่ลันทำหน้าแบบนั้นคะ""พะ พี่อยากไปแบบผู้ชายผู้ชาย""แบบหนุ่มโสดงี้?""อ่าฮะ""พี่นาวา ก็อยากไปแบบหนุ่มโสด?""พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ""ลัน มึงอย่าหาเรื่องให้กู คดีเก่ากูยังเคลียร์ไม่จบ""ฮ่าๆๆ กลัวนี่หว่า""กวนตีนกูไม่พัก"ฉันถึงกับวางช้อนแล้วเปลี่ยนมานั่งกอดอกมองเอ็ดดุอย่างคาดโทษทั้งพี่ลันและพี่นาวา จนสองคนนั้นพากันเลิ่กลั่กรีบทำเป็นเฉไฉหาเรื่องตีกันไม่กล้ามองหน้าฉัน นี่ขนาดบอกว่ายังไม่ค่อยสนิทนะแต่แววเริ่มออกแล้ว ฉันอยากจะรู้จริงๆ เลย ถ้าสนิทจะขนาดไหนคงพากันเที่ยวฉ่ำน่าดู พี่ชายฉันยิ่งฮอตอยู่ด้วยเห็นแบบนี้เสน่ห์แรงสุดสุดเพราะฉันเคยแอบไปส่องคนที่มาฟอลโลช่องทางโซเชียลของพี่ลันมีแต่สาวสวย น่ารัก ลุคนางแบบ จะแซ่บหรือใสใส มีมากดติดตามครบทุกสไตล์ แล้วลองมาอยู่กับพี่นาวาหล่อแบดลุคกร้าวใจของฉันสิ มีหวังฉันได้ปวดหัวทุกวันแน่"อย่าให้ลลิลรู
"อ๊ะ พะ พี่นาวา""หนูตอบพี่ก่อนค่ะ""หายโกรธพี่ยังคะ""มะ มาถามอะไรตอนนี้คะ""ตอบเร็ว ไม่ตอบไม่ต่อนะ""ไม่ต่อก็ไม่ต่อ ลลิลไม่ง้อ""แต่พี่ง้อ""พี่ปวดไปหมดแล้ว"ฉันรีบพาร่างอันเปลือยเปล่าของตัวเองวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ที่เขาแสดงความเจ้าเล่ห์กับฉันเป็นเขาเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน แต่ฉันคิดผิด เพราะเขาตามเข้ามาโดยไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้นไม่ต่างจากฉันเลยสักนิด แถมอาวุธร้ายของเขายังพร้อมรบมากมากจนหน้าฉันร้อนผ่าวไปหมดที่ได้เห็นเต็มๆ ตาแบบนี้ ก่อนจะมายืนซ้อนด้านหลังฉันตรงอ่างล่างหน้าจับขาข้างหนึ่งพาดกับขอบอ่างแล้วกดอาวุธร้ายจนในคราวเดียวทันที ใช้สองมือกอบกุมก้อนลูกบอลสองก้อนของฉันอย่างหวังดีเหมือนช่วยพยุงไม่ให้ฉันล้มแต่กลับบีบเคล้นเต็มแรงจนแดงไปหมด ฝากรอยคิสมาร์กไปตามซอกคอไหล่มนและแผ่นหลังจนทั่วขยับเอวสอบเร็วและแรงจนร่างของฉันสั่นคลอนไปตามแรงโยกของเขา แถมหวังดีเอามือใหญ่มากอบกุมเนินสามเหลี่ยมเอาไว้ไม่ให้กระแทกกับขอบอ่างแต่กลับใช้นิ้วแหวกว่ายไปตามรอยแยกแล้วเล่นวนอยู่อย่างนั้นไม่หยุด จนฉันอ่อนปวกเปียกแทบยืนไม่ไหวระบา
