Part 'นาวา'
ผมได้แต่นั่งมองหน้าพี่ชายแฟนตัวเองอย่างใช้ความคิดว่าควรจะรับมือยังไงดี เพราะดูตั้งใจจะเป็นอริกับผมอย่างเห็นได้ชัด ขัดแข่งขัดขาคอยกันซีนผมสุดสุด ทำผมมืดแปดด้านไปหมด ส่วนเธอก็ดูลั้ลลาที่มีคนมาช่วยหนีไปนอนคลุมโปงบนเตียงนุ่มนุ่มไม่สนใจผมเลยสักนิด ตอนนี้ผมได้แต่แอบทดไว้ในใจก่อน รอเธอหายโกรธผมเมื่อไหร่รับประกันได้เลยว่าเธอไม่ได้ลุกจากเตียงแน่ หลังจากนอนคิดวิธีชนะใจพี่เมียทั้งคืน ผมก็รีบตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเช้าสไลต์ญี่ปุ่นเพื่อทำคะแนนสักหน่อย เพราะนึกขึ้นได้ที่เธอเคยบอกว่าอลันชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจผมเลยอยากจะขอลองดูสักตั้ง โดยเมนูที่ผมเลือกทำในวันนี้เป็นเมนูง่ายๆ อย่างแซลมอนย่างเกลือ เสิร์ฟคู่กับต้นหอมญี่ปุ่นย่างปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยและเลมอนช่วยเพิ่มรสชาติ มีเครื่องเคียงเป็นทามาโกะยากิและซุปมิโสะ ทันทีที่ผมจัดจานเสร็จเรียบร้อยก็เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกให้สองพี่น้องตื่นขึ้นมาอย่างตรงเวลา ผมเลยเปิดขวดชาเขียวเย็นยี่ห้อด้งที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเทลงแก้วสำหรับผม เธอและพี่ชายของเธอ หันไปมองเธอที่กำลังเดินงัวเงียมาหาผม "มึงไปซื้อมาหรอ" "กูทำเอง" "ดูไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่" "หึ" "อร่อยมั้ยคะ" "อะ..." "พอกินได้" "หนูลองกินทามาโกะยากิ พี่ตั้งใจทำให้หนูเลยนะ" "ขอบ..." "งั้นๆ แหละลลิล พี่ชิมแล้ว" "..." ซู๊ด ซู๊ด "หึ อร่อย?" "กูเสียดายของ" "..." ฉันนั่งดูพี่ลันจัดการอาหารเช้าตรงหน้าจนหมดเกลี้ยงทุกจานแม้แต่ข้าวก็ไม่เหลือเลยสักคำ แถมยกถ้วยซุปมิโสะขึ้นมาซดเสียงดังอย่างเอร็ดอร่อย เพียงแต่ปากแข็งเพราะกลัวเสียฟอร์มต่อหน้าคนที่พี่ลันตั้งแง่ ฉันรู้ว่าที่เขาตื่นแต่เช้าไปซื้อของมาทำอาหารให้เราสองคนพี่น้องกินก็เพราะว่าอยากจะเอาใจพี่ชายของฉันและอยากจะง้อฉันด้วย ซึ่งถือว่าเขาทำได้ดีแต่จะได้ใจจากพี่ลันบ้างรึป่าวอันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่าเป็นอีกมื้อที่ถูกปากพี่ลันมากเท่านั้น "ลลิล พี่ไปก่อนนะมีนัดคุยงานสิบโมง" "อ้าว แล้วพี่ลันจะมาหาลลิลอีกมั้ย" "มาสิ เดี๋ยวมานอนเป็นเพื่อน" "ไว้พี่แชทหานะ" "ค่ะ บ๊ายบาย ขับรถดีดีนะคะ" ทันทีที่ประตูปิดลง สถานการณ์ระหว่างฉันกับเขาก็กลับมาเหมือนเดิมเป็นเขาที่พยายามชวนฉันคุย เขาถามฉันหนึ่งประโยคฉันตอบเขาเพียงหนึ่งคำ และเดินเลี่ยงไปล้างจานกองใหญ่ในซิงค์ล้างจานที่ช่วยกันเก็บมาวางหลังจากกินเสร็จ ก่อนสายตาจะเหลือบเห็นโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดดูไม่คุ้นตาวางอยู่บนโต๊ะกินข้าวทำฉันนึกถึงพี่ลันทันทีกลัวว่าจะวางลืมไว้แล้วจะติดต่องานไม่ได้ จนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลายเป็นเขาที่เดินเข้ามารับสาย ฉันเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่เลยถามออกไปทันทีที่เขาคุยงานเสร็จเพื่อไขข้อข้องใจที่มี "พี่นาวา ซื้อโทรศัพท์ใหม่หรอคะ" "ค่ะ พึ่งซื้อที่สนามบินเมื่อวาน" "แล้วเครื่องเก่าละคะ ยังไม่พังไม่ใช่หรอ" "พี่โดนล้วงกระเป๋าตอนซื้อกาแฟหน่ะ" "..." "วันนี้ก็ว่าจะไปทำบัตรเครดิตกับบัตรประชาชนใหม่" "..." "อืม