บทที่ 6
ผู้ชายร้ายกาจ หลายนาทีที่แดเนียลนั่งเซ็นเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถจนมันเสร็จสิ้น นิวเคลียร์ลุกขึ้นยืนและบิดตัวเบาๆ เพื่อไล่ความเหนื่อยล้าที่ต้องนั่งรอชายหนุ่มนาน "ไปยัง ว้าย!" เธอหลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจจนพนักงานหลุดเสียงร้องตามด้วย ก็จู่ๆ พ่อตัวดีก็โยนกุญแจรถลัมโบร์กินีมาให้เธอโดยไม่ทันตั้งตัว หากรับไว้ไม่ได้จะทำยังไง ใครก็รู้ว่ามันแพงแค่ไหน นิวเคลียร์ขมวดคิ้วยุ่ง "อะไรของนาย อยากเสียเงินเพิ่มเหรอ" เธอถามหน้าเครียดไม่ได้กำลังยิ้มพอใจเหมือนคนตรงหน้า "ลองขับหน่อย" ว่าจบแดเนียลก็เปิดประตูก้าวเข้าไปนั่งรอนิวเคลียร์ในรถ เธอก้มมองกุญแจในมือแล้วกลอกตาไปมา "อย่ามาร้องเป็นแต๋วแตกให้ได้ยินก็แล้วกัน" "ไม่เคยอยู่แล้ว" หลังจากคาดเข็มขัดเสร็จ นิวเคลียร์ก็สตาร์ตรถ เธอหลุดยิ้มแล้วค่อยๆ ขับรถลงมาจากโชว์รูม เมื่อถึงถนนใหญ่ก็เหยียบคันเร่งขับกลับคอนโดอย่างเร็ว เธอค่อนข้างชอบความเร็วเพราะมันท้าทายดี ในขณะที่แดเนียลนั่งมองหน้าเธออย่างยิ้มๆ "ชอบไหม" เขาถาม "ชอบอะไร" เธอละสายตาจากทางข้างหน้ามาถามกลับ แดเนียลยกมือขึ้นมาลูบผมนิวเคลียร์เบาๆ ก่อนจะรั้งใบหน้าเธอมาจูบหนักๆ ขณะที่เธอขับรถอยู่ ความไม่ทันตั้งตัวทำให้รถส่ายไปมาเล็กน้อย "อยากตายเหรอ" นิวเคลียร์ถามเสียงเข้ม "ขอตายตอนขึ้นสวรรค์กับเธอดีกว่า" มุมปากหนายกยิ้มร้ายกาจ เขารู้สึกพอใจทุกครั้งที่ยั่วโทสะนิวเคลียร์ได้ "หึ..." แดเนียลแค่นหัวเราะชอบใจที่อีกฝ่ายเริ่มมีน้ำโหได้ "เสียสติไปแล้วเหรอถึงชอบให้คนอื่นด่าอะ" "สำหรับฉันเธอไม่ใช่คนอื่น" "เลิกพล่ามได้ปะ น่ารำคาญ!" "แม่นกน้อยในกรงทองของฉัน เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งแล้วงั้นสิ" แดเนียลยื่นมือมาเกลี่ยพวงแก้มนิวเคลียร์เบาๆ แล้วบีบอย่างแรงจนเธอหลุดปากร้องบอกว่าเจ็บ "นายทำรุนแรงไปแล้วนะแดน!" นางแบบสาวสะบัดหน้าออกจนแดเนียลยอมคลายฝ่ามือแล้วชักมือกลับไป เขาหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน "น่ารักๆ แบบนี้ค่อยน่าเอ็นดูหน่อย" ไม่ว่าเปล่ายังเลื่อนใบหน้ามาหอมแก้มเธอหนึ่งฟอดใหญ่ จากนั้นจึงปลดเข็มขัดออก ลดกระจกรถลงจนลมพัดเข้ามาด้านในรถเกิดเสียงดัง "เธอยังไม่ตอบ" "อะไรอีกล่ะ" นิวเคลียร์ชักสีหน้าใส่ด้วยความรำคาญ "ชอบไหม" "ชอบอะไร นายเองก็ไม่ตอบฉันเหมือนกันนั่นแหละ" เธอย้อนถามเสียงแข็ง นับวันเขายิ่งเขย่าประสาทเธอทำให้หงุดหงิดไม่พอ ยังทำให้ประสาทเสียอีก ตอนนี้เข้าใจดีแลนแล้วว่าทำไมเขาถึงเอือมระอาใจกับน้องชายคนนี้นัก แดเนียลกับคำว่าเวรตะไลก็ไม่เกินจริง! "ชอบรถที่ฉันซื้อ" "ก็งั้นๆ ทำไม" เธอถามกลับ "ถ้าชอบก็เอาไปขับ เบื่อจะขับแล้ว" คำพูดคนรวยนี่มันช่างพูดง่ายจริงจริ๊ง...