"หนูคะ วันหยุดยาวนี้ไปไหนมั้ย""ลลิลไม่รู้จะไปไหนค่ะ พี่ลันก็มีงาน""คนคงเยอะด้วย""บินไปหาคุณแม่พี่ที่สวิตกันมั้ย""จะดีเหรอคะ ลลิลกลัวคุณแม่พี่ดุ""แม่พี่อยากเจอหนูจะตาย""บ่นจนพี่หูชาแล้วไม่พาหนูไปหาสักที""จริงเหรอคะ แล้วค่าตั๋วเท่าไหร่คะ""ลลิลจะได้ดูเงินในบัญชี""หึ หนู แฟนหนูรวยมากนะเผื่อหนูลืม""ลลิลไม่ลืม แต่ลลิลอยากจ่ายเอง"ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าได้ว่าคบกับเขาเพราะว่าเขารวย พยายามแชร์ค่าใช้จ่ายค่าข้าวหรือของเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันก็ต้องเก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมที่เหลืออีกสองเทอมสุดท้ายและไว้ใช้จ่ายยามจำเป็นด้วย ถึงแม้ว่าพี่ลันจะโอนค่าขนมเข้าบัญชีไว้ให้ฉันใช้ทุกเดือนไม่ให้ขาดมือหรือจะเรียกว่ามีเหลือใช้ก็เถอะ ในเมื่อเขาไม่ยอมบอกฉันเลยเปิดแอพพลิเคชั่นสายการบินของหนูมายดูค่าตั๋วทั้งขาไปขากลับ ก่อนจะมาคำนวณเงินในบัญชีและตอบตกลงไปกับเขาโดยใช้เงื่อนไขเดิมว่าฉันจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเอง ส่วนเขาก็ขอจ่ายค่าที่พักกับค่าช้อปปิ้งให้ฉันห้ามมีข้อแม้ เพราะเขาบอกว่าเป็นเขาที่ชวนฉันไปเขาก็ต้องดูแล"หนูอยากไปซื้อเสื้อผ้าเพิ่มมั้ย เผื่ออยากใส่ถ่ายรูปสวยสวย""อืมมม ลลิลว่าลลิลเคยเอฟ
"ลลิลลูก เรียนจบแล้วมาอยู่กับแม่ที่นี่มั้ยคะ""ละ... ""แม่ครับ น้องต้องอยู่กับผม""ถามน้องรึยัง หน่ะเรา""น้องต้องอยู่กับผมอยู่แล้วครับ""แต่พี่นาวาคะ สวิตเป็นเมืองในฝันของลลิลเลยนะคะ""..." ฉันพูดออกไปแค่นั้น เขาก็ตีหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จาอีกเลย เป็นคุณพ่อกับคุณแม่ที่ถามไถ่ชวนฉันคุยตลอดมื้อเย็น ปล่อยให้เขานั่งหน้าหงิกเหมือนเด็กโดนขัดใจอยู่คนเดียว จนถึงช่วงค่ำคุณแม่ก็พาฉันมานอนด้วย โดยให้คุณพ่อไปนอนห้องรับแขกแทน ทำฉันรู้สึกเกรงใจท่านมากๆ แต่เพราะท่านแอบกระซิบบอกว่าคุณแม่อยากมีลูกสาวมานานแล้วและเอ็นดูฉันมากขอให้ฉันเติมความฝันให้คุณแม่ท่านหน่อย ฉันเลยไม่อิดออดเดินตามคุณแม่เข้าห้องนอนมาอย่างง่ายดาย แถมท่านยังหาชุดนอนสมัยสาวๆ ให้ฉันยืมใส่นอนอีกด้วยก๊อก ก๊อก ก๊อก"เจ้าตัวแสบมาทวงของรักคืนแล้วแน่ๆ""เดี๋ยวแม่ไปเปิดเองจ๊ะ""ไงเรา หายงอนแล้ว?" "โธ่! คุณแม่ครับ ผมไม่ได้งอนสักหน่อย""ผมแค่ใช้ความคิด""ผมพาน้องกลับห้องได้รึยังครับ""แม่ขอยืมตัวลูกสาวแม่ก่อน""เรากลับไปนอนคนเดียวคืนนึง""แต่ผม...""ไม่มีแต่ กู๊ดไนท์นะจ๊ะลูกชาย"ผมได้แต่เดินคอตกกลับมาห้องฝั่งตรงข้าม กลายเป็นหมาหัวเน่าของจริง ท