วันนี้ลลิลไม่มีเรียน ลลิลไปเป็นเพื่อนมั้ย" "ไปเป็นแฟนได้มั้ยคะ" "..." "หึ หนูหายโกรธพี่แล้วหรอ" "ยังค่ะ ลลิลแค่เบื่อๆ อยากไปนั่งรถเล่น" ฟอด "ไม่เป็นไรคับ พี่รอหนูได้" ฉันมองหน้าที่กำลังอมยิ้มกรุ่มกริ่มทำแววตาเจ้าชู้ใส่ฉันนานนับนาที ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงให้กับคำพูดหวานหวานชวนหวั่นไหวของเขา รอจนหัวใจเต้นคงที่เลยพาตัวเองไปอาบน้ำแต่งตัวเลือกเสื้อผ้าที่ค่อนข้างเรียบร้อยเป็นพิเศษอย่างเดรสกระโปรงสั้นแขนพองสีครีมเผื่อว่าเขาต้องไปติดต่อสถานที่ราชการด้วย ระหว่างที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีรอเขาอาบน้ำแต่งตัว ฉันก็คิดทบทวนพยายามหยิบยกเหตุผลของเขาลองมาบวกลบไปมาดู เพราะก็เคยเห็นข่าวคนดังโดนล้วงกระเป๋าที่ต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายมันก็ยังคงมีความน้อยใจหลงเหลืออยู่ดี และอยากเห็นความพยายามของเขาอีกสักหน่อย เพื่อเป็นบทเรียนระหว่างเราสองคนให้นึกถึงใจกันเสมอไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือเวลาที่ต้องห่างไกล จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำแบบนี้ขึ้นอีก "หนูขา พี่ขอมือถือหนูหน่อยสิ" "เอาไปทำอะไรคะ" "พี่อยากปลดบล็อค" "แต่ลลิลยังไม่อยากปลด" "แต่พี่..." "ตามจำนวนวันที่พี่ไม่ส่งข่าวหาลลิลค่ะ" "ครบเมื่อไหร่ ลลิลถึงจะอันบล็อค" "ใจร้ายสุดสุด" "ลลิลได้ยินนะ" ผมได้แต่แอบบ่นออกมาเบาเบาให้กับความใจแข็งของเธอ แถมหูก็ดีมากซะด้วยจนผมนึกเชื่อคำพูดของคนอื่นที่เขาบอกกันว่า 'มนุษย์เมียเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุด' นึกอย่างนั้นก็อดขำออกมาไม่ได้จนเธอเอียงคอมามองด้วยแววตาเหมือนแมวน้อยขี้สงสัย ก่อนจะพากันไปทำธุระเรื่องเอกสารสำคัญของผม ซึ่งกว่าเสร็จเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วงบ่าย เราเลยต้องฝากท้องไว้กับร้านตามสั่งง่ายๆ ข้างทางที่ใกล้ที่สุด แล้วชวนเธอขึ้นมาช่วยอันแพ็คกระเป๋าบนห้องวิวสวยของผม โดยยกกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่เต็มไปด้วยของฝากสำหรับเธอคนเดียว ให้เธอนั่งอันแพ็คไปทำคอนเทนต์สั้นๆ อย่างตื่นเต้นไป เห็นเธอมีความสุขกลับมายิ้มเพราะผมอีกครั้ง แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว"ฮัลโหล พี่ลัน""โอเคค่ะ เดี๋ยวลลิลลงไป รอแป็บน๊า""พี่นาวา ลลิลกลับห้องก่อนนะคะ""เดี๋ยวพี่ลงไปนะ""เดี๋ยวค่ะ พี่ลงไปด้วยเลยดีกว่า""..." หลังจากกินมื้อเย็นที่พี่ชายสุดหล่อซื้อเข้ามาให้เป็นไก่ทอดเกาหลีชุดใหญ่พร้อมกับเบียร์เย็นเย็นห้าหกขวดที่ดูเหมือนว่าซื้อมาเผื่อแฟนน้องสาวด้วยนะ บอกแล้วว่าพี่ลันหน่ะน่ารักแค่ฟอร์มจัดนิดหน่อยเฉพาะกับบางคนเท่านั้นแหละแต่ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกว่าห้องขนาดห้าสิบตารางเมตรที่เคยกว้างเกินไปสำหรับฉัน เวลานี้มันกลับคับแคบเกินไปสำหรับฉัน พี่ลัน และพี่นาวา ที่นั่งเบียดอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันมีพี่ลันนั่งขั้นกลางเราสองคนระหว่างกำลังดูซีรีย์โรแมนติกคอมเมดี้ด้วยกัน อืม... จะพูดยังไงดีแต่มันก็ได้ฟิลลิ่งไปอีกแบบนั่นแหละ"หนู กินป๊อปคอร์นมั้ยคะ""...""อะ เอ่อ""พี่ลัน แบ่งลลิลกินบ้างสิ""อะ พี่ถือให้""หนูน้ำอัดลมค่ะ""แต๊งกิ้ว""..."ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นพี่ลันทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้เลยสักครั้ง ทุกครั้งที่พี่นาวาพยาย