นิวเคลียร์ลอบถอนหายใจแล้วไหวไหล่น้อยๆ "ไม่เอาอะ ถ้าจะเอาเดี๋ยวเก็บเงินซื้อเอง" "เล่นตัว" "เรื่องของฉัน" เธอเบ้ปากใส่แดเนียลก่อนโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าสะพายใบเล็กดังขึ้นขัดจังหวะที่แดเนียลจะพูด เขากับเธอหันไปมองพร้อมกัน แต่แดเนียลกลับแย่งโทรศัพท์มือถือนิวเคลียร์ไปกดรับสายแล้วจึงกรอกเสียงเข้มทักทายคนปลายสาย "ไง" (นิว...นั่นนิวใช่ไหม) นิวเคลียร์แย่งโทรศัพท์จากมือแดเนียลแล้วยกมือขึ้นมาป้องปาก ก่อนจะกรอกเสียงหวานกลับไป "สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าโทร. มาหานิวมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ" (นิวจริงๆ ด้วย) "ไม่ทราบว่าเราสองคนรู้จักกันเหรอ แล้วนี่คุณเป็นใคร" นิวเคลียร์ขมวดคิ้วยุ่ง แต่ไม่ทันที่จะได้รู้จักคนปลายสายโทรศัพท์มือถือก็ถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตาโดยแดเนียล "อยู่กับกูห้ามคุยโทรศัพท์กับคนอื่น กูไม่ชอบ" แดเนียลหลุดพูดคำหยาบคายด้วยความไม่พอใจ "แดน! แล้วจะรู้ไหมว่าใครโทร. มา" "ถ้ามันอยากรู้จักเธอ นั่นก็คงถึงคราวซวยมันแล้วจริงๆ ที่กล้ามาวอแวกับคนของฉัน" "แล้วมันใช่เรื่องไหม อย่าล้ำเส้นกันดีกว่านายก็มีชีวิตของนาย ฉันก็มีชีวิตของฉันเราไม่ล้ำเส้นกัน" "เหรอ ว้า...ลืมไปเลยนะเนี่ย" แดเนียลทำไขสือใส่นิวเคลียร์จนอีกฝ่ายรู้สึกไม่พอใจ แต่เรื่องกวนตีนเธอเขาถนัดมากกว่าการทำตัวดีๆ อีก "เลิกกวนประสาทสักวันจะตายไหมฮะ!" "น่ารำคาญว่ะ" "รำคาญก็กลับไปดิ ใครให้พามาด้วย อยากมามากมั้ง" หญิงสาวประชดประชัน เหอะ! คนอย่างแดเนียลเนี่ยนะจะจริงจังกับผู้หญิง ร้อยปากว่าเธอก็ไม่เชื่อ และต่อให้แดเนียลมาคุกเข่าพูดต่อหน้า เธอยังไม่อยากเชื่อเลยว่าคนอย่างเขามีหัวใจและรักใครเป็น "เลิกทำหน้าบึ้งแบบนั้นได้แล้ว เห็นแล้วไม่สบายตา" "เหอะ! ปากบอกไม่สบายตาแต่นายรู้ไว้นะว่าฉันเป็นแบบนี้เพราะนายก่อเรื่องต่างหาก ไม่มีสิทธิ์มาพูดด้วยซ้ำ! อื้อ!!" นิวเคลียร์ถูกบีบปากอย่างแรง "ไอ้แดนปล่อยนะ" "ปากแซ่บแบบนี้สงสัยอยากถูกกระแทกให้หลาบจำใช่ไหม" "บอกให้ปล่อยไง เจ็บนะ" นิวเคลียร์ชักสีหน้าใส่แดเนียลเพราะเขาเล่นแรงไปจริงๆ "หึ! ปล่อยก็ได้...