"หนูคะ วันหยุดยาวนี้ไปไหนมั้ย""ลลิลไม่รู้จะไปไหนค่ะ พี่ลันก็มีงาน""คนคงเยอะด้วย""บินไปหาคุณแม่พี่ที่สวิตกันมั้ย""จะดีเหรอคะ ลลิลกลัวคุณแม่พี่ดุ""แม่พี่อยากเจอหนูจะตาย""บ่นจนพี่หูชาแล้วไม่พาหนูไปหาสักที""จริงเหรอคะ แล้วค่าตั๋วเท่าไหร่คะ""ลลิลจะได้ดูเงินในบัญชี""หึ หนู แฟนหนูรวยมากนะเผื่อหนูลืม""ลลิลไม่ลืม แต่ลลิลอยากจ่ายเอง"ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าได้ว่าคบกับเขาเพราะว่าเขารวย พยายามแชร์ค่าใช้จ่ายค่าข้าวหรือของเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันก็ต้องเก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมที่เหลืออีกสองเทอมสุดท้ายและไว้ใช้จ่ายยามจำเป็นด้วย ถึงแม้ว่าพี่ลันจะโอนค่าขนมเข้าบัญชีไว้ให้ฉันใช้ทุกเดือนไม่ให้ขาดมือหรือจะเรียกว่ามีเหลือใช้ก็เถอะ ในเมื่อเขาไม่ยอมบอกฉันเลยเปิดแอพพลิเคชั่นสายการบินของหนูมายดูค่าตั๋วทั้งขาไปขากลับ ก่อนจะมาคำนวณเงินในบัญชีและตอบตกลงไปกับเขาโดยใช้เงื่อนไขเดิมว่าฉันจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเอง ส่วนเขาก็ขอจ่ายค่าที่พักกับค่าช้อปปิ้งให้ฉันห้ามมีข้อแม้ เพราะเขาบอกว่าเป็นเขาที่ชวนฉันไปเขาก็ต้องดูแล"หนูอยากไปซื้อเสื้อผ้าเพิ่มมั้ย เผื่ออยากใส่ถ่ายรูปสวยสวย""อืมมม ลลิลว่าลลิลเคยเอฟ
"อ๊ะ พะ พี่นาวา""หนูตอบพี่ก่อนค่ะ""หายโกรธพี่ยังคะ""มะ มาถามอะไรตอนนี้คะ""ตอบเร็ว ไม่ตอบไม่ต่อนะ""ไม่ต่อก็ไม่ต่อ ลลิลไม่ง้อ""แต่พี่ง้อ""พี่ปวดไปหมดแล้ว"ฉันรีบพาร่างอันเปลือยเปล่าของตัวเองวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ที่เขาแสดงความเจ้าเล่ห์กับฉันเป็นเขาเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน แต่ฉันคิดผิด เพราะเขาตามเข้ามาโดยไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้นไม่ต่างจากฉันเลยสักนิด แถมอาวุธร้ายของเขายังพร้อมรบมากมากจนหน้าฉันร้อนผ่าวไปหมดที่ได้เห็นเต็มๆ ตาแบบนี้ ก่อนจะมายืนซ้อนด้านหลังฉันตรงอ่างล่างหน้าจับขาข้างหนึ่งพาดกับขอบอ่างแล้วกดอาวุธร้ายจนในคราวเดียวทันที ใช้สองมือกอบกุมก้อนลูกบอลสองก้อนของฉันอย่างหวังดีเหมือนช่วยพยุงไม่ให้ฉันล้มแต่กลับบีบเคล้นเต็มแรงจนแดงไปหมด ฝากรอยคิสมาร์กไปตามซอกคอไหล่มนและแผ่นหลังจนทั่วขยับเอวสอบเร็วและแรงจนร่างของฉันสั่นคลอนไปตามแรงโยกของเขา แถมหวังดีเอามือใหญ่มากอบกุมเนินสามเหลี่ยมเอาไว้ไม่ให้กระแทกกับขอบอ่างแต่กลับใช้นิ้วแหวกว่ายไปตามรอยแยกแล้วเล่นวนอยู่อย่างนั้นไม่หยุด จนฉันอ่อนปวกเปียกแทบยืนไม่ไหวระบา