"วันนี้มึงไปร้องเพลงป่ะ""ไปดิ ร้องสี่ทุ่ม""ทำไม จะไป?""เออ อยากชิลหน่อยหว่ะ""ลลิลไปด้วยสิ""...""ทำไมพี่ลันทำหน้าแบบนั้นคะ""พะ พี่อยากไปแบบผู้ชายผู้ชาย""แบบหนุ่มโสดงี้?""อ่าฮะ""พี่นาวา ก็อยากไปแบบหนุ่มโสด?""พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ""ลัน มึงอย่าหาเรื่องให้กู คดีเก่ากูยังเคลียร์ไม่จบ""ฮ่าๆๆ กลัวนี่หว่า""กวนตีนกูไม่พัก"ฉันถึงกับวางช้อนแล้วเปลี่ยนมานั่งกอดอกมองเอ็ดดุอย่างคาดโทษทั้งพี่ลันและพี่นาวา จนสองคนนั้นพากันเลิ่กลั่กรีบทำเป็นเฉไฉหาเรื่องตีกันไม่กล้ามองหน้าฉัน นี่ขนาดบอกว่ายังไม่ค่อยสนิทนะแต่แววเริ่มออกแล้ว ฉันอยากจะรู้จริงๆ เลย ถ้าสนิทจะขนาดไหนคงพากันเที่ยวฉ่ำน่าดู พี่ชายฉันยิ่งฮอตอยู่ด้วยเห็นแบบนี้เสน่ห์แรงสุดสุดเพราะฉันเคยแอบไปส่องคนที่มาฟอลโลช่องทางโซเชียลของพี่ลันมีแต่สาวสวย น่ารัก ลุคนางแบบ จะแซ่บหรือใสใส มีมากดติดตามครบทุกสไตล์ แล้วลองมาอยู่กับพี่นาวาหล่อแบดลุคกร้าวใจของฉันสิ มีหวังฉันได้ปวดหัวทุกวันแน่"อย่าให้ลลิลรู
"อ๊ะ พะ พี่นาวา""หนูตอบพี่ก่อนค่ะ""หายโกรธพี่ยังคะ""มะ มาถามอะไรตอนนี้คะ""ตอบเร็ว ไม่ตอบไม่ต่อนะ""ไม่ต่อก็ไม่ต่อ ลลิลไม่ง้อ""แต่พี่ง้อ""พี่ปวดไปหมดแล้ว"ฉันรีบพาร่างอันเปลือยเปล่าของตัวเองวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ที่เขาแสดงความเจ้าเล่ห์กับฉันเป็นเขาเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน แต่ฉันคิดผิด เพราะเขาตามเข้ามาโดยไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้นไม่ต่างจากฉันเลยสักนิด แถมอาวุธร้ายของเขายังพร้อมรบมากมากจนหน้าฉันร้อนผ่าวไปหมดที่ได้เห็นเต็มๆ ตาแบบนี้ ก่อนจะมายืนซ้อนด้านหลังฉันตรงอ่างล่างหน้าจับขาข้างหนึ่งพาดกับขอบอ่างแล้วกดอาวุธร้ายจนในคราวเดียวทันที ใช้สองมือกอบกุมก้อนลูกบอลสองก้อนของฉันอย่างหวังดีเหมือนช่วยพยุงไม่ให้ฉันล้มแต่กลับบีบเคล้นเต็มแรงจนแดงไปหมด ฝากรอยคิสมาร์กไปตามซอกคอไหล่มนและแผ่นหลังจนทั่วขยับเอวสอบเร็วและแรงจนร่างของฉันสั่นคลอนไปตามแรงโยกของเขา แถมหวังดีเอามือใหญ่มากอบกุมเนินสามเหลี่ยมเอาไว้ไม่ให้กระแทกกับขอบอ่างแต่กลับใช้นิ้วแหวกว่ายไปตามรอยแยกแล้วเล่นวนอยู่อย่างนั้นไม่หยุด จนฉันอ่อนปวกเปียกแทบยืนไม่ไหวระบา
"หนูคะ วันหยุดยาวนี้ไปไหนมั้ย""ลลิลไม่รู้จะไปไหนค่ะ พี่ลันก็มีงาน""คนคงเยอะด้วย""บินไปหาคุณแม่พี่ที่สวิตกันมั้ย""จะดีเหรอคะ ลลิลกลัวคุณแม่พี่ดุ""แม่พี่อยากเจอหนูจะตาย""บ่นจนพี่หูชาแล้วไม่พาหนูไปหาสักที""จริงเหรอคะ แล้วค่าตั๋วเท่าไหร่คะ""ลลิลจะได้ดูเงินในบัญชี""หึ หนู แฟนหนูรวยมากนะเผื่อหนูลืม""ลลิลไม่ลืม แต่ลลิลอยากจ่ายเอง"ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าได้ว่าคบกับเขาเพราะว่าเขารวย พยายามแชร์ค่าใช้จ่ายค่าข้าวหรือของเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันก็ต้องเก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมที่เหลืออีกสองเทอมสุดท้ายและไว้ใช้จ่ายยามจำเป็นด้วย ถึงแม้ว่าพี่ลันจะโอนค่าขนมเข้าบัญชีไว้ให้ฉันใช้ทุกเดือนไม่ให้ขาดมือหรือจะเรียกว่ามีเหลือใช้ก็เถอะ ในเมื่อเขาไม่ยอมบอกฉันเลยเปิดแอพพลิเคชั่นสายการบินของหนูมายดูค่าตั๋วทั้งขาไปขากลับ ก่อนจะมาคำนวณเงินในบัญชีและตอบตกลงไปกับเขาโดยใช้เงื่อนไขเดิมว่าฉันจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเอง ส่วนเขาก็ขอจ่ายค่าที่พักกับค่าช้อปปิ้งให้ฉันห้ามมีข้อแม้ เพราะเขาบอกว่าเป็นเขาที่ชวนฉันไปเขาก็ต้องดูแล"หนูอยากไปซื้อเสื้อผ้าเพิ่มมั้ย เผื่ออยากใส่ถ่ายรูปสวยสวย""อืมมม ลลิลว่าลลิลเคยเอฟ
"ลลิลลูก เรียนจบแล้วมาอยู่กับแม่ที่นี่มั้ยคะ""ละ... ""แม่ครับ น้องต้องอยู่กับผม""ถามน้องรึยัง หน่ะเรา""น้องต้องอยู่กับผมอยู่แล้วครับ""แต่พี่นาวาคะ สวิตเป็นเมืองในฝันของลลิลเลยนะคะ""..." ฉันพูดออกไปแค่นั้น เขาก็ตีหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จาอีกเลย เป็นคุณพ่อกับคุณแม่ที่ถามไถ่ชวนฉันคุยตลอดมื้อเย็น ปล่อยให้เขานั่งหน้าหงิกเหมือนเด็กโดนขัดใจอยู่คนเดียว จนถึงช่วงค่ำคุณแม่ก็พาฉันมานอนด้วย โดยให้คุณพ่อไปนอนห้องรับแขกแทน ทำฉันรู้สึกเกรงใจท่านมากๆ แต่เพราะท่านแอบกระซิบบอกว่าคุณแม่อยากมีลูกสาวมานานแล้วและเอ็นดูฉันมากขอให้ฉันเติมความฝันให้คุณแม่ท่านหน่อย ฉันเลยไม่อิดออดเดินตามคุณแม่เข้าห้องนอนมาอย่างง่ายดาย แถมท่านยังหาชุดนอนสมัยสาวๆ ให้ฉันยืมใส่นอนอีกด้วยก๊อก ก๊อก ก๊อก"เจ้าตัวแสบมาทวงของรักคืนแล้วแน่ๆ""เดี๋ยวแม่ไปเปิดเองจ๊ะ""ไงเรา หายงอนแล้ว?" "โธ่! คุณแม่ครับ ผมไม่ได้งอนสักหน่อย""ผมแค่ใช้ความคิด""ผมพาน้องกลับห้องได้รึยังครับ""แม่ขอยืมตัวลูกสาวแม่ก่อน""เรากลับไปนอนคนเดียวคืนนึง""แต่ผม...""ไม่มีแต่ กู๊ดไนท์นะจ๊ะลูกชาย"ผมได้แต่เดินคอตกกลับมาห้องฝั่งตรงข้าม กลายเป็นหมาหัวเน่าของจริง ท
"ยัยมาย ฉันชอบนักร้องคนนี้จัง""ฉันไปขอคอนแทคให้เอามั้ย""จะดีหรอ""แหมมมม ลลิล"วันนี้ฉันมาฉลองยอดไลค์และยอดซับสไครบของช่อง LALIL ครบหนึ่งแสน มีหนูมายกับยัยมินคนสำคัญของช่องมาร่วมฉลองให้กับฉันด้วย เพราะมีเพื่อนรักอย่างสองคนนี้คอยช่วยคิดคอนเทนต์ ช่วยคอมเมนต์ และหลายครั้งที่มาเป็นแขกรับเชิญให้กับฉันทำให้อีพีนั้นยอดวิวสูงสุดสุดเพราะความน่ารักสวยสดใสและเป็นธรรมชาติของพวกนางสองคน โดยร้านที่พวกเราเลือกมาก็มีเพื่อนอย่างติวเตอร์เป็นเจ้าของ ถ้าเกิดฉันเมาเกินไปยังไงก็ปลอดภัยห่างห่วงที่จริงฉันก็มาร้านเตอร์อยู่หลายครั้งหรือเรียกว่าเป็นขาประจำเลยจะดีกว่า แต่ยังไม่เคยเจอ นักร้องคนนี้เลย เขาเสียงแหบมีเสน่ห์ สูง ผิวสองสีกำลังดี ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำลงมาสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกแกร่งดูมีกล้ามแน่นๆ ซ่อนอยู่ ใส่ต่างหูสีดำหนึ่งข้าง ให้ลุคเพลย์บอยนิดๆ เจ้าชู้หน่อยๆ สายตาคมกรุ่มกริ่มที่ส่งลงมาจากเวทีดูขี้เล่น แต่คงไม่ซุกซนเท่าสายตาของฉันที่มองเขาอยู่ตอนนี้ น้องลลิลอยากได้คนนี้... ติ๊งnava.nutthakorn : ทักครับ 😙nava.nutthakorn : พี่นาวาคับผมnava.nutthakorn : ไปหาที่เงียบๆ คุยกันมั้ยคับน้องลลิ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือพรหมลิขิตที่พาให้ฉันเข้ามาใกล้เขามากขนาดนี้ เพราะระหว่างทางที่เขากำลังขับรถไปส่งฉัน กลับกลายเป็นเราใช้เส้นทางเดียวกัน ถนนเดียวกัน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเหมือนกัน และเราอยู่คอนโดเดียวกัน ต่างกันแค่ชั้นบนสุดเป็นของเขา ส่วนฉันอยู่ชั้นกลางกลางเท่านั้นเอง ห่างกันแค่นี้เองยัยลลิล โชคชะตานำพาสุดสุดไปเลยระหว่างที่ฉันกำลังจะออกจากลิฟต์โดยสารที่ขึ้นมาพร้อมกับเขา แต่สองขาก็ต้องหยุดชะงัก เพราะเขาไม่ยอมปล่อยมือหนาออกจากมือของฉันที่เขาจับเล่นมาตลอดทางตั้งแต่อยู่ในรถราวกับเป็นสกุชชี่ให้เขาคอยบีบเล่น ฉันหันกลับไปมองเขาที่ยืนไขว้ขาใช้หลังแกร่งพิงกระจกในลิฟต์เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งด้วยสายตางุนงงแฝงความสงสัย ก่อนที่หัวใจดวงน้อยจะเต้นระรัวอีกครั้งกับคำถามของเขา"หนูคะ" "คะ พี่นาวา""หนูง่วงรึยัง""ยังไม่ง่วงค่ะ ปกติลลิลนอนดึก""ขึ้นไปดูหนังห้องพี่มั้ยคะ""..." ติ๊งผมที่ไม่อยากเสียโอกาสไป จึงใช้จังหวะเธอเผลอหันมาคุยกับผมเนียนพาเธอขึ้นมาชั้นบนสุดที่ผมอยู่ ชั้นนี้มีแค่ห้องผมคนเดียวเท่านั้น จนเสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นทำเธอตกใจจนหน้าสวยสวยของเธอแสดงความเลิ่กลั่กออกมาโดย
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของฉันกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา ฉันพยายามค่อยๆ ขยับตัวทีละนิดทีละนิด เพื่อจะได้ไม่รบกวนเขาและฉันก็กลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเจอหน้าสดไร้เครื่องสำอางของฉันด้วย แต่ที่ไม่มั่นใจสุดสุดไปเลยก็คือกลิ่นปากตอนตื่นนอนที่ยังไม่ได้แปรงฟันไม่ได้ทำความสะอาดนี่แหละ รีบไปจัดการตัวเองก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นอายแน่เลยยัยลลิลหลังจากฉันล้างหน้าล้างตาบ้วนปากเสร็จ พี่เขาก็ยังคงนอนคว่ำหน้าหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนขนาดใหญ่สีเทาเข้ม ฉันอยากจะกลับไปห้องตัวเองแต่ก็ไม่รู้รหัสเปิดประตู ครั้งจะปลุกแต่ก็ไม่กล้า เลยขอแอบเดินดูวิวตรงกระจกที่เห็นวิวเมืองมุมกว้างมีแสงพระอาทิตย์ยามเช้าสอดส่อง สวยจัง ห้องนี้คงราคาสูงริบน่าดู รอไปรอมาท้องก็เริ่มส่งเสียงร้องประท้วงด้วยความหิว ไหนๆ ก็ไหนๆแล้วฉันเลยถือวิสาสะไปดูในตู้เย็นหน่อยแล้วกันเผื่อจะมีของสดติดตู้ไว้บ้างจะได้ทำอาหารเช้าเป็นการตอบแทนสำหรับการดูแลเป็นอย่างดีตลอดสิบชั่วโมงที่เรารู้จักกัน โชคดีที่ในตู้เย็นมีไข่ไก่กับไส้กรอกพอสำหรับสองที่ ฉันเลยทำไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายๆ สองถ้วยทานรองท้องเป็นมื้อเช้าของเราสองคน"หอมจังเลยค่ะ""อุ้ย ตื่นแล้วหรอคะ" "ลล
"ลลิลลูก เรียนจบแล้วมาอยู่กับแม่ที่นี่มั้ยคะ""ละ... ""แม่ครับ น้องต้องอยู่กับผม""ถามน้องรึยัง หน่ะเรา""น้องต้องอยู่กับผมอยู่แล้วครับ""แต่พี่นาวาคะ สวิตเป็นเมืองในฝันของลลิลเลยนะคะ""..." ฉันพูดออกไปแค่นั้น เขาก็ตีหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จาอีกเลย เป็นคุณพ่อกับคุณแม่ที่ถามไถ่ชวนฉันคุยตลอดมื้อเย็น ปล่อยให้เขานั่งหน้าหงิกเหมือนเด็กโดนขัดใจอยู่คนเดียว จนถึงช่วงค่ำคุณแม่ก็พาฉันมานอนด้วย โดยให้คุณพ่อไปนอนห้องรับแขกแทน ทำฉันรู้สึกเกรงใจท่านมากๆ แต่เพราะท่านแอบกระซิบบอกว่าคุณแม่อยากมีลูกสาวมานานแล้วและเอ็นดูฉันมากขอให้ฉันเติมความฝันให้คุณแม่ท่านหน่อย ฉันเลยไม่อิดออดเดินตามคุณแม่เข้าห้องนอนมาอย่างง่ายดาย แถมท่านยังหาชุดนอนสมัยสาวๆ ให้ฉันยืมใส่นอนอีกด้วยก๊อก ก๊อก ก๊อก"เจ้าตัวแสบมาทวงของรักคืนแล้วแน่ๆ""เดี๋ยวแม่ไปเปิดเองจ๊ะ""ไงเรา หายงอนแล้ว?" "โธ่! คุณแม่ครับ ผมไม่ได้งอนสักหน่อย""ผมแค่ใช้ความคิด""ผมพาน้องกลับห้องได้รึยังครับ""แม่ขอยืมตัวลูกสาวแม่ก่อน""เรากลับไปนอนคนเดียวคืนนึง""แต่ผม...""ไม่มีแต่ กู๊ดไนท์นะจ๊ะลูกชาย"ผมได้แต่เดินคอตกกลับมาห้องฝั่งตรงข้าม กลายเป็นหมาหัวเน่าของจริง ท