แต่ปล่อยในนะ" "ตลกมากไหม ออกไปห่างๆ จากฉันเลยนะ รู้ไหมว่าแกล้ำเส้นฉัน วันนี้แกลองนับดูนะว่าล้ำเส้นกันกี่ครั้งแล้ว" แดเนียลทำลอยหน้าลอยตาไม่ได้สนใจคำพูดคนตัวเล็ก เขาไม่สนห่าเหวอะไรทั้งนั้น อยากทำก็ทำไม่อยากทำก็ไม่ทำ…แล้วเขาต้องแคร์อะไร (ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ…) "ถ้ามันตลกกูคงหัวเราะไปแล้ว" "หุบปากนายเหอะแดน ไม่อยากคุยแล้วว่ะ" นิวเคลียร์รู้สึกหงุดหงิดใจที่แดเนียลแทนตัวเองด้วยคำหยาบคายทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าจะไม่แทนตัวเองว่ากูหรือเรียกคนอื่นว่ามึง "เออ! ก็ได้วะ" แดเนียลยอมปล่อยนิวเคลียร์ให้เป็นอิสระ เขาชักสีหน้าใส่อย่างหงุดหงิดเหมือนกัน แต่เธอต่างหากที่ต้องหงุดหงิดใส่คนเอาแต่ใจอย่างเขา และความเอาแต่ใจนี้ก็เป็นจุดเล็กๆ ที่มันเริ่มขยายเป็นวงกว้างให้นิวเคลียร์คิดจะห่างจากคนร้ายกาจอย่างเขา "ถ้านายมาเป็นแฟนฉันนะ เอาจริงๆ ไปกันไม่รอดหรอก อีกคนเป็นน้ำส่วนอีกคนเป็นระเบิด ชีวิตโคตรอลังการ!" นิวเคลียร์กอดอกพลางปรายตามองเจ้าของการกระทำรุนแรงเมื่อครู่ด้วยความไม่ชอบใจ เธอขับรถต่อไม่ได้ก็เพราะเขา "แต่ฉันชอบอลังการ เธอเป็นระเบิดส่วนฉันเป็นน้ำมัน ชีวิตแสนสุขสุดจะบรรยายเลยละ เรื่องเล่นใหญ่ พี่ชอบ..." นิวเคลียร์ได้แต่ถอนหายใจกับความไม่สลดใจของแดเนียล "ผู้ชายร้ายกาจอย่างแกไม่ได้อยู่ในสเป็กฉันเลย นายหลุดสเป็ก และอย่าหวังว่าจะอยู่ในสายตาฉัน" "จุ๊ๆ…เธออย่าลืมดิว่าเราเอากันกี่รอบแล้ว มิหนำซ้ำฉันยังเผลอปล่อยในไปตั้งหลายหนด้วย แต่ถ้าไม่อยากมีฉันเป็นผัว ก็ได้...แต่ถ้าท้องขึ้นมาเมื่อไหร่ หึหึ..." แดเนียลหยุดพูดแล้วแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ ตัวร้ายมันไม่ได้มีแค่ในละครหรือนิยายหรอก แต่ไอ้บ้าแดนเนี่ยแหละมันคือตัวร้ายในชีวิตจริงของเธอ "ร้ายกาจ" "อ่า…เรามันร้ายกาจเหมือนกัน เขาเรียกอะไรนะ" "ศีลเสมอกัน" นิวเคลียร์ตอบอย่างเอือมระอา "ถูกแล้ว…หึ"บทที่ 7เอาแต่ใจหญิงสาวเบ้ปากใส่อย่างเอือมระอาใจกับรอยยิ้มร้ายกาจนั้น นี่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเหรอ ไม่กระดากปากตัวเองสักนิดหรือไงนะ“ฉันจะกลับก่อน”“กลับไหน” แดเนียลถามนิวเคลียร์ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่เธอกลับมองว่านั่นคือการแสดง มันน่าปรบมือให้จริง ๆ กับการแสดงเป็นไม่รู้ไม่เห็นของเขา “ทำหน้าแบบนั้นทำไม” แดเนียลเอ่ยถามอีกครั้งทั้งที่คำตอบแรกยังไม่ได้รับ“ก็ระอาใจกับสิ่งที่แกทำไง ทำเป็นไขสือเหรอ ไม่ตลก”“อ่า...