จะว่าไปตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันแอบคิดสิ่งที่สงสัยมาตลอดว่าคนที่เป็นแฟนตัวยงของฉันในทุกช่องทางโซเชี่ยล คนที่คอยส่งของขวัญราคาแพงแพงให้ใช่เขาหรือป่าว เพราะฉันพึ่งสังเกตเห็นชื่อแบรนด์เสื้อผ้าของเขา 'CHARM' เมื่อวันที่ฉันไปถ่ายแบบ ป้ายโลโก้บนถุงแพ็คเก็ตที่ฉันแอบเอฟมา มันตรงกับชื่อต่อท้ายของใครคนนั้น แถมอักษรย่อ 'Nvcharm' ก็ต้องเป็นชื่อเขาไม่ผิดแน่ เป็นคนเดียวกับที่พึ่งส่งซุปเปอร์แต๊งค์และคอมเมนต์ที่ชาวเน็ตพากันกดโกรธ แต่ที่ฉันพึ่งสงสัยก็เพราะทุกช่องทางการติดต่อและโซเชี่ยลส่วนตัวของเขาที่ใช้คุยกับฉัน เขาใช้ชื่อจริง 'nava.nutthakorn' ถ้าเป็นเขาจริงๆ ฉันคงตื่นเต้นมากแน่ๆ เพราะมันเป็นพรมหมลิขิตชัดชัดเลย
"พี่นาวาขา วันนี้แฟนตัวยงของลลิลน่าสงสารมาก" "ยังไงคะ" "เพราะโดนแฟนคลับของลลิลพากันรุมกดโกรธคอมเมนต์ของเขาเป็นพันคนเลยค่ะ" "หึ แล้วหนูจะปลอบใจเขายังไงดี" "ลลิลว่าส่งข้อความไปหาหน่อยดีกว่า" "ตั้งแต่ทำช่องมาลลิลไม่เคยขอบคุณเขาอย่างจริงจังเลยค่ะ" "..." ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง "ไม่ดูมือถือหน่อยหรอคะ" "เผื่อมีธุระด่วน" "หนูช่วยดูให้พี่หน่อยซิ" "ข้อความจากช่องลลิลนี่นา" "พี่เองค่ะ แฟนตัวยงของหนู" "แต่ตอนนี้เป็นแฟนตัวจริงของหนูด้วยนะ" "หว๊า เฉลยง่ายกว่าที่คิดไว้อีก" "หึ" ฟอด "แต่ก็ขอบคุณนะคะ เปย์ให้ลลิลเยอะมากเลย" "ขอบคุณแค่นี้เองหรอ น้อยจัง" "..." ตลอดทางที่เรากำลังกลับคอนโด ฉันก็คิดหนักว่าจะตอบแทนเขายังไงดีนอกจากหมูกระทะกับกาแฟที่เคยแอบบอกเขาไว้ เขินอยู่เหมือนกันนะ รู้สึกเหมือนปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อเลยหรือจะแกล้งงอนที่ไม่ยอมบอกฉันตั้งแต่แรกดี แต่พอลองเอาความน่ารักของเขามาหักลบกันแล้วกลับกลายเป็นฉันเองนี่แหละที่ควรตอบแทนเขามากกว่างอนเขากลับที่สุด พอถึงห้องปุ๊บฉันเลยวิ่งไปอาบน้ำแปรงฟันในห้องน้ำปั๊บเพราะตั้งใจจะมอบจูบดูดดื่มแบบที่เขาพึ่งสอนให้เป็นการตอบแทนเล็กเล็กน้อยน้อยก่อนนอนสักหน่อย แต่แล้วขณะที่ฉันกำลังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีอยู่ใต้ฝักบัวเรนชาวเวอร์ หูของฉันก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้น ทำฉันตกใจหันไปมองตามเสียงพยายามใช้สองมือน้อยน้อยปิดล่างปิดบนเอาไว้ให้ได้มากที่สุด "พะ พี่นาวาเข้ามาทำไมคะ" "พี่ร้อนอยากอาบน้ำ" "แต่ลลิลยังอาบไม่เสร็จนี่คะ" "พี่ช่วยค่ะ" "จุ๊บ" "อ๊ะ อื้ม" "ไหน ไหนบอกว่าช่วยไง" "พี่ก็ช่วยอยู่นี่ไง" "อ๊ะ อ๊า" เพราะว่าผมรู้สึกร้อนอย่างที่บอกจริงๆ แต่ว่าเป็นร้อนรุ่มจากข้างใน และอยากจะตามมาทวงคำขอบคุณจากเธอที่เฝ้าถามผมอย่างออดอ้อนมาตลอดทางว่าผมอยากได้อะไร เพราะถึงไม่ใช่ผมเธอก็ตั้งใจอยากจะหาของขวัญตอบแทนกลับไปอยู่แล้วอยากเป็นผู้ให้บ้าง ผมเลยขอใช้โอกาสนี้ทำให้เธอปรับตัวคุ้นชินกับผมก่อนที่เธอจะต้องรับศึกหนักกับน้องชายตัวร้ายของผมและอยากให้เธอปล่อยใจไปกับผมตอนที่เราทั้งคู่มีสติอย่างตอนนี้ ผมเดินตรงเข้าไปยืนซ้อนข้างหลังร่างบางที่เต็มใบด้วยฟองสบู่ ค่อยๆ ใช้สองมือหนาของผมช่วยถูตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยแล้วมาหยุดอยู่ที่ลูกบอลนุ่มนิ่มสองลูกใช้เวลาบีบอยู่นานก่อนจะค่อยๆ ลากมือข้างหนึ่งไปตามผิวเนียนลื่นจนลงไปถึงเนินบอบบางที่ผมเคยสัมผัสครั้งนึง แล้วค่อยๆ แหวกกลีบดอกไม้จนเจอเกสรนิ้วซุกซนวนเล่นกับจุดอ่อนไหวอยู่อย่างนั้นจนร่างบางอ่อนยวบ ผมจึงต้องใช้ขาข้างหนึ่งเกี่ยวขาเรียวเล็กไว้ราวกับช่วยพยุงให้เธอยืนได้ไม่ล้ม คอยกดจูบไปตามซอกหูเล็กและลำคอหวังช่วยเบี่ยงเบนความสนใจเวลาที่ผมเพิ่มนิ้วลงไปในช่องคับแคบเพื่อเตรียมพร้อมไว้สำหรับน้องชายของผมเธอจะได้เจ็บน้อยลงหน่อยก็ยังดี "พะ พี่ พี่นาวาขา" "หืม หนูอย่าทำเสียงแบบนี้ได้มั้ย" "พี่จะทนไม่ไหว" "หนะ หนูไม่ไหว" "พี่ขอได้มั้ยคะ" "คะ ค่ะ" "บะ เบาได้มั้ย หนูกลัว" "จะพยายามคับผม" พอเธออนุญาตผมก็ค่อยๆ ส่งน้องชายตัวร้ายเข้าไปในช่องคับแคบทางด้านหลังจนสุดทาง รอจนเธอปรับตัวได้ถึงแม้ว่ามันจะอึดอัดมากแค่ไหนแต่ผมก็ไม่อยากให้เธอเจ็บมากเกินไปอยากให้เธอมีความสุขในครั้งแรกไปพร้อมกับผม พอเธอพร้อมผมก็ค่อยๆ ขยับสะโพกสอบ จับใบหน้าจิ้มลิ้มหันมารับจูบจากผม โดยมืออีกข้างก็ทำหน้าที่ช่วยนวดติ่งเกสรด้านหน้าให้ผลิตน้ำหวานออกมาอีกหน่อย ทำเธอส่งเสียงครางหวานหวานเรียกชื่อผมจนผมทนไม่ไหวเสียงของเธอมันปลุกอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในตัวผมให้ลุกโชนขยับเอวสอบแรงขึ้นเร็วขึ้นพาทั้งผมและเธอไปสู่ห้วงอารมณ์สั่นไหวพร้อมกัน "อ๊า / อ่าาา" ก่อนจะช้อนตัวเธออุ้มขึ้นโดยที่ปากของเรายังคงประกบกันไว้พาเธอไปเช็ดตัวอย่างเร่งรีบ จนเธอขยับขาเรียวขึ้นมาเกี่ยวเอวสอบของผมไว้ราวกับกลัวตกปล่อยให้ผมอุ้มเธอเดินไปตามที่ใจผมต้องการ ทั้งตรงโซฟาในห้องนอน ยืนดูวิวริมกระจกที่ไม่มีใครสามารถมองเห็น แล้วมาจบลงที่เตียงกว้างจนเธอหมดแรง ผมถึงปล่อยให้เมียตัวน้อยของผมนอนพักโดยไม่ลืมที่จะเช็ดตัวให้เธออีกครั้งหาชุดนอนผ้านิ่มตัวโปรดมาสวมใส่ให้เธอ ก่อนจะขึ้นไปพลิกตัวเธอมานอนกอดผมเหมือนทุกคืน"ยัยมาย ฉันชอบนักร้องคนนี้จัง""ฉันไปขอคอนแทคให้เอามั้ย""จะดีหรอ""แหมมมม ลลิล"วันนี้ฉันมาฉลองยอดไลค์และยอดซับสไครบของช่อง LALIL ครบหนึ่งแสน มีหนูมายกับยัยมินคนสำคัญของช่องมาร่วมฉลองให้กับฉันด้วย เพราะมีเพื่อนรักอย่างสองคนนี้คอยช่วยคิดคอนเทนต์ ช่วยคอมเมนต์ และหลายครั้งที่มาเป็นแขกรับเชิญให้กับฉันทำให้อีพีนั้นยอดวิวสูงสุดสุดเพราะความน่ารักสวยสดใสและเป็นธรรมชาติของพวกนางสองคน โดยร้านที่พวกเราเลือกมาก็มีเพื่อนอย่างติวเตอร์เป็นเจ้าของ ถ้าเกิดฉันเมาเกินไปยังไงก็ปลอดภัยห่างห่วงที่จริงฉันก็มาร้านเตอร์อยู่หลายครั้งหรือเรียกว่าเป็นขาประจำเลยจะดีกว่า แต่ยังไม่เคยเจอ นักร้องคนนี้เลย เขาเสียงแหบมีเสน่ห์ สูง ผิวสองสีกำลังดี ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำลงมาสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกแกร่งดูมีกล้ามแน่นๆ ซ่อนอยู่ ใส่ต่างหูสีดำหนึ่งข้าง ให้ลุคเพลย์บอยนิดๆ เจ้าชู้หน่อยๆ สายตาคมกรุ่มกริ่มที่ส่งลงมาจากเวทีดูขี้เล่น แต่คงไม่ซุกซนเท่าสายตาของฉันที่มองเขาอยู่ตอนนี้ น้องลลิลอยากได้คนนี้... ติ๊งnava.nutthakorn : ทักครับ 😙nava.nutthakorn : พี่นาวาคับผมnava.nutthakorn : ไปหาที่เงียบๆ คุยกันมั้ยคับน้องลลิ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือพรหมลิขิตที่พาให้ฉันเข้ามาใกล้เขามากขนาดนี้ เพราะระหว่างทางที่เขากำลังขับรถไปส่งฉัน กลับกลายเป็นเราใช้เส้นทางเดียวกัน ถนนเดียวกัน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเหมือนกัน และเราอยู่คอนโดเดียวกัน ต่างกันแค่ชั้นบนสุดเป็นของเขา ส่วนฉันอยู่ชั้นกลางกลางเท่านั้นเอง ห่างกันแค่นี้เองยัยลลิล