"หนูคะ วันหยุดยาวนี้ไปไหนมั้ย""ลลิลไม่รู้จะไปไหนค่ะ พี่ลันก็มีงาน""คนคงเยอะด้วย""บินไปหาคุณแม่พี่ที่สวิตกันมั้ย""จะดีเหรอคะ ลลิลกลัวคุณแม่พี่ดุ""แม่พี่อยากเจอหนูจะตาย""บ่นจนพี่หูชาแล้วไม่พาหนูไปหาสักที""จริงเหรอคะ แล้วค่าตั๋วเท่าไหร่คะ""ลลิลจะได้ดูเงินในบัญชี""หึ หนู แฟนหนูรวยมากนะเผื่อหนูลืม""ลลิลไม่ลืม แต่ลลิลอยากจ่ายเอง"ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าได้ว่าคบกับเขาเพราะว่าเขารวย พยายามแชร์ค่าใช้จ่ายค่าข้าวหรือของเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันก็ต้องเก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมที่เหลืออีกสองเทอมสุดท้ายและไว้ใช้จ่ายยามจำเป็นด้วย ถึงแม้ว่าพี่ลันจะโอนค่าขนมเข้าบัญชีไว้ให้ฉันใช้ทุกเดือนไม่ให้ขาดมือหรือจะเรียกว่ามีเหลือใช้ก็เถอะ ในเมื่อเขาไม่ยอมบอกฉันเลยเปิดแอพพลิเคชั่นสายการบินของหนูมายดูค่าตั๋วทั้งขาไปขากลับ ก่อนจะมาคำนวณเงินในบัญชีและตอบตกลงไปกับเขาโดยใช้เงื่อนไขเดิมว่าฉันจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเอง ส่วนเขาก็ขอจ่ายค่าที่พักกับค่าช้อปปิ้งให้ฉันห้ามมีข้อแม้ เพราะเขาบอกว่าเป็นเขาที่ชวนฉันไปเขาก็ต้องดูแล"หนูอยากไปซื้อเสื้อผ้าเพิ่มมั้ย เผื่ออยากใส่ถ่ายรูปสวยสวย""อืมมม ลลิลว่าลลิลเคยเอฟ
"อ๊ะ พะ พี่นาวา""หนูตอบพี่ก่อนค่ะ""หายโกรธพี่ยังคะ""มะ มาถามอะไรตอนนี้คะ""ตอบเร็ว ไม่ตอบไม่ต่อนะ""ไม่ต่อก็ไม่ต่อ ลลิลไม่ง้อ""แต่พี่ง้อ""พี่ปวดไปหมดแล้ว"ฉันรีบพาร่างอันเปลือยเปล่าของตัวเองวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ที่เขาแสดงความเจ้าเล่ห์กับฉันเป็นเขาเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน แต่ฉันคิดผิด เพราะเขาตามเข้ามาโดยไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้นไม่ต่างจากฉันเลยสักนิด แถมอาวุธร้ายของเขายังพร้อมรบมากมากจนหน้าฉันร้อนผ่าวไปหมดที่ได้เห็นเต็มๆ ตาแบบนี้ ก่อนจะมายืนซ้อนด้านหลังฉันตรงอ่างล่างหน้าจับขาข้างหนึ่งพาดกับขอบอ่างแล้วกดอาวุธร้ายจนในคราวเดียวทันที ใช้สองมือกอบกุมก้อนลูกบอลสองก้อนของฉันอย่างหวังดีเหมือนช่วยพยุงไม่ให้ฉันล้มแต่กลับบีบเคล้นเต็มแรงจนแดงไปหมด ฝากรอยคิสมาร์กไปตามซอกคอไหล่มนและแผ่นหลังจนทั่วขยับเอวสอบเร็วและแรงจนร่างของฉันสั่นคลอนไปตามแรงโยกของเขา แถมหวังดีเอามือใหญ่มากอบกุมเนินสามเหลี่ยมเอาไว้ไม่ให้กระแทกกับขอบอ่างแต่กลับใช้นิ้วแหวกว่ายไปตามรอยแยกแล้วเล่นวนอยู่อย่างนั้นไม่หยุด จนฉันอ่อนปวกเปียกแทบยืนไม่ไหวระบา