เธอแม่งรู้ทันฉันไปซะทุกเรื่องจริง ๆ สินะ นั่นก็แปลว่าเราสองคนรู้จักนิสัยสันดานกันดีแล้วใช่ไหม” แดเนียลยกมือขึ้นมาเกลี่ยแก้มนวลเบา ๆ อย่างหยอกล้อแต่กลับถูกนิวเคลียร์ปัดออก เธอขมวดคิ้วใส่เขาแล้วพูดประโยคหนึ่งออกไป“นายกำลังล้ำเส้นฉัน” ประโยคนั้นทำมือหนาที่กำลังลูบไล้เรือนแก้มนวลต้องชะงักค้าง แดเนียลชักมือกลับอย่างหงุดหงิด “เลิกบงการชีวิตฉันได้แล้ว เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”“แต่เราสองคนเอากันทุกวัน แบบนี้เขาเรียกอะไร”“เลิกเอาเรื่องนั้นมาอ้างสักทีเถอะ นายยกมันมาอ้างเพื่อจะเอาแต่ใจกับฉันตั้งกี่ครั้งแล้ว มันน่าเบื่อรู้ไหม”“ฮึ! เบื่อ?” แดเนียลหันมาสบตากับนิวเคลียร์ด้วยสายตาด
บทที่ 8ไม่รู้ใจตัวเองหลายชั่วโมงต่อมา ภายในห้องพักสุดหรูหราถูกปกคลุมด้วยไอความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศและความเงียบเคล้ากับกลิ่นแอลกอฮอล์ที่อยู่ในแก้วในมือของแดเนียล ไม่รู้ว่านิวเคลียร์ทำเขาอารมณ์เสียตั้งแต่ตอนไหนแต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกหงุดหงิดใจมาก“แม่ง..”“นายครับ คุณดีแลนมาครับ” ลูกน้องคนสนิทเขาเดินเข้ามารายงานเสียงเรียบแล้วก้มหน้า แดเนียลละสายตาจากแก้วเหล้าแล้วถอนหายใจกับคำรายงานของลูกน้อง ร้อยวันพันปีไม่โผล่หัวมาหาน้อง วันนี้ฝนคงตกห่าใหญ่ไม่ก็พายุเข้า“มันมาทำไม ว่างมากหรือไง” เขาย้อนถามลูกอย่างเหนื่อยหน่าย“เออ กูว่างมากเลยแวะมาดูน้องสารเลวหน่อย” ผู้เป็นพี่กอดอกยกยิ้มมองสภาพผู้เป็นน้อง ก่อนที่จะพยักหน้าให้ลูกน้องแล้วเดินเข้าไปหาแดเนียล “เพราะอะไร?” เสียงเข้มของมาเฟียหนุ่มเอ่ยถามน้องชายที่เงียบผิดปกติ เพราะถ้ามันปกติป่านนี้คงตอบกลับเขาไม่ก็หลอกด่าเขาไปแล้ว“เปล่า”“กูจะพยายามเชื่อคำโกหกมึงแล้วกันนะ” ผู้เป็นพี่ชายกระตุกยิ้มมุมปากกับคำโกหกคำโตที่น้องชายบอกมา เขากับแดเนียลอายุห่างกันสองปีก็จริงแต่สองคนเติบโตมาด้วยกัน ไอ้เรื่องโกหกของแดเนียลเป็นเรื่องเดียวที่เขามักเป็นผู้ชนะที่ดูออ
บทที่ 9 เจ้าอารมณ์พอดีแลนกลับไปแล้วภายในห้องก็กลับสู่สภาวะเดิม ความเงียบเข้ามาปกคลุม ร่างหนาทรุดนั่งลงกับโซฟาตัวเดิม แววตาพร่าพรายไร้จุดโฟกัสอย่างจริงจัง แดเนียลเอนหลังพิงกับพนักโซฟา เงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก แต่กลับมีบางสิ่งเรียกความสนใจจากเขาให้หันไปมอง แดเนียลเอี้ยวหน้าไปมองกิ๊บติดผมที่นิวเคลียร์มาลืมไว้ที่ห้องและเขาไม่มีโอกาสเอาไปคืนให้เธอสักทีจนกระทั่งวันนี้ มันคงไม่สำคัญอะไรแล้วมั้ง...