โชคชะตานำพาสุดสุดไปเลยระหว่างที่ฉันกำลังจะออกจากลิฟต์โดยสารที่ขึ้นมาพร้อมกับเขา แต่สองขาก็ต้องหยุดชะงัก เพราะเขาไม่ยอมปล่อยมือหนาออกจากมือของฉันที่เขาจับเล่นมาตลอดทางตั้งแต่อยู่ในรถราวกับเป็นสกุชชี่ให้เขาคอยบีบเล่น ฉันหันกลับไปมองเขาที่ยืนไขว้ขาใช้หลังแกร่งพิงกระจกในลิฟต์เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งด้วยสายตางุนงงแฝงความสงสัย ก่อนที่หัวใจดวงน้อยจะเต้นระรัวอีกครั้งกับคำถามของเขา"หนูคะ" "คะ พี่นาวา""หนูง่วงรึยัง""ยังไม่ง่วงค่ะ ปกติลลิลนอนดึก""ขึ้นไปดูหนังห้องพี่มั้ยคะ""..." ติ๊งผมที่ไม่อยากเสียโอกาสไป จึงใช้จังหวะเธอเผลอหันมาคุยกับผมเนียนพาเธอขึ้นมาชั้นบนสุดที่ผมอยู่ ชั้นนี้มีแค่ห้องผมคนเดียวเท่านั้น จนเสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นทำเธอตกใจจนหน้าสวยสวยของเธอแสดงความเลิ่กลั่กออกมาโดย
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของฉันกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา ฉันพยายามค่อยๆ ขยับตัวทีละนิดทีละนิด เพื่อจะได้ไม่รบกวนเขาและฉันก็กลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเจอหน้าสดไร้เครื่องสำอางของฉันด้วย แต่ที่ไม่มั่นใจสุดสุดไปเลยก็คือกลิ่นปากตอนตื่นนอนที่ยังไม่ได้แปรงฟันไม่ได้ทำความสะอาดนี่แหละ รีบไปจัดการตัวเองก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นอายแน่เลยยัยลลิลหลังจากฉันล้างหน้าล้างตาบ้วนปากเสร็จ พี่เขาก็ยังคงนอนคว่ำหน้าหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนขนาดใหญ่สีเทาเข้ม ฉันอยากจะกลับไปห้องตัวเองแต่ก็ไม่รู้รหัสเปิดประตู ครั้งจะปลุกแต่ก็ไม่กล้า เลยขอแอบเดินดูวิวตรงกระจกที่เห็นวิวเมืองมุมกว้างมีแสงพระอาทิตย์ยามเช้าสอดส่อง สวยจัง ห้องนี้คงราคาสูงริบน่าดู รอไปรอมาท้องก็เริ่มส่งเสียงร้องประท้วงด้วยความหิว ไหนๆ ก็ไหนๆแล้วฉันเลยถือวิสาสะไปดูในตู้เย็นหน่อยแล้วกันเผื่อจะมีของสดติดตู้ไว้บ้างจะได้ทำอาหารเช้าเป็นการตอบแทนสำหรับการดูแลเป็นอย่างดีตลอดสิบชั่วโมงที่เรารู้จักกัน โชคดีที่ในตู้เย็นมีไข่ไก่กับไส้กรอกพอสำหรับสองที่ ฉันเลยทำไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายๆ สองถ้วยทานรองท้องเป็นมื้อเช้าของเราสองคน"หอมจังเลยค่ะ""อุ้ย ตื่นแล้วหรอคะ" "ลล
พอใกล้ถึงเวลา ผมก็ลงมาหาเธอหน้าลิฟต์โดยนัดแนะให้จังหวะลิฟต์ที่ผมลงเปิดไปรับเธอพอดี ซึ่งต้องแอบอาศัยโชคช่วยอยู่เหมือนกัน เพราะคีย์การ์ดผมกดชั้นเธอไม่ได้และคีย์การ์ดเธอก็กดชั้นผมไม่ได้เหมือนกัน เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านคอนโดจึงออกแบบจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงได้เฉพาะชั้นที่ตัวเองอยู่ติ๊ง"พอดีเลยค่ะ""ครับ โชคดีจัง""หนูอยากทานอะไรคะ" "ลลิลให้พี่เลือกค่ะ""พี่อยากลองไปบรรทัดทอง""พี่ยังไม่เคยไปเลยค่ะ""หรอคะ งั้นไปกันค่ะ""ลลิลพึ่งไปทำคอนเทนต์มา เซียนสุดสุด""พี่นาวาอยากทานชาบูหม่าล่าหรือปิ้งย่างดีคะ""แต่ก็มีร้านซีฟู้ดนะ ลลิลยังไม่เคยลอง""ชาบูดีมั้ยคะ ค่อยไปลองร้านซีฟู้ดกันต่อ""ได้เลยค่ะ ลลิลแล้วแต่พี่นาวา"และความบังเอิญมีอยู่จริงหรืออาจเป็นเพราะผมกับเธอใจตรงกันก็ได้ ซึ่งน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า 'หึ' วันนี้ผมใส่เป็นเสื้อยืดโอเวอร์ไซต์สีขาวคู่กางเกงสแล็คห้าส่วนสีดำกับรองเท้าผ้าใบสีขาวดูเข้ากันกับชุดน่ารักน่ารักของเธอเหมือนนัดกันมา ก่อนจะจูงมือเธอไปที่รถสีฟ้าน้ำทะเลคันโปรดของผมที่จอดรออยู่ลานจอดซุปเปอร์คาร์ และเลือกเปิดเพลงที่ผมชอบร้องที่ร้านเวลาเห็นเธอมานั่งในมุมเดิมเดิม