"วันนี้มึงไปร้องเพลงป่ะ""ไปดิ ร้องสี่ทุ่ม""ทำไม จะไป?""เออ อยากชิลหน่อยหว่ะ""ลลิลไปด้วยสิ""...""ทำไมพี่ลันทำหน้าแบบนั้นคะ""พะ พี่อยากไปแบบผู้ชายผู้ชาย""แบบหนุ่มโสดงี้?""อ่าฮะ""พี่นาวา ก็อยากไปแบบหนุ่มโสด?""พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ""ลัน มึงอย่าหาเรื่องให้กู คดีเก่ากูยังเคลียร์ไม่จบ""ฮ่าๆๆ กลัวนี่หว่า""กวนตีนกูไม่พัก"ฉันถึงกับวางช้อนแล้วเปลี่ยนมานั่งกอดอกมองเอ็ดดุอย่างคาดโทษทั้งพี่ลันและพี่นาวา จนสองคนนั้นพากันเลิ่กลั่กรีบทำเป็นเฉไฉหาเรื่องตีกันไม่กล้ามองหน้าฉัน นี่ขนาดบอกว่ายังไม่ค่อยสนิทนะแต่แววเริ่มออกแล้ว ฉันอยากจะรู้จริงๆ เลย ถ้าสนิทจะขนาดไหนคงพากันเที่ยวฉ่ำน่าดู พี่ชายฉันยิ่งฮอตอยู่ด้วยเห็นแบบนี้เสน่ห์แรงสุดสุดเพราะฉันเคยแอบไปส่องคนที่มาฟอลโลช่องทางโซเชียลของพี่ลันมีแต่สาวสวย น่ารัก ลุคนางแบบ จะแซ่บหรือใสใส มีมากดติดตามครบทุกสไตล์ แล้วลองมาอยู่กับพี่นาวาหล่อแบดลุคกร้าวใจของฉันสิ มีหวังฉันได้ปวดหัวทุกวันแน่"อย่าให้ลลิลรู
"ฮัลโหล พี่ลัน""โอเคค่ะ เดี๋ยวลลิลลงไป รอแป็บน๊า""พี่นาวา ลลิลกลับห้องก่อนนะคะ""เดี๋ยวพี่ลงไปนะ""เดี๋ยวค่ะ พี่ลงไปด้วยเลยดีกว่า""..." หลังจากกินมื้อเย็นที่พี่ชายสุดหล่อซื้อเข้ามาให้เป็นไก่ทอดเกาหลีชุดใหญ่พร้อมกับเบียร์เย็นเย็นห้าหกขวดที่ดูเหมือนว่าซื้อมาเผื่อแฟนน้องสาวด้วยนะ บอกแล้วว่าพี่ลันหน่ะน่ารักแค่ฟอร์มจัดนิดหน่อยเฉพาะกับบางคนเท่านั้นแหละแต่ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกว่าห้องขนาดห้าสิบตารางเมตรที่เคยกว้างเกินไปสำหรับฉัน เวลานี้มันกลับคับแคบเกินไปสำหรับฉัน พี่ลัน และพี่นาวา ที่นั่งเบียดอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันมีพี่ลันนั่งขั้นกลางเราสองคนระหว่างกำลังดูซีรีย์โรแมนติกคอมเมดี้ด้วยกัน อืม... จะพูดยังไงดีแต่มันก็ได้ฟิลลิ่งไปอีกแบบนั่นแหละ"หนู กินป๊อปคอร์นมั้ยคะ""...""อะ เอ่อ""พี่ลัน แบ่งลลิลกินบ้างสิ""อะ พี่ถือให้""หนูน้ำอัดลมค่ะ""แต๊งกิ้ว""..."ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นพี่ลันทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้เลยสักครั้ง ทุกครั้งที่พี่นาวาพยาย