แกรก...ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง แดเนียลขมวดคิ้วแน่นเมื่อคนที่เปิดประตูเข้ามาคือดีแลน “อะไรของมึงอีกดีน” แดเนียลชักสีหน้าใส่ผู้เป็นพี่อย่างสะกดกลั้นอารมณ์หงุดหงิดไม่ให้ระเบิดออกไปในตอนนี้“ไปดื่มไหม” เหตุผลที่เขายังไม่กลับเพราะยังไม่อยากทะเลาะกับซัมเมอร์ตอนนี้เลยต้องถ่อมาหาน้องชายที่นี่ แม้ว่าสีหน้าน้องจะอยากต้อนรับมากก็เถอะ ยอมทนหน้าด้านหน่อยเพราะไม่มี...ที่ไปแล้วจริงๆ หากไปดื่มกับเพื่อนก็กลัวเมียโกรธไปกว่านี้ แม่งเขามีสิทธิ์เลือกอะไรไหมวะเนี่ย“จะยืนทำหน้าครุ่นคิดอีกนานไหมวะ มึงเป็นห่าอะไร” ถ้อยคำหยาบคายมาเต็มแต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ปกติที่ว่าตอนลับห
บทที่ 10ไปกันใหญ่มือหนากำหมัดแน่น นี่เธอเล่นเปลี่ยนทั้งรหัสและยังไม่ยอมรับสายเขาเหรอนิวเคลียร์! เธอจะท้าทายเขามากไปแล้วติ้ง!เสียงประตูลิฟต์เปิดออก แดเนียลหันไปมองเจ้าของร่างบางที่เพิ่งก้าวออกมาจากลิฟต์ด้วยสายตาดุดัน แต่ยิ่งเดือดจัดเพราะมีหนุ่มหน้าอ่อนเดินตามหลังเธอมาติดๆ แถมยังเอามือโอบเอวบางที่เขาเคยโอบกอดมาแล้ว แดเนียลกำหมัดแน่นจนแขนสั่น“ถ้านายรู้ว่าฉันเป็นใคร นายจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน” มาเฟียหนุ่มผ่อนคลายสีหน้าแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอย่างสบายใจเฉิบ น้ำเสียงที่แฝงด้วยการข่มขวัญอีกฝ่ายและแสดงความเป็นเจ้าของพ่นออกมาเรื่อยๆนิวเคลียร์สะบัดมือไปมาไล่ควันบุหรี่ เธอเหมือนจะหายใจไม่ออกและจะอ้วกกับกลิ่นมัน ทั้งที่ก็คุ้นเคยดีตอนอยู่กับแดเนียลเขาก็สูบแบบนี้ แต่ทว่าตอนนี้กลิ่นของมันกลับสร้างปัญหาให้มากๆ“แดนหยุดแล้วดับบุหรี่เดี๋ยวนี้” เธอออกคำสั่งเสียงเบาพลางป้องปากไอด้วย “ฉันเหม็นควันบุหรี่” นิวเคลียร์ยังไม่หยุดสะบัดมือไล่ควัน แต่ทว่าเสียงหัวเราะ ‘หึ’ ก็หลุดออกจากปากร่างสูง“เมื่อก่อนชอบไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวนี้ทนดมไม่ได้แล้ว?”“นี่คุณ”“ไม่เสือกเรื่องผัวเมีย” แดเนียลยอมทิ้งบุหรี่ทั้งที่ยั