จุ๊บพอมาถึงคอนโด เขาก็มาส่งฉันถึงหน้าห้องรอจนฉันปิดประตูถึงหันหลังเดินกลับไปแถมยังแอบมาขโมยจูบปากสีชมพูพีชของฉันแบบไม่ทันตั้งตัวอีก เขินชะมัดเลย ทำฉันยืนใจเต้นอยู่หลังประตูอยู่นานสองนาน ก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเป็นกระโปรงแขนยาวลายการ์ตูน แล้วมานั่งอ่านคอมเมนต์และทยอยไล่ตอบจนครบ ตอนนี้เราก็รู้จักกันครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว เป็นวันเดย์ที่เหมือนฝันของฉันเลย ไม่เสียแรงที่ไปขอไหว้พระขอพรกับยัยมายแล้วก็มินนี่ พอนึกถึงยัยสองคนนั่นเสียงแจ้งเตือนในแชทของฉันก็ดังกระหน่ำไม่หยุด สงสัยจะเห็นรูปที่ฉันลงในสตอรี่แน่แน่เลย NooMine : ฉันรู้ ฉันเห็นMiniMinnie : ยังไงไหนเล่าNooMine : 🧐MiniMinnie : 🫣L.Lalil : อะไร อะไรL.Lalil : 🤫L.Lalil : เดทแรกของฉันL.Lalil : แต่สำหรับพี่เขาฉันไม่รู้NooMine : งุ้ย จิกหมอนเว่อร์MiniMinnie : เขินจังแก 🤭และความเล่นใหญ่โปรดไว้ใจเพื่อนสาวของฉัน เราคุยกันต่ออีกสองสามประโยคก็มีสายวิดิโอคอลมาจากเขาคนที่พึ่งแยกกันเมื่อชั่วโมงก่อน โชคดีที่มีเอฟเฟคฟิลเตอร์ขั้นเทพไม่ต้องกลัวว่าหน้าสดจะน่ากลัว ฉันเลยจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยสักหน่อยก่อนจะกดรับ แต่พอมองไปที่หน
ผมไม่ลืมที่จะพาเธอไปเดินซื้อกระโปรงนักศึกษาตัวใหม่ซึ่งตอนแรกเธอก็งอแงไม่ยอมอยากใส่แค่ที่มีเพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงปีสุดท้ายของเธอแล้ว แต่ผมก็ยังดื้อที่จะพาเธอไปให้ได้ทำเธอหน้างอปากเชิดแอบงอนกับความเอาแต่ใจของผม ไม่เป็นไรเกิดมาผมก็ยังไม่เคยลองง้อผู้หญิงคนไหนมาก่อนเหมือนกัน น้องลลิลจะเป็นคนแรกที่ผมยอมเธอ"หนูใส่ไซต์อะไรคะ""...""อ๊ะ""เอวประมาณยี่สิบสอง""ไซต์เอสครับ ความยาวประมาณนี้""ห้าตัวครับ""..."เพราะเธอไม่ยอมพูดกับผม ทำให้ผมต้องวัดขนาดเอาเองโดยการโอบเอวเธอมายืนด้านหน้าผมใช้สองมือหนาจับเข้าที่เอวเธอเพื่อวัดขนาดเอื้อมมือข้างหนึ่งไปหยิบกระโปรงตัวอย่างที่แขวนไว้มาทาบที่ตัวเธอเพื่อวัดความยาวโดยที่แขนอีกข้างยังไม่ปล่อยจากการโอบกอดเธอที่ยืนแก้มแดงเป็นลูกตำลึงแต่ยังคงบึ้งตึงใส่ผมอยู่ทำผมอดอมยิ้มอย่างเอ็นดูเธอไม่ได้ เหมือนว่าผมจะเจอเด็กดื้อซะแล้วสิฟอด"พี่นาวา!""ครับผม"หลังจากได้ของครบเรียบร้อยผมก็จูงมือเด็กดื้อที่พึ่งเพิ่มข้อหาให้ผมอีกหนึ่งข้อเพราะการกระทำอันอุกอาจของผมที่ก้มลงไปหอมแก้มเธอท่ามกลางสายตาพนักงานในร้านที่พากันมองยิ้มกรุ่มกริ่มมาที่เราสองคนจนเธอหันมาถลึงตากลมโตเหมือนน
เมื่อคืนกว่าฉันจะได้ลงมานอนห้องตัวเองก็เกือบตีสองเพราะเขาพาฉันดูหนังจนจบถึงสองเรื่องทำฉันเกือบจะได้หลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวีกับเขาแล้ว ดีที่เสียงข้อความจากพี่ลันดังขึ้นทำฉันที่กำลังสะลึมสะลืมนอนหนุนตักแกร่งอยู่สะดุ้งตัวตื่นเต็มตาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูและเปิดเพลงที่พี่ลันพึ่งอัดเสร็จส่งมาให้ฉันลองฟัง ฉันเลยหยิบแอร์พอร์ตในกระเป๋ามาใส่ที่หูฉันข้างหนึ่งและหูของเขาข้างหนึ่งเปิดผลงานของพี่ชายให้เขาได้ฟังด้วยกัน เขาถึงกับทึ่งในความสามารถของพี่ลันที่อายุเท่ากันกับเขา แถมให้ฉันเปิดรูปพี่ชายสุดหล่อของฉันให้เขาดูอีก ฉันว่าก็สูสีกันอยู่นะ แต่พี่ลันจะเซอร์กว่าหน่อย ส่วนพี่นาวาก็เท่ห์กว่านิดนึง"หนูง่วงยังคะ""นอนห้องพี่ก็ได้นะ""ลลิลคิดถึงหมอนข้างที่ห้องค่ะ""พี่ก็เป็นหมอนข้างให้หนูได้เหมือนกัน""ไว้ลลิลมาดูหนังด้วยอีกนะคะ""..."เท่านั้นแหละเขาก็ชักสีหน้าเป็นบึ้งตึงเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจใส่ฉันทันทีและเดินล้วงกระเป๋าก้าวขายาวๆ นำฉันออกไปที่ลิฟต์ไม่รอฉันเลยแม้แต่น้อยจนฉันต้องรีบซอยเท้าเพื่อให้ทันเขา ไม่มีเสียงพูดคุยแม้แต่คำเดียวมีเพียงเสียงลิฟต์ให้ได้ยินว่าถึงชั้นของฉันแล้ว ฉันเลยเดินก้ม
"ค่าตัวลลิลแพงนะคะ" "ลลิลบอกไว้ก่อนเลย""หึ เท่าไหร่คะที่บอกว่าแพง""อืม....""บุฟเฟ่ต์อร่อยอร่อยหนึ่งปีค่ะ""หึ พี่ให้ทั้งชีวิตเลยค่ะ""..."และสุดท้ายฉันก็สู้เขาไม่ได้อีกตามเคย โดนเขาหยอดกลับมาแบบชนะน็อคอีกเหมือนเดิม ไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้บ้างเลย จนฉันต้องเฉไฉเปลี่ยนเรื่องชวนเขาคุยว่าเราจะไปกินอะไรกันดีคุยไปคุยมาอยู่นานเราเลยเลือกที่จะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับไปทำกินกันที่ห้อง เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยชอบที่ที่มีคนเยอะเยอะและมีอากาศร้อนเท่าไหร่ ชอบทานรสจัดแต่ต้องไม่เผ็ดมากด้วย ทำฉันแอบรู้สึกผิดที่พาเขาไปทานทั้งผัดกระเพราร้านร้อนร้อนกับซีฟู้ดแซ่บแซ่บเมื่อสองมื้อก่อนเลย มิหน่าละ ตอนนั้นเขาถึงหน้าแดงปากแดงแถมเหงื่อออกเยอะด้วย ฉันเลยขอไถ่โทษโดยการลงมือทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ากับผักโขมอบชีสให้เขาทาน เพิ่มเฟรนช์ฟรายส์ทอดไว้ให้เขาทานเล่นระหว่างรอฉันด้วย เพราะฉันต้องรีบทำรายงานต่อจึงเลือกใช้ห้องครัวของฉันสำหรับปรุงอาหาร ขืนถ้าหลวมตัวขึ้นไปห้องชั้นบนสุดคงได้เถลไถลจนรายงานไม่เสร็จแน่"น่าทานมากเลยค่ะ""พี่นาวาลองชิมก่อนค่ะ""ถ้าไม่อร่อยค่อยสั่งเดลิเวอรี่กันใหม่
จะว่าไปตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันแอบคิดสิ่งที่สงสัยมาตลอดว่าคนที่เป็นแฟนตัวยงของฉันในทุกช่องทางโซเชี่ยล คนที่คอยส่งของขวัญราคาแพงแพงให้ใช่เขาหรือป่าว เพราะฉันพึ่งสังเกตเห็นชื่อแบรนด์เสื้อผ้าของเขา 'CHARM' เมื่อวันที่ฉันไปถ่ายแบบ ป้ายโลโก้บนถุงแพ็คเก็ตที่ฉันแอบเอฟมา มันตรงกับชื่อต่อท้ายของใครคนนั้น แถมอักษรย่อ 'Nvcharm' ก็ต้องเป็นชื่อเขาไม่ผิดแน่ เป็นคนเดียวกับที่พึ่งส่งซุปเปอร์แต๊งค์และคอมเมนต์ที่ชาวเน็ตพากันกดโกรธ แต่ที่ฉันพึ่งสงสัยก็เพราะทุกช่องทางการติดต่อและโซเชี่ยลส่วนตัวของเขาที่ใช้คุยกับฉัน เขาใช้ชื่อจริง 'nava.nutthakorn' ถ้าเป็นเขาจริงๆ ฉันคงตื่นเต้นมากแน่ๆ เพราะมันเป็นพรมหมลิขิตชัดชัดเลย"พี่นาวาขา วันนี้แฟนตัวยงของลลิลน่าสงสารมาก""ยังไงคะ""เพราะโดนแฟนคลับของลลิลพากันรุมกดโกรธคอมเมนต์ของเขาเป็นพันคนเลยค่ะ""หึ แล้วหนูจะปลอบใจเขายังไงดี""ลลิลว่าส่งข้อความไปหาหน่อยดีกว่า""ตั้งแต่ทำช่องมาลลิลไม่เคยขอบคุณเขาอย่างจริงจังเลยค่ะ""..."ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง"ไม่ดูมือถือหน่อยหรอคะ""เผื่อมีธุระด่วน