Part 'นาวา'ผมได้แต่นั่งมองหน้าพี่ชายแฟนตัวเองอย่างใช้ความคิดว่าควรจะรับมือยังไงดี เพราะดูตั้งใจจะเป็นอริกับผมอย่างเห็นได้ชัด ขัดแข่งขัดขาคอยกันซีนผมสุดสุด ทำผมมืดแปดด้านไปหมด ส่วนเธอก็ดูลั้ลลาที่มีคนมาช่วยหนีไปนอนคลุมโปงบนเตียงนุ่มนุ่มไม่สนใจผมเลยสักนิด ตอนนี้ผมได้แต่แอบทดไว้ในใจก่อน รอเธอหายโกรธผมเมื่อไหร่รับประกันได้เลยว่าเธอไม่ได้ลุกจากเตียงแน่หลังจากนอนคิดวิธีชนะใจพี่เมียทั้งคืน ผมก็รีบตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเช้าสไลต์ญี่ปุ่นเพื่อทำคะแนนสักหน่อย เพราะนึกขึ้นได้ที่เธอเคยบอกว่าอลันชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจผมเลยอยากจะขอลองดูสักตั้ง โดยเมนูที่ผมเลือกทำในวันนี้เป็นเมนูง่ายๆ อย่างแซลมอนย่างเกลือ เสิร์ฟคู่กับต้นหอมญี่ปุ่นย่างปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยและเลมอนช่วยเพิ่มรสชาติ มีเครื่องเคียงเป็นทามาโกะยากิและซุปมิโสะ ทันทีที่ผมจัดจานเสร็จเรียบร้อยก็เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกให้สองพี่น้องตื่นขึ้นมาอย่างตรงเวลา ผมเลยเปิดขวดชาเขียวเย็นยี่ห้อด้งที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเทลงแก้วสำหรับผม เธอและพี่ชายของเธอ หันไปมองเธอที่กำลังเดินงัวเงียมาหาผม"ม
"พีช""เรียกเป็นเพื่อน""หรือจะให้เรียกเป็นแฟน?""...""ที่รัก""นี่ ไม่ต้องมาแกล้งเลยนะ""หึ""ไปขับรถเล่นกันมั้ยหรืออยากนอนพัก""อยากไป แต่ก็อยากนอน""ต้องแยกผ้าใส่เครื่องซักผ้าด้วยแหละ""อืม เอาไปปั่นที่ร้านข้างๆ ตรงนี้มั้ย""จะได้ไปหากาแฟกินด้วย""ไปสิ เอาผ้ากายไปปั่นด้วยกันสิ"เมื่อเช้าเราสองคนพากันไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะและแวะกินโจ๊กร้านประจำของเขาจนอิ่ม แต่ก็ยังซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋กับมากินกันที่ห้องอีก เลยทำให้ฉันแปลงร่างเป็นแม่หมูนอนอืดอยู่บนโซฟาอย่างตอนนี้ มีเขานั่งที่พื้นพิงหลังกับโซฟาอยู่ใกล้ๆ ฉันเริ่มชินกับการมีเขานอนเล่นเกมส์อยู่ข้างๆ ซะแล้วสิ พอเราสองคนตกลงกันเรียบร้อย ฉันก็ปลีกตัวมาแยกผ้าใส่ถุงซัก ส่วนเขาก็ลงไปเอากระเป๋าขึ้นมาแยกผ้าเพื่อเอาไปซักพร้อมกัน อันที่จริงที่ห้องฉันก็มีเครื่องซักผ้านะ แต่เห็นคนไปใช้บริการร้านนี้เยอะเลยอยากจะลองไปใช้บ้าง เดินลงมาไม่ถึงห้านาทีก็ถึงร้านเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าขนาดใหญ่ เขาเลือกเครื่องใกล้ก