บทที่ 11พยายาม (ไม่มากพอ)แดเนียลกลับมาที่คอนโดส่วนตัวหลังจากกลับจากคลับ เขาเดินมานั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นก่อนที่จะจุดบุหรี่สูบระบายความเครียด ครั้นจะโทร. หานิวเคลียร์ เขารู้อยู่เต็มอกว่าเธอคงไม่รับสายอีกตามเคย แต่มันรู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจและอยากทำอะไรสักอย่างที่ดีกว่ามานั่งเอกเขนกอยู่ในห้อง“เอาไงวะ” มาเฟียหนุ่มพ่นควันบุหรี่ออกมาลอยคละคลุ้งในอากาศแล้วคาบไว้ที่ปาก เขากดโทร. หาลูกน้องคนสนิทและสั่งงาน(นายให้ผมตามคุณนิวทำไมครับ)“กูสั่งให้ทำก็ทำ”(ครับนาย แล้วแบบนี้คุณนิวจะไม่โวยวายเหรอครับ ถ้าเกิดจับได้ขึ้นมานายอาจจะซวยเอานะครับ) ลูกน้องหนุ่มเตือนสติผู้เป็นนาย“กูสั่งก็ทำ แต่ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดอะไรที่ไม่เข้าหูกูจะกรอกกระสุนใส่ปากมึง!” เสียงเข้มเจือด้วยความหงุดหงิดส่งทอดไป ลูกน้องหนุ่มตอบกลับอย่างเข้าใจแจ่มแจ้งก่อนจะวางสายผู้เป็นนาย “หรือกูควรทำยังไงวะแม่ง เอาใจยากฉิบหาย!” แดเนียลหัวเสียไม่น้อย เขาเองก็คิดไม่ตกที่นิวเคลียร์เป็นแบบนี้วันต่อมา“เอากระเทียมมาดิ๊!” คำสั่งถูกส่งทอดออกไปหาลูกน้องที่กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมเครื่องปรุงรสให้เจ้านาย ซึ่งไม่รู้ผีเข้าหรืออะไรดลใจให้เข้าครัวแต
บทที่ 12อยากเอาใจ15:00นิวเคลียร์ดันตัวลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิด้วยอาการวิงเวียนศีรษะ “นอนเยอะเหรอ…เวียนหัวไม่หายสักที” ไอ้อาการเวียนหัวเป็นมาตั้งแต่เช้า และตอนนี้ยังไม่มีข้าวสักเม็ดตกถึงท้อง ท้องมันร้องเพราะหิว แต่ปากเธอดันกลืนอะไรไม่ค่อยลง กินได้ก็แต่ผลไม้รสเปรี้ยวเท่านั้นพรึบ!เสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นทำให้เธอต้องออกมาดู เท้าเรียวชะงักกับภาพเบื้องหน้า ท้องมันเริ่มร้องประท้วงเพราะอาหารละลานตาตรงหน้า แต่พอเห็นใบหน้าระรื่นของแดเนียลความอยากอาหารก็ลดลงจนไม่อยากเอาอะไรเข้าปาก“เดี๋ยวดิ” มาเฟียหนุ่มรีบวิ่งมารั้งแขนคนตัวเล็กไว้แน่น “รู้ว่าไม่พอใจแต่มากินข้าวก่อน” นิวเคลียร์แกะมือหนาออกจากแขนแล้วเหลือบตามองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นอย่างไม่ชอบใจ หากเขาจะแสร้งทำดีเพียงเพราะเธอกำลังโกรธอยู่ เขาคิดผิดแล้วละที่ทำแบบนี้เพราะมีแต่จะโกรธเขาเข้าไปอีก“มาทำไม”“มาดูแล”“ไม่ได้ต้องการ”“ตอนนี้เลิกประชดก่อน ไปกินข้าว” เขาไม่สนว่านิวเคลียร์จะทำหน้ายังไง จูงมือเธอมานั่งลงโซฟาแล้วตักอาหารใส่จานยื่นให้ “กินข้าวเอาแรงมาเถียงกูก่อนก็ดี ถ้าไม่กินข้าวไม่มีแรงเถียงไม่รู้ด้วยนะ” ไม่อยากเชื่อกับหูตัวเองว่าจะได้ยินคำพ