"พูดมากเหมือนกันนะมึงอะ""ดูร้อนเหมือนกันนะพี่อะ""ดีดีนะเว้ยพี่ ผมสามคนดูแลเพื่อนมาเป็นอย่างดี""เออ" "ถ้าทำเพื่อนผมเสียใจ เพจร้านพี่ปลิวทุกแพลทฟอร์มในสองนาที""...""เตอร์ไม่ต้องขู่พี่เขาเลยนะ" "พี่นาวาต้องขอบคุณมายน๊า ที่มายกล้าเดินไปหาพี่""คับ ขอบคุณคับผม หึ""น้องมายกับน้องมินนี่เข้าไปเลือกชุดที่ร้านพี่ได้เลยนะ""จุ้นจ้านสุดสุด""นี่หิวอาหารเม็ดหรอ"ที่ผมเคยได้ยินว่าหนูมายกับไอ้นายเป็นคู่กัดกัน ไม่เกินจริงเลยสักนิด เพราะหลังจากที่ผมปะทะคารมและตอบรับคำไอ้เตอร์กับไอ้กายเสร็จ ก็กลายมาเป็นผู้ชมนั่งดูเด็กสองคนนี้ตีกันจนผมแอบสงสารแฟนคนสวยกับไอ้กายที่นั่งรถมาคันเดียวกันสี่คนคงจะปวดหัวน่าดู ก่อนจะหันมาสนใจเธอที่กำลังนั่งกินครัวซองค์กับชาเย็นอย่างเอร็ดอร่อย แต่ท่านั่งของเธอทำผมรู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อยเพราะเธอเล่นนั่งไม่ระวัง จนผมต้องเอื้อมไปหยิบกระเป๋าโน๊ตบุ้คมาวางปิดที่ต้นขาขาวให้และมองด้วยสายตาเอ็ดดุใส่เธอไปเพียงแวบเดียวเท่านั้นก็ต้องแพ้ให้กับลูกอ้อนของเธอที่ส่งยิ้มตาหยีตั
"หนูเป็นแฟนพี่นะคะ""...""...คะ ค่ะ"ฉันนั่งเปิดดูสตอรี่ที่เขาลงให้ตอนอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อสองชั่วโมงก่อนวนไปซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ฝันไปหรือว่าฟังผิดจนคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็มีหลักฐานอย่างข้อความไดเรคที่เพื่อนๆ ส่งเข้ามาแซวไม่หยุด แถมห้องแชทกลุ่มก็ดังรัวจนแทบระเบิดเป็นสิ่งยืนยันช่วยให้ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง จนเสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้นฉันเลยหันไปตามเสียง แต่ภาพที่เห็นไม่อ่อนโยนต่อใจฉันเลยเพราะเขาเล่นเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์แผงอกขาวขาวกล้ามหน้าท้องแน่นๆ พาสายตาฉันมองไล่ลงมาเรื่อยๆ จนเห็นไลน์วีเชฟดูเซ็กซี่มากมาก แต่ต้องมาหยุดอยู่ตรงปมผ้าขนหนูสีขาวที่ผูกปมไว้อย่างหมิ่นเหม่ เลยทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อหล่อที่กำลังยืนเช็ดผมและมองฉันด้วยสายตากรุ่มกริ่มแอบอมยิ้มอยู่ก่อน น่าขายหน้าชะมัดเลยลลิลเอ้ย"หนูเช็ดผมให้พี่หน่อยสิ""แต่พี่ยืนเช็ดจนจะแห้งแล้วนะ""พี่อยากให้หนูเช็ดให้""งั้นก็นั่งสิคะ ลลิลเช็ดให้ไม่ถึง"ฉันเลยต้องเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งอยู่บนเ
ผมค่อยๆ ถอยริมฝีปากออกโดยที่ยังวางทาบไว้ตรงริมฝีปากหวานเปิดโอกาสให้เธอได้พักหายใจสักหน่อยแต่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นผมก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้าไปรุกล้ำในโพรงปากเล็กเพื่อควานหาน้ำหวานอีกครั้ง พอยิ่งได้ยินเสียงครางประท้วงเล็กเล็กของเธอก็ยิ่งทำให้อารมณ์ภายในที่ซ่อนไว้มานานพลุ่งพล่านมากขึ้น ผมค่อยๆ ดันตัวเธอให้นอนราบไปกับโซฟานุ่มนุ่มโดยที่มือข้างหนึ่งทำหน้าที่ประคองศีรษะเธอเอาไว้คอยนวดผ่อนคลายให้เธอไปด้วย ส่วนอีกข้างก็ทำหน้าที่บีบนวดลูกบอลนิ่มนิ่มให้เธอไม่ห่างนานนับนาทีเพื่อให้เธอปรับตัวและปล่อยใจไปกับผมก่อนจะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากร้อนลงมากดจูบที่คางหนึ่งทีซุกไซร้ตามลำคอหอมหอมด้วยความหลงไหล มืออันแสนซุกซนของผมค่อยๆ เลื่อนลูบไล้ตามผิวเนียนลื่นตั้งแต่หน้าท้องเรื่อยลงมาจนถึงต้นขาขาว แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วร้ายเข้าไปใกล้จุดสั่นไหวของเธอทีละนิดทีละนิด จนสามารถแทรกเข้าไปภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋วของเธอ ได้สัมผัสเนินนุ่มนิ่มจนผมอยากจะลองดันนิ้วเข้าไปหาเกสรดอกไม้เล็กเล็กสักหน่อยแล้วกดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นจนมีน้ำหวานไหลปริ่มออกมา เบี่ยงเบนความสนใจจากนิ้วเรียวที่กำลังแทรกตัวเข้าไปในช่องคับแคบโดยการเลื่อนตัวขึ้นไป