"เอาไก่ย่างมั้ย" "เอา" "กาย หรือ ไก่ย่าง""ไก่ย่างงงงงง""อย่าไปพูดคำนี้กับคนอื่นนะ""มีแต่กายนี่แหละ ที่คิดทะลึ่ง""รู้หรอ กายคิดอะไร""รู้""คิดว่า?" "..." ปึก"โอ้ย!" "ตัวเองนั่นแหละ ทะลึ่ง" "หึ" ไอ้เด็กบ้านี่! เขาเอาหน้าผากกว้างของตัวเองมาชนเข้ากับหน้าผากมนของฉันแทนการใช้มะเหงกเพราะมือกำลังยุ่งอยู่กับการแกะไก่ให้ฉันอยู่ แถมยังเอาสิ่งที่ตัวเองคิดมายัดเยียดให้ฉันคิดเหมือนเขาอีก ร้ายกาจที่สุด ใจดีด้วยหน่อยไม่ได้เลยจริงๆระหว่างรอเขาอาบน้ำ ฉันก็หยิบไอแพดขึ้นมานอนวาดรูปไดอารี่เก็บไว้ เพราะตั้งแต่ไปค่ายฉันก็ยังไม่ได้วาดเลยสักรูป พอหัวถึงหมอนหนังตาก็ปิดสนิทเหมือนถูกปิดสวิตช์ทุกคืนรูปแรกที่ฉันเลือกวาด เป็นรูปเขาที่กำลังยืนทาสีมีฉันนั่งเทสีอยู่ใกล้ๆ ส่วนอีกรูปก็เป็นคืนสุดท้ายที่เราสองคนกำลังนั่งมองตากันอยู่หน้าเต๊นท์ตอนที่คนอื่นๆ กำลังเล่นเกมส์กันอย่างสนุก วาดไปก็คิดถึงช่วงเวลาตอนนั้นไปมันอดทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาไม่ได้ พอวาดเสร็จฉันก็โพสต
(เสียงดนตรี)พี่คงจะอยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าไม่มีหนูคืนนี้คงนอนไม่ค่อยจะหลับอยาก call หาสักทีได้ไหม ตอนไหนที่หนูมีเวลาก็คิดถึงนี่นา คิดถึงหนูที่สุด จะหยุดตัวเองยังไงก็ไม่ไหว🎵🎵🎵 ผมยืนร้องเพลงโปรดที่ผมชอบร้องให้เธอฟังอยู่บนเวทีกลางร้านเหล้าท่ามกลางผู้คนมากมาย มีเธอนั่งยิ้มและร้องตามพร้อมโยกตัวเบาเบาไปกับผมอยู่ตรงโต๊ะมุมประจำของเรา เป็นผมเองที่คะยั้นคะยอขอให้เธอมาดูผมเล่นคืนนี้เพราะไม่อยากขับรถดึกดึกดื่นดื่นคนเดียวหรือจะบอกว่าผมติดเธอมากก็ได้ คืนนี้ร้านไอ้เตอร์เต็มไปด้วยผู้คนที่พากันมาแฮงค์เอ้าท์อย่างเนืองแน่น เป็นอีกคืนที่มีคนขอเพลงที่อยากฟังมากเป็นพิเศษทั้งขอให้ตัวเองขอให้โต๊ะข้างข้างขอให้คนที่แอบชอบ ใช้ผมเป็นสะพานสื่อรัก หรือขอให้ผมร้องเพลงจีบพร้อมขอไอดีคอนแทคส่วนตัวผมก็มี ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงจะร้องให้ฟังขำขำสนุกสนุกไปเรื่อยไม่คิดอะไร แต่วันนี้...ผมมีคนมาคุมแล้วครับ"ขอเพลงได้ครับ แต่ถ้าไอดีคงให้ไม่ได้""แฟนผมมาด้วย เดี๋ยวโดนดุครับผม" พอผมพูดจบเท่านั้นแหละ ลูกค้าในร้านก็พากันส่งเสียงแซวดั