"วันนี้มึงไปร้องเพลงป่ะ""ไปดิ ร้องสี่ทุ่ม""ทำไม จะไป?""เออ อยากชิลหน่อยหว่ะ""ลลิลไปด้วยสิ""...""ทำไมพี่ลันทำหน้าแบบนั้นคะ""พะ พี่อยากไปแบบผู้ชายผู้ชาย""แบบหนุ่มโสดงี้?""อ่าฮะ""พี่นาวา ก็อยากไปแบบหนุ่มโสด?""พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ""ลัน มึงอย่าหาเรื่องให้กู คดีเก่ากูยังเคลียร์ไม่จบ""ฮ่าๆๆ กลัวนี่หว่า""กวนตีนกูไม่พัก"ฉันถึงกับวางช้อนแล้วเปลี่ยนมานั่งกอดอกมองเอ็ดดุอย่างคาดโทษทั้งพี่ลันและพี่นาวา จนสองคนนั้นพากันเลิ่กลั่กรีบทำเป็นเฉไฉหาเรื่องตีกันไม่กล้ามองหน้าฉัน นี่ขนาดบอกว่ายังไม่ค่อยสนิทนะแต่แววเริ่มออกแล้ว ฉันอยากจะรู้จริงๆ เลย ถ้าสนิทจะขนาดไหนคงพากันเที่ยวฉ่ำน่าดู พี่ชายฉันยิ่งฮอตอยู่ด้วยเห็นแบบนี้เสน่ห์แรงสุดสุดเพราะฉันเคยแอบไปส่องคนที่มาฟอลโลช่องทางโซเชียลของพี่ลันมีแต่สาวสวย น่ารัก ลุคนางแบบ จะแซ่บหรือใสใส มีมากดติดตามครบทุกสไตล์ แล้วลองมาอยู่กับพี่นาวาหล่อแบดลุคกร้าวใจของฉันสิ มีหวังฉันได้ปวดหัวทุกวันแน่"อย่าให้ลลิลรู
"ฮัลโหล พี่ลัน""โอเคค่ะ เดี๋ยวลลิลลงไป รอแป็บน๊า""พี่นาวา ลลิลกลับห้องก่อนนะคะ""เดี๋ยวพี่ลงไปนะ""เดี๋ยวค่ะ พี่ลงไปด้วยเลยดีกว่า""..." หลังจากกินมื้อเย็นที่พี่ชายสุดหล่อซื้อเข้ามาให้เป็นไก่ทอดเกาหลีชุดใหญ่พร้อมกับเบียร์เย็นเย็นห้าหกขวดที่ดูเหมือนว่าซื้อมาเผื่อแฟนน้องสาวด้วยนะ บอกแล้วว่าพี่ลันหน่ะน่ารักแค่ฟอร์มจัดนิดหน่อยเฉพาะกับบางคนเท่านั้นแหละแต่ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกว่าห้องขนาดห้าสิบตารางเมตรที่เคยกว้างเกินไปสำหรับฉัน เวลานี้มันกลับคับแคบเกินไปสำหรับฉัน พี่ลัน และพี่นาวา ที่นั่งเบียดอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันมีพี่ลันนั่งขั้นกลางเราสองคนระหว่างกำลังดูซีรีย์โรแมนติกคอมเมดี้ด้วยกัน อืม... จะพูดยังไงดีแต่มันก็ได้ฟิลลิ่งไปอีกแบบนั่นแหละ"หนู กินป๊อปคอร์นมั้ยคะ""...""อะ เอ่อ""พี่ลัน แบ่งลลิลกินบ้างสิ""อะ พี่ถือให้""หนูน้ำอัดลมค่ะ""แต๊งกิ้ว""..."ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นพี่ลันทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้เลยสักครั้ง ทุกครั้งที่พี่นาวาพยาย
Part 'นาวา'ผมได้แต่นั่งมองหน้าพี่ชายแฟนตัวเองอย่างใช้ความคิดว่าควรจะรับมือยังไงดี เพราะดูตั้งใจจะเป็นอริกับผมอย่างเห็นได้ชัด ขัดแข่งขัดขาคอยกันซีนผมสุดสุด ทำผมมืดแปดด้านไปหมด ส่วนเธอก็ดูลั้ลลาที่มีคนมาช่วยหนีไปนอนคลุมโปงบนเตียงนุ่มนุ่มไม่สนใจผมเลยสักนิด ตอนนี้ผมได้แต่แอบทดไว้ในใจก่อน รอเธอหายโกรธผมเมื่อไหร่รับประกันได้เลยว่าเธอไม่ได้ลุกจากเตียงแน่หลังจากนอนคิดวิธีชนะใจพี่เมียทั้งคืน ผมก็รีบตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเช้าสไลต์ญี่ปุ่นเพื่อทำคะแนนสักหน่อย เพราะนึกขึ้นได้ที่เธอเคยบอกว่าอลันชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจผมเลยอยากจะขอลองดูสักตั้ง โดยเมนูที่ผมเลือกทำในวันนี้เป็นเมนูง่ายๆ อย่างแซลมอนย่างเกลือ เสิร์ฟคู่กับต้นหอมญี่ปุ่นย่างปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยและเลมอนช่วยเพิ่มรสชาติ มีเครื่องเคียงเป็นทามาโกะยากิและซุปมิโสะ ทันทีที่ผมจัดจานเสร็จเรียบร้อยก็เหมือนเป็นนาฬิกาปลุกให้สองพี่น้องตื่นขึ้นมาอย่างตรงเวลา ผมเลยเปิดขวดชาเขียวเย็นยี่ห้อด้งที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเทลงแก้วสำหรับผม เธอและพี่ชายของเธอ หันไปมองเธอที่กำลังเดินงัวเงียมาหาผม"ม