"ทุกคนนน ลลิลพึ่งเอฟชุดมาใหม่ค่ะ""ดูซิคะ แค่แพ็คเก็ตก็ดีงามแล้ว""ลลิลจะเริ่มแล้วนะคะ""เป็นไงคะ ชุดแรกน่ารักเนอะ""ลลิลว่าน่ารัก""ถ้าใส่กับรองเท้าคู่นี้จะเข้ากันมั้ยนะ""เดี๋ยวลลิลลองให้ดูค่ะ""เริ่ดอยู่นะ เป็นเอฟเวอรี่เดย์ลุค""อุ้ยยย เสื้อตัวนี้น่ารักไม่ไหว""แต่ว่าใส่ยังไงละเนี่ย""แบบนี้หรอ หรือว่าแบบนี้""ใครรู้วิธีใส่เสื้อตัวนี้คอมเมนต์มาบอกลลิลหน่อยนะคะ""วอนเจ้าของแบรนด์ส่งฮาวทูมาให้ที พลีชชช"NvCharm ส่งของขวัญ 'ติ๊กต๊อก ยูนิเวอร์ส' x2"ว้าว ขอบคุณ คุณ NvCharm ตามมาส่งของขวัญให้ลลิลถึงติ๊กต๊อกเลย"ผมขึ้นมานั่งดูเธอไลฟ์ในติ๊กต๊อกบนห้องของผมที่อยู่ชั้นบนสุดเพราะกลัวว่าถ้าผมนั่งหลบมุมในห้องของเธอถ้าชาวเน็ตตาดีเห็นเงาผมขึ้นมาอาจส่งผลกระทบกับเธอก็ได้ และอีกอย่างผมจะได้กดส่งของขวัญให้เธอได้สะดวก ซึ่งเสื้อผ้าที่เธอแกะจากห่อมาลองใส่วิ่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หน้าไลฟ์ก็เป็นเสื้อผ้าจากแบรนด์ของผมที่เธอแอบสั่งมาโดยใช้ชื่อและที่อยู่ของหนูมายบ้างน้องมินนี่บ้างเพราะเธอกลัวว่าพนักงานในร้านจะจำชื่อเธอได้แล้วเธอจะไม่ได้อุดหนุนสินค้าของผม ว่าที่แฟนของผมน่ารักใช่มั้ย น่ารักซะจนผมหลงเธอไม
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามารับฉันหลังเลิกเรียนเพื่อไปถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์เขาต่อช่วงบ่าย ซึ่งเขาก็ดูแลจัดคิวไม่ให้กระทบต่อชั่วโมงเรียนของฉัน เรียกว่าใส่ใจรายละเอียดสุดสุด พอมาถึงเขาก็พาฉันเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้าทำผมท่ามกลางสีหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาเมื่อเห็นฉัน พี่พี่ทีมงานถูกบรีฟมาว่าขอลุคใสใสเกาหลีเกาใจที่สามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้ลุค หลังจากที่ฉันถูกแปลงโฉมจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดจั้มสูทเกาะอกกางเกงขาสั้นผ้าทวิตญี่ปุ่นที่สามารถใส่ได้หลายแบบ คู่กับรองเท้าแมรี่เจนสีแดงและถุงเท้าลายลูกไม้ยาวเลยข้อขึ้นมานิดหน่อยให้ดูน่ารักซุกซนเซ็กซี่เล็กเล็ก และมีเสื้อคุมแขนยาวลุคลูกคุณเข้าชุดกันที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายในเซ็ตต่อไป ซึ่งฉันต้องพยายามคลายความตื่นเต้นโดยการสูดลมหายใจเข้าออกลึกลึกและรีบเดินออกมาพร้อมเข้าฉากเพื่อไม่ให้ทุกคนรอนาน แต่สายตาคู่สวยของฉันก็ต้องสะดุดเข้ากับตากล้องหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ในกางเกงยีนส์สีดำเสื้อคอกลมสีขาวด้านในสวมแจ๊คเก็ตยีนส์สีเข้ากับกางเกงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวดำยี่ห้อดังราวกับเป็นนายแบบยืนรอ
"วันนี้พี่ไปร้องเพลง""หนูไปด้วยกันมั้ยคะ""ลลิลว่าจะไปทำคอนเทนต์ที่เยาวราช""รอพี่ร้องเสร็จแล้วไปด้วยกันนะ" "อืมมม งั้นลลิลค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ""วันนี้ไปลลิลกับพี่ก่อน""กินอะไร ทำไมน่ารัก"หลังจากที่ผมหลอกล่อเด็กน้อยได้เรียบร้อย ผมก็กลับมานั่งรอเธออาบน้ำแต่งตัวที่โซฟาหน้าทีวี หยิบมือถือขึ้นมาเปิดคลิปที่เธอลงเมื่อชั่วโมงก่อนเป็นคลิปทำอาหารสั้นสั้นและเหมือนว่าจะเป็นเมนูที่เธอทำให้ผมกินเมื่อวันก่อนอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ดูน่ากินไปหมด