บทที่ 13สงสัย03:00หลังกลับมาจากคลับคำพูดของพีททำให้เขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน แดเนียลผุดลุกขึ้นเดี๋ยวก็นอนลงเพราะคำพูดเพียงคำเดียว ‘ท้อง’ คำนี้ทำเอาเขาขนลุกซู่ทั้งที่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เพียงคิดในใจก็ทำเอาร่างกายสั่นสะท้าน “ถ้านิวท้องจริงๆ จะทำยังไงวะ หรือกูคิดมากไปเอง” เขาอาจจะคิดไปก่อนเหตุครืด~โทรศัพท์สั่นครืดหนึ่งเรียกความสนใจจากแดเนียลให้หันมอง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านข้อความนั้น หัวคิ้วหนาขมวดยุ่งเข้าไปอีกเพราะเป็นข้อความจากนิวเคลียร์ที่ส่งสติกเกอร์มาในไลน์ เขารีบพิมพ์ข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงกดโทร. หานิวเคลียร์เพราะรอเธอตอบกลับมาไม่ไหว“เป็นอะไร” ประโยคแรกที่เขาเอ่ยถามคนปลายสายที่เงียบไปจนน่าใจหาย รออยู่พักใหญ่นิวเคลียร์ถึงตอบกลับมา(อื้อ~ โทร. มาทำไมเนี่ย คนจะนอน!)“ก็เธอทักมาในไลน์” คราวนี้เขายิ่งงงเข้าไปใหญ่ หรือตาฝาดไปเหรอ? เมื่อคิดแบบนั้นแล้วแดเนียลจึงเปิดดูข้อความล่าสุดที่นิวเคลียร์ส่งมา “เธอทักมาจริงๆ ฉันมีหลักฐาน”(ฉันจะทักหานายทำไม ในเมื่อฉันนอนอยู่เนี่ย) หญิงสาวเถียงกลับและยืนยันว่าเธอนอนอยู่จริงๆ ไม่ได้จับโทรศัพท์มือถือเลย“ละเมอเหรอ” แดเนียลตั้
บทที่ 14ไม่ทันตั้งตัวหลายนาทีต่อมาแดเนียลนั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องพักนิวเคลียร์ คิ้วหนาขมวดเป็นปมขณะที่สายตาจดจ้องใบหน้าซีดเซียวของคนตัวเล็กอย่างคิดไม่ตก “เป็นอะไรก็ไปหาหมอ อ้วกออกมาขนาดนั้นเดี๋ยวก็ตายห่า” เขายังคงปากดีเสมอต้นเสมอปลายสินะ“ไม่อยากเจอหน้านาย กลับไปได้แล้วเห็นละจะอ้วก”“พูดจริงเหรอ” ถึงตอนนี้เขายังคิดว่านิวเคลียร์แค่ล้อเล่นเพื่ออยากให้เขาไปให้พ้นๆ แต่สีหน้าและอาการที่เป็นอยู่ก็ทำให้คิดตามที่หมอพีทพูดไม่ได้เลย หรือว่านิวเคลียร์จะท้องจริงๆ “หรือว่าเธอ”“กลับไปได้แล้ว มายืนทำหน้าโง่อะไรตรงนี้ รำคาญสายตามาก”“เธอ…” เขาขบกรามแน่นพร้อมลากเสียงยาว “ไปหาหมอก่อน ตรวจให้แน่ใจว่าเป็นอะไรแล้วจะกลับ”“ไม่” ความดื้อรั้นของนิวเคลียร์กำลังทำเส้นความอดทนเขาขาด “กลับไปได้แล้ว บอกไปแล้วว่าไม่อยากเจอหน้า”“เลิกพล่ามอะไรไร้สาระได้ไหมวะ คำพูดมึงกับการกระทำมันสวนทางรู้ไหมนิว”“…”“ก็ใช่ที่มึงบอกไม่อยากเจอหน้า แต่การกระทำเมื่อกี้มันไม่ใช่สักนิด” เขาไม่ได้โง่ขนาดที่จะดูไม่ออก แม้อีกฝ่ายจะกำลังสับสนกับตัวเองก็เถอะ นิวเคลียร์หันมามองหน้ามาเฟียหนุ่มหน้ามุ่ย “ไม่ได้อยากใช้คำพูดแรง ๆ แต่