"พีช""เรียกเป็นเพื่อน""หรือจะให้เรียกเป็นแฟน?""...""ที่รัก""นี่ ไม่ต้องมาแกล้งเลยนะ""หึ""ไปขับรถเล่นกันมั้ยหรืออยากนอนพัก""อยากไป แต่ก็อยากนอน""ต้องแยกผ้าใส่เครื่องซักผ้าด้วยแหละ""อืม เอาไปปั่นที่ร้านข้างๆ ตรงนี้มั้ย""จะได้ไปหากาแฟกินด้วย""ไปสิ เอาผ้ากายไปปั่นด้วยกันสิ"เมื่อเช้าเราสองคนพากันไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะและแวะกินโจ๊กร้านประจำของเขาจนอิ่ม แต่ก็ยังซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋กับมากินกันที่ห้องอีก เลยทำให้ฉันแปลงร่างเป็นแม่หมูนอนอืดอยู่บนโซฟาอย่างตอนนี้ มีเขานั่งที่พื้นพิงหลังกับโซฟาอยู่ใกล้ๆ ฉันเริ่มชินกับการมีเขานอนเล่นเกมส์อยู่ข้างๆ ซะแล้วสิ พอเราสองคนตกลงกันเรียบร้อย ฉันก็ปลีกตัวมาแยกผ้าใส่ถุงซัก ส่วนเขาก็ลงไปเอากระเป๋าขึ้นมาแยกผ้าเพื่อเอาไปซักพร้อมกัน อันที่จริงที่ห้องฉันก็มีเครื่องซักผ้านะ แต่เห็นคนไปใช้บริการร้านนี้เยอะเลยอยากจะลองไปใช้บ้าง เดินลงมาไม่ถึงห้านาทีก็ถึงร้านเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าขนาดใหญ่ เขาเลือกเครื่องใกล้ก
"เอาไก่ย่างมั้ย" "เอา" "กาย หรือ ไก่ย่าง""ไก่ย่างงงงงง""อย่าไปพูดคำนี้กับคนอื่นนะ""มีแต่กายนี่แหละ ที่คิดทะลึ่ง""รู้หรอ กายคิดอะไร""รู้""คิดว่า?" "..." ปึก"โอ้ย!" "ตัวเองนั่นแหละ ทะลึ่ง" "หึ" ไอ้เด็กบ้านี่! เขาเอาหน้าผากกว้างของตัวเองมาชนเข้ากับหน้าผากมนของฉันแทนการใช้มะเหงกเพราะมือกำลังยุ่งอยู่กับการแกะไก่ให้ฉันอยู่ แถมยังเอาสิ่งที่ตัวเองคิดมายัดเยียดให้ฉันคิดเหมือนเขาอีก ร้ายกาจที่สุด ใจดีด้วยหน่อยไม่ได้เลยจริงๆระหว่างรอเขาอาบน้ำ ฉันก็หยิบไอแพดขึ้นมานอนวาดรูปไดอารี่เก็บไว้ เพราะตั้งแต่ไปค่ายฉันก็ยังไม่ได้วาดเลยสักรูป พอหัวถึงหมอนหนังตาก็ปิดสนิทเหมือนถูกปิดสวิตช์ทุกคืนรูปแรกที่ฉันเลือกวาด เป็นรูปเขาที่กำลังยืนทาสีมีฉันนั่งเทสีอยู่ใกล้ๆ ส่วนอีกรูปก็เป็นคืนสุดท้ายที่เราสองคนกำลังนั่งมองตากันอยู่หน้าเต๊นท์ตอนที่คนอื่นๆ กำลังเล่นเกมส์กันอย่างสนุก วาดไปก็คิดถึงช่วงเวลาตอนนั้นไปมันอดทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาไม่ได้ พอวาดเสร็จฉันก็โพสต
(เสียงดนตรี)พี่คงจะอยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าไม่มีหนูคืนนี้คงนอนไม่ค่อยจะหลับอยาก call หาสักทีได้ไหม ตอนไหนที่หนูมีเวลาก็คิดถึงนี่นา คิดถึงหนูที่สุด จะหยุดตัวเองยังไงก็ไม่ไหว🎵🎵🎵 ผมยืนร้องเพลงโปรดที่ผมชอบร้องให้เธอฟังอยู่บนเวทีกลางร้านเหล้าท่ามกลางผู้คนมากมาย มีเธอนั่งยิ้มและร้องตามพร้อมโยกตัวเบาเบาไปกับผมอยู่ตรงโต๊ะมุมประจำของเรา เป็นผมเองที่คะยั้นคะยอขอให้เธอมาดูผมเล่นคืนนี้เพราะไม่อยากขับรถดึกดึกดื่นดื่นคนเดียวหรือจะบอกว่าผมติดเธอมากก็ได้ คืนนี้ร้านไอ้เตอร์เต็มไปด้วยผู้คนที่พากันมาแฮงค์เอ้าท์อย่างเนืองแน่น เป็นอีกคืนที่มีคนขอเพลงที่อยากฟังมากเป็นพิเศษทั้งขอให้ตัวเองขอให้โต๊ะข้างข้างขอให้คนที่แอบชอบ ใช้ผมเป็นสะพานสื่อรัก หรือขอให้ผมร้องเพลงจีบพร้อมขอไอดีคอนแทคส่วนตัวผมก็มี ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงจะร้องให้ฟังขำขำสนุกสนุกไปเรื่อยไม่คิดอะไร แต่วันนี้...ผมมีคนมาคุมแล้วครับ"ขอเพลงได้ครับ แต่ถ้าไอดีคงให้ไม่ได้""แฟนผมมาด้วย เดี๋ยวโดนดุครับผม" พอผมพูดจบเท่านั้นแหละ ลูกค้าในร้านก็พากันส่งเสียงแซวดั