แต่ในคลิปเธอกลับไม่ยอมบอกวิธีทำเบคอนให้กรุบกรอบอยู่ได้นาน แถมยังทิ้งคำพูดในตอนท้ายไว้ว่าขอเก็บสูตรนี้ไว้ให้คนพิเศษได้ทานเท่านั้น ทำเอาชาวเน็ตพากันคอมเมนต์เป็นรูปหัวใจแตกสลายกันรัวรัว ต่างจากผมที่นั่งยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินก็ผมได้ลองกินแล้วนี่นา เพราะฉะนั้นผมเลยกดหัวใจเต็มดวงสีชมพูส่งให้เธอเป็นการสวนกระแส"พี่นาวาไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหรอคะ""อาบค่ะ ก็พี่รอหนู""ลลิลคิดว่าพี่นาวาจะกลับไปอาบที่ห้อง""เสื้อผ้าพี่ก็มีอยู่ในตู้หนู""มิหน่าล่ะ ค่าน้ำห้องลลิลถึงขึ้น""พี่นาวาแอบมาใช้น้ำตอนที่ลลิลไม่อยู่ใช่มั้ยคะ""หึ""ว่าแต่หนูเถอะ...""ใจคอจะย
"ค่าตัวลลิลแพงนะคะ" "ลลิลบอกไว้ก่อนเลย""หึ เท่าไหร่คะที่บอกว่าแพง""อืม....""บุฟเฟ่ต์อร่อยอร่อยหนึ่งปีค่ะ""หึ พี่ให้ทั้งชีวิตเลยค่ะ""..."และสุดท้ายฉันก็สู้เขาไม่ได้อีกตามเคย โดนเขาหยอดกลับมาแบบชนะน็อคอีกเหมือนเดิม ไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้บ้างเลย จนฉันต้องเฉไฉเปลี่ยนเรื่องชวนเขาคุยว่าเราจะไปกินอะไรกันดีคุยไปคุยมาอยู่นานเราเลยเลือกที่จะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับไปทำกินกันที่ห้อง เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยชอบที่ที่มีคนเยอะเยอะและมีอากาศร้อนเท่าไหร่ ชอบทานรสจัดแต่ต้องไม่เผ็ดมากด้วย ทำฉันแอบรู้สึกผิดที่พาเขาไปทานทั้งผัดกระเพราร้านร้อนร้อนกับซีฟู้ดแซ่บแซ่บเมื่อสองมื้อก่อนเลย มิหน่าละ ตอนนั้นเขาถึงหน้าแดงปากแดงแถมเหงื่อออกเยอะด้วย ฉันเลยขอไถ่โทษโดยการลงมือทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ากับผักโขมอบชีสให้เขาทาน เพิ่มเฟรนช์ฟรายส์ทอดไว้ให้เขาทานเล่นระหว่างรอฉันด้วย เพราะฉันต้องรีบทำรายงานต่อจึงเลือกใช้ห้องครัวของฉันสำหรับปรุงอาหาร ขืนถ้าหลวมตัวขึ้นไปห้องชั้นบนสุดคงได้เถลไถลจนรายงานไม่เสร็จแน่"น่าทานมากเลยค่ะ""พี่นาวาลองชิมก่อนค่ะ""ถ้าไม่อร่อยค่อยสั่งเดลิเวอรี่กันใหม่
เมื่อคืนกว่าฉันจะได้ลงมานอนห้องตัวเองก็เกือบตีสองเพราะเขาพาฉันดูหนังจนจบถึงสองเรื่องทำฉันเกือบจะได้หลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวีกับเขาแล้ว ดีที่เสียงข้อความจากพี่ลันดังขึ้นทำฉันที่กำลังสะลึมสะลืมนอนหนุนตักแกร่งอยู่สะดุ้งตัวตื่นเต็มตาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูและเปิดเพลงที่พี่ลันพึ่งอัดเสร็จส่งมาให้ฉันลองฟัง ฉันเลยหยิบแอร์พอร์ตในกระเป๋ามาใส่ที่หูฉันข้างหนึ่งและหูของเขาข้างหนึ่งเปิดผลงานของพี่ชายให้เขาได้ฟังด้วยกัน เขาถึงกับทึ่งในความสามารถของพี่ลันที่อายุเท่ากันกับเขา แถมให้ฉันเปิดรูปพี่ชายสุดหล่อของฉันให้เขาดูอีก ฉันว่าก็สูสีกันอยู่นะ แต่พี่ลันจะเซอร์กว่าหน่อย ส่วนพี่นาวาก็เท่ห์กว่านิดนึง"หนูง่วงยังคะ""นอนห้องพี่ก็ได้นะ""ลลิลคิดถึงหมอนข้างที่ห้องค่ะ""พี่ก็เป็นหมอนข้างให้หนูได้เหมือนกัน""ไว้ลลิลมาดูหนังด้วยอีกนะคะ""..."เท่านั้นแหละเขาก็ชักสีหน้าเป็นบึ้งตึงเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจใส่ฉันทันทีและเดินล้วงกระเป๋าก้าวขายาวๆ นำฉันออกไปที่ลิฟต์ไม่รอฉันเลยแม้แต่น้อยจนฉันต้องรีบซอยเท้าเพื่อให้ทันเขา ไม่มีเสียงพูดคุยแม้แต่คำเดียวมีเพียงเสียงลิฟต์ให้ได้ยินว่าถึงชั้นของฉันแล้ว ฉันเลยเดินก้ม